ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    The Lucky KilleR

    ลำดับตอนที่ #15 : กาลเวลาย้อนกลับ

    • อัปเดตล่าสุด 22 ก.ค. 50


     

                

     

     

    ผ่านไปราวๆนาทีกว่าๆ

     

                "อั่ก!...ไม่เคยได้ยินเลยว่า...เจ้าชายเซเรส จะมีพลังมากถึงเพียงนี้..."

              เคร้ง! ผั่ว!

                "งั้นก็จำไว้ให้ขึ้นใจล่ะ ถ้าจะยกทัพมาสู้กับชั้น ขนมาซักสี่ห้าหมื่น..."

                เสียงเกราะสีแดงของทหารกระทบลงกับพื้นเป็นคนสุดท้าย เรือนผมสีหมอกที่ยาวจรดกลางหลังค่อยๆกลับมาเป็นสีทองสว่างที่ยาวละต้นคอดังเดิม ไอหมอกค่อยๆจางลง เค้ามองไปยังเบื้องหลังของตนอย่างโล่งอก ขอบข่ายน้ำแข็งค่อยๆแตกออกตามความต้องการของชายหนุ่ม

                เค้าอาจคิดเพียงแค่จัดการศัตรูได้หมด แต่ชาวเมืองที่มองเหตุการณ์จากยานบิน และพรรคพวกของเค้ากลับดูอย่างตกใจ ใครจะไปเชื่อว่า มนุษย์เพียงคนเดียว จะสามารถทำให้ มังกรไฟสิบกว่าตัวกับทหารหนึ่งกองทัพใหญ่ พินาศลงได้ภายใน2นาที! โดยทุกคนบาดเจ็บเพียงเล็กน้อยเท่านั้น!

                " ใช้เวทสร้างเกราะลดการกระแทกจากมนตราอย่างมนตราจากอาวุธให้กับทหาร แล้วก็ใช้เอ็กเซลธาตุลมเพื่อเพิ่มความเร็วอีก สมกับเป็นเจ้าชายแห่งเมืองนักบุญ..."นานากล่าวพร้อมยิ้มอย่างพอใจกับสิ่งที่ชายหนุ่มผมทองที่กำลังถูกชายผมแดงที่วิ่งไปยีหัวอยู่ทำ เด็กสาวหันไปหาหญิงสาวและชายหนุ่มทั้งสองที่ยืนอยู่ข้างๆ

                "เธอมีรุ่นน้องที่น่าสนใจเหมือนกันนะฟินาเร่ หอกสีขาวนั่น...."นานาหยุดคำพูดไว้พร้อมเพ่งพินิจไปที่หอกสีขาวนวลที่ชายผมทองถืออยู่

                "มีอะไรหรอ?"เด็กสาวผมดำหันมาถามอย่างสงสัย ผู้ถูกถามเกาหัวอย่างเบื่อหน่าย

                "อืม ไม่มีอะไรหรอก รู้สึกว่าหอกนั่นคุ้นๆเหมือนเคยเห็นเมื่อสองสามร้อยปีที่แล้วน่ะ"

                "ประกายแสงหิมะน่ะ มันมีอีกชื่อนะ แต่ลืมไปแล้ว"ซิลเวอร์กล่าวขึ้นบ้างหลังจากเงียบอยู่อย่างปกติ นานาเพ่งมองไปที่หอกนั่นอีกครั้ง

                "หอกนี้มีลักษณะคล้ายกับคทาโทริฟาเรียที่จะดูดพลังเวทเข้าไปจนเต็ม ก่อนที่จะส่งสู่เจ้าของหอกนั้น และรู้สึกว่า มันมีรูปแบบที่ตรงข้ามกับดับตะวันทุกอย่างด้วย..."

                "ดับตะวัน...มีดของรีเน่! ใช่แล้ว! นานา! เราต้องไปหารีเน่นี่นา! บอกมา รีเน่ไปทางไหน!"สเวนที่วิ่งกลับมาเมื่อไหร่ไม่รู้ตะโกนถามอย่างร้อนรน ทั้งสามตบหน้าผากของตนอย่างเบื่อหน่าย มาเฮโดสบินลงมายังพื้นพร้อมกับถ้อยคำที่สร้างความพอใจให้แก่สเวนอย่างยิ่ง

                "เกวียนพร้อมใช้งานแล้วครับ!"

     

                เด็กสาวเจ้าของร้านขายเครื่องประดับกับจ้าวเมืองโบกมือลาเหล่าผู้มาเยือนที่เพิ่งเทียบเกวียนออกไปจากเมือง

                "นี่คุณนานาครับ ทำไมหน้าคุณถึงหงุดหงิดอย่างนั้นล่ะครับ คุณเป็นอะไรรึเปล่า?"ชายผมดำแซมขาวถามเด็กสาวข้างๆตนอย่างสงสัย แต่หน้าของเด็กสาวที่ชื่อนานานั้นไม่ได้ฉายแววหงุดหงิดอย่างเดียว แต่ฉายแววครุ่นคิดด้วย

                "ชั้นมาคิดดูอย่างที่ฟินาเร่กับซิลเวอร์บอก เจ้าชายเซเรสมีไอเวทย์ที่เป็นต้นกำเนิดของพลังเวทย์เหนือมนุษย์ธรรมดาทั่วไป แม้นมีหอกประกายแสงหิมะที่เป็นตัวดูดพลังเวทอ่อนๆอยู่ ก็ไม่น่าจะมีไอเวทเยอะถึงขนาดนี้ ไอเวทมหาศาลนั่นมันพอๆกับปิศาจขั้นซิสดีๆตัวนึงเลยเชียวนา...."

                "อืม...มันก็จริงนะครับ ไอเวทย์นั่นบางทีอาจจะมากกว่าพวกเราสองคนบวกกันด้วยซ้ำ....คงเป็นเพราะประกายแสงหิมะแหละครับ เจ้าชายเซเรสคงสูบไอเวทย์ของคนอื่นมาเยอะล่ะนะ..."

     

                "ยูเรม..."รีเน่เรียกชื่อผู้เป็นเพื่อนที่นอนพิงผนังเกวียนอยู่ข้างๆด้วยน้ำเสียงที่แผ่วเบา

                "มีอะไร..."ยูเรมตอบแบบตัดเยื่อใยอย่างรำคาญนิดๆ

                "มีอะไรน่ะหรือ...ไม่น่าถาม..."เด็กสาวยิ้มขึ้นเล็กน้อยพร้อมจับมือที่สวมแหวนของยูเรมแน่น

                "สอนเวทย์ใหม่ๆให้ชั้นหน่อยน๊า!!"รีเน่ตะโกนลั่นไปทั่วเกวียน ใช่สิ เพราะเธอรู้เพียงเวทธาตุลมหนึ่งบท ธาตุมืดหนึ่งบท แล้วก็เวทกักเวทอีกหนึ่งบทเท่านั้น!

                "ไม่ด้าย~ มันอันตรายเกินไป ตอนนี้ขนาดเธอใช้เวทที่สร้างให้เกิดแค่ลมพัดธรรมดา ก็กลายเป็นพายุใหญ่แบบพัดเมืองที่เราผ่านมาเมื่อกี๊นี้ปลิวได้เลยนะ! สรุปก็ ชั้นไม่สอน !...."ชายหนุ่มกล่าวพร้อมหมุนตัวหนีเด็กสาว แต่หารู้ไม่ว่า คำที่พูดไปเมื่อครู่นั้นได้สร้างเรื่องใหญ่ให้กับเค้าเสียแล้ว รีเน่ลุกขึ้นพร้อมชักดับตะวันออกมาจากกลางหลังด้วยความโมโหแล้วง้างขึ้นสูงเตรียมแทงชายหนุ่มตรงหน้าเต็มที่!

                "นายไม่สอนชั้นสินะ...."เด็กสาวกล่าวเบาๆพร้อมยิ้มแห้มเกรียมอย่างที่ไม่ได้ทำมานาน

              จะได้เห็นเลือดแล้ว...จะได้เห็นเลือดแล้ว!...หึหึ

                ชายหนุ่มที่ไม่ได้เห็นรอยยิ้มอันหวานชื่น?ของเด็กสาวเกาแก้มอย่างเคอะเขินนิดๆ ที่เค้าไม่สอนเธอไม่ใช่เพราะมันอันตรายมากไปหรอก แต่เพราะตอนนี้เค้าเขินที่เธอคนนี้มานอนข้างๆตนต่างหากล่ะ!

                "แต่ถ้าเป็นเวทเสริมพลังทั่วไปนี่ชั้นก็พอสอนได้นะ เฮ้ย!!...."ยูเรมบอกรีเน่ช้าไป รีเน่ตวัดปลายมีดเฉียดไหล่กว้างของชายหนุ่มไปอย่างเฉียดฉิว ร่างบางล้มทับกลางร่างของชายหนุ่มไปอย่างไม่ได้ตั้งใจ

                "เฮ้ย! ราเฟรน่า!! อย่าเล่นของมีคมในที่แคบแบบนี้สิ!!!"เสียงของชายหนุ่มดังขึ้นตามลำดับ เด็กสาวได้แต่หัวเราะแห้งๆอย่างไม่มีข้อเถียงพร้อมลุกขึ้นนั่ง จู่ๆ หัวของเด็กสาวก็คิดอะไรพิเรนๆออกแล้วก็ล้มลงทับหน้าท้องของชายหนุ่มอีกครั้ง

                "เฮ้ย! ทำไมยังคิดจะนอนต่ออีกล่ะ ชั้นก็บอกแล้วไงว่าจะสอนให้!"

                "ชั้นจะคิดว่า นายคือมันนะ แล้วขอชั้นแก้แค้นหน่อยเถอะ!"สิ้นเสียง นิ้วเรียวก็จิ้มที่สีข้างของชายหนุ่มหลายครั้งจนดิ้นพล่านไปทั่วเกวียน

                "ฮ่า..ฮ่า...ร..า..ฮ่า...เฟร....น่า....ฮ่า....หยุ....ด...ฮ่า...นะ....ฮ่า ฮ่า ฮ่า!"ชายหนุ่มร้องแทบไม่ได้ศัพท์ สาวเจ้ายิ้มอย่างมีเลศนัยพร้อมหยุดการเคลื่อนไหวลง ทำให้ชายหนุ่มมีโอกาสพอที่จะลุกขึ้นนั่งแม้ตัวเด็กสาวจะยังนอนทับอยู่

                "หยุดซักที...."

                "มั่นใจหรอ?"

                "หา?"

                "ดัชนีจ้าวอสูร!"ยูเรมยกแขนขึ้นมาตั้งการ์ดหลังจากที่เด็กสาวตะโกนขึ้นอย่างตกใจ แต่หารู้ไม่ ช่องว่างช่วงเอวที่โผล่ขึ้นหลังจากยกแขนขึ้นเตรียมนั้น รีเน่ระดมนิ้วไปยังจุดนั้นด้วยความเร็วที่เร็วกว่าเดิมเท่าตัวนัก!

                "เฮ้ย! ยูเรม! ผลัดเวรเฟ้ย!!"เอนวาราโผล่หน้าเข้าามาในเกวียนพร้อมหยุดมองความสัมพันธ์ของทั้งสองที่ดูสนิทกันมากขึ้น

                "ราเฟรน่า...ความทรงจำเธอกลับมาแล้วหรอถึงได้ไปนั่งตักยูเรมมันน่ะ..."

                "นั่งตัก?"รีเน่มองหน้าเอนวาราด้วยความสงสัยพร้อมสำรวจตัวเอง ใช่เลย ตนกำลังนั่งอยู่บนตักของชายหนุ่มร่างสูงนี้จริงๆเสียด้วย!

                รีเน่เด้งตัวออกห่างออกจนแทบจะออกไปอยู่อีกด้านนึงที่ชายหนุ่มผมดำนั่งอยู่ด้วย ยูเรมสบถเบาๆพร้อมออกไปถือบังเหียนแทนเอนวารา พลันเสียงกรีดร้องแหลมสูงของสิ่งมีชีวิตจำพวกหนึ่งดังแสบแก้วหูจนทำให้เด็กสาวผมทองที่หลับอยู่ตื่นขึ้นอย่างงัวเงีย เล็บแหลมยาวทิ่มทะลุเกวียนไม้ซึ่งเฉียดหูของรีเน่ไปไม่กี่มิลฯ!

                "กรีนานซ์! ทำไมมันมาอยู่ในทุ่งโล่งแบบนี้ได้ล่ะ! ปกติมันจะอยู่ในป่ากันเป็นฝูงๆ แล้วถ้าเราไม่ทำอะไรมัน มันก็จะไม่ทำอะไรนี่นา...."

                "ความจริงชั้นควบเข้าป่าน่ะ มันเป็นทางลัด ว่าแต่ กรีนานซ์ ไอ้ตัวที่มีเล็บยาวๆ คล้ายๆลิงนั่นป่ะ?"เอนวาราถามขึ้นอย่างสงสัยแต่ก็ไม่มีใครสนใจ จึงออกไปยังคนคุมบังเหียนที่ปล่อยสัตว์เวทจากไพ่ออกมาคุ้มกันสองสามตัว

                "ยูเรม อีกนานมั้ยกว่าจะถึง?"ชายหนุ่มผมฟ้าถามเพื่อนที่ควบม้าด้วยสีหน้าหงุดหงิดชอบกล

                "นานนนนนมากกกกกกก เพราะไอ้ปลาตัวไหนไม่รู้เจือกเข้าเส้นทางอ้อมจากทางปกติ...."ชายหนุ่มยิ้มหน้าเจื่อนแล้วหันไปมองด้านหน้า กรงเล็บแหลมพร้อมร่างอันหนาเตอะพุ่งเข้าสู่ระยะของนันย์ตาสีฟ้าเกือบขาวโดยที่เจ้าตัวไม่ทันตั้งตัว!

                ทั้งสองก้มตัวหลบในระยะประชิดพร้อมคนนึงที่คิดโทษเจ้าสัตว์อสูรที่ปล่อยให้เจ้าตัวนี้เข้าถึงตนได้ แต่ทั้งสองลืมคิดไป ใครล่ะที่อยู่ในเกวียน!

                "ว่ะเฮ้ย! เฮ้ยๆๆ!!"เสียงร้องที่ฟังดูไม่งามนักสำหรับเจ้าหญิงทั่วๆไป แต่สิ่งที่แน่นอนคือเธอคนนั้นกำลังอยู่ในอันตราย!

                ยูเรมรีบหันไปมองข้างหลังอย่างตื่นตกใจ พร้อมกับกรีนานซ์หลายสิบตัวกระโดดเกาะเกวียนเทียมไว้แน่น เล็บหนาของพวกมันเลาะไม้ออกไปเป็นแผงๆ และสิ่งที่ผิดแปลกไปจากอย่างอื่นนั้นก็คือ

              ทุกตัวล้วนมีสัญลักษณ์มนตร์ดำอยู่บนหัว!!

                "ราเฟรน่า!! ถอยออกมา!...."ยูเรมตะโกนเข้าไปในเกวียนพร้อมกับตั้งมือขึ้นเล็งกรีนานซ์ที่กำลังเกาะแขนของเด็กสาวเจ้าของเรือนผมสีน้ำตาลยาวประบ่าอยู่

                "ออกไปไม่ได้เฟ้ย! มันจับแขนอยู่น่ะเห็......"ยังไม่ทันจะพูดจบ หัวของกรีนานซ์ตัวใหญ่ก็ถูกบดขยี้อย่างฉับพลันด้วยแรงดันบางอย่างที่สามารถบีบกะโหลกแข็งๆของพวกมันให้แตกออกอย่างง่ายดาย  วิโอล่าพลักรีเน่ลงจากเกวียนพร้อมกับกระโดดตามลงมาพร้อมๆกับชายหนุ่มอีกสองคน ร่างบางกลิ้งไปตามพื้นอย่างรุนแรงแล้วก็ตั้งหลักลุกขึ้นยืนได้อย่างรวดเร็ว

                "นี่มันเรื่องบ้าอะไรกันเนี่ย!!"รีเน่ตะโกนลั่นพร้อมกับวัตถุบางอย่างแหวกอากาศเข้ามาอย่างรวดเร็ว เธอเอี้ยวตัวหลบอย่างเคยชิน แต่บางอย่างของวัตถุที่พุ่งมาช้อนร่างของเธอให้แนบชิดกับแผ่นอก

                "อ๊ากกกก!!!!!"รีเน่ร้องลั่นอย่างตื่นตกใจ ไอเวทย์และไอปิศาจของเธอกำลังถูกชายในผ้าคลุมนี้ดูดอยู่ และดูดแบบฝืนพลังของเวทกักเวท จึงสร้างความเจ็บปวดให้แก่เด็กสาวได้หลายเท่าตัวนัก

                ผ้าคลุมสีน้ำตาลอ่อนถูกเลิกออกด้วยมือของผู้ที่กำลังอุ้มรีเน่อยู่ เรือนผมสีเงินยาวละต้นคอ ดวงตาสีแดงสดที่ส่งความรู้สึกเกลียดชังและสร้างความเกรงกลัวให้แก่ผู้มอง แผ่นอกแบนราบมีโซ่ทองพาดผ่าน ท่อนร่างปกปิดด้วยกางเกงผ้าตัวหลวม

                และสิ่งหนึ่งที่ทำให้ผู้มองต้องตกใจโดยเฉพาะยูเรม เพราะหน้าตาของบุรุษคนนี้นอกจากสีของเรือนผมแล้ว ใบหน้านี่เหมือนกันอย่างกับแกะ!!

                "สบายดีหรือเหล่าเลือดของข้า"ชายผมเงินยิ้มอย่างไมตรี แต่ดวงตากลับฉายแววเกลียดชังใส่สามคนที่อยู่เบื้องล่างของเค้า

                ยูเรมเหยียดยิ้มอย่างเคร่งเครียด ชายตรงหน้าเค้านั้นคือคนที่เค้าไม่อยากพบเลยทั้งชีวิตนี้ เด็กสาวที่ถูกอุ้มอยู่เริ่มดิ้นอย่างอ่อนแรง มือเรียวหยิบมีดสีดำเล่มใหญ่ขึ้นเตรียมฟันแขนของบุรุษที่กำลังอุ้มเธออยู่!

                "ท่านตื่นขึ้นมาเมื่อไหร่กัน ท่านคานัล ข้าได้ยินมาว่าท่านถูกองค์ราชาเซ็ทปิดผนึกถาวรไปแล้วมิใช่ลือ ใยท่านถึงออกมาโบยบินอยู่ ณ ที่นี้ได้กัน"เอนวารากล่าวอย่างเคร่งเครียด มีดที่รีเน่ตวัดหวังสร้างบาดแผลให้กับชายผมเงินนั้นกลับไม่สามารถสร้างบาดแผลให้เค้าเลยแม้แต่น้อย

                คานัลมองมายังชายผมฟ้าด้วยสีหน้ายิ้มแย้มเหมือนเมื่อกี้พร้อมค่อยๆลดระดับการบินลงสู่พื้น

                "เจ้าคือริเวียธานาร์...ไยเจ้าต้องปกปิดร่างที่แท้จริงของเจ้าด้วย..."คานัลกล่าวยิ้มๆเหมือนเดิม เอนวารากัดฝันกรอดๆอย่างโมโห ไอเวทย์สีฟ้าห่อหุ้มร่างกายอย่างเบาบาง คานัลชายตามองไปยังชายผมดำที่อยู่ข้างๆกับคนที่คุยอยู่เมื่อครู่

                "ส่วนเจ้า ยูเรม อันเอนรี่ ปิศาจผู้กำหนดมาจากตัวข้าพร้อมๆกับตอนที่ข้าถูกเจ้าเซ็ทผนึกไว้ในโรงเก่าๆนั่น...."ยูเรมได้ยินถึงกับหยุดหายใจ รีเน่ยกแขนของชายที่กอดตนอยู่ขึ้นกัดอย่างสุดจะทน แต่เจ้าปิศาจตนนี้ก็ยังมิปล่อยตนให้เป็นอิสระ คานัลหันมามองหญิงสาวในอ้อมแขนของตนอย่างขบขัน ซึ่งไม่เข้ากับอารมณ์ของคนอื่นแม้แต่น้อย

                "โถๆๆ ลูกแมวน้อย...เจ้าจะหนีข้าไปไหนกัน...หึ?"ชายหนุ่มกล่าวอย่างเอ็นดู มือหนาที่เต็มไปด้วยแหวนเชิยคางของเด็กสาวขึ้นแล้วเลียแก้มเด็กสาวในอ้อมกอดอย่างแผ่วเบา

                รีเน่นิ่งแข็งอย่างขนลุก ใบหน้าขึ้นสีเลือดอย่างรุนแรง อุณหภูมิในร่างกายร้อนขึ้นอย่างฉับพลัน

                "ท่านคานัล! โปรดสิ้นชีวี ณ ที่นี่ด้วย!"เสียงของวิโอล่าดังขึ้นพร้อมกับดวงตาสีน้ำตาลแปรเปลี่ยนเป็นสีแดงซีดอย่างรวดเร็ว ไวโอรินสีเลือดประทับที่คาง มืออีกข้างกระตุกถี่ยิบเพื่อสร้างทำนองเพลงที่ใช้ในการสังหารศัตรู

                แต่ชายผมเงินกลับแคะหูอย่างเบื่อหน่าย มือหนาชี้มายังเด็กสาวที่สีไวโอรินอยู่

                "หนวกหูน่ะยัยสวะ"สิ้นเสียง มือหนาเปลี่ยนสภาพเป็นเสาแหลมพุ่งเข้าเสียบที่อกด้านซ้ายของเด็กสาวผมทองอย่างฉับพลันท่ามกลางสายตาของบุคคลที่เหลือ....

                "แกฆ่าวิโอล่าทำไม!!"ชายผมฟ้าตะโกนอย่างบ้าคลั่ง ไอเวทย์สีฟ้าที่แผ่ออกมาเบาบางตอนแรกขยายออกหลายสิบเมตร ดวงตาสีฟ้าขาวเปลี่ยนเป็นสีแดงเรียวเล็ก มือหนาค่อยๆเปลี่ยนสีเป็นสีฟ้าหยาบ!!

                "เอวารอย่า!!!!" ยูเรมปรี่เข้ามาล็อกร่างของผู้เป็นเพื่อนไว้ แล้วก็กระเด็นออกอย่างทันที  ร่างสูงค่อยๆแปรเปลี่ยนเป็นมังกรสีฟ้าตัวสูงใหญ่ เขาแหลมงอกออกเหนือจมูก ท้องฟ้าเริ่มมืดครึ้มอย่างรวดเร็ว หยดน้ำค่อยหล่นลงสู่พื้นอย่างต่อเนื่อง ทัศวิสัยมองได้ไม่เกินยี่สิบเมตรเมื่อห่าฝนนั้นโถมลงมาอย่างไม่คิดหยุด

                "เจ้าอยากเป็นรายต่อไปสินะเจ้าริเวียธานาร์...."คานัลถามอย่างสงสัยแล้วดึงแขนของตนกลับมา  ปีกนกสีดำใหญ่ผุดขึ้นจากกลางหลังของคานัล ปีกนกสีดำใหญ่หกปีกกางออกอย่างผ่าเผย คานัลปล่อยรีเน่ให้เป็นอิสระพร้อมยิ้มให้อย่างเป็นมิตร

                "รอแป๊บนึงนะแมวน้อย....อีกเดี๋ยวก็เสร็จแล้ว"

     

                "ตายแล้วๆ...ทำไมจู่ๆฝนก็ตกจั้กๆแบบนี้เนี่ย?"ฟินาเร่บ่นอย่างหัวเสียพร้อมกางข่ายเวทขึ้นกันฝนแล้วก็ควบม้าต่อ ซักพักก็ค่อยๆลดความเร็วลงจนทำให้ชายเจ้าของเรือนผมสีน้ำตาลอ่อนต้องชะโงกหน้าออกมาถาม

                "มีอะไรหรอฟีเน่?"สเวนถามอย่างสงสัย

                "ข้างหน้านี้มีการกางข่ายเวทชั้นสูงไว้จำนวนมากจนเราไม่สามารถฝ่าไปได้น่ะสิ"เด็กสาวบ่นอย่างเบื่อหน่ายแล้วเดินไปยังข่ายเวทขนาดใหญ่พร้อมยกคทาของตนขึ้นเตรียมทำลายข่ายเวท แต่ชายอีกคนหนึ่งกดมือของเด็กสาวลง ชายที่มีศักดิ์เป็นถึงพระสวามีของเธอ ซิลเวอร์ คาร์เทียร์

                "ไม่ต้องหรอกฟินาเร่ ข่ายมนตร์นี้ไว้ทีหลัง ตอนนี้เราต้องทำอย่างอื่น.."สิ้นคำ เสียงกรีดร้องแสบแก้วหูของสัตว์จำนวนมหาศาลดังขึ้นอย่างไม่ขาดสาย เกวียนเทียมถูกสัตว์ที่มีลักษณะคล้ายลิงแต่มีเล็บยาวเกาะอยู่ทั่วเกวียน สเวนยกมือขึ้นสูง เปลวไฟสีฟ้าสวยก่อตัวขึ้นรอบๆเกวียนจนสัตว์เหล่านั้นกระเด็นออกไป เจ้าลิงพวกนั้นกรีดร้องอย่างเจ็บปวดก่อนที่ร่างของมันค่อยๆสลายไป

                "กรีนานซ์!! เซเรส! แช่แข็งฝนที่ตกเดี๋ยวนี้!!"ซิลเวอร์ออกปากสั่งชายหนุ่มผมทองที่กระโดดออกมาจากเกวียน ชายหนุ่มชูมือขึ้น ไอเย็นแผ่ออกจากชุดคลุมสีดำ น้ำแข็งเริ่มเกาะตัวกันตามต้นไม้ พื้นที่เจิ่งนองด้วยน้ำ ฝนแข็งตัวกลายเป็นเข็มขนาดเล็กพุ่งเสียบลิงนับร้อยตัวอย่างแม่นยำโดยคนที่เหลือนั้นไม่โดนแม้ซักแอะ

                "โอ๊ย!!"สเวนร้องลั่น น้ำแข็งก้อนเท่ากำปั้นหล่นใส่หัวของเค้าอย่างแม่นยำเช่นเดียวกัน สเวนหันไปมองคู่อริที่ยืนยิ้มอย่างไม่รู้สึกรู้สาอย่างแค้นเคืองอัมบรากับฟาร์เผลอหัวเราะขึ้นอย่างขบขัน พลันท้องฟ้าที่มืดครึ้มอยู่สว่างวาบและแสงสีดำปนม่วงพุ่งลงมาใส่ขอบเขตเวทอันนี้

                "รุ่นพี่ซิลเวอร์ รุ่นพี่ฟินาเร่เป็นคนทำหรอ?"ฟาร์ตะโกนถามอย่างสงสัย ชายหนุ่มส่ายหน้าอย่างงุนงง ขอบข่ายเวทสลายออกอย่างทันทีจนภาพภายในค่อยๆปรากฏ

                มังกรตัวสีฟ้าใหญ่ยาวที่ไม่น่าจะมาโผล่ในป่าล้มลงกับพื้นด้วยร่างกายที่ค่อนข้างไหม้เกรียม บุคคลที่ยืนอยู่บนหัวของมันคือชายผมเงินที่มีปีกนกสีดำใหญ่อย่างกลางหลังถึงแปดปีก ใหญ่กว่าปีกของรีเน่มากมาย!!

                "อะไรกัน ได้ยินมาว่าริเวียธานาร์เป็นสัตว์อสูรที่ทนต่อมนตราธาตุไฟฟ้านี่นา ทำไมถึงโดนฟ้าผ่าของชั้นไปนิดเดียวถึงกับไหม้เกรียมเลยล่ะ....."สิ้นเสียง สายฟ้าสายที่สองก็พุ่งลงมาที่แขนของมังกร สายฟ้าสีดำตัดแขนของมังกรสีฟ้าตัวนี้อย่างง่ายดาย เจ้ามังกรเบิกตากว้างแล้วร้องลั่นด้วยความเจ็บปวด ชายผมเงินยิ้มร่าอย่างสนุกสนานแล้วเหลือบมองเหล่าบุคคลที่โผล่เข้ามาใหม่อย่างสงสัย

                "พวกเจ้าเป็นใครกัน?"คานัลถามอย่างงุนงง พลันร่างของมังกรสีฟ้าก็ถูกสายฟ้าระรอกที่สามซัดลงจนสลายไปเหลือเพียงร่างก่อนที่จะกลายร่างอยู่กลางหลุมลึก ซิลเวอร์กับฟินาเร่ยืนตัวสั่นอย่างตื่นกลัว และพอๆกับคนอื่นๆ เมื่อไอปิศาจของชายตรงหน้าแผ่ออกจนน่ากลัว

                สายตาของชายเจ้าของนาม ฟาร์เรดิล เพ่งมองไปยังสองวงแหวนเวทที่ลอยอยู่เบื้องหลังของชายหนุ่มผมเงินอย่างตกใจ ทั้งสองถูกตรึงเป็นรูปไม้กางเขน คนหนึ่งเป็นชายผมดำที่เค้าไม่รู้จัก แต่หญิงสาวข้างๆเป็นคนที่ชายหนุ่มมั่นใจว่าเค้ารู้จักเป็นอย่างดี!!

                "นั่นมันรีเน่นี่นา!!"เค้าตะโกนลั่นอย่างตกใจ เซเรสกับสเวนพุ่งกระโดดขึ้นหมายเข้าไปปลดปล่อยวงเวททั้งสอง แต่ทั้งสองคนกลับชนเข้ากับกำแพงเวทขนาดมหึมาที่ชายผมเงินเบื้องล่างเพิ่งร่ายขึ้นมา

                "เจ้าสองคนจะไปหาแมวน้อยของข้าทำไม?"คานัลถามด้วยน้ำเสียงเป็นมิตร แล้วก็ใช้พลังเวทดึงร่างของทั้งสองให้กองลงตรงหน้า ชายทั้งสองลูบก้นของตนอย่างเจ็บปวดใบหน้าขึ้นสีเขียว พอเริ่มรู้สึกตัว ดวงหน้าของชายหนุ่มร่างสูงเจ้าของดวงตาสีแดงก่ำและเรือนผมสีเงินสวยก็มาอยู่ตรงหน้าซะแล้ว

                "ขอโทษที พวกเจ้าสองคนคงเจ็บมากสินะ"คานัลกล่าวขอโทษขอโพยแล้วก็ทำสิ่งที่คนสำนึกผิดไม่ทำกัน!!

                ปีกใหญ่ทั้งแปดกระพือจนเกิดลมอย่างรุนแรงจนทำให้ชายทั้งสองปลิวออกไป ฟาร์กับซิลเวอร์กระโดดรับได้อย่างทันท่วงที ฟินาเร่ยกคทาขึ้นสูงเรียกแล้วร่ายเวทธาตุดินแสนถนัด

                "ขอวิงวรต่อพระแม่ธรณีผู้เป็นใหญ่ โปรดดรรากเถาดิน ขึ้นรัดร่างแห่งอริข้า....อาโฟรวีป!!"ดินใต้เท้าของคานัลเลื้อยขึ้นรัดร่างสูงไว้แน่นเพื่อสร้างโอกาสให้สาวผมม่วงมีโอกาสเข้าโจมตี อัมบราลากดาบสีดำเรียวไปกับพื้นพร้อมตวัดขึ้นอย่างรวดเร็วจนเกิดเป็นแสงสีดำครอบคลุมร่างของชายร่างสูงไว้ แต่ชายหนุ่มกลับแสยะยิ้มอย่างเบื่อหน่าย

                แหวนสีแดงวงหนึ่งเปล่งแสงขึ้น ปีกที่กลางหลังแตกออกกลายเป็นไอเวทย์สีดำมืดจำนวนมหาศาลที่แผ่รัศมีจนครอบคลุมร่างของคนโดยรอบไว้จนมดสิ้น

                "พวกแกคงรู้สินะว่าพลังเวทย์ของราเฟรน่ามากกว่าชั้นอยู่หลายเท่าตัวนัก....."เสียงหาบต่ำที่น่าจะมาจากคนๆเดิมดังขึ้นในกลุ่มควันสีดำ ตามด้วยเสียงของอะไรซักอย่างที่ฟาดร่างบางทั้งสองให้อัดเข้ากับต้นไม้ใกล้ๆจนต้นไม้โค่นลง

                "แต่พลังของมันยังไม่ตื่นขึ้น!!"สายฟ้าสีดำม่วงแบบเดียวกับที่ทำร้ายเอนวาราในร่างมังกรพุ่งลงมาที่พื้นสี่สาย และเสียงการแตกของหินที่ดังต่อเนื่องหลังจากที่สายฟ้าผ่าลงมาอีกสี่ครั้ง กลุ่มควันสีดำค่อยๆกลับเข้าสู่ร่างสูงของคานัลอีกครั้ง เล็บสีขาวยาวค่อยๆหดกลับอย่างที่เป็นอยู่แล้วซึ่งก็หมายความว่าเมื่อครู่คานัลได้กลายร่างเป็นอสูรแล้วทำร้ายเหล่านักเรียนจากK.K.K.

                รีเน่มองไปยังเบื้องล่างด้วยปากที่สั่นเทา ต้นไม้ที่อยู่ไม่ห่างนั้นมีร่างของเด็กสาวสองคนนอนพงาบๆแบบจะตายแหล่มิตายแหล่ หลุมที่เกิดจากฟ้าผ่าอีกสี่หลุมที่ไม่เหลือแม้แต่ร่างของชายที่ถูกสายฟ้านั้น

                คานัลเดินไปยังสองเด็กสาวที่นอนพงาบๆอยู่อย่างเรียบเฉย ดวงตาสีแดงสดจ้องร่างทั้งสอง พลันหัวของร่างทั้งสองถูกบีบอัดจนเละเหมือนกับกรีนานซ์ที่ยูเรมฆ่าเพื่อช่วยรีเน่แบบไม่มีผิดเพี๊ยน

                "แก!...ไอ้ฆาตรกร!!....ไอ้ปิศาจนรก!!"ยูเรมตะโกนกึ่งบ้าคลั่งกึ่งเสียใจ ผู้ถูกด่าหันมายังต้นเสียงด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม ฉับพลันร่างสูงเจ้าของเรือนผมสีเงินก็ชักมีดดับตะวันของรีเน่ขึ้นฟันดวงตาขวาของชายหนุ่มที่มีหน้าตาคล้ายกับตนอย่างเลือดเย็น ชายผมดำร้องลั่นอย่างเจ็บปวดมือหนาค่อยๆดันแหวนออกจากนิ้วอย่างช้าๆโดยที่ไม่ให้ชายตรงหน้ารู้ตัว

                คานัลหันไปสนใจหญิงสาวที่อยู่ใกล้ๆอีกครั้ง เธอกำลังร้องไห้อย่างเจ็บปวด หยาดน้ำใสๆไหลรินออกจากดวงตาสีดำสวยอย่างแช่มช้า ภาพตรงหน้าคือเหล่าบุคคลที่เธอรู้จักเป็นอย่างดี และได้จากโลกนี้ไปอย่างมิอาจกลับมา...... หรือเปล่า?

                ชายหนุ่มผมเงินใช้ลิ้นเกลี่ยน้ำตาของเด็กสาวออกแล้วเริ่มไร้มาที่ปาก แต่เด็กสาวกลับไม่มีท่าทีว่าจะขัดขืนแม้แต่น้อย แถมดวงตาคู่นี้ยังมองไปยังด้านหลังของเค้าอีกด้วย

                "เพลิงฟ้าผ่าปฐพี!!"

                "เปิดวิถีที่ห้า ปราการน้ำแข็งคุ้มภัย!!"

                เสียงของสองชายหนุ่มที่คานัลคิดว่าตายไปแล้วตะโกนลั่น เกล็ดน้ำแข็งค่อยๆก่อตัวเป็นก้อนอิฐหนากั้นระหว่างรีเน่และคานัลไว้แล้วก็มีลิ่มน้ำแข็งพุ่งทะลุมือของชายหนุ่มจนมีดดับตะวันล่วงหล่นลงกับพื่น-ฝ่ามือที่ครอกด้วยเปลวไฟสีฟ้าสว่างพุ่งตวัดใส่ใบหน้าขาวของชายที่กำลังทำอนาจารเด็กสาวอยู่เมื่อครู่จนกระเด็นลงไปยังพื้นเบื้องล่างที่มีอีกชายหนุ่มผมแดงและผมสีเงินยาวรออยู่

                "กรงหินผนึกมาร!!"

                "ข่ายเพลิงหมุนวนไม่สิ้นสุด!!"

                กรงหินใหญ่เข้ากักร่างของคานัลไว้แล้วก็ล้อมรอบด้วยลูกไฟสีแดงนับสิบที่หมุนวนอยู่รอบๆ เซเรสจิ้มหอกใส่วงแหวนเวทที่กักร่างของรีเน่และยูเรมให้แตกออกแล้วพาลงสู่พื้นอย่างง่ายดาย

                รีเน่สำรวจร่างกายของชายหนุ่มทั้งสี่อย่างฉงน ชุดสีดำเปราะเปื้อนไปด้วยเศษหินและฝุ่นเท่านั้น แต่มีเพียงสองชายหนุ่มที่ชื่อ เซเรส เอรูทีส และ สเวน ฮาเวอรี่เท่านั้นทีมีเลือดที่แห้งเกราะกรังอยู่ตรงปกเสื้อ

                "เซเรส! พี่! ทำไมทั้งสองคนถึงมีเลือดอยู่ตรงนี้ได้ล่ะ!!"รีเน่ตะโกนถามอย่างสงสัย สเวนกำลังจะอ้าปากตอบแต่ชายหนุ่มผมทองกลับดันให้เซไปทางอื่นจนทำให้ชายหนุ่มอีกสองคนต้องหัวเราะขึ้นอย่างอดไม่ได้แม้กระทั่งยูเรมที่ยืนอยู่ข้างๆรีเน่ด้วย

                "ก็แบบ ชั้นหยิบยันต์มนตราล่องหนที่ได้มาจากโทบิขึ้นมาช้าไปหน่อยน่ะ ก็เลยโดนสายฟ้าบ้าๆนั่นเฉี่ยวหัว ไอ้สเวนก็เหมือนกันน่ะ..."เซเรสกล่าวแล้วสวมกอดรีเน่ท่ามกลางสายตาของชายหนุ่มอีกสี่คนโดยรอบ

                "ไอ้เซเรส!!..นี่แกทำบ้าอะไรเนี่ย!!"เด็กสาวตะโกนอย่างหัวเสีย แต่ภายในใจกลับเบาโล่งอย่างบอกไม่ถูก ชายหนุ่มยิ้มกริ่มแล้วดันร่างของเธอที่กำลังตะโกนโหวกเหวกอยู่

                "เอาแต่อ้างนู่นอ้างนี่ สุดท้ายก็แต่งตัวสมหญิงเป็นเหมือนกันนี่นา...."เซเรสเอ่ยเสียงนุ่ม เด็กสาวที่ดิ้นอยู่ก็หยุดลงอย่างฉับพลันด้วยความอาย สองเด็กหนุ่มที่อยากจะเข้ากอดแบบนี้มั่งก็ถอนหายใจอย่างเสียดายเพราะรู้สึกว่าพวกเค้าแพ้ซะแล้ว ชายหนุ่มอีกสองคนเดินไว้ทุกข์ให้กับเด็กสาวสองคนที่ตายอยู่ใต้ต้นไม้อย่างเศร้าโศก

                แต่ทุกคนกลับลืมชายคนหนึ่งที่ถูกขังอยู่ไม่ไกล กรงหินนั้นแตกออกอย่างฉับพลันพร้อมกับที่ลูกไฟนับสิบพุ่งเข้าใส่ร่างนั้นแต่ลูกไฟเหล่านั้นกลับผ่านร่างของชายหนุ่มไปอย่างง่ายดาย

                "ราเฟรน่า! ตายซะเถอะ!! ตายเพื่อพลังของเจ้าจะได้กลับคืนสู่ข้า"คานัลตะโกนอย่างหัวเสียพร้อมที่มือหนาเปลี่ยนเป็นเสาแหลมยาวพุ่งเข้าใส่เด็กสาวที่ยังยืนหันหลังให้อยู่

                ชายหนุ่มที่กอดร่างบางอยู่หมุนตัวพร้อมผลักร่างของเด็กสาวให้ล้มไปทางอื่น พลันหอกยาวก็ทะลุท้องของชายหนุ่ม คอมหอกดึงกลับอย่างรวดเร็วแล้วกลับเป็นมือตามเดิม

                 "เหอะ! เจ้าชาย ถือว่าเราหายกัน!"คานัลสบถอย่างหัวเสียแล้วมองมายังเด็กสาวที่กำลังนั่งมองร่างชองชายหนุ่มที่เพิ่งฆ่าไปอย่างเหม่อลอย

                 รีเน่มองร่างของชายตรงหน้าที่กำลังยิ้มที่เห็นตนปลอดภัย แม้หน้าท้องของเค้าจะเป็นรูใหญ่และแน่นอนว่ามันต้องเจ็บ แต่เค้ากลับไม่ร้องซักแอะ

                เธอยังมองร่างของชายหนุ่มโดยไม่สังเกตถึงฝ่ามือหนาของคานัลกำลังจ่อที่หัวรีเน่อยู่!

                "จงตายเพื่อชั้น! จงตายเพื่อกลับสู่อานัต!! เพื่อให้พลังของเจ้ากลับคืนสู่ข้า!!!"สิ้นเสียง วงแหวนอักษรรูนยี่สิบสี่ตัวปรากฏขึ้นแล้วซ้อนทับกันอย่างทันที ทุกอย่างค่อยๆถูกดูดเข้าที่ใจกลางของวงแหวนเวทแม้แต่ไอเวทย์และไอปิศาจของชายร่างสูง เวทแรงดึงดูดที่จะดูดทุกสิ่งเข้าไปยังลูกบอลสีดำ อเฟรสกอรัสกราวิจาร์!!

                "พันธนาการจิตไร้หนทาง!!"แหวนสีดำของยูเรมเรืองแสงวาบพร้อมกับคลื่นพลังสีแดงดึงร่างของชายหนุ่มผมดำให้ถอยออกห่างจากเด็กสาวที่ยังมองร่างของชายหนุ่มอยู่ เธอปล่อยให้น้ำตาไหลออกมาจนไม่มีจะให้ไหลอีก เด็กสาวหันไปยังด้านหลังที่มีเสียงอึกกะทึกด้านหลัง ชายหนุ่มสี่คนที่ยังไม่ตายกำลังใช้ขอบเขทเวทของชายร่างสูงที่ร่ายมนต์ซ้อนเพื่อให้ข่ายมนต์แตกออก

                "รีเน่!! เธอเรียกหอกของเซเรสกับดับตะวันมาไว้ในมือเร็ว!!"

                ชายหนุ่มผมดำตะโกนเพื่อให้รีเน่ได้สติ  ดวงตาสีดำที่เริ่มแปลเปลี่ยนเป็นสีแดงสวยเหลือบมองไปยังมีดของเธอและหอกสีขาวของชายหนุ่มที่ปักอยู่ไม่ไกล

                เธอเรียกมันกลับมาสู่มือด้วยมนตราที่เธอก็ไม่รู้ว่ามันคือมนต์อะไร

                "ทำเพื่ออะไรล่ะ?"รีเน่ถามด้วยน้ำเสียงสั่นเทา

                "เธออยากช่วยเซเรสมั้ย!! ถ้าอยาก ทำตาม!! อย่าซอกแซก!!"ยูเรมตะโกนกลับพร้อมข่ายเวทที่ตนและคนอื่นๆร่ายไว้เริ่มร้าวขึ้น

                "แล้วไงต่อ?"เธอถามด้วยน้ำเสียงสั่นเทา ยูเรมและอีกสามชายหนุ่มเริ่มกระอักเลือดเนื่องจากใช้มนตราที่หนักหน่วงเกินตัวเพื่อกักร่างของคานัลเพียงชั่วครู่

                "ต่อไป เธอปลดปล่อยเวทของเธอออกมาให้หมด!! แล้วโยนหอกกับมีดขึ้นไปแบบไม่ต้องคิดเลย!!"ชายหนุ่มตอบพร้อมเพิ่มพลังในการผนึกเข้าไปอีก ไอเวทย์มหาศาลผุดออกจากหลังแปดสายพุ่งใส่ขอบเขตเวทที่เริ่มแตกออกตามความต้องการของชายหนุ่มที่อยู่ภายใน รีเน่ยกมือขึ้นแนบอกพร้อมท่องมนตราที่ใช้ปลดปล่อยเวทกักเวท

                "เซบิโต้!!!"คลื่นระเบิดแผ่ออกจากร่างกายของเด็กสาวถึงสองครั้ง ไอเวทย์และไอปิศาจเข้าปะทะกับไอปิศาจของชายที่ได้ชื่อว่าเป็นผู้ทำให้มาคาร์ไลท์เป็นประเทศแห่งความตาย มีดสีดำสวยเปล่งแสงสีขาววาบ ตรารูปพระอาทิตย์ที่บดบังด้วยพระจันทร์สูบไอเวทย์ของเด็กสาวเข้าไปอย่างไม่หยุดหย่อน และหอกขาวยาวที่ใบหอกมีตรารูปพระอาทิตย์แล้วบดบงด้วยจัทนร์เสี้ยวก็สูบพลังเวทของเด็กสาวอยู่เช่นกัน

                รีเน่โยนหอกและมีดขึ้นสูง ยูเรมโยนแหวนที่ตนใส่อยู่ประจำเข้าไปที่สองศาสตราวุทธอย่างแม่นยำ

                "รีเน่! หลับตาลง!!"ยูเรมตะโกนลั่นพร้อมกับข่ายเวทที่แตกออกทันที! หอกสีขาวหมุนควงอย่างรวดเร็วจนกลายเป็นรูปหน้าปัดนาฬิกา มีดสีดำค่อยๆยืดยาวออกเป็นเข็มสั้นและเข็มยาวของนาฬิกา แหวนสีดำสวยแตกออกเป็นชิ้นๆกลายเป็นตัวเลขโรมันติดบนหน้าปัด

                .........สรรพสิ่งหมุนย้อนกลับ.... ฝืนทุกสิ่งอย่างตามกฎมัน....      คนตายกลายคนเป็น... จันทราดับตะวัน..... หากกลับไปแก้อดีตเพียงซักนิด...... อนาคตก็จะเปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง...... ถ้าในอนาคตใครตาย..... แล้วกลับมาเปลี่ยนอดีต..... ผู้ตายจะฟื้นคืนกลับ..... .แต่ผู้ลับอาจเป็นผู้แก้..... กาลเวลา.....

                เสียงของคานัลที่กรีดร้องดั่งสัตว์ปิศาจค่อยๆเงียบลง สติของรีเน่เริ่มเลือนลางลง ภาพทุกอย่างค่อยๆมืดลง มืดลง มืดลง โดยมีหน้าปัดนาฬิกาที่ค่อยๆหยุดหมุน เข็มสั้นชี้ไประหว่างเลขหกและเจ็ด เข็มยาวหยุดชี้ที่เลขหก....

                สติเริ่มกลับมาอีกครั้งเมื่อจู่ๆลมหนาวเย็นก็พัดผ่านขาไป แรงน้ำหนักของชายคนหนึ่งทิ้งตัวลงข้างๆที่เธอกำลังนอนอยู่บนเตียง?

                ".....ถ้าแกไม่ตื่นตอนนี้...ชั้นขอนะ!!"เสียงทุ้มนุ่มดังขึ้นเบาๆที่ข้างหูพร้อมกับลมหายใจที่ละต้นคอเบาๆ เธอกระโดดขึ้นแนบชิดตู้เสื้อผ้าอย่างตกใจโดยมีชายหนุ่มกำลังนั่งหัวเราะอยู่บนเตียง

                "แกจะมาโฮโมอะไรตอนเช้าวะเซเรส!!"

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×