คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #11 : สายตาสั้น{BNior}
“ฮะ. ฮึก ฮือ. มะ. แม่. พ่อ. ทำไม ฮือ” เสียงร้องไห้สะอึกสะอื้นของเด็กน้อยดังระงมไปทั่วบริเวณ ตรงหน้ามีรูปของบุคคลที่ตนรักที่สุดสองคนตั้งตระหง่าน รอบข้างเต็มไปด้วยดอกไม้ บรรยากาศอึมครึมบ่งบอกว่าอีกไม่นานสายฝนคงจะโหมกระหน่ำลงมาเป็นแน่
“จินยอง.. ไม่ร้องนะครับ” ฝ่ามือบางของคนที่มีศักดิ์เป็นป้าวางลงบนลาดไหล่เล็กอย่างแผ่วเบา สีหน้าของหญิงสาววัยกลางคนแสดงออกถึงความสงสารหลายชายจับใจ
“ป้าครับ ทะ.ทำไม ทำไมผมไม่ตายพร้อมกับพ่อแม่ครับ ฮึก ทำไม . ทำไมไม่ให้ผมไปแทน” ประโยคที่ดูโตเกินอายุพ่นออกมาจากริมฝีปากสีแดงสดที่ถูกฟันกัดเพื่อกลั้นเสียงสะอื้น จินยองเป็นเด็กร่าเริง น่ารักจึงเป็นที่เอ็นดูของทุกๆคนรอบข้างหากแต่เหตุการณ์สูญเสียครั้งนี้ได้พรากรอยยิ้มที่เป็นเอกลักษณ์ของเจ้าตัวในตอนเด็ก จากเด็กที่เคยร่าเริง ยิ้มง่ายกลายเป็นเด็กเก็บตัว ไม่ยอมพูดยอมจา นี่ก็วันที่5แล้วที่จินยองเอาแต่ร้องไห้
“ถ้าเป็นแบบนั้นคนที่จะมานั่งตรงนี้แทนหนูก็คือพ่อกับแม่ของหนูนะ หนูอยากให้พวกเขาร้องไห้เพราะหนูงั้นหรอครับ?” หญิงสาวดึงตัวหลายชายเข้ามากอด มือเรียวลูบหัวกลมช้าๆอย่างปลอบใจ
“มะ. ไม่ครับ ไม่อยากให้ร้องไห้ ไม่อยากให้เสียใจ ไม่อยากให้พ่อกับแม่เสียใจ” เสียงอู้อี้เนื่องจากซุกหน้าลงกับลาดไหล่ของผู้เป็นป้า ใบหน้าเล็กส่ายไปมาอย่างน่ารัก
“ถ้าไม่อยากให้เสียใจจริงๆ จินยองต้องเข้มแข็งเลิกร้องไห้แล้วกลับมาเป็นคนร่าเริงคนก่อน ตั้งใจเรียนเพื่อให้พ่อแม่ที่อยู่บนสวรรค์ดีใจ เข้าใจไหมครับ?” คำปลอบโยนทำให้จินยองหยุดร้องไห้แทบจะทันที นั่นสินะ ยิ่งมาร้องไห้แบบนี้พ่อกับแม่คงต้องไม่มีความสุขแน่ๆ
“ครับ จินยองไม่ร้องไห้แล้ว พ่อกับแม่ต้องมีความสุขนะครับ” เด็กน้อยหันหกลับไปมองที่รูปภาพของบุคคลอันเป็นที่รักซึ่งจากไปอย่างไม่มีวันกลับ
“อ่า. ขอโทษนะครับ ห้องน้ำไปทางไหนหรอครับ” เสียงนุ่มทุ้มหากแต่เต็มไปด้วยเสน่ห์ดังขึ้นเรียกความสนใจของสองป้าหลานให้เงยหน้ามอง ใบหน้านิ่งเฉย ดวงตาชั้นเดียวเพิ่มความเย็นชาให้แก่ใบหน้าเด็กหนุ่มหากแต่ก็ช่วยขับให้ใบหน้าดูหล่อคมขึ้นอย่างช่วยไม่ได้ ‘หล่อ’ คำนิยามเดียวที่เด็กน้อยมอบให้เด็กหนุ่มหน้านิ่งคนนั้น
“อ้าวแจบอม มาแล้วหรอครับ” หญิงสาวเดินเข้าไปมาผู้มาใหม่ที่ยืนนิ่งอยู่ที่หน้าประตู ดวงตาคมจดจ้องใบหน้าหวานที่แดงเถือกและตาที่บวมเป่งจากการร้องไห้อย่างหนัก ริมฝีปากเล็กเม้มจนเป็นเส้นตรง ‘น่ารัก’ คำนิยามเดียวที่เด็กหนุ่มคนนี้มอบให้อีกคนที่จ้องมาทางเขาเช่นเดียวกัน
“ผมปวดฉี่” แจบอมละสายตากลับมามองหญิงสาววัยกลางคนที่อยู่บ้านข้างๆด้วยสายตาเรียบเฉย
“อ่า.”
“เดี๋ยวผมพาไปได้ครับ ไปล้างหน้าพอดี ป้าต้องดูแลเรื่องการจัดงานนี่ครับ” พอตั้งสติได้เด็กน้อยที่มีความคิดก้าวเกินอายุไปมากก็กลับมา หญิงสาวอยิ้มเล็กน้อยเมื่อมองเข้าไปในดวงตาที่แดงก่ำจากการร้องไห้ จากที่เคยเต็มไปด้วยความอ่อนแอบัดนี้กลับเต็มไปด้วยความเข้มแข็ง
“โอเคจ้ะ ฝากแจบอมด้วยนะจินยอง” หญิงสาวตอบกลับด้วยหน้าตายิ้มแย้มก่อนจะเดินออกไปข้างนอกเพื่อจัดงานต่างๆต่อ มือเล็กจับข้อมืออีกคนที่ตัวสูงกว่าเขา เท่าที่ดูเด็กคนนี้ไม่อายุเท่าเขาก็ต้องเด็กกว่าเขาแน่ๆ พ่อแม่ให้กินเสาไฟฟ้ารึไงถึงได้ตัวสูงขนาดนี้ ใบหน้าคมนิ่งก้มลงมองมือเล็กที่จับข้อมือเขาอย่างถือวิสาสะก่อนจะเงยมองหน้าอีกคนที่จ้องกลับมาด้วยใบหน้านิ่งเฉยเช่นกัน
“สวัสดี เราชื่อจินยองแต่เรียกว่าจูเนียร์ละกัน” ใบหน้าน่ารักยังคงนิ่งเรียบหากแต่ริมฝีปากกระตุกยิ้มบางๆ ยิ้มที่ทำให้อีกคนรู้สึกถึงคำว่าโลกหยุดหมุน ‘น่ารัก น่ารัก น่ารักกกกก’ แม้ในใจจะดี๊ด๊าแค่ไหนร่างสูงกลับแสดงออกด้วยสีหน้าเรียบเฉยเช่นเดิม
“สวัสดี ชื่อแจบอมเรียกเจบีละกัน แล้วนี่จะไปห้องน้ำได้ยัง ฉี่จะแตกอยู่แล้ว” ดวงตาคมนิ่งจ้องไปยังดวงตากลมโตก่อนจะเสมองไปทางอื่น ‘สงบใจไว้แจบอมนี่ผู้ชายและจำทำอะไรที่นี่ไม่ได้ น่ารักแค่ไหนก็ไม่ได้(ความดี) ปล้ำแม่งเลยแจบอมไม่งั้นก็จูบปากเล็กๆนั่นให้เจ่อกว่าเดิมไปเลย เอาเลย เชียร์อัพๆๆๆ(ความชั่ว)’ เสียงความดีและความชั่วภายใต้จิตใจของร่างสูงทะเลาะกันอย่างหนัก
“ทำไมต้องชอบเก๊ก คิดว่าหล่อมากนักรึไง” เสียงเล็กพูดขึ้นดึงคนตัวสูงให้ออกจากภวังค์ คิ้วเรียวขมวดเข้าหากันแน่น ดวงหน้าแสดงออกถึงความหมั่นไส้ชัดเจน จินยองส่ายหน้าเล็กน้อยก่อนจะเลื่อนมือจากจับข้อมือไปจูงมือร่างสูงแทนแล้วเดินนำไป หากจินยองหันกลับมามองซักนิดคงได้เห็นรอยยิ้มจากคนขี้เก๊กคนนี้ที่ยิ้มไม่หุบเป็นแน่
ใช้เวลาไม่นานร่างของเด็กน้อยทั้งสองก็เดินมาถึงห้องน้ำทั้งสองแยกกันไปทำธุระส่วนตัวของตัวเอง จินยองที่ยืนควักน้ำล้างหน้าอย่างเอาเป็นเอาตายจึงไม่รู้เลยว่าได้มีอีกร่างหนึ่งเข้ามายืนซ้อนหลัง มือหนาสอดโอบรอบเอวบางก่อนจะดึงเข้าประชิดตัว
“อ้ะ. ทำอะไรของนายเนี่ย” ร่างเล็กดิ้นไปมาเมื่อมองเห็นเจ้าของอ้อมกอด แขนแกร่งจับไหล่เล็กให้หันมาสบตาก่อนจะดันร่างทั้งร่างให้ชิดติดผนังพร้อมกับแนบตัวชิดสนิทไม่เหลือแม้ช่องว่างให้อากาศผ่านไปได้ ใบหน้าคมก้มลงจนรับรู้ถึงลมหายใจที่ติดขัดของร่างด้านใต้
“ไหนบอกหน่อยสิ ฉันหล่อรึเปล่า?” ดวงตาคมที่เคยนิ่งบัดนี้กลับกลายเป็นดวงตาบวกกับรอยยิ้มมุมปากนั่นยิ่งฉายแววความเจ้าเล่ห์ของเจ้าตัวออกมา ให้ตายนี่มันปีศาจชัดๆ ดวงตากลมจ้องมองไปยังใบหน้าของคนเจ้าเล่ห์พลางหลุบสายตามองต่ำ หล่อดิ หล่อจนไม่กล้ามองกลัวความหล่อจะทิ่งตา
“ไม่ ฉันหล่อกว่าตั้งเยอะ” ตอบเสียงเบาหากแต่ร่างสูงด้านบนกลับได้ยินชัดเจน รอยยิ้มปีศาจผุดขึ้นมาบนใบหน้าหล่ออีกครั้ง
“อืม. หรือว่าหน้าฉันมันไกลไป นายถึงได้มองไปทางอื่นได้” ไม่ว่าเปล่ามือหนาเชยคางมนให้หันกลับมามองที่ตนก่อนจะก้มหน้าลงไปชิดจนปลายจมูกติดกัน จินยองรู้สึกถึงลมร้อนจากลมหายใจของอีกคน ใบหน้าหวานแดงก่ำด้วยความเขินอาย
“อะ. ไอ้บ้า ถอยออกไปนะ” มือเล็กจับไหล่แกร่งพร้อมกับผลักอีกคนออกแต่ไม่รู้ว่าเรี่ยวแรงที่เคยมีมันหายไปไหนหมด เพียงแค่ลมหายใจอีกคนที่รินรดที่ปลายจมูกก็แทบจะทำให้ร่างเล็กหลอมละลายกลายเป็นช็อกโกแลตโดนไฟยังไงยังงั้น
“งั้นก็ตอบมาสิ เจบีหล่อรึเปล่าครับจูเนียร์” ดวงตาคมจดจ้องเข้าไปในดวงตาหวานราวกับสะกดจิตให้อีกคนพูดคำที่ตัวเองต้องการออกมา ลมหายใจที่ขาดห้วงเป็นบางช่วงรินรดที่ปลายจมูกจนร่างสูงต้องข่มอารมณ์เอาไว้อย่างช่วยไม่ได้ รุหนักไม่ได้เดี๋ยวไก่จะตื่นซะก่อน
“หละ. หล่อ ที่นี้ออกไปได้ยะ. อุ้บ” ยังไม่ทันพูดจบประโยคริมฝีปากหนาก็เขาประทับลงที่ริมฝีปากบางอย่างรวดเร็ว ‘ทนไม่ไหวแล้วโว้ยยย’ ในสมองเจบีคิดได้แค่นั้น ดวงตากลมโตเบิกโตขึ้นกว่าเดิมอย่างตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ริมฝีปากหนาบดขยี้อย่างแรง ฟันซี่คมขบเม้มรอบริมฝีปากแดงสดให้บวมเจ่อขึ้นมากกว่าเดิม ในที่สุดความชั่วก็ชนะความดีในหัวใจจนได้ ร่างเล็กที่ครั้งแรกดิ้นต่อต้านกลับหยุดนิ่ง ราวกับร่างกายกำลังโดนแผดเผา ใบหน้าเล็กเอียงปรับองศาเล็กน้อยก่อนจะกดจูบตอบอีกฝ่ายไป ‘ชอบ. ชอบรสจูบนี้เหลือเกิน’ เจบีตกใจเล็กน้อยก่อนจะบดขยี้ริมฝีปากแดงจนหนำใจก่อนจะผละออกมา
“หึ น่ารักจังเลยนะ” เสียงทุ้มเอ่ยขึ้น นิ้วเรียวไล้ไปตามพวงแก้มนุ่ม ดวงตาคมมองร่างตรงหน้าอย่างหื่นกระหาย ยิ่งได้รับกิริยาตอบสนองแบบนั้นก็ยิ่งทำให้เลือดในตัวเด็กอย่างเขาเดือดพลุ่งพล่านจนอยากจะทำมากกว่าจูบ แต่ก็อย่างว่ารุกแรงไม่ได้ เดี๋ยวไก่จะตื่นซะก่อน ทำไมนะผู้ชายเหมือนกันแท้ๆกลับทำให้หลงใหลได้ขนาดนี้
“ไอ้บ้า” จูเนียร์เมื่อนึกขึ้นได้ว่าเมื่อกี้ตัวเองเผลอตอบรับจูบที่อีกคนส่งมาให้ดวงหน้าหวานขึ้นสีแดงจนมะเขือเทศต้องเรียกพี่ เจอกันครั้งแรก รู้จักกันครั้งแรก จูบครั้งแรก นายนี่มันใจง่ายจริงๆจูเนียร์แม้จะไม่ได้สอดลิ้นก็เถอะ ทำไมนะ ผู้ชายเหมือนกันแท้ๆแต่กลับทำให้หัวหมุนได้ขนาดนี้
เห้ย!!หรือว่าเราจะเป็นเกย์!!!!
ความคิดดังกล่าวดังขึ้นในสมองของทั้งคู่พร้อมกัน หลังจากนั้นจูเนียร์ก็ได้ย้ายไปอยู่กับป้าและได้เจอเจบีที่เป็นลูกเจ้าของคลับที่อยู่ข้างบ้านป้าบ่อยๆทำให้เขารู้ว่าเขาอายุมากกว่าเจบี 1 ปี และในที่สุดเมื่อเขาเรียนจบม.ปลายก็ได้ออกมาทำงานที่ร้านของเจบี ไม่ใช่ไม่อยากเรียน ไม่ใช่ไม่มีเงินเพียงแค่ต้องตอบแทนบุญคุณที่คุณป้ากับคุณลุงคอยเลี้ยงดูมา คุณลุงไม่ค่อยสบายนักจูเนียร์จึงต้องลาออกมาเลี้ยงดูช่วยป้าที่เริ่มแก่ไปตามกาลเวลาและได้เข้ามาทำงานในร้านเจบี
.
.
.
.
.
“จูเนียร์”
“จูเนียร์”
“ปาร์ค จิน ยองงงงงง!!!!” ร่างเล็กสะดุ้งตื่นขึ้นมาจากภวังค์ในวัยเด็กก่อนจะหันไปมองต้นเสียงที่ทำให้เขาหัวใจแทบวาย
“เรียกเบาๆก็ได้ แล้วใครบอกให้เรียกชื่อจริงแบบนั้น” จูเนียร์หันไปมองร่างสูงที่ส่งเสียงดังอย่างคาดโทษ
“ก็เรียกตั้งนานแล้วไม่ยอมตอบ เหม่ออะไรอยู่คนเดียวครับ หืม?” ไม่ว่าเปล่า ทำหน้าอ้อนตีนหยอกเย้าอีกคนตามนิสัย เจบีจะนิ่งขรึมกับทุกคนในร้านแต่จะบ้าบอคอแตกใส่เขาเสมอ
“เปล่าเหม่อซะหน่อย” เมื่อถูกจับได้ก็บ่ายเบี่ยงพร้อมหันหน้าไปทางอื่น ถ้าเจบีรู้ว่าเขาเหม่อึงเรื่องนั้นหละก็มีหวังโดนล้อยันลูกบวชแน่
“อ้อเหรออออออออ” เจบีทำลอยหน้าลอยตาใส่อีกคนอย่างกวนอารมณ์ แกล้งคนน่ารักให้โมโหหน่ะสนุกจะตาย แม้บางครั้งอาจต้องแลกมาด้วยการเจ็บตัวก็ตาม ก็เวลาโมโหจูเนียร์น่ารักน้อยซะเมื่อไร
“นี่ ยังไม่จบนะ เมื่อกี้เรียกชื่อจริงทำไม” เมื่อสู้เรื่องนี้ไม่ได้ก็เอาเรื่องนี้ขึ้นมาขู่แม่งเลยครับ ให้มันรู้ซะบ้างว่าใครเป็นใคร นี่ปาร์ค จินยองนะครับๆ สู้ตายอยู่แล้ว เจบีนิ่งไปเล็กน้อยขมวดคิ้วครุ่นคิดก่อนจะตอบกลับมาด้วยประโยคที่ทำให้คนตัวเล็กแทบอยากจะโคฟเวอร์ตัวเองเป็นระเบิดแล้วระเบิดตัวเองให้หายไปในตอนนี้เหลือเกิน รอยยิ้มเจ้าเล่ห์ที่มองกี่ทีก็รู้สึกึงแต่ความอันตราย
“ใครบอกเรียกชื่อจริง ชื่อจริงนายหน่ะคือ ‘อิม จินยอง’ ไม่ใช่ ปาร์ค จินยองซะหน่อย”
“ไอ้. บ้า” ใบหน้าหวานแดงก่ำ เขินครับ เขินตัวแตก ฟินลืมทางกลับบ้าน ตอนนี้แม้แต่วิธีการพูด การเดิน การกินจูเนียร์ยังนึกไม่ออก ให้ตายเถอะ
“หึ บ้าแล้วรักไหมครับ” เสียงทุ้มแหบพร่ากระซิบที่ข้างใบหูเล็กที่แดงก่ำไม่แพ้ใบหน้า ก่อนจะขบเม้มมันเบาๆทำเอาร่างเล็กสะดุ้งโหยง
“ไม่โว้ยยยยย” หมดกันความนิ่งขรึมที่ตัวเองสร้างมา ไม่เคยใช้ได้ผลกับคนๆนี้จริงๆจินยองเอ้ยย
ตอนนี้เวลา 00:34 ร้านปิดแล้วจูเนียร์ยืนครุ่นคิดอยู่นานก่อนจะเดินเข้าไปหาร่างสูงที่กำลังดีดกีต้าร์ตัวโปรดพร้อมกับร้องเพลงคลอเบาๆแม้ว่าจะไม่มีลูกค้าแล้วก็ตาม เวลาเห็นเจบีทำแบบนี้ทีไรอดใจสั่นไม่ได้ทุกที คาริสม่าเยอะไปแล้วนะไอ้ขี้เก๊ก ทำได้แค่คิดในใจเพร้าพูดไปมีหวังโดนล้อแน่
“นี่ ไปดาดฟ้ากัน” เมื่อรวบรวมความกล้าแล้วมือเล็กเอื้อมไปแตะที่ข้อมือของอีกคนเบาๆ เจบีทำหน้างงเล็กน้อยแต่ก็ยอมเก็บกีต้าร์ลงกระเป๋าพร้อมกับเดินตามคนตัวเล็กขึ้นไปด้านบน
สายลมอ่อนๆพัดเข้าหน้าทำให้ร่างสูงต้องหลับตาพร้อมกางแขนออกเพื่อรับสำผัสที่สุดแสนจะสบายนี้ ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมคนตัวเล็กถึงได้นึกคึกพาเขาขึ้นมาบนนี้ อยู่กับความคิดตัวเองไม่นานก็รู้สึกมีแรงขยับเบาๆที่ใบหน้า เมื่อลืมตาขึ้นมาก็เห็นคนตัวเล็กกำลังอดแว่นสายตาออกจากใบหน้าเขา ใบหน้าหล่อเมื่อไม่มีแว่นบดบังยิ่งเสริมเสน่ห์ให้แรงกล้าขึ้นอีกหลายเท่าตัว
“ถอดทำไม ฉันมองไม่เห็นนะ” คิ้วหนาขมวดเข้าหากันอย่างไม่เข้าใจ ไม่มีแว่นแล้ว้าไม่ใส่คอนแทกนี่เหมือนตาบอดเลยนะครับ จะแกล้งอะไรกันเนี่ย
“มานี่สิ จะให้ดูอะไร” มือเล็กเลื่อนไปจับฝ่ามือใหญ่ก่อนจะกุมมือเบาๆแล้วลากไปที่ระเบียงดาดฟ้า ดวงตาคมมองไปยังบริเวณรอบๆ กรุงโซลที่เต็มไปด้วยหลอดไฟสีส้มเล็กๆกระจายไปทั่วเมื่อยามใส่แว่นคงจะมองเห็นมันเป็นวิวทิวทัศน์ธรรมดาๆแต่ตอนนี้ สายตาสั้นที่ไร้ซึ่งอุปกรณ์ช่วยในการมองเห็น กลับมองเห็นก้อนกลมๆสีส้มเต็มไปหมดคล้ายกับการดูภาพถ่ายแบบโบเก้อย่างไงอย่างงั้น แต่ที่ทำให้รู้สึกดียิ่งกว่าคือการเข้ามาอยู่ในภาพๆนั้นซะเอง
“แม่ฉันเคยบอกว่า คนที่สายตาสั้นหน่ะข้อเสียเยอะก็จริงแต่ข้อดีของมันก็มี อย่างน้อยๆคนเหล่านั้นก็มองเห็นหลอดไฟ วิวทิวทัศน์และดวงดาวได้สวยกว่าคนอื่น” ร่างสูงหันไปมองคนน่ารักที่ยืนอยู่ข้างๆ คนตัวเล็กถอดคอนแทกเลนส์เก็บเข้าตลับพลางมองไปรอบๆเช่นกัน รอยยิ้มน่ารักยามนึกถึงบุคคลสำคัญเผยขึ้นมาหากไร้ซึ่งความเศร้าหมองแต่กลับเต็มไปด้วยความคิดถึง
‘น่ารัก’
จูเนียร์ทอดสายตามองกรุงโซลเมืองที่แสนวุ่นวายยามค่ำคืนแต่พอมองจากมุมนี้กลับสวยงามจนอดยิ้มไม่ได้ คนตัวสูงเดินอ้อมไปด้านหลังพลางสอดแขนโอบรอบเอวบางพร้อมเอาคางเกยไหล่ จูเนียร์สะดุ้งเล็กน้อยเมื่อสัมผัสอบอุ่นที่อีกคนมอบให้พร้อมกับลมหายใจร้อนที่รินรดแถวๆซอกคอ ใบหน้าหวานขึ้นสีระเรื่อแต่ยังคงทำเป็นทองไม่รู้ร้อนมองไปยังวิวทิวทัศน์ต่อไปเพียงแต่สติที่เหลืออยู่ทั้งหมดกลับคิดเพียงแต่เรื่องของคนด้านหลัง เจบีเมื่อเห็นแก้มอีกคนขึ้นสีก็กระตุกยิ้มเล็กน้อยก่อนจะกดจมูกสูดดมกลิ่นหอมอ่อนๆที่ซอกคอขาว ริมฝีปากพรมจูบแผ่วเบาแต่กลับทำให้ขนอ่อนทั้งร่างของคนที่ถูกกระทำลุกชันขึ้น
“บะ. บี” ดวงตากลมหลับลง เอียงคอปรับองศาให้อีกคนซุกไซร้ได้ง่ายยิ่งขึ้น เจบีเมื่อเห็นการกระทำดังกล่าวจากจะแค่แกล้งเล่นเฉยๆกลับกลายเป็นอยากจะปล้ำคนตรงหน้าซะอย่างงั้น ไม่อยากให้ใครเห็น ไม่อยากให้ใครได้กลิ่น ไม่อยากให้ใครมาทำอย่างที่ตนกำลังทำกับคนตัวเล็ก ริมฝีปากหนาดูดดุนรอบซอกคอหอมย้ำๆจนเกิดรอยรักตีตราแสดงความเป็นเจ้าของเต็มที่
“อืม.เนียร์ หอมจัง” รอยยิ้มเจ้าเล่ห์ผุดขึ้นบนใบหน้าหล่อ จูเนียร์ก้มหน้างุดชิดอกซ่อนความเขินอาย ‘อะไรจะพูดตรงขนาดนั้น คนมันก็เขินเป็นนะเว้ยยยยย’ ริมฝีปากซนไล้ไปเรื่อย พรมจูบที่ต้นคอด้านหลังแลบลิ้นเลียวนรอบกระดูกต้นคอที่โผล่พ้นเสื้อเชิ้ตของอีกคนช้าๆก่อนจะพรมจูบสร้างรอยไปทั่วอย่างไม่หยุดหย่อน
“อ้ะ. ไม่ทำรอย ไม่เอา” จูเนียร์ดึงสติที่ถูกร่างสูงชักจูงกลับมาได้เพียงเล็กน้อยเพื่อห้ามปราม แต่ยิ่งห้ามก็เหมือนยิ่งยุเมื่ออีกคนเพียงแค่หัวเราะในลำคอก่อนจะดูดดุนให้แรงขึ้นกว่าเดิมจนคนตัวเล็กต้องพลิกตัวเข้าหาก่อนจะใช้มือดันไหล่แกร่งไว้เป็นเชิงห้าม คิ้วเรียวขมวดเข้าหากันแสดงความไม่พอใจอย่างเห็นได้ชัด คนตัวสูงยิ่งเห็นร่างตรงหน้าหงุดหงิดก็ยิ่งมีความสุข กดริมฝีปากทาบริมฝีปากอิ่มอย่างรวดเร็ว ดูดดุนริมฝีปากบนล่างสลับไปมาก่อนจะปรับองศาหน้าแล้วกดจูบลงให้แนบแน่นกว่าเดิม ลิ้นร้อนตวัดสอดเข้าในโพรงปากหวานอย่างรวดเร็วจนอีกคนไม่ทันระวังตัว ปลายลิ้นตวัดไปมาครูดไปตามเพดานปากทำให้มือเล็กเปลี่ยนจากดันที่ไหล่เลื่อนไปโอบรอบคอหนาอย่างรวดเร็ว แขนแกร่งยกคนตัวเล็กขึ้นนั่งบนระเบียงดาดฟ้า อารมณ์ที่กำลังพุ่งขึ้นสูงทำให้จูเนียร์ไม่กลัวว่าตัวเองจะตกจากอาคาร5ชั้นนี้หรือไม่
‘แค่มีเจบี จูเนียร์ก็ไม่กลัวอะไรอีกต่อไป’
“อื้ม. อื้อ” ร้องครางประท้วงเมื่อรู้สึกว่าถูกคนเจ้าเล่ห์ขโมยลมหายใจนานเกินไปจนหายใจแทบจะไม่ทัน
“อืม. จุ๊บ” เสียงครางต่ำในคอดังขึ้นอย่างสุขสม แขนแกร่งกระชับโอบรอบเอวอีกคนแน่นเพื่อป้องกันว่าอีกคนจะตกลงไปก่อนจะชักลิ้นร้อนออกมาจุ๊บที่ริมฝีปากหวานเบาๆแม้จะรู้สึกเสียดายแต่..ไม่ได้จูบ ก็ทำอย่างอื่นได้นี่หว่า การกระทำที่แสนอ่อนโยนที่ร่างสูงกระทำทำให้คนตัวเล็กยิ่งชอบสัมผัสที่อีกคนมอบให้มากขึ้นกว่าเดิม มาก.
มากเกินไปไหมนะ
“อ้ะ. อื้ม อา” เสียงครางหวานดังขึ้นเมื่ออีกคนช้อนร่างตัวเองขึ้นแล้วเดินไปชิดผนังอีกฝั่งเพื่อให้แผ่นหลังบางได้พิง แขนแกร่งโอบอุ้มคนตัวเล็กด้วยแขนด้านเดียว มืออีกข้างปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตออกอย่างรวดเร็ว ปลายนิ้วลูบไล้ไปตามแผงอกขาว ลูบวนไปทั่วบริเวณรอบยอดอกก่อนจะสะกิดปลายนิ้วไปมาอย่างรัวเร็ว นิ้วเรียวเพิ่มน้ำหนักมือมากขึ้น ริมฝีปากหนาพรมจูบทั่วลำคอขาวระหงส์ดูดดุนจนเกิดเสียงสร้างรอยไปตามทางที่ลากผ่าน
“อืม. เนียร์ของบี” น้ำเสียงแสดงออกได้ชัดเจนว่าเจบีหวงแหนอีกคนมากแค่ไหน จูเนียร์หน้าขึ้นสียิ่งขึ้น อุณหภูมิในร่างกายพุ่งสูง สมองขาวโพลนพร้อมกับสติที่หายไปนานเพราะคนอีกคน นิ้วเล็กลูบไล้ไปตามแผ่นหลังสุขภาพดีเกินเด็กม.ปลายทั่วไปยิ่งสร้างแรงอารมณ์ให้คนตรงหน้าโหมกระพรือมากขึ้น แขนแกร่งวางคนตัวเล็กก่อนจะลูบไล้ไปทั่วหน้าท้องแบนราบทำเอาขาเรียวหมดแรงจนแทบจะยืนทรงตัวไม่ไหว
“อา. บี ตะ. ตรงนี้ไม่ได้” คนตัวเล็กรีบร้องห้ามเพียงแค่คิดว่าถ้าจะร่วมรักกันตรงนี้มันคงไม่ดีแน่ๆ มือหนาเอื้อมหยิบฟูกใหญ่ที่ตนแอบเอามาไว้เพราะชอบขึ้นมาแอบงีบบนนี้เป็นประจำก่อนจะทิ้งฟูกลงพื้นอย่างไม่ใยดี พยุงไหล่เล็กให้เคลื่อนไปนอนลงที่ฟูกอย่างใจเย็นก่อนจะขึ้นมาคร่อมอย่างรวดเร็ว ดวงตาคมไล้มองหน้าผากมน แก้มนุ่มนิ่ม ริมฝีปากอิ่ม ซอกคอขาวที่ตอนนี้เต็มไปด้วยรอยรัก แผงอกเล็กที่กระเพื่อมขึ้นลง หน้าท้องแบนราบ ขอบกางเกง.. แววตาที่เหมือนอยากจะกลืนกินคนตรงหน้าให้หมดไม่เหลือแม้แต่ปลายเล็บให้คนอื่นได้เห็น
“อา. นายกำลังทำฉันคลั่งรู้บ้างไหม” เสียงแหบกระเส่ากระซิบข้างใบหูเล็กเบาๆ ฟันซี่คมขบเข้าที่ใบหูเล็กเบาๆลิ้นร้อนตวัดสอดเข้าไปภายในตวัดไปมาเพิ่มความเสียวซ่านให้อีกคนเป็นเท่าตัว ก่อนจะไล้พรมจูบไปที่หลังใบหูจมูกโด่งซุกไซร้พร้อมปล่อยลมหายใจรดอย่างจงใจ มือหนาปลดเข็มขัด แกะกระดุมกางเกงพร้อมกับดึงซิบกางเกงลงด้วยมือข้างเดียว ปลายเท้าค่อยๆร่นกางเกงลงช้าๆเพื่อไม่ให้อีกคนรู้ตัว
---------------------------------------------------------------- CUT----------------------------------------------------------------------------
หาอ่านไปที่ไบโอทวิตเตอร์ @OhSkb94
แม้จะเหนื่อยอ่อนจากกิจกรรมแต่ทั้งคู่ก็ไม่เสี่ยงจะนอนตากน้ำค้างตายบนดาดฟ้า ทั้งคู่ใส่เสื้อผ้าก่อนจะเดินกลับไปที่ห้องนอนพร้อมชำระร่างกายขณะที่คนตัวเลกกำลังทำธุระส่วนตัวอยู่นั้นก็รู้สึกถึงแรงกอดมาจากด้านหลัง ไม่ต้องเดาก็รู้ว่าเป็นใคร
“บีออกไป ไม่เอาแล้ว อื้อ” ริมฝีปากหนาพรมจูบที่ซอกคอคนตัวเล็กอย่างเอาแต่ใจ
“ก็คิดถึงนี่นา เนียร์ชอบอาบน้ำนาน” พ฿ดทั้งที่ยังคงซุกไซร้ซอกคออีกคนอย่างไม่ลดละ ลิ้นร้อนลากเลียลำคออีกคนช้าๆ
“นี่. แค่นี้ก็จะไม่เหลือที่ที่เป็นสีเนื้อแล้วนะ ดูกระจกดิ เนียร์ตอนนี้เหมือนคนเป็นภูมิแพ้ขั้นรุนแรงอย่างไงอย่างงั้น” ไม่พูดเปล่ายังมีการชี้กระจกเป็นหลักฐาน เจบีหัวเราะในลำคอเบาๆกับท่าทางน่ารักที่คนน่ารักทำ
“ทีเนียร์หล่ะ แหม ดูคอบีดึงไม่เยอะเท่าเนียร์แต่ทุกรอยนี่แทบปิดไม่ได้เลยนะ” เจบีว่าพลางชี้ไปตามรอยรักที่อีกคนสร้างขึ้น ทำเอาจูเนียร์ยกมือขึ้นฟาดแขนแกร่งเบาๆ
“พอแล้วๆ อาบน้ำแล้วไปนอนเถอะนะ เนียร์เหนื่อยจะตายแล้ว” เล่นไม้แข็งไม่ได้ก็ต้องใช้ลูกอ้อน ‘ดวงตากลมโตพร้อมทำปากยื่นออกมาแบบนั้น ลูกแมวชัดๆ โอ้ยยย น่ารัก น่าฟัด น่าปล้ำ’ และแล้วเจบีก็ต้องพ่ายแพ้ให้กับแมวน้อยขี้อ้อนอย่างปฏิเสธไม่ได้
“โอเคครับผมๆ ” เจบีเดินออกไปรอด้านนอกเพื่อให้คนตัวเล็กทำความสะอาดร่างกายเสียที ตากลมด้านบนก็นานเดี๋ยวจะไม่สบายเอา.
ก็ไม่ได้ทำอ่ะดิ ฮ่าๆๆ
“จะได้นอนกอดได้สะดวกๆ” เจบีเดินไปเลื่อนเตียงของตัวเองกับจูเนียร์ให้ติดกันพลางพูดไปตามความคิด
“เฮ้ ทำอะไรหน่ะ” เสียงหวานร้องขึ้นเมื่อเห็นเตียงของตัวเองกับอีกคนเลื่อนมาติดกัน
“เลื่อนเตียงไง บีอยากนอนกอด นอนหอมเนียร์นี่” จูเนียร์มองอีกคนอย่างอึ้งๆ นี่เจบีผู้ชายเย็นชาเห็นChic Clubจริงป่ะเนี่ย เมื่อคิดว่าขัดยังไงก็คงไม่ได้จูเนียร์เลยปล่อยให้เลยตามเลย เหนื่อยมากแลวอยากจะนอนพักผ่อนซะที จูเนียร์ทิ้งตัวลงนอนก่อนจะเข้าสู่ห้วงนิทราแทบจะทันที
“ฝันดีนะ” เรียกสติที่เริ่มหายกลับมาเล็กน้อยก่อนจะพูดออกมาเบาๆ เจบีมองคนตัวเล็กพลางหัวเราะเบาๆก่อนจะเดินเข้าไปชำระร่างกายบ้าง ใช้เวลาไม่นานร่างสูงก็เดินมาทิ้งตัวลงนอนคนข้างๆ แขนแกร่งพลิกตัวอีกคนให้เข้ามานอนในอ้อมกอดของตัวเอง ริมฝีปากหนาจูบลงที่หน้าผากมนแผ่วเบา
“ฝันดีนะครับ เนียร์ของบี จูเนียร์ของเจบี จินยองของแจบอม ของผมคนเดียวเท่านั้น” ตาคมค่อยๆปิดลงเพราะความเหนื่อยล้า เอาจริงๆก็แอบอึ้งเหมือนกันที่คนตัวเล็กยอมให้ทำอย่างว่า รู้ว่าจูเนียร์เองก็คิดเหมือนกันตั้งนานแล้วหล่ะก็.. รับรองว่าจะทำทุกอย่างให้เร็วขึ้นกว่านี้ อิๆ
จบแล้วววววววววววววววววววววววววววววววววววววววววว ตอนนี้ยกให้บีเนียร์เขาไปก่อนละกัน หายไปนานอีกแล้วสินะ เข้าใจนิดนึงเนาะเพราะแต่งแบบคิดสดเลยต้องอาศัยอารมณ์ในการแต่งแต่ละครั้งด้วย แต่ถ้ามีอารมณ์(?)ปุ๊บจะเข้ามาแต่งทันทีเลยนะ ขอบคุณทุกคนที่คอยติดตามฟิคเรื่องนี้ด้วยนะครัชชชชช -/\-
ปล. อย่าลืมเมนท์เป็นกำลังใจให้ไรท์ด้วยนะ ไรท์มีความสุขทุกครั้งที่ได้อ่านเมนท์ไม่ว่าจะชมหรือติก็ชอบหมด ขอบคุณทุกคนที่เมนท์และเข้ามาอ่านเรื่องนี้เรื่อยๆด้วยนะ
ปล2. อะไรคือบีเนียร์คู่รองได้กันไป 2 รอบแล้วแต่มาร์คสันคู่หลักของเรายังไม่ได้ทำอะไรกันมากกว่าที่เคยเลย เอ.. ยังไงกันนา ติดตามกันต่อไปเลยดีกว่า
ปล3. ตอนหน้ามาร์คสันมาเต็มแน่ อารมณ์มาเมื่อไรจะจัดเต็มให้อ่านเลยนะ
ปล4. ฟิคนี้เป็นฟิคใสๆ เอ็นซีกากๆขออภัยด้วยนะฮะ _ _ ll- -ll _ _ ll- -ll
ปล5. #ทีมบีเนียร์ #ทีมมาร์คสัน ตกลงคู่ไหนคู่หลักกันแน่นะ แต่งเองเมาเอง ฮ่าๆ
ปล6. MV Call me baby ของ EXOออกแล้วนะ ช่วยกันปั่นวิวให้หนุ่มๆด้วยเน้อ ไรท์ติ่งทั้ง EXOทั้ง GOT7 อิๆ
ความคิดเห็น