คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #6 : fic nai he (รักที่เจ็บปวด) sihan 5
“ ช่วยด้วยครับ ช่วยด้วยพี่ฮันจมน้ำ.....” คนตัวเล็กตะโกนสุดเสียงด้วยความกลัวก่อนที่ซีวอนและทุกคน จะขึ้นมาจากน้ำและถามว่าเกิดอะไรขึ้น
“ ทงเฮมีอะไร ใครเป็นอะไร....”
“ พี่ฮัน พี่ฮันจมน้ำครับ....”
“ ที่ไหน ตอนไหนทงเฮ บอกผมมาสิ....” ซีวอนเขย่าร่างของทงฮไปมาอย่างแรงทำเอาทงเฮถึงกับกลัว ซีวอนไม่รอช้าที่จะดำลงไปหาคนที่อยู่ใต้น้ำด้วยความห่วงใย ตอนนี้ทุกคนได้แต่ลุ้นว่าซีวอนจะหาฮันคยองเจอมั้ย เพราะน้ำค่อนข้างลึกอีกอย่างต่อให้ซีวอนแข็งแรงแค่ไหนก็อาจจะหมดแรงได้ ซีวอนดำลงไปอีกครั้งและครั้งนี้เค้าก็พบฮันคยองที่กำลังจะหมดแรง และจมลงไปลึกกว่านี้ซีวอนรีบว่ายไปใกล้ๆก่อนจะคว้าร่างบางเข้ามากอดเอาไว้ทันที ส่วนฮันคยองที่พอจะมีสติอยู่บ้างรู้ว่ามีคนมาช่วยฝ่ามือบางก็รีบโอบกอดรอบคอของอีกคนเอาไว้ จนในที่สุดร่างของทั้งสองก็โผล่พ้นจากน้ำขึ้นมาและตามมาด้วยเสียงเฮ ที่ดีใจเมื่อพบว่าซีวอนช่วยพี่ฮันคยองขึ้นมาได้ ฮยอกแจเอื้อมมือไปรับร่างของพี่ฮันขึ้นมาก่อนจะหาผ้ามาคลุมร่างให้อีกคน
“ พี่ฮันไม่เป็นอะไรนะครับ....” ฮันคยองที่ตอนนี้หมดแรงจะพูดอะไร ได้แต่สั่นหัวเล็กน้อยเป็นคำตอบ ทำให้ซีวอนอดเป็นห่วงไม่ได้ก่อนจะกระชับผ้าให้แน่นกว่าเดิม ก่อนจะก้มลงเอ่ยถามอีกคนด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยน
“ นายเป็นยังไงบ้าง หนาวมั้ย เจ็บตรงไหนรึเปล่า....” ฮันคยองหันไปมองคนที่พูดเล็กน้อย ก่อนจะค่อยๆปัดมือของซีวอนที่จับกุมหัวไหล่ตนเองอยู่นั้นออกไป ทำเอาซีวอนถึงกับหน้าเศร้าที่ไม่ว่ายังไง ฮันคยองก็ไม่ยอมมองตนเองในแง่ดีขึ้นมาบ้าง หลังจากที่ช่วยฮันคยองขึ้นมาได้แล้ว ทั้งหมดก็เดินทางกลับไปยังที่พักเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทำให้หลายคนหมดสนุกเพราะต่างก็เป็นห่วงฮันคยองกัน ทำเอาทงเฮถึงกับแสดงสีหน้าไม่พอใจ เมื่อซีวอนที่อาสาพาฮันคยองเข้าไปพักที่ห้องกำลังเดินออกมา ด้วยใบหน้าที่มีรอยยิ้ม
“ พี่ฮันนอนแล้วหรอ....”
“ หลับไปแล้ว ยาคงจะออกฤทธิ์เลยทำให้หลับเร็ว....” ว่าแล้วซีวอนก็เดินอ้อมมานั่งข้างๆทงเฮ ที่ตอนนี้หน้าตาบ่งบอกได้ดีว่ารู้สึกยังไง
“ พี่ฮันคยองน่าอิจฉาจังเลย มีแต่คนเป็นห่วง....”
“ ทำไมพูดแบบนี้ล่ะทงเฮ ฮันคยองไม่สบายนะเราทุกคนก็ต้องเป็นห่วงสิ....”
“ ถ้าคนที่จมเป็นทงเฮบ้าง ซีวอนจะห่วงแบบนี้รึเปล่า....” คนตัวเล็กหันไปถามซีวอนที่นั่งอยู่ข้างๆ โดยที่ซีวอนไม่ตอบอะไรยิ่งทำให้ทงเฮยิ่งไม่พอใจ
“ ว่าไงล่ะ....”
“ ต่อให้เป็นใครในที่นี้ ผมก็ช่วยหมด....” ซีวอนพูดออกไปอย่างหงุดหงิดก่อนจะเดินออกไป โดยไม่ฟังเสียงเรียกของทงเฮแม้แต่น้อย ทำให้คนตัวเล็กน้อยใจเดินเข้าห้องไปทั้งน้ำตา ยิ่งเห็นว่าทงเฮร้องไห้ฮยอกก็รู้สึกไม่สบายใจ จึงเดินตามเข้าไปปลอบอีกคนด้วยความเป็นห่วง
“ ทงเฮ....”
“ มีอะไร....”
“ นายอย่าร้องไห้เลยนะ ซีวอนอาจจะอารมณ์ไม่ดีเลยพูดแบบนั้นออกไป....”
“ หรอ เมื่อก่อนซีวอนไม่เคยเป็นแบบนี้ แต่พอเจอพี่ฮันคยองของนาย ซีวอนก็เปลื่ยนไปทันที....”
“ มันอาจจะไม่ใช่แบบอย่างที่นายคิดนะ....”
“ เห็นๆอยู่ว่าใครเป็นตัวถ่วง....”
“ เรื่องนี้พี่ฮันไม่เกี่ยวนะ....”
“ เกี่ยวสิ เกี่ยวโดยตรงเลย ถ้าไม่มีพี่ฮันมาเป็นตัวปัญหา พวกเราก็คงจะสนุกกว่านี้....” ฮยอกแจแทบไม่อยากจะเชื่อหูตัวเอง ว่าจะได้ยินคำพูดแบบนี้ออกจากปากของทงเฮคนที่ตนเองแอบรักมานาน ยิ่งทำให้ฮยอกแจรู้สึกน้อยใจกับคำพูดเหล่านี้
“ ถ้าพี่ฮันเป็นตัวปัญหา ชั้นก็จะพาพี่ฮันกลับ เพราะว่าชั้นก็เป็นตัวปัญหาที่เอ่ยชวนพี่ฮันมา ขอโทษที่ทำให้นายไม่สบายใจ....” พูดจบฮยอกแจก็เดินออกไปก่อนจะตรงเข้าไปที่ห้องของฮันคยอง ก็เห็นว่าพี่ชายตนเองนั้นนอนหลับอยู่ก่อนจะเอื้อมมือไปลูบไล้ที่แก้มเบาๆ
“ กลับบ้านเรากันเถอะครับพี่ฮัน ที่นี่ไม่มีใครต้องการเรา....” พูดจบฮยอกแจก็เดินไปบอกคยูฮยอนกับซองมิน ว่าตนเองจะกลับทำให้ซองมินขอตามไปด้วย โดยมีคยูฮยอนรับหน้าที่ขับรถให้ ทันทีที่เก็บของเสร็จฮยอกแจก็อุ้มร่างของพี่ฮันคยองออกมาจากห้อง ทำให้ซีวอนที่ออกไปเดินสงบอารมณ์นั้นเข้ามาเห็น ก็รีบเข้ามาถามว่าจะไปไหนกัน
“ พวกนายจะไปไหนกัน....”
“ผมจะพาพี่ฮันกลับบ้านครับ....”
“ ได้ไง ฮันคยองไม่สบายอยู่นะ....”
“ ก็เพราะว่าไม่สบายไงครับ ผมถึงต้องพาพี่กลับบ้าน....” พูดจบฮยอกก็เดินต่อโดยมีซีวอนมาห้ามเอาไว้
“ เดี๋ยวสิ พวกนายจะไปกันยังไง....”
“ ผมขับรถไปส่งเอง คุณไปดูแลแฟนคุณเถอะ ป่านนี้คงรอให้คุณไปง้ออยู่นะ....”
“ แต่ว่าผม....” ซีวอนไม่รู้จะพูดอะไรได้แต่มองคนกลุ่มนั้นเดินจากไป หลังจากที่คยูฮยอนขับรถออกไปแล้ว ทงเฮก็เดินออกมาจากห้องก่อนจะตีหน้าตายถามถึงคนอื่นๆ
“ ซีวอน คนอื่นๆล่ะไปไหนกันหมด....”
“ กลับไปหมดแล้ว....”
“ อะไรกัน ทำไมทำแบบนี้ล่ะ....”
“ ผมก็ไม่รู้เหมือนกัน....” ซีวอนได้แต่นั่งถอนหายใจอย่างเหนื่อยอ่อน ก่อนที่ทงเฮจะยิ้มออกมาอย่างมีความสุข ก่อนจะโผเข้ากอดร่างของซีวอนอย่างออดอ้อน
“ ซีวอน....”
“ หืม....”
“ เราจะกลับตามไปด้วยหรอ....”
“ แล้วทงเฮล่ะ อยากกลับรึเปล่า....” คนตัวเล็กรีบสั่นหน้าไปมาพรางบีบน้ำตาเพื่อให้อีกคนเห็นใจ
“ เราไม่ได้มาเที่ยวกันนานแล้วนะซีวอน อยู่กับทงเฮที่นี่นะซีวอนนะ....”
“ อยู่ก็อยู่ครับ....” ร่างสูงรั้งร่างของทงเฮเข้ามากอดให้แนบชิดมากกว่าเก่า หากแต่ในสมองเอาแต่คิดถึงฮันคยอง ในใจก็เฝ้าถามคำถามไปๆมาๆว่า ทำไมถึงลืมฮันคยองไม่ได้เสียที ส่วนทางด้านคยูฮยอนที่ขับรถมาส่งทุกคนนั่งนิ่งเงียบ ตั้งแต่อยู่ที่รถจนเมื่อขับออกมาได้สักพักร่างโปร่งจึงเอ่ยบางอย่างออกมา
“ อย่าหาว่าผมอย่าโน่นอย่างนี้เลยนะ ผมว่าทงเฮเหมือนจะหึงซีวอนยังไงอยู่นะ....”
“ นายเอาอะไรมาพูด พี่ฮันเป็นแบบนี้จะไปหึงทำไมกัน....” ซองมินหันไปถามอีกคนอย่างไม่สบายใจ เพราะตนเองก็แอบคิดแบบนั้นอยู่เหมือนกัน
“ คิดดูสิ ไม่ว่าพี่ฮันจะไปไหนซีวอนก็คอยตามไปช่วย ยิ่งตอนที่จมน้ำซีวอนก็เป็นคนแรกที่กระโดดลงไปช่วย....”
“ เรื่องนั้นเป็นใครก็ต้องลงไปช่วย นายคิดมากไปรึเปล่า....”
“ ไม่นะ เพราะผมดูจากแววตาของซีวอนออก....”
“ แววตา แววตาอะไรอ่ะ....”
“ ก็ซีวอนมองพี่ฮันคยอง ด้วยสายตาเดียวกับที่ชั้นมองนายไงซองมิน....” เจอคำพูดนี้เข้าไปทำให้คนอย่างซองมินถึงกับเขิน ได้แต่หันหน้าออกไปมองนอกกระจกโดยไม่มองอีกคนเลย ทำให้คยูฮยอนแอบยิ้มอย่างสบายใจ เมื่อรู้ว่าอีกคนรู้สึกยังไงกับตนเองบ้างถึงแม้มันจะไม่มากก็ตามที ความสุขเล็กๆที่ก่อตัวขึ้นมาอย่างเงียบๆ ผิดกับอีกคนที่นั่งทบทวนกับคำพูดของทงเฮอยู่เพียงลำพัง แม้จะปวดใจกับสิ่งที่อีกคนทำแต่ไม่ว่ายังไงฮยอกแจ ก็ไม่มีทางลืมทงเฮได้เลยไม่ว่าอีกฝ่ายจะไม่ได้คิดกับตนเองแบบนั้นสักนิด ยิ่งคิดก็ยิ่งเสียใจฮยอกแจทำได้แค่รั้งร่างของพี่ฮันคยองเข้ามากอดเอาไว้ในอ้อมแขน และตอนนี้ร่างบางที่หลับสนิทก็เริ่มจะมีไข้ทำให้ฮยอกแจสั่งคยูฮยอนขับรถตรงไปที่โรงพบาบาล ไม่นานนักทั้งหมดก็มาถึงที่โรงพบาบาลและฮันคยองก็ได้รับการรักษา สุดท้ายคุณหมอสั่งให้ร่างบางนอนพักผ่อนที่โรงพยาบาลสักสองสามวัน ทำเอาซองมินที่รู้เรื่องถึงกับไม่ยอมกลับบ้าน ตั้งท่าจะเฝ้าฮันคยองที่โรงบาลท่าเดียว
“ ฮยอกกับคยูกับบ้านไปก่อนก็ได้นะ เดี๋ยวชั้นดูแลพี่ฮันเอง....”
“ ได้ยังไง นายนั้นแหละที่ต้องกลับบ้านคนแรกเลย....”
“ ไม่เอา ชั้นไม่กลับ....”
“ กลับเถอะซองมิน พรุ่งนี้นายค่อยมาใหม่ก็ได้....” ซองมินทำหน้างออย่างไม่พอใจสุดท้ายก็จำยอม กลับบ้านไปพร้อมกับคยูฮยอนที่มาส่างอีกคนที่บ้าน ระหว่างทางที่มาส่งอยู่ๆเสียงโทรศัพท์ของคยูฮยอนก็ดังขึ้น ร่างโปร่งหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูก็พบว่าเป็นชื่อของซันนี่ ก่อนจะรีบกดสายทิ้งทำให้ปลายสายถึงกับน้ำตาไหล เมื่อคิดว่าคยูฮยอนตอนนี้อยู่กับใครอื่นที่ไม่ใช่ตนเอง แต่นั้นก็ไม่สำคัญเท่าถ้าคยูฮยอนรู้ว่าตนเองท้อง จะยังคงรักกันเหมือนเดิมรึเปล่า ยิ่งคิดก็ยิ่งกลัวทำให้ซันนี่ค่อยๆล้มตัวลงนอน
สองแขนค่อยๆเอื้อมมาลูบที่ท้องตนเองเบาๆอย่างมีความสุข อย่างน้อยลูกในท้องก็คือของสำคัญที่ตนเองยังมีอยู่ในตอนนี้ หลังจากที่ขับรถมาส่างซองมินแล้วคยูฮยอนก็รีบขับรถ กลับไปหาคนที่โทรมาเมื่อสักครู่ทันทีที่เข้ามาในบ้าน ก็พบเพียงความมืดก่อนที่ร่างโปร่งจะเดินไปที่ห้องนอนอย่างเบาๆ และก็พบว่าคนที่ตนเองคิดถึงนั้นกำลังนอนหลับอยู่ คยูฮยอนจึงเดินเข้าไปคลุมผ้าห่มให้อีกคนและรีบเดินไปอาบน้ำ และมานอนเคียงข้างอีกคนให้หายความคิดถึง เวลายามค่ำคืนค่อยๆล่วงเลยผ่านไปจนเข้าสู่วันใหม่ ค่อยๆปลุกให้ซันนี่ที่นอนหลับลืมตาขึ้นมา และก็พบว่าคยูฮยอนยังคงนอนหลับเคียงข้างตนเอง ทำเอาซันนี่ถึงกับไม่เชื่อสายตาตัวเอง ก่อนจะหลับตาลงอย่างช้าๆและลืมตาขึ้นมาอีกครั้ง และครั้งนี้ใบหน้าของคยูฮยอนก็ยังคงอยู่ข้างๆตนเอง ทำให้ซันนี่อดไม่ได้ที่จะเอื้อมไปลูบไล้ใบหน้าของคนรักอย่างอ่อนโยน
“ คยูกลับมาแล้ว คยูกลับมาหาซันนี่แล้วจริงๆ....” หยดน้ำแห่งความคิดถึงเอ่อล้นรอบดวงตาหวาน ก่อนจะค่อยๆหยดลงบนหมอนอย่างไม่ขาดสาย เสียงสะอื้นที่ดังขึ้นปลุกให้คยูยอนลืมตาตื่นขึ้นมา ก็พบว่าอีกคนกำลังร้องไห้อยู่ก็รีบดีดกายลุกขึ้นมา ก่อนจะเช้ดคราบน้ำตาอีกคนออกอย่างอ่อนโยน
“ ร้องไห้ทำไมกันคนดี ผมอยู่ตรงนี้แล้ว....”
“ ซันนี่ ซันนี่ไม่คิดว่าคยูจะมา....”
“ ยังไงผมก็ต้องกลับมาหาคุณอยู่วันยังค่ำ....”
“ ซันนี่ขอโทษ....” ร่างบางโผเข้าหาอ้อมกอดของคยูฮยอนทันที ก่อนที่อีกคนจะปลอบโยนคนในอ้อมกอดราวเด็กน้อยที่เสียขวัญ
“ จะขอโทษผมทำไมกัน ผมสิต้องขอโทษซันนี่นะ....”
“ เพราะว่าซันนี่อ่อนแอ เป็นตัวถ่วงคยูตลอดเวลา....”
“ ห้ามพูดแบบนี้อีก ไม่ว่าซันนี่จะเป็นยังไงผมก็รักเสมอ ว่าแต่วันนั้นที่โทรมาซันนี่มีเรื่องอะไรหรอ....” ร่างบางถึงกับนิ่งสนิทไม่รู้จะพูดยังไง รู้สึกกลัวไปหมดถ้าบอกแล้วโดนเกลียดตนเองก็คงจะอยู่ไม่ได้ ซันนี่จึงได้แต่เงียบทำเอาคยูฮยอนยิ่งยากรู้คำตอบ
“ ว่าไงครับ ซันนี่มีเรื่องอะไร....”
“ ไม่มีคะ แค่คิดถึงคยูก็เลยโทรหา....”
“ ซันนี่ คุณรู้ใช่มั้ย ว่าผมไม่ชอบคนโกหก....” สายตาที่ดูจริงจังทำให้ซันนี่จำต้องบอกสิ่งที่ตนเองกลัวออกไป
“ ถ้าบอกแล้วคยูจะ....”
“ เชื่อใจผม มีอะไรก็บอกผม....”
“ ได้คะ ซันนี่ไปหาหมอมา หมอบอกว่าซันนี่ท้อง....”
“ จริงหรอ....” คยูฮยอนถึงกับอึ้งที่ได้ยินคำตอบนี้ ไม่ใช่ว่าไม่ดีใจที่อีกคนกำลังท้อง หากแต่ไม่รู้จะไปพูดให้บิดาฟังยังไงถึงเรื่องราวทั้งหมด และที่สำคัญบิดาตนเองคงจะไม่ยอมรับซันนี่เป็นแน่ อาการทีนิ่งไปของคยูฮยอนทำเอาใจของอีกคนถึงกับปวดร้าว เมื่อคิดเองว่าอีกฝ่ายคงจะเสียใจที่ตนเองท้อง
“ ถ้าคยูไม่ต้องการเด็กคนนี้ ซันนี่ก็จะ....”
“ อย่านะ ห้ามคิดทำอะไรแบบนั้นกับลูกของเรา....”
“ คยูจะ....”
“ ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น ผมจะดูแลคุณกับลูกตลอดไป....” เพียงแค่ได้ยินคำๆนี้ซันนี่ก็ถึงกับปล่อยโฮ เพราะคิดมาตลอดเวลาว่าร่างโปร่งจะไม่ต้องการเด็กในท้อง แต่ทันทีที่ได้ยินคำมั่นสัญญาซันนี่ก็ดีใจเป็นที่สุด ที่ไม่ว่ายังไงคยูฮยอนก็ยังคงรักตนเองอยู่บ้าง ส่วนทางด้านซองมินที่รีบตื่นแต่เช้าไปเยี่ยมไข้พี่ฮันคยอง ก็แวะซื้ออาหารไปฝากฮยอกแจด้วย เพราะรู้ดีว่าอีกคนคงไม่ยอมห่างพี่ฮันไปไหนเป็นแน่ ซองมินจึงรีบซื้อและรีบนำไปให้อีกคน ทันทีที่คนตัวเล็กมาถึงสิ่งแรกที่เห็นก็คือรอยยิ้มหวานๆ ที่ส่งมาให้พี่ฮันคยองที่ลืมตานั่งอยู่บนเตียงด้วยความรัก
“ พี่ฮันฟื้นแล้ว....” ตอนนี้ซองมินแทบจะไม่สนใจฮยอกแจที่รอของกินแม้แต่น้อย เพราะอีกคนรีบตรงไปกุมมือพี่ฮันคยองเอาไว้ทันที
“ ผมดีใจที่พี่ฮันไม่เป็นอะไรแล้ว....”
“ พี่ก็ดีใจที่เห็นเรา....”
“ พี่ฮันหิวมั้ยครับ ผมซื้อของกินมาเยอะเลยนะ....” ว่าแล้วคนตัวเล็กก็รีบจัดแจงเอาอาหารใส่จานให้พี่ฮันคยอง
“ กินเยอะๆนะครับพี่ฮัน....”
“ แล้วเรากับฮยอกล่ะ ไม่มากินด้วยกัน....”
“ ผมซื้อมาฝากฮยอกแล้ว พี่ฮันทานก่อนเลย....” ฮันคยองหันไปมองฮยอกแจที่นั่งอยู่บนโซฟา ก่อนที่น้องชายสุดที่รักจะลุกขึ้นมายิ้มให้พี่ฮันคยองอย่างอ่อนโยน
“ พี่ฮันทานเลยครับ ผมต้องรีบไปทำงานแล้ว ป่านนี้มีคนบ่นผมอยู่เป็นแน่....”
“ แล้วเราจะไปยังไง....”
“ ผมนั่งรถไปครับ แล้วบ่ายๆจะมาหาพี่นะครับ....”
“ ไปเถอะ พี่อยู่ได้ไม่ต้องห่วง....”
“ ใช่ ยังมีผมอยู่ทั้งคนไม่มีใครทำอะไรพี่ฮันได้แน่นอน....” ฮยอกแจเห็นอย่างนั้นก็ว่างใจ ก่อนจะเดินไปหยิบกระเป๋าและรีบออกไปทำงาน ทิ้งให้ซองมินกับพี่ฮันคยองอยู่กันตามลำพัง หลังจากที่ทานอาหารกันเสร็จแล้วซองมินก็รีบลากเก้าอี้มานั่งข้างๆพี่ฮัน ก่อนจะกุมมือของอีกคนเอาไว้พรางเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงที่จริงจัง
“ ผมมีอะไรจะถามพี่ฮัน....”
“ มีอะไรหรอ ทำไมต้องทำหน้าจริงจังด้วย....”
“ พี่ฮันต้องสัญญาก่อน ว่าจะตอบความจริงทุกย่าง....”
“ เรื่องอะไรล่ะ ถ้าพี่ตอบได้ก็จะตอบ....”
“ ตอนที่พี่จมน้ำ พี่ฮันลงไปในน้ำได้ยังไงครับ....” เจอคำถามนี้เข้าไปฮันคยองถึงกับนิ่ง ยิ่งทำให้ซองมินพอเดาออกว่ามันต้องเป็นอย่างที่ตนเองคิดแน่นอน
“ ว่าไงครับพี่ฮัน ใครพาพี่ไป....”
“ พี่ จำไม่ได้....”
“ พี่ฮัน....”
“ ถ้าพี่บอกเราแล้ว ต้องสัญญากับพี่นะว่าจะไม่บอกฮยอกแจ....”
“ ครับ ผมให้สัญญาว่าจะไม่บอกฮยอกแจ....”
“ ทงเฮชวนพี่ลงน้ำ....”
“ นั้นไง ผมคิดเอาไว้แล้วเชียวว่าต้องเป็นทงเฮ คนอะไรร้ายกาจที่สุดเลย....”
“ อย่าไปโทษทงเฮเลยนะ พี่เองก็ไม่ระวังเองจะไปโทษใครก็ไม่ได้....”
“ แต่อย่างน้อย เค้าก็น่าจะรู้ว่าพี่ฮันเดินไม่ได้ ถ้าจมน้ำไปจะทำยังไงครับ....”
“ พี่ขอโทษนะที่ทำให้ทุกคนเป็นห่วง....”
“พี่ฮันไม่ผิดครับ อย่าคิดมากเลยนะครับพี่ฮัน....” ซองมินลูบมือพี่ฮันอย่างให้กำลังใจ ทำเอาฮันคยองอดไม่ได้ที่จะลูบศรีษะซองมินอย่างเอ็นดูในความน่ารักของอีกคน ส่วนทางด้านฮยอกแจที่มาถึงที่ทำงาน ก็พบว่าสองคนนั้นได้กลับมาจากที่ทะเลกันแล้ว ฮยอกแจจึงทำเป็นไม่เห็นสองคนนั้นพรางเดินเลยผ่านไป ทำให้ซีวอนที่อยากรู้เรื่องฮันคยอง เอ่ยเรียกทักอีกคนเอาไว้ก่อนทำให้ทงเฮเริ่มไม่พอใจขึ้นมา แต่ไม่กล้าแสดงอะไรออกไปมากกว่านี้
“ ฮยอกอย่าเพิ่งไปสิ....”
“ มีอะไรหรอครับ....”
“ ชั้นจะถามถึงอาการของพี่นาย ว่าเป็นยังไงบ้าง....”
“ ก็ไม่มีอะนี่ครับ ถ้าไม่มีอะไรแล้วผมขอตัว....”
“ ที่ซีวอนถามก็เพราะว่าเป็นห่วง ทำไมต้องทำท่าไม่อยากบอกด้วยล่ะ....”
“ ก้แล้วถ้าผมบอก กลัวจะมีคนไม่พอใจพี่ฮันผมอีกนะสิ....” ฮยอกแจมองหน้าทงเฮอย่างรอคำตอบ แต่คนตัวเล็กก็ได้แต่มองอีกฝ่ายอย่างเย้ยหยัน ยิ่งทำให้ฮยอกแจรู้สึกปวดใจมากเข้าไปอีก ผิดกับซีวอนที่อยากจะรู้เรื่องของอีกคนใจแทบขาดเช่นกัน
“ ว่าไงล่ะฮยอก พี่นายเป็นยังไงบ้าง....” ฮยอกแจมองหน้าทงเฮเล็กน้อย ก่อนจะหันไปบอกอาการของพี่ฮันคยอให้ซีวอนได้รับรู้
“ ตอนนี้พี่ฮันนอนพักอยู่ที่โรงพยาบาล....”
“ ฮันคยองเป็นอะไรมากมั้ย....”
“ เป็นไข้หวัดธรรมดาครับ....”
“ แล้วอยู่ที่โรงพยาบาลไหน ชั้นจะไปเยี่ยม....”
“ ซีวอน ทำไมต้องไปด้วยล่ะ....”
“ ทงเฮ ที่เค้าเป็นแบบนั้นเพราะเราดูแลเค้าไม่ดีนะครับ....”
“ ก็แค่ไข้หวัด ไม่ได้ตายสักหน่อย....”
“ ทงเฮ....”
“ ก็ได้ ทงเฮจะไม่พูดแบบนั้นอีก ว่าแต่พี่นายอยู่ที่ไหนล่ะ....” ฮยอกแจจำใจบอกถึงที่อยู่ของโรงพยาบาลให้ทั้งสองรู้ แม้ว่าจะไม่อยากพูดออกไปแต่ซีวอนก็คงไม่ยอมเลิกรา ถ้าไม่ได้รู้ว่าพี่ฮันคยองรักษาตัวอยู่ที่ไหน จนเมื่อถึงเวลาพักเที่ยงทั้งสามคนก็เดินทางไปเยี่ยมฮันคยองที่โรงพยาบาลพร้อมกัน วินาทีแรกที่เห็นว่าใครมาฮันคยองก็อยากจะหลับตาหนี แต่ก็ไม่อาจทำได้ดั่งที่ใจคิดจำต้องฝืนยิ้มให้คนที่มาเยี่ยมด้วยความจำใจ ผิดกับซีวอนที่รีบเดินมาหาร่างบางที่เตียงอย่างรวดเร็ว
“ ผมมาเยี่ยม....” ซีวอนถือโอกาสจับฝ่ามือของอีกคนเอาไว้อย่างห่วงใย แต่ภาพของทงเฮที่ยืนอยู่ข้างหลังซีวอน ทำให้ฮันคยองค่อยๆดันมือของอีกคนออกอย่างเบาๆ
“ ขอบคุณครับ แต่ผมไม่เป็นอะไรมากแล้ว....”
“ นายเป็นยังไงบ้าง มีไข้รึเปล่า....” ซีวอนเผลอเอื้อมมือจะอังหน้าผากของอีกคน ทำให้ฮันคยองผละหนีแทบไม่ทัน
“ ผมไม่เป็นอะไรแล้ว อีกสองวันก็คงกลับบ้านได้....”
“ แต่ว่าชั้น....”
“ ซีวอน พี่ฮันบอกว่าไม่เป็นอะไรแล้ว ก็อย่าเส้าซี้พี่ฮันเลย....” คนตัวเล็กผละออกจากวงแขนของซีวอนก่อนจะเดินไปใกล้ๆร่างบาง ก่อนจะยิ้มให้อีกคนอย่างอ่อนโยนทั้งๆที่ในใจรู้สึกอิจฉาที่ซีวอนแสดงท่าทีเป็นห่วงคนตรงหน้ามากมาย
“ พี่ฮันรู้มั้ย ว่าทงเฮรู้สึกผิดตลอดเวลา ที่ทำให้พี่ไม่สบาย....”
“ มันไม่ใช่ความผิดของทงเฮเลย อย่าคิดมาก....” คนตัวเล็กแกล้งบีบน้ำตาก่อนจะซบลงที่ไหล่ของพี่ฮันอย่างเสียใจ มือข้างขวาก็บีบแขนฮันคยองที่มีเข็มเอาไว้อย่างแรง ทำให้ร่างบางต้องนิ่วหน้าด้วยความเจ็บ
“ พี่ฮันรู้มั้ย ทุกๆคนคิดว่าทงเฮทำร้ายพี่ฮัน พี่ฮันบอกพวกเค้าทีสิครับ ว่าทงเฮไม่ได้ทำแบบนั้น....” ทงเฮออกแรงบีบที่แขนของฮันคยองให้แรงขึ้นอีก พรางกระซิบออกคำสั่งให้ฮันคยองทำตามตนเองให้ได้ยินกันเพียงสองคน
“ บอกไปสิ ว่าชั้นไม่ได้ทำ....” ฮันคยองกัดริมฝีปากตนเองอย่างแรงเพื่อบรรเทาความเจ็บ ที่ทงเฮบีบแขนตนเองเอาไว้ก่อนจะยอมทำตามที่คนตัวเล็กบอกมาทั้งหมด ไม่ใช่เพราะว่ากลัวหรืออะไร หากแต่ความเจ็บที่มีมันเยอะจนฮันคยองจะทนไม่ไหว
“ เรื่องที่เกิดขึ้น มันเป็นอุบัติเหตุ ไม่เกี่ยวกับทงเฮเลย....” ทันทีที่ได้ยินคำตอบนั้นแล้วทงเฮก็ค่อยๆคลายมือตนเองออก ก่อนจะเดินไปควงแขนซีวอนเอาไว้ด้วยความเป็นเจ้าของ
“ ทีนี้ทุกๆคนคงไม่เข้าใจทงเฮผิดอีกแล้วใช่มั้ย ใช่มั้ยซีวอน....”
“ ใช่ครับ....”
“ ถ้าอย่างนั้นเรากลับกันดีกว่า พี่ฮันจะได้พักผ่อนเยอะๆ....”
“ ผมกลับก่อนนะ....” ฮันคยองไม่พูดอะไรสักคำได้แต่ยิ้มน้อยๆให้เป็นคำตอบ ก่อนจะหันไปทางฮยอกแจด้วยใบหน้าที่อ่อนโยน
“ แล้วฮยอกล่ะ จะกลับไปทำงานเลยมั้ย....”
“ กลับครับ แล้วตอนเย็นผมจะมาหาพี่นะ....”
“ พี่จะรอ....” พูดจบฮันคยองก็ล้มตัวลงนอนราวกับต้องการพักผ่อน ทั้งๆที่ความจริงแล้วนั้นเป็นเพราะความเจ็บปวดที่แขนมันแล่นขึ้นมา ทำเอาฮันคยองถึงกับกลั้นน้ำตาเอาไว้ไม่อยู่ แต่ไม่อยากให้ใครได้เห็นจึงแสร้งทำเป็นอนหลับ ก่อนจะพูดในใจเพียงคนเดียวว่า ไม่ว่ายังไงก็จะไม่ขอพบเจอและยุ่งเกี่ยวกับคนที่ชื่อซีวอนอีกเด็ดขาด เพราะไม่ว่าจะเจอคนๆนี้ในสถานะไหนตนเองก็ต้องเจ็บตัวอยู่เสมอ
...............................................................................
สวัสดีคะรีดเดอร์ที่น่ารักทุกคน ยังจำficเรื่องนี้ได้มั้ย
^^ พี่หนิงดองเอาไว้นานเลยเนอะ ต้องขอโทษด้วยนะคะ
หวังว่าทุกๆยังไม่ลืมเรื่องนี้กันนะคะ ช่วยเป็นกำลังใจให้พี่หนิงต่อไปด้วยนะ
รักทุกๆคนและซีฮันเสมอ
ความคิดเห็น