คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : บทที่4 โนอาร์ ลันตา
บทที่ 4 โนอาร์
ตอนนี้ฉันกำลังวิ่ง แฮกๆ วิ่งทำไมน่ะหรา เมื่อเช้าพี่ลาเต้โทมา(เบอร์ห้องอ่ะน่ะ)บอกว่าช่วงเช้าจะมีลูกค้าเหมาร้านจัดเลี้ยงนักเรียนทุนอะไรสักอย่างแล้วตอนนี้ฉันกำลังจะไปสาย เห้อ หวังว่าคุณลูกค้าจะยังไม่มาหรอกน่ะ ไม่วั้นมีหวังเค้าคงด่าฉันยับแน่
กริ๊งงงง
“มาแล้วค่า ” ฉันตะโกนสุดเสียง อะ อ้าว ไม่เห็นมีไครเลยนิ่ ว่างเปล่า ฉันยกนาฬิกาข้อมือดูเวลา นี่มันก็ เก้าโมงกว่าเลยเวลานัดมาตั้งครึ่งชั่วโมง ทำไมไม่มีใครเลยล่ะ
“พนักงานที่ดีไม่สมควรจะมาสายน่ะ” เสียงหวานคุ้นหูดังขึ้นข้างหลังฉัน พอฉันหันไปมองหัวใจฉันกระตุกวูบ และปวดหนึบราวกับคนกำลังบีบมัน กลับมาแล้วสิ่น่ะ
“ยัยลัน !!” ฉันแสร้งตีหน้าซื่อวิ่งโร่เข้าไปกอดเพื่อนรัก ก่อนที่ทุกคนกำลังจะงงว่ายัยสาวน้อยน่ารักนี้คือใคร ฉันจะอธิบายให้ฟังคร่าวๆ ยัยลันตา เพื่อนสนิทของฉัน เรารู้จักกันตั้งแต่วัยเด็กเรียนด้วยกันมาตลอดแต่ยัยลันต้องบินไปเรียนรู้กิจการงานที่บ้านของเธอที่ประเทศฝรั่งเศสเป็นเวลา 1 ปีเต็ม
“ฉันคิดถึงเธอมากเลยน่ะ เป็นไงบ้างเนี่ย” ยัยลันกอดฉันแน่น ฉันได้แต่แสร้งตีหน้ายุ่ยทำไมต้องแสร้งงั้นหรา
“กอดกันจนลืมฉันแล้วมั้งเนี่ย” เสียงทุ่มดังขัดความคิดฉัน เค้าสิ่น่ะ เหตุผลที่ฉันต้องแสร้งมีความสุขต่อหน้าเพื่อนรัก ก็เพราะเค้าสิน่ะ
“แหม นายก็มัวแต่ไปยืนชมสวนทำไมล่ะ บ่นหนักบ่นหนาเนี่ยว่าคิดถึงยัยฮันน่ารีบมาหาสิ่แต่ห้ามกอดน่ะ ฉันหึง” ฉันสะดุดกึกกับคำพูดของยัยลัน ผู้ชายตัวสูง ขาว นัยน์ตาสีน้ำตาลกาแฟมองมาที่แล้วยิ้มให้อย่างเป็นมิตร เค้าคือโนอาร์เพื่อนสนิทของฉันอีกคน ฉันชอบเค้ามาตั้งแต่ม.ต้น พอฉันเอ่ยปากบอกความจริงกับเค้า เค้าก็ห่างเหินไม่พูดกลับฉัน พอไม่กี่อาทิตย์ยัยลันก็มาบอกกับฉันว่าเค้าสองคนคบกัน ฉันเลยได้แต่เงียบ และเพราะยัยลันทำให้เค้ากับมาคุยกับฉันในฐานะเพื่อนสนิท แค่เพื่อนสิ่น่ะ พอยัยลันไปต่างประเทศเค้าก็ตามไปด้วย แล้วเค้าจะกลับมากันทำไมน่ะ แผลที่ใจของฉันกำลังจะสมานแล้วเชียว ทำไมกัน
"เฮ้ย ฮันน่า แกร้องให้ทำไมว่ะ" ยัยลันเขย่าตัวฉัน เล่นเอาฉันตื่นจากภวังค์ บ้าจริง นี้ฉันร้องให้หราเนี่ย ฉันรีบปัดน้ำตาอย่างลวกๆ
ฉันเดินเอาของว่างไปให้พวกเค้าแล้วก็นั่งคุยสัพเพเหระ ฉันพยายามอย่างมากที่จะยิ้ม หัวเราะให้เป็นปกติที่สุด ฉันจทำให้พวกเค้ารู้ไม่ได้ว่าฉันยังมีความรู้สึกเก่าๆอยู่ ฉันต้องทำได้
ครืด ครืด
ฉันหยิบไอโฟนที่กำลังสั่นอยู่ในกระเป๋าขึ้นมาดู โนอาร์และยัยลันมองหน้าฉันอย่างตกใจคงไม่คิดว่ายัยขี้งกอย่างฉันจะยอมเอาตังเป็นหมื่นเพื่อแลกกับของไร้สาระแบบนี้หรอ ฉันยิ้มแห้งๆแล้วกดรับสายคงไม่ต้องบอกหรอกมั้งว่าใครโทรมา จะมีใครสะอีกหมอนั่นมีเบอร์ฉันอยู่คนเดียวนี้ (ฮาโล่ฮ่าาา ~) เสียงลั้ลล้าของนายเลสเน่ทำเอาฉันขนลุกซู่ "มีไรย่ะ" (โห่ว บี้พูดไม่เพราะเยยย) "อย่าเล่นลิ้น ถ้าไม่พูดดีๆฉันจะวาง" ฉันตอบกลับอย่างหงุดหงิด (เออๆ ยอมก็ได้ว่ะ อยู่ไหนเดี่ยวฉันจะไปรับ) หมอนั่นรีบเปลี่ยนน้ำเสียงทันที "รับไปไหน" (วันนี้เธอต้องไปเล่นละครตบตาพวกเพื่อนฉัน นี่คือภารกิจแรกของเธอ) ตอนแรกฉันกะจะปฎิเสธแต่พอหันไปเห็นโนอาร์และยัยลันกำลังป้อนเค้กให้กันอยู่ฉันเลยไม่รอที่จะตอบตกลง "ฉันอยู่ที่ร้าน ภายในสิบนาทีถ้าไม่ถึงฉันไม่ไป แค่นี้น่ะ" ฉันวางสายแทบจะทันที ก่อนจะหันไปแสร้งพูดด้วยน้ำเสียงเสียดาย ฉันอาจจะดูเป็นเพื่อนที่แย่ แต่ขอเวลาฉันหน่อยไม่ได้หรือไง ให้ฉันได้ทำใจบ้างเถอะ "ว๊าาา เสียดายจัง ฉันกะจะนั่งคุยกับพวกแกทั้งวันแต่ดันมีธุระส่ะได้" ฉันทำหน้าละห้อยใส่พวกเค้า "มีนัดกับหนุ่มที่ไหนย่ะ เดี่ยวนี้หัดมีความลับน่ะแกอ่ะ แล้วโทรศัพท์นี้" ยัยลันยิงคำถาม "แฮะๆ เรื่องมันยาวน่ะเอาเป็นว่าฉันได้มันมาฟรีๆอ่ะ ไว้ค่อยเล่าให้ฟังน่ะแก วันนี้พวกแกไม่ต้องจ่ายค่าเหมาร้านหรอกน่ะ เอาเป็นว่าฉันเลี้ยงที่เพื่อนรักของฉันกลับมา แล้ววันหลังเราค่อยไปเที่ยวกัน เคป่ะ" ฉันพูดรัวเลย โนอาร์พยักหน้าเป็นเชิงรับรู้พร้อมกับแบมือมาตรงหน้า ฉันมองเค้าเป็นเชิงคำถาม "งั้นเอาเบอร์แกมา เดี่ยวฉันจะเซฟไว้มีไรจะได้โทร" โนอาร์บอก ยัยลันตาก็พยักหน้าเห็นด้วยฉันส่งโทรศัพท์ให้เค้า โนอาร์กดโทรออกเค้าเบอร์เค้า แล้วส่บโทรศัพท์คืนมาให้ฉัน "งั้นพวกเรากับก่อนดีกว่า ไว้ยังไงแกค่อยโทรมาน่ะ" ยัยลันพูดพร้อมลุกขึ้นยืน "อะเค เดี่ยวฉันเดินไปส่ง" ฉันกับยัยลันเดินกอดกันมาตลอดทาง ยัยลันเป็นเพื่อนที่ดีมากฉันถึงได้รู้สึกผิดอยู่ตอนนี้น่ะสิ่ ถ้าฉันยังตัดเค้าออกไม่ได้ฉันจะมองหน้าเพื่อนฉันยังไง กึก อยู่ๆโนอาร์ที่เดินนำหน้าเราก็หยุดเดินทำให้ฉันที่เดินตามหลังชนหลังเค้าเต็มๆ ตึก ตึก เสียงหัวใจฉันดีง เค้ายังใช้น้ำหอมกลิ่นเดิมอยู่สิ่น่ะ เอ๊ะ ฉันรีบสะบัดหัวไล่ความคิดบ้าๆนั้นออกไป แล้วมองต้นเหตุที่ทำให้ โนอาร์หยุดเดิน รถมินิคูเปอร์สีแดงดำ จอดอยู่ตรงหน้าเราพร้อมกับเจ้าของรถ เลสเน่ยืนพิงประตูรถของเค้า วันนี้เค้าดูเท่ผิดปกติอาจจะเป็นเพราะผมของเค้าที่เซทมายังดี เค้าถอดแว่นออกแล้วยืนจ้องหน้ากับโนอาร์สายตาของเลสเน่ดูแข็งกระด้างไม่เหมือนปกติ โนอาร์ก็ด้วยเค้าดูเงียบราวกับคนกำลังโกรธ ยังไงเนี่ย ฉันเดินไปหยุดตรงกลางด้วยความงวยงง "นี่ จ้องส่ะขนาดนั้นเดี่ยวก้ท้องกันพอดี" ฉันเห็นเลสเน่สะดุ้งเล็กน้อยแล้วก้เปลี่ยนเป็นยิ้มพราย ราวกับไม่มีไรเกิดขึ้น ดวงตาเค้าเปลี่ยนเป็นเจ้าเล่ห์ตามเดิม "วันนี้เธอทำงานหรอ" เลสเน่ทำเฉไฉ "ก็ไม่เชิง อ้อ นี้ โนอาร์กับลันตา เพื่อนสนิทฉัน" ฉันแนะนำ เลสเน่โบกมือทักทายโนอาร์กับลันตา "สวัสดีฉันชื่อเลสเน่ เป็นแฟนของฮันน่า" คำตอบของเลสเน่ทำเอาลันตาตกใจค้าง "หึ" โนอาร์หัวเราะในลำคอ "ฉันกลับก่อนล่ะกันไว้เจอกันน่ะ ไปเถอะลัน" โนอาร์พูดแล้วจูงมือยัยลันเดินออกไป ยัยลันหันมาบ๊ายบ๊ายฉันแล้วเดินออกไปกับโนอาร์ เค้าสองคนเหมาะสมกันมากเลยเนาะ ยัยลันก็สวย น่ารัก หวาน แถมยังแอบเซ็กซี่นิดๆ โนอาร์ก็เป็นผู้ชายที่ดีและดูเหมือนเค้าจะรักยัยลันมาก ฉันต้องยินดีกับเพื่อนรักทั้งสองของฉันใช่มั้ย "จะยืนเหม่ออีกนานม่ะแม่คู้ณ" เลสเน่พูดขึ้น "เห้อะ รอแปปแล้วกันฉันปิดร้านแปป" ฉันหันหลังเดินๆปปิดร้านทันที เห้อออ สักวันฉันจะต้องลืมให้ได้
ก่อนที่ฉันจะพูดอะไร ขอบอกเลยว่าก่อนหน้านี้ฉันแทบจะกระอักเลือดตายเพราะไอ้บ้าเลสเน่ หมอนี้พาฉันไปทำผมแต่งหน้า แล้วก็เลือกเสื้อผ้าใหม่ ทำไมน่ะหรา 'สภาพเธอไม่ต่างจากศพเดินได้ เกิดเธอเดินข้างฉันคนอื่นจะมองว่าฉันมีวิญญาณร้ายตามสิงร่างอยู่ทำไง' นี่คือคำตอบของเค้าค่ะ แต่ก็จริงอย่างที่เค้าพูด เพราะฉันรีบมากเลยหยิบเสื้อยืดกางเกงขาสั้นธรรมดามาใส่แถมหัวยังฟูฟองเป็นรังของอีแร้งอีก แต่ตอนนี้ฉันไม่อยากจะโม้หรอกน่ะว่าฉันสวยมาก ฉันพูดจริงๆน่ะ เลสเน่ให้ช่างแต่งหน้าทำผมจนกลายเป็นสาวหวาน ผมของฉันจากที่ชี้ฟูไม่เป็นทรงตอนนี้กับโดนดัดเป็นลอนเล็กๆแก้มสีชมพูวิ้งๆรับกับปากที่ทาลิปกอสสีมันแวว เดสรสีชมพูหวานที่เค้าเลือกให้เอง บวกกับรองเท้าคัชชูสีขาว มันทำให้ฉันดูหวานราวกับคนละคนเพราะปกติฉันจะแต่งออกแนวเท่ๆพอมาแต่งแบบนี้มันทำให้ฉันดูเป็นสาวขึ้นเป็นกองเลย ตอนนี้เลสเน่พาฉันมาที่ภัตตาคารร้านระดับห้าดาวถึงว่าพาฉันแต่งตัวสะดูดี ก็ที่นี้น่ะมีแต่พวกมีชาติตระกูลทั้งนั้นเลย เลสเน่พาฉันเดินขึ้นลิฟไปชั้นบนสุด คาดว่าอะน่ะ ฉันเห็นเค้ากดชั้นที่ 40 พอลิฟเปิดเค้าก็พาฉันเดินตรงไปทางด้านซ้าย ฉันเห็นป้ายเขียนว่า โซนวีไอพี ชั้นนี้จะมีห้องเรียงรายประมาณสี่ ห้า ห้องดูมีคลาสและเป็นส่วนตัวที่สุด เลสเน่มาหยุดตรงที่หน้าห้องหมายเลข 3 ที่เขียนไว้ว่า เคนไชน์ พอเค้าเปิดเค้าไปฉันต้องอ้าปากค้างกลางอากาศ นะ นี่มันอะไรกันอ่ะ ห้องโล่งกว้างๆที่เป็นกระจกใสเห็นวิวรอบกรุงเทพ ภายในห้องถูกตกแต่งด้วยไฟสีเหมือนในผับ มีสายรุ้งที่เค้าใช้ในวันปีใหม่ แล้วมีลูกโป่งตัวอักษรภาษาอังกฤษเขียนว่า HBD Kenchai ' เลสเน่พาฉันเดินตรงไปที่ระเบียงดาดฟ้าที่เห็นวิวชัดขึ้น พอเดินออกมาข้างนอกก็มีสระว่ายน้ำแล้วก็มีพวกสาวสวยในชุดบิกีนี่กำลังเล่นน้ำอยู่ ตรงกลางมีเวทีแล้วก็มีดีเจเปิดเพลงอยู่ เลสเน่พาฉันเดินไปที่กลุ่มผูัชายที่หน้าตาดีมากๆกลุ่มหนึ่ง พอพวกเค้าเห็นก็ผิวปากแซวเลสเน่ใหญ่เลย "เฮ้ย ไอ้เสือ เปลี่ยนเด็กอีกแล้วหราว่ะ แกนี้มันจริงๆเล้ย" ผู้ชายผมสีฟางเอ้ยปากขึ้น เค้าดูเป็นพวกขี้เล่นสายตาท่าทางเจ้าชู้ใช่ย่อย ที่สำคัญเค้าหล่อมาก "ไม่เท่าแกหรอกว่ะ" เลสเน่ตอบแล้วนั่งลงตรงที่ว่าง ไม่พอเค้ายังดึงฉันนั่งลงไปด้วย "นี่ฮันน่า แฟนฉันเอง แล้วนี้ ใอ้ผู้ชายหัวสีฟางนั้นคือไอ้รอน นี้ไอ้พร๊อพ ไอนี้เคนไชน์เจ้าของงานวันเกิด" เลสเน่แนะนำให้ฉันรู้จัก ทุกคนต่างยิ้มอย่างเป็นมิตร ยกเว้นแต่พร๊อพที่ยิ้มให้ฉันนิดหย่อยตามมารยาท "เอ่อ ฉันฮันน่าน่ะ ยินดีที่ได้รู้จัก"ฉันแนะนำตัวรอบสอง เพราะความหล่อของพวกเค้าทำให้ฉันที่ดูกล้าๆประหม่าไปเลย ก็ดูสิ่ รอน เจ้าของหัวสีฟาง ดูดี ขี้เล่นออกแนวเจ้าชู้ พร๊อพ ชายหนุ่มตาสีฟ้าที่ดูเย็นยะเยือกราวกับน้ำแข็ง เค้าดูมีโลกส่วนตัวสูงไปน่ะ อีกคนคือเคนไชน์ ดวงตาสีเขียวอ่อนสุดแสนจะมีสเนห์ กับท่าทางขี้เล่นและพูดมากของเค้าทำให้เค้าดูเป็นคนสดใสตลอดเวลา เห้อ สวรรค์ใจร้ายกับฉันเกินไปล่ะ ><
ความคิดเห็น