ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    fic nai he รักที่เจ็บปวด.....sihan eunhae kyumin

    ลำดับตอนที่ #3 : fic nai he (รักที่เจ็บปวด) sihan 2

    • อัปเดตล่าสุด 19 เม.ย. 56






    ณ สนามบินกรุงโซลที่เต็มไปด้วยผู้คนมากมาย และหนึ่งในนั้นก็มีฮยอกแจและซองมินที่มายืนรอรับพี่ฮันคยอง ด้วยใบหน้าที่มีแต่รอยยิ้มเพราะตลอดเวลาที่ฮันคยองไปรักษาตัวที่ต่างประเทศนั้น ทำให้ทั้งสองต่างก็คิดถึงฮันคยองเป็นอย่างมาก จนเมื่อใกล้ถึงเวลาที่นัดหมายกันไว้แล้วสิ่งที่ทำให้ทั้งสองต่างตะลึง ก็คือภาพของผู้ชายที่มีใบหน้าหวานราวกับผู้หญิงที่นั่งอยู่บนรถเข็น กำลังตรงมาทางทั้งสองด้วยรอยยิ้มก่อนจะเอ่ยทักด้วยความคิดถึงเช่นกัน

     

     

    “ ฮยอก ซองมิน.....”

     

     

    “ พะ พี่ฮัน.....” ทั้งสองต่างมองหน้ากันอย่างไม่เชื่อสายตาตัวเอง เมื่อยังคงเห็นพี่ฮันคยองนั่งรถเข็นอยู่

     

     

    “ ทำไมขาพี่ฮันถึงยังต้อง....”

     

     

    “ เรื่องนั้นเอาไว้ไปคุยกับที่บ้านได้มั้ย พี่คิดถึงบ้านใจจะขาดแล้วล่ะ....” ฮันคยองรีบเปลื่ยนเรื่องคุยทันทีทำให้ทั้งสองรู้ดี ว่าไม่ควรจะพูดอะไรต่อก่อนจะยิ้มหวานๆและโอบกอดพี่ฮันคยองเอาไว้ ก่อนจะเดินทางกลับบ้านอย่างที่ฮันคยองต้องการ ไม่นานนักทั้งหมดก็มาถึงทั้งฮยอกแจและซองมิน ต่างช่วยกันเก็บข้าวของของพี่ฮันคยองให้เข้าที่ ก่อนจะมานั่งดื่มน้ำชาที่ฮันคยองเตรียมไว้ให้กินกัน

     

     

    “ หอมจังเลยครับพี่ฮัน ขนมก็น่ากิน....” ซองมินพูดจบก็คว้าขนมขึ้นมากินก่อนจะยิ้มหวานๆให้กับความอร่อย ผิดกับฮยอกแจที่นั่งมองพี่ฮันคยองอย่างรอคำตอบ จนร่างบางต้องเล่าให้ฟังว่าทำไมตนเองยังต้องนั่งรถเข็น

     

     

    “ ที่พี่ต้องนั่งรถเข็นต่อก็เพราะว่า หมอรักษาพี่สุดกำลังแล้วแม้จะดีขึ้นแต่มัน ก็ยังไม่ดีเท่าที่ควรพี่เลยกลับมาดีกว่าไม่อยากให้ซองมินต้องเสียเงิน...”

     

     

    “ ไม่เลยครับ พี่ฮันอย่าคิดแบบนั้น สำหรับพี่ผมเต็มใจเสมอแม้จะต้องเสียไปมากกว่านี้ ขอแค่ขาพี่ฮันกลับมาเดินได้อีกครั้ง....”

     

     

    “ พี่รู้เรื่องที่เราต้องหมั้นกับคยูฮยอนแล้ว พี่รู้สึกไม่สบายใจ....”

     

     

    “ เรื่องบ้าๆแบบนั้นพี่ฮันไม่ต้องแคร์ครับ ผมยังไม่แคร์เลย....”

     

     

    “ แล้วพี่ฮันจะทำยังไงต่อครับ ผมห่วงพี่มากนะครับ....” ฮันคยองลูบผมฮยอกแจไปมาก่อนจะยิ้มให้น้องชายตนเองอย่างอ่อนโยน ที่อีกคนนั้นเริ่มจะมีน้ำใสๆคลอที่รอบดวงตา

     

     

    “ พี่ว่า พี่จะลองไปเรียนทำขนมดู และคิดว่าจะเปิดร้านเล็กพวกเราคิดว่าเป็นไง....”

     

     

    “ ดีเลยครับ พวกผมเห็นด้วย.....” ทั้งสองพูดออกมาพร้อมกันทำให้ฮันคยองถึงกับหัวเราะออกมาอย่างมีความสุข จนกระทั่งเวลาผ่านไปเกือบบ่ายโมงอยู่ๆเสียงโทรศัพท์มือถือของซองมินก็ดังขึ้น ทำให้คนตัวเล็กจำต้องกดรับสายอย่างไม่ค่อยจะเต็มใจนัก

     

     

    “ ฮัลโหล....”

     

     

    “ นั่นใช่ที่รักของผมรึเปล่าครับ....” ซองมินถึงกับอ้าปากค้างเมื่อปลายสายพูดแบบนี้ออกมา ก่อนจะตอกกับด้วยความหงุดหงิด

     

     

    “ ที่รักบ้าบออะไรของนาย อย่ามาเพ้อเจ้อแถวนี้นะ....”

     

     

    “ แหม...ดุจริง นี่ขนาดเรายังไม่แต่งงานกันนะ ถ้าแต่งแล้วที่รักจะดุขนาดไหน....”

     

     

    “ บ้า โรคจิต มีอะไรก็รีบๆพูดมา.....” คนตัวเล็กไม่อยากจะเถียงต่อกับคยูฮยอน ก่อนจะตัดบทถามถึงเรื่องที่อีกฝ่ายโทรมาทันที

     

     

    “ ว่าไง มีอะไรถึงโทรมา.....”

     

     

    “ ไม่มี....”

     

     

    “ ไม่มี ไม่มีแล้วโทรมาทำไม ว่างนักใช่มั้ย....”

     

     

    “ ก็แค่คิดถึงคู่หมั้นตัวเองผิดด้วยหรอ....”

     

     

    “ ผิดสิ เพราะว่าชั้นไม่ได้คิดถึงนาย.....” พูดจบซองมินก็วางสายทันทีก่อนจะโผเข้าโอบกอดพี่ฮันคยองเอาไว้อย่างออดอ้อน

     

     

    “ พี่ฮันดูสิครับ คนอะไรโรคจิตสุดๆ....”

     

     

    “ อย่าไปว่าคยูแบบนั้นสิ ยังไงเค้าก็คือคู่หมั้นเรานะ....”

     

     

    “ คู่หมั้นที่ไม่เต็มใจนะสิครับ....” คนตัวเล็กกล่าวออกมาอย่างไม่ปิดบัง ถึงความรู้สึกที่ไม่ชอบในตัวของคู่หมั้นตัวเอง ผิดกับอีกฝ่ายที่ยิ้มอย่างอารมณ์ดีเมื่อได้แกล้งอีกคน ร่างสูงที่นอนอยู่บนเตียงโดยมีแค่ผ้าขนหนูห่มกายช่วงล่างรีบกดโทรศัพท์ปิดทันที เมื่อคนที่อยู่ในห้องน้ำกำลังจะเดินออกมาก่อนจะยิ้มหวานๆให้อย่างกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น

     

     

    “ ยิ้มหวานแบบนี้ต้องมีอะไรดีๆแน่เลยใช่มั้ยคะ....” หญิงสาวที่เดินออกมาจากห้องน้ำตรงไปยังเตียงนอนก่อนจะหย่อนกายลงนั่งข้างๆ

     

     

    “ ว่าไงคะ มีอะไรรึเปล่า.....”

     

     

    “ ไม่มีอะไรหรอกครับ ผมก็เล่นสนุกๆก็เท่านั้นเอง.....” รอยยิ้มเจ้าเล่ห์ที่มีอยู่บนใบหน้าไม่อาจจะทำให้ซันนี่ รับรู้ได้เลยว่าอีกคนกำลังโกหกตนเองอยู่ก่อนที่หญิงสาวจะโผเข้ากอดร่างของคยูฮยอนเอาไว้จนแน่น

     

     

    “ คยู....”

     

     

    “ ครับที่รัก.....”

     

     

    “ รับปากกับซันนี่ได้มั้ย ว่าจะไม่ทิ้งกันไปไหน.....”

     

     

    “ ทำไมถึงพูดแบบนั้นล่ะ ซันนี่ไม่ไว้ใจผมแล้วหรอ.....”

     

     

    “ เปล่าคะ ซันนี่เชื่อคุณ ซันนี่ก็แค่กลัว....”

     

     

    “ ผมจะอยู่กับซันนี่ ผมสัญญา.....” คยูฮยอนโอบกอดร่างเล็กๆของซันนี่เอาไว้ก่อนจะจูบเข้าที่หน้าผากมนของอีกฝ่าย แม้จะบอกว่าไม่มีอะไรแต่ในลึกๆแล้วซันนี่รู้ดีว่าคยูฮยอน ได้หมั้นกับคนที่บิดาเค้าหาให้หากแต่ร่างโปร่งไม่ยอมจะเอ่ยปากบอก และซันนี่เองก็ไม่อยากถามเพราะกลัวคยูฮยอนจะเบื่อและทิ้งตนเองไป ภายใต้บ้านเช่าเล็กๆที่ยังมีร่างสองร่างที่นอนกอดกายกันอย่างมีความสุขนั้น ก็ต้องหยุดลงเมื่อบิดาของอีกฝ่ายโทรมาตามและนั้นก็ทำให้ซันนี่จำต้องมองดูคยูฮยอนกลับบ้านไปอย่างขัดไม่ได้ ไม่นานนักร่างโปร่งก็มาถึงยังบริษัทก่อนจะเดินเข้าไปพบบิดาตนเอง ด้วยใบหน้าที่ไม่สบอารมณ์เท่าใดนัก

     

     

    “ คุณพ่อโทรตามผมทำไมครับ.....”

     

     

    “ ชั้นต้องถามแก ว่าทำไมไม่มาทำงาน....”

     

     

    “ โธ่พ่อ ผมเบื่อเป็นนะครับ วันๆให้ดูอะไรก็ไม่รู้.....” พูดจบร่างโปร่งก็นั่งลงที่เก้าอี้ด้านหน้า ก่อนจะหยิบแฟ้มขึ้นมาดูเพียงแค่เห็นตัวเลขมากมาย คยูฮยอนก็ถึงกับโยนมันเข้าที่เดิม

     

     

    “ เมื่อไหร่แกจะเลิกทำตัวแบบนี้เสียที.....”

     

     

    “ ผมทำอะไรครับ....”

     

     

    “ ยังมีหน้ามาถาม วันๆมีแต่เรื่องเที่ยวแล้วก็เรื่องผู้หญิง....”

     

     

    “ พ่อ ผมเป็นผู้ชายนะครับ ก็ต้องมีเที่ยวบ้างอะไรบ้าง....” ร่างโปร่งก้มหน้าลงกับโต๊ะอย่างเบื่อหน่ายจนบิดาของเค้าเอง ก็ต้องถึงกับส่ายหัวอย่างอ่อนใจ

     

     

    “ ชั้นจะให้โอกาศแกแก้ตัวในหนึ่งเดือนนี้ ถ้ายอดการทำงานของแกไม่ขึ้น เงินก็ไม่ต้องเอาแล้วเรื่องที่หมั้นกับลูกเพื่อนชั้น ชั้นก็จะยกเลิก ขายหน้าเค้าที่มีลูกไม่เอาไหน....” เจอคำขู่แบบนี้เข้าไปทำเอาร่างโปร่งถึงกับรีบลุกจากโต๊ะ ก่อนจะไปรั้งแขนของบิดาเอาไว้จนแน่น

     

     

    “ พ่อ อย่าทำแบบนั้นนะครับ.....”

     

     

    “ งั้นแกก็ตกลงสิว่าจะตั้งใจทำงาน ชั้นจะลองไปคิดดูอีกที.....”

     

     

    “ ก็ได้ครับ ผมจะทำงานตามที่พ่อบอก แต่พ่อห้ามผิดสัญญากับผมนะ....”

     

     

    “ มันต้องเป็นชั้นที่จะพูดคำนั้นมากกว่า....” เจอคำนี้เข้าไปทำเอาร่างโปร่งได้แต่ยิ้มอย่างเดียว ก่อนจะเดินไปที่ห้องทำงานของตนเองด้วยใบหน้าที่เบื่อหน่าย คยูฮยอนมองดูแฟ้มมากมายก่อนจะวางมันลงที่เดิม

     

     

    “ เห็นแล้วอยากจะนอนจริงๆๆ....” แม้จะไม่อยากทำงานแต่ในเมื่อรับปากบิดาแล้ว คยูฮยอนก็ต้องทำให้ได้ร่างโปร่งเองก็ยังไม่เข้าใจตัวเอง ว่าทำไมจะต้องไม่อยากให้ยกเลิกงานหมั้นระหว่างตนเองกับซองมิน ทั้งๆที่ใจไม่ได้มีความรู้สึกรักหรือว่าชอบแต่เพียงแค่คิด ว่าอีกคนจะต้องจากไปก็รู้สึกแปลกๆๆในความรู้สึกที่เกิดขึ้น เช่นเดียวกับฮยอกแจที่หลังจากส่งพี่ฮันคยองเข้าบ้านแล้ว ก็รีบตรงมาทำงานทันทีเพราะว่าตนเองนั้นได้นัดใครคนนึงเอาไว้ และทันทีที่มาถึงฮยอกแจก็รีบเดินไปหาคนๆนั้นก่อนจะเอ่ยเรียกด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยน

     

     

    “ ทงเฮ....” คนที่ถูกเรียกหันกลับมาทันทีก่อนจะยิ้มหวานๆให้อีกคน

     

     

    “ ฮยอก นึกว่าจะไม่มาแล้ว....”

     

     

    “ ขอโทษนะ พอดีเราไปรับพี่ฮันที่สนามบินมาหน่ะ.....”

     

     

    “ อ้าวหรอ น่าเสียดายจัง....” คนตัวเล็กพูดพรางทำหน้าเสียดายถ้ารู้ว่าฮยอกแจจะไปที่สนามบิน จะได้เลยไปด้วยกันเลยไม่ต้องมานั่งรอที่นี่

     

     

    “ ว่าแต่ทงเฮจะไปไหนหรอ....”

     

     

    “ ไปสนามบิน ฮยอกไปเป็นเพื่อนทงเฮนะ.....” คนตัวเล็กกอดแขนออดอ้อนอีกคนอย่างน่าชัง มีหรือที่ฮยอกแจจะปฏิเสธได้ลงเพราะว่าทงเฮ คือทุกอย่างที่ฮยอกมีเพราะว่าฮยอกแอบรักทงเฮตั้งแต่สมัยเรียน แต่ไม่กล้าพูดกลัวคนตัวเล็กจะโกรธและไม่ยอมเป็นเพื่อนกันอีก ฮยอกแจจึงเลือกที่จะเก็บงำความรู้สึกนั้นเอาไว้ในใจ ขอแค่ได้เป็นเพื่อนรักแค่นั้น แค่นั้นสำหรับฮยอกก็มีค่าที่สุดแล้ว ทั้งสองเดินทางมาถึงสนามบินโดยใช้เวลาไม่นานนัก
    ก่อนที่ทงเฮจะเดินไปดูเวลาที่เครื่องของคนที่ตนเองมารอนั้นลงตอนไหน และเพียงแค่เห็นว่าเครื่องนั้นจอดเรียบร้อยแล้วทงเฮก็ถึงกับยิ้มอย่างมีความสุข ก่อนจะไปยืนรอที่ประตูผู้โดยสารพร้อมกับฮยอกแจ ที่อยากจะถามว่าคนที่ทงเฮมารอรับเป็นใคร แต่ก็ไม่กล้าจึงได้แต่ยืนรอเป็นเพื่อนอย่างเงียบๆ และทันได้นั้นเสียงร้องของทงเฮก็ดังขึ้น


     

     

    “ ซีวอน ซีวอนทางนี้.....” คนตัวเล็กชูแขนสุดเอื้อมเพื่อให้อีกคนเห็นตนเอง ก่อนจะวิ่งถลาเข้าไปโอบกอดคนที่เดินมาหาด้วยความคิดถึง

     

     

    “ คิดถึงจังเลย....”

     

     

    “ ผมก็คิดถึงทงเฮมากเช่นกัน ทงเฮดูผอมไปนะ.....” ฝ่ามือหนาลูบไล้ใบหน้าหวานของคนตัวเล็กอย่างอ่อนโยน ภาพๆนั้นทำลายหัวใจของฮยอกแจที่ยืนดูอยู่ไม่ไกลนัก

     

     

    “ ซีวอนกินอะไรมารึยัง.....”

     

     

    “ กินแล้ว ทงเฮล่ะครับ....”

     

     

    “ กินมาแล้วล่ะ เอ่อมีคนจะนะนำให้รู้จัก....” พูดจบคนตัวเล็กก็เดินควงแขนซีวอนให้เดินไปหาฮยอกแจ ที่กำลังยืนอึ้งอยู่กับสิ่งที่เห็น

     

     

    “ ฮยอก นี่ซีวอนแฟนทงเฮ....” คำว่าแฟนสะท้อนเข้าที่ใบหูของฮยอกแจอย่างจัง ความหวังทั้งหมดพังลงเมื่อตัวจริงของทงเฮปรากฏตัวตรงหน้า

     

     

    “ ซีวอนนี่ฮยอกแจเพื่อนทงเฮ และเป็นพนักงานบริษัทของซีวอนด้วยนะ.....”

     

     

    “ จริงหรอครับ งั้นก็ดีสิทงเฮจะได้ไม่เหงาเวลาที่ผมไม่อยู่.....”

     

     

    “ ยังไงซีวอนก็ดีที่สุดสำหรับทงเฮนะ.....” ฮยอกแจแทบอยากจะหยุดหายใจมันลงตรงนั้น ไม่อยากจะรับรู้ในคำพูดของคนตัวเล็กและภาพที่บาดใจนั้นอีก ทำไม ทำไมตนเองต้องมาแอบรักเพื่อนรักด้วย ทั้งๆที่รู้ดีว่าอีกคนไม่แม้แต่จะมองมาสักครั้งในสายตาของทงเฮ มีแค่เพียงซีวอน ชเว ซีวอน ผู้ชายที่พรากหัวใจรักของฮยอกแจให้ตายทั้งเป็น





    ................................................................................
    สวัสดีคะรีดเดอร์ที่น่ารักทุกคน ยังจำฟิคเรื่องนี้กันได้มั้ยเอ่ย
    คือแบบว่าพี่หนิงไม่ได้ต่อนานมากเลย แต่ไม่ได้ลืมนะคะ
    จะรีบนำมาลงให้อีกคะสัญญา ยังไงก็อย่าเพิ่งทิ้งพี่หนิงไปไหนกันนะคะ
    เป็นกำลังใจให้พี่หนิงและซีฮันก่อนนะคะ

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×