ตอนที่ 6 : : Dangerous 5 : Stay in my arms if you dare [Complete...100%]
|| DANGEROUS HEART ||
5
Stay in my arms if you dare
-อยู่ในอ้อมแขนของฉันถ้าเธอกลัว-
ฉันวิ่งตามเทียร์ไปที่รถพร้อมทั้งหันไปมองข้างหลังอย่างระมัดระวัง เทียร์จับมือฉันแน่นให้วิ่งตามเขาไปในขณะที่เรากำลังหนีตาย TOT นี่มันอะไร! เดตหนีตายเรอะ ทำไมชีวิตฉันดูซวยแบบนี้ตั้งแต่รู้จักกับหมอนี่!
“ ฮะ...แฮกๆ ” ฉันหอบไปด้วยวิ่งไปด้วยอย่างทุลักทุเลและหันไปมองไอ้พวกที่วิ่งตามมาอีกครั้ง เราทิ้งห่างมันมาพอสมควร แต่นั่น! มันเอาปืนจ่อมาทางฉันขณะที่วิ่งตามเรามาด้วย TOT ฉันใช้มืออีกข้างกระตุกเสื้อเทียร์ยิกๆ “เทียร์ๆ มันจ่อปืนมาแล้ว ”
“ บ้าเอ้ย! จะถึงรถแล้ว เธอวิ่งไปก่อน ” ร่างสูงหันมามองก่อนจะสบถเสียงลั่น เขาดันหลังฉันให้วิ่งไปข้างหน้า ส่วนเขาก็วิ่งตามมาพร้อมกับดันฉันไปด้วย แต่...ฉันก็ยังคงวิ่งช้าอยู่ดีจนเขาหงุดหงิดอีก T_T “ เร็วๆสิวะ! ”
ไอ้บ้า! ฉันเป็นนักเรียนนะเว้ยไม่ใช่นักวิ่ง จะให้วิ่งเร็วปานสายฟ้าเลบได้ยังไงยะ
ฉันพยายามเร่งฝีเท้าสุดชีวิต เมื่อกี้กระสุนปืนเฉียดหัวฉันไปนิดเดียวเอง อันตรายชะมัด และในที่สุดฉันกับเทียร์ก็วิ่งมาจนถึงรถ เทียร์กดปลดล็อกประตูและจับฉันยัดเข้าไปทันทีและเขาก็รีบวิ่งไปขึ้นรถอย่างรวดเร็วและถอยรถออกมาก่อนที่พวกนั้นจะมาถึงอย่างหวุดหวิด
ฉันนั่งหอบแฮกๆ และหันไปมองร่างสูงข้างๆที่หอบเล็กๆ เขาจับพวงมาลัยมือเดียวในขณะที่มืออีกข้างเปิดลิ้นชักหน้าคอนโซลรถแล้วหยิบปืนออกมา นั่นทำเอาฉันแทบลมจับ ปืนเลยนะ TOT ได้เห็นมันใกล้ๆแบบนี้เริ่มรู้สึกกลัวอ่ะ ถ้ามันลั่นขึ้นมาล่ะ...
ไม่เอานะเฟ้ย!
“ นี่ นายเอาปืนออกมาทำไม แค่หนีก็พอแล้วนี่ เกิดมันลั่นขึ้นมาจะทำยังไงหา อีกอย่างนะ ไอ้พวกนั้นมันเป็นใคร ทำไมมันต้องไล่ล่าพวกเราแบบนั้นด้วยล่ะ แล้ว... ”
“ หุบปากเถอะน่า! ” ร่างสูงหันมาตะคอกใส่ฉันด้วยสีหน้าหงุดหงิด เขาเปิดกระจกรถแล้วหันไปมองกระจกหลังด้วยสีหน้าเคร่งเครียด ฉันหันไปมองตามก็เห็นว่ามีรถยนต์สีดำขับตามเรามาประมาณสองสามคัน “ เธอช่วยนั่งเฉยๆได้มั้ย มันทำให้ฉันไม่มีสมาธิ ”
ฉันหันกลับมามองเทียร์อีกครั้งและพบว่าเขา...กำลังยื่นมือออกไปข้างนอกพร้อมกับยิงปืนใส่รถคันนั้นทันที ทำให้รถคันนั้นเสียหลักไปเล็กน้อยเพราะเขาเล็งไปที่ล้อรถของมันนั่นเอง เทียร์หันกลับเข้ามาในรถ เขาโยนปืนมาบนตักฉันที่นั่งเอ๋อก่อนจะหันไปเหยียบคันเร่งให้เร็วกว่าเดิม
“ เธอยิงปืนเป็นรึเปล่า ”
“ นะ...นายจะบ้ารึไง ฉันจะไปยิงเป็นได้ไงเล่า TOT เอาคืนไปเลยนะ เกิดมันลั่นล่ะตาบ้า โยนมาได้! ” ฉันรีบส่งปืนกลับไปให้เขาพร้อมกับด่าไปด้วยในขณะที่เทียร์ก็เร่งขับซะจนจะบินได้ก็ไม่ปาน
“ มันจะไปยากอะไรวะ ” เขาสบถพร้อมทั้งยีหัวตัวเองอย่างหงุดหงิดเต็มที่ ฉันยิงปืนไม่เป็นมันผิดตรงไหนวะ หน้าฉันเหมือนคนชอบยิงปืนนักรึไง! “ เธอไม่เคยดูหนังรึไง แค่ขึ้นนกแล้วก็กดยิงเนี่ย ”
“ ไม่เอาเด็ดขาด TOT ยังไงฉันก็ไม่ยิง แค่จับมันมือฉันก็สั่นแล้วฉันจะไปยิงได้ไง ”
“ โธ่เว้ย! งั้นเธอมาขับรถ ”
“ ฉันขับไม่เป็นอ่ะ ”
“ เธอทำอะไรได้บ้างวะ! งั้นแค่บังคับพวงมาลัยคงจะทำได้นะ ฉันจะเหยียบคันเร่งให้ ”
“ แล้วทำไมนายไม่ทำเองล่ะ ”
“ ยัยโง่! ฉันก็จะหันไปยิงมันน่ะสิ! ”
ปัง!
เสียงปืนที่ดังขึ้นทำให้ฉันหันกลับไปมองก็เห็นว่ามีคนโผล่ออกมาจากรถพร้อมกับเล็งปืนมาทางเรา เทียร์หันมามองหน้าฉันด้วยสีหน้าบังคับที่บ่งบอกว่าให้ฉันไปจับพวงมาลัยได้แล้วก่อนที่พวกเราจะถูกมันยิงตาย TOT
“ ก็ได้ๆ ” ฉันเอื้อมมือไปจับพวงมาลัยเอาไว้อย่างทุลักทุเล มันช่างไม่ถนัดเอาซะเลย เทียร์มองฉันอยู่พักหนึ่งก่อนที่เขาจะอุ้มฉันไปนั่งบนตักเขาน่าตาเฉย “ นายทำอะไรน่ะ! ”
“ นั่งแบบนี้แหละ ไม่ต้องพูดมาก - _ - ”
สีหน้าดุๆพร้อมกับเสียงเข้มๆของเขาทำเอาฉันไม่กล้าเถียง ทำไมฉันต้องรู้สึกกลัวด้วยล่ะ คงจะเป็นหลังจากที่เห็นเขามีปืนล่ะมั้ง ถ้าเกิดเขาไม่พอใจอาจจะเอาปืนนั่นมายิงหัวฉันก็ได้ ยอมตามใจเขาไปก่อนดีกว่า
ฉันบังคับพวงมาลัยอย่างมั่วๆจนรถเริ่มส่ายไปมา ส่วนเทียร์ก็ยิงปืนสู้กับพวกมันอย่างเมามัน และเขามันจะยิงพลาดเพราะฉันขับรถส่ายไปส่ายมา TOT เริ่มรู้สึกว่าเป็นตัวถ่วงของเขานิดๆแล้วล่ะ
“ บ้าเอ้ย! ขับอะไรของเธอวะ ”
นั่นไง! เขาหันมาด่าฉันแล้ว เทียร์ชี้หน้าฉันอย่างข่มขู่ว่าจงให้ฉันบังคับดีๆ ดีนะที่ถนนแถวนี้เป็นทางตรงแถมยังไม่ค่อยมีรถ ไม่อย่างนั้นรถคงคว่ำแน่ แค่บังคับให้ตรงยังยากขนาดนี้แล้วจะให้ฉันเลี้ยวรถเรอะ ฝันไปได้เลย T_T
เสียงปืนดังขึ้นเรื่อยๆ เทียร์เปลี่ยนปืนไปสองกระบอกแล้ว เขามีปืนเก็บเอาไว้เยอะมาก ฉันเห็นแล้วแทบจะเป็นลมให้ได้ ตอนนี้รถของพวกเราเริ่มทิ้งห่างจากพวกมันมามากแล้ว แถมรถของพวกมันเหลืออยู่เพียงคันเดียวที่ไล่ตามเรามา คันอื่นๆคงจะโดนเทียร์ยิงใส่ล้อจนไถลไปข้างทางหมดแล้วล่ะ
“ ฉันขับเอง ” ร่างสูงโยนปืนไปไว้ที่เบาะข้างๆที่เต็มไปด้วยปืนอีกหลายกระบอกกองๆไว้ก่อนที่เขาจะสอดมือมาโอบรอบเอวฉันและเป็นฝ่ายบังคับพวงมาลัยเอง เขาเอาคางเกยไหล่ฉันเอาไว้แล้วเหยียบคันเร่งหนีรถคันสุดท้ายที่ล้อพังไปสองล้ออย่างหน้าตาเฉย
ลืมไปรึเปล่ายะว่าฉันนั่งอยู่บนตักนายน่ะ
“ นี่! ถ้านายจะขับก็ปล่อยฉันไปนั่งที่เดิมสิ ” ฉันหันไปโวยวายใส่เทียร์ที่ขับหนีพวกมันจนจะพ้นแล้ว แต่เขาก็ยังคงทำหูทวนลมแถมยังใช้มืออีกข้างโอบเอวฉันเอาไว้อีกต่างหาก “ เทียร์! ”
“ เงียบเถอะน่า! ”
ตะ...ตะคอกทำไมเล่า TOT ใครเป็นฉันก็ต้องโวยวายทั้งนั้นแหละ ฉันหันกลับไปมองข้างหลังที่ไม่มีรถขับตามมาแล้ว แสดงว่าพวกเราสลัดมันหลุกจนได้ เย้ ไม่ตายแล้ว นึกว่าชีวิตจะจบสิ้นแค่นี้ซะอีก
เหนื่อยจังแฮะ อยากนอนด้วย T_T ตอนนี้เราเริ่มเข้าสู่ตัวเมืองแล้ว อีกประมาณชั่วโมงนึงคงจะถึงบ้านล่ะมั้ง ของีบซักหน่อยคงไม่เป็นไรมั้ง
…zzZ
(Special : Tear talk)
ผมขับรถมาเรื่อยๆไม่เร็วมากหลังจากสลัดไอ้พวกเวรที่มาตามฆ่าผมไปหมดแล้ว จริงๆแล้วเส้นทางชีวิตของผมในตอนนี้ไม่ควรจะมีผู้หญิงเข้ามาเกี่ยวข้องซะด้วยซ้ำ แต่พอผมเห็นยัยนี่มันอดที่จะเอามาแกล้งแล้วเก็บเอาไว้ข้างๆตัวไม่ได้
ตุบ...
ศีรษะเล็กๆเลื่อนลงมาพิงที่ตัวผมพร้อมกับร่างของเธอที่พิงมาทางอกของผม ท่าท่างโซวาจะเหนื่อยจนหลับไปแล้วแน่ๆ ผมลอบยิ้มกับตัวเองแล้วจอดรถลงข้างทางก่อนจะมองเธอที่หลับตาพริ้มอยู่ในอ้อมแขนของผม
ไม่รู้ทำไมเหมือนกัน แต่รู้สึกเหมือนกับตัวผมกำลังก้มลงไปหาใบหน้าของเธอช้าๆและสัมผัสริมฝีปากเล็กๆนั่นเบาๆ
โซวาขยับตัวนิดหน่อย ผมไม่ได้ทำอะไรเธอเลยนะ แค่จูบเธอเบาๆเอง แต่ดูท่าทางยัยนี่จะรำคาญผมซะแล้ว- _ -
ผมตัดสินใจอุ้มโซวาไปนอนที่เบาะหลังก่อนจะหยิบเสื้ออีกตัวมาห่มเอาไว้ให้เธอแล้วเดินกลับไปขับรถต่อ ผมถอนหายใจกับตัวเอง อยู่ดีๆก็รู้สึกเหนื่อยๆขึ้นมา
วันที่ผมเจอกับโซวา ตอนแรกยัยนั่นไม่เห็นผมหรอก แต่เห็นเธอแล้วผมรู้สึกหมั่นไส้แปลกๆ ผมเลยตั้งใจโยนกระป๋องเบียร์นั่นไปหาเธอ และนั่น เธอหันมามองผมทันทีก่อนที่ปากเล็กๆนั่นจะเตรียมแว๊ดๆใส่ผมเต็มที่ แต่อยู่ดีๆเธอก็เงียบไปซะงั้น
เพราะงั้นผมก็เลยกระโดดลงไปจากต้นไม้ โซวามองผมตาแป๋วแบบตกใจเต็มที่และผมเองก็พอใจเล็กๆกับหน้าตลกๆของเธอ เลยเผลอกวนประสาทเธอไปนิดหน่อย แต่ใครจะไปคิด เห็นตัวเล็กๆแบบนี้ออกหมัดกับเขาก็เป็นเหมือนกัน
จริงๆแล้วมันก็ไม่เจ็บอะไรมากมายขนาดนั้นหรอก มากกว่านี้ผมก็เคยโดนมาแล้ว แต่วันต่อมาผมกลับเห็นเธอนั่งอยู่ข้างๆซะงั้น โซวาคงคิดว่าผมจำเธอไม่ได้ ยัยนี่ติงต๊องนะ แค่เห็นผมเธอผมก็จำได้แล้ว แต่นั่นล่ะ เธอเองก็ไม่เหมือนผู้หญิงคนอื่นที่เห็นหน้าผมก็พร้อมจะกระโจนใส่ นั่นทำให้ผมอยากแกล้งเธอต่ออีกนิดด้วยการแกล้งเอาเธอมาเป็นแฟน
เรื่องไปเที่ยววันนี้ก็เหมือนกัน ผมก็แค่อยากหาเรื่องแก้เซ็งเพราะไม่อยากไปเจอพ่อก็เลยบอกไปว่ามีธุระ เหอะ ใครจะอยากไปหาพ่อกัน เข้าไปหาก็มีแต่หาเรื่องมาให้ปวดหัว สู้ให้ผมออกมาหาเรื่องแกล้งยัยนี่แก้เซ็งดีกว่า
ติ๊ด...ติ๊ด...
เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นในกระเป๋ากางเกง ผมหยิบมันขึ้นมาก็เห็นว่าเป็นเบอร์ของพ่อ - _ - ทั้งๆที่ไม่อยากจะรับแต่ผมก็ต้องกดรับอยู่ดี
“ ครับ ” ผมกรอกเสียงลงไปในโทรศัพท์สั้นๆ “ พ่อมีอะไร ผมบอกแล้วว่าวันนี้มีธุระ ”
“ ไอ้เทียร์ แกอยู่ไหน สายของฉันรายงานว่าแกโดนไล่ยิง ” พ่อพูดกับผมด้วยน้ำเสียงเรียบๆ ที่ฟังดูน่าเกรงขาม “ ฉันบอกให้แกเข้ามาหาวันนี้ แกก็อิดออดไม่ยอมมาอยู่ได้ ”
“ ผมว่าเราคุยเรื่องนี้กันรู้เรื่องแล้วนะ ” ผมเริ่มหัวเสียไม่แพ้กันเมื่อพ่อเริ่มพูดเรื่องนี้ “ ผมบอกแล้วว่าจะกลับไปทำหน้าที่ของผมเองเมื่อผมจบม.ปลาย แล้วพ่อก็ตกลงแล้ว ”
“ ฉันรู้...” น้ำเสียงของท่านดูอ่อนลงกว่าเดิม “ แต่ฉันก็อยากให้แกได้เรียนรู้งานก่อน แกคือทายาทเพียงคนเดียวตระกูลเรา ฉันเองก็เริ่มทำตั้งแต่ยังไม่จบม.ต้นด้วยซ้ำ ”
“ แต่นั่นมันคือพ่อ! ” ผมจอดรถลงข้างทางเพื่อจะได้คุยกับท่านให้รู้เรื่อง “ ผมไม่ได้ต้องการชีวิตแบบนี้ด้วยซ้ำ พ่อเป็นคนบัดเยียดหน้าที่นั้นให้ผมเอง ”
“ ไอ้เทียร์! ”
“ ผมบอกว่าจะทำ...ก็คือทำ ” ผมถอนหายใจอย่างเหนื่อยหน่าย “ ตอนนี้ผมอยากใช้ชีวิตของผมให้เต็มที่ก่อนที่ผมจะต้องทำงานที่พ่อยัดเยียดให้ ”
“ แล้วผู้หญิงนั่นล่ะ ” พ่อพูดขึ้นอีกครั้ง นั่นทำให้ผมชะงักไปก่อนจะหันไปมองยังโซวาที่นอนหลับตาไม่รู้เรื่อง“ สายรายงานว่าเห็นแกอยู่กับผู้หญิง ฉันบอกแกแล้วว่าไม่ควรมีแฟน...”
“ ผมรู้! ”ผมพูดขัดพ่ออย่างหงุดหงิด “ ผมจัดการชีวิตตัวเองได้ แค่นี้นะครับ ผมขับรถอยู่”
ผมกดวางสายโดยไม่ทันให้พ่อพูดต่อแล้วปิดเครื่องทันทีก่อนจะโยนโทรศัพท์มือถือไปไว้ที่เบาะข้างตัว ผมถอนหายใจอีกเฮือกใหญ่แล้วหันไปมองโซวาอีกครั้ง
ผมไม่น่าดึงเธอเข้ามาเกี่ยวข้องกับผมตั้งแต่แรก…
ผมนั่งมองโซวาอยู่พักหนึ่งก่อนจะขับรถออกไปอีกครั้ง ตอนนี้ก็เริ่มจะเย็นแล้ว อีกประมาณชั่วโมงกว่าๆก็คงจะถึงบ้านพอดี
รถของผมจอดลงที่หน้าบ้านของโซวาตอนประมาณเกือบๆหกโมง ยัยนี่หลับลึกมาก ผ่านไปชั่วโมงกว่าแล้วก็ยังไม่ยอมตื่นอีก ผมจะปลุกก็ไม่กล้า หน้าตาตอนหลับของเธอเหมือนเด็กไม่มีผิด แถมยังไม่มีเสียงใสๆมาแว้ดใส่อีกต่างหาก แต่ก็นั่นละ ผมเลยตัดสินใจหยิบกุญแจบ้านในกระเป๋าสะพายของเธอมาไขเข้าไปภายในบ้านแล้วอุ้มเธอออกมาจากรถ
ผมอุ้มโซวาเดินเข้ามาในบ้าน ผ่านห้องรับแขกขนาดเล็กก่อนจะก้าวขึ้นบันไดเพื่อไปยังชั้นสองของบ้าน ผมเดินหาห้องของโซวาที่พอจะเดาได้ไม่ยากก่อนจะพยายามบิดลูกบิดประตูด้วยความลำบากเพราะสองมือนั้นกำลังประคองโซวาอยู่
ห้องของเธอไม่ใหญ่มากนักแต่ก็ไม่เล็กจนเกินไป เตียงขนาดใหญ่ที่นอนได้ประมาณสองคนตั้งอยู่มุมหนึ่งของห้อง ข้างๆกันนั้นมีโต๊ะเขียนหนังสือที่เรียกได้ว่ารกเลยทีเดียวถ้าเทียบกับห้องของผม ผมวางโซวาบนเตียงเบาๆเพราะกลัวเธอจะตื่นก่อนจะห่มผ้าให้เธอ ว่าไปก็คงจะเพลียนั่นล่ะยัยนี่ถึงได้หลับสนิทขนาดนี้ ก็เล่นวิ่งหนีไอ้พวกนั้นตั้งไกลแถมยังมาเจอเหตุการณ์ที่มีคนยิงกันอีก เธอเองก็คงจะตกใจไม่น้อยเหมือนกัน
ผมเดินสำรวจห้องของเธอนิดหน่อย ห้องของเธอไม่มีอะไรมาก มันก็เหมือนกับห้องนอนของผู้หญิงทั่วไปจะติดก็ตรงที่ว่าดูรกไปหน่อยก็เท่านั้น แต่ที่ทำให้ผมรู้สึกหงุดหงิดเล็กๆก็คงจะเป็นไอ้โปสเตอร์ผู้ชายห้าคนที่ติดอยู่สองสามแผ่นนั่นละ ไอ้คำว่า ‘My Love’ ที่ติดอยู่ให้ภาพนั่นทำเอาผมอยากจะฉีกโปสเตอร์ทิ้งจริงๆ
ผมเดินกลับไปนั่งลงข้างเตียงของโซวา แล้วหยิบโทรศัพท์ออกมาเปิดเครื่อง หน้าตาตอนหลับของเธอคงไม่มีมาให้เห็นบ่อยๆ ขอถ่ายเก็บเอาไว้หน่อยละกัน
ผมนั่งเล่นอยู่ที่ห้องของโซวาพักหนึ่งก่อนจะตัดสินใจกลับ ตอนนี้ก็ทุ่มกว่าๆแล้ว ผมล็อกประตูบ้านให้เธอแล้วเดินกลับไปที่รถ โทรศัพท์ที่เพิ่งเปิดเครื่องได้ไม่นานดังขึ้นทันที่ที่ผมเตรียมจะกระชากเกียร์ออก ทำให้ผมต้องหยิบมันขึ้นมาดูก่อนจะมองคนที่โทรเข้ามาอย่างเหนื่อยหน่าย
“...ครับ” ผมกดรับสายพ่อที่โทรมาหาอย่างด้วยน้ำเสียงเหนื่อยอ่อน ถ้าให้ผมเดาก็คงจะเป็นเรื่องเดิมๆที่ท่านขยันหามาให้ผมปวดหัวเล่น “ พ่อมีอะไรอีก ”
“ ปิดเครื่องทำไม จะตามตัวแกกลับมาทีไรนี่ต้องลำบากตลอด ” พ่อบ่นผมด้วยความหงุดหงิดใจก่อนจะเข้าเรื่อง “ มาที่บริษัทเดี๋ยวนี้ ”
“ เฮ้ นี่มันมืดแล้วนะ ผมเหนื่อย... ”
“ แกผัดผ่อนฉันมาทั้งวันแล้ว ถึงฉันจะให้แกสืบทอดต่อตอนเรียนจบม.ปลาย แต่แกก็ควรจะมาศึกษางานก่อน ”
“ ที่นั่นมีปัญหารึไง...”
“ ใช่ ไปจัดการให้ฉันที พวกมันคงคิดว่าเราไม่กล้าลงมือถึงได้ทำอะไรตามใจแบบนี้ ” เสียงของท่านดูหงุดหงิดไม่น้อย “ ฉันให้เวลาแกครึ่งชั่วโมง รีบกลับมาซะ ”
“ครับ..”
ผมรับคำอย่างเสียไม่ได้แล้วกดตัดสายทันที ผมโยนโทรศพท์ไปไว้ที่เบาะข้างๆก่อนจะขับรถออกไปจากบ้านของโซวาอย่างรวดเร็ว ระยะทางจากบ้านถึงบริษัทก็ไกลไม่น้อย คงต้องรีบหน่อย
ท่าทางคืนนี้ผมคงจะไม่ได้นอนซะแล้ว...
(End : Special )
สู้ๆนะคะ อัพไวๆน้า
เค้ารออ่านอยู่
ยังไงก็รีบมาอัพต่อเร็วๆนะคะ;)