ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    โอบตะวัน

    ลำดับตอนที่ #1 : Intro

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 12.54K
      468
      10 เม.ย. 58

















    โอบตะวัน
    Intro






    “คุณกฤช! คุณกฤช! ได้ยินข่าวที่เขาว่านายน้อยหนึ่งตะวันจะกลับจากนอกมาดูไร่แทนนายแล้วหรือยัง”

    แสงตะวันยามบ่ายส่องลอดตามร่องรูเล็ก ๆ ของหลังคาใบองุ่นสีเขียวแก่ เมื่อเงยหน้าขึ้น แม้แต่ปีกหมวกสานจากวัสดุธรรมชาติก็ไม่สามารถเป็นร่มเงาป้องกันแสงสว่างจ้าในฤดูร้อนให้แยงเข้าดวงตาคมได้ ผมขมวดคิ้วหนาเข้าหากัน เรื่องนี้ได้ยินมาเมื่อไม่กี่วันก่อน คุณชนินทร์ต่อสายตรงมาจากกรุงเทพเพื่อแจ้งข่าว

    เจ้าของร่างเล็กตันวิ่งหน้าตั้งมาหา ใบหน้ากร้านแดดอย่างคนสวนประดับรอยยิ้มที่เป็นมิตร มันชื่อโจ้ ไอ้โจ้ เป็นคนงานอยู่ในโรงบ่มไวน์ของไร่ตะวันฉาย อ่อนกว่าผมห้าปี บุคลิกร่าเริงสดใส สอดรู้สอดเห็นเรื่องของใคร ๆ จนสาว ๆ ในไร่ตั้งให้เป็นเจ้ากรมกระจายข่าว ขาเล็กสั้นหยุดลงเมื่อไม่ห่างจากผมมาก หอบแฮกจนตัวโยน

    “คุณกฤชจะโดนคุณชนินทร์เขี่ยทิ้งแล้ว รู้ตัวไหม”

    “อ้อ งั้นเรอะ” ผมถามกลับไปอย่างไม่ใส่ใจนัก หันกลับมายังองุ่นพวงสีม่วงแดงที่โน้มเอาเถาของมันย้อยลงมาจากค้างแล้วพูดต่อ “เขาจะให้ลูกชายคนเดียวของเขามาดูแลที่นี่มันแปลกตรงไหนล่ะ”

    “แหม ไม่ใจหายบ้างเหรอ วันดีคืนดีก็ตกกระป๋อง ก่อนหน้านี้นายออกจะเอ็นดูคุณกฤชอย่างกับลูกแท้ ๆ เป็นลูกคนงานคนเดียวที่ส่งเรียนปริญญา ไหนจะให้ใคร ๆ เรียกว่าคุณอีก ไอ้โจ้นะอยากจะเป็นคุณโจ้บ้าง เห็นทีจะไม่มีวาสนา”

    ผมพยักหน้าลงอย่างใจเย็น ตัดองุ่นที่สุกได้ที่วางลงบนตะกร้าแล้วยืดตัวมาพิจารณาเถาองุ่นพวงเดิมใหม่

    “ที่เอ็งเรียกข้าว่าคุณกฤชเพราะข้าเป็นนายเอ็ง อยากถูกเรียกคุณโจ้ก็ไปขอนายน้อยของเอ็งสิว่าอยากเป็นแขนเป็นขา เขาจบจากนอกคงไม่ออกแดดลงไร่เหมือนเรา ๆ หรอก ยังไงก็หาคนทำแทนอยู่ดี”

    “อ้าว แล้วคุณกฤชจะไปไหนล่ะ”

    ผมขยับปีกหมวกลงพร้อมกับก้าวขาไปทางอื่น แต่ไอ้โจ้ก็ยังวิ่งพันแข้งพันขาจนน่ารำคาญ “ข้าจบมาก็อยากทำงานในสายที่จบบ้างสิวะ นายอุตส่าห์ส่งเสียทั้งที”

    “อ๋อ ไม่อยากเป็นคุณกฤชแล้ว อยากเป็นหมอกฤช ป้าสายใจคงภูมิใจคุณกฤชแย่ เลี้ยงมาคนเดียว นอกจากเก่งเรื่องเข้าสวน ทำไวน์ ทำบัญชีแล้วยังเป็นสัตวแพทย์มือฉมังอีก”

    “สอพลอข้าก็ไม่ได้อะไรหรอกนะไอ้โจ้” เสียงทุ้มเอ่ยราบเรียบเช่นเดียวกับสีหน้า ผมรู้ดีว่าต่อให้คุณชนินทร์จะไว้ใจถึงขั้นให้อำนาจจัดการไร่ตะวันฉายทัดเทียมเจ้าของอีกคนแต่ผมก็ยังเป็นแค่ลูกจ้าง เป็นลูกชายของหญิงสาวที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นที่รักสมัยที่คุณชนินทร์ยังไม่แต่งงานกับคุณรุ่งฟ้าเท่านั้น

    ความสัมพันธ์ของแม่กับคุณชนินทร์จบลงที่ความแตกต่างทางฐานะในสังคม แต่ความอาธรณ์ยังคงกรุ่นในอกไม่เคยจางหาย และนั่นนับเป็นบุญของผมที่แม้จะไม่มีเลือดเนื้อเชื้อไขก็ยังได้รับความกรุณามากกว่าคนอื่น ๆ 

    “ป้าแววบอกมาว่าเย็นนี้ให้แวะไปที่เรือนใหญ่ก่อนหนึ่งทุ่มด้วยล่ะ นายน่าจะมาถึงราว ๆ นั้น มีเรื่องอยากจะคุยด้วย”

    “คงฝากฝังให้สอนงานลูกชายนั่นแหละ”

    “คุณกฤชอยู่มาตั้งแต่เกิดนี่ เคยเห็นนายน้อยบ้างไหม กว่าผมจะมานายน้อยก็ถูกส่งเข้าโรงเรียนประจำไปแล้ว ได้ยินมาแต่ชื่อ”

    “เคยสิ” แม้ว่ามันจะเลือนรางเต็มทนแต่ภาพของเด็กหนุ่มอายุมากกว่าตัวสูงโปร่งยังเด่นชัด ผิวเขาขาวจัดเหมือนคุณรุ่งฟ้า ใบหน้าหวานจนถูกเด็ก ๆ ที่ไร่ล้อว่าเป็นตุ๊ดตั้งแต่เล็กแต่น้อย

    นายหญิงกับนายให้ผมเรียกเขาว่าพี่หนึ่ง แต่เพียงแค่ครั้งเดียวที่ผมรวบรวมความกล้าเอ่ยคำนั้นออกไปได้ก็ถูกต่อว่าเสียจนต้องเงียบ คุณหนึ่งไม่มีน้องชาย ไม่เคยอยากได้น้องชาย เขากลัวว่าผมจะแย่งนายและนายหญิงเป็นของตัวเองเลยตั้งแง่แต่เล็ก
    แม่บอกว่าอย่าโกรธคุณหนึ่ง ผมไม่ได้โกรธ ไม่เคยโกรธ เพียงแต่คิดว่าเขาเป็นคนนิสัยไม่น่ารัก

    ถึงตอนนี้จะเป็นเหมือนเดิมหรือเปล่า โตขึ้นแล้วจะเปลี่ยนไปมากแค่ไหน
    สิบกว่าปีที่ผ่านมาเขาเป็นอย่างไรบ้าง

    นั่นเป็นภาพที่ผมไม่เคยจินตนาการถึงเลยแม้แต่น้อย ดังนั้นเมื่อไอ้โจ้ถามว่าเขาเป็นคนยังไง สิ่งที่ผมทำได้คือแค่ส่ายหน้าแล้วเดินหนีไปโดยไร้ซึ่งคำตอบอย่างที่ไอ้ตัวดีคาดหวังว่าจะได้ยิน




    TBC
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×