ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    My name is ริวงะ นัยน์ตาเทพ(ไนเจล)

    ลำดับตอนที่ #6 : ตอนที่6 การฝึกโหดนรกยำของมินาโมโตะ ชูอิจิ1 50%

    • อัปเดตล่าสุด 27 พ.ค. 50


    ตอนที่6   การฝึกโหดนรกยำของมินาโมโตะ ชูอิจิ1

                    แสงแดดรับอรุณยามเช้าสอดส่องมายังห้องที่มืดสนิทภายในคฤหาสน์แห่งหนึ่งกลางภูเขาใหญ่ที่แทบจะไม่มีผู้คนอยู่อาศัยเนื่องจากพื้นที่แถบนี้เป็นของตระกูลมินาโมโตะที่สืบต่อกันมาเป็นส่วนใหญ่ 

    "เอ้าเด็กๆตื่นได้แล้วน่าเช้าแล้วน๊า!!!" เสียงนี้ไม่ใช่ใครอื่นไกลนอกจากมินาโมโตะ  ชูอิจิ  หญิงสาวแหกปากตะโกนไปลั่นบ้าน เพื่อปลุกเหล่าเด็กที่จะมาเป็นลูกศิษย์ของเธอ

    10นาทีผ่านมา

    "มากันครบแล้วหรอ หืมแล้วไนล่ะ"

    "…"

    "ฉันถามว่าแล้วไนเจลล่ะ!!!"

    "ยังไม่ตื่นครับ"  งินซึ่งเพิ่งหายตกใจจากนิสัยที่เปลี่ยนไปของหญิงสาวตรงหน้าพูดขึ้น

    "นายเป็นใคร?"

    "โฮริงุจิ  งินครับ"  เด็กหนุ่มตอบหญิงสาวตรงหน้า  ชูอิจิหันมามองหน้าเด็กหนุ่มอย่างสนใจ  โฮริงุจิงั้นหรืองั้นเจ้าหนูนี่ก็เป็นหลานของตาแก่นั่นน่ะสิ  ยมทูตเหมือนกันสินะ  ท่าจะไม่น่าเบื่อเท่าที่คิดการฝึกครั้งนี้  เด็กอัจฉริยะ  ฝาแฝดของอัจฉริยะ  หัวหน้าหน่วย13  กับหลานของอัจฉริยะในตำนาน  หืมนั่นมันยัยคิโยมินี่  ให้ตายดิไนเจลดูเหมือนงานนี้เธอจะหาเรื่องให้ฉันหัวปั่นอีกแล้วนะ  หญิงสาวเผลอคลี่รอยยิ้มเยือกเย็นมาบางๆ  ทำให้คนที่มองอยู่ถึงกับงงๆกันตามไป         

    "งั้นนายก็คงเก่งใช่ย่อยเลยล่ะสิ  เจ้าหนูโฮริงุจิ"  หญิงสาวพูดพลางมองหาบุหรี่คู่กาย

                    "อ๊ะ  ขอบใจไนตื่นแล้วหรอ"

                    "ก็เห็นอยู่นิ"

                    "ผมคิดว่าผมมีความสามารถพอ  คงไม่จำเป็นต้องฝึก"  โฮริงุจิ  งินพูดด้วยน้ำเสียงท้าทายหญิงสาวตรงหน้า  อย่างไม่เกรงกลัวใคร

                    "งั้นรึ  งั้นฉันจะให้เธอฝึกขั้นเดียวกับพวกไนเจลและไดคิจิเลยเอามั๊ยล่ะ โฮริงุจิ  งิน"อาจารย์สาวเอ่ยด้วยน้ำเสียงเยือกเย็น  'ให้ตายดิเกลียดชะมัดพวกเด็กอวดดีนี่  แค่ไนคนเดียวก็เหลือจะทนแล้วนะ  ต้องมาเจ้าหนูนี่อีก' หญิงสาวคิดในใจก่อนจะหันมาพูดต่อว่า  "คิโยมิ  เธอฝึกกับนินจาคงไม่มีปัญหานะ"

                    "หึ  ฉันยังๆก็ได้อยู่แล้วน่า  แค่เป็นเรื่องสนุกชั้นทำได้หมด"

                    "งั้นงานนี้เธอได้สนุกสมใจแน่  วาตานุกิ  คิโยมิ"

                    มินาโมโตะตัดสินใจพาเด็กๆไปที่หุบเขาวิญญาณ  อนจะปล่อยวาตานุกิ คิโยมิ และนินรวมทั้งมิคาเอลไว้ที่นั่นโดยมีเงื่อนไขว่าภายในสองอาทิตย์ต้องหาทางออกจากเขานี้มาที่คฤหาสน์ให้ได้  ทางออกอยู่อีกฝากของเขา  ก่อนที่จะแวะมาส่งไน  ไดคิจิ  และงินที่หุบเขาเหวมรณะ  แล้วทิ้งพวกเด็กๆกลับไป

                    "โอ๊ย!เจ็บๆๆๆๆโว๊ย  ให้ตายดิยัยป้านั่นจะปล่อยลงดีๆหน่อยก็ไม่ได้  นี่มันคนนะโว๊ยเกือบตายฟรีแล้วมั๊ยล่ะ เจ็บๆๆๆ"

                    "นี่ไนเธอหัดหุบปากหน่อยได้มั๊ย  ฉันควรจะเจ็บกว่าเธอนะยัยบ้า  เธอทับฉันอยู่น่ะ"

                    สิ้นเสียงของเด็กหนุ่ม  เด็กสาวรีบกระโดดขึ้นมาเหมือนกับมีสปริงติดอยู่ที่ขาอย่างงั้นแหละ  ไนหน้าแดงขึ้นอย่างไม่รู้ตัว  เด็กสาวจึงรีบแก้ตัวว่าอากาศร้อนแหะ  ทำให้เด็กหนุ่มและยมทูตหนุ่มมองอย่างขำๆกับอาการของเด็กสาว  ที่ไม่รู้ตัวว่าตนเองกำลังเขิน

     ไนเดินนำทั้งสองเข้าไปในถ้ำเพื่อหาทางออก โดยมีชายหนุ่มทั้ง2เดินตามเด็กสาวไปด้วยเสมือนเป็นบอร์ดี้การ์ดคอยประกบนายสาว ทั้งสามเดินเข้าถ้ำมาด้วยกันตลอดทางมานี้แต่ละคนกลับเอาแต่เงียบมาตลอดทาง เพราะต่างก็เครียดพอสมควรว่าด่านที่อาจารย์สาวเตรียมไว้นั้นจะออกมาเป็นอย่างไร

    "เฮ้!! เจ้าบ้ามันมีทางแยกตั้ง3ทางเลยนี่"ไนพูดด้วยน้ำเสียงที่บ่งบอกถึงอารมณ์หงุดหงิดได้ชัดเจน เด็กสาวก้มหน้าก้มตาคิดอยู่สักพัก ก่อนที่งินจะเริ่มเอ่ยพูด

    "งั้นเธอก็แยกเป็นสามทางสิไน หรือเธอมีความคิดเห็นอื่น"

    "เฮ้ย! มันก็ต้องงั้นสิวะ เอาเป็นว่าฉันตัดสินใจแล้ว ฉันจะไปตรงกลาง แกสองคนก็เลือกทางที่เหลือเอาเองละกัน ฉันไม่อยากจะยุ่งแล้ว"เด็กสาวพูดเสร็จแล้วเดินไปตามทางที่ตนเองเลือก อย่างไม่สนใจใคร นี่ใจคอคุณเธอจะไม่คิดวางแผนกันก่อนรึไง

    "งั้นฉันก็ไปบ้างดีกว่า เอาล่ะฉันจะไปทางนี้นะงิน นายก็โชคดีล่ะรอดมาให้ได้นะ"ไดคิจิพูดพลางเดินยิ้มอย่างสบายใจเหมือนไม่มีอะไร 'นี่ใจคอมันจะไม่คิดอะไรกันก่อนเลยสินะ' เด็กหนุ่มคิดพลางถอนหายใจ ก่อนจะเดินไปในช่องที่เหลือช่องสุดท้าย

    งินเดินมาเรื่อยๆจนในที่สุดเด็กหนุ่มก็ได้พบกับประตูที่มีการแกะสลักเป็นเลขหนึ่ง 'หนึ่งงั้นหรอมันหมายความว่าไง' เด็กหนุ่มไม่รอช้ารีบเปิดประตูเข้าไปในห้องนั้น และสิ่งที่เขาได้พบก็คือ มินาโมโตะ ชูอิจิ ทำไมหล่อนถึงมาอยู่ที่นี่ได้ ก็เธอแค่มาส่งพวกเขาไม่ใช่หรือไง แล้วตลอดทางเดินมานี่เขาก็ไม่ได้พบเจอเธอเลย หรือว่าจะมีทางเข้าอีกทางหนึ่ง ถ้างั้นทางนั้นก็ต้องเป็นทางออกสินะ

    "กำลังคิดหาทางออกอยู่หรอ เจ้าหนูโฮริงุจิ"

    "ทำไมคุณ เอ๊ย!!อาจารย์ถึงรู้ว่าผม…"

    "ก็ฉันเก่งนะ แต่บอกไว้ก่อนว่านี่เป็นภาพ3มิติของตัวฉันเอง ส่วนทางออกของจริงน่ะมีแน่ๆ ไม่ต้องห่วง" มินาโมโตะเอ่ยพลางยิ้มอย่างรู้ทันเด็กหนุ่มตรงหน้า แน่ล่ะเธออยู่มาตั้ง700กว่าปี แค่ความคิดของเด็กอายุ18ปีมีหรือจะไม่รู้

    "โอ๊ย!!!" เด็กหนุ่มร้องด้วยความเจ็บปวด เพราะแผลเป็นกลางหลัง

    "อย่าบกนะว่าคิดจะให้สู้กับเจ้านี่" งินหันไปถามเจ้าของร่างสามมิติ ก่อนจะเงยหน้ามาสบตากับสิ่งมีชีวิตตรงหน้า

    "ใช่ ฉันจะให้เธอสู้กับเอ็นคิตัวนี้แหละ เธอก็เห็นไม่ใช่หรอว่าความแค้นของเจ้านี่น่ะ สูงไม่ใช่เล่นๆซะด้วย ถ้าอยากออกไปให้ได้ล่ะก็ต้องข้ามผ่านทางนี้ไปให้ได้ ข้ามความเจ็บปวดของตนเอง แต่เตือนไว้ก่อนนะเจ้าหนู ถ้าเธอไม่ดึงเอาพลังยมทูตออกมา เธอก็จะไม่มีวันชนะได้หรอก" จบบทสนทนาร่างสามมิติของอาจารย์สาวก็หายไป

    + + + + +

    "นี่ๆ คิโยมิจังๆ ฉันสงสัยมานานแล้วล่ะ ไนไปรู้จักกับอาจารย์ตอนไหนหรอ" นินหันไปถามเด็กสาวรุ่นพี่ที่อยู่ข้างๆตน

    "โทษทีนะนินจังฉันเองก็ไม่รู้หรอก ฉันเคยแต่ได้ยินชื่ออาจารย์ แต่ว่าก็เพิ่งจะได้เจอตัวจริงครั้งแรก ก็อาจารย์น่ะดังจะตาย" คิโยมิพูดพลางหัวเราะในลำคอ เพราะตอนนี้เธอกำลังคิดอยู่ว่า การฝึกของ "มินาโมโตะ ชูอิจิ" ที่ลือชื่อ จะสนุกขนาดไหน

    "…มิ…จัง…โยมิ…จัง…คิ…โยมิจัง…คิโยมิจัง" เสียงเรียกจากเด็กสาวตัวเล็กด้านข้าง ทำให้คิโยมิตื่นจากภวังค์

    "มีอะไรหรอ นินจัง"

    "ก็มันมีทางแยกสองทางนี่ แล้วเราจะเอายังไงดี…ว่าแต่…คิโยมิจังไม่เป็นอะไรใช่ไหม เห็นคิโยมิจังเงียบไปนานเลย เป็นอะไรหรือเปล่า"

    "อ๋อ…ไม่มีอะไรหรอก ก็แค่คิดอะไรไปเรื่อยเปื่อยแหละ ฉันว่านะนินจังเราแยกไปคนละทางเถอะเนอะ หรือนินจังคิดอย่างอื่น" เด็กสาวหันไปขอความเห็นจากคนข้างๆตน

    "เอ๋ แต่ว่าไปด้วยกันจะปลอดภัยกว่านะ"

    "น่าไม่เป็นอะไรหรอก ยังไงๆเธอก็เป็นถึงพี่สาวของริวจังเชียวนะ ฉันไปล่ะ" พูดจบเด็กสาวก็เดินไปตามทางที่ตนเองเลือก โดยไม่รอให้คนข้างๆตนได้มีโอกาสจะพูดอะไร

    คิโยมิเดินมาเรื่อยๆจนสุดทาง จนกระทั่งเด็กสาวได้ยินเสียงหินหล่นลงมาจากทางด้านหลัง ดูท่าเธอติดกับดักของอาจารย์ตัวแสบเข้าให้ซะแล้ว เด็กสาวคิดก่อนจะหันไปมองสำรวจรอบๆ และสายตาก็ไปสะดุดหยุดอยู่ที่บุคลหนึ่ง ซึ่งก็ไม่ใช่ใครอื่นไกล 'มินาโมโตะ ชูอิจิ' นั่นเอง มาได้ไงนี่ คิโยมิหรี่ตาลงอย่างใช้ความคิดก่อนจะเริ่มสังเกตเห็นสิ่งหนึ่งแล้วพูดออกไป

    "อาจารย์คะ เล่นมาด้วยภาพสามมิตินี่มันไม่ประมาทฉันไปหน่อยหรอคะ เล่นอย่างนี้มันขี้โกงนี่นา ไม่เห็นสนุกเลย" ดูเหมือนคำพูดของเด็กสาวจะทำให้เจ้าของร่างสามมิติสะดุ้งเล็กน้อยก่อนจะแสยะยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์ 'สมเป็นยัยนี่เลยแหะ ดูถูกไม่ได้จริงๆ'

    "หึ งั้นเอาอย่างนี้ ฉันว่าคนอย่างเธอน่ะควรที่จะฝึดทักษะด้านความคิดและร่างกาย เพราะอย่างเธอน่ะแค่ฝึกสมาธินิดหน่อยล่ะก็คงรุ่งแล้ว ระวังด้วยล่ะนิสัยที่ชอบประมาทคนอื่นของน่ะ ฉันไปล่ะ อ้อถ้าขยับพลาดอาจตายได้นะ หึ หึ" ทันทีที่หญิงสาวพูดจบ ภาพสามมิติก็หายไปทันที

    ภายในห้องที่มืดสนิทไม่ว่าจะเฟอร์นิเจอร์ หรือของตกแต่งล้วนแต่เป็นสีดำทั้งนั้น ห้องนี้เป็นห้องปิดตายที่ไม่มีหน้าต่างระบายอากาศสักบานนอกจากประตูทางเข้าทางเดียว แต่ภายในห้องสีดำนี้กลับเต็มไปด้วยคอมพิวเตอร์และจอโทรทัศน์สิบกว่าเครื่อง ทางเดินที่ควรจะโล่งกลับเต็มไปด้วยสายไฟระโยงระยางทั่วห้อง หากเดินอย่างไม่ระวังล่ะก็สะดุดได้ง่ายทันที

    หญิงสาวคนหนึ่งกำลังนั่งจิบน้ำชาอย่างสบายอารมณ์ในห้องที่เงียบสงบนี้ ซึ่งก็ไม่ใช่ใครอื่นไกลนอกจาก 'มินาโมโตะ ชูอิจิ' นั่นเอง

    หึ อันตราย อันตรายจริงๆ ถึงขนาดรู้เรื่องภาพสามมิติของฉัน ท่าทางฝีมือจะไม่ธรรมดาจริง


    +++++++++++++
    มาอัพแล้วนะ

     
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×