ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    คำประกาศของความรู้สึกใหม่

    ลำดับตอนที่ #13 : nice night

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 5.63K
      286
      28 เม.ย. 59




    13 nice night





    อินมันเล่นอะไรของมัน พูดตรง ๆ ผมรู้สึกไม่ไว้ใจเอาเสียเลยตอนที่มันกลับมาเคาะห้องแล้วทำหน้าสลดบอกว่ากุญแจห้องหาย 
    หลังกลับจากจตุจักรผมกับมันไปหาอะไรกินกันต่อที่ศูนย์การค้าไม่ไกลจากที่เดิมนัก ก่อนโดนบังคับดูหนังที่คนต่อคิวกันยาวเหยียด กว่าจะได้กลับบ้านก็ราว ๆ เที่ยงคืน นึกยังไงก็นึกไม่ออกว่ากุญแจคอนโดมันจะหล่นหายไปตอนไหน ที่สำคัญคือกุญแจรถกับคีย์การ์ดก็ยังอยู่ครบสงบดีในกระเป๋ากางเกงนักศึกษาสีดำสนิทของมัน


    มึงแน่ใจนะว่าหายจริง ๆ”

    ผมถามพลางท้าวแขนกับเคาท์เตอร์ครัว อินทรียืนเทน้ำอยู่ใกล้ ๆ ทำหน้าตาเหรอหรา “หายจริง ๆ หาทุกที่แล้ว ยูจะค้นตัวผมก็ได้นะ”

    ถุย กูไม่ได้หมายความว่ามึงหาไม่ดีเว้ย แต่พฤติกรรมของมันไม่น่าไว้ใจ นึกออกไหมครับ ทำไมต้องกุญแจคอนโด และทำไมต้องถ่วงเวลาจนกลับมาดึกดื่นจนนิติบุคคลที่คอนโดกลับบ้านกลับช่องไปเรียบร้อยแล้ว


    ทำท่าระแวงอย่างกับผมไม่เคยมานอนที่คอนโดยูงั้นแหละ”

    ไอ้เคยน่ะมันก็เคย แต่ไม่รู้ทำไมครั้งนี้ผมรู้สึกร้อน ๆ หนาว ๆ ชอบกล อาจเป็นเพราะรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ หรือดวงตาหลุกหลิกแพรวพราวคู่นั้นที่ทำให้ผมรู้สึกไม่ปลอดภัย พยายามคิดว่าไม่มีอะไรแต่พอสบตาเข้าทีไรก็ขนลุกเกรียวขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้


    ทำไมมึงไม่ไปนอนกับเพื่อน”

    ถ้าจะรังเกียจกันขนาดนั้นผมไปก็ได้”

    ผมคว้าแขนมันไว้ กันที่จริงก็ไม่ได้ขนาดนั้น จะนอนที่นี่ก็ไม่มีปัญหาอะไร อย่างอินทรีถึงจะกวนตีนแค่ไหนมันก็ไม่ได้เลวร้ายขั้นที่จะสามารถจี้ปล้นกันลง ผมพยายามไม่นึกถึงเรื่องใช้กำลังในการบังคับขืนใจอะไรทำนองนั้นแม้ลึก ๆ แล้วเรื่องที่กังวลอยู่คือเรื่องที่ว่าจริง ๆ ก็ตาม 


    จะค้างก็ไปอาบน้ำอาบท่า ผ้าเช็ดตัวกับชุดนอนอยู่ในตู้ ไปรื้อเอาเลย” 

    ผมไล่ พยายามข่มใจว่ามันมีมือมีตีนผมเองก็มี ถึงอินทรีจะตัวใหญ่กว่าแต่ผมก็มีศาสตร์ความรู้เรื่องการต่อสู้เหมือนกันใครจะยอมให้มันหยามง่าย ๆ  ละวะ ถ้ามันคิดจะทำมิดีมิร้ายผมนี่แหละจะพลิกมึงทำเมียก่อนที่จะเสียเชิงชาย อินทรีพยักหน้าแข็งขัน วางเหยือกน้ำกลับเข้าไปในตู้เย็นก่อนปลีกตัวเข้าไปในส่วนของห้องนอน ผมลอบถอนหายใจยาวพลางยกมือขึ้นลูบหน้าผากลงมายันจมูก

    ที่จริงแล้วมันก็ดูไม่มีอะไร
    ทำไมกูถึงมีความคิดสัปดนอย่างนี้ขึ้นมาได้วะครับ




    เสียงโทรทัศน์ดังขึ้นหลังจากผมหายเข้าไปในห้องน้ำไม่นาน ออกมาอีกครั้งเห็นแขกไม่ได้รับเชิญนั่งเปิดกล้องดูวีดีโอที่ผมพยายามนำเสนอไปช่วงบ่ายอยู่สบายใจเฉิบ ที่รู้เพราะได้ยินเสียงบับเบิ้ลเห่าระงมสลับกับเสียงของน้องชายคนเดียวที่ช่วยปรามเมื่อสัตว์หน้าขนพยายามเลียหน้ากล้องผมให้ได้ อินยิ้มทั้งตาและปากทำให้คนที่ลอบมองอย่างผมเผลอยิ้มตามไปด้วย กระทั่งมันหันกลับมาผมถึงได้สะดุ้งโหยงหลบตาเป็นพัลวัน


    สระผมด้วยเหรอ” มันทัก แหงนคอมามองผมก่อนกลับไปสนใจกล้องในมือต่อ ผมพยักหน้าแล้วเดินผ่านโซฟาที่มันนั่งไปไม่ลืมจะเอามือระผมเส้นเล็กของมันไปด้วย 

    มึงผมแห้งแล้วนี่” 

    อินทรีพยักหน้า ตอนแรกมันก็ออกจากห้องน้ำหัวก็หยำแหยะสภาพเดียวกัน แต่อาจเป็นเพราะทรงที่สั้นกว่าทำให้เวลาไม่นานที่ผมใช้ห้องน้ำ อินก็สามารถเสกให้ผมเปียก ๆ ของมันให้แห้งสนิทปลิวลมได้ ส่วนผมเองที่ไว้ทรงยาวจนระปกเสื้อด้านล่างต้องใช้เวลาเป่าไดร์นานหน่อย วันนี้อินไม่ได้ลุกมาช่วยเช็ดหัวให้เหมือนครั้งก่อน แต่วางกล้องลงและมองผมที่นั่งอยู่หน้าโต๊ะเครื่องแป้งอย่างสนอกสนใจ บนโต๊ะมีไดร์ที่ถูกใช้ก่อนหน้านี้วางพันกับสายไฟอยู่ ไม่ไกลกันนั้นเป็นน้ำหอมที่อินซื้อให้ถูกวางทิ้งไว้ในมุมที่ไม่สะดวกหยิบ ฝุ่นเขรอะจนเป็นหลักฐานให้เจ้าของที่แท้จริงของมันบ่นกระปอดกระแปด น้อยอกน้อยใจทุกครั้งที่เห็นว่าของ ๆ มันถูกละเลยมากแค่ไหน


    รอยที่บ่าจางลงแล้วนี่” 

    เสียงทุ้มเอ่ยทักทำให้ผมเลื่อนสายตาไปยังจ้ำแดงที่ยังเจือรอยช้ำจาง ๆ จากคมเขี้ยวของอีกฝ่ายที่ฝากฝังไว้เมื่อหลายวันก่อนโดยอัตโนมัติ ผมหน้าร้อนฉ่าขึ้นมาทันทีแต่ก็แสร้งทำเป็นไม่ใส่ใจอะไร อันที่จริงแล้วเมื่อวานลืมตัวถอดเสื้อตอนอยู่บ้าน ไอ้โยก็แซวไปรอบ โชคดีที่มีแค่รอยเดียวผมเลยโยกโย้ไม่ยอมรับง่าย ๆ ว่าเป็นรอยดูดจากคนที่มันก็รู้ว่าใคร 


    ทำย้ำอีกรอบได้ป่าว”

    ทะลึ่งละ”

    ผมยังทะลึ่งมากกว่านี้ได้อีกนะ” 

    คนพูดกล่าวยิ้ม ๆ ใช้เวลาไม่ถึงนาทีมันก็เดินมาคร่อมผมจากด้านหลัง ใบหน้าหล่อเหลาโน้มลงมาวางคางแหลมลงบนบ่า สอดมือผ่านเก้าอี้มากอดเอวเปลือยเปล่าผมอย่างอุกอาจ เราสบตากันในกระจก ก่อนผมจะเบือนหน้าหนีเมื่ออินทรีก้มลงจูบที่หัวไหล่ทั้ง ๆ ที่ตากลมยังไม่ขยับไปไหน
     

    ไปไกล ๆ เลยไป นัวเนียอะไร น่ารำคาญ”

    ปากแข็ง”

    หน้าแข้งกูก็แข็ง จะลองไหม” อินทรีหัวเราะแต่ยังไม่ยอมปล่อย “ผมก็แข็งนะ อยากรู้ไหมว่าอะไร”

    หื่นว่ะไอ้อิน”

    ผมแกล้งเปิดลมร้อน ๆ ของไดร์พ่นใส่หน้ามัน อินทรีเอียงคอหลบนิดเดียวก่อนคว้ามือผมเอาไว้ “ร้อนน่า เล่นอะไรเป็นเด็ก ๆ”

    มึงสิเด็ก เด็กแก่แดด”

    คนถูกด่าไม่สะทกสะท้านอะไร ยังมีหน้ามาฉวยเอาจมูกมาชนแก้มผมก่อนผละออกมายืดตัวตรงเต็มสัดส่วน แขนยาวท้าวแขนกับพนักพิงเก้าอี้แต่ไม่ได้ลงแรงมาก ตาหวานเชื่อมมองผมอย่างคนเจ้าชู้และเป็นผมเหมือนเคยที่เฉไฉไปทำอย่างอื่นกระทั่งหมดธุระก็ลุกขึ้นยืนไปรื้อเสื้อผ้าในตู้มาสวม ปกติแล้วผมชอบใส่ชุดสบาย ๆ นอน จำพวกเสื้อกล้ามกางเกงบ็อกเซอร์แต่ไม่รู้ทำไมจู่ ๆ ก็หยิบชุดนอนที่เป็นเสื้อกางเกงขายาวมาสวมโดยอัตโนมัติ ทว่ายังไม่ทันได้คลี่ชุดที่พับเอาไว้เรียบร้อยออกผู้ขออาศัยก็ยื้อชุดผมไปจากมือเสียก่อน


    ทำไมต้องแต่งตัวมิดชิดขนาดนี้ด้วย”

    ก็มึงมันอันตราย”

    ระแวงแบบนี้ คิดอะไรกับผมอะดิ” ผมเกลียดการกระเซ้าด้วยรอยยิ้มของคนรู้ทัน อินทรียักคิ้วขึ้นข้างเดียวกวนประสาทผมเลยถือโอกาสที่มันกำลังแหย่เพลิน ๆ ดึงเสื้อผ้ากลับมาเป็นผลสำเร็จ


    สวดมโนสามจบแล้วไปนอนเถอะ ไอ้หนู”

    มโนอะไรเล่า รู้ดีอยู่แก่ใจ ผมเห็นหมดแล้วเหอะ”

    อินทรีตอบพลางปรายตาไปยังกล้องถ่ายรูปที่เจ้าตัวซื้อมาให้ ฉับพลันหัวใจผมก็หล่นวูบไปกองที่ปลายเท้า ลืมไปเสียสนิทว่าวันนี้ที่ออกไปถ่ายรูปกันแล้วเกือบร้อยเปอร์เซ็นต์นายแบบในกล้องนั้นก็ไม่ใช่ใครที่ไหน
    ไอ้คนที่มันกำลังกอดอกมองผมแล้วยิ้มมุมปากมีชัยนี่แหละครับ


    ชอบผมแล้วอะดิ”


    ผมเงียบ... ทั้งที่อยากจะเถียงใจแทบขาด อินทรีเดินก้าวเข้ามาจนสุดท้ายเราอยู่ใกล้กันในระยะประชิด ปลายนิ้วเรียวยื่นมาสัมผัสโครงหน้าผมเบา ๆ ขณะที่ดวงตาดำขลับจับจ้องตามไม่กะพริบ ผมเม้มริมฝีปากเข้าหากัน ก่อนพึมพำกับตัวเองว่าเปล่า คงเป็นเพราะเราอยู่ใกล้กันเกินไป อินทรีจึงได้ยินที่ผมพูดชัดเจน เปลือกตาของมันหลุบลงเล็กน้อยก่อนโน้มตัวเข้าใกล้ ดึงผมไปกอดไว้จนแทบจะจมหายไปกับร่างกายกำยำของมัน

    “....ถ้าอย่างนั้นชอบผมเมื่อไรอย่าลืมบอกนะ ผมจะอดใจไม่ไหวแล้ว ยู”

    อดใจอะไรไม่ไหว”

    ผมถามมันกลับทันที อินทรีไม่ตอบแต่กอดผมแน่นกว่าเก่า เดี๋ยว ๆ เฮ้ย ใจเย็นไอ้เวร กูโป๊อยู่เดียวผ้าเช็ดตัวได้ร่วงโชว์ความผงาดง้ำล้ำปฐพีกันพอดี ผมดันตัวมันออกแต่อินทรีไม่ยอมปล่อย แรงสั่นกระเพื่อมเล็ก ๆ ที่อกทำให้ผมรู้ว่ามันกำลังหัวเราะเยาะ สันดานมาก ทำไมนิสัยอย่างนี้วะไอ้เด็กเปรต

    หัวเราะเชี่ยอะไร!”

    กอดแป๊บน่า อย่าเพิ่งเขินดิ”

    ไม่เอาโว้ย”

    อย่าดิ้น เดี๋ยวผ้าก็หลุดหรอก”

    ผมหดคอหนีลมหายใจร้อน ๆ ของอินทรีที่เป่ารดลงมาบนผิวกาย ต่อจากนั้นเป็นสัมผัสอุ่นจากริมฝีปากที่ค่อย ๆ กดเน้นลงบนซอกคอ ปลายลิ้นร้อนแตะเลียเบา ๆ ก่อนดูดดึงผิวเนื้อสลับกับใช้ฟันคมงับที่ตำแหน่งเดิมซ้ำ ๆ ให้ผมต้องกำเสื้อกล้ามที่อินสวมอยู่เพื่อบรรเทาความรู้สึกแปลบปลาบที่แล่นริ้วไปทั่วกาย ปกติแล้วผู้ชายคิดเรื่องเซ็กส์ทุก 0.7 วินาทีเป็นทุนอยู่แล้ว ไม่ต้องบอกครับ สัมผัสร่างกายด้วยอากัปกิริยาบบนี้ ไม่ถึง 0.28 วินาที แม่งก็ขึ้น...


    ผมช่วยไหม”

    ไม่!”

    แต่ยูอยาก...”

    ตัวต้นเหตุเอ่ยเสียงต่ำ มือใหญ่เลื้อยลงมายังเอวเปลือยอย่างถือวิสาสะกระทั่งสามารถแทรกมือผ่านผ้าเช็ดตัวมาถึงโคนขา ผมกลั้นหายใจโดยอัตโนมัติเมื่อสัมผัสหยาบกระด้างแต่อ่อนโยนในทีไต่ระดับขึ้นมา แม้พยายามขืนตัวออกแต่หัวใจก็เต้นแรงด้วยความอยากรู้อยากเห็น ไม่ใช่ครั้งแรกที่มีเซ็กส์ แต่กลับตื่นเต้นจนสูญเสียการควบคุม กระทั่งมือใหญ่กอบกุมยังส่วนอ่อนไหวได้ผมก็สะดุ้งเฮือก สติกลับมาอีกครั้งพร้อมออกแรงผลักอีกฝ่ายออกเต็มกำลัง อินทรีเซถอยไปเล็กน้อยโดยที่ผมผงะก้าวหนีทันที 

    ใบหน้าคร้ามคมของอีกฝ่ายก้มลงต่ำปล่อยให้ปอยผมตกลงมาบังสีหน้า ผมเม้มปากเข้าหากันก่อนเดินเบี่ยงมันไปหยิบชุดนอนที่ร่วงอยู่บนพื้นเข้าห้องน้ำไป หัวใจผมเต้นรัว ไม่ได้โกรธแต่ก็รู้สึกไม่ดีกับเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อครู่ มันเร็วเกินไประหว่างผมกับอิน และนั่นทำให้ผมไม่กล้ามองหน้ามันอีก
    ผมเอนตัวพิงกับบานประตูห้องน้ำทันทีหลังจากปิดลง ก่อนปล่อยตัวเองให้ถอยกรูดลงมานั่งที่พื้น สัมผัสเพียงแผ่วเบาจากฝ่ามืออุ่นอีกฝ่ายยังตราตรึงอยู่ รอยสีม่วงช้ำเกิดขึ้นคนละจุดกับวันก่อนแต่มองปราดเดียวก็รู้ว่าเป็นร่องรอยที่เกิดจากการกระทำประเภทไหน ใช้ปลายนิ้วแตะลงแผ่วเบาความรู้สึกแปลบปลาบก็วิ่งพล่านไปทั้งตัว กลิ่นแชมพูที่ใช้เหมือน ๆ กันติดอยู่ที่ปลายจมูก มันหอมและชวนคลั่งไคล้เมื่อลอยออกจากเส้นผมที่ยุ่งเหยิงของอีกฝ่าย กล้ามเนื้อแน่นตึงและสัดส่วนที่พอดีอย่างเหลือเชื่อเมื่อได้โอบกอดแนบชิดใกล้กำลังทำให้ผมเตลิดอีกครั้ง ผมเอื้อมมือไปสัมผัสร่างกายตัวเองที่ยังคงตื่นตัวจากเหตุการณ์เมื่อครู่ ใบหน้าและแววตาของอินที่มองมาอย่างคลั่งไคล้ปรากฏอยู่ในหัว น้ำเสียงและท่าทางเมื่อขยับเยื้องของอินกำลังดึงผมให้ลอยละล่องไปยังปุยเมฆขาว


    “...อ...อา......”

    ผมขยับข้อมือเพียงไม่กี่ครั้งความอัดอั้นที่มีอยู่ก็พลันละลายหายไป แรงปรารถนาที่ถูกซ่อนไว้ฉีดพุ่งทั่วท้องน้อยทำให้ต้องลุกขึ้นมาล้างตัวใหม่อีกรอบ ภายใต้เสียงน้ำจากฝักบัวผมได้ยินเสียงหัวใจเต้นอย่างทรมานของตัวเอง ความขัดแย้งที่ตีรวนกันภายในใจ ผมไม่ควรชอบมันและจะไม่ปล่อยให้เรื่องราวทั้งหมดเป็นอย่างนั้น ผมจะโกรธ และแสดงท่าทีไม่พอใจใส่มันไม่ให้อินฉวยโอกาสอีก กระนั้นผมก็ไม่อาจปฏิเสธตัวเองได้ว่าเมื่อครู่ได้สำเร็จความใคร่โดยมีมันเป็นส่วนหนึ่งของกิจกรรม
    ผมเกลียดตัวเองเวลานี้ เกลียดที่ไม่สามารถทำอะไรได้ดั่งใจต้องการได้จริง ๆ 




    หลังจากหมกตัวอยู่ในห้องน้ำระยะหนึ่งผมก็นับหนึ่งถึงสิบในใจก่อนเดินออกมา ภายในห้องปิดไฟหลักจนมืดเหลือเพียงสีเหลืองนวลจากโคมดวงเล็ก ๆ ใกล้ที่นอน อินทรีนอนบนเตียงผมแต่หันหลังให้พื้นที่โล่งกว้างที่กันไว้ให้เจ้าของห้องโดยเฉพาะ ผมเผลอถอนหายใจโล่งอกเมื่อพบว่ายังไม่ต้องเผชิญหน้ากับมันหลังจากเกิดเหตุการณ์เมื่อครู่สด ๆ ร้อน ๆ 
    แสงที่สลัวทำให้ผมบังเอิญเตะถังขยะใบเล็ก ๆ ใกล้เตียง ข้างในมีทิชชู่ใช้แล้วขดเป็นก้อนกลม ๆ อยู่จำนวนหนึ่ง พอคิดว่ามันเป็นทิชชู่ที่ใช้จากกิจกรรมอะไรก็หน้าแดงวาบ ขณะที่ผมเข้าไปช่วยตัวเองในห้องน้ำอินทรีก็คงบรรเทาความฟุ้งซ่านของมันด้วยตัวเองอยู่ข้างนอก เหลือบตาไปมองคนที่หันหลังให้ยังคงแน่นิ่งแม้ผมจะทิ้งตัวลงบนเบาะเดียวกันก็มั่นใจว่าอินทรีคงหลับไปแล้ว มันอาจเป็นคืนที่หนักหนาสำหรับผมกับมันเพราะรู้สึกว่าเรากำลังก้าวผ่านบางสิ่งบางอย่าง อินอาจพยายามแต่ผมไม่พร้อมเอาเสียเลย แต่ยังไงก็ตามผมก็ยังนึกขอบคุณที่มันไม่ใช่กำลังหรือวิธีที่สกปรกดึงดันเอาแต่ใจ ไม่อย่างนั้นพรุ่งนี้ผมกับอินคงมองหน้ากันยากกว่าเก่า 
    ผมเอื้อมมือไปปิดไฟโคมให้ทั้งห้องเหลือเพียงความมืดมิด แล้วนอนก็ยกแขนขึ้นพาดหน้าผากมองเพดานสีดำอย่างเลื่อนลอย ไม่รู้ว่าผิดที่ผมชะล่าใจยอมปล่อยให้มันเข้ามาก้าวก่ายชีวิตมากเกินไป หรือผิดตรงที่มันเชี่ยวชาญที่จะทำให้คนอื่นตกหลุมรัก 
    ลึก ๆ แล้วผมรู้ว่าตัวเองคิดอะไรอยู่ เพียงแต่ไม่แน่ใจว่าคนเราจะหลอกหัวใจตัวเองได้สักกี่ตลบกัน

    กระนั้นผมก็ยังเฝ้าบอกตัวเองให้เชื่อใจมันช้าที่สุดเท่าที่จะทำได้ เรื่องระหว่างผมกับอินเหมือนกับความรู้สึกตอนที่รู้ตัวว่าไม่ได้ชอบผู้หญิง มันยากที่จะก้าวผ่านไปได้ มีทั้งความสับสน หวาดกลัวแขวนลอยอยู่ในอากาศ ความกดดันเพราะรับรู้ได้ถึงความเปลี่ยนแปลง ลึกของลึกที่สุดผมรู้ว่าถ้าระหว่างผมกับมันเป็นไปได้จริง ๆ ผลมันจะออกมาในรูปแบบไหน

    และนั่นคือความไม่พร้อมอย่างที่สุดที่ผมจะต้องตกเป็นเบี้ยล่างของใคร..
    โดยเฉพาะไอ้ห่าที่แย่งแฟนผมไปนี่แหละ



    เสียงสวบสาบของที่นอนดังขึ้นแทรกเสียงเข็มนาฬิกาที่หมุนไปเรื่อย ๆ ผมชอบเสียงของมันเวลาเดินติกตอก ๆ โดยเฉพาะในคืนที่ใช้ความคิด เสียงที่ราวกับเร่งเร้าสลับกับปลอบประโลมจิตใจให้สงบนิ่ง แสงสีเขียวสะท้อนจากปลายเข็มสะกดให้ผมมองตาม จากนั้นไม่นานแขนใหญ่จากคนข้าง ๆ ก็ยกขึ้นพาดเอวให้ผมรีบหลับตาปี๋

    อินทรียังไม่ได้หลับ!


    มันดึงผมเข้าอ้อมอกแข็งแรงของตัวเอง กอดรัดผมไว้และพรมจูบลงบนขวัญกลางศรีษะซ้ำ ๆ เกิดคำถามมากมายที่ซักเอากับตัวเองไม่หยุดหย่อน ทำไมผมต้องแกล้งหลับ ทำไมผมต้องยอมให้มันกอด เฝ้าตะโกนก้องในจิตใจตัวเองเสียงดังทั้งที่รู้ว่าสาเหตุที่ยอมขนาดนี้เพราะอะไร

    ถ้าเป็นเมื่อก่อนผมคงถีบมันตกจากเตียงไปแล้ว

    มันเกิดขึ้นได้ยังไง...
    มันเกิดขึ้นตั้งแต่เมื่อไร...
    นั่นต่างหากที่เป็นเรื่องที่ผมควรจะใส่ใจมากกว่านี้ แต่ยังไม่ทันได้คำตอบอะไรเสียงทุ้มต่ำก็กระซิบขึ้น เบาจนแทบกลืนไปกับลมหายใจของอีกฝ่ายยู....”

    อินทรีเงียบไปอึดใจ ผมยังคงหลับตาแม้อีกฝ่ายจะกระชับอ้อมแขนจนแน่น “ผมขอโทษ...ผมไม่ได้ตั้งใจจะทำให้ยูกลัว.. อย่าโกรธผมนะ”

    ผมเม้มริมฝีปากเข้าหากัน ไม่ได้พูดอะไร ปล่อยให้เสียงเข็มนาฬิกาขับกล่อมบรรเทาความอึดอัดระคนเขินอายก่อนยกแขนขึ้นกอดมันแทนคำตอบ อินทรีสะดุ้งตัวน้อย ๆ เพราะตกใจที่ผมไม่ได้หลับและได้ยินทุกคำพูดของมันที่สารภาพอย่างขลาดกลัว ท่อนแขนใหญ่กระชับเข้าหาตัวมากกว่าเก่าจนไม่แน่ใจว่าได้ยินเสียงกระดูกลั่นกรอบหรือเปล่า ผมซุกหน้าลงบนคอ ขณะที่อีกฝ่ายแหงนเงยขึ้นให้คางเกยศีรษะผมเพื่อระหว่างเราจะไม่มีช่องว่างใดใดอีก


    ขอบคุณครับ”

    อินทรีพูดด้วยน้ำเสียงที่ดังขึ้นแต่ก็ยังเบาอยู่ กระนั้น ผมก็ยังได้ยินมันชัดเจน






    TBC
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×