ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    fic nai he รักที่เจ็บปวด.....sihan eunhae kyumin

    ลำดับตอนที่ #5 : fic nai he (รักที่เจ็บปวด) sihan 4

    • อัปเดตล่าสุด 19 เม.ย. 56








    บรรยกาศที่ดูสวยงามกลับกลายเป็นภาพที่น่าหวาดกลัว เมื่อคนที่เกลียดที่สุดกลับมาอยู่ตรงหน้าและพยายามจะเข้ามาหา ทำให้ความกลัวที่ฝังใจของฮันคยองนั้นส่งผลให้อีกคน ถอยกายหนีซีวอนอย่างไม่ฟังเสียงเรียกของอีกคน
     

     

    “ ออกไปให้พ้นหน้าชั้นนะ อย่ามาถูกตัวชั้น....”
     

     

    “ นายหยุดฟังชั้นพูดก่อนจะได้มั้ย ชั้นไม่ได้จะมาทำร้ายนายนะ....”
     

     

    “ ไม่ ชั้นไม่ฟัง ออกไปนะ ออกไป....” ฮันคยองพยายามใช้สองมือยันกายตัวเองเพื่อหนีอีกคน โดยไม่ได้ระวังทำให้ฝ่ามือบาดเข้ากับเปลือกหอยอย่างจัง
     

     

    “ โอ๊ย....” มือเรียวบางมีเลือดสีเข้าไหลลออกมา ซีวอนเห็นอย่างนั้นก็ตกใจก่อนจะรั้งเรียวขาของอีกคนเอาไว้ได้ และจับหัวไหล่บางเอาไว้ไม่ให้อีกคนหนีไปไหนได้
     

     

    “ ปล่อยชั้น ปล่อย....”
     

     

    “ ไม่ปล่อย จนกว่าเราจะพูดกับรู้เรื่อง....”
     

     

    “ ไม่ ชั้นไม่มีอะไรจะพูดกับคนอย่างนาย....”
     

     

    “ เจ็บแล้วยังจะดื้ออีกนะ มาดูแผลหน่อยสิ....” ซีวอนคว้าข้อมมือของอีกคนมาดูอย่างง่ายดายเลือดสีเข้มที่ยังคงไหลออกมาอย่างไม่หยุด ทำให้ซีวอนฉีกเสื้อของตัวเองเพื่อจะเอามาพันข้อมือของอีกคนเอาไว้
     

     

    “ นายจะทำอะไร....”
     

     

    “ เดี๋ยวก็รู้....” ซีวอนไม่พูดอะไรก่อนจะลงมือพันแผลอีกคนเอาไว้อย่ารวดเร็ว แม้ว่าคนตรงหน้าจะดิ้นและขัดขืนแค่ไหนก็ไม่อาจจะสู้แรงของร่างสูงได้เลย และสิ่งที่ซีวอนกำลังจะทำต่อไปนี้ทำเอาฮันคยองถึงกับตกใจคิดว่าอีกคนจะลวนลามตนเอง
     

     

    “ นายจะทำอะไร....”
     

     

    “ ก็จะพานายไปหาหมอไง....”
     

     

    “ ไม่ ปล่อยชั้นลงนะ ช่วยด้วย ช่วยด้วย....” ฮันคยองตะโกนร้องขอความช่วยเหลือจนสุดเสียงก็ไม่มีวี่แววว่าใครจะผ่านมา ฝ่ามือบางทุบตีเข้าที่อกของซีวอนอย่างนับไม่ถ้วนปากก็พร่ำร้องขอความช่วยเหลือ ทำให้ซองมินและคยูฮยอนที่กำลังจะเดินออกมาเห็นก็รีบวิ่งมาช่วยเอาไว้
     

     

    “ หยุดนะ นายจะทำอะไรพี่ฮัน ปล่อยพี่ฮันเดี๋ยวนี้....”
     

     

    “ ซองมิน คยูช่วยพี่ด้วย....” คยูฮยอนเดินเข้าไปหาซีวอนก่อนจะเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงที่เรียบเฉย
     

     

    “ ปล่อยพี่ฮันลงด้วยครับ....” ซีวอนมองหน้าคยูฮยอนอยู่ครู่นึงก่อนจะยอมปล่อยฮันคยองลง ทันทีที่เป็นอิสระฮันคยองก็โผเข้าหาอ้อมกอดของคยูฮยอนอย่างเป็นที่พึ่งทันที
     

     

    “ คยู พาพี่ไปจากที่นี่ที....”
     

     

    “ ครับพี่ฮัน....” พูดจบคยูฮยอนก็อุ้มร่างของพี่ฮันเอาไว้ในอ้อมกอด ภาพที่ฮันคยองกอดคอคยูฮยอนเอาไว้ราวกับเชื่อมั่นในอ้อมแขนของคนๆนั้น ว่าจะปกป้องตนเองได้ทำให้หัวใจของซีวอนรู้สึกเจ็บปวดเล็กน้อย แต่ก็ยอมรับว่าสิ่งที่ตนเองทำลงไปนั้นสมควรแล้วที่จะให้อีกคน แสดงท่าทีรังเกียจกันอย่างชัดเจน คยูฮยอนอุ้มฮันคยองมายังที่บ้านพักก่อนจะลงมือทำแผลให้อีกคนอย่างอ่อนโยน ใบหน้าหวานที่คอยชำเลืองมองดูซีวอนที่ยืนกอดอกอยู่ที่หน้าประตู และจ้องมองมาที่ตนเองโดยไม่ละสายตาไปไหน จนเมื่อเสียงเรียกที่ดังขึ้นจากทางด้านหลังทำให้คนกลุ่มนี้ หันไปพร้อมเพรียงกันและก็พบว่าทงเฮกับฮยอกแจ กำลังเดินเข้ามาที่บ้านด้วยหน้าตาที่มีความสุข
     

     

    “ อ้าว ซีวอนมาถึงนานแล้วหรอ....”
     

     

    “ ก็สักพักแล้วล่ะ ทงเฮไปไหนมาหรอ....” ร่างสูงรับของจากมือของทงเฮก่อนจะใช้ฝ่ามืออีกข้าง โอบกอดคนตัวเล็กเอาไว้ในอ้อมกอด
     

     

    “ไปซื้ออาหารทะเลมาทำกินกัน ซีวอนดูสิเราได้มาเยอะเลยนะ....” ทงเฮยกถุงขึ้นมาให้ซีวอนดูก่อนจะคู่จะเดินหายเข้าครัวไป ทิ้งให้ฮยอกแจที่ยืนมองดูอยู่รู้สึกตัวก็หันไปทางพี่ฮันคยอง ก็พบว่าฝ่ามือบางมีเลือดไหนออกมาก่อนจะวางถุงนั้นลง และเข้าไปจับมือของอีกฝ่ายขึ้นมาดูอย่างห่วงใย
     

     

    “ พี่ฮันไปโดนอะไรมาครับ....” ทั้งสามคนต่างมองหน้ากันโดยไม่พูดอะไรสุดท้าย ฮันคยองก็เอ่ยออกไปว่ามันเป็นแค่อุบัติเหตุ ทำให้ฮยอกแจเบาใจลงได้บ้างก่อนที่ทั้งหมดจะช่วยกันจัดแจง ของทะเลสดๆที่ได้มากันอย่างมีความสุขและนั้นก็ทำให้ซองมินและคยูฮยอนรู้ว่า ซีวอนเป็นเจ้าของทริปครั้งนี้และไม่ใช่คนร้ายอะไรอย่างที่เข้าใจครั้งแรก ค่ำคืนที่อบอุ่นไปด้วยความสุขแห่งการพักผ่อน ทำให้ฮันคยองที่เผลอยิ้มออกมาอย่างมีความสุขเช่นกัน แต่พอหันไปเจอซีวอนรอยยิ้มนั้นก็หายไปจากใบหน้าทันที หลังจากที่นั่งทานอาหารกันแล้วทั้งหมดก็นั่งล้อมกองไฟ ก่อนจะพูดคุยกันอย่างสนุกสนานจนเมื่อทงเฮเอ่ยถามคำถาม ที่ตรงใจซีวอนมากที่สุดนั้นก็คือเหตุผลที่ทำให้ฮันคยองต้องนั่งรถเข็นเช่นนี้

     

     

    “ ทงเฮอยากรู้ว่าพี่ฮันนั่งรถเข็นแบบนี้ตั้งแต่เกิดหรือว่า....”
     

     

    “ พี่ประสบอุบัติเหตุครับ ก็เลยทำให้เป็นแบบนี้....”
     

     

    “ คนขับรถนั้นก็ใจร้ายนะครับ ชนพี่ไปได้...” เจอแบบนี้เข้าไปซองมินถึงกับพูดไม่ออกก่อนจะบอกว่าคนที่ชนเป็นตัวเอง และเล่าถึงเรื่องราววันนั้นพร้อมกับฮยอกแจอย่างไม่มีตกหล่นทำให้ซีวอนที่อยากรู้ พยายามตั้งใจฟังทุกรายละเอียดจนเสียงใสๆของฮันคยองทักขึ้นมา ทำให้ซองมินถึงกับหยุดเล่าต่อทันที
     

     

    “ พี่ง่วงแล้วล่ะ ฮยอกพาพี่ไปเข้าห้องที....”
     

     

    “ ไปสิครับพี่ฮัน....”
     

     

    “ อะไรอ่ะ ทงเฮยังฟังไม่จบเลยนะ ฮยอกนั่งลงเลยเล่าต่ออยู่ก่อนนะครับพี่ฮัน นะพี่ฮัน....”
     

     

    “ แต่พี่อยากไปพักผ่อนจริงๆนะทงเฮ....”
     

     

    “ เดี๋ยวผมไปส่งให้เอง ฮยอกจะได้เล่าต่อ....” เจอคำพูดแบบนี้ทำให้ฮันคยองแทบอยากจะเปลื่ยนใจขึ้นมา แต่ก็ไม่ทันเมื่อร่างบางถูกซีวอนอุ้มจากเก้าอี้จนตัวลอย ไม่มีเสียงพูดใดๆเล็ดลอดออกมาเพราะฮันคยองไม่อยากจะให้ใครรู้ ว่าตนเองกับซีวอนเคยรู้จักกันมาและซีวอนก็เป็นหนึ่งในสาเหตุครั้งนี้ ซีวอนอุ้มฮันคยองเดินห่างออกมาจากกลุ่มแล้วเสียงของฮันคยอง ก็สั่งให้อีกคนปล่อยตนเองเสียที
     

     

    “ ปล่อยชั้นได้แล้ว....”
     

     

    “ ยังไม่ถึงห้องเลย จะปล่อยยังไง....”
     

     

    “ มันก็เรื่องของชั้น ปล่อยสิ....” ซีวอนหันมาสบตากับอีกคนก่อนจะยื่นหน้าไปใกล้ๆ ทำเอาฮันคยองเบี่ยงหน้าหนีไม่ทัน
     

     

    “ อย่าดื้อจะได้มั้ย....”
     

     

    “ชั้นไม่ได้ดื้อ แต่ไม่อยากอยู่ใกล้คนอย่างนาย....”
     

     

    “ ทำไม คนอย่างผมมันไม่ดีตรงไหน....”
     

     

    “ ก็คิดเอาเองสิ....” อีกคนก็เถียงอย่างไม่ยอมเช่นกันสุดท้ายซีวอนก็ต้องเป็นฝ่ายแพ้ ก่อนจะพาอีกคนไปที่ห้องนอนโดยไม่พูดอะไรอีก ร่างสูงวางร่างบางของฮันคยองลงบนเตียงอย่างอ่อนโยน ก่อนจะคว้าผ้าห่มมาคลุมให้อีกคนอย่างห่วงใย ฮันคยองคว้าผ้าห่มมาคลุมกายเอาไว้อย่างหวาดกลัว จนเมื่อซีวอนเดินออกไปแล้วร่างบางจึงยิ้มออกอย่างอย่างโล่งอก ซีวอนยืนอยู่หน้าห้องพรางใช้ความคิดทบทวนอะไรบางอย่าง ก่อนจะเดินกลับไปที่กลุ่มด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้มแต่ในใจกลับมีคำถามที่ค้างคาอยู่มากมาย จนเมื่อท้องฟ้าเริ่มมืดลงทุกคนจึงแยกย้ายกันไปนอนและระหว่างนั้น ซีวอนก็รีบมาดักรอพบเจอฮยอกแจเพื่อถามคำถามที่คาใจ

     

     

    “ เดี๋ยวสิฮยอก ชั้นมีเรื่องจะถามอะไรนายหน่อย....”
     

     

    “ ว่ามาสิครับ ถ้าผมรู้ก็จะตอบ....”
     

     

    “ วันที่พี่ฮันนายโดนซองมินขับรถชน วันนั้นมันเป็นวัน....”
     

     

    “ วันเกิดผมเองครับ พี่ฮันออกไปซื้อเค้กและดอกไม้ให้ผม แต่กลับมาเจอเรื่องเลวร้ายแบบนั้น....”
     

     

    “ ชั้นขอโทษนะที่ถามแบบนั้นออกไป....”
     

     

    “ ไม่เป็นไรครับ แต่ที่ผมยังเจ็บใจอยู่ก็คือผม ยังไม่รู้ว่าวันนั้นมันเกิดอะไรกับพี่ฮันบ้าง....” ฮยอกแจหยุดคำพูดเอาไว้แค่นั้นยิ่งทำให้ซีวอนยิ่งอยากรู้ ก่อนจะถามอีกคนอย่างรีบร้อน
     

     

    “ ที่ว่าไม่รู้คือ....”
     

     

    “ วันที่ผมไปเจอพี่ฮันที่โรงพยาบาล ตามตัวพี่ฮันมีแต่รอยเต็มตัวไปหมด รอยนั้นไม่ต้องบอกก็รู้ว่าคืออะไร แต่ผมไม่อยากจะถามให้พี่ฮันเสียใจ ไม่อยากให้พี่ฮันคิดถึงมันอีก....” ซีวอนถึงกับนิ่งไปเมื่อได้ยินคำตอบแบบนี้ ทุกอย่างที่ฮยอกพูดมาและคนๆนั้นก็คือเค้าเองที่ทำร้ายฮันคยอง ซีวอนไม่พูดอะไรต่อก่อนจะเดินขึ้นไปยังห้องนอนของตนเอง แม้ว่าจะพยายามข่มตาให้หลับแต่ภาพและน้ำเสียงของฮันคยองกับผุดขึ้นมาในความคิด ทำเอาซีวอนถึงกับนอนไม่หลับไม่รู้จะทำยังไงดีกับสิ่งที่เกิดขึ้น
    มันเป็นเพราะความเข้าใจผิดเพราะอารมณ์ชั่ววูบของตนเอง ที่ทำให้อณาคตของอีกคนต้องมาพังทรายเพราะฝีมือของเค้า ค่ำคืนนั้นซีวอนแทบจะไม่ได้นอนจนฟ้าสว่างซีวอนก็ไม่รอช้าที่จะอาบน้ำแต่งตัว และลงไปรอพบใครอีกคนที่กำลังจะออกมาจากห้องนอนเช่นกัน และวินาทีที่เห็นว่าซีวอนยืนอยู่ฮันคยองก็บังคับรถเข็นให้กลับเข้าห้องไปตามเดิม แต่ก็ถูกซีวอนคว้าเอาไว้ได้ทันและดันรถเข็นให้เข้าห้องไปอย่างง่ายดาย แม้ว่าฮันคยองจะโวยวายแค่ไหนซีวอนก็ไม่ฟังก่อนจะปิดประตูห้องและล็อกกลอนเอาไว้ ทำเอาฮันคยองถึงกับหน้าถอดสีเมื่อเห็นใบหน้าที่นิ่งเงียบของอีก

     

     

    “ นายมีอะไร....”
     

     

    “ ชั้นอยากจะรู้ความจริง.....”
     

     

    “ ความจริงอะไร ชั้นไม่มีอะไรจะพูด....”
     

     

    “ ก็ความจริงที่ว่าชั้นเป็นคนทำให้นายต้องเป็นแบบนี้ไง....” ฮันคยองถึงกับพูดไม่ออกเมื่อเจอคำถามแบบนี้ ใบหน้าหวานรีบหันไปอีกทางไม่อยากจะสบตากับคนตรงหน้า เพราะกลัวว่าจพทนกลั้นน้ำตาเอาไว้ไม่อยู่ แต่ก็ถูกซีวอนคว้าไหล่เอาไว้ก่อนจะออกแรงบีบหัวไหล่อีกคนอย่างแรง
     

     

    “ บอกชั้นมาสิ ว่าชั้นเป็นสาเหตุของเรื่องทั้งหมดใช่มั้ย ใช่มั้ย....”
     

     

    “ ชั้นเจ็บนะ แล้วทำไมชั้นต้องบอกนายด้วย....”
     

     

    “ ก็เพราะว่าชั้นมีส่วนต้องรับผิดชอบ....”
     

     

    “ ไม่จำเป็น ไม่ต้องมารับผิดชอบ ชั้นรับผิดชอบตัวเองได้.....”
     

     

    “ ชั้นจะขอโอกาส เพื่อไถ่โทษในสิ่งที่ชั้นทำลงไปได้มั้ย....”
     

     

    “ ไม่ ชั้นจะไม่มีวันให้โอกาสนาย เหมือนที่นายไม่เคยให้โอกาสชั้น....” ซีวอนพยายามควบคุมอารมณ์ไม่ให้โมโหคนตรงหน้า เพราะรู้ดีว่าพูดยังไงฮันคยองก็ไม่มีทางยอม
     

     

    “ ชั้นจะบอกเรื่องนี้กับทุกคน....”
     

     

    “ ไม่นะ นายจะพูดเรื่องนี้ไม่ได้....”
     

     

    “ ทำไมชั้นจะพูดไม่ได้....”
     

     

    “ ก็เอาสิ ถ้านายไม่กลัวทงเฮเสียใจกับการกระทำของนาย....” ฮันคยองมองหน้าอีกคนอย่างไม่ยอมอ่อนให้ ทำให้ซีวอนจำต้องหยุดพูดเรื่องนี้เอาไว้ไม่ใช่เพราะกลัวทงเฮรู้ หากแต่จะใช้ความคิดบางอย่างเพื่อจะเอาชนะร่างบางให้ได้ ซีวอนหันไปเปิดประตูก่อนจะเข็นอีกคนออกไปด้านนอก และนั้นก็ทำให้ทงเฮที่ลงมาเห็นว่าทั้งสองออกมาจากห้องพร้อมกันพอดี
     

     

    “ ซีวอนไปทำอะไรที่ห้องพี่ฮันหรอ....”
     

     

    “ ผมก็แค่ไปช่วยเข็นรถให้หน่ะครับ ไม่มีอะไร....”
     

     

    “ จริงๆๆนะ ห้ามปิดบังทงเฮนะ....”
     

     

    “ ทงเฮคิดว่าผมกับพี่ฮันมีอะไรกันหรอ....”
     

     

    “ ถึงมีก็ไม่กลัวอยู่แล้ว เพราะทงเฮรู้ดีว่าพี่ฮันไม่คิดแบบนั้นกับซีวอนใช่มั้ย....”คนตัวเล็กโอบแขนของซีวอนเอาไว้จนแน่น ก่อนจะมองฮันคยองอย่างรอคำตอบ
     

     

    “ ครับ พี่ไม่ทางคิดแบบนั้น....”
     

     

    “ งั้นเราไปกินข้าวเช้ากันดีกว่า ทงเฮหิวแล้วล่ะ....” ทงเฮที่ควงแขนซีวอนเดินนำไปก่อนทิ้งให้ฮันคยอง ที่ค่อยๆเข็นรถไปอย่างช้าๆเพราะในใจของฮันคยองแล้ว ก็ไม่อยากจะกินข้าวเช้าสักเท่าไหร่ร่างบางตักข้าวต้มเข้าปากไม่กี่คำ ก็วางช้อนลงทำให้ซองมินที่นั่งข้างๆอดเป็นห่วงไม่ได้
     

     

    “ อิ่มแล้วหรอครับพี่ฮัน ทำไมทานน้อยจัง....”
     

     

    “ พี่ไม่ค่อยหิวเท่าไหร่....”
     

     

    “ พี่ฮันต้องทานเยอะๆนะครับ....”
     

     

    “ พี่รู้แล้ว ขอบใจนะที่เป็นห่วง.....”
     

     

    “ อะไรที่เกี่ยวกับพี่ฮันผมสนใจอยู่แล้วครับ.....” คนตัวเล็กยิ้มให้พี่ฮันคยองจนตาหยีทำเอาคยูฮยอนที่นั่งตรงข้าม อดไม่ได้ที่จะพูดจาเหน็บอีกคนด้วยความน้อยใจ
     

     

    “ อะไรก็พี่ฮัน แต่กับว่าที่คู่หมั้นไม่สนใจ....”
     

     

    “ แน่นอน เพราะว่าชั้นสนใจแต่พี่ฮัน ไม่ใช่นาย....” คยูฮยอนจะอ้าปากเถียงคนตัวเล็กต่อก็ต้องหยุดลงเมื่อเสียงโทรศัพท์มือถือดังขึ้น ทำให้อีกคนต้องขอตัวออกไปรับสายที่ด้านนอกคยูฮยอนมองดูเบอร์ ที่โทรเข้ามาก็พบว่าเป็นซันนี่จึงรีบกดรับสายทันทีด้วยความเป็นห่วง
     

     

    “ ฮัลโหล....”
     

     

    “ คยูหรอคะ ซันนี่เองนะ....”
     

     

    “ ว่าไงคะ ไปหาหมอมา หมอว่าเป็นอะไร....” ปลายสายถึงกับนิ่งเงียบทันทีเมื่อเจอคำถามแบบนี้ ถ้าบอกไปว่าตนเองท้องคยูฮยอนจะโกรธและเกลียดกันรึเปล่า ทำให้ซันนี่ไม่กล้าที่จะพูดได้แต่อึกอักจนคยูฮยอนเริ่มสงสัย
     

     

    “ ซันนี่ คุณมีอะไรปิดบังผมอยู่ใช่มั้ย....”
     

     

    “ ไม่มีคะคยู ซันนี่ไม่เป็นอะไร....”
     

     

    “ คุณห้ามโกหกผมนะ มีอะไรบอกผมได้นะซันนี่....”
     

     

    “ ซันนี่ก็แค่คิดถึงคยู อยากให้คยูกลับบ้านเร็วๆ กลับมาหาซันนี่เร็วๆนะคะ....”
     

     

    “ ครับ ผมจะรีบกลับไปหาคุณทันทีที่ถึงบ้านนะ ดูแลตัวเองด้วย ผมรักคุณนะ....” คยูฮอนวางสายลงก่อนจะกลับเข้าไปในบ้าน และลงมือกินอาหารเช้าต่อและไม่ลืมที่จะแกล้งซองมินให้หงุดหงิดเล่น แม้ว่าในใจคยูฮยอนจะรักซันนี่แต่พอได้อยู่ใกล้ๆซองมิน ก็อดไม่ได้ที่จะแกล้งคนตัวเล็กให้โมโหและทุกครั้งที่ได้แกล้ง ตนเองก็จะมีความสุขและรอยยิ้มผุดขึ้นมาอย่างไม่รู้ตัว หรือว่าเค้าจะหลงรักผู้ชายที่ชื่อซองมินเข้าให้แล้ว หลังจากที่ทานข้าวเช้าเสร็จแล้วทั้งหมดตกลงกันเอาไว้ ว่าจะออกไปดูประการังกันแต่ฮันคยองขอไม่ไป เพราะไม่อยากจะเป็นภาระให้ทุกคนต้องหมดสนุก แม้ว่าทุกคนจะพูดยังไงฮันคยองก็ไม่ยอมไป จนซีวอนบอกว่าจะทำให้ฮันคยองยอมไปกับพวกเราด้วยตนเอง และยังไม่ทันที่รถเข็นจะเข้าไปยังห้องนอน ร่างของฮันคยองก็ลอยขึ้นมาเพราะถูกซีวอนอุ้มเอาไว้เสียก่อน
     

     

    “ นายทำบ้าอะไรหน่ะ ปล่อยชั้นนะ....”
     

     

    “ ทำไมถึงไม่ไปด้วยกัน.....”
     

     

    “ ก็ชั้นบอกแล้วไง ว่าไม่อยากไปเป็นภาระ....”
     

     

    “ รู้ได้ไงว่าเป็นภาระ....”
     

     

    “ รู้ก็แล้วกัน ปล่อยชั้นได้แล้ว ปล่อยสิ บอกว่าให้ปล่อย....” ฝ่ามือบางทุบเข้าที่อกแกร่งของอีกคนอย่างนับไม่ถ้วน หวังให้อีกคนยอมปล่อยตนเองแต่ก็ไม่มีวี่แววว่าซีวอนจะยอมปล่อยง่ายๆ ก่อนจะยื่นหน้ามาใกล้ๆอีกคนอย่างจงใจ
     

     

    “ จะไปดีๆ หรือว่าจะอยู่ที่นี่กับผมตามลำพัง....”
     

     

    “ ไม่ทั้งสองอย่าง ถ้าต้องให้อยู่กับนายขอตายดีกว่า.....”
     

     

    “ ปากเก่งจริงๆเลยนะ ตกลงไม่ไปใช่มั้ย ดีเลยงั้นหาอะไรสนุกๆเล่นกัน....” ซีวอนพูดจบก็อุ้มร่างของฮันคยองเข้าไปที่ห้องนอน ก่อนจะวางอีกคนลงบนเตียงพรางขึ้นคร่อมร่างบางเอาไว้ทันที
     

     

    “ นายจะทำอะไรซีวอน ห้ามทำอะไรบ้าๆนะ....” ฮันคยองรีบเอามือมาดันร่างอีกคนเพื่อไม่ให้แนบชิดกันมากกว่านี้ แต่ซีวอนก็ไม่ยอมแพ้เบียดกายลงมาก่อนจะแทรกขาลงตางกลางระหว่างขาของฮันคยอง ทำเอาร่างบางถึงกับไม่กล้าขยับกายไปไหนเพราะรู้ดีว่าจะเดิกอะไรถ้าตนเองขยับตัว
     

     

    “ ลุกออกไปเดี๋ยวนี้นะซีวอน.....”
     

     

    “ ไม่.....”
     

     

    “ นายมันบ้า โรคจิต ชั้นเกลียดนาย ได้ยินมั้ยว่าชั้น อื้อ....” ซีวอนไม่รอฟังประโยคต่อไปให้ปวดหัวใจก่อนจะก้มลงจูบที่ริมฝีปากของอีกคนทันที ฮันคยองทั้งทุบทั้งตีหลังของซีวอนแต่ร่างสูงก็ไม่ยอมถอนริมฝีปากออกมา จนเมื่อฝ่ามือหนาเลื่อนขึ้นมาจับที่เอวเพียงเท่านั้น ฮันคยองก็ถึงกับยอมทำตามที่ซีวอนบอกทุกอย่างทันที
     

     

    “ ซะ ซีวอน ชั้นไปแล้ว อย่าทำแบบนี้เลยนะ....”
     

     

    “ ตกลงจะไปแล้วใช่มั้ย....”
     

     

    “ อือ ไปก็ไป.....” ซีวอนยิ้มออกมาที่มุมปากอย่างมีชัยชนะเมื่อร่างบางยอมที่จะไปด้วยกัน ซีวอนค่อยๆอุ้มร่างของฮันคยองอกมาเพียงแค่เห็นว่าฮันคยองยอมมาด้วยกัน คนที่ดีใจที่สุดน่าจะเป็นซองมินที่กระโดดโลดเต้นอย่างชอบใจ ผิดกับทงเฮที่หน้าบึ้งทันทีเมื่อเห็นภาพซีวอนอุ้มฮันคยองอย่างอ่อนโยน ราวกับว่ากำลังถือของอันเป็นที่รักกลัวว่าจะแตกหักได้ง่าย ทันทีที่มาถึงเรือฮยอกแจก็อุ้มพี่ฮันต่อจากซีวอน และนั้นก็มีเสียงของทงเฮแทรกขึ้นมาด้วยความน้อยใจ
     

     

    “ ถ้าเป็นทงเฮไม่ไปบ้าง ซีวอนจะตามไปง้อแบบนี้รึเปล่า....” คนตัวเล็กพูดจบก็เดินขึ้นเรือไปทิ้งให้ฮยอกแจซีวอนและฮันคยองต่างก็มองหน้ากัน โดยไม่พูดอะไรไปมากกว่านี้เพราะไม่รู้จะพูดอะไรให้มันดีขึ้นมา คนที่ดูเหมือนจะไม่มีความกังวลใดๆก็ดูเหมือนจะเป็นซองมิน ที่ยิ้มแย้มตลอดเวลาจนคยูฮยอนที่แอบสงสัยอะไรบ้างอย่าง ก่อนจะมาสะกิดคนตัวเล็กที่นั่งรับลมอยู่ด้วยความอยากรู้
     

     

    “ ที่รัก....”
     

     

    “ เรียกชั้นว่าอะไรนะ.....”
     

     

    “ คุณซองมินครับ ผมมีเรื่องข้องใจมากเลย อยากจะปรึกษาหน่อยครับ.....”
     

     

    “ ดีมาก ว่ามาสิจะปรึกษาอะไร....”
     

     

    “ นายเห็นสี่คนนั้นมั้ย ท่าทางแปลกๆ....” ซองมินมองตามที่คยูฮยอนบอกก่อนจะส่ายหัวไปมาเป็นคำตอบ
     

     

    “ ไม่เห็นจะมีอะไรเลย ก็ปรกติดี....”
     

     

    “ แต่ผมว่ามี ดูท่าทางจะไม่ดีด้วยนะ.....”
     

     

    “ นายชอบยุ่งเรื่องคนอื่นตั้งแต่เมื่อไหร่กัน.....”
     

     

    “ ก็ตั้งแต่ที่รู้จักคุณไง....”
     

     

    “ นี่นายหาว่าชั้นชอบยุ่งเรื่องคนอื่นงั้นหรอ อย่าอยู่เลยอีตาคยูฮยอน....” ซองมินวิ่งไล่ตามคยูฮยอนอย่างไม่คิดชีวิต จนลืมไปว่าคนๆนี้ที่ทำให้ตนเองต้องถูกบังคับให้หมั้นอย่างจำใจ แต่ความรู้สึกนั้นกลับค่อยๆหายไปทีละน้อยเมื่อได้ใกล้ชิดอีกคน จนเมื่อเรือจอดสนิทก็ทำให้ทั้งหมดหยุดพูดคุยและไล่ตีกัน เพราะนั้นหมายถึงว่าได้มายังจุดหมายที่จะไปกันแล้ว ทุกๆคนเตรียมตัวที่จะลงไปดูประการังกันด้วยความตื่นเต้น ทุกๆคนทยอยกันลงไปที่ใต้ท้องทะเลกันทีละคนสองคน จะเหลือก็ทงเฮที่ยืนดูพี่ฮันคยองนั่งจับขอบเรือเอาไว้ ก่อนจะเดินเข้าไปชวนอีกคนลงไปดูประการังด้วยกัน
     

     

    “ พี่ฮันลงไปดูพร้อมกับผมนะ.....”
     

     

    “ แต่ว่าพี่ว่ายน้ำไม่เป็น และอีกอย่างขาพี่.....”
     

     

    “ ไปเถอะครับ ผมพาพี่ไปเองไปที่ไม่ลึกมากไงครับ.....”
     

     

    “ พี่ไม่ไปดีกว่า ทงเฮไปเถอะนะ....”
     

     

    “ มาเที่ยวทั้งที ต้องมาแล้วสนุกสิครับ....” พูดจบทงเฮก็คว้าร่างของฮันคยองมาพยุงเอาไว้ ฮันคยองพยายามเกาะขอบเรือเอาไว้แน่น จนเมื่อมาถึงทางลงร่างบางมองดูน้ำที่ลึกมากอยู่ก็เริ่มเปลื่ยนใจ ก่อนจะเอ่ยปากบอกทงเฮว่าขอไม่ลงจะดีกว่า
     

     

    “ ทงเฮพี่ไม่ไปดีกว่า เราไปเถอะ....”
     

     

    “ ไม่ต้องกลัวครับพี่ฮัน ไม่มีอะไรน่ากลัวหรอกครับ.....”
     

     

    “ ตะ แต่ว่า....”
     

     

    “ ไม่มีแต่ว่าครับ พี่ฮันค่อยๆหย่อนตัวลงนะครับ....” ฮันคยองค่อยๆหย่อนตัวเองลงอย่างช้าๆ ฝ่ามือบางที่จับมือของทงเฮเอาไว้จนแน่นด้วยความกลัว แต่สิ่งที่ฮันคยองไม่คาดคิดเมื่ออยู่ๆทงเฮก็ปล่อยมือตนเองขึ้นมา ทำให้ฮันคยองค่อยๆหล่นลงไปที่ท้องทะเลอย่างรวดเร็ว
     

     

    “ ทงเฮ ช่วยด้วย พี่ว่ายน้ำไม่เป็น....”
     

     

    “ พี่ฮันลองดูสิครับ ใช้ขาตีน้ำเอา เชื่อผมสิ....”
     

     

    “ ไม่เอาทงเฮ พี่ว่ายน้ำไม่เป็นจริงๆ....” ฮันคยองพยายามช่วยเหลือตัวเองอย่างสุดกำลัง แต่ด้วยความที่ว่ายน้ำไม่เป็นทำให้ฮันคยองถึงกับหมดแรง ก่อนจะค่อยๆจมลงไปในน้ำและนั้นก็ทำให้ทงเฮยิ้มออกมาเล็กน้อย
     

     

    “ หวังว่าพี่ฮันคงจะโชคดีเหมือนครั้งก่อนๆนะครับ....” คนตัวเล็กมองดูฮันคยองค่อยๆจมลงไปทีละนิด ก่อนจะแกล้งทำเป็นตกใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นและตะโกนขอความช่วยเหลือ
     

     

    “ ช่วยด้วย ใครก็ได้ช่วยทีพี่ฮันคยองจมน้ำ.....” คนตัวเล็กยิ้มออกมาอย่างมาดร้ายก่อนจะที่ตีหน้าทำเป็นร้องไห้ เมื่อพบว่าซีวอนและฮยอกแจกำลังขึ้นมาบนเรือเพื่อถามว่าเกิดอะไรขึ้น






    ..............................................................................................................................
    สวัสดีคะเพื่อนๆทุกค ^^
    ฟิคเรื่องนี้เป็นยังไงบ้างคะ สนุกหรือไม่สนุกบอกกันได้นะ
    พี่หนิงจะได้แก้ไขและปรับปรุงให้ดีขึ้นนะคะ วันนี้พี่หนิงก็มาลงอีกตอนแล้วเอาไว้น่าจะไม่เกิน
    วันอาทิตย์พี่หนิงจะลงตอนที่2ของsfนะคะแบ่งๆกันลง
    ยังไงเพื่อนๆก็อย่าลืมดูแลสุขภาพด้วยนะ รักทุกคนเสมอร่วมไปถึงซีฮันของเราด้วย
    ไว้เจอกันใหม่ตอนหน้านะคะ





    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×