คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : โลกใบใหม่
"เฮ้อ. . . .ทำไมจู่ๆฝนก็ตกได้ละเนี่ย ตะกี้ยังเห็นพระอาทิตย์อยู่เลย แต่ นี่สิฟ้า . . . ."
เปรี้ยง!
เสียงฟ้าผ่าดังสนั่นไปทั่วโรงเรียน เสียงกรี๊ดดังไปทั่ว ชายหนุ่มผู้มีสีตาประหลาดไปจากคนปรกติมองออกไปยังนอกหน้าต่าง เพื่อมองห่าฝนและฟ้าผ่าที่ตกมาอย่างไม่ขาดสายจนวันนี้ถึงกับยกเลิกการเรียนการสอนไป นักเรียนส่วนมากจึงไปรวมตัวกันที่โรงอาหารเพื่อติดตามข่าวสารเกี่ยวกัวความเสียหาย แต่ก็ไม่มีเลย ผู้ประกาศข่าวจะบอกเพียงแค่ว่า 'เมื่อครู่ เกิดอากาศเเปรปรวนอย่างกระทันหันอย่างไม่ทราบสาเหตุ ทำให้ในตอนนี้ฝนตกกระหน่ำอย่างต่อเนื่อง'
ขณะเดียวกันที่บ้านสีเบจเก่าๆหลังหนึ่ง ที่มีเสียงเหล็กกระทบกันดังขึ้นตั้งแต่ฝนเริ่มตก
"ฝีมือตกลงไปเยอะเลยนะฟอลอน!! มาอยู่ที่โลกมนุษย์ตั้งนาน ปล่อยรังศีอัมหิตได้หนักหน่วงแค่นี้เองหรอ!!" สิ้นเสียง ชายหนุ่มผู้มีผมสีม่วงก็เอี้ยวตัวหลบดาบสีเงินอย่างเฉียดฉิว ชายหนุ่มผมเทาพุ่งดาบไปยังอริร้าย พร้อมกับที่กระแสไฟฟ้าหลากสีพุ่งตามไปติดๆ ชายหนุ่มผมม่วงตวัดดาบสีดำยาวของตนกลับ แล้วชักมือออกไปยังด้านหน้า คลื่นพลังสีดำก่อตัวขึ้นที่ฝ่ามือของฟอเซค เป็นเคราะห์กรรมหรือชะตาบางอย่าง ดาบสีเงินสว่างกลับหลุดมือของฟอลอนแล้วหายไปในหลุมอะไรบางอย่างอย่างไม่หน้าเชื่อ ชายหนุ่มจึงรับคลื่นพลังเข้าไปเต็มๆ ฟอลอนกระเด็นทะลุกำแพงปูนออกไปนอกตัวบ้านไปยังถนนหน้าบ้านในทันที น้ำสีแดงข้นเริ่มไหลซึมออกจากหน้าท้อง ชายหนุ่มกุมแผลที่หน้าท้องที่ราวกับถูกของมีคมกรีดเอาอย่างเจ็บปวด
เราคงใกล้ตายแล้วสินะ
"โอ้ววววววววววว!!แกก็อึดขึ้นเหมือนกันนะเนี่ย ขนาดโดนพลังธาตุของชั้น แกกลับไม่ตายเนี่ย!!" เสียงของฟอเซคดังขึ้นอีกครั้ง พร้อมกับร่างที่ผอมบางที่ก้าวออกมาจากรูที่กำแพง ชายหนุ่มผมเทายันตัวขึ้นจากพื้น
"น. . . นี่. . . .คือ . .คำ .. . . . .ขาด . . .ของข้า! เจ้าจะไม่ได้ตัวฌานไป และจะไม่ได้แตะตัวเค้าแม้แต่ปลายนิ้วก้อย!!!!" สิ้นเสียงของฟอลอน มือที่เปื้อนเลือดจากการกุมแผลที่ท้อง เลือดถูกใช้เป็นหมึกสำหรับเขียนมนตรา อากาศถูกใช้แทนกระดาษที่จะใช้หมึกเขียนมันลงไป อัขระสีแดงที่ถูกวาดขึ้นบนอากาศหายไป ฝนที่ตกอยู่ก็ยิ่งตกหนักขึ้นจนไม่เห็นภาพใกล้ๆ เสียงฟ้าผ่าที่ไกลออกไปกลับใกล้เพียงแค่ข้างๆ และต่อเนื่อง!! เกรียวสายฟ้าสีดำที่ทรงอนุภาคพุ่งทำลายชายผมสีม่วงอย่างไม่หยุดยั้ง
มนตราประจำตัวของอดีตทายาทแห่งความมืด!! เกรียวทมิฬคร่าชีวิต!!
เปรี้ยงงงงงๆๆๆๆ!!!!!!
เสียงฟ้าผ่าดังขึ้นอย่างต่อเนื่องและเสียงร้องของเด็กสาวดังระงมไปทั่ว เหลือเพียงแต่ชายหนุ่มที่ทอดมองสายฝนตั้งแต่มันเริ่มตก ห้องคณะกรรมการนักเรียนที่ปรกติที่จะมีคณะกรรมการกันอยู่เพียงคนสองคน แต่ตอนนี้กลับอยู่กันครบทุกคน! พร้อมกับมุงดูข่าวอย่างไม่สนสิ่งใด
'ขณะนี้ ฝนได้เริ่มตกมากขึ้นจนไม่สามารถมองเห็นได้ การจราจรติดขัด ขอให้ผู้ที่จะออกไปข้างนอกอย่าออกมานอกตัวบ้าน เพื่อความปลอดภัยจากฟ้าผ่า . . .'
"เฮ้ย ชั้นว่ามันทะแม่งๆแล้วนะ ฝนตกแบบไม่ลืมหูลืมตาแบบนี้ แล้วยังสายฟ้าสีดำที่ผ่าอยู่แถวๆลาดพร้าวที่ยังไม่หยุดนั่นอีก สอง แกคิดว่าไง" ชายหนุ่มร่างใหญ่หันไปถามเพื่อนของตนหลังจากฟังข่าวจากในทีวีแล้ว ชายหนุ่มอีกคนหันมาพร้อมกัยขยับแว่นกรอบดำ
"ชั้นว่ามันอาจมีสาเหตุบางอย่างของจุดหักเหของมิติ หรือไม่ก็มีใครเป็นคนเรียกมาแบบในการ์ตูน"
"แกจะบ้าหรอ ใครจะไปมีพลังพิเศษสั่งฟ้าฝนได้ล่ะ"
"แล้วในโลกนี้แกเคยเห็นสายฟ้าสีดำที่ผ่าลงมานานเป็นนาทีๆแบบนี้มั้ยล่ะ- -"สองพูดกับชายหนุ่มร่างใหญ่อย่างเบื่อหน่ายพร้อมกับหันไปดูข่าวต่อ
" เฮ้ย!ฌาน เค้าบอกว่าจุดที่สายฟ้าสีดำตกนั้นอยู่แถวๆบ้านแกว่ะ" ชายหนุ่มร่างใหญ่ตะโกนบอกชายหนุ่มที่ยืนมองสายฝนอยู่นานเท่านาน ฌานรีบหันมามองในทันทีพร้อมกับหญิงสาวที่นั่งอยู่บนโต๊ะ
"จริงหรอ!!" เสียงของชายหนุ่มและเด็กสาวดังขึ้นพร้อมกัน แต่ไม่หันมามองหน้ากันอย่างปรกติ เนื่องจากข่าวสารเมื่อครู่มันสำคัญเกินกว่าจะมาหาเรื่องกันเล่นๆได้ ชายหนุ่มร่างใหญ่และชายหนุ่มที่สวมแว่นพยักหน้าเบาๆ สิ้นการกระทำของเด้กหนุ่มทั้งสอง ฌานก็รีบวิ่งออกจากห้องทันที
ฝีเท้าที่จ้ำอ้าวอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย เสื้อผ้าที่เปียกปอนจากการวิ่งฝ่าฝนมาอย่างไม่ต้องอาบน้ำซ้ำ รู้เพียงแค่จุดหมายคือบ้านของตน!! ห่าฝนที่ตกอย่างไม่ลืมหูลืมตาไม่เป็นผลสำหรับเด็กหนุ่มที่กำลังวิ่งเข้าสู่เกรียวสายฟ้าสีดำที่ค่อยๆมีขนาดเล็กลงเรื่อยๆ!!
***********************************************************************************
" นี่หรือ ท่าประจำตัวของอดีตทายาทแห่งความมืด ฟอลอน เพอเซีย มีน้ำยาแค่นี้เอง!!" ชายหนุ่มผมม่วงพูดอย่างอวดดี ทั้งๆที่ตนกำลังกางโล่พลังกันพลังของสายฟ้าสีดำเอาไว้ ส่วนชายหนุ่มอีกคนที่ใช้เลือดวาดอัคระเวทอย่างต่อเนื่อง เลือดที่ถูกชะล้างไปกับสายฝนจึงเริ่มจางลง ความเข้มข้นของมนตราจึงเบาลง แต่ก็ยังรุนแรง แต่ทว่า เรี่ยวแรงของฟอลอนที่ตอนนี้ไม่มีแม้แต่เรี่ยวแรงที่จะใช้พูดก็ลดน้อยลง จนเกรียวสายฟ้าหยุดลง แต่ฝนก็ยังตกอย่างต่อเนื่องเช่นเดิม
"เอาล่ะ ในเมื่อเจ้าได้ใช้ท่าประจำตัวไปแล้ว งั้นข้าขอใช้บ้างล่ะ . . ."
"เดี๋ยว! วันนี้วันที่เท่าไหร่ ปีไหนแล้วเนี่ย" เสียงของชายหนุ่มผู้หนึ่งดังขึ้น พร้อมกับร่างกายที่สูงโปร่ง ผมสีเงินยาวจรดเอว ชุดคลุมสีเงิน และดวงตาสีเงิน ทำให้ชายผมม่วงต้องหยุดการกระทำลง
"ซ. . .ซิล . . .เวอร์" เสียงของฟอลอนเล็ดลอดออกจากลำคอเบาๆ ทำให้ชายร่างสูงหันไปยังต้นเสียง ซิลเวอร์มองร่างของฟอลอนอย่างตกใจพร้อมกับปรี่เข้าหาทันที
" ฟอลอน! เจ้าเป็นอะไรไป! ใครเป็นคนทำเจ้า!"ซิลเวอร์พยุงร่างชายหนุ่มขึ้นมาพร้อมกับหันไปยังผู้ร้ายที่ทำเพื่อนของเค้าจนสะบักสะบอม
"เจ้าสินะ . . ."
"ใช่ข้าเอง"
"งั้นเจ้า . . ."เสียงของซิลเวอร์หายไปพร้อมกับที่ร่างสูงโปร่งหายไป
ผั่ว!
เสียงกระแทกของสันมือที่ฟาดเข้ากับไท้ทอยของชายผู้มีผมสีม่วง พร้อมกับที่ความเร็วของชายร่างสูงเพิ่มขึ้นจนดูเหมือนกับแยกร่าง ร่างหนึ่งใช้ฝ่ามือกระแทกเข้าที่กลางหลังจนเลือดพุ่งออกจากปาก ร่างที่สองตีศอกเข้าชายโครง เสียงกร่อบแกร่บของกระดูกดังลั่น ร่างที่สามเกร็งข้อนิ้วแล้วกระแทกเข้าที่ขั้วปอด ทำให้กระดูกช่วงบนแตกระเอียด ร่างสุดท้ายกระโดดขึ้นสูงพร้อมกับพุ่งลงมาบิดคอจนกลับหัวกลับหาง ร่างของชายเมื่อครู่ล้มลงอย่างดูส่วนที่ดีไม่ได้
ชายหนุ่มผมสีเงินยาวหันหน้ากลับมายังเพื่อนของตนอย่างร้อนรน ราวกับซากศพที่อยู่ด้านหลังเค้าเป็นเพียงก้อนหินก้อนหนึ่ง ซิลเวอร์แตะร่างของฟอลลอนที่เย็นเฉียบ ร่างกายที่ไร้ซึ่งลมหายใจ ร่างกายที่ไร้ดวงวิญญาณ ร่างกายของคนที่ตายแล้วอีกคน!!
"ฟอลอนๆ! อย่าตายนะเว้ย! ถึงชั้นจะเป็นเทพแต่ก็ชุบชีวิตใครไม่ได้นะเว้ย!" ซิลเวอร์ตะโกนร้องพลางทุบพื้นข้างๆร่างของเพื่อนตนจนเลือดเริ่มซึมผ่านถุงมือสีเงินที่ประดับด้วยอัญมณีสีขาวใส ซิลเวอร์มองไปยังร่างที่ไร้วิญญาณอีกครั้ง แล้วทุบเข้าที่หน้าอกอย่างจัง ทันใดนั้น กระดาษแผ่นหนึ่งที่ถูกเขียนด้วยเลือดก็ร่วงหล่นออกมาจากกระเป๋าเสื้อที่แหว่งไป ซิลเวอร์ค่อยๆอ่านทีละตัวอักษรอย่างช้าๆ
"ช่วย . . . นำ . . . ฌาน . . . ไป . . .ยัง . . .ยู . .โท . .เปีย.........................ฌานงั้นเราะ!!" ชายหนุ่มผมสีเงินกุมขมับของตนอย่างปวดหัว แม้แต่เงาของฌาน เค้ายังไม่เคยเห็น แล้วนี่ยังต้องพาเค้าไปยังยูโทเปียอีก เวรกำ! เอาเหอะ ต้องจัดงานศพให้สมกับอดีตทายาทแห่งเพอเซียซะก่อน
ชายหนุ่มคิดแต่ก็ยังปวดหัวไม่เลิก เค้าดึงเส้นผมสีเงินของเค้าออกมากระจุกนึงแล้วโปรยลงบนศพของฟอลอนแล้วพึมพำเบาๆอย่างรวดเร็ว สายฝนที่ตกกระหน่ำค่อยๆหยุดลง ชุดของชายหนุ่มผมเทาจากชุดชาวบ้านธรรมดา บัดนี้กลายเป็นชุดคลุมสีขาวเสื้อแขนยาวสีขาวและกางเกงสีขาว ชายหนุ่มผมยาวพึมพำอีกครั้ง ร่างของชายหนุ่มผมเทาค่อยๆปลิวหายไปทีละน้อยๆจนไม่เหลือแม้แต่ฝุ่น!!
"เอาล่ะ เสร็จไปหนึ่งงาน งานต่อไป . . .เจอแล้วมั้ง- -?" ซิลเวอร์มองไปยังถนนด้านตรงข้ามกับเค้า ที่ตอนนี้มีเด็กหนุ่มตัวเปียกปอนยืนอยู่ ตาสีเขียวที่เหมือนกับผู้เป็นพ่อมองหาตัวของพ่ออย่างไม่ลดละ ชั่วพริบตานั้น ร่างของฌานเหมือนตกเข้าไปอยู่ในห้องหลุมดำของเจ้าแห่งมนตรา ซิลเวอร์
ตุบ! โอ๊ย! ก้นที่ไม่ค่อยมีเนื้อหนังกระทบเข้ากับก้อนหินเข้าอย่างจัง เด็กหนุ่มลูบก้นตัวเองเบาๆพลางมองไปรอบๆตัว ก็พบว่า เค้าอยู่ภายใน ถ้ำ!
"เฮ้ย! นี่ชั้นอยู่ที่ไหนเนี่ย" ฌานพูดกับตัวเองอย่างตกใจ ซิลเวอร์มองอาการของฌานอย่างขบขัน ก่อนตีมาดขรึม
[เจ้าอยู่ในยูโทเปีย ฌาน]
"เจ้าเป็นใคร แล้วข้ามาอยู่ในที่นี้ได้อย่างไร" ฌานตอบกลับพลางมองหาต้นเสียงที่ดังกึกก้องเช่นนี้
[ข้าคือ ซิลเวอร์ เจ้าแห่งมนตรา หรือเรียกง่ายๆว่าซิล ที่ข้าได้นำพาตัวเจ้ามาที่แห่งนี้ก็เพราะตอนนี้คานัลกำลังต้องการตัวเจ้าเพื่อไปเพิ่มพลัง]
"โอเค ซิล คานัลคือใครแล้วชั้นควรทำอะไรต่อ"
[อีกไม่นานเดี๋ยวเจ้าก็รู้เอง ตอนนี้ให้เจ้าหาทางเข้าเมืองซะ ถึงแล้วก็บอกด้วยล่ะ]
"เฮ้ย! แล้วชั้นจะไปที่ไหนก่อนล่ะซิล เฮ้ยตอบด้วย"
[ . . . . ~ไม่มีสัญญาณจากหมายเลขที่ท่านเรียกค่ะ~ . . . .]
"ซิล ไม่ต้องมาทำเสียงเป็นผู้หญิง มันไม่เนียน ตกลงว่าชั้นควรทำอะไรต่อ"
[อ้าว~ รู้ด้วยหรอ อุส่าห์ดัดซะแหลมเชียว หูดีจริงๆ]
"อย่านอกเรื่อง ตอบชั้นมาก่อน"
[อืม . . . อย่างแรก แกควรหาทางเข้าเมือง ซื้ออาวุมาไว้ป้องกันตัว เข้าใจ๋ แล้วถ้าถึงเมืองข้าจะติดต่อมาใหม่ บายฌานโชคดีว่ะ อย่าตายซะก่อนนะเว้ย เสียชื่อที่เป็นลูกของฟอลอนหมด-0-] สิ้นเสียง พี่แกก็ไม่ตอบกลับมาอีกเลย
"เฮ้ย! ซิล โหลๆเทส 1 2 3 โหลๆ!"
เงียบ . . .
"ห้วย! อะไรกันวะเนี่ย แล้วจะเข้าเมืองถูกหรอวะ!~" เด็กหนุ่มบ่นพึมพำกับตนอย่างหัวเสีย
"เฮ้! เจ้าหนุ่มตรงนั้นน่ะ! ทำอะไรอยู่ เห็นยืนพูดคนเดียวมานานแล้วนะ!" เสียงของชายวัยชราผู้หนึ่งดังขึ้น ทำเอาเด็กหนุ่มที่ยืนบ่นกับตัวเองสะดุ้งถอยหลังไปสามก้าว ชายหนุ่มมองไปยังต้นเสียงแล้วสำรวจรูปร่างของชายแปลกหน้าคนนั้น เรือนผมสีดำสนิทยาวเลยบ่า อายุประมาณ30ต้นๆนัยน์ตาสีเขียว ร่างสูงโปร่งคล้ายๆกับเค้า ผ้าคลุมสีดำแถบทองยาวเลยเข่า และแหวนสีดำสนิทที่ขัดกับผิวขาวซีด
"อ่อ ข้าชื่อคานัล แล้วเจ้าล่ะ?"
คานัล!! . . . เคยได้ยินจากไหนมาวะ ลืม- -"
"ผมชื่อฌาน" ชายหนุ่มแนะนำตัวกับคนแปลกหน้าเสร็จ ความทรงจำในสมองก็แล่นออกมาอย่างไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ย
'คานัลกำลังต้องการตัวเจ้า'
คำพูดของซิลดังก้องอยู่ในหัว ชายหนุ่มก้มหน้าคิดอย่างสงสัย ยังไงก็คงไม่น่าจะใช่คนนี้หรอกน่า
"นี่เจ้าหนุ่ม" ชายร่างสูงเรียกเด็กหนุ่ม แต่เด็กหนุ่มก็ยังก้มหน้าคิดอยู่
"ฌาน!!" คราวนี้ชายร่างสูงตะโกนอย่างสุดเสียง ทำให้ภายในถ้ำสั่นเบาๆ
"ครับๆ มีอะไรครับ!!"ชายหนุ่มตอบกลับอย่างรวดเร็ว
"เจ้าเป็นคนที่ไหน ทำไมมาอยู่ในถ้ำเช่นนี้"ชายร่างสูงเอ่ยขึ้น หน้าของเด็กหนุ่มที่จู่ๆก็ถูกพามายังโลกใบใหม่เริ่มเหงื่อตก ทันใดนั้น ความคิดของเด็กหนุ่มก็แล่นปรู๊ดจากสมองออกสู่ปาก!!
"ผมความจำเสื่อมครับ . . . ผมจำได้เพียงชื่อของผม ผมมาอยู่ที่นี่ได้ไงผมก็ไม่ทราบ" ฌานพูดพร้อมกับตีหน้าเศร้า
"ความจำเสื่อมงั้นรึ เหอะๆ"ชายร่างสูงพูดออกมาเบาๆแล้วตบไหล่ของเด็กหนุ่มตรงหน้าก่อนที่จะพูดขึ้นว่า"มาอยู่กับข้ามั้ย เดี๋ยวข้าจะดูแลเจ้าเอง ฌาน" ก่อนที่เด็กหนุ่มจะหันไปตอบนั้น ก็มีเสียงหนึ่งดังขึ้น
แก๊ช! แก๊ช!
เด็กหนุ่มและชายร่างสูงหันไปยังต้นเสียงเมื่อได้ยิน แต่ไม่ทันจะได้เห็น ร่างของสัตว์ประหลาดชนิดหนึ่งก็วิ่งเข้ามาด้วยความเร็วสูง หมายจัปริตชีพของเด็กหนุ่มที่ชื่อว่า ฌาน!! นัยน์ตาของสัตว์ประหลาดสีแดงก่ำ เล็บที่ยาวประมาณครึ่งฟุตที่ดูเหมือนเพิ่งถูกย้อมด้วยเลือดมาหมาดๆยังไงยังงั้น!
เวรแล้ว!! เด็กหนุ่มอุทานในใจก่อนจะกระโดดหนีหลับไปทางอื่น เคราะห์ซ้ำกรรมซ้อน รองเท้าเจ้ากรรมดันไปติดกับอะไรซักอย่างจนไม่สามารถกระโดดได้ตามใจสั่งได้!!
ฉั่ว! . . . .กี๊ช! . . . .
เสียงของสัตว์ประหลาดกระหายเลือดดังขึ้น พร้อมกับล้มลงช้าๆที่เท้าของเด็กหนุ่ม
"เฮ้อ . . . เกือบเสียของล้ำค่าซะแล้วสิ" ชายร่างสูงเอ่ยขึ้นมาเบาๆ ฌานเพ่งมองที่มือขวาของชายร่างสูงที่เปื้อนเลือดของสัตว์ดังกล่าว
"มือของข้ามันมีอะไรหรือ" เสียงของชายร่างสูงถามฌานอย่างสงสัย
"ผมแค่สงสัย"เด็กหนุ่มพูดขึ้น
"เจ้าสงสัยเรื่องอะไร"ชายร่างสูงพูดต่อ
"ผมสงสัยว่า . . . ท่านฆ่าสัตว์ตัวนั้นอย่างไร ทำไมถึงตายในทันที"ฌานพูดด้วยสีหน้ากระตือรือร้น อยากรู้อยากเห็น
"ข้าก็แค่ใช้มือเสียบเข้าไปที่หัวใจแล้วก็บีบให้เละจากภายในก็เท่านั้นแหละ ไม่มีอะไรมากหรอกสัตว์ประเภทนี้จะมีจุดอ่อนอยู่ที่หัวใจ จำไว้แค่ว่าทำลายหัวใจก็พอ"
"ที่อื่นไม่ได้หรอครับ"เด็กหนุ่มถามอย่างสงสัย ชายร่างสูงยิ้มแล้วส่ายหน้าอย่างหน่ายใจ
"มันก็แล้วแต่สายพันธุ์ข้าไม่ได้หมายถึงต้องทำลายทุกตัวซักหน่อย^0^" ชายร่างสูงกล่าวขึ้นก่อนที่จะทวนคำถามเดิม
"เจ้าจะไปกับข้าไหม?" เด็กหนุ่มลังเล หัวสมองคิดอะไรได้บางอย่างจึงตอบกลับอย่างมั่นใจ
"ไม่ไปครับ"
**********************************************************************************
"ไงพี่เค็น . . . ทำอะไรอยู่ล่ะน่ะ" เด็กหนุ่มร่างสูงโปร่ง อายุราวๆ14ปีผมสีทองและตาสีน้ำเงิน เดินออกมาจากตัวบ้านแล้วถามผู้เป็นพี่ที่นอนอ่านหนังสืออยู่ใต้ต้นไม้
"ก็รอแกไง คีน"ชายหนุ่มร่างเล็กตอบกลับ พร้อมกับเสยผมสีน้ำตาลแกมแดงที่ยาวประบ่า ชายหนุ่มลดหนังสือลงเพื่อจะใช้นัยน์ตาสีน้ำเงินมองไปยังน้องฝาแฝดที่แตกต่างของตนที่สูงกว่าลิบลิ้ว
"อ้าว รอผมงั้นหรอ มีเรื่องอะไรล่ะ"แฝดน้องพูดขึ้นแล้วก็เอามือไปปิดปากที่กำลังหาวอยู่
"เจอหน้าข้าทำหาวเลยนะเอ็ง- -* มีอะไรสนุกๆให้ทำเว้ย!" แฝดพี่พูดขึ้นพร้อมกับชูมีดสั้นสีดำสนิทของตนให้น้องดู แฝดน้องมองมีดอย่างสงสัยแล้วถามกลับไปว่า
"เอามีดไปทำอะไรล่ะพี่เค็น"
"ล่าสัตว์"แฝดผู้พี่พูดสั้นๆได้ใจความพร้อมกับจ้องมายังแฝดผู้น้องด้วยสีหน้าเอาเรื่อง
"ก็ได้ๆ . . .กำลังเซ็งๆอยู่พอดี เดี๋ยวผมเข้าไปหยิบกระบี่ของผมก่อน รอแป๊บนึง"
"เร็วๆนะเว้ย" พูดเสร็จ คีนก็เดินเข้าไปในตัวบ้าน ผู้รอเลยเปิดหนังสืออ่านต่อ แต่ไม่ทันจะได้เปิด แฝดผู้น้องก็เดินออกมาทันที
"มาแล้วๆ" ผู้เป็นน้องพูดขึ้นพร้อมกับยื่นกระบี่ให้ผู้เป็นพี่ดู กระบี่? ที่มีคมดาบเป็นสีเงินสว่าง? ด้ามจับสีดำ? และอัญมณีสีเหลืองที่ประดับอยู่ที่ด้ามจับสามเม็ด?
"เจ๋งนี่หว่า กระบี่สุดยอดเลย ได้มาจากไหนเนี่ย"
"ผมเจอที่ป่าหลังบ้านอ่ะ เห็นไม่มีใครซักคนเลยหยิบมาซะเลย555+"
"555+ ดีมาก แกทำได้ดีมากเลยน้องพี่" เค็นพูดแล้วก็ฉีกยิ้มให้น้อง
"ขอบใจที่ชมผม555+"คีนพูดพร้อมยืดอกด้วยความภูมิใจ
"ประชดเฟ้ย!" ว่าแล้วผู้เป็นพี่ก็ประทานกำปั้นเข้าที่กลางหัวของผู้เป็นน้อง
"เจ็บนะ"คีนครางออกมาเบาๆพลางลูบหัวตัวเองป้อยๆ เค็นลุกขึ้นจากพื้นพร้อมกับเดินนำหน้าไป แล้วส่งสายตามายังผู้เป็นน้องให้รีบตามมา
เดินเข้าป่าไปได้ซักพัก สายตาที่อยู่ไม่สุกของคีนเหลือบมองนกที่กำลังบินอยู่บนท้องฟ้า ตัวใหญ่ซะด้วย*-*
"พี่เค็น ทำนกย่างกินกินเหอะ"คีนพูดขึ้นพร้อมกับชักกระบี่?สีเงินสว่างออกมา
"แล้วแต่ . . .ข้าไม่ชอบนกย่าง อยากได้ปลาเก๋าสามรสมากกว่า*-*"ผู้เป็นพี่พูดติดตลกแล้วหัวเราะออกมาเบาๆพร้อมกับนั่งลงอ่านหนังสือใต้เงาต้นไม้ในยามเย็น
"งั้น รอแปปนึงนะพี่เค็น" ว่าแล้วเจ้าตัวก็กระโดดไปตามต้นไม้แล้วปากระบี่สีเงินสว่างเข้าใส่ตัวนกทันที!
เคร้ง! วิ๊ว . . . .ฉึก! กระบี่ที่พุ่งหมายคร่าชีวิตรนกยักษ์นั้นกลับพลาดไป กระบี่จึงร่วงหล่นลงปักพื้น เจ้าของกระบี่?จึงลงไปเก็บกระบี่ขึ้นมาใหม่แล้วคิดอย่างสงสัย
"เอ๊ะ! . . . เราว่ามันก็ถูกตัวนกนี่หว่า แล้วทำไมมันไม่เป็นอะไรเลยล่ะ?"
"แกไม่ได้ยินหรอ . . .มันเหมือนเสียงโลหะกระทบกัน" เค็นเอ่ยขึ้นพร้อมกับปิดหนังสือ
"เอ . . . ตะกี้ชั้นตาฝาดไปนิดหน่อยอ่ะ . . . เห็นมีแสงสีดำๆกางอยู่รอบตัวนกนั่นอ่ะ" คีนว่าพร้อมกับหัวเราะแห้งๆ เมื่อตอนนี้นกตัวดังกล่าวกางเกราะสีดำออกมารอบตัวจริงๆ
"แกตาไม่ฝาดหรอก นกนั่นคือนกโฮรุส ส่วนมากพวกในราชวงศ์จะเลี้ยงไว้โดยเฉพาะราชวงศ์ทางตะวันออก" เค็นบอกกับผู้เป็นน้องแล้วลุกขึ้น พร้อมดึงมีดที่เหน็บไว้ที่ต้นขาออกมา
"อย่างงี้ต้องลองของ" สิ้นเสียงของเด็กหนุ่ม อาวุธคู่ใจนับสิบก็พุ่งออกไปใส่นกโฮรุส แต่นกยักษ์ตัวนั้นหลบทันพร้อมกับพุ่งเข้าหาพี่น้องทั้งสอง
"อีแบบนี้ ข้าว่าเหยื่อตอนนี้อาจจะเป็นพวกเราแทนแล้วว่ะ" เค็นว่าพร้อมกับหันไปหาผู้เป็นน้อง
"แล้วจะทำยังต่อดีล่ะพี่!!" ผู้เป็นน้องถามอย่างร้อนรน
"ใช้ท่าประจำตระกูล ราบอเรียส! ท่าสุดท้ายอ่ะ!"
"อ๋อๆ! นับ3แล้วใช้พร้อมกันนะ" คีนพูดขึ้นอย่างรวดเร็ว เมื่อเห็นนกยักษ์โฮรุสพุ่งเข้ามาใกล้ขึ้นเรื่อยๆ!!
" . . .3! ! !"
******************************************************************
"เจ้าว่าอะไรนะ!!?" ชายร่างสูงถามอย่างตกใจ ชายหนุ่มผู้มีดวงตาสีเขียวพยักหน้าแล้วตอบกลับอย่างมั่นใจ
"ครับ ผมก็ไม่ไปกับคุณครับ คานัล!" ชายหนุ่มจ้องหน้าชายร่างสูงอย่างมั่นใจเต็มเปี่ยม แต่ภายในนั้นกลับสับสนไปหมด ชายร่างสูงมองมายังเด็กหนุ่มอย่างหัวเสีย สายตาที่หนักแน่น ท่าทางที่มั่นคง ทำให้เค้าต้องถอนหายใจ
"เจ้านี่เหมือนกับซิลไม่มีผิดเลยจริงๆ ถอดแบบพิมเดียวออกมาเลย รูปร่างของเจ้าก็คล้ายๆลูกของข้า แต่เจ้ายังเยาว์วัยนัก"
เอ๊ะ! ซิลหรอ ใช่ซิลเวอร์หรือเปล่าหว่า
"เจ้าไม่จำเป็นต้องรู้หรอกฌาน ไหนๆเราก็คงไม่ได้เจอกันแล้ว กฏของการอยู่ที่นี่มีอยู่สามอย่างนะ(ไวท์บอร์ดโผล่ออกมาจากไหนก็ไม่รู้ แล้วคานัลก็เขียนให้ฌานดู)
1.อยู่รอดด้วยการต่อสู้
2.พลัง
3.การเชื่อใจ
แล้ตอนนี้ชั้นต้องการให้เจ้าทำลายถ้ำนี้ซะ! ออกจากถ้ำ เพื่อความอยู่รอดของเจ้า" คานัลพูดพร้อมกับยืนกอดอก น้ำเสียงของคานัลออกแววโมโหฌานอยู่อย่างเห็นได้ชัด
"แต่ผมไม่มีอาวุธอะไรซักอย่างที่จะทำลายถ้ำนี้ได้นะคานัล" ฌานพูดกำคานัลอย่างล้อเลียน คานัลขยับมือเบาๆ อาวุธจำนวนหนึ่งก็โผล่ขึ้นมา
"เจ้าจะใช้อะไร"สายตาเย็นเฉียบของชายร่างสูงขู่ให้เด็กหนุ่มต้องเลือกอย่างรวดเร็ว เด็กหนุ่มทำท่าคิดอยู่นานแล้วตอบกลับมาว่า
" ดาบ ผมขอดาบ"
"เอ้า เอาไป"ชายร่างสูงส่งดาบเล่มโตมาให้ฌานพร้อมส่งยิ้มเล็กน้อย ฌานรับมาแล้วต้องปักมันลงกับพื้น มันจะหนักเกินไปแล้ว!
"เอาล่ะ เจ้าจงทำลายถ้ำออกไปให้ได้ล่ะ แล้วเราจะพบกันอีกแน่ ฌาน เพอเซีย" สิ้นเสียง ร่างสูงโปร่งของชายร่างสูงก็หายไปในทันที ฌานหันไปยังตำแหน่งที่ชายร่างสูงเมื่อครู่ยืนอยู่อย่างตกใจเมื่อพบกับความว่างเปล่า
แล้วเราจะทำไงต่อดีวะเนี่ย
******************************************************************
"พี่เค็น! มันยังตามมาอยู่เลย! ทำยังไงดีล่ะ!" เด็กหนุ่มผู้มีนัยน์ตาสีน้ำเงินครามถามผู้เป็นพี่ที่วิ่งนำอยู่ข้างหน้า
"ฆ่ามันซะ!" เค็นตะโกนลั่น ทันใดนั้น ดวงตาจากเดิมที่สีน้ำเงิน แปรเปลี่ยนเป็นสีทองสุกสกาว จากเรือนผมสีน้ำตาลแดง ก็กลายเป็นสีเขียวสว่าง มือหนาดึงมีดพกสีดำขึ้นมาพร้อมกับที่วงแหวนเวทนับสิบโผล่ขึ้นรอบตัว
"ข้าขออัญเชิญหมู่มวลพฤกษา โปรดประทานรากใบเถา
เพื่อกำหราบอริร้ายข้า . . . . . . . .
พันธณาการหนามรากไม้!!
ความคิดเห็น