คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #16 : อดีตที่ไม่เป็นไปตามเส้นทางเดิม
"แกมาโฮโมอะไรตอนเช้าๆแบบนี้ฟะเซเรส!!....."
รีเน่ตะโกนอย่างตกใจ แล้วก็หยุดอึ้งไปอย่างฉับพลัน ชายตรงหน้าเธอ คือคนที่ผลักเธอให้พ้นจากคมหอกมรณะ และเป็นผู้ที่ตายแทนเธอเมื่อไม่กี่นาทีก่อน!!
"สนุกที่ได้....อั่ก!! รีเน่ แกจะทำอะไรเนี่ย!!"เซเรสร้องเสียงหลงอย่างตกใจ เมื่อจู่ๆเด็กสาวตรงนั้นกลับโผเข้ากอดตนพร้อมน้ำใสๆเริ่มกลับมาปริ่มที่ดวงตา ปากก็เริ่มพร่ำและสะอื้นออกมาอย่างไม่ค่อยเป็นภาษา
ชั้นย้อนกลับมาอย่างที่ยูเรมบอกจริงๆด้วย!!
"เซเรส....แกยังไม่ตาย....แกยังไม่ตายจริงๆด้วย!!...แกยังไม่ตาย...."
"อ้าวๆ!! ตื่นมาก็แช่งกันเลยเราะ!!"เซเรสบ่นอย่างตำหนิ พร้อมกับแรงกอดของร่างบางที่เพิ่มมากขึ้นจนเริ่มหายใจไม่ออก
"รีเน่ๆ ปล่อยได้ไหมอ่า...ชั้นหายใจไม่ออกแล้ว"
"ไม่! ชั้นจะไม่ปล่อยให้ใครจากชั้นไปอีกแล้ว!"เด็กสาวกระแทกเสียงเบาๆพร้อมกับดันร่างสูงให้ล้มลงกับเตียง รีเน่ล้มตัวลงแนบแผ่นอกของชายหนุ่ม มือบางกำเสื้อนอนของชายหนุ่มแน่น เสียงสะอื้นเล็กๆดังขึ้นเบาๆ
"ฮัดเช้ย!!"อาคันตุกะผมแดงจามขึ้นอย่างไม่ตั้งใจ ชายผมทองหันไปยังต้นเสียงอย่างตกใจ
"เอ่อ....เซเรสทำอะไรรีเน่อ่ะ"ฟาร์เปรยขึ้นเบาๆ
"เอ๋า!!"เซเรสขึ้นเสียงสูงอย่างโมโหแล้วสะกิดผู้ที่ซบตนอยู่ เด็กสาวที่ซบอยู่บนแผ่นอกเรียบเงยหน้าขึ้นมาอย่างเขินอาย
"เอ่อ...ฟาร์ อยู่ตรงนั้นตั้งกะเมื่อไหร่อ่ะ?"รีเน่ถามพร้อมดึงผ้าห่มขึ้นมาปิดเรียวขาขาวแล้วเดินมาใกล้ๆผู้มาเยือนอย่างแช่มช้า ฟาร์ส่ายหน้าหน่ายๆพร้อมยกนิ้วโป้งชี้ไปยังข้างหลัง
"รุ่นพี่ซิลเวอร์กะทาทะลัสอยากพบแกตอนบ่ายน่ะ ไปทั้งสองคนก็ได้นะ"กล่าวเสร็จ ชายผมแดงก็ถูกแรงผลักเบาๆของเด็กสาวให้พ้นออกจากประตู
"อื้ม!"รีเน่รับคำเสร็จ ประตูไม้ห้อง305ก็ปิดดังปัง....
เหตุการณ์ต่อมาในเวลาประมาณบ่ายกว่าๆ ก็เป็นไปตามที่รีเน่คาดคิดไว้ ทาทะลัสเข้ามาถามเรื่องปีก แต่ก็แก้เรื่องได้โดยบอกว่านั่นเป็นเพียงเวทย์จำแลงภาพ และการที่กลายเป็นผู้หญิงได้นั้นก็เกิดจากผลต่อเนื่องของเวทย์ที่คิดขึ้นเอง(แหลสุดๆ)
อืม...จากที่ยูเรมบอก พวกมันแฝงเข้ามาอยู่ในโรงเรียนตั้งนานแล้วนี่นา แล้วมันไปอยู่ห้องไหนของหอวีนัสล่ะเนี่ย!!
รีเน่คิดแล้วปิดก๊อกน้ำที่อยู่ตรงปลายขาอย่างเบื่อหน่าย มือบางกวาดตีฟองน้ำจนเต็มอ่าง ความร้อนของน้ำอุ่นในอ่างร้อนจนกระจกหน้าอ่างน้ำขึ้นไอ
เดี๋ยวต่อไปเซเรสก็จะชวนคุยซักพักแล้วก็หลับไป พรุ่งนี้ก็ต้องสู้กับรุ่นพี่ซิลเวอร์สินะ อืม....พี่เค้าจะใช้หินขี้นป้องกันก่อนครั้งนึงก่อนที่เราจะใช้เวทผสานกับเดียโบส อืมแล้วก็....
ปัง!
จู่ๆประตูห้องน้ำก็เปิดออกอย่างรวดเร็วพร้อมกับชายผมสีเงินที่ยืนอยู่ตรงนั้น!!
"คานัล! แกมาได้ไง!"รีเน่ตะโกนลั่นแล้วโยนสบู่ใส่ ชายหนุ่มรับหมับอย่างแม่นยำ ริมฝีปากหนาเหยียดยิ้มอย่างมีเลศนัย ไอเย็นแผ่ออกจากร่างสูงจนไอเย็นเกาะไปทั่วห้องน้ำ
เด็กสาวลุกขึ้นจากอ่างพร้อมหยิบมีดสีดำที่อยู่ใต้ฟองน้ำขึ้นมาเตรียมสู้ทั้งๆที่ก็น่าจะรู้อยู่แล้วว่าในสถานการณ์นี้ เธอเสียเปรียบกว่าร้อยเปอเซนต์!!
"ไม่ต้องเป็นห่วงไป นี่เป็นแค่ร่างแยก แตะต้องไม่ได้ ชั้นทำได้เพียง พูด ฟัง เท่านั้น...แต่ไม่นึกเลยว่าเจ้าร่างแยกของชั้นจะส่งเธอกลับมาในอดีตแบบนี้!"คานัลกระแทกเสียงอย่างโมโหเล็กน้อย นัยน์ตาสีแดงสดตอนนี้หรี่เล็กลงไม่เหมือนกับที่เธอสู้เห็นเมื่อก่อนที่เธอจะย้อนกลับมา
นัยน์ตาสีแดงจ้องร่างของเด็กสาวอยู่แว้บนึงแล้วก็หัวเราะขึ้นอย่างขบขัน
"รู้ไหม? อีกสามจุดสองสี่วินาทีเจ้าหนุ่มที่ชั้นฆ่าจะเปิดประตูเข้ามา เอาเป็นว่าข้าขอลี้ก่อนล่ะ อย่าลืมใส่เสื้อผ้านะ!"สิ้นเสียง ร่างสูงเจ้าของนัยน์ตาสีแดงเลือดก็หายไป ประตูห้องก็เปิดออกพร้อมกับชายหนุ่มผมทองที่เดินเข้ามาในห้อง แล้วก็หันหลังให้เด็กสาวทันที!!
เด็กสาวเกาหัวอย่างงุนงงแล้วกำลังจะอ้าปากถาม
"รีเน่!! โป๊โว้ยโป๊!!"เซเรสตะโกนลั่นด้วยน้ำเสียงที่สั่นเล็กน้อยและใบหน้าที่แดงก่ำ เธอก้มมองร่างของตนอยู่พักนึงแล้วก็รีบนั่งลงบนอ่างทันที!
"เอ่อ...ไม่โป๊แล้วล่ะ"
"แน่นะ?"เจ้าชายหนุ่มถามอย่างไม่แน่ใจ
"เอ้อ! ชั้นคงไม่นั่งถ่างขาโชว์หรอกน่ะ!"เด็กสาวพูดอย่างไม่สมหญิง เซเรสค่อยๆหันมามองแล้วก็ถอนหายใจอย่างโล่งอกแล้วหยิบค้อนหัวกลมสองไม้ออกจากกระเป๋า
"ค้อน? เอามาทำไรฟะ?"รีเน่ถามอย่างสงสัย
"ไว้แกแต่งตัวก่อนแล้วชั้นจะบอกนะ!"กล่าวเสร็จ ประตูห้องน้ำก็ปิดดังลั่น....
"เอ่อ...สรุปแล้ว พรุ่งนี้ไม่ต้องทำลานประลอง ว่างั้น?"เด็กสาวเปรยขึ้นเบาๆด้วยน้ำเสียงที่แฝงความดีใจอยู่เล็กน้อย
"ใช่ เพราะว่างานประลองจะจัดร่วมกันทั้งหมดสิบสองหอ แต่ละหอตัวแทนสามคน ไม่กำหนดชั้นปี หอเราคัดเลือกแบบสู้หมู่เพื่อคัดเลือกคนที่มีความสามารถ ซึ่งคนที่ลงชื่อก็คงมีไม่กี่คนล่ะนะอ่ะ นี่...."เซเรสส่งกระดาษแผ่นหนึ่งที่มีชื่อกับรูปของคนของหอทั้งสิบสองหอ
"เอ......อ่ะเจอแล้ว หอวีนัส..... อ๊ะ!! "รีเน่ร้องอุทานอย่างตกใจ
"มีอะไรหรอ?"เซเรสดึงใบรายชื่อบนมือรีเน่ขึ้นดูแล้วก็หันไปมองเธออย่างสงสัย
"อะไรอีกล่ะ?"
"ทำไมในใบนี่มีชื่อชั้นด้วยล่ะ?"รีเน่ถามแบบกึ่งสงสัยกึ่งดีใจ
"แล้วไม่ดีใจหรอ หืม?"
"มันก็...ดีใจนิดนึงอ่ะนะ...."พลันเสียงของเด็กสาวก็ค่อยๆเงียบลง ใบหน้าของชายหนุ่มผมทองที่คุยกันอยู่เมื่อครู่นั้นอยู่ใกล้กับใบหน้านวลของเด็กสาวเพียงแค่ปลายผมขั้นจนสัมผัสได้ถึงลมหายใจที่ร้อนผ่าว เสียงหัวใจที่เต้นโครมคราม
"เซเรส...."เด็กสาวเอ่ยอย่างแผ่วเบาโดยที่ยังไม่ถอยใบหน้าออก
"หืม?"
"ทำแบบนี้มันไม่ค่อยโสภานะ...."
"ทำไมล่ะ?"
"ก็มันมีคนดูอยู่อีกตั้งสองคน!!!"รีเน่กระแทกเสียงอย่างสุดจะทน เซเรสหันไปยังด้านหลังของตนที่มีร่างของชายหนุ่มผมแดงในชุดปาจามาและเด็กหนุ่มตัวเล็กผมดำในชุดเดียวกัน....
"แหะๆ...."ทั้งสองหัวเราะแห้งๆอย่างเข้าใจ เมื่อคนที่อยู่บนเตียงชี้ออกไปยังนอกประตู
"เอาเป็นว่า ชั้นไม่กวนล่ะนะ แค่เป็นห่วงว่ารีเน่จะทำอะไรเซเรสรึเปล่า หวา!!"ฟาร์ร้องเหวออย่างตกใจพร้อมกับที่พายุหมอนชุดใหญ่ซัดกระหน่ำมาทางเค้า....
"เฮ้ๆ เด็กจากหอดิเอิร์ธน่ะ เรียกดินขึ้นมาดีๆสิ...อ้าวอควเรียส อย่าเอาแต่มอง ทำแสตนด์ต่อไป! "อาจราย์โปก้าผู้สอนวิชาไพ่มนตราระดับชั้นปีหนึ่งหาววอดๆแล้วก็สั่งนักเรียนกว่าสิบคนที่กำลังทำลานประลองอยู่อย่างขมีขมัน
ลานประลองกลมใหญ่กว่าสามสิบเมตรที่ทำจากดินแข็งด้วยฝีมือของนักเรียนจากหอดิเอิร์ธ ตามด้วยการตัดแผ่นหินมาวางด้วยฝีมือของนักเรียนหอเดอะมูน ห่างออกไปไม่ไกล นักเรียนหออควอเรียสกับหอวีนัสก็แบกไม้มาทำแสตนด์กันอย่างไม่ลดละ
รีเน่ที่ร่ายมนต์พรางตาเพื่อไม่ให้นักเรียนจากหออื่นเห็นซึ่งรูปร่างที่แท้จริงตอกตะปูบนที่นั่งอัฐจันทร์อย่างชำนาน ดวงตาสีดำสวยเขม่นไปยังเพื่อนหนุ่มที่นั่งหลับอย่างสบายใจ
"เซเรส! ทำไมไม่ช่วยกันทำห๊ะ?"
"เจ้าชายไม่เคยทำงานก่อสร้างแบบนี้หรอกน๊า~"ชายหนุ่มเอ่ยอย่างขบขันแล้วก็นอนต่อ ชุดของเซเรสก็ยังเป็นดั่งเดิมกับวันนั้น เสื้อยืดสีขาวแขนยาว กางเกงสีเทายาว
ส่วนชุดของเค้านั่นก็ค่อนข้างต่างไปจากเดิมเล็กน้อย กางเกงยีนส์สีเขียวตัวเดียวกับวันที่เปิดเรียน เสื้อยืดสีฟ้าสว่างตัวหลวมของชายที่นอนอยู่ข้างๆ รีเน่คิดอย่างเบื่อหน่ายแล้วตอกตะปูตัวสุดท้ายของอัฐจันทร์ที่ตนทำแล้วก็เอนตัวลงหลับตาพริ้ม
เอาวะ เปลี่ยนไปได้เยอะแล้ว....เดี๋ยวเราต้องหาทางติดต่อกับเอนวารากับยูเรมนี่นา.....ไว้คิดทีหลังแล้วกัน นอนก่อน......
กลิ่นดอกไม้หอมหวานอ่อนๆลอยโชยไปทั่วลานกว้าง สายลมพัดโบกอย่างแผ่วเบา เหมือนเพลงกล่อมเด็กที่ทำให้สติของเด็กสาวในคราบชายหนุ่มกำลังถูกบั่นทอนไปอยู่ในโลกแห่งนิทรา . . . .
"เอรูทีส! ฮาเวอรี่! ไปทดสอบได้แล้ว~"ชายหนุ่มผมเงินเจ้าของนามซิลเวอร์คาร์เทียตะโกนเรียกรุ่นน้องที่นอนพิงกันอย่างขบขัน เซเรสลืมตาตื่นขึ้นเป็นคนแรก ดวงตาสีเขียวมรกตมองไปยังบ่าซ้ายของตนที่มีหัวของเด็กหนุ่มผมสีน้ำตาลไหม้ซบอยู่อย่างไม่มีตื่น
"รีเน่!ลุกได้แล้ว!คนมองกันเต็มแล้ว!"ชายหนุ่มกระซิบที่ข้างหูของรีเน่อย่างร้อนรน เธอลืมตาขึ้นอย่างงัวเงีย มือขาวกรี่ผมน้ำตาลไหม้เข้มออกจากดวงตา พลันเสียงโห่ร้องจากนักเรียนหอเดียวกันดังก้องไปทั่วลานกว้างทั้งๆที่มีเพียงไม่กี่คน
"ไอ้ฟาร์!! แกตายยยย!!!!"สิ้นเสียง คทาสีดำสวยที่ไม่ได้ถูกเรียกออกมานานปรากฏขึ้นกลางฝ่ามือขาว เสียงบริกรรมเวทมนต์ดังขึ้นสองบทซ้อนกัน! พลันน้ำก้อนหนึ่งหล่นใส่หัวจนตัวเปียกปอนพร้อมกับที่ลมหนาวพัดมาอย่างรุนแรงจนผู้ถูกกระทำหนาวสั่น
"แค่นี้พอล่ะ....ว่าแต่ รุ่นพี่ซิลเวอร์มีอะไรหรอครับ?"รีเน่ลงจักอัฐจันทร์มาถามรุ่นพี่อย่างสงสัยโดยมีชายผมแดงเหล่มองงอยู่ไม่ห่าง ชายหนุ่มรุ่นพี่บอกให้คนอื่นๆขึ้นไปที่อัฐจันทร์แล้วก็ดึงรุ่นน้องหน้าหวานขึ้นไปบนเวทีหิน
"รุ่นพี่จะทดสอบผมหรอ?"
"อือ....เริ่มเลยไหม?"ซิลเวอร์ถามพร้อมเรียกหินแหลมใหญ่พุ่งขึ้นจากพื้น เด็กหนุ่มกระโดดหลบอย่างฉับพลันพร้อมดึงมีดที่เหน็บไว้ด้านหลังมากระชับมือ ดวงตาสีดำแปรเปลี่ยนเป็นสีฟ้าสว่าง รีเน่ถีบตัวจากพื้นไปยืนอยู่บนก้อนหินที่ชายหนุ่มรุ่นพี่เรียก เปลวเพลิงสีดำลูกใหญ่พุ่งออกจากดับตะวัน ชายหนุ่มเรียกกำแพงหินขึ้นบัง แต่กำแพงหินกลับแตกออกอย่างน่าอัศจรรย์
ซิลเวอร์วาดนิ้วเป็นวงแหวนเวทเรียกสัตว์อสูรขึ้นบังอย่างเฉียดฉิว มือหนาทาบมือลงกับพื้นพร้อมส่งพลังเวทย์ลงไปยังพื้นดิน
"ข้าแต่เทพแห่งขุนเขา ข้าจักขอยืมพลังของท่าน....กรงจักรธรณี!!"ฉับพลัน แผ่นหินบนเวทีก็ลอยขึ้นแล้วพุ่งใส่เด็กหนุ่มอีกคนในลักษณะคล้ายกรงจักร
เด็กหนุ่มมองเหล่าแผ่นหินนับสิบที่พุ่งเข้ามาด้วยความเร็วสูง พลันแผ่นหินก็หยุดหมุนลงพร้อมน้ำแข็งสีฟ้าใสผุดขึ้นจากพื้นแทงแผ่นหินจนแตกออกทุกแผ่น มีดดับตะวันเปล่งแสงสีแดงสว่างวาบ พลันพื้นหินตำแหน่งที่ซิลเวอร์ยืนอยู่ก็ระเบิดขึ้นอย่างรุนแรง!! เด็กหนุ่มไม่เว้นจังหวะ กำไลสีดำสวยค่อยๆเปล่งแสงสีม่วงเข้ม
"ข้าแต่เทพแห่งขุนเขา ข้าจักขอยืมพลังของท่าน......กรงหินกักอสูรผนึกมนตรา กรงหินพันธนาการเวท!"ซิลเวอร์ทาบมือลงกับพื้นอีกครั้ง พลันเสาหินหลายต้นก็พุ่งขึ้นจากพื้นเหมือนกับครั้งก่อนที่รีเน่ยังไม่ได้ย้อนอดีตกลับมา รีเน่ฟันแท่งหินที่ปิดล้อมเค้ารอบด้านออกมาจากกรงหินอย่างเฉียดฉิว
"เซบิโต้!!"สิ้นเสียง ร่างบางเกิดแรงระเบิดขึ้นหนึ่งครั้งพร้อมกับไอเวทย์ที่แผ่พุ่งออกมาอย่างไม่ขาด กำไลสีดำสวยและตัวมีดสีดำทมิฬสูบไอเวทย์ที่แผ่ออกจากร่างกายราวกับน้ำไหลลงสู่ที่ต่ำ
"เดียโบส....ช่วยหน่อยนะ"
~[หา?]~
"ผสานพลังมนตราเพลิงสลายจิต....."พลัน ไอควันสีดำจากกำไลสวยพุ่งเข้าไปในตัวมีด ลูกไฟสีดำขนาดเท่าลูกบอลจำนวนกว่าร้อยลูกปรากฏขึ้นรอบทิศของชายผมเงินจนไม่สามารถเคลื่อนไหวไปไหนได้!!
"รุกฆาต.....รุ่นพี่แพ้แล้วครับ"รีเน่เอ่ยเสียงเรียบ เสียงปรบมือดังขึ้นจากนักเรียนของหอต่างๆยกเว้นหอดิเอิร์ธและหอเดอะมูนที่เป็นคนทำลานประลอง
ซิลเวอร์ถอนหายใจอย่างช่วยไม่ได้กับความแพ้ที่ได้รับอย่างขาดไม่ถึง รีเน่สะบัดมือเบาๆลูกไฟสีดำนับร้อยที่เตรียมพุ่งใส่ซิลเวอร์หายไปราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น ไอเวทย์มหาศาลของเด็กหนุ่มพุ่งกลับเข้ามาในร่างดั่งเดิม ดวงตาสีฟ้ากลับมาเป็นสีดำสวยดังเดิมพลันอุ้งมือหนาของชายคนหนึ่งพร้อมเสียงคุ้นหูที่ดังมาจากข้างหลัง
"รีเน่คุง~ ทำไมทำพื้นที่พี่ทำซะเละแบบนี้เลยล่ะ?"เด็กหนุ่มหันไปยังด้านหลังอย่างตกใจ ชายหนุ่มเจ้าของเรือนผมสีดำสวยยาวจรดกลางหลังที่ถือดาบคาตานะสีเงินยาวที่มีดีกรีเป็นถึงหนึ่งในกองกำลังอาสาสมัครของเอเดน หมิง
"พี่หมิง....ทำไมเลื่อนยศจากเรียกนามสกุลเป็นชื่อเติมคุงซะแล้วล่ะ?"รีเน่ถามอย่างหวาดๆเพื่อเบี่ยงเบนคำถามแรกที่ชายหนุ่มตรงหน้าเป็นคนถาม หมิงยิ้มขึ้นอย่างร่าเริงสมตัวแล้วเก็บดาบเข้าปลอกที่เอว
"มันทำให้พวกเราดูสนิทกันขึ้นไง....."
"เฮ้ๆหมิง นี่เด็กหอชั้นนะ!"เสียงหวานดังขึ้นจากด้านหลังของชายหนุ่มผมดำ เธอคือเด็กสาวผมดำและดวงตาสีดำที่ทีศักดิ์เป็นหัวหน้าประจำหอวีนัส ฟินาเร่ คาร์เทีย
ซิลเวอร์ที่ยืนอยู่ไม่ห่างยิ้มร่าเมื่อเห็นเด็กสาวคนนี้ปรากฎขึ้นแล้วก็เดินมาสะกิดรีเน่เบาๆท่ามกลางสายตาของรุ่นน้องที่นั่งอยู่บนอัฐจันทร์
"เซเรส....พวกรุ่นพี่พวกนั้นทำไมไปรุมล้อมรีเน่แบบนั้นล่ะ?"ฟาร์ถามอย่างสงสัย ชายหนุ่มผู้ถูกถามสบถอย่างหงุดหงิดพร้อมกระโดดลงจากอัฐจันทร์
"ชั่งหัวมันสิ....มันไม่ได้เป็นญาติโกโหติกาอะไรของชั้นซักหน่อย...."
"เอ่าน่า....แกก็เหมือนผู้ปกครองของรีเน่ในตอนนี้จนกว่ามันจะออกจากโรงเรียนแหละ"
[ฟาร์ เรดิล เดอะ ไฟร์การ์ดมาสเตอร์ ออฟ เวล กรุณามารับของที่ป้อมยามหน้าโรงเรียนค่ะ]
เสียงประกาศดังตามสายลำโพง ชายผมแดงมองลำโพงอย่างงุนงงพร้อมกระโดดลงมาแล้วตรงดิ่งไปที่หน้าประตูโรงเรียนที่อยู่ห่างไปอีกไม่ไกล เซเรสมองชายหนุ่มผมแดงจนหายลับไปจากสายตา แล้วหันกลับไปมองเด็กหนุ่มเจ้าของเรือนผมสีน้ำตาลเข้มยาวประบ่า
ที่กำลังถูกหัวหน้าหอดึงตัวออกจากลานประลองในตอนนี้!!
"รุ่นพี่ฟินาเร่! จะพารีเน่ไปไหนครับ!?"ชายหนุ่มกึ่งถามกึ่งโมโห แต่เด็กสาวผมดำยิ้มขึ้นอย่างขบขัน
"จะพาน้องรีเน่ไปลองเสื้อที่ห้องพี่น่ะ จะไปด้วยไหมจ๊ะ?~"ฟินาเร่ตอบแล้วก็ถามกลับอย่างสนุกสนาน พลันเซเรสก็ส่ายหน้าด้วยใบหน้าที่แดงก่ำพอๆกับเด็กหนุ่มหน้าหวาน
เด็กสาวรุ่นพี่ยิ้มขึ้นอีกครั้งแล้วดึงรีเน่กลับไปยังหอวีนัส ชายหนุ่มผมทองเกิดความลังเลใจแล้วจะยกมือขึ้นเพื่อให้เด็กสาวหยุด แต่กลับมีแรงของชายอีกคนดึงไว้ให้เซมาอีกทาง
ชายหนุ่มผมเงินผู้เป็นรุ่นพี่กระซิบที่ข้างหูรุ่นน้องเบาๆ
"สตรีเค้ากำลังยุ่ง บุรุษหาอย่างอื่นทำดีกว่า..."
เวลาเดียวกัน ณ ข้างๆประตูโรงเรียนตรงป้อมยาม ฟาร์แง้มซองจดหมายสีขาวที่ถูกส่งมาให้ตยอย่างตื่นตระหนก มือหนาดึงกระดาษข้อความออกมาจากตัวซองจดหมาย นัยน์ตาสีส้มไล่ข้อความในกระดาษไปทีละบรรทัดๆ พลันดวงตาของชายหนุ่มก็เบิกกว้าง
ฟาร์ขยำกระดาษในมือจนเป็นก้อนพร้อมกับกลายเป็นลูกไฟอย่างฉับพลันโดยที่มีส่วนหนึ่งที่ไม่ถูกเผาปลิวออกมาจากมือที่มีเพียงชื่อของผู้ส่ง
ชื่อที่ราชาในหลายๆประเทศต้องรู้จัก ชื่อที่เป็นหนึ่งในผู้ผนึกจอมอสูรคานัลไว้ในผืนธรณี
......เซฟาร์ ราคูเซ็ท คราโทนอฟ เดอะคิงออฟมาคาร์ไลท์!!
เด็กสาวผมดำผลักร่างของรุ่นน้องที่บัดนี้กลับป็นร่างของผู้หญิงลงบนเตียงใหญ่พร้อมกับวางถุงกระดาษหลายถุงลงบนพื้น รีเน่มองสิ่งที่อยู่ภายในถุงกระดาษอย่างหวาดๆ ชุดราตรีสีฟ้าเข้มที่ระยิบระยับ เครื่องเพชรหลากหลายรูปแบบ และรองเท้าแก้วใสที่มีส้นประมาณสามนิ้ว
"เอาล่ะ....เราเริ่มจากไหนก่อนดี....?"เด็กสาวรุ่นพี่เปรยเบาๆพร้อมสำรวจไปตามร่างกายของรุ่นร้องอย่างสนุกสนานแล้วก็ดึงเก้าอี้สำหรับนั่งเขียนงานคู่กับโต๊ะกลมมานั่งตรงข้ามกับรีเน่
"เอาล่ะ ก่อนอื่น....กิริยามารยาทในวันงาน อย่างแรก! ท่วงท่าการเดิน อย่างที่สอง! สำเนียงการพูด อย่างที่สาม! กิริยาท่าทาง.....ไหนลองเดินไปที่ระเบียงหน่อยซิ"ฟินาเร่สั่งรุ่นน้อง รีเน่ลุกขึ้นพร้อมเดินไปยังระเบียงอย่างงุนงง
"เอาล่ะ คราวนี้ เดินกลับมา"กล่าวเสร็จ รีเน่ก็เดินตรงกลับมาหาเด็กสาวรุ่นพี่ที่มีสีหน้าหงุดหงิดขึ้นเล็กน้อย
"เดินหลังค่อม! ห่อไหล่! มืออยู่ไม่สุข! อ๊ะ!! อย่าอ้าปากค้างแบบนั้นสิ!!!"ฟินาเร่ตะโกนลั่น พลันเด็กสาวนัยน์ตาดำหุบปากอย่างทันทีด้วยอารามตกใจ
ผู้เตือนส่ายหน้าอย่างเบื่อหน่าย พร้อมหยิบแส้ออกมาจากหลังที่ไม่รู้ว่าพกไว้ได้อย่างไร แต่สิ่งที่รู้เพียงอย่างเดียวคือหายนะที่กำลังคืบคลานเข้ามาใกล้เมื่อรุ่นพี่สาวหวดแส้ใส่เตียงดังฟวับ!
โอ้วไม่นะ!!
"เริ่มฝึกนรก!!!"
หลายชั่วโมงผ่านไปไวเหมือนโกหก.....
"ฮ่า....ฉะบายตัว...."เด็กวสาวเจ้าของเรือนผมสีน้ำตาลไหม้เดินออกมาจากห้องน้ำอย่างมีความสุข เนื่องจากเธอนั้นได้ผ่านการฝึกเดินมหาโหดและเสร็จจากการแช่น้ำเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
รีเน่มองมายังเด็กสาวผมดำที่กำลังเดินเก็บหนังสือตามพื้นอย่างฉงนเพราะรุ่นน้องของเธอกลับฝึกการเดินจาก0%กลายเป็นเด็กสาวที่มีท่วงท่าการเดินสง่างาม100%!!
ฟินาเร่วางตั้งหนังสือไว้ที่โซฟาเสร็จแล้วก็นั่งลงตรงหน้าโซฟาพร้อมกวักมือเรียกรุ่นน้องให้นั่งลงใกล้ๆ
"ต่อไป ฝึกการพูดนะ เอาเป็นว่าต้องมีหางเสียง เข้าใจไหม?"
"เข้าใจครับ"สิ้นเสียง หนังสือเล่มหนาฟาดใส่หัวของเด็กสาวอย่างจังจนเด็กสาวถึงกับร้องลั่น
"โอ๊ย!!! พี่เขกหัวผมทำไมอ่ะ!!"รีเน่ถามอย่างสงสัย หนังสือเล่มหนาก็ฟาดใส่หัวของเธออีกครั้ง
"ต้องแทนตัวเองว่าน้องหญิง หญิง หรือไม่ก็ชั้นสิ!! งานเต้นรำมันมีพวกผู้หลากมากดีจากทั่วประเทศเชียวนะ!!"
อะไรกัน!! ไม่นะ!! ต้องให้พูดคำแทนตัวเองแบบนั้น!!
รีเน่คิดอย่างโมโหตัวเอง เวลาผ่านไปซักพัก รีเน่กลับรู้สึกว่าคำพวกนี้เธอจะสามารถพูดได้ชินปากมากกว่าคำพูดปกติเสียอีก!!!
"ต่อไป มารยาทกับบุคคลที่เชื้อเชิญเธอ ....เอ่อ สมมติว่า วินซ์ สตีโอดู เอ่อ หมายถึงรุ่นพี่ปีหกคนนึงน่ะนะ อืม ถ้าวินซ์มาขอเธอเต้นรำ เธอจะพูดกับเค้ายังไง?"ฟินาเร่ถามอย่างสงสัยโดยลืมความสัมพันธ์ของสองคนนี้ซะเสียสนิท รีเน่ยิ้มขึ้นพร้อมโพล่งออกมาดังๆ
"ผมก็จะพูดว่า....อยากเป็นเหมือนคราวที่แล้วหรอคุณพี่!!"กล่าวเสร็จ สาวน้อยทั้งสองก็หัวเราะขึ้นอย่างสนุกสนาน
"งั้นถ้าเป็นเซเรสล่ะ....ตอนหลังจากเต้นรำโชว์น่ะนะ อืม ถ้ามันมาขอเธอเต้นรำ จะว่ายังไง?"เด็กสาวผมดำเปลี่ยนคำถาม โดยไม่ทันได้สังเกตใบหน้าของรุ่นน้องที่ขึ้นสีเล็กน้อย
"ผมคงไม่เต้นกับมัน!"รีเน่กล่าวขึ้นอย่างโมโหเล็กน้อย แต่ผู้ถามนั้นกลับยิ้มกริ่มอย่างมีเลศนัย
"พี่ยิ้มทำไม?"
"เปล๊า~"
"ตะกี๊ผมเห็นพี่ยิ้มแน่ๆ!"รีเน่ค้านเสียงแข็ง ฟินาเร่กระชับแส้ดังปั่บ! ดวงตาเหลือบมองไปยังกำไลข้อมือสีดำสวยที่อยู่บนข้อมือบางของรุ่นน้อง
"รีเน่....นี่เธอใส่เครื่องประดับของผู้หญิงด้วยหรอ? เห็นซิลเวอร์บอกว่าที่เธอเป็นแบบนี้เพราะผลข้างเคียงของเวทย์ที่เธอคิดขึ้นเองสินะ หรือว่าไม่ใช่!??"สิ้นคำ ใบหน้าของรีเน่ก็ซีดเผือดขึ้นอย่างเห็นได้ชัด มือที่กุมขาอยู่สั่นขึ้นอย่างชัดเจน
ฟินาเร่จ้องเด็กสาวตรงหน้าด้วยสีหน้าเคร่งเครียด บรรยากาศมาคุอบอวนไปทั่วห้อง แม้รีเน่จะเคยชินกับสภาวะนี้ แต่สำหรับเรื่องนี้มันเครียดเกินไป!! เพราะถ้ากลายเป็นว่า เธอกลับมาเดินในเส้นทางเดิม ชายหนุ่มที่พักอยู่ห้องเดียวกับเธอต้องตาย!!
ตูม!!! เปรี้ยง!!!
เสียงระเบิดดังขึ้นจากนอกหอ แต่ก็ไม่สามารถสร้างความสนใจให้กับเด็กสาวสองคนในห้องนี้ได้
"ไม่ใช่จริงๆสินะ....."เด็กสาวหัวหน้าหอเปรยแล้วถอนหายใจเบาๆ พร้อมกับหัวใจของรีเน่ที่แทบจะหยุดเต้นลง
"แล้วเธอต้องการจะย้ายห้องไหม หรือไม่ต้อง...."
"ไม่ต้องครับ....เพราะที่ผมทำอยู่นี้มันเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับชีวิตของคนๆนึงเลย ถ้าผมไม่ทำแบบนี้ เค้าก็จะตาย....."รีเน่ตอบเสียงเรียบ ภาพตอนที่ชายหนุ่มผมทองเอาตัวเข้าบังคมหอกมรณะกลับมาในหัวอีกครั้งพร้อมกับไหล่บางที่เริ่มสั่นเบาๆ
"เธอมีอะไรจะบอกพี่รึเปล่า พี่สัญญาว่าจะไม่บอกใคร...."หัวหน้าหอให้คำสัตย์ปฏิญาณ เด็กสาวพยักหน้าเบาๆแล้วเริ่มเรียบเรียงเรื่องทั้งหมดให้ออกจากริมฝีปากบาง
"ผมจะรวบรัดอย่างง่ายๆเลยนะครับ....ดับตะวันมีดของผม คืออาวุธที่องค์ราชาของมาคาร์ไลท์ได้ประทานให้..."รีเน่กล่าวพร้อมมองไปยังตัวมีดสีดำที่วางอยู่ข้างเตียงฝั่งที่เธอนอน สาวผมดำเลิกคิ้วอย่างสงสัย
"ต่อไป ผมเพิ่งรู้ว่าสเวน ฮาเวอรี่ จริงๆแล้วไม่ใช่พี่แท้ๆของผม แต่เค้ารับผมมาเลี้ยงตอนผมอายุสิบเอ็ดขวบ และตอนนั้น....ผมความจำเสื่อม....."
"ห๊ะ!! สเวนไม่ใช่พี่แท้..!!..อุ๊บ!"
"เบาๆสิพี่..."รีเน่ปิดปากของฟินาเร่แล้วปรามเบาๆ
"อืม เอ๊ะ...เดี๋ยวงานเต้นรำจะมีในวันไหนนะครับ?"เด็กสาวถามขึ้นอย่างสงสัย
"อีกสามสี่วัน ยังต้องฝึกโหดกันอีกเยอะ...."ฟินาเร่พูดแล้วหัวเราะอย่างขบขัน ซึ่งลดความประหม่าให้รีเน่ได้ส่วนนึง
"อืม ต่อไปนะครับ....อันที่จริงแล้ว..ผมคือรา...."
"ปึงๆๆ!!!......... รีเน่!! รุ่นพี่ฟินาเร่!! เกิดเรื่องใหญ่แล้ว!!"เสียงจากชายหนุ่มผมแดงที่คุ้นหูดังลอดใต้ประตูเข้ามาในห้อง พลันเด็กสาวเจ้าของเรือนผมสีน้ำตาลเข้มรีบวิ่งไปเปิดประตูอย่างตกใจ
"มีอะไร!!?"
"เซเรส! เซเรส!!"ฟาร์ตะโกนอย่างไม่เป็นภาษา ใบหน้าตื่นตกใจอย่างหนัก รีเน่ได้ยินชื่อของชายหนุ่มที่เธอรู้จักก็เริ่มหวั่นใจ
"เซเรสทำไม!! ช้าๆหน่อย!!"
"เซเรสกับซิลเวอร์ประลองฝีมือกัน!!! สาหัสทั้งคู่!!!ตอนนี้อยู่ที่ห้องรวม"รีเน่รีบวิ่งออกจากห้องอย่างรวดเร็วด้วยความเร็วระดับพระเจ้า
ไม่นะ!! อย่าให้มันซ้ำลอยเดิม.....
รีเน่รีบวิ่งลงไปยังห้องรวมที่ชั้นหนึ่งอย่างรวดเร็ว พลันพอก้ามเท้าพ้นจากบันได ร่างบางก็นิ่งเงียบอย่างประดุจน้ำแข็ง ไม่ใช่เพราะรับสภาพของชายหนุ่มไม่ไหวจนไม่กล้าแม้แต่ขยับตัวหรอกนะ แต่เป็นเพราะ....
"ป๊อกเก้าสองเด้ง!! ลูกมือจ่ายซะ!!"เสียงจากเจ้ามือผมเขียวที่ไม่ได้เห็นมานานตะโกนอย่างดีใจ พร้อมกับมองสองชายหนุ่มที่ตอนนี้แทบจะตัวเปล่าที่เหลือเพียงแค่กางเกงบ๊อกเซอร์เท่านั้น! แม้แต่อาวุธยุโธปณา อย่างหอกประกายแสงหิมะของเซเรส ก็ไปกองอยู่ข้างหลังของฮาร์ฟหมด นัยน์ตาสีฟ้าสวยเหลือบมองเด็กสาวสองคนที่ลงมาใหม่อย่างหวาดๆโดยเฉพาะสาวผมดำ....
"เอ....รีเน่ พี่ว่าสองคนนี้ไม่เห็นจะสาหัสตรงไหนเลยเนาะ~"ฟินาเร่กล่าวขึ้นด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม แต่ไอเวทย์กลับครุกรุ่นไปทั่วห้อง ซึ่งอัดแน่นกับไอเวทย์ของรีเน่จนทีวีจอแบนร้าวขึ้น
ชายหนุ่มทั้งสามยิ้มอย่างหวาดๆ โดยเฉพาะเซเรสที่อยากแทรกแผ่นดินหนีรีเน่ที่ตอนนี้เป็นหน้าที่เย็นชา
"นั่นสิ...งั้นพวกเรามาทำให้สองคนนี้ ไม่สิ สามคนนี้ให้เป็นอย่างที่ได้ยินมาดีไหมครับ?"
"เฮ้ย!! ไม่นะ"สายชายหนุ่มตะโกนลั่น
"จัดไปอย่าให้เสียค่ะน้อง!!"สิ้นเสียง ร่างบางพุ่งตัวเข้าไปพร้อมมือที่เปลี่ยนสภาพคล้ายกรงเล็บหิน ส่วนรีเน่ก็ให้กำไลสูบไอเวทย์ในห้องแล้วปลดปล่อยออกมาในรูปแบบของกำปั้นนับสิบ
ฟาร์ที่เป็นคนบอกเด็กสาวทั้งสองเดินลงมาพอดีแล้วรีบหยิบยันต์พลางตัวที่เพื่อนหนุ่มผมดำเป็นคนเขียนให้ขึ้นมาอย่างฉับไวแล้วทอดมองสภาพเบื้องหน้าอย่างอนาถ ชายหนุ่มเจ้าของเรือนผมสีเขียวสวยนั้นหายตัวไปตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่ทราบได้ ซึ่งทำให้สองชายหนุ่มนั้นรับเคราะห์กันไปตามๆกัน
"เซเรส!! ทำไมแกมาเปลือยแบบนี้ห๊า!!!"รีเน่ตะโกนลั่นพร้อมล็อกแขนของชายหนุ่มให้มาอยู่ในท่ารัดกางเขน
"โอ๊ย....ก็จู่ๆฮาร์ฟก็มาชวนเล่นไพ่อ่าดิ...ซิลเวอร์ก็เบื่อๆไม่มีอะไรทำก็เลยเล่นไพ่ไปด้วยเลย...อั่ก! โอ๊ย!"เซเรสร้องโอดครวญอย่างเจ็บปวด รีเน่ย้ายตำแหน่งเป็นล็อกที่คอจากด้านหลังแทน แต่เธอแค่ล็อกเบาๆ
ริมฝีปากสวยยิ้มอย่างมีความสุข ถึงแม้ว่าจะอยู่ในสถานการณ์นี้ก็ตาม
ประวัติศาสตร์ไม่ซ้ำลอยเดิม....ไม่ไปเข้าในเส้นทางเดิม...
ความคิดเห็น