คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #19 : ไฮเพอร์อาร์เทียม 3
เสียงจ้อกแจ้กจอแจดังระงมไปทั่วโรงเรียนมัธยมปลาย ร่างเล็กถอนหายใจหนักๆด้วยความตื่นเต้น จะอะไรซะอีกหล่ะ ก็วันนี้มันวันแข่งฟันดาบรอบชิงแล้วหน่ะสิ ถึงแจ็คสันจะเคยได้แชมป์รุ่นเยาวชนที่ฮ่องกงมาแล้วก็เถอะ แต่ก็อดตื่นเต้นไม่ได้เพราะเพื่อนใหม่ๆก็ฝีมือดีไม่แพ้กัน แม้ทุกที่เดินผ่านจะมีเสียงกรีดร้องและซุบซิบถึงความหล่อเหลาของคนตัวสั้นแต่เจ้ากลับไม่ได้สนใจมันเท่าไรนัก
ขาสั้นพาตัวเองมาถึงห้องแต่งตัว จัดการแต่งตัวเปลี่ยนชุดพร้อมแข่งเรียบร้อย มือเล็กถือดาบเซเบอร์คู่ใจที่พ่อของเขาเป็นคนซื้อให้เป็นของขวัญที่เขาชนะการแข่งขันเมื่อนานมาแล้ว ริมฝีปากอิ่มกดจูบลงที่ด้ามจับแผ่วเบา
“ป๊าเป็นกำลังใจให้ผมด้วยนะครับ” รอยยิ้มหวานปรากฏขึ้นบนใบหน้า น่าแปลกที่เพียงคำพูดและนึกถึงภาพพ่อที่อยู่ต่างแดนจะทำให้ร่างเล็กรู้สึกฮึกเหิมขึ้นได้มากขนาดนี้ สำหรับแจ็คสันครอบครัวคือสิ่งที่สำคัญที่สุด แจ็คสันยอมทำทุกอย่างถ้ามันสามารถทำให้ครอบครัวเขามีความสุขได้
“ฮยองงงงงงงงงงงงงงง” เสียงใสๆที่มาพร้อมกับร่างบอบบางของอีกคนเดินเข้ามาก่อนจะกระโดดขึ้นขี่หลังคนตัวเตี้ยด้วยความเคยชิน ดวงตากลมบ้องแบ๊ว แก้มพองๆน่ารักน่าหยิก ริมฝีปากหนาน่ารักทำให้คนๆนี้เป็นที่สะดุดตาของใครหลายคน แจ็คสันเองก็เอ็นดูเด็กคนนี้อยู่ไม่หยอก ถึงตอนเจอกันแรกๆจะเต๊าะน้องไปเยอะหน่อยก็เถอะ
“ว่าไงตัวแสบ แล้วนี่เข้ามาห้องแต่งตัวฮยองได้ไง” แจ็คสันเอี้ยวตัวไปคุยกับอีกคนที่กอดคอเขาแน่นพลางหอมแก้มเขาหลายๆทีซ้ำๆ ไม่อยากจะคิดว่าถถ้าไอ้เผด็จการมาร์คมาเห็นเหตุการณ์ตอนนี้แจ็คสันคนนี้จะต้องเจอกับอะไร คิดแล้วก็เศร้า
“ก็เดินเข้ามาสิถามได้ ยองแจก็มัวแต่คุยกับนิคๆอะไรไม่รู้ปล่อยน้องแบมอยู่คนเดียวตลอดเลย” เด็กช่างฟ้องยู่ริมฝีปากเข้าหากันด้วยท่าทางเง้างอน แจ็คสันบีบจมูกเล็กเล่นก่อนจะค่ออยๆวางอีกคนลง
“กวนนักนะเรา” แจ็คสันยีหัวอีกคนพลางยิ้มไปกับท่าทางขี้งอนของแบมแบมไปด้วยก่อนทั้งคู่จะจับมือแล้วเดินออกไปด้านนอกเพื่อเตรียมตัวแข่ง
“กวนอะไร กวนไม่ได้หรอกไม่มีหม้อกับน้ำตาล” แบมแบมตอบพลางหัวเราะคิกคัก แจ็คสันทำหน้าเบื่อหน่ายกับมุกแป้กๆของอีกคนก่อนจะหยิกแก้มป่องๆนั่นด้วยความหมั่นเขี้ยว
“นี่ ถึงจะเป็นแจ็คสันฮยอง น้องแบมก็ไม่อ่อนข้อให้หรอกนะ เตรียมตัวไว้เลย” แบมแบมทำท่าทางอวดเบ่งเล็กน้อยพร้อมชี้หน้าแจ็คสันที่ยืนขำกับท่าทางเหล่านั้น เด็กหนอเด็ก
“โอ้ย กลัวจังเลยๆอย่าทำอะไรฮยองเลยนะแบมแบมมมมมมม ฮ่าๆๆ ถึงจะเป็นแบมแบมฮยองก็ไม้อ่อนข้อให้เหมือนกันนั่นแหละ เดี๋ยวรู้ๆ” ทั้งสองหยอกล้อกันไปเรื่อย จนเวลาผ่านล่วงเลยไปใกล้ได้เวลาแข่งจึงแยกกันเพื่อเข้าห้องไปเตรียมตัว แต่จู่ๆแจ็คสันก็หยุดอยู่ที่หน้าประตูแล้วเดินเบี่ยงออกไปยังห้องเล็กๆมุมยิมแทน
“บ้าเอ้ย!!ข้าศึกจะมาบุกประชิดเข้าเมืองหน้าด่านอะไรเอาตอนนี้” แจ็คสันอึไปบ่นไปเบาๆให้ได้ยินแค่คนเดียว
ขาเรียวยาวเดินไปตามทางก่อนจะเปิดประตูเข้าไปในห้องที่มีป้ายติดชัดเจนว่าเป็นห้องพักนักกีฬา มือเล็กเปิดประตูเข้าไปก่อนจะตรงดิ่งไปยังล็อกเกอร์ที่มีชื่อติดหราอยู่
‘หวัง แจ็คสัน(สุดหล่อ)’
“หึ หล่อซะให้พอ เพราะต่อไปแกจะไม่มีโอกาสได้หล่ออีกแล้ว ดูซิถ้าแกไม่น่ารักแล้วพี่มาร์คจะสนใจแกเหมือนเดิมไหม” ริมฝีปากบางแสยะยิ้ม มือเล็กเปิดประตูล็อกเกอร์ก่อนจะหยิบหมวกที่ใช้ในการแข่งฟันดาบออกมาก่อนจะหยิบสเปรย์ที่ผสมกรดเข้มข้นออกมาแล้วฉีดไปจนทั่วโดยเน้นที่จุดที่ตรงใบหน้าพอดี(สเปรย์นี่ไม่รู้มีจริงรึเปล่า กรดโดนหมวกไม่เป็นอะไร? อย่าถามนะคะ ไรท์มโนล้วนๆนะคะคุณผู้โชมมมม ฮ่าๆ --- > ไรท์คนบ้า)ก่อนจะเก็บสิ่งของทุกอย่างเข้าที่เดิมแล้วเดินออกไปพร้อมรอยยิ้มเย็นยะเยือก
“อ้าซ์ สบายท้องจริงจริ๊ง” แจ็คสันลูบหน้าท้องตัวเองป้อยๆพลันสายตาเหลือบไปเห็นบุคคลที่นั่งหน้าตาขี้ริ้วขี้เหร่อยู่ในหมู่สาวๆล้อมหน้าล้อมหลัง
“หล่อตายห่า อยากจะอ้วก เบะปากเป็นรูปตีนพร้อมกลอกตาแบบอินฟีนิตี้แปป หมั่นไส้” แจ็คสันเบะปากพลางมองคนตัวสูงที่นั่งหน้านิ่งแต่ก็ยอมให้คนนั้นคนนี้ขอถ่ายรูปอยู่ได้ เห็นแล้วหงุดหงิด เดี๋ยว.. หงุดหงิด? หงุดหงิดทำไม
หึง?
อยู่ๆคำๆนี้ก็ปรากฏขึ้นมาในสมอง แจ็คสันขมวดคิ้วแน่นอย่างคนใช่ความคิดโดยทุกการกระทำอยู่ในสายตาคนหน้าหล่อที่แอบมองคนตัวสั้นตั้งแต่ออกมาจากห้องน้ำ
“โนๆๆๆๆๆๆ หึงบ้าบอคอแตกอะไรฟระ แค่หมั่นไส้ที่มาแย่งคะแนนความนิยมเฉยๆหรอกนะ ใช่ ต้องใช่แน่ๆ ไม่ได้หึงอะไรทั้งนั้นโว้ยยยยย” แจ็คสันบ่นพึมพำคนเดียวพร้อมส่ายหัวไปมาสะบัดไล่ความคิดวุ่นวายออกจากหัว
“ศีล สมาธิ ปัญญา อา.. แจ็คสันมีสมาธิๆ” หลังจากส่ายหัวเสร็จเจ้าตัวก็เปลี่ยนไปยืนหลังตรง หายใจเข้าลึกๆ มือเล็กลูบหัวตัวเองป้อยๆ
“ติ๊งต๊อง” มาร์คพูดออกมาเบาๆเมื่อเห็นท่าทางน่ารักนั่น หืม? น่ารัก? WHAT? ไม่จริงอ่ะ ไอ้เตี้ยเนี่ยนะน่ารัก โนๆๆๆๆๆๆ คนสติไม่ดีที่ไหนจะน่ารักได้วะมาร์ค ต้วน มึงนี่ก็เพี้ยน
“มาร์ค มึงเป็นตัวเงินตัวทองอะไรวะครับ เห็นเดี๋ยวยิ้ม เดี๋ยวขมวดคิ้วอยู่นั่น แล้วนี่กะจะมองไอ้สั้นจนมันทะลุเลยรึไง ตานี่ไม่กระพริบเลยนะมึง” เจบีหลังจากเห็นอาการแปลกๆของเพื่อนหน้าหล่อข้างๆก็อดแซวไม่ได้ แหมทีแต่ก่อนทำมาเป็นกัดกัน ทีเดี๋ยวนี้นะมองตาไม่กระพริบ
“มองอะไร กูก็มองไปเรื่อย” มาร์คพูดพลางกลอกตาไปมามองไปทางอื่น
“เออครับ ไม่ได้มองเลยครับ ระวังเถ๊อะปากแข็งเข้าไปถ้าไอ้หวังโดนใครคาบไปแดกกูจะสมน้ำหน้าให้” เจบีพูดก่อนจะหันไปกระหนุงกระหนิงกับจูเนียร์คนข้างกายต่อ
“ว่าแต่กู แล้วมึงกับจินยองนี่อยู่ในสถานะไหนกันแล้วครับ” มาร์คเลิกคิ้วถามคนขี้แซะ ที่ไม่แน่ใจว่าชาติก่อนเกิดเป็นพลั่วหรืออะไร แซะกูดีจริง
“เป็นของกันและกัน ใช่ไหมครับจูเนียร์” ไม่ว่าเปล่า เจบีก็ฟัดแก้มจูเนียร์ที่นั่งหน้าตายด้านราวกับไม่ได้มากับไอ้คนบ้าด้านข้างโดยไม่สนใจใคร
“เลิกเล่นได้แล้วเจบี คนเยอะไม่เห็นหรอ” จูเนียร์หันมาดุให้ไอ้คนข้างๆเลิกบ้าซักชั่วโมงสองชั่วโมง
“ไม่เห็น โลกนี้เห็นแค่เนียร์คนเดียว วี๊ดวิ๊ว เขินอ่ะดิ๊”
ป้าบ
“โอ้ยยยย เจ็บนะเนียร์ทำไมเขินแรงงี้อ่ะ” แซวเขาได้ไม่นานเป็นไงหล่ะมึง อยู่ดีไม่ว่าดีอยากแดกผักตบซะงั้น เจบีได้แต่ลูบแขนตัวเองป้อยๆแต่ก็ยังไม่วายเอาหน้าถูไถแขนจูเนียร์เล่นแบบอ้อนๆ บางทีมาร์คก็ไม่เข้าใจว่าตกลงสองคนนี้ใครรักใครรับกันแน่ ไอ้เจบีแม่งก็เหลือเกินทีอยู่ร้านทำเก๊กขรึมพออยู่กับจูเนียร์แปลงร่างเป็นหมาปัญญาอ่อนซะงั้น
“ถ้าพวกมึงโอเคกับที่เป็นอยู่มันก็ดี แต่ระวังเถ๊อะอยู่แบบไม่มีสานะไปเรื่อยๆวันนึงมึงสองคนอาจจะไม่ได้อยากอยู่ในสานะเดียวกันก็ได้นะเว้ย” มาร์คพูดขึ้นมาลอยๆ แต่เพียงประโยคเดียวทำเอาทั้งเจบีและจูเนียร์นั่งนิ่งขึ้นมากระทันหัน เจบีทำหน้าจริงจังก่อนจะหันไปมองหน้าจูเนียร์ที่มองกลับมาเช่นกัน
นั่นสินะ.. วันนึงจูเนียร์อาจจะไม่ได้อยากอยู่ในสถานะคนรักเหมือนที่เจบีต้องการก็เป็นได้ จูเนียร์มองคนคิดมากก็พอจะเข้าใจ ก็แหงหละ เขาเองก็กลัวเหมือนกันนี่ ใบหน้าหวานเลื่อนเข้าไปใกล้อีกคนมากขึ้นจนปลายจมูกแตะกัน
“ขอให้เชื่อใจกัน ขอให้บีเชื่อใจเนียร์ เนียร์ก็พร้อมจะเชื่อใจบี” หลังพูดประโยคหวานเลี่ยนที่นานๆทีจะออกมาจากร่างบาง ริมฝีปากสวยกดจูบที่ริมฝีปากหนาเบาๆ เพียงแค่นี้ก็เรียกรอยยิ้มจากอีกคนได้ไม่ยาก เจบีชอบที่จะอยู่กับจูเนียร์เพราะเขาไม่จำเป็นต้องเข้มแข็งตลอดเวลาๆ เราสองคนมีอะไรหลายๆอย่างที่คล้ายกัน จูเนียร์แค่แสดงออกน้อยก็เขาก็เท่านั้นเอง
“เฮ้อ พอเถ๊อะ มดจะกัดกูตายห่าละเนี่ย กูนี่ก็ไม่น่าชงให้พวกมึงเล้ยยย” มาร์คบ่นออกมาเบาๆ เจบีจึงหันมายิ้มพร้อมกับยักคิ้วอ้อนตีนไปหนึ่งเซต มาร์คจึงตั้งเท้าจะถีบเข้าที่สีข้างของเพื่อนช่างกวนหากว่า..
“เอ่อ ขอโทษนะคะอปป้า คือ. ขอถ่ายรูปหน่อยได้ไหมคะ” หญิงสาวหน้าตาน่ารักที่อยู่ในชุดนักเรียนสีแดงกระแทกใจ เห็นแล้วอยากจะภาษาไปเรียนเพศศึกษายืนก้มหน้างุดเขินอายอยู่ข้างๆ มาร์คกระตุกยิ้มมุมปากพร้อมพยักหน้าเล็กน้อยก่อนจะปั้นหน้าหล่อ
“แหม เมื่อกี้ยังจะถีบกูอยู่เลย สาวมานี่เปลี่ยนเป็นเทวดาเชียวนะมึง เนอะเนียร์เนอะ” เจบีหันไปแซะไอ้เทพบุตรรูปหล่อข้างๆ ยังไม่พอยังจะหาพวกเพิ่ม
“บี ไม่เสือก เนอะมาร์คเนอะ” อั่ก!! กระอักเลือดครับ เมียหักหลังแถมยังไปเป็นมิตรกับศัตรู
“ฮ่าๆ เสียใจด้วยหว่ะเพื่อน คนของมึงเขาเลือกกู” มาร์คขำอย่างสะใจเมื่อเห็นสีหน้าช็อกๆของเพื่อนรักไป
“วอล1เรียกวอล2 เตรียมรพยาบาลด่วน นักกีฬาบาดเจ็บ” มาร์คหุบยิ้มพร้อมมองตามเจ้าหน้าที่ของสนามที่วิ่งหน้าตื่นเข้าไปในห้องแต่งตัวนักกีฬา จะไม่อะไรเลยถ้านั่นไม่ใช่ห้องของโรงเรียนอาร์เทมีส มาร์คลุกขึ้นเต็มความสูงเมื่อเห็นเตียงผ้าใบแบกร่างที่แสนคุ้นเคยออกมา ใบหน้าหวานแดงก่ำถูกปกปิดด้วยมือเล็กที่กุมเอาไว้
“แจ็คสัน!!!” มาร์ครีบวิ่งเข้าไปประชิดที่เตียงผ้าใบด้วยความรวดเร็ว
“แจ็คสัน ได้ยินกูไหม แจ็คสัน!!!” มาร์คตะโกนเสียงดังจนคนรอบข้างที่ยังไม่รู้เรื่องต่างตกใจ ใบหน้าหล่อมองร่างเล็กดิ้นไปมาด้วยความทรมาน
“มะ. มาร์ค ร้อน กูร้อน แสบไปหมด” แจ็คสันยังคงเอามือปิดหน้าเอาไว้ อาการอย่างนี้ไม่ผิดแน่ถถึงจะเคยเห็นแค่ในละครก็เถอะ
“ไม่เป็นไรแจ็คสัน กูอยู่นี่ๆ” มาร์คกุมมือเล็กแน่นพร้อมกับเดินขนาบข้างไปพร้อมกับเตียงผ้าใบ ขณะอยู่บนรถพยาบาล มือหนากอบกุมมือเล็กแน่นนิ้วโป้งไล้ไปตามหลังมืออีกคนอย่างให้กำลังใจ ตอนนี้แจ็คสันนิ่งไปแล้วคาดว่าน่าจะทนความเจ็บปวดไม่ไหวจนสลบไป
เมื่อมาถึงโรงพยาบาลแจ็คสันถูกนำตัวเข้าห้องฉุกเฉินทันที มาร์คได้แต่เดินไปเดินมาด้วยความกระวนกระวายใจ อย่าเป็นอะไรเลยนะแจ็คสัน เวลาผ่านล่วงเลยไปนานจนมาร์คไม่รู้ว่าผ่านไปนานเท่าไร ระหว่างที่รอเจบี จูเนียร์ ยองแจ แบมแบมและยูคยอมก็ตามมาติดๆ แบมแบมกับยองแจนั่งกอดกันร้องไห้ไม่หยุด ยูคยอมก็เดินเข้ามากอดพี่ชายตัวเองแน่นจนกระทั่งสุภาพบุรุษชุดกราวเดินออกมา
“หมอครับ แจ็คสันเป็นไงบ้างครับ” มาร์คถถลาตัวเข้าไปหาหมอแทบจะทันที หมอมีสีหน้าหนักใจเล็กน้อยก่อนจะพูดประโยคต่อมาที่ทำเอาทุกคนช็อกไปตามๆกัน
“คนไข้โดนสเปรย์น้ำกรดครับ อาการตอนนี้ปลอดภัยแล้วแต่.. แผลบนใบหน้าคนไข้หมอไม่สามารถรักษาให้หายได้ครับ เสียใจด้วยนะครับ” มาร์คเมื่อตั้งสติได้ก็รีบวิ่งเข้าไปในห้อง ใบหน้าแจ็คสันตอนนี้มีผ้าพันแผลสีขาวพันอยู่รอบๆเต็มไปหมด
“แจ็คสัน” มาร์คเอื้อมมือไปจับฝ่ามือเล็กอย่างแผ่วเบา เขาควรจะทำยังไง หวัง แจ็คสันที่สดใสร่าเริง คนที่มั่นใจในความหล่อของใบหน้าของตัวเอง ถ้าแจ็คสันรู้.. เขาควรจะทำยังไงดี!! น้ำตาของลูกผู้ชายไหลออกมาจากดวงตาคมโดยที่เจ้าตัวไม่รู้ตัว เจบีเมื่อเห็นดังนั้นจึงพาทุกคนออกจากห้องไปเพราะรู้ว่ามาร์คไม่ชอบให้ใครเห็นน้ำตา แค่นี้เจบีก็มั่นใจมากแล้วว่าแจ็คสันสำคัญสำหรับมาร์คจริงๆ
“กากา ฮือ. มึง” มาร์คก้มหน้าลงแนบที่ฝ่ามือเย็นเฉียบ หยดน้ำตาไหลออกมาไม่มีท่าทีว่าจะหยุด
“เฮ้ มึงร้องไห้ทำไมเนี่ย แค่ก” เสียงแหบพร่าของอีกคนเรียกสติมาร์คไว้ มาร์ครีบหยิบแก้วน้ำที่หัวเตียงมาให้อีกคนดูด มือหนาลูบผมนิ่มเบาๆ
“กูเปล่าร้อง อย่ามั่ว” มาร์คพยายามปั้นหน้าปกติ ยิ่งเห็นดวงตากลมปรือกับริมฝีปากอิ่มที่คลี่ยิ้มออกมาบางๆ มาร์คก็ยิ่งอยากจะกอดคนๆนี้ให้แน่นๆ
“ก็เห็นๆกันอยู่ ยังจะกะ. เห้ย อะไรของมึงเนี่ย” ยังพูดไม่จบประโยคดีมาร์คก็ดึงอีกคนเข้ามากอดแน่น มือหนาลูบแผ่นหลังเล็กเบาๆโดยที่ลืมไปว่าด้านหลังที่เขายืนอยู่มีกระจกเงาแผ่นใหญ่ แจ็คสันเบิกตาโพลงเมื่อเห็นผ้าพันแผลที่พันรอบใบหน้า มือเล็กดันไหล่แกร่งออกอย่างแรงจนมาร์คแปลกใจกับท่าทีของอีกคน
“กูเป็นอะไร” เสียงแหบพร่าแผ่วลงกว่าเดิมจนแทบจะไม่ได้ยิน มาร์คหันหลังกลับจึงได้พบกระจกต้นเหตุที่ทำให้อีกคนรู้ตัว มาร์คก้มหน้ามองพื้น มึงนี่มันโง่จริงๆเลยมาร์ค ต้วน
“...”
“กูถามว่ากูเป็นอะไร หูแตกหรือไงวะ!!!” แจ็คสันตะโกนจนสุดเสียง น้ำตาไหลจากดวงตากลมอย่างรวดเร็ว กายเล็กสั่นไปมาราวกับควบคุมตัวเองไม่ได้ มาร์ครีบหันไปกอดอีกคนที่ดีดดิ้นไปมาในอ้อมแขน เสียงสะอื้นร้องไห้ของแจ็คสันดังอยู่ที่ข้างหูของมาร์คราวกับมีดเป็นพันๆเล่มกำลังกรีดลงไปที่กลางใจของมาร์ค มาร์คกัดฟันแน่นแววตาคมดุวาวโรจน์ราวจะฆ่าคนได้ก็ไม่ปาน
“กู. กูจะตามหาไอ้ตัวคนทำแล้วฆ่ามันทิ้งซะ” มาร์คพูดเสียงนิ่ง แจ็คสันโอบกอดคนตรงหน้าแน่นราวกับต้องการหาที่พึ่ง ทำไม เขาไม่เคยทำอะไรให้ใคร ทำไม??
เมื่อร้องไห้แบบจัดหนักจัดเต็มคนตัวเล็กก็หลับคาอกอีกคนด้วยความอ่อนเพลีย มาร์คค่อยๆพยุงให้อีกคนนอนลงกับเตียงในท่าที่สบายๆ ริมฝีปากหนากดจูบลงที่หน้าผากมนผ่านผ้าพันแผล นิ้วเรียวไล้ไปตามโครงหน้าที่เคยมีแต่รอยยิ้มและสีหน้ากวนประสาท มาร์คคิดถึงใบหน้าเหล่านั้น
“หลับฝันดีนะครับ” มาร์คกดจูบลงที่ริมฝีปากอิ่มสีสดนั่นช้าๆก่อนจะกระซิบข้างใบหูเล็กแผ่วเบา
.
.
.
.
.
“รักมึงนะ.. กากา”
ริมฝีปากหนากระตุกยิ้มมุมปาก คำพูดที่ไม่เคยคิดว่าวันหนึ่งจะได้พูดกับใครซักคนดังออกมา มาร์คส่ายหน้ากับข้อความหวานเลี่ยนของตัวเองก่อนจะเดินออกจากห้องไป มือหนากำแน่นด้วยความโกรธ
“ไม่ว่ามึงเป็นใคร แต่แน่ใจได้เลยว่ามึงไม่ตายดีแน่” แววตาคมดุดันขึ้นมาอีกครั้ง แต่ก่อนที่จะก้าวเดิน สายตาคมก็เหลือบไปเห็นคนๆหนึ่งที่ยืนมองมาที่เขาพร้อมโบกมือไหวๆอยู่ไกลๆ ขายาวรีบสาวเข้าไปหาโดยทันที
“ว่าไงมาร์ค ต้วน มาทำอะไรที่โรงพยาบาลหรอคะ” หญิงสาวฉีกยิ้มหวานตามแบบฉบับของตน ดวงตากลมสวยที่กรีดอายไลน์เนอร์เพิ่มความคมกริบเขาไปยิ่งทำให้สาวเจ้าดูเหมือนตัวร้ายในละคร ใช่.. เหมือนพวกฆาตรกรหน้ายิ้มไม่มีผิด
“มาที่นี่ทำไม” มาร์คถามหน้านิ่งตามเดิม พยายามเก็บอารมณ์ขุ่นมัวไว้ในใจ
“บังเอิญไปดูกีฬาสีมาแล้วเห็นว่ามีคนเจ็บตัว เลยตามมาดูซะหน่อยว่าตายรึยัง” หญิงสาวยังคงยิ้มหวานอยู่ท่าเดิมซึ่งขัดกับคำพูดของเธอ
“ซูจี!!!อย่าบอกนะว่านี่ฝีมือเธอ” มาร์คขบกรามแน่นยังไม่ค่อยอยากเชื่ออะไรเท่าไร แต่คำพูดของซูจีมันช่างตีความหมายไปทางอื่นได้ยากจริงๆ
“เอ๋ ทำไมถึงคิดว่าเป็นฉันหล่ะ” ซูจีทำหน้าใสซื่อตาโตก่อนจะปั้นยิ้มออกมาเช่นเดิม
“อย่ามาเล่นลิ้น” มาร์คกัดฟันกรอด แน่นอนถ้าซูจีเป็นคนทำจริงๆแม้จะเป็นผู้หญิงหรืออดีตคนรักของเขา เขาก็พร้อมจะสั่งสอนอย่างสาสมแน่นอน
“ทำไมหล่ะคะ ทีแต่ก่อนคุณยังชอบให้ฉันเล่นลิ้นกับคุณอยู่บ่อยๆ ไม่ใช่หรอ หืม?” มาร์คนิ่งไปเมื่อเจอประโยคทิ่มแทงใจ ใช่!!เขากับซูจีเคยคบกัน เธอคือคนแรกที่ทำให้มาร์คหลงใหล เธอมอมเมามาร์คด้วยเซ็กซ์ที่ถึงใจทุกครั้ง แต่ก็อย่างว่ามันก็แค่ความหลงใหลในวัยเด็ก นั่นไม่ใช่ความรัก!!
“แต่ตอนนี้ไม่แล้ว ฉันไม่ชอบอะไรในตัวเธอทั้งนั้นซูจี” มาร์คมองหญิงสาวด้วยสายตาสมเพชก่อนจะเดินผ่านร่างเธอไป
“ว๊า. น่าเสียดายแต่อยากจะเตือนอะไรไว้หน่อยนะ ดูแลผู้ชายคนนั้นให้ดีๆเถอะ ฉันคิดว่าเด็กนั่นกำลังไม่ปลอดภัยนะ หึๆ” มาร์คหยุดนิ่งหันกลับไปมองแผ่นหลังของหญิงสาวที่เดินห่างออกไป
“ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น.. กูจะปกป้องมึงเอง แจ็คสัน!!!!!!”
#มาร์คสันคนซึน ---- > ติดแท็กแล้วไปเมาท์มอยกันในทวิตกัน
กรีดร้องงงงงงงงงงงงงงงง ทนไม่ไหวค่ะ สมองแล่นปิ๊วๆๆๆๆเลยทีนี้ ไม่ม่าเนอะไม่ม่า ฮ่าๆๆๆๆๆ แต่งไปแต่งมาก็เริ่มงงตัวเอง จะเอายังไงต่อกันแน่เนี่ย บางทีก็รู้สึกเหมือนคาแรกเตอร์ละครแปลกๆไหมนะ แปลกเหมือนไรท์นี่แหละ ฮ่าๆๆๆๆๆๆ ต้องเข้าใจฟิคมันแต่งตามอารมณ์นี่เนอะ
ปล1. ขอบคุณรีดเดอร์ที่ยังไม่ทิ้งฟิคเรื่องนี้ไปนะคะ แอบใบ้ให้ว่าตอนต่อไปแซบแน่นอน อึ๊ๆ วันนี้มีกีฬาสีไอดอลคู่นี้เขาก็อยู่ทีมเดียวกันนะคะ อุต๊ะ!! ขอให้มีโมเม้นค่ะ จะเอามาจัดเต็มในฟิครีดเดอร์จะได้ฟินหนักๆไปเลย
ปล2. โว้วววว พึ่งเห็นยอดแฟนคลับของฟิค ขอบคุณทุกคนเลยเน้อ รวมึงคนที่ไม่ได้กดไว้ด้วย ไปกดซะเดี๋ยวจะเชยนะเคอะ (ถุยยยย)
ปล3. ทวิตเตอร์มีเมนชั่นมาคุยกันได้นะคะ เราจะมาไร้สติด้วยกันค่ะ บางทีไรท์ก็ไม่อยากเวิ่นมากกลัวรีดรำไย อิๆ แต่ต่อไปเดี๋ยวติ่งJARK ไม่ก็ MARKSONกันไปเลยค่ะ
ปล4. ไรท์ชอบคู่นี้ไม่สนว่าใครจะรับจะรุกขอแค่เป็นคู่นี้จะยังไงก็ได้ ไรท์ยอมมมมมมม (ถึงจะชอบมาร์คสันมากกว่าก็ตาม ครุคริ)
ปล5. เมนท์เป็นกำลังใจให้ไรท์คนบ้าด้วยนะคะ จะได้มีกำลังใจแต่งต่อเน้อ ไรท์ตามอ่านทุกคอมเมนท์เลยนะคะ ถถ้าไม่มีเมนท์จะรู้สึกห่อเหี่ยวใจหัวจุยอย่างแรง ฮืออออ (อีไรท์อย่าม่าๆขอร้อง= = :: ร้องกี่เพลง(โดนตบ))
ปล6. ขอบคุณสำหรับทุกคำอวยพรในวันเกิดจะแจ๊ะ อุ๊อิ๊
ปล7. รักรีดเดอร์ทุกคนจ้า อิๆ
ความคิดเห็น