ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    โรงเรียนศาสตร์มืดแห่งดาร์คแลนด์ (เปิดเทอม)

    ลำดับตอนที่ #18 : ชั้นที่ 1 ชั้นขุนนางผู้น้อย

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 1.83K
      0
      10 ธ.ค. 59

    ชั้นที่ 1 ชั้นขุนนางผู้น้อย

    สวัสดีเหล่า "ขุนนางผู้น้อย"
    หากเจ้าต้องการเป็นชนชั้นสูงผู้สง่างามแล้วไซร้
    ที่ห้องเรียนนี้ เจ้าจะต้องเรียนรู้ความเชื่อ
    ประวัติศาสตร์การก่อร่างสร้างเมือง
    ศิลปะ สถาปัตยากรรม จารีตประเพณี กฏหมาย
    ทั้งหมดทั้งมวลในดาร์คแลนด์
    ในชั้นเรียนนี้ หากเจ้าไม่เข้าใจอันใด สามารถถามได้ที่กล่องคอมเม้นด้านล่าง











    ภารกิจ

    ภารกิจ คือ สถานการณ์จำลอง เพื่อทดสอบทักษะของท่าน
    ในชั้นนี้ มีภารกิจทั้งหมด 4 ภารกิจ ท่านจะภารกิจเหล่านี้หรือไม่ก็ได้
    และเลือกทำกี่ภารกิจก็ได้

    โดยคะเเนนจากภารกิจที่ท่านทำ จะช่วยในการสอบเพิ่มระดับของท่าน
    และเมื่อทำภารกิจเสร็จสิ้น ท่านจะไ้ด้รับรางวัล
    ท่านสามารถเลือกทำ "ภารกิจ" ต่างๆดังนี้


    ภารกิจที่ 1
    ภารกิจที่ 4


    ข้อควรระวัง
    อนึ่ง ระว่างการเดินทางทำภารกิจของท่าน
    ท่านอาจจะต้องแวะตามสถานที่ต่างๆ และจำเป็นต้องโพสคอมเม้น
    เมื่อท่านโพสคอมเม้น  ไม่ว่าที่ใดก็ตามในดาร์คแลนด์
    ให้แนบบัตรประ
    นักเรียนศาสตร์มืดแห่งดาร์คแลนด์ด้้วยเสมอ
    และผลการทำภารกิจของท่าน จะปรากฏที่หอพักของท่าน ทุกวันศุกร์





    การสอบเลื่อนระดับ

    หากท่านศึกษาบทเรียนในชั้นนี้จนถ่องแท้แล้ว กรุณาทำข้อสอบ
    เพื่อสอบเพิ่มระดับ...เข้าสู่ ชั้นที่ 2 ชั้น "ลอร์ดเลดี้ที่เคารพ"
    หากท่านสอบผ่าน จะได้รับเหรียญตราให้เข้าเรียนในชั้นต่อไป


    คลิกเพื่อทำข้อสอบเลื่อนระดับสู่ชั้นต่อไป



    บทเรียนที่ 1 ประวัติศาสตร์ดาร์คแลนด์

    สวัสดีเหล่าว่าที่ขุนนางผู้น้อยทั้งหลาย (เดินอย่างสง่างามเข้ามาในห้องเรียน กวาดสายตามองนักเรียนทุกคนอย่างเยือกเย็น) บทเรียนที่หนึ่งนี้อาจจะน่าเบื่อเสียหน่อย ใครชอบวิชาประวัติศาสตร์ก็เเปลกคนแล้วล่ะ (ยกเว้นฉัน โฮะๆ) เอาล่ะ รู้ไหมว่าเหตุใดพวกเจ้าจำเป็นต้องเรียนวิชานี้ 

    หากพวกเจ้าใฝ่ฝันจะเป็นผู้ดีมีตระกูลสูงส่งน่ายกย่องในดาร์คแลนด์ ฝันจะได้รับหน้าที่ทรงเกียรติในสภาขุนนางชั้นสูง พวกเจ้าก็ต้องมีความรู้ด้านประวัติศาสตร์ดาร์คแลนด์ให้ได้สักครึ่งหนึ่งของฉัน

    ประวัติศาสตร์คืออะไร? ก็คืออดีตที่ถูกบันทึกและรวบรวมไว้ ยุคแห่งประวัติศาสตร์เริ่มต้นเมื่อมนุษย์รู้จักประดิษฐ์ตัวอักษรนั่นเอง ดังนั้นอดีตที่ไม่ถูกบันทึกไว้ เเต่ถูกบอกเล่าต่อกันมา จึงไม่ใช่ประวัติศาสตร์ เราเรียกกันว่า "ตำนานปรัมปรา "

    ในชั้นเรียนนี้จะมีหนังสือสองเล่มที่พวกเจ้าต้องศึกษา ก็คือ หนังสือที่รวบรวมทุกสรรพสิ่งในจักรวาลดาร์คแลนด์ (แม้แต้ใครตดก็บันทึกไว้) และ หนังสือประวัติศาสตร์ดาร์คแลนด์ รวบรวมโดย นายกรัฐมนตรีไบร์ ลูมินอส ซึ่งเป็นนักสำรวจคนแรกของดาร์คแลนด์ และเป็นบิดาแห่งประวัติศาสตร์ดาร์คแลนด์

    เอาล่ะ...ลองเปิดหนังสือประวัติศาสตร์ดาร์คแลนด์สิ สำหรับประวัติดาร์คแลนด์ที่เริ่มบันทึกเป็นลายลักษณ์อักษรเริ่มต้นเมื่อ 5000 ปีก่อนคริสกาล ซึ่งบันทึกเรื่องราวของตระกูลอันทรา ตระกูลเเรกที่สถาปนาดาร์คแลนด์ขึ้น

    แต่ตำนานปรัมปราดาร์คแลนด์ ซึ่งเล่าต่อกันมาถึง 25000 ปี เกี่ยวกับยมทูตทั้งห้าและมนุษย์คนแรกแห่งดาร์คแลนด์ เป็นเพียงตำนานเท่านัน ไม่จัดว่าเป็นประวัติศาสตร์ เพราะไม่มีหลักฐานบันทึกไว้

    สถานที่หลายเเห่งในดาร์คแลนด์มีเรื่องราวโบราณซ่อนเร้นอยู่ โดยเฉพาะที่ จัตุรัสดาร์คแลนด์ หากแบกจอบเเบกเสียมไปขุด อาจจะเจอเรื่องราวมากมายซ่อนอยู่ เมืองประวัติศาสตร์สำคัญของดาร์คแลนด์ คือ เเคว้นเนพีอา ซึ่งจัดเป็นเขตอนุรักษ์เมืองเก่า สำหรับศึกษาประวัติศาสตร์และวิถีชีวิตดั้งเดิม สามารถไปเดินเล่นได้นะจ๊ะ...แต่ระวังจะโดนนังงูพิษโจเซฟิน นางค้างคาวชาร์ม และนังผีเสื้อปีศาจมายาโรสไล่กัดเอาล่ะ หึหึหึ

    วิชาประวัติศาสตร์ จบเพียงเท่านี้ (ทรุดตัวนั่งลง) แต่อย่าลืมเชียวล่ะว่าประวัติศาสตร์เปลี่ยนแปลงได้...ตามหลักฐานที่ค้นพบ...

    และที่สำคัญ ตั้งใจทำภารกิจให้ดี โฮะๆ...หวังวาาจะรอดตายจากภารกิจ กลับมาเจอกันอีกนะ โฮะๆๆ
     (ยกพัดปิดหน้า )







    บทเรียนที่ 2 วัฒนธรรมจารีตประเพณีดาร์คแลนด์

    (รินชากุหลาบแจกขุนนางผู้น้อยทุกคน) บทเรียนที่สองนี้แสนจะง่ายดายเสียยิงกว่าง่าย จารีตประเพณีคืออะไร...สิ่งนั้นก็คือสิ่งที่ถูกสืบทอดต่อกันมายาวนาน เเละเห็นว่าดีงามคู่ควรที่จะสืบทอดต่อไป ไม่ว่าจะเป็นการเเต่งกาย, การปฏิบัติต่อกัน, มารยาท, พิธีกรรม, ความเชื่อ

    สิ่งเหล่านี้นี่เอง..ถือเป็นคุณค่าของชาวดาร์ค เป็นสิ่งที่บรรพบุรุษดาร์คคิดค้นขึ้นมา สมควรรักษาไว้ เพื่อเป็นมรดกแด่คนรุ่นหลัง สิ่งเหล่านี้ทำให้ชาวดาร์คมีความโดดเด่นเหนือชาติอื่นนั่นเอง

    จารีตประเพณีดาร์คมีมากมายมหาศาล...บางสิ่งอาจจะลบเลือนหายไปตามกาลเวลาบ้าง..แต่บางสิ่งยังคงเหลืออยู่

    จารีตเจ็ดประการของชาวดาร์คได้แก่


    1 การงับคอและดูดเลือดคือการทักทายโดยปกติของดาร์คแลนด์
    2 ชาวดาร์คมีความหลากหลาย มีทั้ง ผี วิญญาณ ภูติ ปีศาจ มนุษย์ เเละอื่นๆก็ตามเเต่
    3 ชาวดาร์ครักการท้าประลอง หากมีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือผู้ตาย ไม่ต้องรับโทษ หากทรัพย์สินใดได้รับความเสียหาย ให้ซ่อมเเซมจนคืนสภาพเดิม
    4 ชาวดาร์คแลนด์นิยมเเนะนำตัวเเละไปพูดคุยจิบน้ำชาในวันว่างที่ จัตุรัสดาร์คแลนด์ ถือเป็นธรรมเนียมปฏิบัติของชาวดาร์คแลนด์
    5 พิธีสำคัญของชาวดาร์คนิยมจัดที่มหาวิหารดาร์คแลนด์ เช่น ชุมนุมพระจันทร์สีเลือด ชุมนุมราตรีไร้จันทร์ ชุมนุมพระจันทร์เต็มดวง เป็นพิธีกรรมของชาวดาร์คที่สืบทอดกันมานาน
    6 ชาวดาร์คมีกีฬาสานสัมพันธ์ที่สืบทอดมาแต่บรรพบุรุษคือ อันได้แก่ ดาร์คแลนด์เกมส์ เเละ ดาร์คแลนด์คัพ เป็นกิจกรรมสานสัมพันธ์ของชาวดาร์คแลนด์ ควรแก่การเข้าร่วม
    7 แมวเป็นอาหารหลักของชาวดาร์คแลนด์ เป็นสัตวฺ์ที่สามารถนำมาประกอบอาหารได้





    ในชั้นเรียนนี้มีหนังสือสนุกๆ ให้อ่านเล่น

    ตำราหัดแต่งตัวหลอนแบบดาร์คแลนด์
    ตำราจารีตเจ้าแห่งแมว
    ตำราพิธีกรรมอำมหิต







    บทเรียนที่ 3 สภาพสังคมและ วิถีชีวิตชาวดาร์ค

    ชาวดาร์คแลนด์เท่าเทียมกัน ทุกคนถือเป็นพี่น้องโดยเสมอภาค ต่างมีเสรีภาพที่จะทำิ่งทีตนต้องการโดยไม่กระทบผลเสียต่อผู้อื่น

    ชาวดาร์ครักสงบ และ นิยมการอยู่คนเดียวเงียบๆ ในบ้าน หรือเฝ้ามองในมุมมืด ดูผู้คนสนทนากันอย่างเงียบเชียบ ที่จัตุรัส ปลีกวิเวก ห่างจากผู้คนทั่วไป

    ในขณะที่ชาวดาร์คอีกหลายส่วน รักสนุก พวกเขาชอบการละเล่น กลั่นเเกล้งกัน และนิยมทำธุรกิจที่บ้าน หรือท่องเที่ยวไปตามสถานที่ต่างๆ

    ชาวดาร์คบางส่วนมักเก็บกักตัวเองกับอารมณ์เบื้องลึกของจิตใจ เช่นความเศร้า ความสลดหดหู่ พวกเขามักจมดิ่งกับอารมณ์เหล่านี้จนแปลกแยกจากคนทั่วไป

    แม้จะมีบัญญัติให้ทุกคนเท่าเทียม แต่ลึกๆในดารคแลนด์ ยังมีสังคมชนชั้น

    นั่นก็คือ ชนชั้นสูง ได้เเก่ เหล่าขุนนางระดับสูง ชนชั้นกลาง ได้แก่ นักธุรกิจ เหล่าขุนนางระดับรองลงมา และข้าราชการทั่วไป เเละ ชนชั้นล่าง คือประชาชนธรรมดา

    ผลจากการมีสังคมชนชัน เป็นผลมาจากค่านิยมในอดีตที่ยังลบล้างไม่หมด ทำให้เรามักเห็นการกดขี่ข่มเหงผู้คนอยู่บ่อยครั้งในดาร์คแลนด์

    ดาร์คแลนด์มีทั้งหมดเจ็ดเเคว้น แต่ละเเคว้นจะมีสภาพวิถีชีวิตที่เเตกต่างกัน อาทิ
    เเคว้นรัตติกาลเป็นที่อยู่ของชนชั้นสูงผู้ร่ำรวยและมีหน้ามีตาในสังคม
    เเคว้นเนพีอา เป็นที่อยู่ของกลุ่มอำนาจเก่า หรือผู้ดีเ่ก่า
    แคว้นบลเลียมมอร์ธ เป็นที่อยู่ของนับรบและขุนนางผู้ซื่อสัตย์และจงรักภัคดี
    แคว้นไอร์กลาเซียร์เป็นที่อยู่ของเหล่านักปราชญ์ผู้ชาญฉลาด และรักสงบ
    แคว้นโพเทสต้า เป็นที่อยู่ของเหล่าปีศาจผู้รักสนุก และชื่นชอบความบันเทิงทุกรุปแบบ
    เเคว้นไฟร์ไอนิชเป็นที่อยู่ของเหล่าผู้ทรงเวทย์ที่นิยมฝึกพลังกันอย่างดุเดือด
    และเเคว้นเทียร์ดอลล่า เป็นที่อยู่ของเหล่าชาวดาร์คผู้รักสงบ

    ในชั้นเรียนนี้ แนะนำให้อ่าน
    คู่มือการใช้ชีีวิตในดาร์คแลนด์ รวมเล่ม ฉบับสมบูรณ์


    และท่านจะเห็นวิธีชีวิตชาวดาร์คดียิ่งขึ้น หากไปเยือนที่
    ย่านการค้า Dark Disen
    ซึ่งเป็นแหล่งรวมสินค้าแบบชาวดาร์ค





    บทเรียนที่ 4 ศิลปะดาร์คแลนด์


    การจะเป็นชนชั้นสูงที่ดีได้นั้น จะต้องมีความรู้ด้านศิลปะไม่มากก็น้อย
    ศิลปะ จะช่วยจรรโลงจิตใจของพวกเจ้าให้สูงส่งขึ้น
    ศิลปะจะช่วยบรรเทาความปวดร้าว และความโศกเศร้าในจิตใจ
    ศิลปะนั้นคือมิตรแท้

    อย่าคิดอะไรมาก... บทเรียนนี้ขอให้พวกเจ้าไป ไปเข้าร่วมศึกษา
    ที่นี่


    ในชั้นเรียนนี้ แนะนำให้ไปทัศนศึกษาที่
    พิิพิธภัณฑ์แห่งดาร์คแลนด์
    หอคอยวรรณกรรมดาร์คแลนด์
    หอคอยแห่งเสียงเพลง






    บทเรียนที่ 5 กฏหมายดาร์คแลนด์

    กฏหมาย เป็นสัญญาร่วมกันของประชาชน เพื่อที่จะได้อยู่ร่วมกันอย่างสงบสุข
    เพราะธรรมชาติของมนุษย์นั้น เมื่อมีเสรีภาพเต็มที่ อาจจะทำร้ายกันได้
    จึงต้องมีกฏหมายมาจำกัดเสรีภาพของมนุษย์
    เพื่อให้อยู่ร่วมกันโดยสงบสุข

    ในดารคแลนด์ก็มีกฏหมายเช่นกัน

    ในชั้นเรียนนี้ แนะนำให้อ่าน
    ประมวลกฏหมายแห่งดาร์คแลนด์




    บทเรียนที่ 6 การปกครองดาร์คแลนด์

    ดินแดนแห่งนี้มืดมิดซ่อนในม่านหมอกแห่งนี้ทุกคนเท่าเทียม เป็นพี่น้อง ปราศจากชนชั้น ประชาชนที่นี่พูดสิ่งที่คิดได้อย่างเสรี วิพากษ์วิจารณ์ผู้นำได้เต็มที่ เมื่อผู้นำของพวกเขาทำพลาด พวกเขาไม่โกรธเกลียด แต่ลงโทษเพื่อให้สำนึกรู้ว่าเจ้าของอำนาจคือประชาชน....พวกเขารักที่จะช่วยกันพัฒนา พวกเขามีความสุขเมื่อเห็นชาติเจริญ รัฐแต่ละรัฐล้วนปกครองตัวเองตามลักษณะถิ่นของพวกเขา ทีนี่มีคณะผู้นำที่มาจากการเลือกตั้ง คณะซึ่งไม่ได้มุ่งหวังอำนาจหรือการยกย่อง พวกเขาทำงานอยู่เบื้องหลังฉาก ความสุขของประชาและความเจริญของชาติคือคจุดหมายสำคัญ....น่าเสียดายที่ดินแดนนี้มืดมิดและซ่อนในม่านหมอก...คนนอกไม่อาจมาเห็น

    นี่คือคำพรรณาของชาวต่างชาติที่หลุดเข้ามาในดาร์คแลนด์ และตัดสินใจฝังร่างตัวเองที่นี่ โดยไม่กลับไปยังประเทศของเขาอีก

    ดาร์คแลนด์ปกครองโดยระบบประชาธิปไตยแบบสภา
    ซึ่งจะมีการเลือกตั้งปีละ 1 ครั้ง ในทุกวันที่ 28 เดือนพฤษภาคม
    โดยเเ่ต่ละพรรคการเมืองจะส่งผู้ลงสมัครเป็นผู้แทนเเคว้นทั้งหกในดาร์คแลนด์

    อย่างไรก็ตามดาร์คแลนด์เพิ่งเป็นประชาธิปไตยได้เพียงสามปี ภายใต้การปฏิวัติของเลดี้บลูโรส แห่งดาร์คแลนด์ ที่บุกยึดอำนาจเลดี้นัวร์แห่งดาร์คแลนด์ และควบคุมเลดี้นัวร์ฯไว้ในปราสาทมืด เพื่อมอบอำนาจอธิปไตยให้แก่ชาวดาร์คแลนด์ อย่างไรก็ตาม เลดี้นัวร์ก็ยังถือเป็นผู้นำสูงสุดของชาวดาร์คแลนด์ เพียงเเต่ปราศจากอำนาจทางการเมืองใดๆ

    ในอดีต ดาร์คแลนด์ปกครองแบบอำนาจนิยม คือมีเลดี้นัวร์เป็นผู้นำสูงสุด ทำให ถึงเเม้ทุกวันนี้ดาร์คแลนด์จะเป็นประชาธิปไตยเเล้ว แต่ชาวดาร์คก็ยังให้ความเคารพนับถือเเก่เลดี้นัวร์อยางสูงสุดจนใครก็ไม่อาจลวงละเมิดได้ ถึงกระนั้นเลดี้นัวร์ก็ไม่เคยเข้ามายุ่งเกี่ยวกับการเมืองของดาร์คแลนด์ และไม่กระทำตัวเป็นปริปักษ์กับรัฐบาล อีกทั้งยังเปิดโอกาสให้ประชาชนวิพากษ์วิจารณ์ผู้นำได้อย่างเต็มที่ ทำให้ดาร์คแลนด์ไม่มีการแบ่งฝักเเบ่งฝ่ายเป็นฝ่ายเจ้า เเละฝ่ายนายกรัฐมนตรี (เหมือนประเทศเทย)

    สำหรับดาร์คแลนด์ แบ่งเป็นสภาทั้งสามได้เเก่
    1 สภาปกครองสูงสุด ทำหน้าที่บริหาร  มีสองสภาย่อยคานอำนาจกัน ซึ่งแบ่งเป็น
    สภาฐานันดร(ฝ่ายขุนนางที่มาจากการเเต่งตั้ง)
    VS
    สภาสามัญชน (ฝ่ายนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรี และผู้แทนประชาชนที่มาจากการเลือกตั้ง)

    2 สภาความมั่นคงแห่งดาร์คแลนด์ ทำหน้าที่ปกป้องอาณาจักร แบ่งเป็น
    ฝ่ายกองทัพ ปกป้องอันตรายจากนอกอาณาจักร
    และฝ่ายผู้พิทักษ์ ปกป้องอาชญากรรมภายในอาณาจักร

    3 สภาตุลาการแห่งดาร์คแลนด์ ทำหน้าที่ควบคุมความยุติธรรม เเบ่งเป็น
    ศาลปกครองสำหรับติดสินคดีที่เกี่ยวจ้องกัขขุนนาง ข้าราชการ
    และศาลยุติธรรม สำหรับตัดสินคดีทั่วไป


    สำหรับปัญหาการปกครองของดาร์คแลนด์ จะพบได้ว่าเลดี้บลูโรสแห่งดารคแลนด์มีบทบาทอย่างสูงในดาร์คแลนด์ สื่อมวลชนเคยวิพากษ์ว่า แท้จริง อำนาจส่วนใหญ่ของดาร์คแลนด์ ยังอยู่ในมือของเลดี้บลูโรส ในฐานะประธานการปกครองสูงสุด แม้จะมีนายกรัััฐมนตรี แต่นายกรัฐมนตรีก็หาได้มีอำนาจสูงสุดไม่ หลายคนมองว่าเป็นการกีดขวางความเป็นประชาธิปไตยของดาร์คแลนด์ และพยายามเรียกร้องให้เลดี้บลูโรสลงจากตำแหน่ง ในขณะที่อีกหลายคนยังยืนยันว่าจำเป็นต้องมีเลดี้บลูโรส




    ในชั้นเรียนนี้ แนะนำให้ไปทัศนศึกษา หาความรู้เพิ่มเติมที่
    ปราสาทกลางแห่งดาร์คแลนด์








     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×