ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Xse ภาค "ปรากฏการณ์แห่งพลัง"

    ลำดับตอนที่ #13 : ..หนูทดลอง.. (เมดทั้ง7)

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 3
      1
      27 ต.ค. 62

    ..


    ห้องประชุมของสมาคมฮีโร่ โฮมออฟเฮลเปอร์

    แม้ในห้องนั้น จะมีเพียงฮาร์โมเนีย และGM แต่บรรยากาศความตึงเครียด

    กลับดูจะมากกว่าครั้งไหน ๆ ที่ทั้งสองเคยพูดกันในเรื่องที่เป็นความลับ..


    GM บอกกับ ฮาร์โมเนีย ว่า ตัวเขามีอาชญากรหญิง 7คน

    อยู่ในการครอบครองของเขา.. โดยที่แต่ละนางไม่ใช่ผู้กระทำผิดเล็ก ๆ

    ทั้ง 7คน เคยก่อคดีร้ายแรง ระดับต้องโทษประหารชีวิตได้เลยทีเดียว..


    แน่นอนว่า กับเรื่องนี้ ฮาร์โมเนียไม่อาจปล่อยผ่าน นิ่งเฉยได้

    เธอว่า ครั้งนี้ GM ทำเรื่องที่เกินไปมาก.. แม้ว่า GMจะกันไม่ให้เรื่องนี้

    กระทบกับสมาคมฮีโร่.. แต่การเอาอาชญากรไปเป็นสมบัติส่วนตัวนั้น

    ในฐานะที่เธอเป็นฮีโร่คนหนึ่ง นี่เป็นการกระทำที่ไม่อาจยินยอมได้..


    GM บอกกับฮาร์โมเนีย ที่เขาบอกเรื่องนี้กับเธอ เพื่อให้รับรู้ไว้เท่านั้น

    ฮาร์โมเนีย หรือแม้แต่เจ้าหญิง ก็ไม่มีสิทธิที่จะหยุดยั้งเขาในเรื่องนี้ได้


    " แล้วถ้าเป็นคุณไวท์เซนต์ล่ะ? "

    ฮาร์โมเนีย จึงเอ่ยถึงคนคนเดียวในประเทศไซแอม ที่น่าจะพอหยุดยั้ง

    การกระทำของGM ได้..


    GM ว่า ต่อให้เป็นไวท์เซนต์ก็เถอะ.. เขาจะไม่หยุดเรื่องนี้เพื่อใครทั้งนั้น

    ฮาร์โมเนีย จึงถามถึงสาเหตุที่ GM ต้องดื้อรั้นที่จะทำเรื่องแบบนี้ด้วย..



    GM ให้เหตุผลว่า พลังของเขาต้องการหนูทดลอง.. เพื่อที่จะมาทดสอบ

    พลังของเขาในด้านต่าง ๆ ซึ่งผู้หญิงที่เป็นอาชญากรขั้นร้ายแรง 7คนนี้

    เหมาะสมกับการเอามาใช้งาน โดยที่เขาไม่ต้องมีความรู้สึก..มากนัก..


    การใช้นักโทษเป็นหนูทดลอง.. แม้ว่า อาจมีคนไม่น้อยสนับสนุนเรื่องนี้

    แต่กฎเกณฑ์อันเป็นสากลของปัจจุบัน ปฏิเสธเรื่องที่ผิดหลักมนุษยธรรม

    ถึงจะเป็นคนที่ทำผิดร้ายแรงแค่ไหน.. ก็ต้องได้รับการปฏิบัติที่เป็นธรรม

    ต้องได้รับโทษที่อยู่ภายใต้ระบบกฎหมาย อันดำรงไว้ซึ่งความยุติธรรม..


    GM ไม่สนใจหลักการที่ฮาร์โมเนียยกขึ้นมา.. จะกฎหมาย หรือ จะเป็น

    บรรทัดฐานของสังคม ตัวเขาในตอนนี้ มีอำนาจที่เหนือกว่าของพวกนั้น

    และของพวกนั้น ว่ากันจริง ๆ ทำเขาเสื่อมศรัทธาตั้งแต่ก่อนเป็น Xser

    เขาจึงจะทำเรื่องนี้ ด้วยพลังที่มี ตามใจของเขาเอง เป็นสำคัญ..


    ฮาร์โมเนีย ถามถึงปลายทาง.. เมื่อการใช้เป็นหนูทดลอง จบลงแล้ว

    อาชญากรทั้ง 7คนนั้น GM ได้ตั้งใจเอาไว้ไหมว่า จะจัดการยังไง?..


    คำตอบของGM

    ถ้าความเชื่อที่ว่า ไม่ว่าใครก็กลับตัวเป็นคนดีได้ เป็นเรื่องจริงแท้ละก็..

    เขาจะปล่อยตัวคนนั้น ให้ทางฮาร์โมเนียจัดการต่อ ตามที่เธอเห็นควร

    แต่ว่า น่าจะไม่ถึงมือของฮาร์โมเนีย.. เขาตั้งใจไว้ว่า จุดจบของทั้ง 7

    คือการ ..ชดใช้ความผิดด้วยชีวิต จนกว่าจะจบชีวิตจากโลกนี้ไป..


    GM อธิบายเหตุผลไว้แบบนั้น..

    ฮาร์โมเนีย..ไม่เชื่อ.. เธอว่า เหตุผลของ GM คงเป็น..นั่น..มากกว่า..


    "..ฮาเร็ม.."

    ฮาร์โมเนีย โต้ว่า สาเหตุจริง ๆ คือ GM ต้องการสะสมผู้หญิงเอาไว้

    เพื่อสนองอารมณ์ตนเอง ตามประสาผู้ชายมักมากต่างหาก โดยที่

    ครั้งนี้ถึงขั้นหน้ามืด ขนาดเอาอาชญากร มาเป็นสมบัติของตนเอง..

    เอาแต่ใจ ไม่สนความผิดชอบชั่วดี เธอรู้สึกผิดหวังมากกับ GM..


    GM ไม่ได้โต้ตอบกลับฮาร์โมเนีย.. 

    เขาปล่อยให้ฮาร์โมเนียเชื่อในสิ่งที่เธอเชื่อ เช่นที่เขาทำมาตลอด.. 


    ..ต่างก็ทำตามความเชื่อของตนเอง..


    .
    .
    .


    ณ ห้องลับแห่งหนึ่ง ที่ธาราได้(ถูกบังคับให้)สร้างไว้

    เป็นสถานที่อยู่อาศัย รูปแบบเรียบง่าย ไม่ดีแต่ก็ไม่แย่

    มีข้าวของเครื่องใช้ เท่าที่จำเป็นเท่านั้น..


    อาจจะดูว่า ดีกว่าคุกมาตรฐานทั่วไปของประเทศไซแอม

    แต่ที่นี่ก็คือ ที่ซึ่งไว้กักขังอาชญากรหญิงทั้ง 7คน ของGM..


    7 คน ไม่ได้ถูกจับมาขังไว้ที่นี่พร้อมกัน แต่ถูกทำให้หลับจำศีล

    และเมื่อแผนงานพร้อม ถึงจะทำให้ตื่นขึ้นมาพร้อม ๆ กัน(6คน)..


    เพื่อจุดเริ่มต้นการทดลองที่เหมือนกัน เว้นแต่ เนน่า ที่ใช้เป็น

    ตัวทดลองรูปแบบพิเศษ.. จึงถูกทำให้ตื่นก่อน 6คนที่เหลือ..


    6 คนนอกจากเนน่า จิตใจและนิสัยยังเป็นอิสระ แต่ด้านร่างกาย

    ถูกพลังGMบังคับไว้ ให้ทำภารกิจตามตารางที่กำหนดไว้ โดยที่

    ไม่อาจขัดขืนได้.. อิสระการเคลื่อนไหวเหลือแค่ราว ๆ 1ใน4 ..


    และพลัง Xse ของพวกเธอ ก็ถูกควบคุมไว้ ไม่ให้ใช้ได้ดั่งใจคิด..

    (โดยรวม ความสามารถทางร่างกาย ก็ยังเหนือกว่าคนธรรมดา)


    ตามหลักปฏิบัติ นักโทษจะมีเครื่องแบบนักโทษ บังคับให้สวมใส่

    พวกเธอเอง ก็มีเครื่องแบบที่ต้องสวมใส่ ระหว่างถูกคุมขังเช่นกัน

    พวกเธอต้องสวมใส่ ..ชุดเมด(สาวใช้).. เป็นชุดประจำวัน..

    (ตอนไปปฏิบัติภารกิจข้างนอก ใส่ชุดที่เหมาะสมต่องานนั้น ๆ

    ถ้าเป็นงานที่ใส่ชุดอะไรก็ได้ ก็ต้องใส่ชุดเมดเป็นหลักนี่แหละ)


    ทั้ง 7คน ผู้ถูกลิดรอนอิสรภาพโดย Xser GM

    กลายเป็น(เหมือน)เมดส่วนตัว ที่มีไว้รับใช้แด่ GM ผู้เป็นนาย..


    ถึงจะเป็นเมดก็เถอะ แต่ภารกิจประจำวัน จะถูกส่งตัวไปทำงาน

    แนวงานจิตอาสาซะมากกว่า ซึ่งมักจะใช้เวลาหลายชั่วโมง..

    มีเวลาไม่กี่ชั่วโมงในหนึ่งวัน ที่จะได้พักอยู่ในที่คุมขัง..

    (เป็นนักโทษ? ที่อยู่นอกคุก มากกว่าอยู่ในคุก ว่างั้น..)

    (ส่วน GM ผู้เป็นเจ้านาย ก็ไม่ค่อยได้เห็นได้อยู่กับพวกเมด..)



    .
    .
    .


    นัน ดูเป็นชื่อที่ไม่มีบทบาทอะไรในสังคมของประเทศไซแอม

    แต่นั่นคือชื่อจริงของ แองเจิล Xser ผู้สังหารคนในคุกไปกว่าพันคน

    คำเล่าลือที่มีในสังคม เกี่ยวกับการหายตัวไปของเธอนั้น ไม่มีข้อใด

    ตรงกับความเป็นจริงที่ว่า เธอถูกบังคับให้มาเป็นเมด อยู่เช่นนี้..


    ชีวิตที่สูญเสียอิสระ หรือถูกบังคับให้ทำงานจิตอาสา ดูจะไม่ใช่

    ปัญหาหนักสำหรับนัน มากเท่าการที่เธอต้องมาใช้ชีวิตร่วมกับ..

    อาชญากร 6คน ราวกับเป็นคนในครอบครัวเดียวกันแบบนี้..


    ทูตสวรรค์ ผู้ศักดิ์สิทธิ์เช่นเธอ ต้องมาขลุกตัวกับพวกที่ชั่วร้ายนี้..

    แม้ดวงตาที่มองเห็นบาปได้ของเธอ จะถูกจำกัดพลัง จนมองเห็น

    บาปของ 6คน ไม่ชัดเจนนัก.. แต่ก็เพียงพอจะระบุว่า ทั้ง 6คนนี้

    เป็นคนบาปหนา ที่ควรถูกไฟศักดิ์สิทธิ์ของเธอ เผาให้เป็นจุณ..


    แต่เธออัญเชิญดาบศักดิ์สิทธิ์มาไม่ได้.. เพราะถูกจอมมาร(GM)

    จองจำพลังของเธอไว้.. นี่คงเป็นบททดสอบของพระผู้สร้าง..

    สักวันเธอจะผ่านบททดสอบนี้.. เพื่อชำระโลกให้ขาวสะอาด..


    แต่ตอนนี้เธอต้องทนอารมณ์เสียกับชีวิตประจำที่น่ารังเกียจนี้..


    เริ่มจากต้องกินอาหารเช้า ที่ทำโดย นาคิน 

    หญิงผู้ดูอบอุ่นเป็นมิตร มีรอยยิ้มที่อ่อนโยน แต่แววตาดูเศร้า..

    บาปหนักของนาคิน ที่พลังเนตรของนันมองเห็นนั้น คือ


    นาคิน ฆ่าและกิน คนในครอบครัวของตัวเอง หมดทั้งบ้าน..


    ต้องมากินอาหารจากคนแบบนี้.. เหมือนต้องรับเอาสิ่งสกปรก

    เข้าตัวในทุก ๆ เช้า อัปมงคลสิ้นดี.. แม้รสชาติจะอร่อยก็เถอะ..



    " ..อร่อยจัง.. "

    ภาพของนาคิน ที่พูดว่า เนื้อของคนในครอบครัวที่กินนั้น อร่อย..

    ที่เห็นจากพลังเนตรของนัน ยังติดอยู่ในภาพความจำของนัน..

    ..อร่อย แต่น่าขยะแขยงสิ้นดี.. (นันจะอ้วกทิ้งก็ทำไม่ได้อีก)

    (วัตถุดิบทำอาหารของนาคิน เป็นวัตถุดิบปกติทั่วไป)


    ท่าทีเหมือนคนดีนั่น ลวงโลกแน่ ๆ แม้จะดูเป็นธรรมชาติก็เถอะ..

    ด้วยความคิดนี้ของนัน ทำให้ความเป็นมิตรของนาคิน สูญเปล่า..


    มื้อเช้าทุกคนต้องมารวมตัวกันที่โต๊ะ บรรยากาศที่น่าอึดอัดจริง ๆ

    ยังดีที่เป็นแค่ในมื้อเช้า จากนี้ก็จะแยกย้ายกันไปตามแต่ภารกิจ


    นันไม่อยากสนใจคนบาปทั้ง 6คนนี้ ให้มากนัก.. แต่ก็ใช้พลังเนตร

    จนรู้ว่า แต่ละคนทำบาปอะไรมา..

    ..สักวัน ฉันจะเผาพวกเธอเอง..


    ถึงนันจะตั้งตัวเป็นศัตรูกับทั้ง 6คน แต่ใช่ว่า ณ ที่นั่นจะขาดจาก

    มิตรภาพซะทีเดียว.. ดูเหมือนความเป็นมิตรของนาคิน จะเป็นผล

    กับคนอื่น ๆ นอกจากนัน อยู่เหมือนกัน..


    อย่างคนชื่อ ทอย ที่ดูจะสนิทสนมกับนาคิน เป็นอย่างดี

    ซึ่งทอยนั้น แท้จริงก็คือ Xser ที่รู้จักกันในสมญานามว่า

    ..ซัคคิวบัส แห่งไซแอม..

    ผู้ซึ่งใช้ sex สังหารผู้ชายมาหลายร้อยคน.. ซึ่งเหยื่อของเธอ

    มีพ่อและพี่ชายแท้ ๆ ของตัวทอยเอง รวมอยู่ด้วย..


    พวกประเภทเดียวกัน ก็เลยเข้ากันได้ดีนั่นแหละ คือ ที่นันคิด..

    (เรื่องที่นาคินและทอยคุยกัน มักจะเป็นเรื่องทั่ว ๆ ไป ทั้งคู่

    ไม่มีใครขุดเรื่องที่เคยฆ่าคนในครอบครัวตัวเอง มาพูดถึง..

    เป็นนันนี่แหละ ที่ทำให้นาคินและทอย รู้ว่า ต่างก็เป็นคนที่มี

    ตราบาปเรื่องฆ่าคนในครอบครัวตัวเอง มาเหมือนกัน.. )


    มิยุ เป็นอีกคน ที่ดูเหมือนจะเป็นคนที่ไม่มีพิษไม่มีภัยต่อใคร

    รายนี้ไม่เคยฆ่าคนตาย แต่เป็นนักสร้างของปลอมของเทียม

    หาประโยชน์เข้าตัวเองง่าย ๆ โดยที่ไม่ต้องลงทุนอะไรเอง..

    แม้รู้สึกได้ถึงบาปอันเบากว่าคนอื่น ๆ ..แต่ก็ชั่วร้ายอยู่ดีละ..


    พู ดูจะเป็นคนที่เด็กที่สุดในกลุ่ม พูเป็นคนที่ไม่พูดจากับคน

    เธอมักจะพูดคุยกับต้นไม้ และสัตว์ต่าง ๆ .. ดูไร้เดียงสา..

    แต่เธอคือ Xser ที่เคยเปลี่ยนคนให้กลายเป็นต้นไม้..

    ความเกลียดชังของพู ที่มีต่อเผ่าพันธุ์มนุษย์นั้น ชัดเจน.. 


    สำหรับนัน พูจะเป็นคนที่นันเกลียดน้อยที่สุด.. แต่ก็ยังจะ

    ลงมือเผาพูอยู่ดี เมื่อถ้านันได้มีโอกาสใช้ดาบศักดิ์สิทธิ์..

    (ถ้าไฟศักดิ์สิทธิ์ไม่ติด ไม่ไหม้พู นันก็ยอมรับได้ ไม่ติดใจ)


    ชามิล ผู้เต็มไปด้วยจิตใจอันริษยา อิจฉาผู้คนไม่จบสิ้น..

    สังคมไม่รับรู้ความชั่วร้ายของเธอ เพราะพลัง Xse ของชามิล

    คือ การเป็นร่างวิญญาณ เข้าสิงสู่ร่างคนอื่น เพื่อครอบครอง

    ทุกสิ่งของคนอื่นมาเป็นของตน.. ไปเรื่อยโดยไม่เคยพอใจ..


    เจอพลังGM จนสิ้นฤทธิ์กลายเป็นร่างวิญญาณไม่ได้ ต้องใช้

    ร่างเนื้อของตนเอง ซึ่งมีพลังกายธรรมดา พอ ๆ กับคนทั่วไป

    เสียร่างวิญญาณอันทรงพลังไป เธอก็เลยดูอ่อนแอ ไร้พิษภัย..

    แต่จิตใจยังคงเดิม.. แค่ร่างกายไม่เอื้อ เลยต้องอยู่หงิม ๆ ..


    ชามิลนั้น เรียกว่า ถูกนันมองเป็นศัตรู โดยธรรมชาติก็ว่าได้

    ร่างวิญญาณร้ายอย่างชามิล เป็นศัตรูของทูตสวรรค์โดยตรง..

    ในขณะที่คนอื่น ๆ ดูทำอะไรระวังจิตใจเปราะบางของชามิล

    แต่นันใส่ท่าทีและคำพูดต่อชามิลตรง ๆ ไม่อ่อนข้อให้ใด ๆ


    วันใด ถ้านันได้รับดาบศักดิ์สิทธิ์กลับคืน
    ชามิล คือ คนแรกในกลุ่ม ที่นันจะเผา..


    คนสุดท้าย..

    ซึ่งเป็นคนที่ถูก GM กระทำต่างไปจากคนอื่น ๆ คือ เนน่า..

    พลังเนตรของนัน ไม่สามารถอ่านบาปของเนน่าได้.. GMว่า

    เป็นความตั้งใจของเขา เพื่อไม่ให้นันรู้ถึงบาปของเนน่า..


    แม้นันจะไม่รู้สาเหตุของการจงใจปกปิด แต่นันแน่ใจว่า

    เนน่า คงเป็นคนที่บาปหนาที่สุดใน 6คน (นันไม่นับตัวเอง)

    ในขณะที่คนอื่น ๆ ยังมีอิสระในด้านจิตใจ และนิสัยดั้งเดิม..


    เนน่านั้น เห็นได้ชัดว่า สูญเสียไปถึงกระทั่งตัวตนดั้งเดิม..

    กลายเป็นเมดที่ภักดีต่อ GM โดยไม่เหลือจิตใจของตัวเอง

    GMว่า นี่คือ ตัวอย่างของผู้ที่ถูกตัดสินโทษอย่างเด็ดขาด..


    ..มีชีวิตอยู่ เพื่อทำตามคำสั่งของผู้เป็นเจ้านายเท่านั้น..


    " ..นายมีสิทธิอะไรทำเรื่องแบบนี้.. "

    ใช่ เนน่า อาจเป็นคนบาป จนเป็นเหตุให้รับโทษแบบนั้น.. 

    แต่นันไม่สามารถยอมรับบทลงโทษเช่นนี้ได้ GMไม่มีสิทธิ

    จะทำให้ชีวิตของใครต่อใคร เป็นเหมือนของเล่น..


    ชีวิตที่พระผู้สร้างประทานมาให้ ไม่มีใครมีสิทธิใช้เป็นของเล่น

    นันว่า ถึงGMจะเป็นจอมมาร แต่ก็ทำเรื่องนอกรีตเกินไปแล้ว..

    และให้GM คืนดาบศักดิ์สิทธิ์มา เพื่อจะได้ต่อสู้กันอย่างยุติธรรม..


    ..เปล่าประโยชน์..

    ท่าทีของนัน ไม่มีผลใด ๆ กับGM.. แถมยังถูก GMตอกย้ำด้วย

    กลไกที่ GM ใส่ไว้ในตัวตนของทั้ง 7คน กลไกที่เชื่อมโยงให้

    ทั้งเจ็ดมีชะตาชีวิตร่วมกัน.. ถ้ามีคนใดคนหนึ่งในเจ็ดตายขึ้นมา

    อีกหกคนจะต้องตายตามไปด้วย อย่างไร้ทางขัดขืนหรือแก้ไข..


    หนึ่งเพื่อป้องกันไม่ให้เจ็ดคนฆ่ากันเอง.. GMว่า เขาจะไม่ยอม

    เสียกำลังคน ไปกับการกระทำที่โง่เขลา อย่างการเข่นฆ่ากันเอง..

    และจะได้ต่างระมัดระวัง ใส่ใจในชีวิต ของกันและกันมากขึ้น..


    แต่นั่นเป็นเหตุผลรอง เหตุผลหลัก ที่สำคัญก็คือ

    ถ้าเกิดพวกเธอหลุดการควบคุมของเขาขึ้นมา.. กำจัดเพียงหนึ่ง

    ก็จัดการได้ทั้งเจ็ดในคราวเดียว เป็นมาตรการป้องกันการกบฏ..


    และกลไกพิเศษ..(ยังจะมีอีกเหรอ! :นัน)

    ถ้าเขา(GM)เกิดตายขึ้นมา ทั้งเจ็ดคนก็จะตายไปด้วยเช่นกัน..

    แน่นอนว่า การตายของทั้งเจ็ด ไม่มีผลอะไรกับตัวเขาทั้งนั้น..

    (ฉันตายพวกเธอตาย แต่ถ้าพวกเธอตายก่อน ฉันก็ไม่ตายตาม)


    นันว่า นี่เป็นกลไกที่บ้าชัด ๆ มันไม่ใช่เรื่องโรแมนติก(นะโว้ย)

    (นันหมายถึง เรื่องแบบนี้ถ้าเกิดกับคู่รัก อาจจะดูโรแมนติก..)

    นันเพ่งเล็งไปที่ชามิลที่อ่อนแอที่สุดในกลุ่ม.. เกิดไปตายโง่ ๆ

    ก็พากันตายหมด.. ทำไมชีวิตเธอต้องมาเจอพันธสัญญางี่เง่านี้..

    (ที่สำคัญ เธอก็จะพิพากษา 6คนนี้ ไม่ได้ด้วย น่าเจ็บใจที่สุด..)


    แต่เมื่อนันพยายามคิดอย่างมีสติ เธอก็เลิกหวั่นไหว.. เธอเชื่อว่า

    ปฏิหาริย์ของพระผู้สร้าง จะทำให้เธอรอดพ้นจากพันธะบ้า ๆ นี่..

    แต่ปฏิหาริย์ไม่ใช่เรื่องล้อเล่น.. เธอจึงจะไม่ละเลยพันธะอันนี้..

    (ไม่ประมาทว่า เธอจะรอดแน่ ๆ เธออาจเป็นมรณสักขีก็ได้..)


    .
    .
    .


    ..ด้วยพันธสัญญางี่เง่านั่น..

    นันจึงได้คลายความถือตัวลง(นิดหน่อย) พูดคุยดี ๆ กับคนอื่น ๆ

    โดยเฉพาะกับนาคิน ที่พิจารณาดี ๆ แล้ว ตั้งแต่มาอยู่ด้วยกัน

    นาคินเป็นคนที่ดูจริงใจที่สุด.. ความดีที่เธอทำ ออกมาจากใจ.. 


    นี่เป็นคนคนเดียวกับนาคินที่กินคนในครอบครัวตัวเองงั้นหรือ..

    แถมคำว่า ..อร่อยจัง.. ที่นาคินพูดในตอนที่กินในตอนนั้นด้วย

    ท่าทีที่แสดงถึงจิตใจอันวิปริตแบบนั้น.. จะเป็นคนดีได้ยังไง..

    .
    .
    .

    ..อย่างน้อย..

    " ขอพลังเนตรของฉันคืน..ได้โปรด.. "

    นันได้เอ่ยปากขอให้ GM คืนพลังเนตรที่สมบูรณ์ของเธอ..

    เธอละทิ้งศักดิ์ศรีของทูตสวรรค์ เพื่อร้องขอต่อจอมมาร..

    เพื่อขจัดความคาใจ ในบาปของเหล่าคนที่เธอผูกติดชีวิตด้วย..


    GMว่า พลังเนตรดั้งเดิมของนัน ไม่ใช่ของสมบูรณ์แบบ..

    ถ้าจะรับเอาพลังเนตรกลับไป เขาจะให้พลังเนตรที่เหนือกว่าเดิม..

    ไม่ใช่เนตรที่มองเห็นแต่บาปของผู้คน แต่จะเห็นความจริงทั้งหมด

    ต่อจากนี้ไป นันจะไม่ใช่แค่ตัดสินคนจากบาป แต่จะได้ตัดสินคน

    ด้วยน้ำหนักของความดีความชั่วทั้งหมด ในชีวิตของคนคนนั้น..


    ..นั่นจะทำให้การพิพากษา ไม่ใช่เรื่องที่มีเส้นทางเดียวที่ถูกต้อง..


    (รวมถึงภาระหนักที่จิตใจและร่างกายของนัน จะต้องแบกรับด้วย)

    (เหมือนคนที่เคยอ่านสรุปย่อนิยาย กลับต้องมาอ่านนิยายทั้งเล่ม)

    (และชีวิตคนคนหนึ่ง เป็นนิยายเล่มหนาราวกับหอคอยทีเดียว.. )


    ..พลังเนตรใหม่ของนัน อ่านชีวิตคนได้อย่างละเอียดยิบเกินไป..


    แต่นันก็พยายามตัดเอาแค่การกระทำที่มีน้ำหนักมากพอเท่านั้น..

    ปรับแต่งระบบของเนตร จนได้ความลงตัวของการชั่งน้ำหนักดีชั่ว..

    (จากการใช้ชีวิตร่วมกับทั้ง6คน นั่นแหละ ที่ช่วยเรื่องปรับพลัง)

    (ก็ยังไม่ใช่รูปแบบเนตรที่สมบูรณ์.. ได้ดีที่สุดที่ยังไม่ดีที่สุดแท้.. )


    ..อะไรที่เปลี่ยนไป จากการเห็นความเป็นจริงรอบด้าน..

    ..มันทำให้เรื่องการพิพากษา ยากขึ้นเยอะเลย..


    ตอนนี้นันไม่แน่ใจแล้วว่า ถ้าได้ดาบศักดิ์สิทธิ์คืนมา.. เธอจะเผา

    ทั้ง 6คน ที่อยู่บ้านหลังเดียวกันนี้ได้ไหม.. (แม้ไม่มีเรื่องพันธะนั่น)

    ทุกคนมีบาปหนักชัดเจน ..แต่ว่า.. ..มันไม่ยุติธรรม.. ..ไม่ถูกต้อง..


    ..นันกลายเป็นคนเลิกตั้งแง่กับคนบาปทั้ง 6 แต่ก็เหมือนเป็นคนที่

    ปิดกั้นความรู้สึกไว้ในใจ.. และไม่เอ่ยว่า ตนเป็นทูตสวรรค์อีกเลย..

    เหมือนความเป็นจริงบางอย่าง ไปกระทบต่อศรัทธาที่เธอเคยมี..

    (นาคินเป็นห่วงนัน แต่ก็ไม่อาจทะลวงกำแพงในใจของนันได้..)


    .
    .
    .


    ..นี่คงเป็น บทลงโทษของฉันสินะ..


    ด้วยพลังเนตรใหม่ ทำให้นัน รู้เรื่องที่ว่า เพื่อนร่วมทำงานอาสา

    ดูแลสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า ที่เธอสนิทด้วยนั้น เป็นลูกสาวของ

    หนึ่งในพันกว่าคน ที่เธอเคยฆ่าตายในคุก..


    สุดา ว่าเธอเข้าใจดีว่า พ่อของเธอเป็นคนไม่ดี แต่ว่าสำหรับเธอ

    พ่อเป็นพ่อที่ดีที่สุดสำหรับเธอ.. และนั่นก็เป็นความจริง..

    พลังเนตรของนัน ทำให้เห็นความรักของพ่อสุดาที่มีให้แก่สุดา..


    นันจำไม่ได้แล้วว่า บาปของพ่อของสุดา ที่ทำให้นันเผาเขาไป

    นั่นคือ บาปแบบไหน.. และไม่สามารถหาบาปของพ่อของสุดา

    จากตัวของสุดาได้..


    สุดาเอง ก็เป็นคนที่ไม่มีบาปหนัก ๆ ติดตัวเลย และนั่นทำให้นัน

    รู้สึกมีความสุขที่สนิทกับสุดา ก่อนที่จะมารู้ถึงเรื่องพ่อของสุดา..


    ..จากความสุขก็กลายเป็นความทุกข์ใจ..


    ยิ่งนันได้รู้ว่า จุดความรุนแรงของจิตใจหนึ่งเดียวที่สุดามี ก็คือ

    ความเคียดแค้นที่มีต่อ แองเจิล Xser ที่ฆ่าพ่อของเธอ..


    นันก็ไม่สนิทกับสุดาเหมือนเดิม.. แต่นั่นทำให้สุดาเข้าใจผิดว่า

    เป็นความผิดของสุดาเอง ที่ทำให้นันเปลี่ยนแปลงไป..


    ก็ต้องทำให้สุดาไม่คิดมาก ความเป็นเพื่อน ถูกรักษาไว้โดยที่

    นันเจ็บปวดอยู่ในอก สุดามีความสุข ที่นันกลับมาเหมือนเดิม..


    นันเล่าเรื่องนี้ให้ GMรู้ หวังให้GM เป็นคนช่วยย้ายงานให้นัน

    ได้ไปทำงานที่อื่น เป็นการจากลา ที่สุดาน่าจะยอมรับได้..


    แต่ GM ปฏิเสธ.. และให้นันอยู่รับบทลงโทษนี้ต่อไป..


    ..การได้อยู่กับสุดาเป็นความสุข แต่เป็นสุขที่เจ็บปวดข้างใน..


    .
    .
    .


    ..จนกระทั่งวันหนึ่ง..


    มี Xser เข้าโจมตีสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า ที่นันและสุดาทำงานอยู่

    ไม่ใช่ Xser ที่มีพลังมากมาย ถ้าเป็น แองเจิล ก็จัดการได้ง่าย ๆ


    แต่นันในตอนนี้มีพลังเหลือแค่ 1ใน4 แถมใช้ดาบศักดิ์สิทธิ์ไม่ได้..

    (ไม่ใช่เพราะกลัวสุดารู้ความจริง แต่โดนGMกดพลังไว้ นั่นละ)


    จึงตกในสถานการณ์ลำบาก.. ตัวนันจะหนีก็เป็นเรื่องง่าย ๆ แต่

    จะทิ้งสุดากับเด็ก ๆ ไปก็ไม่ได้.. การต่อสู้ที่นันเจ็บตัวข้างเดียว..


    จนกระทั่งนันกำลังจะถูกฆ่า.. อยู่ ๆ พลังของนันก็กลับมาเต็มร้อย..

    (กลไกที่GMวางไว้ทำงาน เมื่อนันตกอยู่ในสถานการณ์อันตราย)


    พลังเต็มกำลังที่กลับมา(ชั่วคราว) และดาบศักดิ์สิทธิ์ เพียงแค่

    การฟันโต้กลับครั้งเดียว Xserนั่น ก็ถูกไฟศักดิ์สิทธิ์เผาเป็นจุณ..

    (พลังของนันกลับไปเหลือ 1ใน4 หลังเหตุการณ์ร้ายผ่านพ้น..)


    สุดา ที่เห็นเหตุการณ์นั้น..

    เริ่มเดินเข้าหานัน อย่างช้า ๆ เหมือนคนที่สติหลุดลอย..


    " ..แองเจิล.. "

    " ..แองเจิล.. "

    " ..แองเจิล.. "


    สุดาพรึมพรำ จนไปหยุดที่ตรงหน้าของนัน..


    " ... "


    มือทั้งสองข้างของสุดา กำแน่นที่อกเสื้อของนัน..

    สายตาที่ทั้งเศร้า และโกรธแค้น.. น้ำตาที่เอ่อล้น..

    ทั้งหมดของสุดา จับจ้องไปที่ดวงตาของนัน..


    " ..นัน เธอคือ แองเจิล ใช่ไหม?.. "


    " ..แองเจิล ที่ฆ่าพ่อของฉัน ใช่ไหม!!?.. "


    " ... "

    " ..ใช่.. "

    " ..ฉัน คือ คนที่ฆ่าพ่อของเธอ สุดา.. "




    .
    .
    .
    ***จบตอนที่ 13 ครับ*** 
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×