ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    My name is ริวงะ นัยน์ตาเทพ(ไนเจล)

    ลำดับตอนที่ #2 : ตอนที่2 โฮริงุจิ งิน

    • อัปเดตล่าสุด 16 พ.ย. 49


    ตอนที่2 โฮริงุจิ งิน

    เจ็ดปีต่อมา

    "นี่ไน ตื่นได้แล้วน่า"

    "…"

    "ตื่นเด้ เฮ้"

    "…"

    "ไน ยัยความจำสั้น วันนี้ไปโรงเรียนนะโว๊ยยัยบ้า" ได้ผลคำว่า 'ยัยความจำสั้น' ที่ยมทูตหนุ่มใช้เรียกเพื่อปลุกเด็กสาววัย16ปีตรงหน้าเขา ทำให้คุณเธอลุกขึ้นมาอย่างรวดเร็วด้วยความแค้นจัด

    "แกว่าใครยัยความจำสั้นห๊ะ ไอ้บ้า ผีก็อยู่ส่วนผีไปดิวะ คนจะหลับจะนอนโว๊ย" เด็กสาวจอมดื้อพูดจบก็คว้าพลางห่มนอนคลุมโปงต่ออย่าไม่สนใจว่าคนตรงหน้าจะปลุกยังไงก็ตาม

    "เฮ้ แต่ฉันเป็นยมทูตนะไม่ใช่ผี ถ้าฉันเป็นผีเธอเองก็ไม่ต่างอะไรจากฉันหรอก" ยมทูตหนุ่มยังคงเถียงเด็กสาวตรงหน้าต่ออย่างไม่ยอมแพ้พลางพยายามดึงผ้าห่มออกจากตัวเด็กสาวต่อ โดยไม่สนว่าเด็กสาวที่อยู่ใต้ผ้าห่มจะเป็นไงเช่นกัน เด็กสาวผู้นอนอยู่ใต้ผ้าห่มรู้สึกได้ว่าเจ้าหมอนี่กำลังหาว่าเธอเป็นผีเหมือนมัน จึงหันไปด่าคนตรงหน้าต่อว่า "ไอ้เซ่อ ฉันเป็นมนุษย์โว๊ย"

    "แต่ดวงวิญญาณเธอเป็นยมทูตนะ หรือเธอจะปฏิเสธ คุณอดีตหัวหน้าหน่วย13 อดีตว่าที่ท่านยมโลก" คำพูดของยมทูตหนุ่มทำเอาเด็กสาวตรงหน้าถึงกับเถียงไม่ออก เพราะเรื่องที่เขาพูมาทั้งหมดนั้นเป็นความจริง เมื่อ500ปีก่อนที่เธอตัดสินใจมาเกิดที่โลกมนุษย์ ก่อนที่จะได้ขึ้นเป็นยมโลก หลังจากที่ริวงะ โอโตเมะ หมอผีชื่อดังของตระกูลริวงะ ได้ตายไป

    "ไปแต่งตัวเร็วๆเถอะน่า สาวน้อยคนนั้นรอเธออยู่นะ" ไนรู้ได้ทันทีเลยว่าคำว่า 'สาวน้อยคนนั้น' ที่หมอนี่เอ่ยถึงคือใคร จะเป็นใครไปล่ะ ถ้าไม่ใช่ นินจา พี่สาวฝาแฝดของเธอ ไนจึงรีบไปเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วออกมาในชุดไปรเวท ซึ่งเป็นเรื่องปกติเพราะคุณเธอไม่เคยใส่ชุดนักเรียนไปโรงเรียนแบบชาวบ้านเขาเลย เพราะตัวเธอมักจะอ้างว่า 'ฉันก็ใส่สูทของโรงเรียนทับ แค่นี้ก็บุญแล้ว' ก่อนที่ทั้งคู่จะเดินออกไปหานินจา กับมิคาเอล

    "ฮ้าว~ อรุณสวัสดิ์นิน อ้อใช่ชิโร่ด้วย" ไดคิจิถึงกับส่ายหน้าอย่างละอา ก็คุณเธอเล่นไปเรียกเทพชั้นสูงอย่างมิคาเอลว่าชิโร่น่ะสิ ทำไมถึงเรียกว่าชิโร่น่ะหรือ สาเหตุก็เพราะเจ้าตัวบอกว่าเทพคู่กับสีขาวแล้วมิคาเอลก็ใส่ชุดขาว ถึงเขาจะชินกับนิสัยของเธอแล้วก็เถอะ แต่อีกฝ่ายเป็นถึงเทพก็หน้าจะให้เกียรติกันบ้าง

    "นี่แม่หนูน้อย เลิกเรียกข้าว่าชิโร่สักทีเหอะ" เทพหนุ่มหันมาพูดกับเด็ฌกสาวอย่างไม่สบอารมณ์ มันเป็นการไม่ให้เกียรติเทพอย่างเขามากๆ

    "โทษทีว่ะ เห็นทีจะไม่ได้มันเป็นความสุขส่วนตัวไปซะแล้ว" ไนพูดพลางหัวเราะต่ออย่างชอบใจ เพราะการทำให้คนรอบข้างไม่สบอารมณ์กับเธอ มันกลับกลายเป็นความสุขส่วนตัวของเธอไปซะแล้ว ไดคิจิกับมิคาเอลส่ายหัวอย่างเอือมระอา พลางคิดว่าใครให้ยัยนี่เป็นนางเอกนี่ ออกแนวโรคจิตชัดๆ

    ม.6-1

    "ครืดด"

    เสียงประตูห้องเรียนเปิดออก ไนเดินเข้าห้องเรียนตามปกติ วันนี้เป็นวันเปิดเรียนวันแรก ซึ่งทุกคนในห้องก็ไม่ได้สนใจอะไรเลยที่เด็กสาวจะแต่งตัวพิลึกเหนือชาวบ้านเพราะเธอเป็นเพื่อนร่วมห้องนี้ตั้งแต่ปี1แล้ว ไนเดินไปนั่งที่ริมหน้าต่างหลังห้องตามปกติ ซึ่งเป็นที่ประจำของเธอ

    "ดีริวงะจัง" วาตานุกิ คิโยมิ เพื่อนสาวที่นั่งข้างหน้าไนหันมาทักด้วยน้ำเสียงขี้เล่น "ได้ข่าวว่ามีเด็กใหม่หรอ ริวจังรู้เปล่า" คิโยมิถามต่อ

    "อืม ว่าแต่เธอเลิกเรียกฉันว่า 'ริวจัง' เหอะว่ะนั่นไม่ใช่ชื่อฉันโว๊ย วามิ" ไนตอบรับเพราะเด็กใหม่ที่มาวันนี้ไม่ใช่ใครที่ไหนถ้าไม่ใช่นินจาพี่สาวฝาแฝดของเธอ ไนใช้เส้นของตัวเองขอย้ายพี่สาวขึ้นมาให้อยู่ฉันเดียวกัน เพราะเห็นนินพยายามอ่านหนังสืออย่างหนัก ตามจริงแล้วไนกับนินยังต้องขึ้นม.4แต่ด้วยความอัจฉริยะไนจึงเลื่อนมา ม.6ได้

    "เธอสูงขึ้นนะริวงะ" โฮริงุจิ งิน เพื่อนชายที่นั่งข้างไนเอ่ยขึ้น ทำให้ไนเลิกคิ้วด้วยความสงสัยทำไมหมอนี่มันช่างสังเกตจัง เจอหน้าทุกครั้งต้องมีอะไรมาทักเธอ ขนาดตัวเธอยังไม่เคยสนใจตัวเองเลย แล้วทำไมหมอนี่รู้จักตัวเธอดีไปกว่าตัวเธอเองได้

    "สงสัยว่าฉันรู้ได้ไงหรอ ว่างๆเธอก็หัดวัดส่วนสูงบ้างล่ะจะได้เข้าใจที่ฉันพูด" ไนพยักหน้าเชิงเข้าใจ ส่วนโฮริงุจิวางกระเป๋าเตรียมนั่งที่ ครูสาวเดินเข้ามาในห้องพร้อมกับเอ่ยแนะนำนักเรียนใหม่ให้ทุกคนรู้จัก

    "เอ่อนี่ริวงะ นินจวรรณซัง เป็นพี่สาวฝาแฝดของริวงะซังนะจ๊ะนักเรียน พี่สาวของริวงะซังเขาได้โคต้าเลื่อนชั้นขึ้นน่ะจ๊ะที่จริงต้องอยู่ปี1 แต่ได้เส้นเลื่อนมาเป็นกรณีพิเศษ ริวงะซังเธอไปนั่งตรงที่ว่างข้างวาตานุกิ คิโยมิละกัน" ครูสาวพูดจบนินก็เดินมานั่งที่ เราะคำพูดของครูสาวทำเอาเด็หนุ่มถึงกับสะดุ้งนี่คนข้างๆเขาอายุเท่าไรกันแน่เนี่ย

    "ถามจริงเธออายุเท่าไร"โฮริงุจิตัดสินใจถามเด็กสาวข้างๆ

    "15ว่ะ"

    "งั้นตอนปี 1 เธออายุเท่าไร"

    "12…"

    "แล้วพี่สาวเธอใช้เส้นใครวะ ถึงเลื่อนมาได้นี่ เธออย่าบอกนะว่าอัจฉริยะอีกคน"เด็กหนุ่มข้างๆถามไนด้วยความสงสัยแต่ไนกลับพยักหน้าราวกับบอกว่า 'เส้นฉันนี่แหละ' ทำให้เด็กหนุ่มถึงกับกลืนน้ำลายกับความอัจฉริยะของคนตรงหน้า งั้นยัยนี่ก็ต้องเป็นน้องเขาล่ะสิ

    "เธอรู้เปล่าฉันอายุ18แล้ว" เด็กหนุ่มพูด ทำให้ไนหันมามองโฮริงุจิด้วยความงุนงง ก่อนจะบอกไปว่า "เออ…ฉันรู้ว่าแกแก่ แต่เมื่อกี้ไม่ได้ถามฉะนั้นอย่าสะเอาะตอบ" แล้วเด็กหนุ่มก็สังเกตเห็นเธอหันไปนั่งมองเมฆต่อตลอดคาบจนเลิก ไนไม่เคยสนใจในการเรียนเลยเพราะคุณเธอมักจะอ้างว่า 'น่าเบื่อ เรื่องแบบนี้ใครๆก็รู้' จนตัวเขาอยากจะตอบกลับไปว่า มีแต่เธอสิรู้ ใครจะไปอัจฉริยะอย่างเธอ

    หลังเลิกเรียนภายในห้องเหลือเพียงแค่เด็กสาว3คนซึ่งก็คือไน,นิน,วาตานุกิ คิโยมิ และเด็กหนุ่มอีกคนซึ่งเป็นใครไม่ได้ถ้าไม่ใช่โฮริงุจิ งิน เด็กหนุ่มที่ช่างถามเรื่องของไนไปซะทุกอย่าง

    "เฮ้ วันนี้เธอไม่ได้พาไดคิจิมาด้ววยหรอริวงะ"

    "พามาสิหลังแกไงไอ้นกแก้ว"

    "ไม่เอาน่าไน ยังไงโฮริงุจิคุงก็เป็นรุ่นพี่เรานะเรียกเขาพี่บ้างก็ได้" นินเตือนน้องสาวฝาแฝด ซึ่งโฮริงุจิก็พยักหน้าเชิงเห็นด้วย เพราะพวกเธอเป็นน้องเขาจริงๆ

    "แกรู้มั๊ยทำไมฉันถึงเรียกมันว่าไอ้นกแก้ว เพราะมันช่างสังเกตและขี้สงสัยไง" ไนหันไปพูดกับพี่สาวฝาแฝด ราวกับต้องการจะบอกว่า ฉันอยากเรียกแกจะทำไม

    "ช่างเถอะริวงะซัง"

    "รุ่นพี่เรียกฉันว่านินก็ได้ เรียกไนว่าไนเลยไม่ต้องเรียกว่าริวงะหรอก"

    "งั้นเธอก็เรียกฉันว่างินละกัน" งินบอกเด็กสาวที่มีหน้าตาเหมือนกันทั้งสอง ซึ่งให้ความรู้สึกเป็นกันเองกว่าเพราะเดิมทีตัวเขาเองกับไนก็สนิทกันมานานแล้ว

    "นี่ๆพวกเธอก็เรียกฉันว่าคิโยมินะนินจัง แต่เธอรู้มั๊ยว่าริวจังน่ะชอบเรียกฉันเรียกฉันว่าวามิ พอถามเหตผลน่ะหรอ วามาจากวาตานุกิ มิมาจากคิโยมิ อ๊ะงงล่ะสิว่าใครคือริวจัง ก็น้องเธอนั่นแหละไม่ต้องงงไปหรอก" คิโยมิพูด ซึ่งนินก็พยักหน้างงกับเด็กสาวรุ่นพี่ตรงหน้า

    "ว่าแต่ตระกูลริวงะเป็นหมอผีสินะ ก็คล้ายๆกับตระกูลโฮริงุจิแหละ แต่วิญญาณประจำตัวไนเป็นยมทูตแล้วของเธอล่ะ นิน" งินถามเด็กสาวตรงหน้า

    "เทพมิคาเอลค่ะ" คำตอบของนินทำเอาเด็กหนุ่มรุ่นพี่อึ้งไปเล็กน้อย กับคำตอบของเด็กสาวตรงหน้า คนน้องก็ยมทูต คนพี่ก็ก็เทพ ริวงะรุ่นนี้มีแต่พวกคิดไม่ถึงทั้งนั้นเลยจริงๆแฮะ "ว่าแต่สังเกตมานานแล้วมือซ้ายเป็นอะไรหรอไน เห็นพันแผลมาตลอด" งินตัดสินใจถามเพราะเขาสงสัยตั้งแต่เมื่อ2ปีก่อนตอนที่รู้จักเธอครั้งแรกแล้ว แต่คำตอบที่ได้กลับเป็นว่า "ถ้าแกไม่เสือกสักเรื่องก็ไม่มีใครเขาด่าแกหรอก" ก่อนจะลากพี่สาวฝาแฝดกลับบ้าน

    "เฮ้ ไดรอเดี๋ยว" งินเรียกยมทูตหนุ่ม"เอ้าของฝาก" พูดจบพลางโยนแอปเปิ้ลของโปรดของไดคิจิให้เพราะเขารู้ว่ายมทูตหนุ่มชอบกินตั้งแต่อยู่ที่เดทแลนท์แล้ว สาเหตุที่เขารู้ก็เพราะ ตัวเขาเองก็เป็นยมทูตเเหมือนกัน และที่เขาตามสังเกตไนก็เพราะไดเป็นเพื่อนเก่าเขาที่เดทแลนท์แต่ตัวเขาเองก็ไม่รู้ว่าไนเป็นยมทูตเหมือนกัน

    "แตงค์กิ้วเพื่อน" ยมทูตหนุ่มกล่าวขอบคุณก่อนเดินตามเจ้านายสาวออกไปภายในห้องจึงเหลือแค่เพียงตัวเขาคิโยมิสองคน เด็กหนุ่มเลยถามคนที่เหลือไปว่า "แล้วเธอไม่กลับหรอ วาตานุกิ"

    "ไม่เอาน่างินจัง เรียกฉันว่าคิโยมิแบบคนอื่นดีกว่าน่า เดี๋ยวฉันก็ว่าจะกลับแล้วล่ะ พูดตรงๆไม่อยากกลับบ้านหรอก กลับไปก็ไม่มีใคร" คิโยมิพูดพลางถอนหายใจ ซึ่งงินเองก็แอบสังเกตทุกครั้งที่พูดเรื่องบ้านคิโยมิเองก็จะเป็นแบบนี้ประจำ เพราะยัยนี่บ้านแตกแยกพ่อแม่แยกทางเลยต้องอยู่คนเดียว ทุกสองเดือนพ่อจะส่งเงินมาให้ใช้ที

    ซึ่งก็ไม่ต่างจากบ้านของเขาสักเท่าไร เขาไม่มีพ่อแม่ แม่บุญธรรมก็เสียไปได้ 3ปีแล้ว พ่อบุญธรรมก็เตลิดออกจากบ้านเขาก็ต้องอยู่ตัวคนเดียวมาตลอด3ปี แต่เมื่อ2ปีก่อนตอนที่เขาได้รู้จักกับไน ก็คิดๆอยู่ว่ายัยนี่ดูแปลกไม่ค่อยสุงสิงกับใคร ออกเงียบๆ ไม่ค่อยพูดถึงเรื่องของตัวเอง รู้แค่ว่าบ้านยัยนี่เป็นโรงเรียนสอนศิลปะการต่อสู้ และเบื้องหลังเป็นหมอผี จนกระทั่งเขาได้รู้ว่าวิญญาณประจำตัวยัยนี่คือ ฮิสึกายะ ไดคิจิ เพื่อนยมทูตเก่าของเขา ก่อนสมัยที่เขาจะมาเกิดบนโลกมนุษย์ แต่เขาก็ไม่ได้บอกเธอว่าตัวเขาเองก็เป็นยมทูต

    ติ่งต่อง

    เสียงนาฬิกาเตือนดังเป็นสัญญาณให้รู้ว่าตอนนี้หกโมงเย็นแล้ว งินเก็บข้าวของลงกระเป๋าแล้วเดินกลับบ้านไป โดยไม่รู้เลยว่ามีใครแอบดูตนอยู่ วูบ มีเงาดำบางอย่างวิ่งผ่านตัดหน้าเขาไป งินไม่รีรอรีบวิ่งจามเงานั่นไป และมันก็พาเขาไปหยุดอยู่ที่สวนสาธารณะแห่งหนึ่ง เงาดำที่เขาวิ่งตามมาก็คือ เอ็นคิ ตามพจนานุกรมเดทแลนท์ที่บอกไว้ เอ็นคิหรือเรียกอีกอย่างนึงว่ายักษ์ มีร่างเป็นคนแต่มีเขาและเขี้ยวแยกออกมา หน้าตาของเอ็นคินั้นจะหน้าเกียจอัปลักษณ์ เป็นปิศาจที่มีความตั้งใจแรงกล้ามาก ถ้าไปทำให้ยักษ์โกรธแค้นมันจะมีความพยาบาทรุนแรงสูง

    "ให้ตายดิ ปิศาจมีตั้งเยอะทำไมต้องเป็นยักษ์ด้วยวะ" เด็กหนุ่มสบถออกมาเสียงดัง เพราะตอนที่เขาเป็นยมทูตเคยพลาดท่าให้ยักษ์จนได้แผลมากลางหลังแล้วครั้งนึง เพราะงั้นเวลาที่ตัวเขาเห็นยักษ์จะรู้สึกเจ็บแผลที่หลังมากจนแถบขยัยไม่ไหว

    ***********
    อยากขอบอกว่าเรื่องนิสัยของยักษ์
    นี่ตัวเราก็ไม่แน่ใจเท่าไรหรอกนะคะ
    ก็เดาๆเอาน่ะ
    ไงๆ  ก็ช่วยโพสด้วนะ
    จะพยายามหมั่นอัพ  ถ้าไม่ขี้เกียจซะก่อน

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×