ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    My name is ริวงะ นัยน์ตาเทพ(ไนเจล)

    ลำดับตอนที่ #1 : ตอนที่1 ยมทูตกับเทพ

    • อัปเดตล่าสุด 11 ต.ค. 49


    ตอนที่1 เทพกับยมทูต

    ท่านเร็นจิขอรับ นายหญิงคลอดแล้วขอรับ”

    “หญิงหรือชายล่ะ มิโซระ” คราวนี้เจ้าของเสียงชายวัยกลาง ริวงะ เร็นจิ หันไปคุยกับวิญญาณซามูไรหนุ่มประจำตนนามว่า มิโซระ หรือที่คนทั่วไปมักเรียกกันว่า ผีซามูไร นั่นเอง

    “เป็นแฝดหญิงขอรับ”

    “แฝดหญิงรึ” เร็นจิร้องด้วยความตกใจ หญิงสาววัยชราเดินออกมาจากห้องคลอดพลางอุ้มทารกน้อยทั้งสอง เร็นจิมองหน้าลูกทั้งสอง อืมเหมือนแม่มาก ขณะที่เร็นจิกำลังมองดูลูกทั้งสอง สายตาของเขาเหลือบไปเห็นสิ่งๆหนึ่งที่ฝ่ามือซ้ายของทารกน้อยคนหนึ่ง ตราพันธอสูร นี่น่ะหรอ ตราที่เคยปรากฎกับริวงะ โอโตะเมะเมื่อ 500ปีก่อน

    “เด็กนี่คนพี่หรือน้อง” เร็นจิหันไปถามโซโนะแม่นมประจำตระกูล พลางอุ้มเด็กคนนั้นขึ้นจมาอย่างเอ็นดู

    “คนน้องเจ้าค่ะ”

    “เอาชื่อไรดีลูกอืม…แม่ชื่อนิรดา เป็นคนไทยงั้นเอาชื่อไทยแบบแม่ดีกว่า นัยน์ตาเทพ…ริวงะ นัยน์ตาเทพ อีกคนก็อืมนิเขาชอบหนังนินจา อืม…งั้นริวงะ นินจวรรณ”

    “น่าเสียดายนะขอรับที่นายหญิงจากเราไปก่อน” มิโซระพูดอย่างหน้าสลด เร็นจิก้มมองเด็กน้อยทั้งสองที่เขากับโซโนะอุ้มอยู่ เขาจะต้องทำทั้งหน้าที่พ่อและแม่ของเด็กไปในตัว แทนภรรยาสุดที่รักที่เธอกับเขาสัญญากันไว้ก่อนที่เธอจะสิ้นลมหายใจ

    “เอาชื่อเล่นว่านินจากับไนเจลดีมั๊ยขอรับ”

    “ไนเจล? เร็นจิหันกลับมาอีก หรี่ตาลงมองวิญญาณซามูไรหนุ่มอย่างสงสัย และดูเหมือนว่ามิโซระจะรู้ดีว่าเจ้านายของเขาข้องใจกับเรื่องอะไร

    “ขอรับ ข้าเคยเจอหนังสือเล่มหนึ่ง ไนเจล แปลว่า ผู้ที่เกิดในตระกูลสูงศักดิ์ หรือ ผู้มีคุณธรรมสูงขอรับ” มิโซระพูดอย่างภาคภูมิราวกับผู้รอบรู้จนทำให้เร็นจิรู้สึกได้ว่าทำไมมันไม่ไปเป็นเซลโฆษณาเลยวะ

    แปดปีต่อมา

    เสียงดาบจาโรงเรียนสอนศิลปะการต่อสู้ริวงะดังขึ้น แต่ใครจะรู้ล่ะว่าเบื้องหลังของที่นี่จะมีเบื้องหลังรับจากปราบผี ที่น่ากลัวที่สุดในตำนาน

    ครืดดด

    เสียงประตูจากโรงฝึกเปิดออกเผยให้เห็นเด็กสาววัยแปดปี ผู้มีดวงตาสีเพลิงแข็งกราวดูทรงพลังและอำนาจ หากแต่ตอนนี้ดวงตาคู่นี้กลับดูเรียบเฉยไร้ความรู้สึก หากแต่สีหน้าของคุณเธอนั้นกำลังหงุดหงิดเพราะไม่อาจเอาชนะพ่อของเธอได้ในตอนนี้ ผมสีน้ำตาลไหม้ยาวประบ่าถูกรวบไว้เป็นหางม้า ผมม้าเจ้าหล่อนดูยุ่งเหยิง เสื้อผ้ามอมแมม มีบาดแผลตามตัว มือซ้ายกำดาบอยู่ ซึ่งพอเดาได้ว่าเพิ่งซ้อมดาบจริงเสร็จ เด็กสาวผู้เปิดประตูเข้ามามีใบหน้าเหมือนกับเด็กสาวที่ขณะนี้กำลังกำดาบอยู่ หากแต่เธอดูมีแววตาอ่อนโยนดูนอบน้อมและร่าเริง ในชุดเครื่องแบบหญิง

    “สวัสดีค่ะท่านพ่อ ดีจ๊ะไน ดีมิโซระ” นินจาหรือ ริวงะ นินจวรรณ เอ่ยทักพ่อและน้องสาวฝาแฝด รวมทั้งวิญญาณซามุไรหนุ่มทันทีที่มาถึง พ่อของเธอไม่ได้พูดอะไรเพียงแต่ยิ้มให้พร้อมกับเดินออกจากโรงฝึกไปพร้อมกับวิญญาณหนุ่ม ส่วนน้องสาวฝาแฝดของเธอยิ่งไม่ต้องพูดถึงไม่เคยสนใจอะไรเลย วันๆถ้าไม่โดดเรียนก็หมกตัวอยู่แต่ในห้องนอนส่วนตัว นั่งเล่นโก๊ะ ต่อจิ๊กซอร์ ต่อรางรถไฟ หุ่นยนต์ เล่นเกมต่างๆ ฯลฯ หรือไม่ก็นอนมองดูเมฆ นั่งเหม่อไปวันๆ แต่ถ้าเห็นท่านพ่อเมื่อไรล่ะก็ รีบจับอาวุธให้พ่อช่วยฝึกให้ทันที แต่เห็นอย่างนี้เธอก็ต้องยอมรับในความอัจฉริยะของน้องเธอ คนอะไรเก่งไปซะทุกอย่าง นินจาถอนหายใจกับอาการเมินเฉยของไน น้องสาวฝาแฝด

    “มาพี่ทำแผลให้นะ” นินเดินไปหยิบกล่องพยาบาลในโรงฝึกมาทำแผลให้น้องสาว ซึ่งเด็กสาวตรงหน้าไม่ได้ตอบอะไรเพียงแต่พยักหน้าเชิงว่ารับรู้แล้วให้ นินทำแผลเสร็จแล้วเอ่ยถามไนต่ออีกว่า ”วันนี้หยุดเรียนอีกล่ะสิ”

    “เปล่า” ไนตอบสั้นๆ ซึ่งทำให้นินส่ายหน้าอย่างปลงๆอนิจจัง

    “งั้นทำไม…”

    “ไปครึ่งวัน”

    “แสดงว่าอีกครึ่งโดดล่ะสิ”

    “อือ” ไนตอบพลางเลือบไปมองแผลว่าทำแผลเสร็จแล้ว จึงลุกขึ้นเตรียมเดินออกนอกโรงฝึกไปโดยไม่ได้สนใจว่าพี่สาวที่กำลังเก็บอุปกรณ์ทำแผลอยู่

    “เดี๋ยว ไน” ผู้เป็นพี่รั้งตัวเธอไว้ก่อนจะเอ่ยบอกว่า ”เย็นนี้ไปทานข้าวนอกบ้านกันนะ เพื่อนพี่มันจะเลี้ยง เดี๋ยวพี่จะลองขอท่านพ่อให้” ไนไม่ได้เอ่ยหรือตอบอะไร เพียงแต่เดินกลับไป เพราะตัวเธอรู้อยู่แล้ววันนี้จะทำพิธีเลือกวิญญาณประจำตน เพราะหมอผีทุกคนในตระกูล จะต้องมีวิญญาณประจำตนอย่างน้อย 1 ดวง

    สิบแปดนาฬิกา

    “มิโซระไปตาม…” เร็นจิกำลังจะบอกมิโซระให้ไปตามลูกสาวของเขาแต่ยังไม่ทันได้พูดอะไรก็มากันซะแล้ว เร็วจริงๆ

    “นิน ไน ลูกพร้อมยัง” ผู้เป็นพ่อเอ่ยถามความพร้อมก่อนเริ่มพิธี หากแต่นินยังคงทำหน้างงเพราะยังไม่รู้ว่านี่มันเรื่องอะไร ส่วนไนพยักหน้าเป็นคำตอบแทน

    “ไน ลูกยังไม่ได้บอกพี่เขาหรอ” ผู้เป็นพ่อเอ่ยถามลูกสาวคนเล็ก แต่เจ้าตักลับไม่ตอบอะไร เพียงแค่ไหวไหล่ ราวกับตนไม่รู้ไม่ชี้กับเรื่องที่เกิดขึ้น ก่อนจะเอ่ยบอกไปว่า “ทำไมฉันต้องบอกมัน” ซึ่งทุกคนได้แต่ส่ายหัวอย่างปลงอนิจจัง

    “แล้วตกลงมีอะไรคะ” คนช่างถามยังคงถามต่ออีกครั้ง คราวนี้จ้องหน้าผู้เป็นพ่อเขม็งเพราะต้องการคำตอบ หากแต่คนพูดน้อยกลับเป็นคนตอบแทน “พิธีเลือกวิญญาณประจำตน” พลางบ่นพึมพำอุบอิบอะไรสักอย่างซึ่งนินจับใจความได้แค่ ’ยัยเอ๋อ แกจะถามไปถึงไหนน่ารำคาญ ผู้เป็นพ่อเมื่อเห็นว่าเสียเวลาไปมากแล้วจึงให้สัญญาณลูกสาวคนโตให้เริ่มพิธี นินเริ่มร่ายเวทย์ต่อหน้าโต๊ะตราประจำตระกูล พลันก็เกิดหมอกควันสีขาวฟุ้งกระจายไปทั่วห้อง ประตูมิติเปิดออกกลางอากาศเหมือนปล่อยอะไรบางอย่างออกมา แล้วก็หายไป แต่สิ่งที่ปรากฎต่อหน้าทุกคนที่อยู่ในห้องนั้นหลังจากหมอกควันหายไปคือ เทพบุตรหนุ่มรูปงามซึ่งดูมียศฐบรรดาศักดิ์

    พอสมควรในตำแหน่งสภาเทพของสรวงสวรรค์

    “เจ้าเป็นใครกันถึงเรียกข้าออกมาได้แม่หนูน้อย” เทพหนุ่มเอ่ยถามพลางสำรวจดูร่างของผู้ที่เรียกตนออกมา ไม่น่าเชื่อเด็กสาวตัวเล็กๆแค่นี้มีพลังวิญญาณพอที่จะเรียกเขาด้วยหรอ งั้นเธอเป็นใครกัน ถึงสามารถเรียกเขาออกมาได้

    “ริวงะ นินจวรรณ ชื่อเล่น นินจาค่ะ” ทันทีที่นินแนะนำตัวเสร็จ เทพหนุ่มก็เข้าใจทันที เด็กคนนี้เป็นริวงะรึ สามารถเรียกเขาออกมาได้น่าสนใจจริงๆ นี่ก็คงถึงเวลาที่เด็กคนนี้ต้องเรียกวิญญาณประจำตนแล้วสินะ ”อือข้าชื่อมิคาเอล เป็นทพลำดับ6 ของสรวงสวรรค์” มิคาเอลกล่าวแนะนำตน

    “งั้นต่อไปก็ตาฉันถอย เกะกะจริง” เด็กสาวอีกคนผลักเขากระเด็นพลางร่ายเวทย์ร่ายพิธี เทพหนุ่มบ่นพึมพำกับกิริยาของเด็กสาวที่ผลักเขาว่าไร้มารยาท เขาเหลือบไปเห็นตราพันธอสูรที่ฝ่ามือซ้ายของเด็กคนนั้น เด็กนี่เป็นริวงะอีกรึไงทำไมถึงมีตรานั่นได้ แต่เมื่อกี้ตอนที่ยัยเด็กนี่ผลักเขาทำไมเขาจับพลังวิญญาณไม่เลยล่ะ มันยังไงกันแน่ ดวงตาอสูรปรากฎกลางอากาศ ร่างของชายหน่มชุดดำเดินออกมา พลางหาวนอนประมาณว่าง่วงมาก

    “ใครมาเรียกข้าน่ะ รบกวนเวลานอนจริงๆ หือ เธอเป็นใคร” ชายชุดดำเพิ่งสังเกตเห็นเด็กสาวตรงหน้า ซึ่งตอนนี้ดูท่าคุณเธอจ้องมองเขาอยู่

    “ก็คนที่เรียกแกมาไงไอ้เซ่อ” ไนพูดอย่างไม่สบอารมณ์ ชายหนุ่มชุดดำหันมามองหน้าคนที่เรียกเขาว่าไอ้เซ่อ นี่มันเป็นการดูถูกเขามากเลย ไปเอาความกล้ามาจากไหนกัน

    “เธอเป็นใครกัน”

    นายแกไง…ลืมกันแล้วหรอเจ้าขี้เซา” เด็กสาวจงใจเน้นคำว่านายแกให้ดังหากแต่ประโยคหลังกับพูดเบาราวกับว่าต้องการให้เขาได้ยินคนเดียว

    “เราเคยรู้จักกันรึ ล้อเล่นรึเปล่าสาวน้อย”

    “แล้วแกเป็นใคร ฉันถึงต้องล้อเล่นกับแก”

    “ยมทูตนามว่า ฮิสึกายะ ไดคิจิ”

    “แกเป็นยมโลกไม่ใช่รึ” ไดคิจิหันมามองเธอรู้ได้ไงว่าเขาเป็นยมโลก ไดคิจิสบตาเด็กสาวตรงหน้าเพื่อหาคำตอบ นัยน์ตาอวดดีแบบนี้เหมือนยัยนั่นไม่มีผิดไนเจล อ๊ะไนเจล ไดข้าจะไปเกิดที่โลกมนุษย์ตอนนี้หมอนั่นตายแล้ว ข้าอุส่าห์ได้ชิงตำแหน่งยมโลกได้สักทีเห็นทีอีก500ปี ข้าคงต้องกับมาเอาตำแหน่งคืน แกจำไว้ล่ะอีก500ปี ข้าจะต้องขึ้นมาถึงตำแหน่งหัวหน้าหน่วยที่13แล้วขึ้นเป็นยมโลก แกได้เจอข้าอีกแน่” งั้นหรอยัยนี่คือไนเจลสินะ ตราพันธอสูรที่มือซ้ายก็ติดมาด้วย ไดคิจิมองสำรวจห้องแล้วเขาก็พบสัญลักษณ์ประจำตระกูลริวงะ ไนเจลเจ้านี่ช่างเลือกตระกูลมาเกิดจริงๆนะ

    แกรู้แล้วสินะได ไนเผลอขยับรอยยิ้มโดยไม่รู้ตัวเลยว่ามิคาเอลแอบมองอยู่ ยัยนี่มีตราพันธอสูร แถมเรียกยมโลกคนปัจจุบันมาได้ด้วย ชักไม่ธรรมดาแล้วสิ ยัยเด็กนี่เป็นใครกันแน่

    “นี่เป็นอาวุธประจำตัว นินลูกเอาดาบซากุระ ไป ไนลูกเอาดาบเฮียวรินมารุ* ไปนะ” ผู้เป็นพ่อเอ่ยพลางร่ายเวทย์เป็นเชิงปิดพิธี

    ************************
    * เฮียวรินมารุ=มังกรน้ำแข็ง

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×