ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Stargon

    ลำดับตอนที่ #2 : Stargon--บทที่1(ตอนที่ 2)

    • อัปเดตล่าสุด 1 ต.ค. 48






                    “อะไรกัน  ขนาดพวกนั้นอยู่คนละห้องกันเขาก็รู้เหรอ  เขาคงไม่รู้อะไรมากกว่านั้นนะ  พวกนั้นคงไม่ถึงขนาดทำให้คนอื่นจับได้นี่นา  ถ้าเป็นนักเรียนธรรมดาทั่วไปล่ะก็ไม่มีทางจับได้แน่ๆ”

      

        แล้วความคิดของเธอก็ถูกขัดโดยเสียงเรียกของพวกเพื่อนๆในห้อง  “ริน!!” อาจารย์เซร่าเห็นว่าเธอรู้ตัวแล้วจึงพูดว่า “มีอะไรรึปล่าว”



                    “…ไม่ค่ะ”  เธอตอบด้วยเสียงปกติก่อนที่อาจารย์เซร่าจะหันไปพูดกับคนในห้องอีกครั้ง  “คะแนนสอบของพวกเธอทุกคนตอนนี้ครูส่งไปให้ทุกเครื่องแล้วรวมทั้งอีเมลล์ด้วย  เปิดดูได้เลยนะจ๊ะ”

                    ตามมาด้วยเสียงตอบรับจากนักเรียนบางส่วนแต่บางคนก็ไม่สนใจที่จะเปิดดู หรือบางตนอาจจะกลัวจนไม่กล้าเปิดต่างหากล่ะ!!



                    ชอน ที่นั่งอยู่ข้างหน้าโต๊ะเรียนของเธอหันมาส่งสายตาเป็นเชิงถามว่า ‘มีอะไรรึปล่าว’  

                    รินซึ่งรับรู้ถึงคำถามที่ส่งผ่านมาทางสายตาของชอนเธอจึงกระซิบด้วยเสียงที่เบามาก ริมฝีปากของเธอแทบไม่ขยับแม้แต่น้อย “เดี๋ยวค่อยคุยกัน” ตอบก่อนจะหันไปที่ชายคนที่นั่งอยู่ข้างๆด้วยสายตาสงสัยแต่เขาก็ไม่ได้มีสายตาแปลกๆหรืออะไรตอบกลับมาและพูดด้วยเสียงกวนๆเหมือนเช่นเคย “ไม่กล้าเปิดดูคะแนนหรือไง”



                    รินไม่โต้ตอบอะไรเธอหันกลับไปเปิดเข้าไปที่เมล์ของเธอจากโน้ตบุ๊คที่วางอยู่ตรงหน้าเช่นเดียวกับคนอื่นก่อนจะเปิดเมล์ที่เป็นหัวข้อว่า ‘ผลการสอบรายวิชาคณิตศาสตร์ครั้งที่ 4’



                    “80 เหรอ” เสียงกวนดังขึ้นอีกครั้ง  “ฉันชนะ”  เขาบอกพร้อมกับชี้ไปที่หน้าจอโน้ตบุ๊คของเขาที่ได้คะแนน 98 จาก 100

        “ฉันจำไม่ได้ว่าฉันแข่งกับเธอเรื่องนี้นะ  เทนรี่”  รินพูดเรียบๆแล้วหันกลับไปที่หน้าชั้นเรียน  ‘หรือเราจะคิดมากไป  ดูท่าแล้วเขาก็ไม่น่ารู้อะไรนี่นา’



        แล้วชั่วโมงนี้ก็จบลงอาจารย์เซร่าฝากให้ชอนไปบอก เรวิน ให้ด้วยว่า ‘ให้เขาเปิดดูคะแนนของตัวเองและถ้าเป็นไปได้ก็ให้เขาช่วยหาเวลามาเรียนเสริมด้วย’    รินแอบยิ้มกับคำสั่งนี้ของอาจารย์เซร่า  ชอนเองก็พยายามที่จะไม่แสดงท่าทาง ’จริงๆ’ ของเขาออกมาต่อหน้าอาจารย์เซร่ากับเพื่อนๆ เช่นกัน



        ช่วงพักกลางวันก็มาถึง  เรวิน ได้ไม่กลับมาตลอดการเรียนในภาคเช้า ซึ่งรินและชอนก็ไม่ได้แสดงท่าทีเดือดร้อนอะไร   ตอนนี้พวกเขาเดินออกจากตึกคณิตซึ่งเป็นอาคารเรียนของปีหนึ่งและกำลังเดินตรงไปยังอาคารที่อยู่ไกลออกไปโดยที่ไม่ได้มองไปทางโรงอาหารที่นักเรียนส่วนมากจะอยู่กันในเวลานี้  พวกเขากำลังจะไปที่อาคารอาร์ติเคิล ซึ่งเป็นอาคารเกี่ยวกับวิชาศิลปะเป็นส่วนมาก และมีผลงานศิลปะมากมายประดับตกแต่งอยู่ในอาคารนี้  แต่ที่นี่มักจะถูกเรียกว่า ‘ตึกอาถรรพ์’  เนื่องจากในแต่ละวันผู้ที่มาใช้อาคารมักจะทำของหายโดยไม่ทราบสาเหตุ…และของที่หายไปนั่นก็จะไปอยู่ ณ อาคาร Olina Math ซึ่งเป็นอาคารเกี่ยวกับวิชาคณิตหรืออาคารของนักเรียนปีหนึ่งที่อยู่ห่างออกไปนั่นเอง   ด้วยเหตุนี้ นักเรียนส่วนใหญ่จึงพยายามอย่างยิ่งที่จะหลีกเลี่ยงไม่เข้ามาในตึกอาถรรพ์นี้ถ้าเป็นไปได้  แต่ก็ยังมีนักเรียนบางส่วนที่เข้าออกที่นี่โดยไม่รู้สึกอะไร  ในชั้นสิบสามชั้นบนสุดของอาคารนี้จะมีห้องอยู่หนึ่งห้อง ซึ่งนั่นเป็นห้องที่ถูกปิดตายไว้นานเป็นปีแล้วเนื่องจากกุญแจห้องที่เคยอยู่กับอาจารย์ใหญ่นั้นหายไป…หายไปเพราะอะไรนั้นก็ไม่มีใครตอบได้ และไม่มีใครคิดจะเปิดห้องนี้เพราะแม้แต่อาจารย์ใหญ่เองที่มาใช้ห้องนี้บ่อยๆตอนที่กุญแจห้องยังอยู่ก็ไม่คิดที่จะเข้าไปในห้องนี้เลย และมันก็เป็นห้องธรรมดาๆที่ไม่ได้มีอะไรที่สำคัญเก็บไว้ซะด้วย  ชอนและรินกำลังตรงไปที่นั่น…ชั้นสิบสามของตึกอาถรรพ์ !!



        

        “ชอนได้คะแนนเท่าไหร่น่ะ” รินถามระหว่างเดินไปกับชอน

        “95” ชอนตอบเรียบๆ

        “อือ…เหรอ  ดีจังนะ”  รินพูดเรียบก่อนจะพูดอีกประโยคซึ่งต่างจากประโยคเมื่อครู่โดยสิ้นเชิง “นี่ทำไมชั้นต้องแพ้เทนรี่ทุกทีเลยนะ ไม่เข้าใจเลย!!”

        “….ทุกทีเหรอ” ชอนทวนคำถามแล้วพูดต่อ “อื้ม ชั้นก็เห็นว่า เทนรี่ชนะเธอทุกทีแหล่ะ ไม่ว่าจะเป็นวิทย์หรือคณิต”

        “อย่าตอกย้ำได้มั๊ย” รินหันไปหาชอนซึ่งตอนนี้เขาหันกลับไปมองทางข้างหน้าแล้ว



        __________________________________________________________________





        “มาร์คัส  โซเฟีย”  รินและชอนเรียกผ่านประตูไม้ที่มีลายเพกาซัสสลักไว้อย่างสวยงาม  …หลังจากที่เงียบไปสักครู่ประตูก็ถูกเปิดออกโดยหญิงสาวผมยาวประบ่าสีน้ำตาลทอง ดวงตาสีน้ำตาลเข้มของเธอกำลังมองมายังพวกเขาทั้งคู่



        “หวัดดี โซเฟีย”  รินและชอนทักอย่างร่าเริงตามแบบฉบับ ^^

        “หวัดดี…ฉันคิดว่าพวกเธอคงไม่ตามมาแกล้งเรวินกันอีกใช่มั๊ย ” เธอทักตอบตามมารยาท  และถามพวกเขากลับด้วยเสียงเข้ม พร้อมกับเดินนำเข้าไปในห้องโดยไม่รอคำตอบ

        รินและชอนมองหน้ากันแต่ไม่พูดอะไร พวกเขาเดินยิ้มน้อยๆผ่านประตูเข้าไปและชอนก็ปิดมัน



        ทั้งคู่เดินเข้าไปในห้องกว้างสีขาว มีลวดลายสีอ่อนตามผนังห้อง ในห้องมีเฟอร์นิเจอร์หลายอย่างที่ทำให้ดูไม่เหมือนกับเป็นห้องเรียนเลยแม้แต่น้อย ทั้งโซฟา  โต๊ะรับแขก  รูปภาพประดับ  โคมไฟ เครื่องใช้ไฟฟ้าและอื่นๆอีกมากมายแต่ไม่มีพวกโต๊ะนักเรียนเลย   โซเฟียซึ่งเป็นคน ‘เลือก’ ห้องนี้ให้เหตุผลว่า ‘มันอาจจะเป็นห้องสำหรับพักผ่อนของอาจารย์ใหญ่ก็ได้นะ  …เขาไม่เคยเคร่งอะไรอยู่แล้วนี่นา’  



                    “หวัดดี มาร์คัส”  รินทักชายหนุ่มผมสีดำสนิท ที่กำลังนั่งอยู่ที่พื้นพิงกำแพงและมีหมอนที่ค่อนข้างจะใหญ่กว่าหมอนปกติสีดำตัดกับสีแดงพิงอยู่ที่หลัง  เขากำลังอ่านหนังสือเล่มเล็กๆเล่มหนึ่งซึ่งถือว่าเป็นเรื่องน่าประหลาดมากทีเดียว ที่เขาจะนั่งทำในสิ่งที่เขาคิดว่าเขาไม่ชอบและไม่คิดอยากจะทำ



        “หวัดดี” ชายหนุ่มที่ชื่อว่ามาร์คัสเงยหน้าขึ้นจากหนังสือเล็กน้อย ก่อนจะหันกลับไปที่หนังสือเช่นเดิม

        รินมองอย่างแปลกใจเช่นเดียวกับชอนที่เพิ่งจะเดินเข้ามาเห็นอากัปกริยาของมาร์คัส  แต่เมื่อพวกเขามองไปเห็นเรวิน สีหน้าสงสัยก็เปลี่ยนไปเป็นรอยยิ้ม  พวกเขากำลังคิดเรื่องเดียวกัน…เรื่องที่อาจารย์เซร่าฝากมาบอกเรวินแต่เขาจะบอกยังไงล่ะในเมื่อ โซเฟีย หญิงสาวผมสีน้ำตาลทองคนนั้นกำลังบ่นเรวินอยู่ไม่เรื่องใดเรื่องก็หนึ่ง  เธอเป็นนักเรียนปีสองและดังพอควรในหมู่นักเรียน  เธอเป็นคนสวย ฉลาดแต่ข้อเสียหนึ่งในไม่กี่เรื่องของเธอก็คือ  ..ขี้บ่น



        “ปล่อยให้เขาโดนบ่นไปอีกพักดีมั๊ย”  รินหันมาหาชอน ชอนรู้ดีว่า \'เขา\' ในที่นี้หมายถึง \'เรวิน\'

        “ตามใจก็แล้วกัน  ฉันเบื่อที่จะแกล้ง เรแล้วล่ะ” ชอนบอกรินแล้วหันไปนั่งใกล้ๆกับมาร์คัส

        “แต่ฉันจะบอกให้นะ ว่าโซเฟียบ่นเรื่องของตัวเองอยู่ล่ะ” มาร์คัสพูดระหว่างที่ชอนกำลังนั่งลงช้างๆ

        “เรื่องของตัวเอง” รินทวนคำทำหน้าสงสัยไม่แพ้ชอนเช่นกัน “เรื่องอะไรเหรอ”

                    “ก็เรื่อง…” ขณะที่มาร์คัสกำลังจะอธิบายให้ฟังเสียงของโซเฟียก็ดังแว่วมาพอให้ริน ชอน และมาร์คัสฟัง

                    “โธ่เอ๊ย” เสียงหญิงสาวโวยวายอย่างไม่พอใจเท่าไหร่นักลอยข้ามห้องมา “ทำไมอีตาบ้านั่นต้องหาเรื่องด้วยนะ”



                    ประโยคที่ได้ยินนั้นกลับทำให้รินและชอนงงเข้าไปอีกจนมาร์คัสต้องยิ้มน้อยๆแล้วอธิบาย

                    “ก็ที่ห้องโซเฟียน่ะ วันนี้มีการเปลี่ยนที่นั่ง แล้วเคธน่ะ อยู่ดีดีก็ขออาจารย์ว่าจะนั่งกับโซเฟียล่ะ”

                   “เคธเหรอ” รินทวนคำด้วยสีหน้างงงง

                   “รินเธอจะบอกว่าไม่รู้จักเคธหรือไง” มาร์คัสถาม

                   “อย่าเรียกว่าเคธสิ  ต้องเรียกว่า มิสเตอร์เซ่อซ่า รินถึงจะจำได้” ชอนเอ่ยขึ้นแล้วหันไปทางริน “ใช่มั๊ยล่ะ”

                   “อ๋อ”  รินพูดเมื่อนึกขึ้นได้ “นายแว่นนั่นนะเหรอ เข้าใจแล้วล่ะ…ปล่อยไว้สักพักจะดีกว่ามั๊ง”



        “นี่ฉันว่าจะไปซื้ออะไรมาให้กินหน่อยน่ะ  อยากกินอะไรกันล่ะ”  รินถามขึ้น

        “ฉันว่าฉันจะไปด้วยนะ ริน”  มาร์คัสพูดขึ้นพร้อมกับลุกขึ้น  เขาเก็บหนังสือเล่มเล็กนั่นไปแล้ว

        “ตามใจสิ”  รินบอกแล้วหันไปหา เรวิน กับ โซเฟีย เพื่อถามพวกเขา



        รินกับมาร์คัสก็ออกไปจากห้องในครู่ต่อมา  พร้อมด้วยชอนที่ตามพวกเขาออกมาด้วย

        “ฉันว่าถ้าฉันไปด้วยจะสนุกกว่านะ” ชอนบอกเมื่อเห็นสายตาสงสัยสองคู่ที่จ้องมายังเขา

        “สนุกตรงไหนกันล่ะเนี่ย” มาร์คัสพูดพึมพำ

        “มาร์คัส  นายน่ะ…ใจร้ายจังเลยนะ” ชอนแกล้งพูดแล้วแสร้งทำท่าเสียใจ

        “โทษทีฉันว่าฉันจะปิดประตูแล้วนะ”  โซเฟียขัดจากข้างในห้อง   ชอนกับมาร์คัสจึงขยับออกมาให้พ้นแล้วโซเฟียก็ปิดประตูดัง ปัง! ใส่หน้าพวกเขาทันที





        ทั้งสามเดินไปทางโรงอาหาร  ระหว่างทางมาร์คัสก็พูดขึ้นเพื่อเตือนความจำริน  “วันนี้ตอนบ่าย รินต้องอยู่ตึกนี้นะ”

    “จำได้อยู่แล้วล่ะน่า อย่าห่วงเลยมาร์คัส”  รินบอกขณะที่ชอนนึกอะไรบางอย่างขึ้นมาได้เขาพูดขึ้น “รินเมื่อเช้าที่ห้องเธอเป็นอะไรน่ะ”    



                    “เอ๋”  รินทำหน้าสงสัยก่อนที่จะนึกออก  “อ๋อ….นั่นน่ะเหรอ  ไม่มีอะไรหรอก  สงสัยฉันจะเข้าใจผิดน่ะ”  เธอตอบแต่เธอยังเห็นชอนทำหน้าสงสัยอยู่และมาร์คัสก็ทำหน้าสนใจ เธอจึงพูดว่า “ก็ได้ๆ  ฉันจะบอกพวกเธอ”   เมื่อเธอเล่าจบมาร์คัสก็พูดขึ้น  “ไม่แปลกนี่  ถ้า นายเทนรี่นั่นจะรู้ว่าเราโดดกันประจำเขามีเพื่อนต่างห้องเยอะนี่”

                    

                    “ฉันไม่รู้สิ…บางทีเขาอาจจะรู้อะไรจริงก็ได้แต่ไม่ใช่อะไรที่ร้ายแรงหรอก” ชอนพูดเมื่อทั้งรินและมาร์คัสหันมาที่เขาอย่างถามความเห็น



        “อ๊ะ  ว่าแต่มาร์คัสเมื่อกี้อยู่ๆทำไมเกิดสนใจอ่านหนังสือล่ะ” รินถามอย่างแปลกใจ

        “อ่านข้อมูล ‘ของ’ น่ะที่เก็บไว้ได้ในสองเดือนนี้”  มาร์คัสตอบ “ตอนนี้ได้ราวๆสักหกสิบชิ้นแล้ว”

        “ฉันก็อุตส่าห์นึกว่าอยู่ดีๆเธอก็ขยันอ่านหนังสือ มาร์คัส” รินพูด

        “ฉันไม่ขยันอ่านหนังสือหรอกอย่าห่วงเลย” มาร์คัสบอกสบายๆ



                    “…หกสิบชิ้นเหรอ  เราขยันกันมากไปแล้วมั๊ง” ชอนพูดซึ่งทั้งรินและมาร์คัศก็เห็นด้วย

        





                    “นี่” รินพูดขึ้นที่หน้าตู้สีเหลี่ยมขนาดใหญ่กว่าตัวคนสีแดงหลังจากที่เธอเปิดกระเป๋าสตางค์ของเธอดูแล้ว “ฉันจะบอกว่า…ฉันลืมเอาบัตรมาน่ะ”

                   “ไปวางไว้ไหนล่ะริน” มาร์คัสถาม

                   “นั่นสิ  เธอก็รู้ว่าบัตรนี่จะได้ใช้บ่อยมากในโรงเรียนนี้ อย่างเช่น.. เธอจะไม่ได้กินอะไรเลยถ้าไม่มีพวกเรา” ชอนบอกแล้วหยิบการ์ดทรงสี่เหลี่ยมสีดำพาดด้วยสีขาวขึ้นมาก่อนจะไปจัดการซื้อขนมที่ตู้ขายของนั้น

                   “งั้น ฉันไปซื้อที่นั่นก่อนก็แล้วกัน” มาร์คัสบอกแล้วเดินตรงไปที่ร้านเล็กๆที่เรียงรายกันอยู่เต็มด้านหนึ่งของโรงอาหาร โดยมีรินตามมาด้วย

                  “กินอะไรดีล่ะ” มาร์คัสถาม

                  “อย่าซื้ออะไรที่เก็บลำบากก็แล้วกัน” รินพูดเตือนมาร์คัส

        

        ครู่ต่อมาทั้งสามก็นำของที่ซื้อมายัดลงในเป้ที่รินเอาลงมาด้วยไว้ พวกเขาคงไม่ถึงกับเดินถือของกินไปที่อาคารเรียนให้อาจารย์จับได้ง่ายๆหรอก



        ระหว่างทางที่จะกลับไปยังตึก Magic Art นั้นพวกเขาได้พบกับคนกลุ่มหนึ่งซึ่งมีเทนรี่อยู่ในวงนั้นด้วย โดยหนึ่งในนั้นมี ‘เคธ’ ตัวการที่ทำให้โซเฟียอารมณ์เสียอยู่ข้างบนเมื่อครู่ด้วย บางคนเป็นพวกประธานนักเรียนและแน่นอน ไม่มีใครเลยที่พวกเขาทั้งสามไม่รู้จัก  บางทีพวกเขาอาจจะรู้จักคนทั้งโรงเรียนทั้งๆที่ยังไม่เคยเข้าไปพูดด้วยเลยก็ได้  



        “พวกนายมาทำอะไรที่นี่” เสียงของเทนรี่ดังขึ้น แต่เมื่อรินทำท่าจะเถียงอะไรออกมาสายตาของเทนรี่ก็หันไปมองเธอกับชอน  “โดยเฉพาะเธอ สองคน…ไม่มีเรียนที่นี่ไม่ใช่หรือไง”









    to be con....

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×