คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #38 : ตอนที่ 38 ชำระแค้น
"หึ!!!เป็นเพราะพวกเจ้า ข้าถึงต้องมีสภาพเช่นนี้ จ้าวฮวาเอ๋อนังตัวดี พรุ่งนี้เจ้าไม่รอดแน่!!!"
วันต่อมา ค่ายทหาร
ทหารทั้งกองทัพต่างพากันดีอกดีใจที่จะได้กลับบ้าน หลังจากเสร็จภารกิจเป็นกำแพงของชาติแล้ว ทุกคนต่างก็เก็บข้าวของแล้วไปรวมตัวกันที่จุดนัดพบ
"ท่านอ๋องเดินระวังๆหน่อย บาดแผลยังไม่หายดีนะ"เฟยหนานพูดพร้อมกับประคองคนดังกล่าว
"ข้ามีหมอส่วนตัวอยู่ข้างกาย ข้าจะกลัวไปใย"
"งั้นก็เชิญท่านอ๋องเดินไปเองเถอะเพคะ"นางพูดพลางปล่อยมือออกจากเขาแต่เขากลับคว้าข้อมือของนางไว้ก่อน
"หนานหนาน..."
"มีอะไรเพคะ ท่านอ๋อง!!"
"ประคองข้าไปเถอะนะ" เฟยหนานไม่ตอบอะไรแต่ยื่นมือไปให้เขาจับแขน เขายิ้มรับและจับที่แขนของนางเดินต่อไปจนถึงที่นัดพบ
จุดรวมพล
"เข้าประจำที่ ท่านแม่ทัพมาถึงแล้ว!!"หลี่ไท่คุนประกาศต่อหน้าทหารทุกคน
"ทหารทุกท่าน เราได้ผ่านความเป็นความตาย ผ่านศึกครั้งยิ่งใหญ่มา ทุกท่านคงจะเหน็ดเหนื่อยมาไม่น้อย พี่น้องเราต่างใช้เลือดใช้เนื้อแลกกับแผ่นดินเกิดของพวกเรา วันนี้ที่พวกเราจะกลับบ้าน ข้าจะพาพวกเขาทุกคนกลับไปด้วย!!!"
"เฮ!!กลับบ้าน!!กลับบ้าน!!กลับบ้าน!!"
"เอาหละ ทุกคนเงียบก่อน ข้าจะให้รองแม่ทัพและขุนพลนำพวกท่านกลับเมืองหลวง ข้ายังสิ่งที่ต้องจัดการจะตามไปทีหลัง"
"รับทราบ ท่านแม่ทัพ!!"
"พี่น้องทุกท่าน แล้วพบกัน"ฉินเจี้ยนสือกล่าวลาพร้อมกับนำมือทั้งสองขึ้นคำนับแล้วเดินตรงมาที่เฟยหนาน
"หนานหนาน ไปกันเถอะ"
"เราจะไปไหนกันหรอ"
"เจ้าเคยสัญญาไม่ใช่หรือ ว่าจะพาข้าไปคำนับหลุมศพไป๋มู่"ได้ยินดังนั้นเฟยหนานก็ยิ้มออกมา
"ท่าน...ไม่ถือโทษโกรธสิ่งที่เขาเคยทำหรอ"
"คนก็ตายไปแล้ว จะถือโทษโกรธไปให้ได้อะไรขึ้นมา ข้าคิดว่าข้าคงจะต้องปล่อยวางในหลายๆเรื่อง แล้วมาใช้ชีวิตที่เหลืออยู่เคียงข้างกับคนที่ข้ารักดีกว่า"เขาพูดพร้อมกับหันมามองใบหน้านางอันเป็นที่รัก
"บ้า!!"เฟยหนานตบแขนเขาเบาๆ ครู่หนึ่งไป๋มู่ก็จูงม้ามาตัวหนึ่ง
"ท่านอ๋อง หากเกิดเหตุอะไรให้จุดพลุสัญญาณนะพะยะค่ะ หม่อมชั้นจะรีบไปช่วยทันที"
"ไม่มีอะไรหรอก อย่ากังวลไปเลย รีบพาพวกเขากลับบ้านเถอะ"ฉินเจี้ยนสือพูดพลางตบไหล่เขา "ฝากดูแลเสด็จพี่กับหลางเยว่ด้วยนะ"
"พะยะค่ะท่านอ๋อง หม่อมชั้นทูลลา"
พูดจบหลี่ไท่คุนก็เดินจากไป ฉินเจี้ยนสือกระโดดขึ้นบนหลังม้าแล้วยื่นมือมาที่เฟยหนาน "พวกเราไปกันเถอะ"
ระหว่างทาง
ฉินเจี้ยนสือหยุดม้า แล้วมองไปทางซ้าย ก็พบลำธารเล็กๆไหลผ่าน
"หนานหนาน เราเดินทางมาสักพักแล้ว พักแถวนี้ครู่หนึ่งเถอะ"
"อืม หม่อมชั้นจะเปลี่ยนผ้าพันแผลให้ท่านนะ"
ทั้งคู่กระโดดลงจากม้าแล้วเดินตรงไปที่ลำธาร
"หนานหนาน"
"มีอะไรหรือ"เฟยหนานถามเขากลับ สายตามองไปที่บาดแผลของเขาแล้วค่อยๆใช้ผ้าพัน
"ในยุคของเจ้า เจ้าเป็นหมอหรือ??"
"ยังไม่เชิงเป็นหมอหรอก ก็แค่ยังเรียนอยู่น่ะ มีอะไรหรอ"
"แล้วในยุคของเจ้า เจ้ามีคนที่รักหรือไม่"เฟยหนานชะงักไปครู่หนึ่ง "หนานหนาน เจ้าเป็นอะไรไป"
"เปล่าสะหน่อย ก็ต้องมีสิ"
"ใครกัน!!"ฉินเจี้ยนสือกดเสียงต่ำ
"ก็แม่หม่อมชั้นไง ฮะๆๆๆ แค่นี้ก็ต้องหึงด้วยหรอ"เฟยหนานหยอกเขาแล้วหัวเราะออกมา
"แล้วไป หากข้ารู้ละก็..."
"ทำไม??"นางยื่นหน้าเข้าไปใกล้ๆเขา เขาดึงตัวนางเข้ามากอด
"ข้าก็จะไม่มีวันปล่อยเจ้ากลับไปเด็ดขาด"
นางสวมกอดเขา "ไล่ตอนนี้หม่อมชั้นก็ไม่ไปแล้วหละ"
"พวกเราเดินทางต่อเถอะ เดี๋ยวมืดแล้วเจ้าจะลำบากเอา"
"อืม..."
กระท่อมกลางป่า
หน้าหลุมศพของไป๋มู่ปรากฏบุคคลทั้งสองพร้อมกับเครื่องเซ่นไหว้
"ไป๋มู่ วันนี้ข้าคำนับ เรื่องที่ผ่านมาทั้งหมดต้องขอบคุณเจ้าที่ดูหนานหนานเป็นอย่างดี เรื่องที่ข้าเคยทำผิดต่อเจ้า ขอให้เจ้าให้อภัยข้า และอวยพรให้เราทั้งคู่ใช้ชีวิตคู่ต่อไปอย่างมีความสุข"ฉินเจี้ยนสือคุกเข่ากล่าวต่อหน้าหลุมศพแล้วก้มคำนับ
"ไป๋มู่ ข้าขอบคุณเจ้ามาก ที่คอยอยู่เคียงข้างข้า คอยช่วยเหลือข้ามาตลอด ตอนนี้...เจ้าคงจะได้พบลี่อิงแล้วสินะ..."เฟยหนานมองป้ายหลุมศพสีหน้าเศร้าหมอง
"หนานหนาน คืนนี้เราพักที่นี่ก่อนเถอะ"
"อืม..."
ยามสาม กระท่อมไป๋มู่
"ในที่สุดข้าก็ตามหาพวกเจ้าจนเจอ จ้าวฮวาเอ๋อนังตัวดี!! วันนี้ข้าจะมาเอาชีวิตเจ้า"ฉินไห่อี้ที่ยืนอยู่หน้ากระท่อมกล่าวขึ้นพร้อมกับเดินตรงที่ห้องนอนของทั้งคู่ เขาเจาะรูแล้วค่อยๆเป่ายาสลบเข้าไปในห้อง ทำให้ทั้งสองที่นอนอยู่บนเตียงต่างพากันไม่รู้สึกตัว
"นังตัวดี!!เจ้าต้องไปกับข้า"พูดจบฉินไห่อี้ก็แบกร่างของเฟยหนานขึ้นไหล่แล้วรีบออกไปทันที
เช้าวันต่อมา
"หนานหนาน..."ฉินเจี้ยนสือสลึมสลือ ใช้มือดันตัวเองให้ลุกขึ้น
"หนานหนาน...หนานหนานเจ้าอยู่ที่ไหน"เขามองหานางไปทั่วๆบ้าน สายตาไปสะดุดอยู่ที่จดหมายบนโต๊ะกลางบ้าน
" ถ้าเจ้าได้อ่านจดหมายฉบับนี้ แสดงว่านางตายแล้ว"
ฉินไห่อี้
"ฉินไห่อี้!!!"เห็นดังนั้นฉินเจี้ยนสือก็รีบวิิ่งออกไป กระโดดขึ้นม้าแล้วควบออกไปทันที
ระหว่างทางที่ควบม้าออกไปนั้น เขาก็พยายามหารอยเท้าหรือฝีเท้าของม้าว่าไปทางทิศไหนก็พบกับรอยเท้าม้ามุ่งหน้าไปทางทิศใต้ เขาจึงรีบควบม้าตามไปทันที
ทางด้านของฉินไห่อี้
"โอ๊ย!!"เฟยหนานที่พึ่งได้สติพยายามขยับตัวแต่นางพบว่าตนกำลังถูกมัดห้อยอยู่กับกิ่งของต้นไม้ขนาดใหญ่ซึ่งข้างล่างเป็นหน้าผา นางจึงมองไปที่ริมหน้าผา "องค์ชายสิบ" คนที่นางเอ่ยถึงกำลังนั่งเหลาไม้อยู่อย่างสบายใจ
"ในที่สุดเจ้าก็ได้สติสักที"เขาพูดพร้อมกับหันหน้ามาที่นาง "เจ้ารู้ไหมว่าตัวเจ้าหนักมากเลยนะจ้าวฮวาเอ๋อ เอ๊ะ!!ไม่ใช่สิ ต้องเรียกเจ้าว่า เฟยหนาน สินะ"
"องค์ชายสิบ ท่านจะทำอะไรกันแน่"
"ก็ไม่มีอะไรหรอก ทุกอย่างกำลังดำเนินไปตามแผนที่ข้าวางเอาไว้ แต่เจ้า!!ที่เป็นใครมาจากไหนก็ไม่รู้ มาทำลายแผนการของข้า ทำให้ลูกน้องมือดีของข้าทรยศหักหลังข้า ที่ทุกอย่างเป็นแบบนี้ ก็เพราะเจ้า!!!"
"ท่านก็ดีแต่โทษคนอื่น ท่านลองย้อนมองตัวเองดูบ้างหรือไม่ ว่าสิ่งที่ท่านทำมันถูกต้องแล้วหรือ"
"ใช่ ถึงมันจะไม่ถูกต้อง แต่ถ้าไม่มีเจ้า บัลลังก์และอำนาจทั้งหมดก็จะตกเป็นของข้า ไม่ใช่มาหนีตายหัวซุกหัวซุนเช่นนี้!!"ฉินไห่อี้พูดพร้อมกับชักกระบี่ออกมา
"อะ...องค์ชายสิบ นี่ท่าน..."
"เจ้าคงจะคิดไม่ถึง ว่าข้าจะกล้าฆ่าเจ้าใช่หรือไม่"
"..."เฟยหนานไม่ตอบอะไร
"หึ!! เฟยหนาน หากคนที่เจ้าแต่งด้วยเป็นข้า เจ้าก็คงจะไม่ต้องมาลำบากเช่นนี้"
"จะฆ่าข้าก็รีบฆ่าเถอะ ท่านจะรีรออะไร"
"รอคนรักของเจ้าไงหละ"
"ท่านอ๋อง...ท่านจะทำอะไรเขา!!"
"ตอนแรกข้ากะว่า จะฆ่าเจ้า ให้เจ้าตายอยู่ในอ้อมกอดของเขาที่กระท่อมนั่น แต่ว่า..."
"แต่ว่าหรือ องค์ชายสิบ"??
"ข้าคิดแล้ว...ว่าเจ้าจะต้องหาข้าเจอ"
"ท่านอ๋อง!!"
"หนานหนาน ไม่ต้องกลัวนะ ข้าจะช่วยเจ้าเอง"
"หึ!! เจ้าเอาชีวิตตัวเองให้รอดก่อนเถอะ ฉินเจี้ยนสือ!!!"พูดพร้อมฉินไห่อี้ก็พุ่งปลายกระบี่ตรงไปที่ฉินเจี้ยนสือ ฉินเจี้ยนสือรู้ทันจึงกระโดดลงจากหลังม้าแล้วชักกระบี่ออกมารับคมกระบี่ของฉินไห่อี้ ทั้งสองต่อสู้กันครู่หนึ่งต่างไม่รู้แพ้รู้ชนะ
ทำยังไงดี...บาดแผลของเจี้ยนสือก็ยังไม่หายดี ถ้าขืนสู้ต่อไปอีกละก็...
"ท่านอ๋อง ใช้เพลงกระบี่หงส์สังหาร ไป๋มู่เคยบันทึกไว้ว่าเขาไม่สามารถเอาชนะเพลงกระบี่นี้ได้"
"เงียบไปเลยนังตัวดี"ฉินไห่อี้หันมาขว้างอาวุธลับไปที่เชือกแต่ฉินเจี้ยนสือก็มาช่วยปัดให้
"หนานหนาน เจ้าไม่เป็นอะไรนะ"
"หม่อมชั้นไม่เป็นอะไร"เฟยหนานต้องเขา สายตามองผ่านเขาไปเห็นด้านหลังฉินไห่อี้กำลังมุ่งตรงมาที่เขา "เจี้ยนสือระวัง"
ฉินเจี้ยนสือหันกลับไปรับคมกระบี่ทันและเขาก็เริ่มใช้ท่าเพลงกระบี่หงส์สังหาร ไม่นานฉินไห่อี้ก็ได้รับบาดแผลที่แขนข้างขวา
"ฉินเจี้ยนสือ ร้ายกาจสมคำร่ำลือนี่..."
"ฉินไห่อี้ เราไม่เคยมีความแค้นต่อกัน ทำไมท่านต้องทำเช่นนี้"
"ไม่มีความแค้นงั้นหรือ เจ้าสังหารเสี่ยวเฉิง คนที่ข้ารักเสมือนน้องสาวแท้ๆ เจ้าแย่งจ้าวฮวาเอ๋อคนรักของข้าไป แล้วยังกล้าดีจะมาชิงบัลลังก์กับข้า นี่นะหรือไม่มีความแค้นต่อกัน!!"
"นั่นเป็นเพราะตัวท่านเองทั้งหมด ไม่เกี่ยวอะไรกับข้าเลยแม้แต่น้อย และยิ่งไม่เกี่ยวข้องอะไรกับนาง ปล่อยนางสะ!!"
"ไม่เกี่ยวกับนางงั้นหรือ เหอะ!!ถ้านางไม่รับรู้เรื่องราวมากขนาดนี้ ถ้านางยอมแต่งงานเป็นชายาข้า ยังไงสะนางก็คงจะไม่มีจุดจบเช่นนี้"
"ฉินไห่อี้ ข้าจะพูดเป็นครั้งสุดท้าย ปล่อยนางสะ!!!"
"ฉินเจี้ยนสือ เจ้ารู้หรือไม่ว่าข้ารอเวลานี้มานานขนาดไหน วันที่จะเห็นเจ้าต้องเสียใจไปตลอดชีวิต!!"ฉินไห่อี้กล่าวพร้อมกับกระโดดไปตรงต้นไม้แล้วตัดเชือกที่มัดเฟยหนานอยู่ ร่างของเฟยหนานดิ่งลงสู่ก้นเหว ฉินเจี้ยนสือเห็นดังนั้นเขารีบกระโดดลงไปรับนางและใช้เชือกรัดข้อมือโยนขึ้นไปผูกกับหินที่ยื่นออกมาจากหน้าผา
"ท่านอ๋อง..."
"หนานหนานเจ้าไม่ต้องห่วง ข้าบอกแล้วไงข้าจะไม่มีวันปล่อยเจ้าไปไหนเด็ดขาด"
"ท่านอ๋อง ปล่อยมือเถอะ ตอนนี้ถ้าท่านไม่ปล่อยเราจะตกลงไปทั้งคู่นะ"
"ไม่ หนานหนาน จับไว้แน่นๆนะ"
"ท่านอ๋อง..."
"ข้าจะส่งเจ้าขึ้นไป"เขาค่อยๆใช้กำลังที่มีทั้งหมดเหวี่ยงตัวนางให้ขึ้นไปเกาะที่ริมหน้าผา
"พวกเจ้านี่มันตายยากจริงๆนะ"ฉินไห่อี้ได้แต่ยืนมองอยู่ที่ริมหน้าผาไม่สามารถทำอะไรได้ เฟยหนานสามารถขึ้นมาบนริมหน้าผาได้ นางกำลังจะเอื้อมมือไปดึงฉินเจี้ยนสือแต่กลับถูกฉินไห่อี้เอากระบี่จี้คอไว้
"หนานหนาน!!"
"เจ้ามานี่!!!"เขาดึงตัวนางให้ถอยห่างจากหน้าผา "เจ้านี่มันตายยากจริงๆ"
"ท่านอ๋อง..."เฟยหนานรอจังหวะที่ได้โอกาสฟันศอกเข้าที่ท้องของฉินไห่อี้ทำให้เขาเจ็บจนไม่สามารถล็อคตัวนางได้ นางจึงรีบวิ่งมาพยุงฉินเจี้ยนสือขึ้น
"หนานหนาน"ฉินเจี้ยนสือที่กำลังหาทางขึ้นมองเฆ้ยเฟยหนานที่ยืนอยู่ริมหน้าผา
"ท่านอ๋อง ขึ้นมาเร็วเข้า"นางยื่นมือที่ถูกมัดลงไปเพื่อให้เขาจับ เมื่อเขาจับนางก็ใช้แรงดึงเขาจนขึ้นมาได้ พอฉินเจี้ยนสือขึ้นมาได้เขาก็รีบพยุงตัวเฟยหนานให้ลุกขึ้น ขณะนั้นเองฉินไห่อี้พอคลายความเจ็บปวดลงได้ก็พุ่งตรงมาที่ทั้งสองกำลังอยู่ ฉินเจี้ยนสือเห็นดังนั้นจึงหันไปรับปลายกระบี่และทั้งสองก็ต่อสู้กันอีกครั้ง เฟยหนานเห็นสถานการณ์ไม่สู้ดีจึงวิ่งไปที่ม้าแล้วจุดพลุส่งสัญญาณขึ้นทันที
ยังไงสะ ในระยะห้าสิบลี้ก็ต้องเห็นพลุนี่บ้างหละ ไท่คุน...องค์ชายสิบสี่ รีบมานะเพคะ
เมื่อจุดพลุเสร็จนางก็รีบชักกระบี่ของนางที่อยู่บนอานม้ามา แล้วพุ่งตรงไปที่ฉินไห่อี้แต่ฉินไห่อี้ไหวตัวทันจึงหันปลายกระบี่มารับคมกระบี่ของนางแล้วฟันเข้าไปที่ขาข้างซ้ายของนาง
"หนานหนาน!!"ฉินเจี้ยนสือเห็นดังนั้นก็รีบเข้าไปพยุงนาง ทั้งสามต่อสู้กันผ่านไปไม่ถึงครึ่งชั่วยามก็ได้ยินเสียงฝีเท้าม้ากำลังมุ่งหน้ามาทางนี้
"ฉินไห่อี้ ตอนนี้พวกของหลางเยว่กำลังมาทางนี้ เจ้าไม่รอดแน่"ฉินเจี้ยนสือกล่าวขึ้น
"เจ้ามั่นในตัวเองขนาดนั้นเลยหรือท่านอ๋อง ก่อนหน้านี้ข้าตั้งใจล่อให้ท่านมาจึงทิ้งรอยเท้าม้าเอาไว้ แต่ถ้าพวกมันไม่ได้มาตามรอยเท้าของม้า ก็อาจจะไม่รอด"
"ท่านหมายความว่าอย่างไร"เฟยหนานกล่าวถาม
"ทางที่พวกเรามานั้นไม่มีกับดัก แต่..."
"แย่แล้ว หนานหนาน เจ้ารีบขี่ม้าไปเตือนพวกเขาเร็วเข้า ทางนี้ข้าจะรับมือเอง"
"อืม..."นางรีบวิ่งไปขึ้นบนหลังม้าแล้วควบออกทันที
"รักกันจริงนะ อย่าหวังเลยว่าจะรอดไปได้"ฉินไห่อี้ขว้างอาวุธลับใส่ฉินเจี้ยนสือแต่เขาก็หลบได้ทัน พอหันกลับมาอีกทีก็พบว่าฉินไห่อี้ควบม้าออกไปแล้ว
"แย่แล้ว หนานหนาน..."เขารีบวิ่งตามไปทันที
ทางด้านของฉินหลางเยว่และหลี่ไท่คุนที่กำลังตามหาทั้งสองอยู่
"ไท่คุน เจ้าแน่ใจหรือว่ามาทางนี้"
"พะยะค่ะองค์ชายสิบสี่ หม่อมชั้นได้ยินเสียงต่อสู้มาจากทางนี้พะยะค่ะ"
"แต่ว่า..."
"ชู่ว..."หลี่ไท่คุนทำสัญลักษณ์เชิงให้ฉินหลางเยว่เงียบ เขาฟังครูหนึ่ง "มีเสียงฝีเท้าม้ากำลังวิ่งมาทางนี้พะยะค่ะ"
"นั่น พระชายานี่"ฉินหลางเยว่ชี้ไปข้างหน้า
"องค์ชายสิบสี่ ไท่คุน อย่ามานี้นะ มันมีกับด..."พูดไม่ทันจบแขนข้างซ้ายของนางก็ถูกลูกธนูจนทะลุมาข้างหน้า ร่างของนางตกลงจากหลังม้าไปอยู่ที่ข้างทาง
"พระชายา!!!"
...................................................
จากใจนักเขียน
ขอโทษที่หายไปนานนะคร้าบบบบ ตอนนี้สอบเสร็จแล้วเค้าก็รีบลงเน้ออ
ความคิดเห็น