คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #8 : fic nai he (รักที่เจ็บปวด) sihan 7
ความหวาดกลัวที่ตอนนี้ซองมินกำลังได้รับจากคยูฮยอน ทำให้คนตัวเล็กที่ยังไม่รู้ว่าใครเป็นคนทำให้ร่างโปร่งโกรธมากขนาดนี้ จึงมาลงที่ตนเองแต่ซองมินก็ไม่มีวันยอมเป็นทาสของอารมณ์เด็ดขาด ซองมินจึงพยายามยือขาอย่างสุดกำลังแต่ก็ไม่เป็นผล จึงตัดสินใจกัดเข้าที่มือของคยูฮยอนอย่างสุดแรง และนั้นก็ทำให้คยูฮยอนถึงกับสะบัดมือออกอย่างเจ็บปวด
“ โอ๊ย ซองมิน....”
“ หายบ้ารึยัง....”
“ มันจะมากไปแล้วนะ....”
“ ไม่มากเลยสำหรับคนอย่างนาย จำไว้ชั้นไม่เคยคิดที่จะรักนายด้วยซ้ำ แล้วเรื่องอะไรที่ชั้นจะต้องไปฟ้องพ่อนายเพื่อเร่งงานแต่งให้เร็วขึ้น....” คยูฮยอนที่อารมณ์เย็นขึ้นมากบวกกับคำพูดของคนตัวเล็ก ทำให้คยูฮยอนยอมที่จะเอ่ยคำขอโทษคนตรงหน้า ด้วยความรู้สึกผิดที่อยู่ๆก็มาใส่อีกคนไม่ยั้ง
“ ชั้นขอโทษ....”
“ เอาไว้ตรงนั้นแหละ ถ้าชั้นอยากได้จะเอาเอง....”
“ คนขอโทษแล้วยังจะทำแบบนี้ ใช่ไม่ได้เลย....”
“ นี่นายว่าชั้นหรอ อีตาคยูบ้า....”
“ แล้วนายคิดว่าชั้นด่าใครล่ะ....”
“ นิสัยก็ไม่ดี แล้วยังปากร้ายอีก....” ซองมินตั้งท่าจะเดินหนีแต่คยูฮยอนก็ไวกว่า คว้าเสื้อของอีกคนเอาไว้ทำให้ซองมินและคยูล้มลงกับพื้นทั้งคู่ ทำให้ใบหน้าของทั้งคู่ห่างกันไม่ถึงคืบ ทั้งสองต่างมองหน้ากันอยู่นานจนคยูฮยอนร้องออกมา ทำให้ซองมินถึงกับตกใจคิดว่าอีกฝ่ายอาจได้รับบาดเจ็บ
“ นายเป็นอะไร....”
“ ไส้ ไส้ผมคงกองออกมาข้างนอกแล้วเป็นแน่ นายเล่นนอนทับอยู่อย่างนี้อ่ะ....” ซองมินถึงกับบ้างอ้อก่อนจะแกล้งอีกคนโดยการ ออกแรงกระทุ้งไปที่ท้องคนปากร้ายอย่างแรง ทำเอาคยูฮยอนถึงกับจุกไปเลยทีเดียว ซองมินยันกายตนเองให้ลุกขึ้นก่อนจะยื่นมือไปให้อีกคน
“ จะลุกมั้ย....”
“ ผมลุกไม่ไหว....”
“ ถ้าไม่ไหวก็นอนมันตรงนี้ ชั้นไปล่ะ....”
“ เฮ้ยๆ เดี๋ยวสินาย จะรีบไปไหนใจร้ายที่สุด....” คยูฮยอนทำท่างอนใส่อีกคนที่กำลังยืนยิ้มอย่างมีความสุข ก่อนจะปัดฝุ่นออกจากเสื้อผ้าให้หมดพร้อมกับเดินเข้ามาใกล้ซองมิน ก่อนจะดึงแขนอีกคนให้ขึ้นรถไปอย่างง่ายดาย
“ นายจะพาชั้นไปไหน....”
“ ไปไหนก็ได้ ไปกับชั้นจะได้มั้ย....” น้ำเสียงและท่าทางของคยูฮยอนทำเอาซองมินถึงกับสงสาร แม้จะไม่รู้เรื่องราวทั้งหมดแต่ก็พอจะเดาออกว่าคยูฮยอน คงจะมีเรื่องหนักใจมากขนาดนี้ไม่งั้น ร่างโปร่งคงไม่แสดงท่าทางแบบนี้ออกมาให้ใครได้เห็น ซองมินจึงยอมไปกับคยูฮยอนหวังว่าอีกคนจะสบายใจขึ้นบ้าง ร่างโปร่งขับรถไปเรื่อยๆจนมาหยุดอยู่ที่ริมชายหาด ที่เงียบสงบจนซองมินเองก็ยังชอบกับบรรยากาศแบบนี้
“ นายมีเรื่องไม่สบายใจมากหรอ....”
“ ก็ไม่เท่าไหร่หรอก....”
“ โกหก เห็นชัดๆว่านายเครียดขนาดไหน....”
“ ชั้นก็แค่กลุ้มเรื่องงาน....”
“ ถ้านายไม่อยากบอกก็ไม่เป็นไรนะ....” คยูฮยอนไม่รู้จะพูดยังไงก่อนจะดึงร่างของซองมินเข้ามากอดเอาไว้ ทำเอาคนตัวเล็กถึงกับตะลึงที่โดนอีกคนสวมกอด แต่นั้นก็ยังไม่เท่าความรู้สึกที่รับรู้ได้ว่า คยูฮยอนกำลังร้องไห้เพราะร่างที่สั่นเทานั้นบ่งบอกได้เป็นอย่างดี
“ คยู....”
“ ชั้นจะทำยังไงดี ชั้นจะแก้ไขปัญหายังไงดี....”
“ ใจเย็นๆก่อนนะ นายมีอะไรค่อยๆบอกชั้น....” คยูฮยอนเอาแต่สวมกอดอีกคนเอาไว้โดยไม่ยอมพูดอะไรให้ซองมินฟัง ทั้งสองต่างกอดกันอยู่อย่างนั้นจนเวลาผ่านไปนานคยูฮยอนที่รู้สึกดีขึ้นมา ก็ค่อยๆผละออกจากร่างของซองมินก่อนจะเอ่ยคำขอโทษอีกคน
“ ผมขอโทษนะ....”
“ สบายใจรึยัง....”
“ ดีขึ้นมากแล้วล่ะ....”
“ ถ้างั้นเรากลับบ้านกันดีกว่านะ....” คยูฮยอนยิ้มให้อีกคนก่อนที่ร่างโปร่งจะพาซองมินกลับมาส่งที่บ้าน และภาพๆนั้นทำให้บิดาของคนตัวเล็กก็รู้สึกพอใจ ที่คยูฮยอนยอมทำตามคำสั่งของบิดาตนเอง หลังจากที่ไปส่งซองมินแล้วคยูฮยอนก็แวะซื้ออาหารบำรุง
ไปฝากซันนี่ที่กำลังรอตนเองอยู่ที่บ้านเพียงลำพัง แม้จะเครียดกับปัญหายังไงแต่พอเรียวขาก้าวเข้าบ้านไป ใบหน้าของคยูฮยอนก็แปลเปลื่ยนเป็นรอยยิ้มอย่างสดชื่น เพราะไม่อยากให้หญิงสาวต้องเครียดไปกับตนเองเช่นกัน
“ คยู....”
“ ว่าไงครับ....”
“ ทำไมยังไม่เข้านอนล่ะคะ ดึกมากแล้วนะ....”
“ ผมขอดายละเอียดอะไรอีกแปปนึง แล้วผมจะตามไปนะ....”
“ อย่าหักโหมนะคะ ซันนี่เป็นห่วงคุณนะ....” คยูฮยอนยิ้มให้ภรรยาสาวก่อนจะก้มหน้าทำงานต่ออีกนิดนึง ส่วนทางด้านฮันคยองที่ยังคงรอฮยอกแจกลับบ้าน ก็นั่งดูแบบร้านที่ซองมินหามาให้และมีร้านๆนึงที่ฮันคยองถูกใจมากที่สุด
ร่างบางนั่งดูอยู่สักพักเสียงรถยนต์ก็มาจอดเทียบหน้าบ้าน ก่อนจะเข็นรถไปยังหน้าประตูพบว่าซีวอนขับมาส่งน้องชายตนเอง ทำให้ฮันคยองพยายามหลบเพื่อไม่ให้อีกคนเห็น และที่สำคัญคนที่นั่งข้างๆซีวอนเช่นกัน หลังจากที่ซีวอนขับรถออกไปแล้วฮยอกแจก็รีบเดินเข้าบ้านทันที
ก่อนจะพบว่าพี่ฮันคยองยังคงรอตนเองอยู่
“ พี่ฮัน ทำไมยังไม่นอนล่ะครับ....”
“ พี่รอเรากลับบ้าน....”
“ โทษทีครับ วันนี้งานเยอะเลยกลับดึก....”
“ กินข้าวรึยัง พี่ทำอะไรให้มั้ย....”
“ ผมกินแล้วครับ พี่ฮันเองก็ควรไปนอนได้แล้วนะ อย่าลืมสิครับพรุ่งนี้เรามีนัดสำคัญแต่เช้านะ....”
“ งั้นพี่ไปนอนก่อนนะ....” ฮันคยองยิ้มหวานๆให้น้องชายตนเองก่อนจะเข็นรถเข้าห้องนอนไปอย่างว่าง่าย จนกระทั่งเวลาผ่านไปจนแสงแดดยามเช้ามาเยือน และนั้นก็ปลุกให้ฮันคยองตื่นนอนอย่างรวดเร็ว ก่อนจะอาบน้ำแต่งตัวออกมารอฮยอกแจและซองมินด้วยใบหน้าที่มีความสุข ฮันคยองนั่งรออยู่สักพักก่อนที่เสียงใสๆของซองมินจะดังขึ้นมา และนั้นก็เรียกรอยยิ้มจากฮันคยองได้เป็นอย่างดี
“ พี่ฮันครับ พี่ฮัน....”
“ ว่าไงซองมิน....”
“ คิดถึงพี่ฮันจังเลยครับ ไหนมาให้ผมหอมแก้มทีนึง....” ว่าแล้วซองมินก็หอมแก้มของพี่ฮันคยองไปนึงที ก่อนที่จะมีเสียงของฮยอกแจล้อเลียนอีกคนดังตามมา
“ นี่ถ้านายไม่มีคู่หมั้นนะ ชั้นคิดว่านายจะมาจีบพี่ฮันเสียอีก....”
“ ใครว่า ชั้นเจอพี่ฮันก่อนจะเจอ ยัยตาคยูฮยอนอะไรนั้นเสียอีก....”
“ พอได้แล้ว เรารีบไปกันดีกว่านะ เดี๋ยวจะสาย....”
“ งั้นเราไปกันเลย....” ซองมินรีบหน้าที่เข็นรถให้พี่ฮันคยอง ก่อนที่ทั้งหมดจะมาดูร้านที่ตกลงกันเอาไว้ ทั้งสามนั่งรอเจ้าของตึกที่ว่าจะมาเจอกันอยู่สักพัก เสียงของคนที่รอก็ดังขึ้นจากด้านหลัง ทำให้ทั้งสามหันไปพร้อมๆกันทันที
“ สวัสดีครับ....”
“ สวัสดีครับ....” รอยยิ้มหวานๆส่งไปให้ยังเจ้าของตึกก่อนที่ชายคนนั้น จะถอดแว่นสีดำออกและมองมายังคนที่นั่งอยู่ในรถเข็น ด้วยแววตาที่อ่อนโยน
“ ขอโทษที่ให้รอกันนานนะครับ....”
“ ไม่เป็นไรครับ พวกเราก็ออกก่อนเวลาที่นัดเอาไว้เช่นกัน....”
“ ถ้างั้นเราเข้าไปดูกันเลยมั้ยครับ....” พูดจบเจ้าของร้านก็เดินนำทั้งสามคนเข้าไปดู ภายในร้านที่ตกแต่งเอาไว้อย่างสวยงามเพราะก่อนหน้านี้ ตึกนี้ก็เคยเป็นร้านขนมเค้กมาก่อนจึงแทบจะไม่ต้องตกแต่งอะไรให้มากนัก จะมีก็เพียงแค่มาเปิดร้านได้ตามสะดวกเท่านั้น ฮันคยองเข็นรถไปดูรอบๆอย่างถูกใจใบหน้าหวานยิ้มออกมาอย่างดีใจ
“ สวยจังเลยนะครับ ร้านแบบนี้อยู่แล้วอบอุ่นจัง....”
“ ถ้าคุณ....”
“ ผมฮันคยอง และนั้นฮยอกแจกับซองมินครับ....”
“ ผมฮยอนจุงครับ ยินดีที่ได้รู้จักทุกๆคน.....” ร่างสูงพาเดินดูร้านจนทั่วก่อนจะที่ฮันคยองจะตัดสินใจ ตกลงเช่าร้านนี้ต่อจากฮยอนจุงทันทีอย่างไม่ลังเล
“ เป็นอันว่าคุณเช่าร้านนี้แล้วนะครับ ว่าแต่จะเปิดทำการวันไหนผมจะได้มาแสดงความยินดี....”
“ ก็คิดว่าน่าจะเป็นวันมะรืนครับ ผมขอเชิญคุณด้วยนะ....”
“ ขอบคุณครับ....” รอยยิ้มหวานๆของฮันคยองทำเอาหัวใจของฮยอนจุงอ่อนไหวไปได้อย่างไม่อยาก รอยยิ้มแบบนี้เหมือนคนรักของฮยอนจุงไม่ผิด หลังจากที่ดูร้านกันเสร็จแล้วทั้งหมดจึงแยกย้ายกันกลับ
ซองมินขับรถพาสองพี่น้องมาส่งก่อนที่ตนเองจะขอแยกตัวไปเตรียมของสำหรับวันเปิดร้านของพี่ฮันคยอง
และคนตัวเล็กก็กดโทรศัพท์ไปชวนคยูฮยอนมาร่วมงานด้วย เช่นเดียวกับฮยอกแจที่อยู่ๆซีวอนก็โทรมาถามไถ่ถึงอาการของฮันคยอง และนั้นก็ทำให้ซีวอนรู้ว่าฮันคยองกำลังจะเปิดร้านเค้ก จึงบอกว่าจะมาร่วมงานในวันนั้นด้วย หลังจากที่วางสายฮยอกแจไปแล้วซีวอนก็เดินมานั่งที่โซฟา ก่อนจะนึกว่าจะเอาอะไรไปให้เป็นของขวัญวันเปิดร้านดี ร่างสูงนั่งคิดอยู่สักพักเสียงโทรศัพท์มือถือก็ดังขึ้นอีกครั้ง ซีวอนมองดูเพียงแค่เห็นว่าเป็นใครร่างสูงก็รีบกดรับทันที
“ ว่าไง หายหน้าไปเลยนะ....”
“ ใครจะไปว่างอย่างแกห๊ะซีวอน ชั้นก็ต้องมีงานทำนะ....”
“ เอ่อ ว่าแต่แกเหอะ โทรมามีอะไร....”
“ เหงาอ่ะ อยากชวนแกไปเที่ยว ไปป่ะ....”
“ ไม่เอา ชั้นมีที่ๆจะไปแล้ว....”
“ ไปไหน ไปด้วยดิ....”
“ ก็ได้ งั้นแกอย่าลืมมาตามที่นัดล่ะ....” หลังจากที่คุยเสร็จซีวอนก็ล้มตัวลงนอนก่อนจะยิ้มอย่างมีความสุข ที่จะได้ไปเจอหน้าฮันคยองแม้ว่าอีกคนที่อยากจะเจอ จะชอบทำหน้าบึ้งตึงใส่ตนเองก็ตาม แต่ซีวอนก็เข้าใจว่าเพราะตนเองที่ทำให้ฮันคยองต้องทำเช่นนี้ และวันที่ทุกคนรอคอยก็มาถึงวันนี้คนที่ดูมีความสุขมากที่สุด เห็นจะไม่พ้นฮันคยองที่ยิ้มแย้มอยู่ตลอดเวลา จนคนที่เพิ่งขับรถมาจอดเทียบหน้าร้านอย่างซีวอน เห็นแล้วก็อดไม่ได้ที่จะยิ้มตามจะมีก็แต่ทงเฮ ที่ไม่พอใจที่ต้องมาร่วมงานด้วยแต่ก็ต้องตีหน้าให้ทำเป็นดีใจตามซีวอนไปอีกคน ร่างสูงรีบเดินลงมาจากรถพร้อมกับทงเฮ และเพื่อนสนิทอย่างแจจุงที่ขอติดรถมาด้วยอีกคน ทั้งสามเดินเข้าไปในร้านก่อนจะเอ่ยทักทายเจ้าของร้านด้วยความยินดี
“ ยินดีกับร้านใหม่ด้วยนะครับ....” ฮันคยองหันไปตามเสียงทักทายเพียงแค่เห็นฯว่าเป็นใคร ร่างบางก็แทบจะหุบยิ้มทันทีแต่กลัวจะเสียมารยาท จึงยิ้มตอบกลับไปอย่างจำใจ
“ ขอบคุณครับ....”
“ นี่เพื่อนผม แจจุง....” แค่ได้ยินชื่อฮันคยองก็ตกใจเล็กน้อยเพราะชื่อๆนี้เอง ที่ทำให้ตนเองต้องตกอยู่ในสภาพเลวร้ายในวันนั้น แจจุงเดินเข้ามาหาฮันคยองใกล้ๆก่อนจะส่งกล่องของขวัญให้อีกคนด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้ม
“ ยินดีด้วยนะครับ คุณ....”
“ ผมฮันคยองครับ....”
“ ผมแจจุงนะครับ....” ร่างบางรับของขวัญจากแจจุงก่อนจะเชิญทุกคนเข้าไปในร้าน ทันทีที่ซีวอนจะเดินเข้าไปแจจุงกลับรั้งแขนเพื่อนเอาไว้ทันที
“ ซีวอน....”
“ อะไรของแก ชั้นจะเข้าไปข้างใน....”
“ ฮันคยองมีแฟนรึยัง....”
“ ถามทำไม....”
“ น่ารักดี ชั้นอยากรู้จัก....”
“ ยังจะเจ้าชู้ไม่เลิกนะ....”
“ อ้าว ก็ตราบใดที่ฮันคยองไม่มีแฟน ชั้นก็มีหวังไม่ใช่หรอ....”
“ มีแล้ว แกหมดสิทธิ์....” ซีวอนพูดอย่างโมโหก่อนจะเดินเข้าไปในร้าน ทำเอาแจจุงถึงกับงงในอาการของเพื่อนตนเองอยู่คนเดียว
“ ถามแค่นี้ทำไมต้องโมโหด้วย....” แจจุงส่ายหัวให้กลับอารมณ์ที่ขึ้นๆลงกับเพื่อนตัวดี ก่อนจะเดินเข้าไปในงานพร้อมๆกับ คอยตามพูดคุยกับฮันคยองอย่างสนิทสนม จนคนที่นั่งดูอยู่อย่างซีวอนเริ่มจะไม่พอใจขึ้นมา และที่ดูจะแย่ไปกว่านั้นเมื่อฮยอนจุงเจ้าของร้านก็มาเช่นกัน ทั้งสองหนุ่มต่างก็พากันพยามใกล้ชิดฮันคยอง จนทงเฮที่นั่งอยู่ข้างๆอดไม่ได้ที่จะพูดจาเหน็บอีกคน
“ พี่ฮันนี่เสน่ห์แรงจริงๆเลยนะซีวอน คนโน่นก็ชอบคนนี้ก็ชอบ....”
“ ฮันอาจจะเป็นคนคุยสนุกก็ได้ แล้วทงเฮไม่ชอบฮันคยองหรอ....”
“ ชอบสิ ก็พี่ฮันออกจะน่ารัก....” ทงเฮซบเข้าที่ไหล่ของซีวอนก่อนจะทำหน้าร้ายๆก่อนจะพูดเบาๆ ด้วยความไม่พอใจ
“ น่ารักตายล่ะ เมื่อไหร่จะตายๆไปซะที....”
“ ทงเฮพูดอะไรหรอครับ....”
“ อ่อ ทงเฮบอกว่าร้านพี่ฮันก็ใกล้ที่ทำงานเราดี อย่างนี้ว่างๆเราก็แวะมาอุดหนุนพี่เค้าได้....”
“ ถ้าทงเฮชอบ ผมจะพามาบ่อยๆนะ....” ร่างสูงยิ้มให้คนตัวเล็กก่อนจะหยิบกาแฟขึ้นมาดื่มอย่างมีความสุข ผิดกับทงเฮที่ดูจะไม่สนุกเหมือนคนอื่นๆ คนตัวเล็กที่นั่งเงียบๆเดินออกมาสูดอากาศที่หน้าร้าน เพื่อก้เบื่อทำให้ฮยอกแจที่แอบดูอยู่อดไม่ได้ที่จะเป็นห่วงอีกคน จึงเดินออกไปคุยกับอีกคนทั้งๆที่รู้ว่าจะต้องโดนไล่กลับมา
“ ทำไมมานั่งคนเดียวแบบนี้ล่ะ....”
“ ผิดหรอที่ชั้นออกมานั่งตรงนี้....”
“ ไม่เลย แค่เห็นว่านายทำไมไม่เข้าไปในงาน....”
“ ชั้นไม่ค่อยสบาย และอีกอย่างพี่ชายนายแย่งซีนไปหมด ใครจะมาสนใจชั้น....”
“ นายไม่สบายหรอ....” ฮยอกแจเดินเข้าไปใกล้ๆอีกคนและเอื้อมมือไปแตะที่หน้าผากของทงเฮ ทำเอาคนตัวเล็กปัดออกแทบไม่ทัน
“ อย่ามายุ่งกับชั้น....”
“ ผมเป็นห่วงคุณนะ....”
“ ไม่ต้องหรอก ยังไงชั้นก็ไม่มีใครสนใจอยู่แล้ว....”
“ ผมไง....”
“ ขอบใจ แต่ชั้นไม่ต้องการ....” พูดจบทงเฮก็ตั้งท่าจะลุกหนีฮยอกแจ แต่ถูกอีกคนดึงมือเอาไว้ได้ทัน
“ ทำไมล่ะ ผมมันไม่ดีตรงไหน....”
“ ก็ทุกตรงในสายตาของชั้น....”
“ ทำไมเราไม่กลับไปเป็นเหมือนเดิมล่ะทงเฮ ทำไมนายต้องทำท่ารังเกียจแบบนี้....”
“ ถ้านายอยากกลับไปเป็นเหมือนเดิม ก็หัดบอกพี่ชายนายด้วยว่าอย่ามายุ่งกับซีวอนอีกทำได้มั้ยล่ะ....”
“ พี่ฮันไปเกี่ยวอะไรด้วย ผมไม่เข้าใจ ทงเฮจะหึงคนที่เป็นแบบพี่ฮันเนี๊ยนะ....”
“ ไอท่าทางนิ่งๆนี่ล่ะตัวดี แย่งของคนอื่นมานักต่อนักแล้ว....”
“ แต่พี่ฮันไม่ใช่คนแบบนี้ บางทีเค้าสองคนอาจจะรู้จักกันมาก่อนก็ได้....”
“ หรอ....” ทงเฮหันมามองฮยอกแจนิดนึงก่อนจะสะบัดแขนอีกคนออก ทำเอาหัวใจของฮยกแจเหมือนมีดบางๆกรีดเข้าที่หัวใจอย่างช้าๆ ส่วนทงเฮก็รีบเดินกลับเข้าไปในงาน ด้วยใบหน้าที่ไม่ค่อยจะดีนักเพราะเรื่มรู้สึกจะไม่สบายอย่างที่ว่า คนตัวเล็กจึงเดินไปหาซีวอนพร้อมกับขอตัวกลับบ้านก่อนฮันคยองจึงออกมาส่งถึงหน้าร้าน และคนที่ดูจะอ้อยอิ่งนานที่สุดก็คงไม่พ้นซีวอน ที่แจจุงพยายามชวนฮันคยองคุยต่ออีกนิดก็ยังดี
ทำเอาทงเฮอดไม่ได้ที่จะประชดเพื่อนของซีวอนแทน
“ ถ้าหากว่าพี่แจจุงว่าง ก็มาสมัครเป็นผู้ช่วยพี่ฮันสิครับ....”
“ เอ่อ จริงด้วยสิ ว่าแต่คุณฮันรับผมรึเปล่าครับ....”
“ ร้านผมเล็กๆคงไม่กล้าจ้างคุณมาทำงานหรอกครับ....”
“ ผมยินดี และเต็มใจทำงานนะครับ....”
“ เอาเป็นว่า ถ้าคุณคิดถึงก็แวะมาทานบ่อยๆก็แล้วกันครับ....” ฮันคยองยิ้มให้แจจุงพรางมองไปยังซีวอนที่ตอนนี้หน้าบอกบุญไม่รับ เพียงแค่เห็นสองคนนั้นคุยกันอย่างสนิทสนม
“ ผมส่งแค่นี้นะครับ เพราะต้องกลับไปเก็บร้าน....”
“ ครับ เอาไว้เจอกันใหม่นะ....” ฮันคยองลาทั้งสามคนก่อนจะเข็นรถเข้าร้านไป โดยที่มีสายตาของซีวอนมองตามอยู่ตลอดเวลา เพราะว่าในร้านยังมีอีกหนึ่งคนที่จ้องมองฮันคยอง ด้วยสายตาเดียวกับแจจุงและตนเองนั้นก็คือฮยอนจุง เจ้าของร้านที่ดูใจดีและอ่อนโยนยิ่งเวลาทั้งสองอยู่ใกล้ๆกัน เหมือนจะสนิทกันมากกว่าที่ซีวอนรู้ร่างสูงขับรถไปส่งทุกคนเสร็จ
ก็ขอตัวกลับ้านทันทีแรกๆทงเฮรั้งอีกคนเอาไว้ แต่ซีวอนบอกว่าปวดหัวทงเฮจึงยอมให้ซีวอนกลับบ้านโดยไม่งอแงเหมือนเคย หลังจากที่ออกมาจากบ้านของทงเฮแล้ว ซีวอนก็ขับมาจอดใกล้ๆร้านของฮันคยองก่อนจะคอยแอบมองอีกคน ว่ากลังทำอะไรอยู่แม้จะไม่ใช่นิสัยของตนเอง
แต่แค่คิดภาพที่ฮันคยองและฮยอนจุงอยู่กันสองต่อสอง ซีวอนก็อดไม่ได้ที่จะไม่มาดูตามที่ใจเรียกร้อง ร่างสูงนั่งมองดูฮยอนจุงคอยช่วยฮันคยองทำโน่นทำนี้ก็ไม่พอใจ และที่ทำให้ซีวอนหงุดหงิดมากเข้าไปอีกเมื่อฮยอนจุง กำลังเช็ดเหงื่อให้ฮันคยองอย่างอ่อนโยน ซีวอนเห็นแล้วก็โกรธจึงเผลอตบเข้าที่พวงมาลัย และทำให้มือไปโดนแตร์เข้าอย่างจังเสียงร้องของมันทำเอาทั้งสอง แทบผละออกจากกันไม่ทันและเดินไปดูว่าใครมา
ฮยอนจุงอาสาออกมาดูก็ไม่พบอะไรจึงเดินกลับเข้าไปในร้านตามเดิม
“ ใครมาหรอครับ....”
“ ไม่มีเลยครับ....”
“ คงเป็นพวกโรคจิตแน่ๆเลยพี่ฮัน....”
“ โธ่ คุณเอาอะไรมาคิดว่าเป็นโรคจิต ผมว่านะคุณหน่ะน่ากลัวกว่าใครอีก....”
“ หืม อีตาคยู นายกล้ามากเลยนะที่มาว่าชั้น ชั้นโรคจิตตรงไหนมิทราบ....”
“ ตรงที่ชอบลวนลามพี่ฮันอยู่ตลอดเวลานี่ไง....”
“ บ้า ลวนลามที่ไหนกัน เรียกว่าสัมผัสความอบอุ่นมากกว่า....” ซองมินพยายามแก้ต่างให้ตนเองแต่คยูฮยอนก็ไม่ยอมเลิกแกล้ง จนซองมินต้องลากอีกคนออกไปเถียงกันต่อที่หน้าร้าน ทิ้งให้ฮันคยองและฮยอนจุงต่างหัวเราะกับนิสัยเด็กๆของทั้งคู่เพียงลำพัง หลังจากที่เก็บของเรียบร้อยแล้วฮยอนจุงก็อาสามาส่งฮันคยองที่บ้าน แม้จะแกล้งใจอีกคนมากแค่ไหนก็แต่ทนแรงตื้อของอีกฝ่ายไม่ได้
สุดท้ายฮยอนจุงก็มาส่งฮันคยองถึงบ้านเป็นที่เรียบร้อย โดยมีรถของซีวอนคอยขับตามห่างๆตลอดเวลา ทันทีที่มาถึงที่บ้านฮยอกแจก็ขอตัวออกไปข้างนอก โดยไม่ได้บอกกับฮันคยองว่าจะไปไหนทำให้ฮันคยองอดเป็นห่วงไม่ได้
ร่างบางได้แต่นั่งรอน้องชายอยู่ที่บ้านเพียงลำพัง ก่อนจะมีเสียงกริ่งดังขึ้นทำให้ฮันคยองคิดว่าเป็นฮยอกแจ ก่อนจะรีบเข็นรถไปที่หน้าบ้านด้วยความดีใจ แต่พอเห็นว่าไม่ใช่ฮยอกแจร่างบางก็รีบหันรถเข็นกลับทันที ทำเอาคนที่มากดกริ่งหน้าบ้านถึงกับตะโกนเรียกเอาไว้
“ นี่คุณ เห็นผมแค่นี้ถึงกลับหนีเลยหรอ....”
“ ก็ใช่นะสิ....” ฮันคยองไม่ฟังเสียงเรียกของอีกคนก่อนจะเข็นรถเข้าบ้าน ทิ้งให้ซีวอนจำต้องปืนรั้วบ้านเข้ามาโดยที่เจ้าของบ้านไม่ได้ต้อนรับ ร่างสูงรีบวิ่งมาดักอีกคนเอาไว้ก่อนที่ฮันคยองจะปิดประตูใส่ตนเองไว้ได้ทัน
“ ใจร้ายที่สุดเลย....”
“ นายเข้ามาได้ยังไง....”
“ ผมก็ปืนเข้ามาไง ไม่เห็นจะยาก จะเข้าบ้านใช่มั้ยดีเลยผมพาคุณเข้าบ้านนะ....” ซีวอนไม่รอช้ารีบเข็นรถของฮันคยองเข้าบ้านทันที แม้ว่าร่างบางจะตีเข้าที่มือแต่ซีวอนก็ไม่ยอมปล่อยมือจากรถเข็น ทันทีที่เข้ามาถึงซีวอนก็พาอีกคนไปนั่งยังโซฟาพรางยิ้มให้อย่างอ่อนโยน
“ ทำหน้าให้ดีๆหน่อยสิครับ ผมมาหาทั้งทีนะ....”
“ แล้วใครใช้ให้นายมามิทราบ....” ซีวอนรีบชี้ไปที่หัวใจตนเองทำเอาฮันคยองหันหน้าหนีแทบไม่ทัน
“ คุณจำเพื่อนผมเมื่อตอนกลางวันได้รึเปล่า....”
“ ได้ ทำไมหรอ....”
“ เพื่อนผมมันชอบคุณ แต่ผมบอกไปแล้วว่าคุณมีเจ้าของเรียบร้อยแล้ว....”
“ นายมีสิทธิ์อะไรมาบอกว่าชั้นมีเจ้าของแล้ว จะบ้ารึไง....”
“ หรือว่าชอบ ถึงได้โกรธที่ผมพูดแบบนี้....”
“ ก็อาจจะใช่....”
“ ผมไม่ยอม....”
“ ก็เรื่องของนาย ไม่เกี่ยวกับชั้น....” ฮันคยองหันหน้าหนีทันทีทำให้ซีวอนหงุดหงิดเล็กน้อย ก่อนจะลืมตัวออกแรงบีบเข้าที่แขนเรียวของอีกคน ให้หันมามองตนเองอย่างออกคำสั่ง
“ ทำไมจะไม่เกี่ยว อย่าลืมสิว่าเรา....”
“ เรื่องนั้นชั้นลืมมันไปนานแล้ว ต่อให้นายพูดยังไงมันก็ไม่เป็นผลต่อชั้นอยู่แล้ว....”
“ ผมขอห้ามไม่ว่าใครคุณก็ห้ามไปมองทั้งนั้น....”
“ รวมทั้งนายด้วยใช่มั้ย อย่าลืมสิว่านายเองก็เป็นคนที่ชั้นเกลียดที่สุด ได้ยินมั้ยว่าชั้นเกลียดนาย....” ซีวอนหมดความอดทนและจะดึงร่างของฮันคยองให้เข้ามาใกล้ ก่อนจะลงโทษคนอวดดีตรงหน้าทันที
“ หยุดนะซีวอน นายจะทำอะไร....”
“ ก็ทวงสิทธิ์ของๆชั้นไง...” ซีวอนดันร่างของฮันคยองให้นอนราบลงกับโซฟา ก่อนที่ตนเองจะตามไปทาบทับร่างนั้นเอาไว้ทันที
“ ออกไปนะ ชั้นบอกว่าให้ออกไป.....”
“ ไม่ออก ถึงนายจะไล่ยังไงชั้นก็ไม่ไป จำไว้....” ซีวอนก้มลงสูดดมความหอมจากเรือนร่างบางอย่างลืมตัว กลิ่นหอมอ่อนๆจากร่างกายของฮันคยองทำให้ซีวอนลืมตัว กระชากเสื้อที่อีกคนสวมใส่เอาไว้จนขาดแค่นั้น หยดน้ำตาของฮันคยองก็ไหลออกมาเป็นทาง ภาพเก่าๆย้อนกลับมาทำให้หัวใจเริ่มเกลียดและกลัวคนตรงหน้า เรี่ยวแรงที่จะผลักไสก็เริ่มหมดลงก่อนที่ความรู้สึกสุดท้ายที่มี
ค่อยๆดับลงพร้อมๆกับร่างของฮันคยองหยุดดิ้น ทำให้ซีวอนแปลกใจก่อนจะหยุดการกระทำแบบนี้ลงและเห็นว่าฮันคยองหมดสติไปแล้ว
ร่างสูงรีบดึงร่างของอีกคนขึ้นมากอดเอาไว้แนบกาย นี่เค้าทำเรื่องน่ารังเกียจกับฮันคยองอีกแล้ว ซีวอนค่อยๆอุ้มฮันคยองเอาไว้ในอ้อมแขนและพาคนที่สลบไปนอนพักยังห้องนอน ร่างสูงคอยเช็ดตัวและเปลื่ยนเสื้อผ้าให้อีกคนก่อนจะมานั่งข้างๆ และกุมมือของอีกคนเอาไว้ด้วยความรู้สึกผิด
“ ถ้านายตื่นขึ้นมา คงจะเกลียดชั้นเข้าไส้ใช่มั้ยฮันคยอง....” ซีวอนจูบเข้าที่ฝ่ามือของอีกคนเบาๆก่อนจะล้มตัวลงนอนข้างๆฮันคยองทั้งคืน ทางด้านฮยอกแจที่รู้ว่าทงเฮไม่สบายก็อดเป็นห่วงไม่ได้ จึงแอบมาดูอีกคนว่ากินยากินข้าวรึยังเพราะนิสัยทงเฮ ดื้อรั้นทำให้ฮยอกแจห่วงคนตัวเล็กมากที่สุด ร่างโปร่งกดกริ่งที่หน้าบ้านของทงเฮแต่ก็ไม่มีวี่แวว ว่าจะมีใครมาเปิดยิ่งทำให้ฮยอกแจเป็นห่วง
จึงตัดสินใจปืนรั้วเข้าไปแม้จะเตรียมใจว่าจะต้องโดนทงเฮต่อว่า แต่ความเป็นห่วงมันมีมากกว่าอะไรทั้งสิ้น ทันทีที่เข้ามาในบ้านฮยอกแจก็รีบเปิดไฟแต่ก็พบกับความเงียบ ทำให้ร่างโปร่งเดินไปดูยังห้องนอนและก็พบว่าทงเฮ กำลังนอนขดตัวเพราะตัวร้อนนั้นเอง
“ ทงเฮ ทงเฮ....” น้ำเสียงที่เรียกอีกคนช่างหวานแสนหวาน แต่ทงเฮก็ไม่ได้ยินมันแม้แต่น้อย ฮยอกแจจึงเดินเข้าไปยังห้องน้ำก่อนจะออกมาพร้อมกับผ้าชุบน้ำ ฮยอกแจยืนลังเลอยู่นานก่อนจะตัดสินใจถอดเสื้อของทงเฮออก และค่อยๆเช็ดตัวให้อีกคนเพื่อลดไข้น้ำเย็นๆที่ลูบไล้ผ่านกาย ทำให้ทงเฮที่มีสติเพียงน้อยนิดพยายามลืมตาขึ้นมา และก็มองไปยังคนที่กำลังเช็ดตัวให้อยู่นั้นด้วยสายตาที่เลือนราง
“ ซะ ซีวอน....” เอ่ยออกมาคำแรกก็เป็นชื่อของซีวอน ทำเอาฮยอกแจเสียใจที่ไม่ว่าเวลาไหน ทงเอก็ไม่เคยเห็นตนเองอยู่ในสายตา
“ ทงเฮกินยาไหวมั้ย....”
“ ซีวอนมาหาทงเฮหรอ ดีใจจังเลย....” คนตัวเล็กเอื้อมมือไปคล้องลำคอของอีกฝ่ายให้โน้มต่ำลงมา จนเรียกได้ว่าหน้าแทบจะชิดกันอยู่แล้วก็ว่าได้ แต่สิ่งนั้นไม่ได้ทำให้ฮยอกแจตกใจเท่าสิ่งที่ทงเฮกำลังทำ นั้นก็คือจูบเบาๆเข้าที่แก้มของตนเองอย่างอ่อนโยน ทำเอาหัวใจของฮยอกแจลอยไปไกลแสนไกลกับสัมผัสที่ได้รับ ร่างเล็กๆพยายามยันกายตนเองเพื่อให้แนบชิดเข้าไปอีก ทำให้ฮยอกแจพยายามเรียกสติของอีกคนเอาไว้
“ ทงเฮ อย่าทำแบนนี้....”
“ ทำไมล่ะ ซีวอนไม่รักทงเฮหรอ ถึงไม่อยากกอดทงเฮแบบนี้....”
“ แต่ว่า....”
“ ทงเฮรักซีวอนนะ รักที่สุด....” คนตัวเล็กดึงร่างของฮยอกแจให้แนบชิดกันเข้าไปอีก แม้ว่าจะเจ็บปวดที่ตลอดเวลาทงเฮเรียกแต่ชื่อซีวอน ทว่าความสุขและความรักที่มีต่อคนใต้ร่างทำให้ฮยอกแจลืมทุกอย่าง ก่อนจะตักตวงความสุขที่มีเอาไว้จนหมดพร้อมๆกับ ความดีใจที่ตนเองคือคนแรกในชีวิตของทงเฮ แม้ว่าในวันพรุ่งนี้จะเป็นวันเลวร้ายถ้าคนตัวเล็กลืมตาขึ้นมา และจะเกลียดตนเองมากเข้าไปอีกแต่ฮยอกแจก็จะไม่มีวันเสียใจที่ได้ทำแบบนี้ลงไป เพราะทั้งหมดมันคือความรักที่มีให้ทงเฮคนเดียวจนหมดหัวใจ
.....................................................................................................
สวัสดีคะก่อนอื่นเลยต้องขอโทษด้วยนะคะ
ที่พี่หนิงบอกว่าจะลงให้เมื่อวาน แต่ติดแก้ไขเล็กน้อยจึงลงไม่ทัน
ขอโทษด้วยนะคะ T^T
ช่วงนี้อากาศเปลื่ยนแปลง ทุกๆก็อย่าลืมพกร่มกันด้วยนะคะ
เดี๋ยวจะไม่สบายเอานะคะ ส่วนตอนหน้ามาเอาใจช่วยซีวอนกับฮยอกแจกัน
ว่าจะโดนอะไรบ้างหลังจากที่ ฮันคยองและทงเฮตื่นขึ้นมา ^^
ยังไงพี่หนิงก็ขอฝากฟิคเรื่องนี้ด้วยนะคะ รักทุกคนและซีฮันเสมอ
ความคิดเห็น