“แมลงวัน คงเหมาะที่ถูกใช้เปรียบเทียบเป็นตัวผม” ใต้ทางด่วนที่ลองรับรถยนต์บรรทุกเสียงครึกโครมผมให้มันเป็นรังคากันน้ำฝนในฤดูนี้ ผมเสริมโภชนาการให้แก่ร่างกายด้วยเศษอาหารตามถังขยะ มันกระตุ้นการเจริญเติบโตด้วยความผอมแห้งเห็นกระดูก ผมถูกบังคับให้ไปถ่ายหนักในป่าใต้ต้นไม้สูงใหญ่ มีหญ้าเป็นกำแพงห้องน้ำ กิ่งใบไม้เล็กๆใช้แทนน้ำล้างก้น ใช้ภาพชีวิตห่วยๆในการกำจัดความโหยหาทางกาม รถขยะเป็นตัวยุ่งเหยิง มันคอยเก็บจัดเศษสมบัติไปกองไว้ที่ไหนซักที ทิ้งน้ำบะหมี่เกือบสำเร็จติดขอบถังขยะไว้ ผมเที่ยวพาร่างกายผอมๆตระเวนหาอาหารเช้าในซอกเมืองเจริญๆ มีทั้งข้าวกล่องรสชาติคุ้นเคย แก้วน้ำที่มีแต่น้ำแข็งละลายหกหอมเป็นกลิ่นเดียวกัน ผมย่ำบนน้ำขังตามซอกแคบในซอย ผ่านมุมหมาเหยี่ยว หวังจัดโต๊ะรับประทานอาหารเช้าอันโอชะก่อนรุ่งสาง “ไม่น่าเชื่อ” ข้าวสวยเม็ดขาวสว่างเรี่ยราดบนพื้นปูนดำสนิทเป็นทางยาว ผมคุกเข่ายิบมันยัดสดๆเหมือนเนื้อปลานุ่มๆ ความโหยหาไม่เคยปราณีความร้อนเลยแม้แต่น้อย ผมทิ้งรสชาติชีวิตไปพร้อมกับสังคมเมื่อห้าปีที่แล้ว แต่ความหอมของข้าว มันทำให้ผมสะอิดสะเอียนยั่วยวนให้อยากมีชีวิต ภาพผมนั่งใส่สูทกินข้าวด้วยมือเปล่าบนโต๊ะ จับข้าวกินทีละเม็ด ทีละเม็ด อย่างมูมมาม ผมกลัว ผมกำลังตกหลุมพรางจากซาตานหรือเปล่าครับ “อย่า อย่า” เสียงร้องก้องผ่านช่องตึก สะท้อนเป็นระยะปลิวไปข้างหลังผม เสียงยังดังลั่นรบเร้าให้ผมลุกขึ้นวิ่งตามไปหา ภาพชายชรามีหนวดผิวดำ เหี่ยวย่น ถูกทรมานลั่นเข้าในหัว ขณะได้ยินเสียงร้องโหยหวนเร่งเข้ามาอีก ผมรีบเร่งฝีเท้าให้เข้าใกล้อีกหวังว่ามันจะไม่เหมือนกับการคาดเดาของผม “ไอ้___ อยากตายหรอมึง” ชายหนุ่ม ร่างผอมสูง ตาส่อน ผิวดำ สวมเสื้อผ้าเรียบร้อยเหมือนหนุ่มบริษัท ยืนชี้ปืนสีดำไปทางพระแก่รูปหนึ่งที่คุกเข่า แล้วหันมาตะคอกเสียงใส่ผม ผมนิ่งเงียบหอบหืดไม่ตอบคำถาม ปล่อยเม็ดเหงื่อวิ่งไหลผ่านเปลือกตาลงแก้ม “ไปซะ มึงไม่เกี่ยว” เค้าไล่ผมด้วยน้ำเสียงนิ่มๆดูเป็นคนใจเย็นลงกว่าเมื่อครู่นี้เยอะ เหมือนบอกให้เชื่อใจว่าเค้าจะไม่ทำอะไร หากผมยอมทำตามข้อเสนอ แลเห็นสายตาถัดจากข้างที่ช้ำเลือดช้ำหนองของพระแก่เป็นเสียงร้องเรียกตะโกนขอความช่วยเหลือจากตัวผม เลือดที่ไหลจากหัวท่านทำให้ผมรู้สึกเจ็บปวด สีแดงหล่นเปื้อนบนจีวรสีเหลืองเป็นวงเล็กๆหลายวง ผมไม่ต้องการจะตอบคำพูดเค้าด้วยวิธียืนแข็งทื่อหรอกครับ ผมทำอะไรไม่ได้หรอกครับ ระยะมันไกลจนผมไม่มีความกล้าหาญหรอกครับ เดาว่าไม่มีเวลาพอออกไปตามคนช่วยหรอกครับ “พระเจ้าช่วยผมหรอครับ” ผมหลับตาช้าๆฟังเสียงเหมือนคนตบมือนับล้านครั้งลอยมาจากสุดขอบฟ้า ไล่เข้ามาในเหยื่อหู หยดน้ำหล่นไล่เรียงกันลงมาช้าๆสะท้อนภาพตัวผมในหยดน้ำ เสียงน้ำกระทบน้ำดังลั่นอึงในสมองยามตกถึงพื้น ชายคนนั้นเปิดจังหวะเหลียวสายตาขึ้นมองทางท้องฟ้า คงสงสัยน้ำฝนที่โปรยมาได้จังหวะ ผมลดสายตาเห็นพระแก่กัดฟัน กำมัด ลุกขึ้นยืน ค่อยๆปล่อยฝามือช้าๆเพื่อเอื้อมไปจับแขนของหนุ่มหันปืนไปทางอื่น ชายหนุ่มรู้สึกช้าเกินไป การยื้อแย้งปืนจึงทำให้เค้าทั้งคู่เหมือนกำลังเต้นรำกันอยู่ จนปากกระบอกปืนหันมาทางผมแล้วผ่านไป เสียงอื้ออึงเริ่มไล่ลงแทนที่ด้วยเสียงเม็ดฝนพันกว่าเม็ด เรียกให้ผมทำในสิ่งที่ผมคิดว่าภาพต่อไปเป็นอะไร “สำเร็จไหม” หมัดไร้พลังของผมปะทะแก้มของชายจนกัดฟันแถบแหลก ผมอัดหมัดยัดเข้าใบหน้าชายคนนั้นจนปืนลั่นถึงห้าหกที ผมไม่ได้หลบกระสุนนั้นเลยแม้แต่นัดเดียวห่วงคิดเรื่องถ้ามีเวลาพอจะหาสนับมือมาจมหน้ามันลงไป แต่ก็ดูเหมือนพระเจ้าจะไม่ให้กระสุนปืนนี้โดนใครเลย เราสามคนเหมือนอยู่บนละครเวทีภาพเล่นเร็วเหมือนหนังฟิล์มสมัยเก่า ชายหนุ่มยอมแพ้หมัดผมล้มจบกองน้ำฝน ดูเหมือนความรู้สึกชายหนุ่มจะยอมแพ้นั้นไม่เข้ามาในหัวผมเลย ผมนั่งค่อมพร้อมดึงแขนขึ้นเหนือหัว กำหมัดแน่น “ฆ่ามัน ฆ่ามัน” เสียงลอยมาจากหางตาด้านหลัง เห็นชายผ้าสีเดียวกับสีจีวรพระ “ขอร้องช่วยจบเกมนี้ที”เสียงเล็ดลอดออกจากชายข้างหน้า เหมือนขอร้องอะไรบางอย่าง หันซ้ายมองปืนบนฝ่ามือของชายที่ไร้แรงขัดขืนจากโครงกระดูกอย่างผม ผมยิบปืนก่อนที่จะมีเหตุผลตามมา รีบลั่นกระสุนใส่คอเพราะเกิดกลัวกะโหลกของชายคนนั้นจะแข็งเกินไป แสงไฟแลบแยงตาจนกดเปลือกตาลงปี๋ ทุกอย่างเหมือนจะหยุดค้างไว้ในวินาทีนั้น ผมชะงังตัวออกจากชายแน่นิ่ง พระท่านรีบย้ำด้วยฝ่าเท้าเปล่าเสียงแน่นดังลั่นไม่หยุดพลางหันมาพูดขอบใจนิ่งๆ ที่เต็มไปด้วยความเกียจชัง ราวภูตผีในร่างพระ “ผมฆ่าเค้าทำไม” “พระเจ้าหรอครับ กำหนดให้เป็นแบบนี้” “ภาพอนาคตของพระเจ้าเป็นยังไงครับ”
ข้อความที่โพสจะต้องไม่น้อยกว่า {{min_t_comment}} ตัวอักษรและไม่เกิน {{max_t_comment}} ตัวอักษร
กรอกชื่อด้วยนะ
_________
กรอกข้อมูลในช่องต่อไปนี้ไม่ครบ
หรือข้อมูลผิดพลาดครับ :
_____________________________
ช่วยกรอกอีกครั้งนะครับ
กรุณากรอกรหัสความปลอดภัย
ความคิดเห็น