คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : พี่ซีวอนและน้องรหัส ตอน มีคนอกหัก
พี่ซีวอนและน้องรหัส ตอน มีคนอกหัก
นาฬิกาบนผนังสีขาวสะอาดตาบอกเวลาห้าทุ่มเศษ เจ้าของร่างสูงโปร่งชะงักเท้าที่จะเดินไปทิศทางที่เตียงนอนตั้งอยู่ มือหนายกเกาท้ายทอยแก้เก้อราวกับว่ากำลังเขินอายอะไรบางอย่าง หุ่นวีเชพที่ใครๆพากันอิจฉาไปหยุดยืนข้างโต๊ะทำงานริมหน้าต่าง ที่มีชีทเรียนจัดไว้เรียบร้อยวางทับด้วยโทรศัพท์เครื่องบางสีดำสนิท นัยน์ตาคู่คมฉายแววไม่มั่นใจ นึกกลัวว่าจะไปรบกวนคนที่อยากคุยด้วยหรือเปล่า ถ้าอยู่กับแฟนจะทำยังไง....คงเหมือนขยี้หัวใจด้วยมือตัวเอง แต่ชเวซีวอนไม่ยักหลาบจำ
เพลงรอสายภาษาญี่ปุ่นของการ์ตูนสักเรื่องที่คนฟังไม่รู้จักดังนานพอสมควรกว่าเจ้าของจะกดรับ เสียงที่กรอกมาตามสายแหบแห้งขึ้นจมูกนิดๆถ้าเดาไม่ผิดก็แปลว่าร้องไห้....
ไอ้เวรที่ไหนรังแกโจคยูฮยอนของเขา
"เป็นอะไร อยู่ที่ไหนพี่ไปหาได้มั้ย" ถ้าเป็นกับคนอื่นเขาอาจเปลี่ยนประโยคเป็นให้ไปหามั้ย...ทุกอย่างขึ้นกับความสำคัญที่คนแต่ละคนได้รับไม่เท่ากัน หลังจากความร้อนใจที่ปิดไม่มิดส่งไปพร้อมน้ำเสียงทุ้มอบอุ่น หัวใจก็เต้นช้าลงเมื่ออีกคนเงียบไปนาน ชเวซีวอนพยายามตั้งสติอะไรบางอย่างบอกให้ควรรอ นอกจากเสียงสูดน้ำมูกแรงๆก็มีเสียงรถ เสียงคนคุยกัน เสียงอึกทึกแบบนี้เหมือนน้องรหัสอยู่ริมถนนทั้งที่ห้าทุ่มแล้วน่ะนะ
บ้าเอ้ย
"ฮือ..ไม่ต้อง เดี๋ยวไปหาที่หอไม่ต้องออกมานะ" ใจชื้นขึ้นมาหน่อย แต่มันจะดีกว่าไหมถ้าให้ไปรับ เป็นห่วงจะตายห่าแล้วนะคยูฮยอน
"อยู่ไหนบอกมา เดี๋ยวพี่ไปรับเอง" เขาพูดเสียงนุ่มเหมือนตำรวจกล่อมผู้ร้ายให้ยอมปล่อยตัวประกันเทือกๆนั้น แต่ไม่สำเร็จเพราะน้องรหัสบอกว่าจะมาเองดึกแล้วจะออกมาทำไม โจคยูฮยอนพูดด้วยเสียงสั่นน้อยๆก่อนจะขอวางสายไป ทิ้งผู้ชายตัวใหญ่ยืนเคว้งอยู่ที่เดิม กระสับกระส่ายมากจนต้องออกจากห้องไปนั่งรอชั้นล่างที่เป็นห้องกระจกทั้งที่สวมแค่เสื้อกล้ามเก่าๆกางเกงบอลกับรองเท้าแตะหูหนีบ มือหนาหมุนกุญแจห้องที่ร้อยไว้กับคีย์การ์ดเล่น หมุนไปหมุนมาสลับกับการมองโทรศัพท์ที่วางไว้ข้างตัว
30 นาทีกว่าผ่านไปพร้อมๆกับความร้อนรนที่สะสมมากขึ้น จากนั่งก็เป็นเดินวนไปวนมาและเงยหน้ามองทุกครั้งเมื่อมีแสงไฟหน้ารถส่องถนนหน้าหอพัก เกือบหยิบโทรศัพท์ออกมาโทรแต่แสงไฟหน้ารถที่ส่องมาเป็นครั้งที่เท่าไหร่ไม่รู้หยุดไว้ทัน ขายาวรีบก้าวออกจากประตูเลื่อนที่เปิดไว้ตั้งแต่แรกเมื่อแน่ใจว่าใช่คนที่รอ
ภาพโจคยูฮยอนสะพายกระเป๋าใบใหญ่เหมือนจะย้ายบ้านปรากฏตรงหน้า มุมปากมีรอยแตกเล็กๆแต่เลือดไม่ไหลแล้ว ไปโดนอะไรมา....ใต้ตาช้ำ หน้าที่เคยขาวดูโทรมลงไปถนัดตาจนคนมองใจหาย แต่ชเวซีวอนก็เลือกที่จะเก็บความสงสัยไว้เงียบๆ เขายิ้มอ่อนจางขณะเดินไปแตะแขนที่เล็กกว่าให้เดินตามเข้ามา
เมื่อแตะคีย์การ์ดกับเครื่องแสกนเสียงติ๊ดๆก็ดังสองครั้ง คนคุ้นที่ทางเป็นฝ่ายเดินนำก่อนจะเหลียวมองคนเดินตาม นิ้วยาวๆแกว่งกุญแจตรงหน้าคนที่มัวแต่ก้มมองรองเท้าผ้าใบคู่เก่ง พอเจ้าของตากลมเหมือนแมวที่ตอนนี้ไร้ประกายสุกใสเหมือนก่อนเงยมองเขาก็ยื่นพวงกุญแจให้ถือ อีกฝ่ายแบมือรับโดยดี
"ที่นี่ไม่มีลิฟต์ พี่อยู่ชั้นสี่คนไม่ชินอาจจะเหนื่อยเพราะงั้นถอดกระเป๋ามา" เสียงทุ้มฟังใจดี แววตาที่มองคู่สนทนาก็ไม่ต่างกัน
"ไม่เป็นไร ไม่ได้หนักมาก" คนดื้อยังไงก็คือคนดื้อ ซีวอนคิดในใจ
"เถอะน่า" เขาย้ำชัดพร้อมกับใส่ความจริงจังลงไปในน้ำเสียงเพิ่มขึ้น
"ขอบคุณครับ"
กระเป๋าใบใหญ่อยู่บนหลังคนตัวสูง ซีวอนไม่รู้ว่าข้างในใส่อะไรไว้บ้างแต่เดาว่าน่าจะเป็นเสื้อผ้า เกิดอะไรขึ้นกันนะ แต่ตามความเป็นจริงก็พอจะเดาได้เพียงแต่ไม่แน่ใจว่าทะเลาะหรือเลิกจริงก็เท่านั้น
"กินอะไรมายัง" เจ้าของห้องถามคนที่นั่งบนโซฟาทำตาลอย คยูฮยอนไม่ได้ยินเขาเลยใช้จังหวะนี้พิจารณาคนตรงหน้า เสื้อยืดสีน้ำเงินเข้มกับยีนส์สีซีดขาดๆ สภาพโดยรวมถือว่ายังพอไหวนอกจากตาช้ำปากแตกที่ค่อนข้างไม่โอเคเลยแม้แต่น้อย
"หิวมั้ย" เสียงนุ่มถามอีกรอบดังกว่าเดิม เป้าหมายเลยเงยหน้ามอง
"กินมาม่ามาแล้ว ตอนที่โทรไปอ่ะนั่งอยู่หน้าร้านสะดวกซื้อกอดกระเป๋าเหมือนลูกหมาหลงทาง ยังคิดอยู่เลยว่าจะไปนอนไหนดี" คำพูดยาวเหยียดที่ตอนเล่ามีรอยยิ้มบางประดับทำให้ร่างสูงโปร่งเดินเข้ามานั่งบนโซฟาตัวเดียวกัน หัวใจเจ็บร้าวเมื่อคิดว่าถ้าเป็นร้องไห้แทนยิ้มฝืนๆนั่นคงไม่น่าสงสารขนาดนี้
"ทำไมไม่โทรหาล่ะ เห็นพี่รหัสเป็นเปลือกถั่วที่พึ่งพาไม่ได้เหรอ" กลิ่นผมหอมกรุ่นลอยเตะจมูก ซีวอนลอบสูดเข้าไปเต็มปอดทำทั้งที่รู้สึกผิดอยู่เต็มอก ถ้าน้องรู้มันคงกลัวหรืออาจจะเกลียดไม่อยากเดาสักทาง
"ก็มันดึกไง นี่เลิกกับจีซกแล้วนะไปหาเรื่องชู้มัน เหี้ยนั่นเลยต่อยคืนแทน เจ็บชะมัด" ชเวซีวอนกระพริบตาไล่ความรู้สึกปวดหน่วงในอก ยังไม่ทันถามไม่รู้จะเล่าทำไมเล่าแล้วเจ็บมากกว่าเดิมหรือเปล่า น้ำตาถึงได้ไหลอาบแก้มเป็นสาย
"ไม่ต้องเล่าแล้วลืมชื่อมันไปเลยยิ่งดี น้องรหัสพี่น่ารักขนาดนี้อย่าไปสนใจคนพรรค์นั้นให้รกสมอง" โจคยูฮยอนยกแขนเสื้อเช็ดน้ำตาเมื่อหยดน้ำเหล่านั้นทำภาพพี่รหัสพร่าเบลอ ชายหนุ่มกระพริบตาปริบๆมองหน้าคมของคนที่มองอยู่ก่อน เขาเห็นยิ้มจริงใจทั้งปากทั้งตาราวกับจะส่งพลังความเข้มแข็งทั้งหมดที่มีมาให้ผ่านทางมือใหญ่ที่ตบเบาๆลงบนบ่า
"มองแบบนี้ทำไม ยิ่งเห็นยิ่งอยากอ่อนแอนะ" คนฟังยิ้มมากกว่าเดิม เพราะทันทีที่พูดจบตัวสูงๆผอมๆของคนข้างกันก็โถมกอดแน่นให้สองแขนแข็งแรงของชเวซีวอนรับทุกอย่างไว้ด้วยความเต็มใจ วินาทีนี้เองที่ใครบางคนเพิ่งรู้ว่าน้องรหัสของเขาตัวเล็กนิดเดียว เพราะฉะนั้นความแข็งแรงที่มีจะขอใช้เพื่อปกป้องโจคยูฮยอนให้ดีที่สุด
แสงยามเช้าส่องทะลุผ้าม่านผืนสีเข้ม คนที่ลืมตาก่อนคือเจ้าของห้องที่เลือกหันมองคนข้างกันเป็นอย่างแรก แขนขาววางพาดบนพุงที่ขาวกว่าแขนมาก ไม่รู้นอนยังไงให้เสื้อเปิดแทบถึงอก มองนานเข้าก็กลืนน้ำลายดังเอื๊อกเลยแก้เก้อโดยการขยับผ้าห่มไปคลุมทับภาพล่อตาล่อใจ แพขนตาหนาปิดสนิท จมูกโด่งเป็นสันรับกับริมฝีปากอิ่มสีอมชมพูที่ดูยังไงก็น่าจูบเป็นบ้า
เสียงน้ำกระทบพื้นกระเบื้องดังปลุกคนบนเตียง คำว่าผิดที่ผิดทางแล้วจะนอนไม่หลับไม่เคยเกิดกับคยูฮยอนมาแต่ไหนแต่ไร แม้แต่เพิ่งอกหักมาหมาดๆก็ยังกินได้นอนหลับทำทุกอย่างได้เกือบเหมือนปกติ เพราะเขาคิดไว้แล้วว่าจะร้องไห้อ่อนแอแค่เมื่อวานเท่านั้นจะทิ้งอดีตไว้ที่เมื่อวาน ผู้ชายเหี้ยๆแบบนั้นจะเก็บไว้ทำอะไร มือขาวกวาดผ้าห่มกลิ่นหอมสะอาดมากอดแนบอก พลิกตัวนอนตะแคงฝังหน้าลงหมอนแล้วหลับตาลงไปใหม่ ปลอดภัยแน่นอนคือความรู้สึกที่แจ่มชัดในใจ นึกขอบคุณพี่รหัสคนเดียวเงียบๆอยู่พักใหญ่ ก่อนความง่วงงุนจะพรากคนขี้เซาเข้าสู่ห้วงนิทราไปอีกครั้ง
กลิ่นแชมพูผสมครีมอาบน้ำลอยกรุ่นเมื่อประตูห้องน้ำเปิดออก เจ้าของร่างสูงโปร่งที่พันช่วงล่างไว้หลวมๆด้วยผ้าเช็ดตัวผืนสีขาวเดินมาชะโงกหน้ามองคนบนเตียง แขนขายาวสมส่วนกอดรัดผ้าห่มแน่นเหมือนเด็กๆ นัยน์ตาคมละไปมองนาฬิกาบนผนังเจ็ดโมงครึ่งพอดี จำได้ว่าตารางเรียนของปีสองที่แอบจิ๊กมาจากไหนสักที่เริ่มเรียนคาบแรกตอนสิบโมง ส่วนปีสามน่ะหรือเช้าวันศุกร์แบบนี้ดันเรียนมีเรียนเก้าโมงเช้าถึงบ่ายสามโมงตรง ถึงจะมีพักระหว่างวันแต่ก็ไม่ได้ช่วยให้รู้สึกดีอะไรนัก เจ้าของผิวขาวแบบผู้ชายเล่นกีฬากลางแจ้งคิดหนัก ควรปลุกน้องไปเรียนตอนกี่โมงดีอยากให้พักผ่อนมากๆจะได้ตื่นมาสดชื่น
"อื้อ" น้ำจากปอยผมหยดแหมะบนแก้มใส เปลือกตาคนหลับเริ่มขยับตามด้วยท่ายกมือปิดปากหาว ก่อนตากลมจะปรือมองชเวซีวอนที่ถอยออกไปหนึ่งก้าวยาวๆเหมือนเพิ่งทำอะไรผิดใหญ่โต
"อรุณสวัสดิ์" โจคยูฮยอนนอนกระพริบตาปริบๆมองคนพูด ตาที่กลมกว่าของพี่รหัสมากเผลอมองท่อนบนเปลือยเปล่าสมชายชาตรีโดยไม่ตั้งใจ แผ่นอกแน่นๆที่ยังมีหยดน้ำเกาะพราว ไหนจะหน้าท้องโคตรซิคแพคนั่นอีก จู่ๆหน้าก็ร้อนส่วนกลางตัวก็เริ่มมีปฏิกิริยา ชิบหายมาก
"มายืนทำไม แต่งตัวไปเรียนได้แล้วเดี๋ยวก็สาย" เสียงทุ้มห้าวว่าดังๆหวังกลบอะไรๆที่มันน่าอาย
"ครับๆ วันนี้เรียนกี่โมงเราน่ะ" ถึงรู้ก็ต้องถามเดี๋ยวไม่เนียน จะได้ต่อเรื่องได้ว่าไปไหมเพราะยังมีเรื่องกุญแจกับคีย์การ์ดที่ต้องจัดการ แลัวกันเอาหน้าซุกหมอนอีก โจคยูฮยอนเป็นแมวหรือไงนะเมื่อคืนนอนปุ๊บก็หลับทันที นี่จะนอนอีกก็ไม่ไหวนะตื่นมาออกแรงบ้างเดี๋ยวก็ล้ามเนื้อลีบพอดี
"เรียนกี่โมง" ซีวอนถามซ้ำ มื่อก็สวมกางเกงยีนส์ไปด้วย
"สะ..สิบโมง" ทำเสียงแปลกๆคนฟังคิดในใจ ถ้าหันไปดูหน่อยก็จะรู้ว่าใบหูที่เคยขาวๆตอนนี้กลายเป็นสีชมพูเรียบร้อยแล้ว
"งั้นเอากุญแจกับคีย์การ์ดไป เพราะพี่ต้องออกไปก่อน" แต่งตัวเสร็จพอดีก็เดินไปหยิบกุญแจวางบนโต๊ะข้างเตียง ไม่อยากทิ้งให้อยู่คนเดียวเลยอดไม่ได้ที่จะทรุดนั่งข้างๆ ฟูกนุ่มๆยวบตามน้ำหนักที่กดทับลงมา คนบนเตียงจึงค่อยๆโผล่หน้าออกมาจากผืนผ้าห่ม สิ่งแรกที่นัยน์ตาคู่คมเพ่งมองคือรอยแผลที่มุมปาก เมื่อคืนนั่งทายาให้เลยอยากรู้ว่าดีขึ้นแค่ไหนแล้ว
"ยังเจ็บอยู่มั้ย" คยูฮยอนแตะปลายนิ้วลงบนแผลทั้งยังนอนอยู่แบบนั้น ยิ้มที่สดใสกว่าเมื่อคืนส่งให้คนเป็นห่วงด้วยความจริงใจ พอเลิกกันแล้วสิ่งที่คิดได้คือเมื่อก่อนทำไมรักมันนัก ไม่มีสักเศษเสี้ยวที่จะอ่อนโยนได้เท่าผู้ชายตรงหน้า
"เดี๋ยวก็หาย ไปเรียนได้แล้ว" ไล่เพราะทนสายตาที่มองมาไม่ไหว อย่าใจดีมากนักได้มั้ย
"ขอโทษด้วยไม่มีมื้อเช้าให้ของในตู้เย็นหมดพอดี กินคอร์นเฟลกกับนมไปก่อนนะ เดี๋ยวเย็นนี้จะซื้อเข้ามาตุนเยอะๆ" เขาเปลี่ยนเรื่องหน้าตาเฉย สายตาจับจ้องคนบนที่นอนนิ่งไม่รู้ว่ารู้ตัวเผลอหรือห้ามใจไม่ได้กันแน่
"ไม่เป็นไร ปกติก็ไม่ได้กินอยู่แล้ว เอ้อ..กุญแจเดี๋ยวเอาไปให้ตอนเที่ยงๆนะ นั่งแถวบรรยาย 3 ใช่ป่ะ" คยูฮยอนชวนคุยบ้าง ไม่อยากอึดอัดกับสายตาอ่อนโยนที่มองมาเห็นแล้วพาลอ่อนแอดื้อๆ อยากกอดแน่นๆซุกหน้าแล้วปล่อยน้ำตาไหลลงมาแบบไม่ต้องกลัวอาย น่าสมเพชที่ภาพในใจกลับยังเป็นแฟนเก่าที่ทรยศกันอย่างเลือดเย็น เพิ่งบอกมันเลวไปตะกี้นี่เองแต่ตอนนี้ดันคิดถึงกอดของมัน คิดถึงทุกสัมผัสจากมือแข็งกระด้าง คิดถึงคำบอกรักที่กระซิบเสียงแหบพร่าข้างหูหรือถ้าพูดตามตรงก็พูดหวานๆหว่านล้อมเพื่อให้ยอมตามใจทุกอย่างก็เท่านั้น
"เลิกกี่โมง" อันนี้ก็รู้แล้ว
"บ่ายสอง" ซีวอนทำท่าคิด
"งั้นไม่ต้องคืนกุญแจพี่เลิกบ่ายสาม เรียนเสร็จเราจะได้กลับมาพักได้เลยไม่ต้องรอพี่" หัวคิ้วได้รูปขมวดมุ่น ไม่อยากยึดกุญแจเจ้าของห้องไว้กับตัว
"เอางี้เดี๋ยวเรานั่งรอแถวนั้น กลับพร้อมกันประหยัดตังค์ค่ารถดีด้วย" คนฟังคิดตาม ก็ดีจะได้พาไปซื้อของที่ขาดเหลือกับของสดมาเข้าตู้เย็น
"โอเคตกลงตามนี้ อย่าไปเรียนสายนะ" เจ้าของห้องกำลังจะลุกออกไปถ้าไม่ติดที่มือนุ่มนิ่มเกาะข้อมือไว้เสียก่อน ตาคู่คมไล่มองตั้งแต่ส่วนที่ร้อนวาบจากการถูกแตะเบาๆเรื่อยไปถึงแขนขาวกระทั่งเป็นหน้าตาอึกอักเหมือนคนอยากพูดอะไรสักอย่างแต่ไม่กล้าของโจคยูฮยอน
"ขอบคุณสำหรับทุกอย่างนะครับ" แล้วชเวซีวอนก็แทบจะหุบยิ้มไม่ได้เป็นระยะทางจากหอพักถึงมหาวิทยาลัย ก็แค่คำขอบคุณไม่รู้จะดีใจอะไรนักหนา ชายหนุ่มพยายามเตือนตัวเองเพราะเสี้ยวนึงของใจก็กลัวความผิดหวังเหมือนกัน ตอนที่น้องมีแฟนใหม่ๆไม่อยากพูดว่าโลกทั้งใบแทบพังลงตรงหน้า
"อารมณ์ดีอะไรมา" ซูจีที่นั่งอ่านนิยายสืบสวนสอบสวนทักเพื่อนสนิท เธอเห็นตั้งแต่หน้าคมๆนั่นโผล่มาคณะตอนแปดโมงกว่าแล้วแต่เพิ่งจะถามตอนอยู่ด้วยกันสองคน ก็รอจังหวะให้อีทงเฮพาฮยอกแจไปซื้อน้ำปั่นทั้งที่เมื่อเที่ยงเพิ่งกินข้าวไปสองจาน กับรอให้คิมฮีซอลไปนอนงีบที่ห้องสโมฯชั้นบน นานอยู่เหมือนกันกว่าจะมีโอกาสถามและได้อยู่ด้วยกันสองต่อสอง เพื่อนสนิทคิดไม่ซื่อก็แบบนี้หลบๆซ่อนๆอ้อมไปอ้อมมา...
"ปกตินะ ทำไมเหรอ" เสียงทุ้มตอบสบายๆไม่มีท่าทีติดขัดให้นึกระแวง เธอค่อยโล่งใจหน่อย ริมฝีปากเคลือบสีส้มอ่อนหยักยิ้ม นึกว่าจะมีใครเป็นม้ามืดมาจีบคนที่หมายตาตอนลับหลังเสียอีก
"ก็เห็นหน้าตาเปล่งออร่าความสุขซะขนาดนี้" คนฟังเลิกคิ้วแปลกใจก่อนจะเปลี่ยนเป็นยิ้มมุมปากแบบที่ชอบทำเมื่อนึกสาเหตุออก
ท่าทางที่อีกฝ่ายแสดงให้เห็นสะกิดต่อมความสงสัยของหญิงสาวเข้าอย่างจัง มือเรียวบางวางหนังสือเล่มหนาลงบนโต๊ะเป็นสัญญาณวอกว่าขั้นตอนจับผิดชเวซีวอนกำลังจะเริ่มต้น อุตส่าห์คิดว่าไม่มีอะไรแล้วเชียว....ยิ้มแบบนั้นเหมือนคนเก็บซ่อนอะไรบางอย่างไว้ชัดๆ
"เดี๋ยวมา"
ไม่ทันจะได้เริ่มร่างสูงโปร่งไม่ต่างจากนายแบบบนแคทวอล์คก็ลุกจากเก้าอี้ที่นั่งอยู่ ช่วงขายาวนั่นวิ่งไปหาน้องรหัสหน้าจืดๆที่เธอไม่ชอบเท่าไหร่ เพราะรู้ข่าวว่ามีแฟนเป็นผู้ชายด้วยกัน ผิดธรรมชาติสิ้นดี หญิงสาวเลยเลือกหยิบหนังสือมากางอ่านเหมือนเดิม ไม่อยากมองเด็กนั่นให้รกสายตา เลยพลาดฉากสำคัญที่คนที่ไม่ชอบขี้หน้ากำลังควักกุญแจหอพักออกมาจากกระเป๋ากางเกงยีนส์เข้ารูปที่มีรอยขาดแทบทั้งขายื่นให้ชเวซีวอน ก่อนจะวิ่งไปรวมกับกลุ่มเพื่อนปีสองด้วยกัน จึงได้ฤกษ์ให้ใครอีกคนเดินอารมณ์ดีกลับมาเนื่องด้วยข่าวดีที่ว่า คยูฮยอนไปขนชีทกับหนังสือเรียนมาไว้ที่ห้องเรียบร้อยแล้วและขอโทษที่ไม่ได้บอกก่อน
"สนุกมั้ย" ก็แค่ชวนเพื่อนคุยเพราะอารมณ์ดีมากถึงมากที่สุด
"สนุกมาก ยืมมั้ยเล่มหนึ่งอยู่หอพรุ่งนี้เอามาให้" เสียงกระตือรือร้นรีบตอบ
"ไม่เอาล่ะ ไม่ใช่แนว" มือหนาโบกกลางอากาศปฏิเสธ
คาบสุดท้ายของวันจบลงและคนที่ได้คะแนนท็อปแทบทุกวิชาก็เก็บข้าวของเสร็จแล้วเช่นกัน พูดให้ถูกคือเก็บเสร็จตั้งแต่สิบนาทีที่แล้ว โบกมือลาเพื่อนพอเป็นพิธีก็ก้าวเร็วๆไปที่รถที่จอดหลบร่มข้างตึก โจคยูฮยอนไลน์มาว่ารออยู่แถวนั้น ไม่ต้องถามก็หาเจอว่าจอดไว้ไหนเพราะรถเต่ารุ่นโบราณสีขาวหม่นๆน่ะทั้งคณะมีแค่คันเดียวและคนส่วนใหญ่รู้ว่าใครเป็นเจ้าของ
"รอนานมั้ย" โจคยูฮยอนที่กำลังนั่งเหม่อมองหมาคณะสะดุ้ง
"ไม่นานๆ" ยิ้มไม่ค่อยสดใสอีกแล้ว คนช่างสังเกตุคิดแต่ไม่กล้าถาม นัยน์ตาคู่คมมองทุกอิริยาบถของน้อง คยูฮยอนรีบคว้ากระเป๋าเตรียมขึ้นรถเมื่อเขาไขกุญแจ ไม่ต้องให้บอกก็สอดตัวเข้าไปนั่งเรียบร้อย
"ขออยู่ด้วยไปอีกสักพักได้ป่าว เพื่อนในกลุ่มมันมีเมทกันหมดบางคนก็อยู่กับแฟน คือถ้าไม่ได้...ก็ไม่เป็นไรครับ" เสียงหงอยๆอึกอัก ตากลมกว่าผู้ชายทั่วไปนิดหน่อยเหลือบมองเมื่อคู่สนทนาไม่พูดอะไร หรือจะรบกวนมากไปกันนะ...
"พี่พูดหรือยังว่าไม่ได้อย่าคิดเยอะสิ" เหมือนรู้ว่าถูกมอง คนที่น้อยใจตอนได้ยินคำว่า "ถ้าไม่ได้" เลยยอมตอบ ผู้ชายตัวโตๆอย่างชเวซีวอนก็แค่ไม่ชอบการถูกโจคยูฮยอนมองเป็นคนอื่นก็เท่านั้น
"จะอึดอัดมั้ย คนเคยอยู่คนเดียว" ไม่วายถามซ้ำ ตายังมองที่พี่รหัสนิ่งด้วยความเกรงใจ
"อยู่ถาวรยังได้เลย" คนที่นั่งเบาะคนขับพูดเสียงจริงจัง บางครั้งการยับยั้งชั่งใจก็ไม่ใช่เรื่องง่ายอย่างที่คิด ชเวซีวอนถึงต้องเก๊กขรึมขับรถด้วยใบหน้านิ่งสนิททั้งที่หางตาเหลือบเห็นว่าคนข้างกันมองมานิ่ง ถือว่าโชคดีที่โจคยูฮยอนเลือกจะไม่พูดอะไร...
ซุปเปอร์ที่เป็นทางผ่านถูกเลือกเป็นสถานที่ซื้อของ ใช้เวลาไม่นานก็ได้ของสดมาเต็มรถเข็น ส่วนของใช้จำเป็นของคนเพิ่งย้ายเข้าก็ไม่ต้องซื้อมากเพราะกระเป๋าใบใหญ่ที่ฝ่ายนั้นสะพายมาเมื่อวานมีของเกือบครบ
"เราช่วยจ่าย" เสียงห้าวหวานบอกตอนใกล้ถึงคิวจ่ายเงิน คนเป็นพี่รหัสยิ้มแต่ส่ายหน้า
"ไม่เป็นไร ไว้คราวหน้าละกัน" พูดไปอย่างนั้นเอง เพราะคราวหน้าก็จะไม่ให้จ่าย เก็บไว้ใช้แรงงานดีกว่าเยอะ อยากเห็นตอนเด็กตัวขาวปัดกวาดเช็ดถู คงให้ความรู้สึกเป็นครอบครัวที่อบอุ่น แต่ยังไงถึงตอนนั้นก็จะช่วยใครจะปล่อยให้เหนื่อยคนเดียว
"อย่าดื้อ" คนน้องยังไม่ทันจะขยับปาก คนที่วางแผนทุกอย่างไว้ในใจก็ตัดหน้าพูดก่อนที่คิดจะแย้งเลยเป็นอันตกไป
ชเวซีวอนเป็นคนเข็นรถ สีหน้าของชายหนุ่มฉายประกายความมีชีวิตชีวากว่าปกติแต่หากมองให้ดีลึกๆแล้วกลับเต็มไปด้วยความวิตกกังวล ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับโจคยูฮยอน น้องทำหน้าเศร้าตั้งแต่ที่คณะ...แค่คิดว่าอาจเป็นเพราะสาเหตุที่ทำให้แบกกระเป๋ามาหาก็ปวดใจชิบหายแล้ว และสิ่งที่ชายหนุ่มคาดคะเนก็ถูกต้องจริงๆ เมื่อคนที่เดินข้างๆหยุดอยู่กับที่ทันทีเพียงเพราะเห็นแฟนเก่า...เรียกแบบนี้ได้ใช่หรือเปล่าชเวซีวอนชักเริ่มไม่แน่ใจ
ไอ้เหี้ยนั่นเดินกอดคอผู้ชายตัวเท่าๆน้องรหัสเขาแต่หน้าตาหวานกว่ามาก ผู้ชายคนนั้นยักคิ้วเยาะเย้ยอดีตแฟนด้วยสีหน้าราวเหนือกว่าเต็มประดา แต่คนที่ทนดูไม่ได้กลับเป็นชเวซีวอนที่กำหมัดแน่น ขายาวๆกำลังจะวิ่งตรงไปทางนั้นเพื่อเอาคืนโทษฐานที่ทำให้เจ้าของหัวใจของชเวซีซีวอนคนนี้ต้องพังยับเยิน เกือบจะถึงตัวอยู่แล้วถ้ามือเย็บเฉียบไม่มารั้งแขนไว้ด้วยแรงทั้งหมดทีมี นัยน์ตาที่เจ็บมากไม่แพ้กันเหลียวมองน้อง ไม่เข้าใจว่าจะห้ามไปทำไม...หรือยังอยากปกป้องเพราะกลัวมันจะเจ็บตัว
"อย่าไปสนใจคนแบบนั้นเลย ก..กลับเถอะเราหิวข้าวแล้ว" แค่ประโยคที่พูดด้วยเสียงสั่นๆกับนัยน์ตาที่ฉ่ำไปด้วยน้ำก็ทำให้ทุกอย่างเป็นไปตามคำขอ มืออุ่นๆของพี่รหัสที่แสนดีค่อยๆคลายจากการกำหมัดแน่นเปลี่ยนเป็นจับจูงมือที่เล็กกว่าไว้แทน กระชับแน่นหวังส่งผ่านกำลังใจเพื่อให้รู้ว่ายังมีคนที่รักและหวังดี สัญญาด้วยเกียรติของลูกผู้ชายว่าจะไม่ทอดทิ้งแน่นอน
"อยากกินอะไร เดี๋ยวพี่โชว์ฝีมือสุดยอดพ่อครัวให้ชิม" เขาพูดเพื่อทำลายบรรยากาศหดหู่ และเริ่มรู้สึกว่าไมรถจอดไกลนัก
"โม้ป่าว" โจคยูฮยอนยิ้ม....ทั้งที่ไม่คิดว่าจะยิ้มได้ในเวลาแบบนี้
"เย็นนี้ลองชิมละกันแล้วจะรู้ว่าโม้มั้ย" คนฟังไม่ได้ตอบอะไรนอกจากหันไปยิ้มให้พี่รหัส ถึงจะเป็นยิ้มที่ฝืดเฝื่อนเต็มทีแต่เขาก็รู้ว่าสำหรับคนที่ความรักเพิ่งพังได้แค่นี้ก็ถือว่าดีที่สุดแล้ว...
…………………………………………………………………………………………..
ไม่รู้สนุกป่าว…เขียนไว้คลายเครียด ฝากติดตามด้วยนะคะ J
ขอบคุณค่ะ
Glutamate
\
ความคิดเห็น