คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : fic nai he (รักที่เจ็บปวด) sihan 3
เช้าวันใหม่ที่ค่อนข้างสดใสผิดกับความคิดของฮยอกแจ เพราะเมื่อวานหลังจากที่ได้รู้ว่าซีวอนคือคนรักของทงเฮ คนที่ตนเองแอบรักอยู่นั้นกลับมาจากเมืองนอกแล้วนั้น ก็ทำให้อีกคนไม่อยากจะไปทำงานเพราะไม่อยากจะเห็นภาพบาดตานั้นได้ ฮยอกแจที่ยังคงนอนใช้ความคิดอยู่นั้นเสียงเคาะประตูก็ดังขึ้น ก่อนจะปรากฏเป็นภาพของฮันคยองที่นั่งรถเข็นเข้ามาหาน้องชายตนเองด้วยรอยยิ้ม
“ ตื่นได้แล้วนะฮยอก ไม่ไปทำงานหรอสายแล้วนะ....”
“ ผมไม่อยากไปครับพี่ฮัน ผมเหนื่อย....”
“ เป็นอะไร เล่าให้พี่ฟังได้นะ....” ฮันคยองลากรถเข็นเข้าไปใกล้ๆที่เตียง ก่อนจะเอื้อมมือไปจับไหล่น้องชายตัวเองอย่างให้กำลังใจ
“ เรามีกันสองคนอย่าลืมสิ นายมีเรื่องอะไรบอกพี่ได้นะ....”
“ ผมไม่เป็นอะไรครับพี่ฮัน งั้นผมไปอาบน้ำเปลื่ยนเสื้อก่อนนะครับ.....” ฮยอกแจยิ้มให้ฮันคยองก่อนที่ตนเองจะเดินหายเข้าไปในห้องน้ำ ทางด้านฮันคยองเองก็ไม่อยากจะเซ้าซี้อะไรฮยอกมากนัก เพราะรู้ดีว่าอีกคนไม่ยอมพูดอะไรให้ฟังเพราะกลัวตนเองจะคิดมากไปด้วย ระหว่างที่รออีกคนอาบน้ำอยู่นั้นฮันคยองก็เตรียมอาหารเอาไว้ให้อีกคน และทันทีที่ฮยอกแจเห็นก็อดไม่ได้ที่จะห้ามพี่ฮันของตนเอง
“ พี่ฮันครับ ผมเตรียมข้าวเองได้ครับ....”
“ ไม่เป็นไร พี่อยู่เฉยๆไม่ได้ทำอะไร....”
“ แต่พี่ฮันยังไม่หายดีนะครับ....”
“ นาคงคิดว่าพี่พิการจนทำอะไรไม่ได้แล้วใช่มั้ยฮยอก....”
“ เปล่านะครับพี่ฮัน ผมแค่ไม่อยากให้พี่ต้องเหนื่อยก็เท่านั้นเอง....” ฮยอกแจโอบกอดฮันคยองเอาไว้ก่อนจะยิ้มหวานๆให้อีกคน และนั้นก็เรียกรอยยิ้มจากพี่ฮันคยองได้ดีทีเดียว
“ กินข้าวเถอะสายแล้ว เดี๋ยวจะไปทำงานไม่ทันนะ....”
“ ครับผม.....” สองพี่น้องต่างนั่งทานข้าวกันอย่างมีความสุข แต่พอเดินออกมาจากประตูบ้านรอยยิ้มของฮยอกก็หายไปทันที ไม่อยากจะไปทำงาน ไม่อยากจะไปเห็นภาพบาดตา แต่มันก็ทำไม่ได้เมื่อเรื่องงานกับเรื่องส่วนตัว ฮยอกพยายามจะไม่เอามันมารวมกัน สุดท้ายฮยอกแจก็ต้องมาทำงานตามเดิมทันทีที่มาถึงยังโต๊ะทำงาน เสียงใสๆของคนที่ตนเองรักนั้นก็ดังขึ้น
“ ฮยอก....”
“ ทงเฮ มีอะไรหรอ....”
“ จะมาหาฮยอกต้องมีอะไรด้วยหรอ....”
“ เราไม่ว่าง....”
“ ไม่ว่าง หรือว่าไม่อยากคุยกับทงเฮ ก็ได้ไม่ยุ่งก็ได้....” ทงเฮหันหลังกลับทันทีแต่ฮยอกก็รีบไปรั้งเอาไว้ ก่อนจะเอ่ยขอโทษที่อารมณ์เสียใส่อีกคน
“ มันไม่ใช่อย่างนั้นนะทงเฮ คือว่าเรา เรา....”
“ ฮยอกเป็นอะไร บอกทงเฮได้มั้ย....” ฝ่ามือเล็กๆของทงเฮลูบไล้เข้าที่ใบหน้าของฮยอกอย่างอ่อนโยน ยิ่งทำให้ฮยอกตัดใจไม่ลงก่อนจะรั้งร่างบางเข้ามากอดเอาไว้แนบกาย
“ ฮยอกขอโทษนะ ขอโทษนะทงเฮ....”
“ อือ ไม่เป็นไร ทงเฮไม่อยากเห็นฮยอกโมโหอีกจะได้มั้ย....”
“ ได้สิ ฮยอกจะไม่โมโหทงเฮอีก....” คนตัวเล็กผละออกมาจากอ้อมกอดของฮยอกแจ เมื่อเสียงของใครบางคนดังชึ้นมา
“ ทงเฮ....”
“ ซีวอน....” ทงเฮผละออกจากอ้อมแขนของฮยอกแจพรางวิ่งไปหาอ้อมกอด ของซีวอนด้วยใบหน้าที่มีความสุขก่อนจะหอมแก้มร่างสูง ภาพนั้นมันบาดเข้าที่หัวใจของฮยอกแจอย่างหลีกไม่พ้น แต่ก็ต้องทำหน้าตาให้เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น แม้ว่าในใจเจ็บเจียนขาดใจ
“ ซีวอนมานานแล้วหรอ....”
“ สักพักแล้วครับ ว่าจะมาชวนทงเฮไปเที่ยวทะเลกัน....”
“ ทะเลหรอ ไปสิทงเฮอยากไปมากเลย....”
“ พอดีแจจุงมันชวนผมว่ามันมีบ้านพักอยู่ที่นั้น ผมเห็นว่าเราน่าจะไปพักผ่อนกันบ้างดีมั้ย....”
“ ดีสิ งั้นทงเฮชวนฮยอกไปด้วยนะซีวอน....”
“ เอาสิ ชวนไปกันหลายๆคนสนุกดี....” ทงเฮละจากอ้อมกอดของซีวอนก่อนจะกุมมือของฮยอกแจขึ้นมา และทำหน้าตาออดอ้อนอีกคนอย่างที่เคยทำอยู่เป็นประจำ เพราะรู้ดีว่าฮยอกแจจะต้องใจอ่อนกับตนเองทุกครั้ง
“ ฮยอก ไปเที่ยวทะเลกับทงเฮนะ....”
“ ไม่ดีกว่าทงเฮ เราไม่ว่าง....”
“ ทำไมล่ะ ฮยอกรังเกียจทงเฮกับซีวอนหรอ....”
“ เปล่านะ เพียงแต่ผมต้องดูแลพี่ฮันก็เท่านั้น....”
“ งั้นฮยอกก็ชวนพี่ฮันไปด้วยสิ พาพี่ฮันไปเที่ยวกับพวกเรานะฮยอกนะ นะ นะ นะ....” ทงเฮเซ้าซี้ฮยอกแจอย่างไม่ยอมหนีท่าเดียว ทำให้อีกคนจำต้องยอมตกลงไปเที่ยวทะเลในครั้งนี้ด้วยกัน แม้ว่าจะไม่อยากไปแต่ก็ไม่อาจจะทนเห็นแววตา ของคนที่รักอ้อนวอนแบบนี้ได้ลง
“ ตกลงเราไปเที่ยวทะเลกันนะ....”
“ งั้นผมจะโทรไปบอกแจจุงอีกที ว่าเราตกลงไปกัน....”
“ งั้นก็ตั้งใจทำงานนะ แล้วเจอกันตอนเย็น.....” คนตัวเล็กโบกมือให้ฮยอกแจก่อนจะเดินเคียงคู่ซีวอนจากไปทิ้งให้ฮยอก ตั้งคำถามกับตัวเองว่าจะทนอยู่แบบนี้ได้นานแค่ไหนกัน ในสภาพที่ไม่รู้จะทำยังไงดีกับความรู้สึกนี้ อีกฝากฝั่งกลับมีอีกคนที่ได้แต่นั่งเกาผมอยู่ ด้วยความเครียดเมื่องานที่ถูกให้ทำนั้น ทำเท่าไหร่ก็ทำไม่ได้เสียทีก่อนจะจับแฟ้มเหล่านั้นโยนมันทิ้งกับพื้นด้วยความหงุดหงิด
“ โอ๊ย....เบื่อ ตัวเลขอะไรเยอะไปหมด....” คยูฮยอนที่นั่งเซ็งกับงานที่บิดาสั่งเอาไว้ให้ทำเพียงลำพัง จะออกไปหาซันนี่ก็ไม่ได้เมื่ออีกคนโทรมาหา และบอกว่าจะไปหาหมอเพราะอยู่ๆก็รู้สึกหน้ามืดขึ้นมา ทำให้คยูฮยอนเป็นห่วงซันนี่ไม่น้อยแต่ไม่อาจจะไปหาได้ดั่งที่ใจคิด ร่างโปร่งนั่งกดโทรศัพท์ไปมาอยู่อย่างนั้น จนเมื่อเบอร์ของใครบางคนที่ตนเองไม่ได้คิดถึงนั้นเลือนมา ทำให้ใบหน้าคมมีรอยยิ้มผุดขึ้นมาทันที ก่อนจะกดโทรหาปลายสายนั้นด้วยใบหน้าที่มีความสุข ผิดกับคนที่กำลังจะรับสายนั้นกลับทำหน้าเบ้ใส่มือถือ เมื่อเห็นชื่อของคนที่ไม่อยากปรากฏขึ้นก่อนจะกดรับอย่างจำใจไม่น้อย
“ โทรมามีธุระอะไรมิทราบ....”
“ โทรมาหาภรรยามันผิดด้วยหรอ....”
“ บ้า ใครไปเป็นภรรยานายมิทราบ อย่ามาพูดจาเพ้อเจ้อนะ....”
“ ผมไม่ได้เพ้อนะ มันเป็นเรื่องจริงต่างหากล่ะ....” ซองมินอยากจะเอาหัวโหม่งกับโทรศัพท์ให้รู้แล้วรู้รอด จากที่มีความสุขในระหว่างเลือกซื้อของให้พี่ฮันคยอง กลับต้องมาฟังอีกคนกวนประสาทจนได้
“ มีอะไรก็พูดมา ชั้นไม่ว่างมากหรอกนะ....”
“ ผมอยากจะเจอคุณ ออกมาพบผมหน่อยสิ....”
“ ที่ไหนล่ะ....”
“ ผมรอคุณอยู่ที่ทำงานนะ รีบๆมานะจ๊ะที่รัก.....” พูดจบคยูฮยอนก็รีบวางสายก่อนจะยิ้มออกมาอย่างมีความสุข ผิดกับซองมินที่ได้แต่แยกเขี้ยวใส่มือถือโดยไม่ทันมองข้างหน้า ทำให้ชนเข้ากับใครคนนึงอย่างแรง
“ โอ๊ย....” เสียงร้องที่ดังขึ้นทำให้ซองมินรีบหันไปดูและก็พบว่า เป็นผู้หญิงตัวเล็กคนนึงล้มลงก่อนจะเข้าไปพยุงให้ลุกขึ้นและเอ่ยคำขอโทษมากมาย
“ ขอโทษครับ เป็นอะไรมากมั้ยครับ....”
“ ไม่คะ ไม่เป็นอะไร ชั้นต่างหากที่ต้องขอโทษคุณ....”
“ ผมเองที่เดินไม่ดูทาง คุณเจ็บมากมั้ย....”
“ ไม่คะ ไม่เจ็บ....” ซองมินช่วยปัดฝุ่นให้อีกคนก่อนจะก้มลงไปหยิบถุงขึ้นมา และก็ต้องตะลึงเมื่อเห็นหน้าถุงเขียนเอาไว้ว่ายาบำรุงครรค์ ทำให้ซองมินอดเป็นห่วงคนตรงหน้าไม่ได้
“ คุณท้องหรอครับ...”
“ คะ....”
“ ขอโทษนะครับ กี่เดือนแล้วครับ....”
“ ใกล้จะสามเดือนแล้วคะ.....” รอยยิ้มหวานๆของซองมินไม่ปกปิดเลยว่าดีใจแค่ไหน เมื่อรู้เรื่องดีๆถึงแม้ว่าจะไม่เกี่ยวกับตนเองก็ตาม
“ ดีจังเลยนะครับ ว่าแต่คุณชื่ออะไรหรอครับ....”
“ ซันนี่คะ แล้วคุณชื่อ....”
“ ผมซองมินครับ....”
“ ยินดีที่รู้จักคะ....”
“ เช่นกันครับ นี่เบอร์ของผมมีอะไรโทรหาผมได้นะครับ ผมมีธุระด่วนขอตัวก่อนนะครับ....” ซองมินยิ้มหวานๆให้อีกคนก่อนจะเดินจากไปด้วยใบหน้าที่มีแต่ความสุข ทั้งๆที่ลูกก็ไม่ใช่ของตัวเองแต่ทำไมรู้สึกดีเช่นนี้ก็ไม่รู้ซองมินพยายามปัดความคิดนั้นออกจากสมอง ก่อนจะเรียกรถไปยังที่บริษัทของคยูฮยอนแม้ว่าจะไม่อยากไป แต่น้ำเสียงสุดท้ายที่ฟังดูว่าอีกคนจะเหงาจริงๆก็ทำให้ซองมิน อดไม่ได้ที่จะไปตามคำเรียกของอีกฝ่าย และในระหว่างที่กำลังรอซองมินมาหาที่ทำงานเสียงเคาะประตูก็ดังขึ้น ทำให้ร่างโปร่งคิดว่าเป็นซองมินก่อนจะรีบเดินไปเปิดประตู และคว้าร่างอีกคนเข้ามากอดทันทีโดย
“ มาเร็วกว่าที่คิดอีกนะ....”
“ ขอโทษคะท่านประธาน ดิฉันเอาแฟ้มงานมาให้ท่านเซ็น....” เสียงใสๆที่ดังขึ้นทำให้คยูฮยอนถึงกับถอยหนีออกมาอย่างรวดเร็ว พรางก้มหัวเป็นการขอโทษอีกคนที่ทำกิริยาไม่ดีใส่
“ เอ่อ ผมขอโทษ นึกว่าเพื่อนผมมา....”
“ ไม่เป็นไรคะ ดิฉันเอาแฟ้มงานมาให้คุณเซ็น....” หญิงสาวเดินเลี่ยงไปที่โต๊ะทำงานก่อนจะวางแฟ้มนั้นลงกับโต๊ะ ก่อนจะยืนรอให้อีกคนเซ็นให้ด้วยใบหน้าที่แดงระเรื่อ คยูฮยอนก้มหน้าเซ็นเอกสารอย่างรวดเร็วก่อนจะยื่นแฟ้มนั้นให้อีกคน พางเอ่ยถามชื่อเสียงเรียงนามขอคนที่ยื่นอยู่ด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้ม
“ เธอชื่ออะไร....”
“ ฉันชื่อยุนอา เป็นเลขาคนใหม่ของคุณ....”
“ ทำไมผมไม่รู้เรื่องมาก่อน ว่าคุณจะมาเป็นเลขาผม....”
“ มันคงเป็นเพราะว่าคุณอาจจะไม่สนใจ ก็เลยไม่รู้เรื่องว่าใครมาทำงานอะไรมั้งคะ....” พูดจบยุนอาก็หยิบแฟ้มและเดินหันหลังไป ทิ้งให้คยูฮยอนรู้สึกไม่พอใจกับคำพูดของยุนอาอยู่ไม่น้อย ก่อนจะเดินไปรั้งแขนของอีกคนเอาไว้อย่างแรง
“ เดี๋ยวก่อน....”
“ มีอะไรคะท่านประธาน.....”
“ ถึงผมจะไม่ค่อยมาดูแลงานที่นี่ แต่ผมก็มีสิทธิ์จะรู้ไม่ใช่หรอว่าใครเป็นใคร....”
“ ในความคิดของฉัน ท่านประธานคนก่อนท่านเก่งทุกอย่าง แต่สำหรับคุณดิฉันไม่แน่ใจ....”
“ นี่เธอกำลังดูถูกชั้นอยู่นะยุนอา....”
“ คะ ถ้างั้นดิฉันขอตัวก่อนนะคะท่านประธาน....” พูดจบยุนอาก็เดินถือแฟ้มงานออกไปทิ้งให้คยูฮยอนอารมณ์เสียอยู่เพียงคนเดียว ร่างโปร่งนั่งเซ็งอยู่สักพักก่อนที่คนถูกนัดหมายให้มา ค่อยๆเดินเข้ามาในห้องก่อนจะเอ่ยถามอีกคนด้วยน้ำเสียงที่หวนเล็กน้อย
“ ชั้นมาแล้ว มีอะไรก็ว่ามา....” เสียงใสๆที่ดังขึ้นทำให้อารมณ์ของคยูฮยอนนั้นดีขึ้นมาบ้าง ก่อนจะหมุนเก้าอี้กลับมาและส่งยิ้มให้คนตรงอย่างอ่อนโยน
“ มาแล้วหรอ รอตั้งนานรู้รึเปล่า....”
“ ไม่รู้....”
“ นี่คุณ ไม่คิดจะพูดจากับผมดีๆบ้างหรอ ผมว่าที่สา...”
“ หยุดเลยนะคำที่จะพูดออกมาหน่ะ ตอนนี้มันยังไม่ใช่ซะหน่อย....” ซองมินหันหน้าหนีด้วยความหงุดหงิดกับคำพูดของอีกฝ่าย แต่กับคยูฮยอนนั้นรู้สึกสนุกที่ได้ยั่วและแกล้งให้อีกคนโมโห
“ ก็ได้ ผมจะไม่พูดแบบนั้นอีก ว่าแต่ตอนที่ผมโทรหาคุณจะไปไหนหน่ะ....”
“ ชั้นกำลังจะไปหาพี่ฮันคยอง ว่าจะไปดูร้านเบเกอร์รี่กัน....”
“ ดีเลย งั้นเราไปกัน....” พูดจบคยูฮยอนก็คว้ามือของซองมินให้เดินออกไปด้วยกัน แต่อีกฝ่ายกับรั้งขาตัวเองเอาไว้อย่างแรง ทำให้คยูฮยอนต้องปราบพยศอีกคนด้วยการรั้งเอวอีกคนให้แนบชิด ก่อนจะก้มหน้ามาใกล้ๆอีกคนอย่างจงใจ
“ จะเดินไปกับผมดีๆ หรือว่าจะให้ผมอุ้มไป....”
“ ชั้นเดินไปก็ได้ ปล่อยสิ....” คยูฮยอนยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์ก่อนจะเดินนำคนตัวเล็กออกไปอย่างอารมณ์ดี ก่อนจะขับรถไปตามเส้นทางที่ซองมินเป็นคนบอกทาง ไม่นานทั้งสองก็มาถึงบ้านของฮันคยองและนั้นก็เรียกรอยยิ้ม ของซองมินได้เป็นอย่างดีทันทีที่เห็นพี่ฮันคยองกำลังอยู่ที่หน้าบ้าน
“ พี่ฮัน พี่ฮันครับ....”
“ อ้าว ซองมิน พี่นึกว่าเราจะไม่มาแล้วนะเนี๊ย....”
“ แหม ผมจะลืมพี่ได้ไงครับ แต่ติดตรงใครบางคนเลยทำให้ช้าไป พี่ฮันไม่โกรธผมนะ....”
“ ไม่หรอก งั้นเราไปกันเลยดีกว่านะสายมากแล้ว....” ซองมินยิ้มให้ฮันคยองอย่างอ่อนโยนผิดกับคยูฮยอน ที่คนตัวเล็กไม่คิดจะยิ้มแบบนั้นให้เลยสักครั้ง แถมยังใช้ให้คยูฮยอนอุ้มพี่ฮันคยองขึ้นรถราวกับคยูฮยอนเป็นทาสอย่างใดอย่างนั้น แต่นั้นก็ทำให้คยูฮยอนมีความสุขเมื่อได้อยู่ใกล้ๆคนตัวเล็ก ทั้งสามคนขับรถวนหาที่ทำเลดีๆเพื่อจะเปิดร้านให้พี่ฮันคยอง หาอยู่นานจนมาถึงตึกแถวที่นึงที่ดูเหมือนจะถูกใจฮันคยองเป็นที่สุด เพราะว่ามันใกล้กับที่ทำงานของหลายบริษัทร้านเค้กก็คงจะขายดีไม่น้อย
ซองมินและฮันคยองต่างพูดคุยถึงเรื่องร้านและตกลงเช่าตึกนี้ขึ้นมา ก่อนจะพากันไปกินข้าวและพาพี่ฮันมาส่งที่บ้านตามเดิม และมันก็กลายเป็นหน้าที่ของคยูฮยอนที่อีกคนรู้ดี ว่าจะต้องมาอุ้มพี่ฮันลงจากรถก่อนจะเข็นพี่ฮันเข้าบ้านไป และภาพนั้นก็ทำให้ซองมินมองคยูฮยอนดีขึ้นมาบ้าง ทั้งสามคนเดินเข้ามาในบ้านก็พบว่าฮยอกแจได้นั่งรออยู่ที่โซฟาอยู่ก่อนแล้ว ก่อนที่ซองมินจะแนะนำคยูฮยอนให้ฮยอกแจรู้จักอีกที ทั้งหมดนั่งพูดคุยกันอย่างสนุกสนานก่อนที่ฮยอกแจ จะชวนพี่ฮันไปเที่ยวทะเลกับตนเองด้วย
“ พี่ฮัน พอดีที่ทำงานผมจะพาไปทะเล พี่ฮันไปกับผมด้วยนะ....”
“ จะดีหรอฮยอก พี่ว่าพี่อยู่บ้านดีกว่านะ....”
“ ไปเถอะครับ ถือว่าไปพักผ่อนกับผมนะ....” เพียงแค่ได้ยินว่าจะไปเที่ยวซองมินก็ขอตามไปด้วยอีกคนอย่างออดอ้อน
“ ให้ผมไปด้วยนะพี่ฮัน ผมอยากไปทะเล....”
“ ถ้าคุณอยากไป ผมจะพาไปเอง.....”
“ ไม่เอา ชั้นจะไปกับพี่ฮัน....”
“ ทุกที อะไรก็พี่ฮัน พี่ฮัน....”
“ บ่นอะไรของนาย ชั้นไม่อยากไปผิดด้วยหรอ....” ฮันคยองกับฮยอกแจนั่งดูสองคนเถียงกันอย่างขำๆ ก่อนจะห้ามทับโดยการที่ให้ทั้งสองไปทะเลด้วยกัน และมันก็ได้ผลเมื่อทั้งคู่หยุดเถียงกันก่อนจะยิ้มออกมาอย่างมีความสุข หลังจากที่ตกลงกันเอาไว้ถึงตารางที่จะไปเที่ยวกัน ต่างก็แยกย้ายกันไปเตรียมของที่จะเดินทางไปเที่ยวครั้งนี้ และวันเดินทางวันนั้นก็มาถึงคยูฮยอนที่รับอาสาเป็นคนขับรถ พาทั้งหมดไปที่ทะเลกันอย่างมีความสุขและทันทีที่เห็นตัวบ้าน ก็ทำให้ความรู้สึกเหนื่อยล้าหายไปทันทีกลายเป็นความสุขเข้ามาแทนที และคนที่ดูจะมีความสุขที่สุดน่าจะเป็นซองมิน ที่กระโดดโลดเต้นราวกับเด็กน้อยเมื่อเห็นน้ำทะเลสีสวยอยู่อยู่ตรงหน้า ฮยอกแจเลือกห้องพักชั้นล่างให้พี่ฮันเพราะง่ายแก่การเข้าออก ก่อนที่ตนเองจะขึ้นไปเก็บของๆตัวเองและเดินลงมาหาพี่ฮันคยองชั้นล่าง แต่ก็พบเจอทงเฮระหว่างทางเสียก่อน
“ ฮยอกมาถึงนานแล้วหรอ....”
“ สักพักแล้ว ทงเฮล่ะ....”
“ เพิ่งมากับซีวอน แต่รายนั้นขอตัวไปทำธุระเดี๋ยวมา....”
“ แล้วไหนล่ะพี่ฮันคยอง ทงเออยากรู้จัก....” ฮยอกแจพาทงเฮไปทำความรู้จักกับพี่ฮันคยอง และสิ่งแรกที่เห็นว่าพี่ฮันต้องนั่งรถเข็นก็ทำให้ทงเฮรู้สึกสงสารพี่ฮันคยองเป็นอย่างมาก ก่อนจะเปลื่ยนเรื่องคุยและพาพี่ฮันออกไปนั่งดูคลื่นทะเลด้วยกัน
“ พี่ฮันชอบทะเลมั้ยครับ....”
“ ชอบครับ....”
“ อาหารทะเลก็อร่อยนะพี่ฮัน พูดแล้วอยากกินอ่ะฮยอก....”
“ งั้นเราไปซื้อของทะเลมาทำอาหารเย็นกัน....”
“ ดีเหมือนกัน พี่ฮันงั้นผมพาพี่เข้าบ้านก่อนนะ....”
“ ไม่เป็นไรฮยอก นายไปเถอะ พี่จะอยู่ที่นี่สักพัก....”
“ แต่ว่าพี่จะอยู่ยังไงคนเดียว....”
“ ได้สิ เดี๋ยวซองมินกับคยูฮยอนเลิกเถียงกันแล้ว ก็คงจะมาหาพี่เองไม่ต้องห่วงนะ....” ฮยอกแจและทงเฮที่แยกตัวออกไปซื้อของทะเลแล้วนั้น ฮันคยองที่นั่งอยู่รถเข็นตามลำพังก่อนจะค่อยๆเคลื่อนที่ไปทีละน้อย เพื่อจะไปใกล้ๆน้ำทะเลมากยิ่งขึ้นแต่ก็ต้องล้อรถกับสะดุดเข้ากับก้อนหิน ทำให้ฮันคยองที่นั่งไม่ดีล้มลงจากรถเข็นร่างบางตกลงที่กองทราย ทำให้คนที่มาถึงที่พักได้สักครู่เห็นเข้าก็รีบวิ่งไปดู ก่อนจะเข้าไปพยุงอีกคนขึ้นมาและเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยน
“ เป็นอะไรมากมั้ยครับ.....”
“ ไม่ครับ ผมไม่เป็นอะไร....” ฮันคยองหันมาพูดกับอีกคนก่อนจะนิ่งเงียบไปในวินาที ภาพเก่าๆวิ่งเข้ามาที่สมองอย่างไม่ได้นัดหมาย ภาพของผู้ชายเลวๆคนนั้นที่ทำร้ายตนเองอย่างไร้ความปราณี ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานแค่ไหนฮันคยองก็จำมันได้ ไม่มีวันลืมทุกๆคืนภาพของเลวคนนั้นก็ตามหลอกหลอนอยู่ทุกคืน ทำให้ฮันคยองรีบถอยกายหนีอีกคนออกมาทันที เช่นเดียวกับซีวอนเพราะตลอดเวลาที่เกิดเรื่องครั้งนั้น ร่างสูงก็เฝ้าตามหาอีกคนมาตลอดเพื่อจะขอโทษกับสิ่งที่ทำลงไป และวันนี้วันที่ตนเองรอคอยก็มาถึงเมื่อคนๆนั้นอยู่ตรงหน้า และท่าทางบ่งบอกได้ดีว่าหวาดกลัวตนเองมากแค่ไหน
“ คุณ....”
“ ออกไปนะ ไอคนสารเลว อย่ามาถูกตัวชั้น....” ฮันคยองถอยหนีอีกคนอย่างหวาดกลัวโดยไม่ได้มองพื้นทราย ว่าจะมีเศษหินหรือเปลือกหอยมากมายจะบาดตนเอง ขอแค่ได้หนีคนตรงหน้าฮันคยองก็ขอยอมที่จะโดนบาดมันเสียดีกว่า ต้องอยู่ใกล้กับคนที่ทำร้ายตนเองอย่างไร้ความปราณีคนๆนั้นแน่นอน
...............................................................................................................
สวัสดีคะเพื่อนๆทุกคน ก่อนอื่นเลยนะคะพี่หนิงขอแก้ไขชื่อของแต่ละตอนนะคะ
หวังว่าเพื่อนๆจะไม่ว่ากันนะ วันนี้พี่หนิงก็เอามาลงอีกตอนแล้วครั้งนี้ซีฮันของเราเจอกันเสียที
แต่ดูเหมือนความร้ายๆของซีวอนยังติดตาฮันของเราอยู่เลย ยังไงก็มาเอาใจช่วยทั้งสองกันดีกว่าเนอะ
รักเพื่อนๆทุกคนนะคะ ดูแลสุขภาพกันด้วยนะคะเจอกันใหม่ตอนหน้าคะ บะบาย^^
ความคิดเห็น