ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [wwv] คลังเก็บของ Wind With Voices

    ลำดับตอนที่ #9 : [translate] ตอนพิเศษเล่ม 19 : รอยยิ้ม

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 259
      3
      23 ก.พ. 59

    สวัสดีค่าาาา  ทุกคนยังจำ wind with voices กันได้อยู่รึเปล่าเอ่ย?  หลังจากที่ทางสำนักพิมพ์ Happy Banana ตัดสินใจไม่ซื้อลิขสิทธิ์เรื่องนี้  กระแสเรื่องนี้ก็ซาไปมาก เพราะคนคงคิดว่าไม่มีหวังจะได้อ่านแล้ว


    แต่ยังไงก็ตาม  ด้วยความที่ริก้าเป็นคนที่ดื้อแพ่ง(?)  ก็เลยไปนั่งแปล นั่งอ่าน wwv ฉบับภาษาจีนมาค่ะ!  แน่นอนว่าไม่ได้เข้าใจทั้งหมด 100%  แต่ก็พอเข้าใจว่าเนื้อเรื่องเป็นยังไง ใครทำอะไรที่ไหน   ยิ่งตอนนี้เป็นช่วงว่างหลังจบ ม.6 รอมหาลัยเปิด  ริก้าก็เลยตัดสินใจว่าจะไปไล่อ่านให้ครบ  แล้วเอาสปอยล์มาลงให้ครบทุกเล่มค่ะ  ช่วยรอกันหน่อยน้า <3


    นอกจากนั้น  พวกตอนพิเศษ กลอน บทนำที่สั้นๆ  แปลไม่ยากมาก  ริก้าก็จะพยายามแปลมาลงด้วย   (ส่วนเนื้อเรื่องเต็มๆ  แปลไม่ไหวจริงๆค่ะ  พวกศัพท์เฉพาะเอย อะไรต่อมิอะไร เยอะมากจริงๆ ต้องขออภัยด้วยจริงๆนะคะ)


    เอาล่ะ!  มาเข้าเรื่องกันเถอะ!   ตอนที่แปลมานี่เป็นตอนพิเศษในเล่มที่ 19  เรื่องราวของเทวทูตรุ่นที่ 2 (ถัดจากปฐมบทสายลมพัดพายมาอีก)  อันที่จริงควรจะแปลปฐมบทก่อน  แต่เพราะชอบตอนนี้มากก็เลยแปลเสร็จก่อนอันอื่นเลย.....  แหะๆ  อาจจะมีคนไม่เข้าใจตัวละครกับเนื้อเรื่องบ้าง  จะอธิบายคร่าวๆไว้ด้านล่างเนื้อเรื่อง  ส่วนที่เหลือก็รอสปอยล์นะคะ



    ++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++


    ตอนพิเศษเล่ม 19 รอยยิ้ม

     

    วิธีการสื่อสารกับคนอื่นที่แอนเซียร์สร้างขึ้นเป็นอย่างไรนั้น ไอเซสไม่ค่อยเข้าใจเท่าไหร่

     

    แอนเซียร์ก่อตัวขึ้นมาเป็นคนแรก เขาเป็นคนที่สอง ดังนั้นผู้ร่วมพันธกิจคนแรกที่เขาเจอจึงเป็นแอนเซียร์ และราวกับมีบางอย่างเชื่อมต่อกัน เขาสามารถได้ยินและอ่านใจเธอได้

     

    หน้าที่ของเขาคือการเป็นองครักษ์ของแอนเซียร์ นั่นคือสิ่งที่เขาบอกเธอ แม้ว่ามันจะให้ความรู้สึกเหมือนเป็นคนใช้มากกว่า แต่เขาก็ไม่ถือ แค่เพียงแอนเซียร์ต้องการเขาก็พอ

     

    ความเคยชินค่อยๆ พัฒนาเป็นนิสัย การเชื่อฟังและทำทุกอย่างเพื่อแอนเซียร์กลายเป็น “จุดหมาย” ในชีวิตเขา ขอเพียงแอนเซียร์สั่ง เขาก็พร้อมจะทำทุกอย่างเพื่อเธอ ทว่า ครั้งนี้มีปัญหาเล็กน้อย

     

    แอนเซียร์ถามเขาว่าจะหัวเราะได้อย่างไร เธออยากรู้วิธีหัวเราะ

     

    นั่นเป็นสิ่งที่ใครต่อใครคงไม่รู้ว่าจะสอนอย่างไร หลังจากไอเซสนิ่งฟังคำขอของแอนเซียร์อยู่สองนาที เขาก็ตัดสินใจไปขอความช่วยเหลือจากคนอื่นเพื่อหาคำตอบมาให้เจ้าหญิง

     

    เป้าหมายแรกของเขาคือ สาวใช้ในวิหาร

     

    พวกสาวใช้ชอบหัวเราะเสมอ โดยเฉพาะเวลาที่เห็นเขา บางทีถ้าถามพวกเธออาจจะได้ผลดีที่สุด

     

    สาวใช้เหล่านั้นไม่เคยมีโอกาสคุยกับเทวทูตพอร์เซียมาก่อน แน่นอนว่าพวกเธอจึงยินดีให้คำปรึกษาเพื่อช่วยแก้ปัญหาให้หนุ่มหล่อคนนี้

     

    “พอมีความสุขก็จะหัวเราะออกมาเองล่ะค่ะ”

     

    ผมรู้แล้ว ผมอยากรู้ว่าทำยังไงถึงจะมีความสุขต่างหาก ไอเซสคิด และเอ่ยถามออกมา

     

    “ก็อย่างเช่น เวลาเห็นของที่ชอบ หรือคนที่ชอบ ก็จะยิ้มออกมาเองค่ะ”

     

    เอ่อ...หรือว่าเจ้าหญิงจะไม่ชอบผม? ไอเซสกังวล

     

    “ถ้าเป็นเด็กผู้หญิง เวลาเห็นตัวเองสวยก็จะมีความสุขมากเลย ลองให้เจ้าหญิงแต่งตัวดูสิคะ อารมณ์จะได้ดี แล้วก็อยากหัวเราะออกมาเอง!

     

    ไม่มีทางหรอก ไอเซสมั่นใจว่าทฤษฎีนี้ใช้กับแอนเซียร์ไม่ได้ผล ดูเหมือนความคิดนี้คงไม่มีประโยชน์

     

    ลองถามพวกสาวใช้ก็ยังไม่ได้คำแนะนำดีๆ ไอเซสจึงพุ่งเป้าไปที่อีกคน เคซ ประธานสภานักบวช

     

    คนๆ นั้นมีชีวิตอยู่มานาน มีความรู้มากมาย ถ้าถามเขาก็น่าจะได้ผล

     

     -----------


    หลังจากให้เข้าพบและฟังคำถามของเขาแล้ว เคซก็มีสีหน้าปั้นยาก ตามด้วยอาการคล้ายจะปวดหัว

     

    “เทวทูตพอร์เซีย เรื่องนี้มัน....เรื่องนี้....”

     

    ขณะที่เคซพยายามหาคำตอบดีๆ ให้เขา สายตาของเจ้าตัวก็เหลือบไปมองกองภูเขาเอกสารอีกฝั่งหนึ่ง แล้วเผยสีหน้ากังวล

     

    ไอเซสคิดว่านั่นอาจเป็นการบอกเป็นนัยๆ ว่า “อย่าเอาเรื่องแบบนี้มากวนผม แค่นี้ผมก็มีงานเยอะพออยู่แล้ว” แต่ไอเซสคิดว่า ถ้าเคซคิดเงียบๆ คนเดียวอาจจะหาคำตอบให้เขาได้

     

    อย่างไรเสีย คำขอของแอนเซียร์ก็สำคัญกว่างานของเคซ ไอเซสจึงยังคงนั่งอยู่ต่อหน้าเคซโดยไม่พูดอะไรเลย

     

    “ผมคิดว่า....บางทีเจ้าหญิงอาจจะแค่ไม่รู้สึกอยากยิ้มก็ได้...”

     

    หลังจากเสียเวลาไปนานมาก และได้คำตอบแปลกๆ กลับมา ไอเซสจึงสรุปว่าในหัวเคซคงคิดแต่เรื่องงานเอกสาร เขาล้มเลิกความตั้งใจที่จะถาม แล้วเดินออกไป

     

    และแล้ว เขาจึงไปหาเป้าหมายต่อไป

     

    ตามที่เขารู้มา ยังมีคนที่มีชีวิตมานาน และมีความรู้มากมายอยู่อีกคน

     

     --------------------


    “จะหัวเราะได้ยังไงงั้นหรือ....?”

     

    ซีเวอซีลทวนคำถามของเขาซ้ำอีกครั้ง ใบหน้าหล่อเหลาฉายแววอึ้งระคนมึนงง

     

    หวังว่าคงจะไม่ท่าดีทีเหลวหรอกนะ ไอเซสภาวนาในใจ แม้ซีเวอซีลจะไม่ใช่คนที่ดูน่าพึ่งได้ แต่ยังไงเขาก็วิ่งมาไกลเพื่อมาหาอีกฝ่าย

     

    “เธอคงไม่ยิ้มอีกแล้ว... รอยยิ้มครั้งหนึ่งเคยมอบความอบอุ่นให้แก่ผู้คนนั่น....”

     

    คนๆ นี้ดูจะตกอยู่ในห้วงความทรงจำ ไม่ค่อยปลอดภัยเสียแล้ว หลังจากนิ่งคิดสามวินาที ก็เป็นอันว่าเป้าหมายที่สามตกไป

     

    ---------------


    เมื่อไอเซสสำรวจความผิดพลาดของตน ก็ค้นพบว่า บางทีมนุษย์ธรรมดาอาจจะตอบคำถามเขาไม่ได้ ควรจะถามผู้ร่วมพันธกิจจึงจะเข้าใจสินะ?

     

    เวลาที่ต้องการคำแนะนำ อัลลัวดูจะน่าเชื่อถือที่สุด.... น่าจะนะ....

     

    “หืม? เจ้าหญิงไม่ได้ไม่อยากหัวเราะก็เลยไม่หัวเราะหรอกเหรอ?”

     

    อัลลัวจ้องเขาเขม็งราวกับได้ยินอะไรแปลกประหลาดเป็นที่สุด

     

    “ถ้าอยากให้เจ้าหญิงหัวเราะ ลองส่งพวกอัญมณี แหวน สร้อยให้สิ แบบที่ฉันชอบน่ะ...”

     

    ไม่ได้ผลหรอก แล้วเรื่องที่นายชอบหรือไม่ชอบอะไรก็ไม่ใช่ประเด็นสักหน่อย

     

    “งั้นลองแกล้งเธอสักหน่อยเป็นไง น่าตลกดีใช่ไหมล่ะ?”

     

    ไม่ตลกเลย ไอเซสจินตนาการแทบไม่ออกเลยว่าแอนเซียร์จะแสดงสีหน้าอย่างไรตอนที่พูดสามคำนี้ออกมา

     

    “แต่ยังไง ฉันคิดว่ามันก็คงใช้ไม่ได้ผลกับเธอหรอกมั้ง? ลองเล่นตลกแทนมั้ย? อย่างเช่นแกล้งเข็มขัดหลุด กางเกงร่วงต่อหน้าทุกคน....”

     

    สัญชาตญาณบอกไอเซสว่าร้อยทั้งร้อย คำแนะนำของอัลลัวต้องมีปัญหาแน่ๆ

     

    “จริงๆ แล้ว โทษทีนะ แต่ฉันขอพูดตรงๆ เลยแล้วกัน”

     

    “หืม?”

     

    หัวข้อสนทนาที่เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็วสร้างความมึนงงให้ไอเซส

     

    “การหัวเราะเป็นเรื่องปกติของคนทั่วไป แต่เจ้าหญิงกลับทำไม่ได้ อาจจะเพราะความผิดปกติทางสมองหรือเปล่า? หรือว่าเธอแค่แสดงออกไม่เก่งเท่านั้นเอง? ไม่ได้ว่าอะไรหรอกนะ แต่ถึงคนเราจะสมบูรณ์แบบแค่ไหนก็ต้องมีข้อผิดพลาดทั้งนั้น อย่างฉันเองก็ผิดพลาดตรงที่เกิดมาเป็นผู้ชาย.....”

     

    ไอเซสอ้าปากค้าง เดินออกไปอึ้งๆ ทิ้งอัลลัวที่ถอนหายใจเฮือกไว้ข้างหลัง

     

    ------------------ 


    แต่ไม่ว่าอย่างไร เขาก็ยังไม่ยอมแพ้

     

    ผู้ร่วมพันธกิจคนอื่นๆ จะมีความเห็นต่างออกไปไหมนะ? เขาคิด แล้วเดินไปที่ห้องของอีสต์

     

    “หัวเราะเนี่ยนะ? พวกชนชั้นสูงทำไมถึงมากลุ้มใจกับเรื่องไร้สาระแบบนี้ล่ะเนี่ย”

     

    อีสต์ให้ทัศนคติที่ไม่ค่อยเป็นมิตรเท่าไหร่ ไอเซสบอกตัวเองเงียบๆ ว่า เขาคงถามผิดคน

     

    “ลองไปถามพระเจ้านู่น คงจะได้ผลกว่านั่นแหละ”

     

    พระเจ้าเหรอ.... ไอเซสรู้สึกหมดแรงขึ้นมาทันที

     

    หลังจากถามโรลและได้คำตอบว่า “ทานลูกอมกับเค้กเยอะๆ” และเซย์ตอบว่า “เป็นฉันจะไม่หัวเราะ” ไอเซสก็หมดหวังที่จะถามผู้ร่วมพันธกิจ แลนนากับจิลนั้น เขาไม่อยากถาม เขาจึงกลับมาที่ห้อง

     

    --------------


    ‘?’

     

    หลังจากเห็นเขาในสภาพสิ้นหวัง แอนเซียร์ก็งงเป็นอย่างมาก

     

    “เจ้าหญิง หาวิธีดีๆ ที่จะหัวเราะไม่ได้เลยครับ”

     

    ‘…...’

     

    ในห้องตกอยู่ในความเงียบที่ไม่น่าอภิรมย์สักนิด

     

    ฉันไม่ควรยิ้มจะดีกว่าสินะ

     

    แอนเซียร์พึมพำข้อความนั้นส่งมาที่เขา ไอเซสได้แต่ขอโทษ และเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้น

     

    อืม...

     

    หลังจากผ่านไปสักพัก แอนเซียร์ก็ตอบด้วยน้ำเสียงเจือแววโศกเศร้า

     

    บางที ฉันคงไม่ใช่เจ้าของรอยยิ้มนั่น

     

    ในความทรงจำของเธอ มีเศษเสี้ยวภาพรอยยิ้ม

     

    ใบหน้าที่คล้ายกับเธอมีรอยยิ้มที่แสนอบอุ่น แต่มันไม่ใช่ของเธอ...

     

    เพราะเธอคือแอนเซียร์

     

    ไม่ใช่เคเวนเซียร์....

     

    เมื่อเห็นแววตาเศร้าสร้อยของเธอ ไอเซสก็ไม่รู้จะปลอบอย่างไรดี สุดท้าย เขาจึงกุมมือเธอ แล้วยิ้ม

     

    “แต่รอยยิ้มของผมเป็นของเจ้าหญิงนะครับ”

     

    พอมองไปที่ดวงตาสีดำคู่นั้น ความรู้สึกเศร้าหมองในใจของแอนเซียร์ก็ค่อยๆ จางหายไป พร้อมกับริมฝีปากที่ขยับอย่างแผ่วเบา

     

    นั่นยังคงไม่ใช่รอยยิ้ม แต่บางที สักวันเธอคงจะเรียนรู้ได้

     

    เรียนรู้ และจดจำรอยยิ้มที่แตกต่างออกไป รอยยิ้มที่เป็นของเธอ...


    THE  END


    +++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++


    อธิบายตัวละคร


    ไอเซส  ชิลเดอร์ลิส

    เทวทูตพอร์เซียรุ่นที่ 2  หนุ่มหล่อใสซื่อผู้อ่อนโยน และให้ความสำคัญกับแอนเซียร์มากกว่าอะไรในโลก



    แอนเซียร์  สคาร์จ

    เทวทูตเฟเชี่ยนรุ่นที่ 2  เจ้าหญิงผู้งดงามแห่งราชอาณาจักรเคนนาส ผู้นำของกลุ่มเทวทูต มีใบหน้าเหมือนกับเคเวนเซียร์ราวกับพิมพ์เดียวกัน และได้รับความทรงจำของเคเวนเซียร์มาบางส่วน เป็นคนเงียบ ไร้อารมณ์ ไม่พูดกับใคร ใช้วิธีสื่อสารทางจิตกับคนอื่นเอา



    เคเวนเซียร์  สคาร์จ

    น้องสาวของเทียร์ สคาร์จ  เป็นอดีตเจ้าหญิงของอาณาจักรเคนนาส  ปัจจุบันเสียชีวิตไปแล้ว มีรอยยิ้มที่ได้ชื่อว่าอบอุ่นงดงามราวกับแสงอาทิตย์ในฤดูใบไม้ผลิ



    เคซ

    ประธานสภานักบวช  ดำรงตำแหน่งมาตั้งแต่สมัยเทวทูตรุ่นที่ 1



    ซีเวอซีล  ซีเลส

    คนของกองทหารลับของราชวงศ์ รับใช้ราชวงศ์มาตั้งแต่สมัยรุ่นพ่อของเทียร์ เป็นคนที่เคเวนเซียร์เคยชอบ



    อัลลัว  พาเลซีเรีย

    เทวทูตคริสตัลสตาร์รุ่นที่ 2  เด็กหนุ่มหน้าสวยที่อยากเกิดเป็นผู้หญิง  เป็นคนสบายๆ ฉลาด แต่ติดจะพูดมาก ขี้บ่น และชอบกวนโอ๊ยคนอื่น



    อีสต์  นอร์แมน

    เทวทูตฮาเวลรุ่นที่ 2  เด็กหนุ่มรูปงามผู้ฉลาดสุขุม รักอิสระ และขี้หงุดหงิดในบางที



    โรล  ลีโต้

    เทวทูตมอลแทนรุ่นที่ 2  เด็กหนุ่มที่มีนิสัยเหมือนเด็กเล็กๆ  ชอบของหวานกับเค้กมาก



    เซย์  อีสทาร์

    เทวทูตจูนิสรุ่นที่ 2  เด็กหนุ่มผู้เงียบขรึม เย็นชา และขี้หงุดหงิด



    จิล  นาลู

    เทวทูตโมซอนรุ่นที่ 2



    แลนนา  โซนาเทอร์

    เทวทูตเจเวี่ยนรุ่นที่ 2



    เครดิตเนื้อเรื่องฉบับจีน : Shui Quan : http://book.sfacg.com/Novel/7399/MainIndex/

    เครดิตคำแปล : Victorika


    เอาคำแปลไปใช้ กรุณาอ้างอิงเครดิตด้วยนะคะ

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×