คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #10 : เปลี่ยนแปลงกำหนด
แสงแดดยามบ่อยอ่อนๆสาดส่องผ่านหมู่ใบไม้ลงมายังโต๊ะหินในสวนแห่งหนึ่ง ที่มีเหล่าหนุ่มสาวนั่งอยู่กันเกือบๆสิบคน เด็กสาวคนหนึ่งนั่งเท้าคางอย่างเบื่อหน่าย ผิดกับคนตรงข้ามที่ยืนเท้าโต๊ะอย่างร้อนจิตร้อนใจ
“รีเน่ รู้ใช้มั้ยว่าชั้นจะพูดเรื่องอะไร”
“แกยังไม่ได้พูด แล้วจะไปรู้หรอ ทาทะลัส”เด็กสาวย้อนอย่างกวนอวัยวะเบื้องล่าง ความอดทนของเด็กหนุ่มขาดผึง ขวานเล่มโตที่ไม่รู้โผล่มาจากไหนเตรียมง้างใส่เด็กสาว และชายหนุ่มผมแดงก็เข้าตะครุบในทันที
ไหนว่ามีแค่ยัยอัมบรากับทาทะลัส แล้วไอ้โนวาร์ วิโอล่า โทบิก็มา แถมรุ่นพี่ซิลเวอร์ก็มากับเขาด้วย แล้วนี่มันเรื่องอะไรกันเนี่ย!
“ฮาเวอรี่ ตั้งใจฟังเรื่องแรกก่อน มันเกี่ยวกับนายตรงๆเลย” ซิลเวอร์พูดเตือนเธอราวกับอ่านใจ รีเน่พยายามมองสีหน้าของชายหนุ่ม แต่ก็ไม่สามารถ ผมสีเงินสว่างยาวปิดหน้าปิดตาไว้จนไม่สามารถเห็นได้
“ก่อนอื่น เรื่องปีกนกสีดำที่กลางหลังของนาย . . .” ทาทะลัสหลุบเสียงลง พร้อมกับวงสนทนาดูทะมึนลงอย่างเห็นได้ชัด
แต่หน้าของเด็กสาวที่ชื่อรี่เน่นี่สิ! งงเป็นไก่ตาแตกไปแล้ว!
“นายจะอธิบายเกี่ยวกับมันได้รึเปล่ารีเน่?”ชายหนุ่มผมดำถามสตรีร่างบางด้วยสีหน้าเคร่งเครียด หน้าของเธอก็ยิ่งเหรอหรามากกว่าเดิม . . .
~[ชั้นอธิบายเองดีกว่าไหม?]~
เสียงแหบต่ำดังขึ้นอย่างแผ่วเบา เด็กหนุ่มตัวเล็กเริ่มหันมองต้นเสียง เด็กหนุ่มร่างใหญ่ยังมองหน้าเด็กสาวอย่างไม่วางตา เจ้าของเรือนผมแดงชายตามองไปยังบุรุษใต้ต้นไม้ บุรุษผมทองที่หลับไปพร้อมกับความเหนื่อยล้าที่สะสมมาตั้งแต่เมื่อคืน
~[ข้าอยู่นี่ พวกเจ้ามองไปไหนกัน!!]~
เสียงแหบต่ำดังขึ้นอีกครั้ง แต่บัดนี้ยิ่งชัดหว่าเดิม และมันก็ทำให้เด็กสาวผมทองและเด็กสาวผมม่วงชี้มายังที่เดียวกัน!
“เสียงมาจากกำไลข้อมือของรีเน่!” เด็กสาวทั้งสองเอ่ยเป็นเสียงเดียวกัน ทำให้บุรุษรอบโต๊ะหันมามอง แล้วเด็กสาวก็ค่อยๆยกข้อมือข้างขวาของตนขึ้นมาจากเก้าอี้ที่เธอเท้าแขนอยู่ กำไลสีดำวาวที่ขัดกับผิวสีขาวอมชมพู รอบๆถูกแกะสลักเป็นลายลวดไม้อย่างสวยงาม แต่เท่าที่เธอจำได้นั้น เธอไม่เคยใส่กำไลสวยๆแบบนี้!
แดดยามบ่ายเริ่มคล้อยต่ำลงจนเงาของตึกหอพักแทบจะบดบังสวนหย่อมไว้หมด
“เอาล่ะ เรื่องย่อยจบไปแล้ว . . . ต่อไปก็เรื่องหลักนะ จากที่ชั้นฟังเธอพูดแล้ว ถ้ารีเน่เกิดไปโมโหใครขึ้นมา มันก็จะไม่ต่างกันปรมาณูเคลื่อนที่อะไรประมาณนั้นป่ะ”ชายหนุ่มผมแดงเอ่ยถามอย่างขบขัน แต่ก็พ่วงด้วยคำด่าที่ทำให้คนโดนว่าเบือนหน้าหนี
~[เป็นอย่างที่ท่านว่าแล้วท่านฟาร์ ถ้าเกิดรีเน่เกิดโมโหใครขึ้นมาซักนิด ก็หาคนหยุดได้ยากยิ่ง]~
“เอาล่ะ แล้วเราจะควบคุมพลังของฮาเวอรี่ได้ยังไงเจ้ากำไล”ชายหนุ่มผมเงินที่เงียบมานานเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงเคร่งเครียด
~[มันก็สุดแล้วแต่สถานการณ์นะซิลเวอร์ คนที่น่าจะหยุดรีเน่ได้ที่ชั้นมองๆไว้ก็จะมี เจ้า เซเรส ฟาร์ โนวาร์เท่านั้นแหละ]~
เสียงของคนรอบๆเงียบลงอย่างโล่งใจ แต่จู่ๆเจ้าของกำไลก็โผล่งขึ้นมา
“นี่ เดียโบส จากที่ชั้นฟังมันมีแต่ผู้ชายนี่ นี่แกจะมาหาเนื้อคู่ให้ชั้นหรือไง!”สิ้นเสียงของเด็กสาว ทาทะลัสที่ปกติจะเงียบแล้วก็โมโหง่าย บัดนี้กลับลงไปนั่งหัวเราะอยู่กับเด็กหนุ่มผมแดงสวยอย่างเมามัน ส่วนชายหนุ่มผมทองก็ยังหลับไม่ตื่น โนวาร์แอบยิ้มเล็กน้อย และอีกสองสาวนั้นกลับมองรีเน่อย่างตะลึง
“อ้าว หรือไม่จริง ก็คิดดูสิ มีรุ่นพี่ซิลเวอร์ ไอ้โฮโม ไอ้บ้าเอาแต่ยิ้ม แล้วก็ไอ้บ้าอีกคน” รีเน่กระแทกเสียงอย่างเบื่อหน่าย แต่เมื่อเด็กสาวทั้งสองฟังก็พยักหน้าตามอย่างเห็นด้วย
“โอเค ทีนี้เราก็รู้คนที่จะหยุดรีเน่ได้แล้ว ต่อไป เรื่องงานเต้นรำ . . . ฮาเวอรี่ก็เป็นผู้หญิงแล้ว คงไม่มีปัญหาอะไร ชุดผู้หญิงก็ไปเอาที่ท่านฟินาเร่ เอ่อ..หัวหน้าหอเอาแล้วกัน”ซิลเวอร์เอ่ยเสียงเรียบ ทำให้เด็กสาวผมสีน้ำตาลยาวสะดุ้งเฮือก ก่อนจะพูดย้อนกลับไป
“รุ่นพี่ครับ! ทำไมผมต้องแต่งเป็นผู้หญิงด้วยล่ะ!รุ่นพี่ก็แก้กำหนดการก็ได้หนิ! . . .”
“นี่คือความผิดพลาดของในที่ประชุม! เธอต้องรับผิดชอบ!”
“ง่ะ . . .!” รีเน่เริ่มยิ้มฝืดๆออกมาอย่างเถียงไม่ออก สิ่งที่เค้ารู้สึกได้หลังจากที่หนุ่มผมเงินพูดจบ เสียงจิ้งหรีดเรไรเงียบลงสะงัด ไม่มีแม้แต่เสียงนกร้อง มีเพียงเสียงลมที่พัดผ่าน รังสีอัมหิตของชายหนุ่มผมเงินแผ่รัศมีกว้างไปทั่วสวนหย่อม ทุกคนต่างเงียบสงัด แม้แต่เดียโบส จนกระทั่งเสียงหนึ่งดังขึ้น . . .
“รีเน่อ่ะ . . .งืมๆ . . .อยู่นิ่งๆเด๊!”จู่ๆรังสีที่แผ่มาจากหนุ่มรุ่นพี่ก็หายไปทันที พลันหน้าของเด็กสาวที่ถูกเอ่ยถึงกลับแดงแป๊ดทันที เพื่อนร่วมห้องของเค้านั้นกำลังฝันเรื่องอะไรอยู่ แต่ที่รู้ๆ เป็นเรื่องของเค้าแน่นอน
“โอ๊ย! . . .ไอ้รีเน่ . . .เบาๆหน่อย . . .”เสียงละเมอของเพื่อนร่วมห้องของเธอชักไม่สู้ดีเสียแล้ว เมื่อสายตาของคนที่อยู่รอบๆกลับจ้องมาที่เธอเป็นจุดเดียวกัน(ถ้ากำไลมันมีตาก็คงมองมาเหมือนกัน) รีเน่รีบลุกไปยังต้นไม้ที่บุรุษผมทองคนนั้นนอนอยู่ แต่มือหนาของชายคนหนึ่งกลับรั้งเค้าไว้พร้อมกับดึงมาชิดแผ่นอกที่ราบเรียบ
“โนวาร์! ปล่อยชั้นนะ!”เด็กสาวร้องลั่นแล้วดิ้นอย่างรุ่นแรง
“ไม่ ชั้นอยากรู้ว่ามันฝันอะไร”ไม่ว่าเปล่า ลำแขนแกร่งก็ยิ่งรัดเธอเข้าไปอีก รีเน่หันไปยังเด็กสาวอีกสองคนที่น่าจะช่วยเธอได้ แต่ เหลือแค่คนเดียว แถมตาสีทองของสาวผมม่วงนั้นกลับส่องประกายแวววับอย่างอยากรู้อยากเห็น รีเน่ชายตาสีดำของตนไปยังหนุ่มน้อยที่ขนาดพอๆกับเค้า โทบิส่ายหน้าอย่างรุนแรง และฟาร์ที่ยืนอยู่ข้างหลังก็ส่ายหน้าอย่างขบขัน ชายหนุ่มผู้มีตาสีฟ้าเอี้ยวคอมาใกล้ๆหูของเด็กสาวก่อนจะกระซิบอย่างแผ่วเบา
“นายเร่าร้อนเหมือนกันนะ”พลัน ใบหน้าหวานก็ขึ้นสีชมพูระเรื่อ
“ไอ้เซเรส แกเลิกฝันเดี๋ยวนี้!!”
ชายหนุ่มเกาหัวอย่างงุนงงเมื่อเสียงหวานใสตะโกนลั่น เจ้าของเรือนผมสีทองค่อยๆลุกขึ้นจากร่มไม้ ดวงตาสีเขียวมองมายังเด็กสาวและชายหนุ่มคู่หนึ่งที่ยืนกอดกันอย่างไม่อายใคร(ความจริงคือโนวาร์โอบเอวรีเน่ไว้เฉยๆ แต่คนตอนตื่นใหม่ๆความคิดกับภาพจะไม่ค่อยตรงกันซักเท่าไหร่) และเด็กสาวอีกหนึ่งคนที่อยู่ไม่ห่างหันมากระซิบกระซาบกับชายที่เหลือกัน
“เฮ้ย! แย่แล้ว เกิดศึกชิงนางว่ะ”อัมบราเอ่ยอย่างขบขันแต่ก็ปนด้วยเสียงเครียด
“มันคงฉุนน่าดูเลยนะเนี่ย ที่เห็นไอ้โนวาร์มันกอดแบบเนี๊ย” ชายหนุ่มผมแดงเอ่ยอย่างตลก
“ฉุนไม่ฉุน แต่งานนี้ มันส์พ่ะย่ะค่ะ!”
“แต่ผมว่ามันอาจจะเลวร้ายกว่านั้นนะครับ ดูสิ!”โทบิแย้งขึ้นพร้อมกับชี้ไปยังที่เกิดเหตุ
“ . . . .เอาเวลาไปหาคู่เต้นของแกดีกว่าไอ้โนวาร์!”ชายหนุ่มผมทองตะโกนพร้อมกับปัดเด็กสาวเพื่อนตนไปไว้ด้านหลัง
“โธ่ ไม่เห็นจะต้องขี้เหนียวกันเลยนี่นา อย่าทำตัวเป็นเจ้าของหน่อยเลย คุณเจ้าชายแห่งเมืองนักบุญ”
ชั้นเป็นสิ่งของหรือไงฟะ!
“อย่ามาล้อเลียนชั้น! โนวาร์!”
“อะไรกัน . . จากที่ชั้นรู้ นายต้องเป็นคู่เต้นกับรีเน่สินะ . . .” กล่าวจบ ร่างของชายหนุ่มตรงหน้าหายไป พร้อมกับที่ชายหนุ่มผมทองสัมผัสได้ถึงคนข้างหลังที่หายไป เค้ารีบหันหลังกลับ
เด็กหนุ่มนามโนวาร์กำลังโอบเอวบางของเด็กสาวเจ้าของกำไลสีดำไว้แน่น ความโทสะของชายหนุ่มกลับเพิ่มขึ้นจนถึงขีดสุด หอกสีขาวที่แกะสลักด้วยอักษรรูนโบราณปรากฏขึ้น ปลายหอกที่ถูกตีด้วยไข่มุกแสงจันทร์และแร่คริสตัลส่องประกายระยิบระยับ เซเรสพุ่งปลายหอกใส่ชายหนุ่มอีกคนอย่างรวดเร็ว
“เยี่ยม! นี่แหละสิ่งที่ต้องการ!” ชายหนุ่มผลักร่างของเด็กสาวออกพร้อมหยิบมีดสั้นที่เหน็บอยู่ที่เอวของเด็กสาวออกมาห้าเล่ม มีดเล่มแรกถูกปาไปยังหอกเพื่อจะเบนวิถีของมัน เซเรสปักหอกประกายแสงหิมะลงพื้น
ต้นหญ้ากลับกลายเป็นน้ำแข็งอย่างรวดเร็ว ต้นหญ้าที่กลายเป็นน้ำแข็งพุ่งหวังสร้างบาดแผลให้แก่คู่ต่อสู้ โนวาร์กระโดดขึ้นสูงพร้อมกับสะบัดมีดไปยังกลางหน้าผากชายหนุ่มผมทอง หอกที่ปักลึกลงที่พื้นกลับดึงไม่ออกชายหนุ่มเบิกตากว้างมองมีดสั้นสองเล่มที่กำลังจะพุ่งเข้าสู่ดวงตาของตน!
เซเรสแบมือขวาที่พยายามดึงหอกอยู่พร้อมถอยหลังครูด มีดสองเล่มปักลงกับพื้นน้ำแข็งพร้อมกับแตกออกเป็นเศษแก้ว โนวาร์ยกมือขวาของตนขึ้นพร้อมจับข้อมือไว้แน่น รอยแผลเป็นค่อยๆเปล่งแสงสีเขียวสว่าง
“ดำเนินพันธะแห่งสายเลือด ก่อเกิดซึ่งมนตรา กว้างขวางดั่งนภา กวาดราบพนาสูร
.”ชายหนุ่มเจ้าของแผลเป็นท่องมนตราอย่างใจเย็น แผลเป็นที่มือขวาเริ่มมีน้ำสีแดงข้นไหลออกมา ด้านหลังของเจ้าของแผลเป็นฉายเงาดำหนึ่งๆที่ดูน่าหวาดกลัวอย่างประหลาด ดวงตาสีเขียวมรกตเบิกกว้างพร้อมเรียกหอกของตนกลับสู่มือด้วยมนตรา
“ความเย็นจงรวมตัว ความร้อนจงมลายหาย ความหนาวเหน็บ จะคืบคลานสู่เจ้า!!”
“กางเขนทมิฬ!”
“ค้อนเทพน้ำแข็ง!” พลังทั้งสองพุ่งเข้าปะทะกันอย่างรุนแรง คลื่นกางแขนสีดำที่พุ่งออกมาจากแผลเป็นของโนวาร์สั่นหงึกๆพอๆกันกับผลึกน้ำแข็งก้อนกลมๆขนาดใหญ่ที่พุ่งเข้าชนคลื่นกางเขนอยู่ พลันทั้งสองอย่างก็แตกสลายไป ชายเจ้าของแผลเป็นฉวยโอกาสปามีดที่เหลืออีกสามเล่มใส่อกและหน้าผากอย่างฉับไวจนไม่สามารถหลบได้ทัน!!
“หยุดโว้ย!”เด็กสาวตะโกนลั่นพร้อมกับเข้ามารับมีดทั้งสามเล่มเพื่อไม่ให้พุ่งไปสู่เป้าหมาย
“หยุดมีดทำไมรีเน่!”
“ชั้นจะเอามีดคืนก็เท่านั้น”เด็กสาวตอบพลางเก็บมีดไว้ที่ซองด้านหลัง
“โกหก เห็นเซเรสตายไม่ได้มากกว่า” สิ้นคำ หน้าของเด็กสาวก็ขึ้นสีระเรื่อ
“อย่างหมอนี่ไปตายซะเลยก็ดี!”
“แต่นายก็เอาตัวมาขวางมันไว้”
“ก็แค่ไม่อยากให้มีดเปื้อนเลือด . . .”
“โกหก . . .”
“ชั้นไม่ได้โกหกนะ!”เด็กสาวตะโกนเสียงสูง
“คนโกหกเสียงจะสูงขึ้น”
“ไอ้ . . .!”
“ที่นายไม่อยากเห็นมันถูกชั้นฆ่าตาย ก็เพราะว่าเธอ....”
“พอได้แล้ว! ไม่ต้องมีเต้นรำแล้ว! ชั้นนึกว่าหอเราจะเรียบร้อยกันเสียอีก! ถ้าจะทะเลาะปากเสียง หรือสู้กัน ก็ไปที่ลานกว้าง!”ซิลเวอร์ตะโกนขึ้นอย่างโมโหพลางชี้นิ้วไปยังพื้นหินส่วนกลาง ทาทะลัสมองตามไปแล้วส่ายหน้าอย่างเบื่อหน่าย แล้วก็เดินกลับหอไป
“นั่นไง กลับไปคนแล้ว”ชายหนุ่มผมแดงเอ่ยอย่างเบื่อหน่ายแล้วหันไปยังเพื่อนสาวผมสีม่วงสวย
“ไปซ้อมเต้นกันป่ะ?”ฟาร์ถามพลางเหล่ไปทางชายหนุ่มสองคนและหนึ่งหญิงสาวที่ยังเถียงกันไม่เสร็จ
“ก็ไปเดะ ไป . . .”เด็กสาวตอบแล้วก็เดินนำกลับหอไป เด็กหนุ่มผมดำมองไปยังรุ่นพี่รองประธานหอ
“โทบิ ไปช่วยพี่ทำเอกสารส่งเรื่องเปลี่ยนหัวข้อหน่อย”ชายหนุ่มผมสีเงินกล่าวพร้อมกับลุกขึ้นจากม้าหินแล้วเดินออกมา โดยมีเด็กหนุ่มตัวเล็กๆวิ่งตามไปด้วย
เด็กสาวหันมาด่าชายหนุ่มผู้ใช้หอกสีขาวนวลต่อ ภาพทั้งสองเป็นภาพที่ดูตลกมากในสายตาของชายหนุ่มอีกคน
ภาพที่หญิงสาวใส่เสื้อยูนิฟอร์มตัวใหญ่ของผู้ชายซึ่งกำลังต่อว่าชายหนุ่มที่สูงกว่าเกือบ1ฟุต มันชั่งเหมือนกับว่า ทั้งสองคนนี้คือคนรักกัน . . .
“โนวาร์ ยืนมือมานี่ จะรักษาให้ ไอ้พวกแผลที่ได้จากเรื่องไม่เป็นเรื่องแบบนี้”ชายหนุ่มที่คิดเพลินๆอยู่ตกใจเล็กน้อย มือบางดึงร่างสูงให้นั่งลงพร้อมดึงมือที่มีแผลเป็นอยู่เข้ามาใกล้พร้อมหยิบผ้าพันแผลจากกระเป๋ากางเกงขึ้นมาพันอย่างแผ่วเบา ชายหนุ่มยิ้มเล็กน้อยอย่างพอใจ
ถ้านายเป็นคนรักของเซเรส ชั้นก็จะแย่งมันมาให้ได้!
เวลาเดียวกัน ณ อีกสถานที่หนึ่ง
“ยูเรม เมื่อคืนนายเห็นรึเปล่า . . .”ชายหนุ่มในผ้าคลุมที่นั่งอยู่ตรงเก้าอี้ริมหน้าต่างถามเพื่อนของตนแล้วก็หาวอย่างเบื่อหน่าย
ฉึก!
ไพ่สีดำปักเข้าที่ประตูไม้ พร้อมกับไพ่อีกใบพุ่งตามไปอีกระรอก
“เห็นสิ . . .ปีกสีดำนั่น แต่ยังขาดไปอีกสองนะ จากที่จำได้ ปีกต้องมี8ปีกสิ ไหงมีแค่หกปีกล่ะ ”ยูเรมบ่นแล้วก็เอนกายลงพื้นห้อง
“ก็เพราะเดียโบสผนึกปีกทั้ง8ได้ไม่หมดไง ผนึกได้แค่6 แต่นี่พอมีคนไปโอนถ่ายพลังเวทเข้าให้อีก ผนึกก็หลุดออก ปีกทั้งหกก็เลยกางออกมาเมื่อคืน แต่ก็เป็นแค่พลังที่รั่วออกมาเท่านั้น อยู่ได้ราวๆ5นาที . . .”
“อ้าว แล้วอีกสองปีกล่ะ”
“ก็เป็นพลังที่ยังไม่ตื่นขึ้น แต่ว่า รีเน่มันเป็นคนที่เราตามหาแน่หรอวะ?”
“รอยัยวีเอร่ามาก่อน ค่อยถาม....แต่ชั้นว่าน่าจะใช่”
ปึง!
เสียงประตูห้องเปิดออกอย่างเสียงดัง และก็ปิดในทันที เรือนผมสีทองยาวพันกันยุ่งเยิง ดวงตาน้ำตาลบ่งบอกถึงอารมณ์ที่ . . . .เสีย
“คุณวีเอร่า ไปโมโหมาจากไหนหึ”ยูเรมถามเด็กสาวที่เดินมาแผ่หลาลงที่เตียงอย่างขบขัน
“ผิดแผนเสียแล้ว . . .”เด็กสาวเอ่ยเสียงเรียบ แต่กลับเรียกความตกใจให้แก่สองชายหนุ่ม
“หมายความว่าไงวีเอร่า!” เอวาราถามอย่างตกใจ
“รีเน่กลายเป็นผู้หญิง ผู้ล่วงรู้มิได้มีเพียงพวกเรา เจ้าชายเซเรส เอรูทีส อัมบรา เซนฟายน์ ทาทะลัส เพอซิอูส โทบิ ฟูคาดะ ฟาร์ เรดิล และคนที่อันตรายที่สุด โนวาร์ บาร์ตัน . . .”
“โนวาร์บาร์ตัน? หมอนั่นเป็นใคร!!?”ยูเรมตะโกนถามอย่างเสียไม่ได้
“มันเป็นใครมาจากไหนชั้นไม่รู้ แต่มันกำลังจับตาดูรีเน่อยู่
.มันเป็นคนถ่ายพลังเวทไปปลดผนึกเดียโบสอีกด้วย!”เด็กสาวผมทองเอ่ยขึ้น
“โอนถ่ายพลังเวทเพื่อปลดผนึก!!? ความสามารถแบบนั้นมีเพียงแต่ตระกูลฮาเวอรี่เท่านั้นหนิที่ทำได้น่ะ ทำไมหมอนั่นทำได้ล่ะ!”ยูเรมลุกขึ้นถามอย่างสงสัย
“จะไปรู้หรอ ชั้นไม่ได้ตรัสรู้ไปซะทุกเรื่องหนิ!”สิ้นคำ ดวงตาสีเหลืองทองก็ปรือลงช้าๆ
“หอกประกายแสงหิมะของเจ้าเซเรสเปิดไปกี่วิถีแล้ววีเอร่า?”เอนวาราโผล่งขึ้นขัดการพูดของเด็กสาวที่กำลังจะหลับ
“ราวๆสิบเจ็ดเห็นจะได้”
“แปลว่าใกล้ถึงเวลานั้นแล้วสินะ”
“อืม....”เด็กสาวกล่าวเบาๆก่อนที่ดวงตาสีเหลืองทองค่อยๆปิดลง
“เดี๋ยวคืนนี้ชั้นจะส่งอิมพ์ไปทดสอบพวกนั้นอีกทีแล้วกัน เห็นด้วยมั้ยวีเอร่า”ยูเรมโผล่งขึ้นขัดความสุขของหญิงสาวที่กำลังจะหลับอีกครั้ง สองชายหนุ่มในผ้าคลุมหัวเราะคิกคักอย่างตลกขบขัน
“วีอาเร่ เราจะไปนำตัวรีเน่วันไหน”
“วัน . .สุด . . .ท้าย . . .ของ . . .งาน”เด็กสาวค่อยๆพูดเพราะเธอเริ่มจะหลับเต็มที
“โอเค วีออร่า . . .” เด็กสาวลุกขึ้นจากเตียงแล้วตะเบ็งอย่างสุดเสียงด้วยความโมโห
“ชั้นชื่อ วิโอล่า! วิโอล่า ทรัมโปน ผู้ใช้ดนตรีสังหาร เรียกให้ถูกด้วย!”
แสงจันทร์ยามค่ำคืนส่องผ่านหน้าต่างแก้วชั้น6 กระดาษแผ่นหนึ่งที่วางอยู่กลางโต๊ะ กระดาษที่มีใจความขอเปลี่ยนกำหนดการขึ้นกลางหน้ากระดาษ เด็กสาวตัวเล็กๆคนหนึ่งหยิบกระดาษแผ่นนั้นขึ้นมา แล้วก็หัวเราะอย่างขบขัน ภาพชายหนุ่มผมสีเงินยาวปิดหน้าโผล่ขึ้นมาภายในความคิด
มันคงกำลังโมโหแน่ๆ ถึงมาขออนุมัติแบบนี้ เด็กสาวคิดเสร็จก็หยิบปากกามาเซ็นอนุมัติไป
แอ้ด!
"ท่านประธานหอ ผมมารับใบที่ร้องไปครับ"ชายหนุ่มผมสีเงินสว่างเปิดประตูพร้อมกับพูดอย่างฉะฉานเสื้อสีดำแทบทองและกางเกงขายาวสีดำแทบทองตามแบบฉบับสถาบันK.K.K. เด็กสาวยื่นกระดาษไปให้ชายหนุ่ม ซิลเวอร์สาวเท้าเดินออกจากห้องทันที
"เดี๋ยวก่อนซิลเวอร์ เรียกฟีน่าก็ได้ พวกเราอยู่ปีเดียวกันนะ"เด็กสาวผมดำกล่าวยิ้มๆ ชายหนุ่มส่ายหน้า
"ไม่ได้หรอกครับ ถึงอย่างนั้น ท่านก็มียศเหนือข้าอยู่ดี ท่านเป็นถึง . . .ชั่งเถอะ ผมขอตัวไปนอนก่อนแล้วกัน" ชายหนุ่มกล่าวแล้วก็รีบวิ่งออกจากห้องไปในทันที เด็กสาวส่ายหัวอย่างเบื่อหน่าย
นี่แหละน๊า จอมเวทผู้อ่อนหัด อ่อนหัดขนาดสู้จอมปราชญ์ในวังสี่คนรุมยังชนะแบบไร้เหงื่อ ไร้เลือด กลับเป็นคนขี้กลัวแบบนี้ ไม่น่าเลย จอมเวทแห่ง มาคาร์ไลท์
ความคิดเห็น