คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : fic nai he (รักที่เจ็บปวด) sihan 1
เสียงฟ้าร้องที่ดังไปทั่วท้องถนนทำให้ฮันคยองที่กำลังจะไปงานสำคัญ กลับต้องวิ่งหาที่หลบฝนอย่างรวดเร็วเมื่อเม็ดฝนขนาดใหญ่ตกลงมาอย่างไม่ขาดสาย ร่างบางวิ่งไปหลบที่หน้าโรงแรมชื่อดังแห่งหนึ่งที่มีผู้คนมากมายมาใช้บริการ ดวงตาหวานชะเง้อมองดูความสวยงามและสายตาก็ไปพบกับร้านเบอร์เกอร์รี่ร้านหนึ่งเข้าอย่างจัง ฮันคยองไม่รอช้าที่จะถือช่อดอกไม้นั้นเดินเข้าไปในร้านนั้นด้วย เรียวขางามมองดูขนมมากมายที่เรียงรายด้วยความสนใจ ก่อนจะคว้าโทรศัพท์มือถือขึ้นมาและกดไปหาปลายสาย ไม่นานนักเสียงหวานๆของปลายสายก็ดังขึ้นมาเรียกรอยยิ้มจากฮันคยองได้ไม่น้อย
“ ว่าไงพี่ฮันอยู่ไหนแล้ว....”
“ ตอนนี้ชั้นอยู่ที่ไหนสักแห่งในโซล....”
“ อ้าว ทำไมเป็นแบบนั้นล่ะ....”
“ ก็ฝนตกลงมานี่นา ชั้นก็เลยหาที่หลบ....”
“ แล้วตอนนี้พี่อยู่ที่ไหน....”
“ อยู่ที่หน้าร้านเบอร์เกอร์รี่ มีของโปรดของนายด้วยนะฮยอก....” ฮยอกแจน้องชายต่างมารดาที่ฮันคยองรักมากที่สุด และวันนี้ก็เป็นวันเกิดของน้องชายคนนี้ฮันคยองจึงไม่รอช้า ที่จะไปหาน้องชายตนเองที่บ้านและซื้อขนมเค้กก่อนโตไปฝาก
“ พี่ฮันอย่าลืมขนมเค้กของผมนะครับพี่ฮัน....”
“ ไม่ลืม ว่าแต่คงต้องรอฝนหยุดก่อนนะพี่ถึงจะเดินทางต่อได้....”
“ ตกลงครับเร็วๆนะพี่ฮัน ไม่งั้นผมงอนพี่จริงๆด้วยนะ....”
“ รู้แล้วหน่ะ บ่นจริงเลย อยู่บ้านก็อย่าลืมล็อกประตูบ้านด้วยนะรู้มั้ย....” ฮันคยองพูดจบก็กดสายทิ้งก่อนจะเดินไปเลือกเค้กชิ้นที่สวยที่สุดขึ้นมา ก่อนจะส่งให้พนักงานในร้านด้วยใบหน้าที่มีแต่ควาสุข ร่างบางนั่งรออยู่สักพักกล่องขนมเค้กก็ออกมาฮันคยองรีบไปรับเอาไว้ พรางหันไปหยิบดอกไม้ช่อใหญ่ที่เตรียมเอาไว้ให้ฮยอกก่อนจะชโงกหน้า ออกไปดูสายฝนว่าเบาบางลงบ้างรึยัง ฮันคยองจึงเดินตรงไปที่หน้าประตูของโรงแรม แต่ยังไม่ทันที่ฮันคยองจะก้าวไปถึงก็มีชายร่างสูงสองคน เดินเข้ามาขนาบข้างและล็อกแขนฮันคยองเอาไว้
“ อะ...อะไรกันครับ มาจับผมไว้ทำไม....”
“ คุณหนูสั่งให้มาเอาตัวนายไป....”
“ ห๊ะ...คุณหนูอะไรผมไม่รู้เรื่อง ปล่อยนะ ปล่อยสิ....” แรงบีบที่แขนมีมากจนฮันคยองต้องร้องอกมาด้วยความเจ็บ ร่างบางทั้งดิ้นทั้งเตะจนชายคนที่อยู่ด้านซ้ายมือหมดความอดทน ก่อนจะคว้ากล่องขนมเค้กและช่อดอกไม้ออกมาจากมือของฮันคยอง ส่วนอีกคนก็แบกร่างของฮันคยองขึ้นบ่าและเดินตรงไปที่ลิฟท์อย่างรวดเร็ว
“ ปล่อยชั้นนะ บอกว่าให้ปล่อยไงหูหนวกรึไงพวกแก....”
“ อย่ามาทำเป็นไม่เคยหน่อยเลย ชายร่างบางถือกล่องขนมเค้กและดอกไม้ ใครๆก็ดูออกว่าเป็นใคร....”
“ ใครอะไรของพวกแกชั้นไม่รู้จัก ปล่อยสิ ปล่อย....” ฮันคยองทั้งตะโกนทั้งข่วนแต่ก็ไม่เป็นผลจนเมื่อลิฟท์จอดที่ชั้นสูงสุดของโรงแรม ฮันคยองก็ถูกพาไปที่ห้องๆนึงก่อนจะปล่อยให้เป็นอิสระ ดวงตาหวานมองคนในห้องก็ต้องตะลึงเมื่อพบว่าผู้ชายร่างสูง กำลังนั่งดูทีวีด้วยความสุขก่อนที่ลูกน้องจะเดินไปพูดเบาๆ ก็ทำให้อีกคนหันมามองฮันคยองที่ยืนขมวดคิ้วด้วยความสงสัย
“ มาแล้วหรอ ให้ชั้นรอตั้งนาน....” ใบหน้าคมมองสำรวจร่างกายของฮันคยองตั้งแต่ศรีษะลงมาจนถึงปลายเท้า ทำเอาฮันคยองไม่พอใจที่ถูกมองด้วยสายตาแบบนี้
“ นี่นาย มามองกันแบบนี้หมายความว่ายังไง....”
“ ก็ ไม่มีอะไร มองไม่ได้รึไง....”
“ ไม่ได้....”
“ ไม่ให้มองก็ไม่มอง เพราะชั้นก็ไม่ได้อยากจะมองคนอย่างนายนักหรอกนะ เอาเถอะ ว่าแต่นายเอาเงินมาใช้ให้แจจุงรึยัง....”
“ จะ แจจุงอะไรกัน ชั้นไม่รู้จัก....” ฮันคยองถึงกับตาโตเมื่อเจอคำถามแบบนี้เข้าไป ทำให้ร่างสูงมองอีกคนด้วยรอยยิ้มที่เย้ยหยัน
“ แน่ใจหรอว่าจำไม่ได้ ก็นายเป็นคนนัดมาเองว่าวันนี้จะเอาเงินที่ขโมยไปมาใช้คืนให้....”
“ ผมไม่รู้ว่าพวกคุณพูดเรื่องอะไร ผมขอตัวก่อน....” ฮันคยองหันไปหยิบของๆตัวเองและตั้งท่าจะเดินออกไป แต่ก็ถูกดึงแขนเอาไว้และแรงกดนั้นก็มีมากจนฮันคยองต้องนิ่วหน้าด้วยความเจ็บ
“ ชั้นเจ็บนะ....”
“ ชั้นยังพูดไม่จบห้ามเดินหนี เข้าใจใช่มั้ย....”
“ นายไม่ใช่พ่อแม่ชั้นนะ ทำไมต้องทำตามด้วย....” เจอย้อนแบบนี้ทำเอาซีวอนถึงกับจุกไปเลยทีเดียว ใบหน้าคมหันมามองอีกคนด้วยใบหน้าที่เรียบเฉย
“ เอาเงินมาแล้วนายจะไปไหนก็ไป.....”
“ เงินอะไรชั้นไม่รู้เรื่อง มาถึงก็พูดเรื่องเงินใครจะไปให้....”
“ ถามจริงๆเถอะ นายแกล้งโง่หรือว่าโง่จริงๆห๊ะ....”
“ นายด่าชั้นว่าโง่หรอ มันจะมากไปแล้วนะ....”
“ ไม่มากไปหรอก ชั้นยอมรอและคุยกับคนแบบนายก็บุญมากแล้วรู้มั้ย....” ดวงตาหวานมองอีกคนอย่างไม่อยากจะเชื่อสายตาตัวเอง หน้าตาก็ดีท่าทางก็จะมีเงินแต่ทำไมปากถึงได้จัดขนาดนั้น ร่างบางสะบัดแขนให้หลุดออกจากการจับกุมแต่ก็ดูว่าจะไม่ได้ดั่งใจ
“ ปล่อยผมไปเถอะ ผมไม่รู้เรื่องที่คุณพูดมาเลยนะ...” ร่างบางพยายามพูดดีๆกับร่างสูงเผื่อว่าอีกคนจะยอมใจอ่อนปล่อยตนเองไป ซีวอนเองก็ถึงกับเงียบไปเมื่อเห็นแววตาอ้อนวอนจากร่างบาง ทั้งๆที่แจจุงเล่าให้ฟังว่าคนที่ขโมยเงินของเค้าไปเป็นคนที่เล่ห์เหลี่ยมเยอะ แต่ดูคนตรงหน้ากลับไม่มีท่าทีที่เป็นอย่างนั้นหรือว่าจะเป็นแค่การแสดง เพราะคราวก่อนแจจุงก็โดนหลอกแบบนี้มาเหมือนกัน
“ ไม่ เอาเงินที่นายขโมยไปคืนมาให้ครบเสียก่อน....”
“ บอกว่าไม่รู้ก็ไม่รู้สิ ชั้นเสียเวลากับนายมามากแล้วนะปล่อย....” ฮันคยองออกแรงสะบัดแขนออกก่อนจะหันหลังเดินตรงไปที่ประตูห้อง แต่ซีวอนก็ตามมาได้ทันและกระชากกล่องขนมเค้กที่ร่างบางถือเอาไว้เหวี่ยงใส่พื้นอย่างไม่ใยดี
“ กล้าดียังไงถึงเดินหนีชั้นไปแบบนั้น ผู้ชายขายตัวอย่างนายได้มาเหยียบที่ห้องชั้นก็ถือว่าหรูมากพอแล้ว....”
“ ขะ..ขายตัว นายว่าชั้นเป็นผู้ชายขายตัวหรอ....”
“ ก็ใช่นะสิ ไม่อย่างนั้นแจจุงมันจะซื้อตัวไปนอน จนถูกนายขโมยของมันไปจนหมดได้ยังไง....” ตอนนี้ในสมองของฮันคยองสั่งให้ร่างบางรีบหาทางหนีออกมาจากที่ห้องนี้ให้เร็วที่สุด เพราะว่าคนตรงหน้านั้นหน้ากลัวจนไม่อาจจะคาดเดาได้ว่าจะคิดทำอะไร ร่างบางหันไปจับลูกบิดประตูแต่ก็ถูกซีวอนอุ้มตนเองกลับเข้าไปในห้อง ฮันคยองทั้งทุบทั้งตีอีกคนอย่างไม่ออมแรง ร่างสูงเดินตรงไปยังห้องนอนของตนเองก่อนจะทิ้งร่างฮันคยองลงบนเตียงอย่างแรง ทำเอาฮันคยองถึงกับจุกเล็กน้อยก่อนจะเขยิบกายหนีด้วยความกลัว
“ ปล่อยชั้นไปเถอะนะ ชั้นไม่รู้เรื่องอะไรทั้งนั้นเลย ปล่อยชั้นไปเถอะ....” ฮันคยองขยับกายหนีแต่ถูกซีวอนดึงเรียวขาให้กลับลงมา ก่อนจะขึ้นคร่อมร่างอีกคนด้วยใบหน้าที่เย็นชา ใบหน้าคมลดลงใกล้ๆใบหน้าของฮันคยองก่อนจะเอ่ยออกมาเบาๆ ที่ข้างใบหูนิ่มอย่างช้าๆ
“ ถ้าไม่คือเงิน ก็ชดใช้ด้วยร่างกายก็แล้วกัน....” ดวงตาหวานถึงกับโตขึ้นเมื่อได้ยินอย่างนั้น พรางยกมือขึ้นไหว้คนที่คร่อมร่างตนเองอยู่ด้วยความกลัวสุดชีวิต
“ ชั้นขอร้อง ชั้นไหว้นายก็ได้นะ แต่อย่าทำแบบนี้ปล่อยชั้นไปเถอะ น้องชั้นกำลังรอเค้กชั้นอยู่นะ นะ...”
“ คิดว่านายมีค่าพอที่จะมาต่อรองได้หรอไง ในเมื่อไม่มีเงินก็เอาตัวเข้าแลกก็แล้วกัน....” พูดจบจมูกโงได้รูปก็จูบเข้าที่ซอกคอขาวทันที ฮันคยองพยายามดิ้นสุดกำลังเพื่อจะให้หลุดพ้น แต่ฝ่ามือของซีวอนที่แข็งแกร่งกว่าและแรงมากกว่าไม่อาจจะทำให้ฮันคยองสู้ได้ ริมฝีปากบางเฝ้าร้องอ้อนวอนให้อีกคนปล่อยตนเองไปอย่างน่าเวทนา
“ ฮือ ฮือ ปล่อยผมไปเถอะ อย่าทำแบบนี้ ผมไม่ได้ขายตัวให้ใครทั้งนั้น ปล่อยผม....” ไม่มีเสียงใดๆตอบกลับจะมีก็แต่การกระทำที่ทำให้ฮันคยองแทบอยากจะกลั้นใจตาย เรี่ยวแรงที่ว่ามีมากแค่ไหนฮันคยองก็พยายามสู้เต็มที่ แต่ก็ไม่อาจจะทนแรงของคนที่อยู่เหนือร่างตนเองได้ หยดน้ำตาไหลอาบสองแก้มอย่างไม่ขาดสายยิ่งเวลาที่มือหนาลูบไล้ไปทั่วกายเพื่อสัมผัส ฮันคยองก็รู้สึกเกลียดทุกส่วนในร่างกายของตนเอง ร่างบางต้องทนกัดฟันเพื่ออดทนรับความเจ็บปวดที่ตามมา ริมฝีปากบางเริ่มมีเลือดไหลซึมออกมาจากแรงกัดของตนเองและอีกคน ร่างสูงมองคนข้างใต้ก่อนจะพูดจาซ้ำเติมความเจ็บปวด
“ ไม่อ้อนวอนของความเห็นใจแล้วหรอ....”
“ ขอร้องคนเลวๆอย่างนาย ชั้นขอตายจะยังดีเสียกว่า....”
“ ปากเก่งนักนะ ดูสิว่านายจะปากเก่งได้นานแค่ไหน....”
http://story.niyay.com/story-55606/ (ตามไปเลยจ้า)
ร่างสูงปล่อยให้ตัวเองอยู่ใต้สายน้ำโดยที่ฮันคยองกำลังพยายาม พาร่างกายของตนเองออกไปจากที่นี่โดยเร็วที่สุด เพียงแค่ขยับตัวก็รู้สึกปวดร้าวราวแทบขาดใจเรียวขางามสั่นระริกด้วยความเจ็บ หยดเลือดที่ไหลเป็นทางยาวฮันคยองก็ไม่แม้แต่จะสนใจ ก่อนจะควานหาเสื้อผ้ามาใส่และตรงไปที่ห้องโถง ก่อนจะกลั้นน้ำตาไม่ให้ไหลออกมาสองมือบางคว้ากล่องขนมเค้กขึ้นมา ด้วยหัวใจที่ปวดร้าวเมื่อเค้กที่ตนเองตั้งใจจะซื้อให้ฮยอกเนื่องในวันเกิด กลายเป็นวันที่ปวดร้าวที่สุดสำหรับตนเองฮันคยองหยิบของเสร็จก็เดินออกไป โดยไม่สนใจอะไรอีกร่างบางพาตัวออกมาจากห้องที่เป็นนรกนั้นได้ ก็รีบกดลิฟท์ลงไปให้พ้นๆจากที่นี่เสียที ทางด้านซีวอนหลังจากที่ปล่อยให้ตัวเองอยู่ภายใต้น้ำที่เย็นอยู่สักพักก็กลับออกมา แต่ยังไม่ทันที่เรียวขาจะได้เข้าไปยังห้องนอนเสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้นเสียก่อน ร่างสูงมองดูเบอร์ก็รีบกดสายรับทันที
“ ว่าไง กว่าจะโทรมาได้นะ....”
“ อะไรของแกห๊ะซีวอน ชั้นกดหาแกจนนิ้วหงิกแล้วนะแกไม่รับเอง....”
“ เอ่อ ว่าแต่มีอะไรถึงโทรมา....”
“ ก็เรื่องที่บอกว่ามีคนจะเอาเงินมาคืนหน่ะ ชั้นจะบอกว่าไม่ต้องแล้วชั้นเจอมันแล้ว และมันก็คืนให้แล้วด้วย....”
“ อะ...อะไรนะ แกพูดอีกทีสิแจจุง....”
“ หืม...ฟังดีๆๆล่ะ ชั้นบอกว่าคนที่ชั้นบอกแกว่าจะมาคืนเงินให้ เมื้อกี้ชั้นเจอแล้วและก็ได้เงินมาแล้ว ขอบใจแกมากนะ....” ซีวอนถึงกับพูดอะไรไม่ออกเมื่อได้ยินแบบนี้ถ้าแจจุงบอกว่าเจอผู้ชายคนนั้นแล้ว และคนที่นอนกับตนเองเมื่อครู่นั้นเป็นใครร่างสูงทิ้งโทรศัพท์มือถือ ก่อนจะตรงไปที่ห้องนอนและก็พบว่าไม่เจอคนที่ตนเองอยากเจออยู่ที่นั้นอีกแล้ว ร่างสูงคว้าเสื้อผ้ามาส่วมใส่ก่อนจะออกไปสั่งลูกน้องให้ตามหาร่างบางให้พบ ทันทีที่ได้รับคำสั่งลูกน้องทุกคนก็รีบไปตามหาแต่ก็ไม่พบ ทำเอาซีวอนถึงกับหงุดหงิดเมื่อได้ยินคำตอบนี้
“ ทำไมมันถึงเป็นแบบนี้....” ซีวอนที่โกรธตัวเองได้แต่ระบายความโกรธกับข้าวของที่อยู่ข้างกาย โดยไม่ได้รู้เลยว่าอีกคนที่ตนเองได้ทำร้ายลงไปนั้นหัวใจก็แตกสลายเหมือนกัน ฮันคยองกำถุงและช่อดอกไม้ไว้จนแน่นสองขาพยายามเดินอย่างสุดกำลัง สายฝนที่ตกลงมายังคงหนักและไม่มีทีท่าว่าจะหยุดง่ายๆ ทำเอาฮันคยองที่กำลังจะข้ามถนนไม่ทันได้มองว่ามีรถวิ่งมาด้วยความเร็วนั้น เมื่อเห็นว่ามีคนอยู่ตรงทางข้างหน้าก็ทำให้คนขับรถดังกล่าวเบรกสุดชีวิตแต่ก็ยังชนถูกร่างบางเข้าอย่างจัง ทำให้คนที่นั่งอยู่ในรถรีบลงมาดูก่อนจะเข้าไปดูว่าร่างบางเป็นอะไรมากมั้ย
“ คุณครับ คุณ ได้ยินผมมั้ยครับ....” เงียบสนิทไม่มีเสียงใดๆเล็ดลอดออกมาให้ได้ยินทำเอาซองมินที่ได้ดื่มมาถึงกับหายเมาเลยทีเดียว คนตัวเล็กพยายามกดโทรเรียกรถของโรงพยาบาลเพื่อนำฮันคยองไปให้หมอรักษา ซองมินที่นั่งเฝ้าอยู่หน้าห้องไอซียูก็ทั้งลุ้นทั้งกลัวว่าฮันคยองจะเป็นอะไรไปมากกว่านี้ นานอยู่หลายชั่วโมงก่อนที่หมอจะออกมาซองมินก็รีบไปถามไถ่อาการของฮันคยองทันที
“ คุณหมอครับ คนไข้เป็นยังไงบ้างครับ....”
“ คนไข้ปลดภัยแล้วครับ แต่ว่า ขาของคนไข้....”
“ ทำไมครับ ขาเค้าทำไมครับคุณหมอ....”
“ หมอว่าบางทีมันอาจจะใช้การไม่ได้ครับ....”
“ แสดงว่าต้องเป็น...”
“ หมอว่าควรจะพาคนไข้ไปรักษาต่อที่เมืองนอก บางทีอาจจะรักษาได้นะครับ....” ซองมินถึงกับพูดไม่ออกนี่เค้าเมาจนขับรถชนไม่พอ ยังทำให้ขาต้องเดินไม่ได้อีกซองมินแทบกลั้นน้ำตาเอาไว้ไม่อยู่ด้วยความสงสาร คนตัวเล็กค่อยๆเดินเข้าไปที่ห้องพักก่อนจะเดินไปดูใบหน้าของฮันคยองใกล้ๆ ใบหน้าหวานที่สะกดให้ซองมินรู้สึกชอบขึ้นมาอย่างหาสาเหตุไม่ได้ ฝ่ามือเล็กๆเอื้อมไปลูบไล้ที่ใบหน้าของคนเจ็บอย่างเบามือ
“ น่ารัก....” คนตัวเล็กใช้นิ้วจิ้มเข้าไปที่แก้มของฮันคยองอย่างเบาๆ ก่อนจะเริ่มหาสิ่งของที่ติดตัวฮันคยองขึ้นมาและกดดูเบอร์โทรสุดท้ายที่ร่างบางโทรไป ทันทีที่เห็นว่าเบอร์ของฮันคยองขึ้นฮยอกแจก็รีบกดรับและตัดพ้อปลายสายทันที
“ พี่ฮัน ทำไมป่านนี้ยังไม่มาครับ รู้มั้ยว่าผมรอเค้มพี่นานมากแค่ไหน....”
“ เอ่อ...ขอโทษครับ พอดีพี่ฮันประสบอุบัติเหตุครับ....”
“ ห๊ะ....นายว่าอะไรนะ....” เสียงดังที่ออกมาจากปลายสายทำเอาซองมินกลัวที่จะพูดต่อ แต่ก็ต้องตัดความกลัวออกเล่าทุกอย่างให้ฮยอกแจฟัง ไม่นานนักคนที่ตะโกนใส่ตนเองก็มาถึงที่ห้องพักก่อนจะเข้ามาคว้ามือของพี่ฮันคยองมากุมเอาไว้
“ พี่ฮัน พี่ฮันครับ ได้ยินผมมั้ยพี่....”
“ เอ่อ พี่ฮันได้ยานอนหลับไปคงไม่ได้ยินนายหรอกนะ....”
“ เพราะคุณ ขับรถยังไงพี่ฮันถึงต้องมาเป็นแบบนี้....” ฮยอกแจตวาดเสียงดังใส่ซองมินทำเอาคนตัวเล็กถึงกับกลัว แต่ก็ยอมรับในสิ่งที่อีกคนต่อว่าไม่กล้าเถียงสักคำแม้ว่าในใจอยากจะเถียงใจแทบขาด
“ ผมขอโทษ ผมยินดีรับผิดชอบทุกอย่าง ผมจะออกค่ารักษาพี่ฮันทุกอย่างนายไม่ต้องห่วง....”
“ ชั้นไม่ได้ห่วงเรื่องนั้น ชั้นห่วงกลัวว่าพี่ฮันจะไม่ลืมตามามองชั้นอีกนะสิ....” ฮยอกแจกุมมือของฮันคยองขึ้นมากอดเอาไว้แนบกับใบหน้า ยิ่งซองมินเล่าให้ฮยอกแจว่าร่างกายของพี่ฮันเป็นยังไงบ้าง และเมื่อรู้ว่าฮันคยองไปโดนอะไรมาก็ทำให้ฮยอกแจยิ่งรู้สึกผิด ถ้าตนเองนั้นไม่เรียกร้องอยากได้เค้กพี่ฮันก็คงไม่ต้องเจ็บตัวและเจอกับเรื่องเลวร้ายได้ ตลอดเวลาสามวันสามคืนที่ฮันคยองไม่ฟื้นลืมตาขึ้นมานั้น ซองมินและฮยอกแจต่างก็พลัดมาเยี่ยมและพูดคุยกับฮันคยองทั้งๆที่อีกฝ่ายไม่รู้สึก จนเวลาล่วงเลยไปอีกวันดวงตาหวานที่ปิดตลอดมาค่อยๆลืมตาขึ้น และสิ่งแรกที่ได้เห็นก็คือน้องชายที่รักมากที่สุดกับอีกหนึ่งคนที่ยืนยิ้มให้อยู่ไม่ใกล้นัก
“ พี่ฮันฟี้นแล้ว พี่ฮัน พี่ฮันครับ....”
“ ฮยอก....” ดวงตาหวานมองไปทางซองมินก่อนที่คนตัวเล็กแทรกเบียดฮยอกแจ และเข้ามากุมมือของฮันคยองเอาไว้
“ ผมซองมินครับพี่ฮัน....”
“ ซองมิน....”
“ ผมขอโทษนะครับที่ขับรถไม่ดูพี่ฮัน ทำให้พี่ต้องมาเป็นแบบนี้....”
“ พี่เองที่เดินไม่ดูทาง เราอย่าโทษตัวเองเลยนะ....” ฮันคยองพูดจบก็ค่อยๆขยับตัวแต่ก็ต้องอึ้งไปเมื่อช่วงขาไม่ขยับตามตนเอง ร่างบางลองขยับอีกครั้งเรียวขาก็ไม่รู้สึกอะไรทั้งนั้น ทำให้ซองมินโผเข้ากอดร่างของพี่ฮันเอาไว้ด้วยความรู้สึกผิด
“ ผมขอโทษพี่ฮัน ผมขอโทษ....” ไม่มีคำพูดใดๆหลุดออกมาจากริมฝีปากบาง จะมีก็แต่หยดน้ำตาที่ไหลลงอาบสองแก้มอย่างช้าๆ เจ็บที่ไม่มีคำพูดมันอัดแน่นอยู่ในหัวใจของฮันคยอง ฮยอกแจและซองมินต่างรู้ดีว่าฮันคยองรูสึกเช่นใด จึงไม่อยากจะเอ่ยถามเรื่องที่เกิดก่อนหน้าจะโดนชน ถ้าพูดไปแล้วกลัวว่าพี่ฮันคยองจะเจ็บปวดไปมากกว่านี้ ทั้งสองต่างร่วมแรงร่วมใจมาดูแลพี่ฮันคยองจนหายดี แม้ว่าขาจะยังคงใช้งานไม่ได้ตามเดิมแต่ซองมินก็รับปากว่าจะพาฮันคยองไปรักษาต่อที่เมืองนอก แรกๆร่างบางก็ปฏิเสธที่จะรักษาเพราะว่ามันต้องใช้เงินมาก
แต่ซองมินก็ยังตื้อตลอดเวลาจนฮันคยองใจอ่อน และบอกว่าถ้าไม่หายตนเองก็จะขอกลับมาที่โซลเพราะคิดถึงฮยอกแจและซองมิน คนตัวเล็กรับปากร่างบางทุกอย่างก่อนจะเดินเรื่องทุกและพาพี่ฮันไปรักษาต่อที่เมืองนอก ตลอดเวลาเกือบหนึ่งปีที่ฮันคยองไปรักษาตัวที่นั้นฮยอกแจก็ได้ไปทำงานที่บริษัทแห่งหนึ่ง และที่แห่งนั้นก็ทำให้เค้าได้พบเจอกับทงเฮเพื่อนสมัยเรียนอยู่ด้วยกัน
และฮยอกก็แอบชอบทงเฮมาตลอดเวลาโดยไม่บอกให้อีกคนได้รู้ ทางด้านซองมินที่กำลังจะไปเรียกต่อก็ต้องมีอันล้มโครงการนั้นไป เพราะพ่อของเค้าต้องการให้ซองมินหมั้นกับลูกชายเพื่อนรักของพ่อตนเอง แรกๆซองมินก็ไม่ยอมท่าเดียวจนเมื่อพ่อของเค้าเอาฮันคยองมาเป็นข้อต่อรองก็ทำให้คนตัวเล็กถึงกับพูดไม่ออก
“ คุณพ่อทำไมต้องทำแบบนี้ด้วยครับ ผมไม่อยากหมั้นกับใครทั้งนั้น....”
“ เมื่อไหร่แกจะเลิกทำตัวเหลวไหลเสียที หัดทำตัวดีๆกับเค้าบ้าง....”
“ ไม่มันเกี่ยวกันซะหน่อย ถึงผมทำตัวไม่ดีก็ไม่ใช่ว่าจะยกผมให้ใครแบบนี้อ่ะ...”
“ เลิกเถียงชั้นสักที แกเตรียมตัวหมั้นกับคยูฮยอนลุกชายเพื่อนชั้นก็พอ....”
“ ไม่เอา ผมไม่หมั้นกับใครทั้งนั้น....”
“ งั้นแกก็เลือกเอา ระหว่างหมั้นกับคยูฮยอนดีๆ หรือว่าจะให้ชั้นสั่งทางนั้นว่าไม่ต้องรักษาฮันคยองของแก....” ผู้เป็นพ่อรู้ดีว่าคนที่ชื่อฮันคยองมีอิทธิพลกับลูกชายตนเองแค่ไหน จึงเอาชื่อของฮันคยองมาบังคับให้ซองมินยอมที่จะรับหมั้นคยูฮยอนแต่โดยดี
“ ว่าไง แกจะเอายังไงว่ามา....”
“ ผมยอมหมั้นก็ได้ แต่ห้ามคุณพ่อทำแบบนั้นนะครับ....” คนตัวเล็กคิดในใจรอให้พี่ฮันคยองหายเมื่อไหร่ตนเองจะรีบถอนหมั้นทันที ตลอดเวลาที่ต้องทนอยู่ในบ้านซองมินอยากจะบ้าตาย ได้แต่โทรคุยกับฮยอกแจถึงเรื่องพี่ฮันเท่านั้นที่ทำให้คนตัวเล็กรู้สึกดีขึ้นมาบ้าง จนเมื่อถึงวันหมั้นทุกๆคนต่างมารอกันมากมายหากแต่ซองมินยังไม่ลงมา ทำให้บิดาต้องขึ้นไปตามและก็พบว่าซองมินนั้นยังคงนอนหลับอยู่ที่เตียง จึงเดินเข้าไปดึงอีกคนให้ลุกขึ้นมาจากที่นอน
“ ตื่นขึ้นมาเดี๋ยวนี้นะซองมิน ชั้นบอกให้แกตื่น....”
“ โอ๊ย...คุณพ่อ มีอะไรแต่เช้าครับ.....”
“ นี่แกจะแกล้งชั้น หรือว่าแกลืมกันแน่ห๊ะ....” คนตัวเล็กหันไปมองบิดาที่ยื่นทำหน้าเครียดก็รู้สึกกลัวขึ้นมา ก่อนจะทำหน้างอเดินหายเข้าในห้องน้ำพรางเดินออกมา และหยิบชุดที่ต้องใส่และลงไปพร้อมบิดา วินาทีแรกที่คนตัวเล็กนั่งลงข้างๆคยูฮยอนก็ยิ้มออกมาด้วยความรู้สึกดี แต่กลับถูกอีกคนค้อนให้วงใหญ่ทำเอาคยูฮยอนถึงกับอึ้งไปทีเดียว พิธีหมั้นดำเนินไปอย่างเรียบง่ายตลอดเวลาใบหน้าของเจ้าบ่าวดูยิ้มแย้ม ผิดกับอีกฝ่ายที่ทำหน้าเซ็งอยากจะตายอย่างใดอย่างนั้น ทันทีที่เลี่ยงออกมาได้ซองมินก็ไม่รอช้าที่จะเดินหนีออกมานั่งเงียบๆคนเดียวในสวน แต่ความสุขนั้นก็พังลงเมื่อเสียงของใครบางคนดังขึ้นมาจากทางด้านหลัง
“ แอบมานั่งคนเดียวแบบนี้ คงจะคิดถึงใครอยู่แน่เลย....”
“ ใครก็ได้ที่ไม่ใช่นาย....”
“ ผมก็รู้ว่าคุณไม่ได้คิดถึงผม เพราะว่าผมก็ไม่ได้คิดถึงคุณเช่นกัน....” คนตัวเล็กถึงกับหน้าหวอเมื่อได้ยินแบบนี้ ในเมื่ออีกคนประกาศตัวเองชัดเจนก็ไม่มีอะไร ที่ซองมินจะต้องเกรงใจจึงซัดฝ่ายตรงข้ามทันที
“ คิดว่าชั้นอยากจะคิดถึงนักหรือไง ที่ต้องหมั้นก็พอโดนบังคับ....”
“ ผมก็เหมือนกัน รอบกายมีแต่สาวสวยๆ แต่นี่อะไร....” คยูฮยอนมองดูซองมินด้วยสายตาที่อีกคนไม่ชอบก่อนจะเดินเข้าไปดันอกคนให้ออกห่าง
“ เชิญนายไปหาแม่ผู้หญิงพวกนั้นของนายต่อไปเถอะ....” ซองมินพูดจบก็เดินกลับเข้าไปในบ้านทันที ทิ้งให้คยูฮยอนหัวเราะอย่างมีความสุขเพียงลำพัง แม้ว่าจะรู้สึกแปลกๆที่ต้องหมั้นด้วยกัน แต่เจออีกคนกวนแบบนี้คยฮยอนก็ชักจะมีความสุข
“ มีเกมส์สนุกๆให้เล่นอีกแล้วเรา....” พูดจบร่างโปร่งก็เดินกลับเข้าไปในงานและไม่ว่าซองมินจะเดินไปที่ไหน ก็จะเห็นว่าคยูฮยอนอยู่ใกล้ๆตลอดเวลาทำให้ผุ้คนที่มาต่างยิ้มแย้มกัน ผิดจากซองมินที่อยากจะให้วันนี้มันผ่านพ้นไปเร็วๆเสียที
......................................................................................................
สวัสดีคะรีดเดอรที่น่ารักทุกคน วันนี้พี่หนิงเอาตอนแรกของฟิคเรื่องนี้มาลงให้แล้วนะคะ
ขอโทษจริงๆที่ลอินโทรไว้ตั้งนานแต่ยังไม่ได้ลงสักที เพื่อนๆยังไม่ได้ลืมพี่หนิงใช่มั้ยคะ
ยังไงพี่หนิงก็ขอฝาฟคเรื่องนี้ด้วยนะคะ สนุกไม่สนุกยังไงติชมกันได้จ้า
ความคิดเห็น