คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : 5 ชั่วโมงก่อนคืนชำระล้างบาป
The Purge EXO
"One Night a Year , Nothing Is IIIegal"
ไม่รู้ว่าดั้งมันหักไปแล้วหรือยัง
ปาร์คชานยอล ยืนกุมเลือดกำเดาที่ไหลทะลักออกมาอย่างน่าอดสูเพราะความบ้าล้วนๆ...ใบหน้าใสๆบวมไปซีกหนึ่งเพราะโดนไอ้คนที่มันพุ่งเข้าไปกอดแบบไม่กลัวตายนั่นซัดเข้าให้แบบเต็มๆ...ดูๆไปก็น่าสงสารปนเวทนา แม้จะหอบสังขารเละๆกลับมาถึงห้อง5/8ได้โดยสวัสดีภาพ แต่ก็ยังหนีไม่พ้นเสียงหัวเราะของเพื่อนๆในห้องที่ช่วยกันตอกย้ำความโง่เง่าได้เป็นอย่างดี
“แกนี่ก็นะ ไปกวนตีนใครไม่กวน เสือกไปเอาไอ้จงอินเด็กเปรตประจำโรงเรียน!”
“เด็กป่งเด็กเปรตอะไร อย่ามาว่าสุดที่รักของฉันนะ!”
“ดูๆ ดูมัน ฮ่าๆๆ แม่งไม่เข็ดว่ะ!”
ทุกคนในห้องระเบิดเสียงหัวเราะตามแบคฮยอน คยองซูส่ายหัวอย่างอนาถใจก่อนจะพลิกหนังสือแคลคูลัสออกมาเปิดทำโจทย์ต่อ เลิกสนเรื่องราวปัญญาอ่อนของมนุษย์ร่วมห้องกับเสียงร้องโอดครวญที่ตามมา เขายังมีเรื่องเครียดต้องให้คิดอีกมาก ถ้าคะแนนควิซครั้งหน้ายังติดอยู่ที่เลขหลักแปดอีกล่ะก็...นักเรียนทุนที่ไม่มีเครื่องรับประกันความเป็นอยู่อย่างคยองซูคงได้โดนเด้งออกจากชินฮวาอย่างที่ครูที่ปรึกษาขู่เอาไว้แน่ๆ มันไม่ใช่เรื่องง่ายเลยกว่าจะมาเข้าเรียนที่นี่ได้ในฐานะเด็กทุนแค่หนึ่งเดียวของโรงเรียน...ถ้าเขาต้องกลับไปใช้ชีวิตในบ้านเด็กกำพร้าอีกล่ะก็...
“เฮ้ยยย มาเล่นบิงโกกันเหอะพวกเรา!”
“แบคฮยอนน นายไปเอามาจากไหนฟะนี่!”
“จิ๊กมาจากห้องสภานักเรียนอ่ะดิ เมื่อเช้าพวกตรวจวินัยไปยึดมาได้ มาๆๆ ใครจะเล่นบ้างๆ”
คนในห้องยกมือกันพรึบ
ปัญญาอ่อนจริงๆ กับอีแค่ของเล่นงี่เง่า
ใช่...ของเล่นงี่เง่าที่ถ้าแค่แบคฮยอนเป็นคนเริ่มเกมส์ ใครๆก็อยากจะเล่นด้วย
ยิ่งเห็นรอยยิ้มกับเสียงหัวเราะของหมอนั่น คยองซูก็ยิ่งนึกสมเพชตัวเอง อิจฉาจริง...ไอ้พวกคนที่ไม่มีเรื่องอะไรให้ต้องรับผิดชอบ ครอบครัวก็มีพร้อม เพื่อนฝูงก็เยอะแยะ ได้แต่คิดว่าพระเจ้าคงเล่นตลกให้เขาต้องมาพบเจอกับคนแบบนี้ ความแตกต่างที่มีให้เห็นทุกวัน...ทุกวัน...
“แบคฮยอน! พี่ซูโฮมาหานายน่ะ!”
“หา?”
แทบทุกคนชะงักกึกกับชื่อที่ได้ยิน แม้แต่คยองซูยังต้องหยุดความคิดไว้แค่นั้นแล้วหันไปตามเสียง ซูโฮงั้นเหรอ...
สีหน้ายิ้มแย้มของเจ้าของชื่อ คือสิ่งแรกที่เห็นบนใบหน้าของผู้ชายคนนั้น เขาคือรุ่นพี่ชั้นม.6ที่มายืนโบกไม้โบกมือให้กับแบคฮยอนอยู่หน้าห้อง พร้อมๆกับคนตัวสูงอีกคนที่ยืนอยู่ข้างๆแล้วส่งยิ้มมาให้เช่นกัน
ซูโฮ คือประธานนักเรียนของชินฮวา ที่จำได้แม่นคือเขาเป็นเจ้าของสถิติเกรด4ตลอดกาลของโรงเรียน...และที่เห็นข้างหลังนั่นก็คืออู๋อี้ฟาน รองประธานนักเรียน พวกเขามาทำไมกันนะ คงไม่ใช่จะมายึดบิงโกปัญญาอ่อนที่แบคฮยอนมันไปจิ๊กมาหรอกใช่ไหม
“พี่ซูโฮ!? เฮียอี้ฟาน? ลมอะไรหอบมาถึงนี่อ่ะพี่”
“แบคฮยอนน ฉันบอกให้แกเปิดโทรศัพท์ทำไมไม่เปิดวะ!”
เจอประธานนักเรียนด่าเข้าให้ แบคฮยอนเงิบไปนิดนึงก่อนจะล้วงเอาสมาร์ทโฟนของตัวเองขึ้นมาดูแล้วชะงักไป สงสัยจะแบตหมดแบบไม่รู้ตัว ซูโฮส่ายหัวอย่างเซ็งๆ
“วันนี้แกเข้าไปสภานักเรียนหน่อยนะ พวกฉันมีเรื่องสำคัญจะประกาศ”
“หา? เรื่องไรอีกอ่ะพี่?”
“เออน่า เดี๋ยวก็รู้ รับรองว่าช็อค!” พูดจบประธานนักเรียนก็หัวเราะ เล่นเอาแบคฮยอนรวมทั้งคนที่ได้ยินพากันหูผึ่งกันเป็นแถว ในหัวของทุกคนแทบจะมีคำถามเดียวกันหมด ว่าไอ้เรื่องช็อคที่ว่านั่นพี่แกหมายถึงอะไร
เดี๋ยวนะ...คงไม่ใช่ว่า...
คยองซูคิดคำตอบได้อย่างหนึ่ง ก่อนจะหันไปขมวดคิ้วมองแบคฮยอน
“อย่าลืมล่ะ ถ้าฉันไม่เห็นหัวแกล่ะก็มีเชือดดด บ๊าย”
ซูโฮยักคิ้วให้รุ่นน้องหนึ่งทีอย่างกวนๆแล้วโบกมือลา ประธานกับรองประธานมาเร็วเครมเร็วเหลือเชื่อ ทิ้งไว้แต่แบคฮยอนที่ทำหน้างงๆ อย่างที่ร้อยวันพันปีเรื่องจะใหญ่โตแค่ไหนก็ไม่เคยเห็นจะมาหาน้องหานุ่งถึงห้อง ทำไมวันนี้ถึงได้หอบกันมาได้ทั้งสองคน แถมมาแบบถึงที่ซะด้วย...
คิดได้เท่านั้นเอง อยู่ดีๆก็มีเพื่อนคนนึงตบเข่าฉาดใหญ่
“ชัวร์เลยแบคฮยอน เรื่องประธานนักเรียนคนใหม่ของเทรมหน้าแน่ๆ”
“ห๊ะ!?”แบคฮยอนสะดุ้งกับสิ่งที่ได้ยิน “เฮ้ย อย่าพูดมั่วน่า”
“มั่วอะไรเล่า เดี๋ยวเดือนหน้าก็ได้เลือกประธานคนใหม่แล้ว พี่ซูโฮเขาจะเลือกนายให้เป็นต่อแน่ๆ ก็นายทำงานอยู่สภามาตั้งแต่ม.4เลยไม่ใช่เหรอ?”
พูดจบก็มีอีกหลายเสียงที่สนับสนุน เพื่อนในห้องเริ่มพูดกันอื้ออึงถึงเรื่องที่จะมีคนห้อง8ได้เป็นว่าที่ประธานนักเรียนเทรมหน้า แบคฮยอนที่ยังงงๆอยู่แม้ปากจะค้านแต่ก็อดยิ้มๆแกมเอ๋อๆให้ตัวเองไม่ได้...
“บ้าเรอะพวกแก อย่าเพิ่งมโนเด้!”
“ว๊ายย ฉันว่าแน่ๆเลยอ่ะ ดีใจด้วยนะจ๊ะแบคคค”
“แบคฮยอน!! งบชมรมบาสปีหน้าฉันขอเยอะกว่าเดิมสองเท่านะเว้ยย”
“เฮ้ยยย นี่พวกเราจะมีเพื่อนเป็นว่าที่ประธานนักเรียนเลยเหรอ!?”
น้ำเสียงตื่นเต้นของคนในห้องดังจนหยุดกันแทบไม่อยู่ นี่ขนาดยังอยู่แค่ในมโนนะยังไปกันได้ไกลกันขนาดนี้ แบคฮยอนหลุดยิ้มหน้าบานอย่างห้ามไม่ได้แม้จะมีค้านๆพอเป็นพิธีบ้าง ตอนนี้ถ้าพากันจับโยนหมอนี่ขึ้นได้ก็คงทำกันไปแล้ว...
น่ารำคาญชะมัด
คยองซูปิดหนังสือลง เสียงดังโวยวายขนาดนี้คงไม่มีสมาธิจะให้อ่านอะไรแล้ว
เด็กหนุ่มร่างเล็กเก็บหนังสือลงอย่างหงุดหงิดขัดกับบรรยากาศของทั้งห้องอย่างสิ้นเชิง ก่อนจะเดินไปที่ล็อคเกอร์หลังห้องเพื่อหยิบชุดพละขึ้นมาเปลี่ยนเตรียมไว้สำหรับคาบต่อไป มีสบถเล็กน้อยกับเสียงเฮของเจ้าพวกนั้น...แม่มันถูกลอตเตอรี่รึไงวะ
แต่แล้วในตอนนั้นเองที่คยองซูต้องชะงักกับกระดาษแผ่นเล็กๆที่เสียบอยู่หน้าล็อคเกอร์ของเขา...ไม่สิ อันที่จริงทุกล็อคเกอร์ในห้องตอนนี้ก็มีกระดาษนี่เสียบเอาไว้เหมือนกันหมด
มันเป็นกระดาษที่เอาไว้เขียนชื่อคนที่ต้องการโหวตให้เป็น‘ผู้ถูกพิพากษา’หรือก็คือคนที่โดนรังเกียจที่สุดในโรงเรียนนั่นเอง....คยองซูหยิบมันขึ้นมาอย่างนึกหงุดหงิดทั้งๆที่อารมณ์ตอนนี้ก็ใช่ว่าจะดีอยู่แล้ว เตรียมจะขยำทิ้งเพราะไม่คิดจะเขียนชื่อใครตามเกมส์บ้าๆประสาทๆนี้ตั้งแต่แรก...
‘เฮ้ยๆ...พวกเรา มันจะเปิดแล้ว’
เสียงหนึ่งดังขึ้นเบาๆคล้ายเสียงกระซิบ ก่อนจะตามมาด้วยเสียงหัวเราะคิกๆ คยองซูขมวดคิ้วก่อนจะหันขวับไปเพื่อดูว่าใครมันพูดอะไร แต่กลับกลายเป็นไม่ได้มีใครมองมาทางเขา บางคนก็ทำท่าเป็นไม่รู้ไม่ชี้...
...เดี๋ยวนะ
อยู่ดีๆในตอนนั้นเองที่เขาต้องชะงักอีกรอบกับกลิ่นแปลกๆ...กลิ่นแปลกๆที่โชยออกมาจากล็อคเกอร์ของตัวเอง...แทบไม่ต้องคิดว่ามันเป็นกลิ่นอะไร คยองซูจัดการกระชากล็อคเกอร์ออกมาทันที!
‘สมน้ำหน้า โดนไล่ออกไปซะเถอะแก!’
‘ไอ้สวะเอ้ย โง่แล้วยังอวดเก่ง!’
กระดาษที่เขียนคำด่าทอสาปแช่งถูกแปะอยู่ในล็อคเกอร์พร้อมกับนมบูดที่สาดเต็มกระจายเหม็นเน่าไปหมด ทั้งหนังสือ รองเท้า ชุดพละของเขาเละเทะ คยองซูตัวแข็งทื่อกับสิ่งที่เห็นตรงหน้า...หน้าชาไปหมดแม้จะเคยคิดว่าตัวเองน่าจะชินและก็รับได้แล้ว กับเรื่องโง่ๆที่คนสติปัญญาต่ำๆมักจะทำกัน
...แต่ตอนนี้เขากลับช็อคกว่าที่คิด
เสียงหัวเราะคิกๆของพวกที่เห็นเขาเปิดล็อคเกอร์แล้วเจออะไรดังเข้ามาในหูแม้ไม่ได้หันไปมอง...
มันผสานกับเสียงคนในห้องที่ช่วยตอกย้ำความบัดซบของชีวิตตัวเอง
“แบคฮยอนจ๊ะ เธอนี่เป็นคนที่สุดยอดจริงๆ!”
“มีนายเป็นเพื่อนนี่เหมือนถูกหวยเลยอ่ะท่านว่าที่ประธานนน”
“เลี้ยงเลยนะเฟ้ยยย แบคฮยอนน”
........
ฮะ ฮะ ฮะ
คยองซูหัวเราะในใจ...น่าแปลกที่เสียงยกยอไอ้คนเดิมนั่นมันกลับยิ่งทำเขาหน้าชาขึ้นไปอีก
เด็กหนุ่มหยิบกระดาษแผ่นเล็กๆที่ถูกกำจนยับยู่ยี่และเกือบจะฉีกทิ้งนั้นขึ้นมา... ก่อนจะเหลือบมองไปยังชายที่ยืนอยู่ท่ามกลางผู้คนตรงกลางห้อง หมอนั่นกำลังหัวเราะออกมาอย่างมีความสุข กำลังโดนกอดคอโดยใครซักคน และกำลังโดนยีหัวโดยคนอีกคน...
และเป็นอีกครั้งที่แบคฮยอนหันมาสบตากับคยองซูเข้าพอดี หมอนั่นชะงักนิดหนึ่ง ก่อนจะฉีกยิ้มกว้างส่งมาให้เขา
คยองซูยิ้มให้กลับ
...
แล้วหันกลับมามองกระดาษแผ่นเล็กๆในมือของตัวเอง
บยอนแบคฮยอน...
ไหนๆก็คงจะไม่มีใครเขียนชื่อนายลงไปในกระดาษแผ่นนี้อยู่แล้ว
...ลองมีกับเขาบ้างซักชื่อก็คงจะไม่เป็นอะไรหรอกเนอะ...
“โอะ...อะไรของนายเนี่ย ทำไมไม่ใส่ชุดพละมา?”
เสียงหนึ่งทักขึ้นเล่นเอาคยองซูที่กำลังยกถังน้ำอยู่ข้างสนามฟุตบอลชักมีน้ำโห นี่ก็มาเป็นเบ๊ชดใช้ให้แล้วไง จะเอาอะไรอีก
“โทษที วันนี้ฉันลืมเอาชุดพละมา ขอไม่ซ้อมนะ”
“ว้าเหวย! คยองซู นี่แกแกล้งไม่เอามาป่ะเนี่ย คนยิ่งมีไม่พออยู่ เดี๋ยวไอ้ลู่มันก็ได้แปลงร่างอีก”
‘คิมมินซอก’ เดินเข้ามาช่วยเขาถือถังน้ำอีกข้าง ก่อนจะเริ่มบ่นต่อถึงเรื่องสมาชิกในชมรมที่มีไม่เคยพอและประธานชมรมใจอมหิตไม่เข้ากับหน้าตานั่น...พวกเขาสองคนคือสมาชิกของชมรมฟุตบอลชินฮวา ใช่แล้ว ชมรมฟุตบอลนั่นแหละ...ไม่ค่อยเข้ากับคาแรคเตอร์เด็กเรียนอย่างเขาเท่าไหร่แต่มันก็ไม่ใช่เหตุผลที่ดีพอ ที่จะไม่ให้มินซอกดึงเขามาเข้าชมรมให้ได้
คิมมินซอกเป็นลูกพี่ลูกน้องของคยองซู แก่กว่าเขาปีหนึ่ง เป็นมนุษย์ไม่กี่คนที่ดีกับเขามาตั้งแต่เด็กจนโตป่านนี้ เรื่องแย่เรื่องเดียวที่มันทำกับเขาก็คือการดึงมาอยู่ไอ้ชมรมฟุตบอลสัปรังเคมีสมาชิกไม่ถึง10คนนี่แหละ มันไม่พอจะตั้งทีมฟุตบอลซักทีมได้เลยด้วยซ้ำ ไม่เข้าใจว่ายังอยู่รอดมาจนป่านนี้ได้ยังไง
“ปกติหน้าที่ฉันก็ขนน้ำกับเก็บลูกบอลอยู่แล้ว”
คยองซูว่าหน้าตาย มินซอกชักสีหน้า
“เออๆ พูดไปเหอะ ใกล้แข่งแล้วยังไงนายก็ต้องลงตัวจริง ไอ้ชานยอลก็ไม่รู้รอบนี้มันจะมาช่วยให้รึเปล่า ขลุกแม่งอยู่แต่กับเบสบอล”
หูย...ใครเขาอยากจะมาอยู่ฟะไอ้ชมรมเถื่อนที่โรงเรียนแทบไม่เจียดงบมาให้แม้แต่ค่าน้ำ!
“ไม่ร้อก...ชานยอลลี่อ่ะคนดีจะตาย ขอให้ช่วยก็มาช่วยทุกรอบ ยังไงรอบนี้ก็ต้องมาแหละ”เสียงหนึ่งดังขึ้นทำให้เขาสองคนต้องหันไปมอง...
พี่อี้ชิง กับพี่จงแด...ทั้งสองคนอยู่ในชุดวอร์มโรงเรียนถือลูกฟุตบอลกันคนละลูกแบบพร้อมลงสนามเต็มที่ เป็นรุ่นพี่อีกสองคนในชมรม คยองซูโค้งให้สองคนนั้นนิดหน่อยตามมารยาท ได้ยินเสียงมินซอกบ่นๆว่าเขาก็เป็นพี่ไหงไม่มีค้งไม่มีโค้งให้กันเลย เหอะ...
“ชานยอลมันเนื้อหอมนี่หว่า ชมรมไหนก็อยากได้ตัว”มินซอกบ่นๆถึงลูกทีมสำรองที่อยู่ห้องเดียวกับคยองซู พาลคิดไปถึงหน้าเอ๋อๆของหมอนั่น เห็นอย่างนั้นคยองซูยังไม่รู้เลยว่าตกลงมันอยู่ชมรมไหนกันแน่ ตั้งแต่บาสเกตบอลยันเทควันโดเลยอยู่แม่มทุกที่ตามประสาคนเก่งกีฬาทุกประเภท
“ไม่ต้องห่วง ยังไงแข่งรอบหน้าก็ต้องมาอยู่ชมรมเรา รับประกันนน”พี่จงแดพูดมาด้วยน้ำเสียงมั่นใจเต็มร้อย อยากรู้จริงๆว่าอิชมรมนี้มันมีอะไรดีขนาดให้ชานยอลมันเจียดเวลามาเตะให้
“อะไรทำให้คุณคิมจงแดมั่นใจขนาดนั้นคร้าบ~”มินซอกว่า คยองซูเห็นด้วย
“ก็ไอ้ประธานชมรมเราไง!”
“หา?”
“ไม่รู้ไอ้ลู่มันไปอ่อยเซฮุนสุดที่รักของมันยังไง ถึงได้ลากแก๊งเด็กนรกนั่นมาเข้าชมรมรวดเดียวเลยตั้งสามคน เตรียมตัวรับน้องได้เลยพวกเรา”
“จริง!?”
“เออ แล้วแกคิดดู แก๊งเซฮุนมันมีไอ้จงอินอยู่ด้วย ไอ้จงอินมันมาอยู่กะเรา~ แล้วไอ้ชานยอลมันจะไปไหนรอด!~”
มินซอกกับคยองซูเบิกตากว้าง ถูกอย่างที่จงแดพูดทุกประการ อาการติ่งคิมจงอินเข้าไส้ของปาร์คชานยอลเขาได้เห็นของจริงแล้วเมื่อเที่ยงวันนี้
“เวร! โคตรล้ำอ่ะ”
“มันเป็นแผนเว้ยยย เก็ทยังเด็กๆ ปาร์คชานยอลรอบนี้แม่งหมูในอวยชัดๆ ไม่ต้องไปเสียเวลาตบตีกับชมรมอื่นหรอก ลองเสี้ยมให้ไอ้เด็กจงอินนั่นมันอ่อยหน่อยซักคำสองคำ ขี้คร้านจะมาขอสมัครเข้าชมรมเราแบบถาวรรร”
“เชี่ยยยย โหดดด !”
“มินนี่ แกไปบอกไอ้ลู่เหอะ บทจะเจ้าแผนการนี่ก็แม่งอย่างกะตัวร้ายซีรีย์เลย”
“เฮ้ย อย่าไปพูดถึงมันดิ เดี๋ยว...”
และในตอนนั้นเองที่อยู่ๆก็มีลูกฟุตบอลลอยละลิ่วอัดเข้ามาเต็มๆกลางวงสนทนาข้างสนามของพวกเขา!
“เฮ้ยยย!!!”
ตุบ!!!
คยองซูตกใจจนสะดุดขาตัวเองล้มเลยทีเดียว ถูกอย่างที่มินซอกพูด...พูดถึงผี ผีก็มา!
“เฮ้ยยย พวกมึงอ่ะ ยังจะเม้าท์กันอีกนานไหมวะ ตกลงจะซ้อมไหม สันขวานนน”เสียงหนึ่งดังขึ้น มันดังมาจากกลางสนามฟุตบอล ประธานชมรมยืนจังก้าหัวชมพูอยู่กลางสนามพร้อมกับหน้าหวานๆที่เริ่มแหกปากเรียกพวกเขาออกมาอีกรอบ คำพูดคำจาโคตรแมน ทั้งที่หน้าตานี่ออกจะแต๋วจนเป็นที่โจษจันไปทั้งโรงเรียน
‘ลู่หาน’
ประธานชมรมหัวรุนแรงของพวกเขานั่นเอง
พวกเขามีกัน5คน...สมาชิกหลักของชมรมฟุตบอลอยู่พร้อมกันแล้ว
------------------------------------
ตอนที่2แล้วจ้าาา //แต่งต่อแม้ไม่มีคนอ่าน กระซิกๆ
ยังไม่ฆ่ากันซักที บทนำยาวกว่าที่คิด ที่วางไว้น่าจะล่อไป3ตอน 55555
ถ้าชอบก็เม้นบอกกันหน่อยนะคะU_U คนแต่งจะได้มีกำลังใจ
ความคิดเห็น