คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : [SF]....Because....-1-
Title: ....Because....
Pairing: MINHO X JONGHYUN
Author: SoLove
Rating: ???
+++++++++++++++++
เป็นเรื่องที่แต่งไว้นาน 2 ปี แย้ว
เอามารีนะค่ะ SF สองตอนจบ
กลับมานั่งอ่าน โหยย เมื่อก่อนฉันแต่งไปได้ไง >O<
ภาษาอาจจะไม่ดีนะค่ะ
แต่ขอฝากไว้ด้วยนะค่ะอิอิ
+++++++++++++++++++
สายลม จงพัดผ่าน
หัวใจดวงน้อยๆ ดวงนี้ที่กำลังเจ็บ
มันทรมาน
กับความรักที่ไม่สมหวัง
อยากจะลืม คนที่ชื่อ
.
.
.
มินโฮ
.
.
.
.
สายลมพัดเลยๆ ยามเย็นที่คุ่นเคยร่างบางรู้ดีเมื่อถึงเวลา
เวลาที่เขาจะต้องกลับบ้าน
ขาเรียวงามก้าวพาตัวเองและหัวใจที่เหนื่อยล้า
เดินไปและไม่คิดว่าจุดหมายที่จะไปนั้นเป็นที่ใด
สิ่งที่คิดอยู่ตอนนี้คือ ถ้ากลับไปแล้วจะทำตัวเช่นไร
จะฝืนยิ้มอีกหรอ? หรือจะเงียบเอาไว้ดี?
แต่ถึงยังไงเค้าก็คงจะต้องเห็นภาพที่มันบาดตาอีกแน่นอน
แล้วถ้าวันนี้เขาไม่กลับล่ะ?
จะมีคนที่เป็นห่วงเราอีกมั่งไหม รึจะเป็นแค่การโกหก
.
.
คิม จงฮยอน
ควรจะทำยังไงดี
.
.
.
.
ถ้าหากว่าย้อนเวลากลับไปได้ ตอนนั้นฉันกับนายก็แค่พี่น้องรวมวง
ร่างบางทบทวนอดีตที่นึกถึงทีไรก็ทำให้ยิ้มได้ทุกที
ทำไมนะหรอ?
ก็ช่วงเวลาที่อยู่ด้วยกัน เพียง ลำพังแค่ 2 คน
.
.
.
.
ตอนนั้นเป็นครั้งแรกที่ได้ออกมาด้วยกัน
หลังจากที่ได้ทำงานเสร็จ
“มินโฮฉันหิวอ่ะ...เราเข้าไปทานร้านนี้กันเถอะน่ะๆ”ร่างบางถูมือบางเข้าด้วยกันเบาๆเนื่องด้วยอากาศที่หนาวนั้นทำให้ ริมฝีปากบาง แก้มที่เนียนใส ขึ้นสีอย่างชัดเจน บางทีถ้ามองแล้วอาจจะหยุดสายตาไม่ให้เลื่อนไปไหนได้เลย
“จะเอาแบบหรอ?..แต่เดียวจะกลับบ้านดึกน่ะ”สีหน้าเย็นชาของเด็กโข่งของวงทำให้นักร้องนำถึงกับเอือม
‘เชอะ...แค่นี้ก็ไม่ได้คนเค้าหิวเป็นนะ’
“เชอะ...ก็ได้กลับก็กลับ”จงฮยอนงอลแก้มป่อง มินโฮยิ้มออกมาบางๆกับนิสัยของรุ่นพี่
“ก็ได้ๆ...เข้าไปกินกันเถอะ อย่างอลเลยเดียวพี่ไม่น่ารักหรอก”ร่างสูงยิ้มหวานก่อนจะเดินนำจงฮยอนที่ยืนหน้าแดงอยู่
‘บ้า...’
ร่างสูงเดินนำร่างบางเข้ามาในร้านจงฮยอนมองไปรอบๆเพราะข้างในร้านนี้ให้บรรยากาศที่อบอุ่น แสงไฟสีเหลืองนวนกับโต๊ะไม้เล็กๆสีของผนังเข้ากับแสงไฟ
ร่างสูงเดินนำมาจนถึงโต๊ะ ร่างบางจ้องมันเล็กน้อยเพราะเป็นโต๊ะที่แตกต่างจากโต๊ะอื่นๆ โต๊ะไม้รูปทรงกลมแต่ที่ตกต่างคือกลิ่นไม้อ่อนๆ
“กลิ่นของไม้หอมจัง...”ร่างบางพึมพำ ร่างสูงนั่งลงก่อนหันไปมอง
“หอมใช่ไหม...ผมชอบมานั่งที่นี้เป็นที่ประจำ”ร่างบางหน้าแดงอย่างเห็นได้ชัดเพราะคนที่จ้องเค้าอยู่ไม่ว่างตานี้สิ
“มองอะไรกันหนักหนาเหล่า!...”ร่างบางหันหน้านี้แต่ก็ได้ยินเสียงหัวเราะชอบใจของอีกฝ่าย
“ผมกำลังคิดว่า...พี่ก็น่ารักดีเหมือนกันนะครับ”สิ้นสุดคำของร่างสูงก็ไม่ได้มีการสทนากันอีกเลย
.
.
.
.
.
ร่างบางคิดอะไรไปเลยๆเดินไปช้าๆ
หัวใจที่ถูกทำให้เจ็บๆเจียนตายมันเศร้า มันทรมาร
มันจะตายก็เพราะนาย..........มินโฮ
.
.
.
.
.
.
“ป่านี้แล้วทำไหมพี่จงฮยอนยังไม่กลับนะ.....”เทมินเด็กน้อยของวงนั่งกระวนกระวายเมื่อเหลือบมองไปยังนาฬิกา
“เดียวคงกลับ......”คำตอบเรียบๆจากเจ้าของร่างสูงโปร่งทำให้น้องเล็กหันไปมองหน้า
“พี่มินโฮไม่ห่วงพี่จงฮยอนมั่งเลยรึไง”ดวงตาของเทมินเหลือบมองหน้าคมนั้น สายตาของความว่างเปล่าที่ไร้ความหมายนั้นมันหมายความว่ายังไง...
“ห่วงสิ...”และสิ่งที่ได้ตอบกับก็เหมือนเดิมอย่างที่คิด สีหน้าเรียบเฉย ด้วยตาที่ว่างเปล่า เทมินถอนหายใจเบาๆก่อนจะขอตัวออกไปจากห้องนั่งเล่น
.
.
.
.
.
그대와 있을 땐 내 마음까지 다 들켜버리고 마는지~~~
ตอนที่ผมอยู่กับคุณ ความรู้สึกของผมมันชัดเจนเสมอ~~~
มือถือของจงฮยอนดังขึ้นร่างบางมองดูชื่อบนมือถือแต่ก็ต้องถอนหายใจกำมือถือแน่น บนจอมีชื่อของมินโฮ
ทำไหมต้องโทรมาด้วยนะ ทั้งที่เราก็ไม่ใช่คนสำคัญ ทั้งที่เรา....
.
.
.
.
.
หากว่าวันนั้นผมพูดความในใจออกไปก่อนที่มันจะสาย
เค้าจะตอบรับผมไหมน่ะ
그대와 있을 땐 내 마음까지 다 들켜버리고 마는지~~~
ตอนที่ผมอยู่กับคุณ ความรู้สึกของผมมันชัดเจนเสมอ~~~
เสียงของมือถือยังดังไม่หยุด
ร่างบางยิ่งกำแน่นขึ้นก่อนจะกดปิดเครื่อง
ขาเรียวงามยังคงก้าวเดินต่อไป
ยิ่งเดินก็ยิ่งเจ็บ
เพราะทุกๆ...นั้นเคยมีเขาและมินโฮอยู่ด้วยกัน
ตาสวยเริ่มมีน้ำตา ความทรงจำที่เคยมีเขาและมินโฮอยู่ ค่อยๆเข้ามาในหัวอีกครั้ง
ทั่งที่อยากจะลืม ทำไมมันยิ่งจำ
ถ้าผมจะขอลืมมันได้ไหมน่ะ?
.
.
.
.
.
“เลขหมายที่ท่านเรียก...”ร่างสูงทอกมองหมายเลขที่กดไปมากกว่า 100 ครั้งแต่ก็ไม่สามารถติดต่อได้สักที มือหนาคว้าโค๊ทสีดำมาสวมก่อนจะรีบวิ่งออกไป
ไม่รู้วิ่งมานานมากเท่าไหร่ ทั้งที่ไม่รู้จุดหมาย แต่ร่างกายก็วิ่งไม่หยุด
ท้องถนนสีดำมีไฟให้พึ่งพิง รถบนถนนที่เล่นไปมาไม่ขาดสาย
‘จงฮยอนอยู่ที่ไหน’ร่างสูงยิ่งร้อนลนโทรไปก็กลับปิดมือถือ จะทำให้เค้าไม่เป็นห่วงได้ยังไงล่ะ?
เพราะ....เพราะ อะไรกันนะ.....
.
.
.
.
.
.
그대와 있을 땐 내 마음까지 다 들켜버리고 마는지~~~
ตอนที่ผมอยู่กับคุณ ความรู้สึกของผมมันชัดเจนเสมอ~~~
“ฮาโหล
..พี่อนยู พี่จงฮยอนอยู่กับพี่รึเปล่า?”น้ำสียงที่มินโฮเอ่ยออกมาทำให้คนปลายสายรู้สึกแปลกๆ ‘มินโฮไม่เคยเป็นแบบนี้มาก่อนนี้?’
[ จงฮยอนไม่ได้อยู่กับพี่...มีอะไรรึเปล่า]
“.......พี่จงฮยอน ยังไม่กลับบ้าน โทรไปก็ไม่รับ”
[ ใจเย็นๆก่อนสิ
.จงฮยอนเค้าไม่ใช่เด็กแล้วนะ เดี่ยวเค้าก็กลับไปเองแหละมินโฮนายอยู่ที่ไหนนะ]
“ผมอยู่ข้างนอก
..ผมควรจะทำยังไง”
[ นายไม่ต้องทำอะไรหรอก เดียวพี่จะตามหา จงฮยอนเอง นายก็กลับไปรอเขาที่บ้านซะ แล้วก็ดูแลเทมินดีๆ นั้นคือหน้าที่ของนาย]
“ครับ...พี่อนยู”มินโฮวางสาย สายตาคมมองไปรอบ ก่อนถอนหายใจ นั้นสิผมคงเป็นห่วงพี่จงฮยอนมากเกินไปเค้าไม่ใช้เด็กแล้ว.........
.
.
.
.
.
ไม่ว่าที่ใดๆก็ตาม
หัวใจของฉันดูเหมือนว่ากำลังมองหาบางอย่างที่ดูคล้ายเธอ
ฉันยืนอยู่เงียบๆ ณ สถานที่เดิมๆ
ฉันเห็นบางอย่างมันดูจะเหมือนเธอ
แต่ได้ซ่อนอะไรบางอย่างไว้
ทำไมเธอไม่อยู่ที่นั่น?
ทำไมฉันมองไม่เห็นเธอ?
.
.
.
.
.
ร่างบางนั่งพัก สายตาเหม่อลอยออกไปไกล
ให้ใจและกายที่เหนื่อล้าได้พักบ้าง
จงฮยอนคิดทบทวนสิ่งที่เกิดขึ้น
เมื่อก่อน...ทุกคนอยู่ด้วยกันอย่างมีความสุข แล้วทำไมเดียวนี้ถึงเป็นแบบนี้
ตั้งแต่เมื่อไหร่ที่ความรู้สึกของตัวเองเริ่มแปลเปลี่ยน
ทั้งที่เมื่อก่อนเราก็เป็นแค่พี่น้องร่วมวง เป็นแค่คนที่รู้จักกันในฐานะสมาชิก
ตั้งแต่เมื่อไหร่ที่เริ่มรู้สึกหึงห่วงเขาขึ้นมา
ตั้งแต่เมื่อไหร่ที่คิดจะอยากครอบครองเข้าไว้คนเดียว
ตั้งแต่เมื่อไหร่ที่รู้สึกอิจฉาเทมินหรือแม้กะทั่งคีย์ที่เป็นเพื่อนสนิท
ตั้งแต่เมื่อไหร่ที่ คิมจงฮยอนคนนี้ เป็นคนเห็นแก่ตัว...
ร่างบางคิดทบทวนเรื่อง ที่เคยทำให้มีความสุข
แต่ตอนนี้...ไม่มีอีกแล้วความสุขที่ว่า
‘อืม...นี้มันก็ดึกแล้วแหะ...กลับบ้านดีกว่าเรา’
.
.
.
คงต้อนฝืนยิ้มอีกแล้วสิ
.
.
.
.
คิทจงฮยอนคนเห็นแก่ตัว
.
.
.
.
ร่างสูงที่อยู่ที่บ้าน นั่งจองนาฬิกาไม่ห่าง
นี้ก็ 3 ทุ่มแล้วนะทำไมนายยังไม่กลับมาอีกจงฮยอน
มินโฮกระวนกะวาย
’ใจเย็นไว้จงฮยอนไม่ใช่เด็กแล้ว’คำพูดของอนยูเข้ามาในหัวอีกครั้ง
เราเป็นอะไรไปมินโฮ สงบใจหน่อยสิ
“พี่มินโฮดูสีหน้าไม่ดีเลยนะฮะ
.”เทมินถือแก้วสองใบวางไว้ข้างๆ มินโฮมองหน้าของเมมินเล็กน้อยก่อนจะรวบตัวร่างบางเข้ามากอด
“เทมิน....พี่ควรจะทำยังไงดี”น้ำเสียงอ่อนล้าของมินโฮ บ่งบอกอย่างเห็นได้ชัดว่าเจ้าตัวกำลังเป็นทุกข์ เทมินกอดตอบพี่ชายเบาๆพร้อมลูบหลัง
“ทำอย่างที่พี่อยากทำสิฮะ”มินโอกำชับอ้อมกอดให้แน่นเข้าไปอีก ตอนนี้เขาเหนื่อนเหลือเกินกับความรู้สึกของตัวเอง
“แอ๊ด........”เสียงเปิดประตูเบาๆ ทำให้ร่างสองร่างผละออกจากกันเล็กน้อย ก่อนมองคนที่มาใหม่
“ขอโทษ....เอ่อ พี่เข้ามาขัดจังหวะ”สายตาของจงฮยอนหลบสายตาของทั่งสองคน มินโฮผละออกจากเทมินก่อนจะดิ่งเข้ามาหาจงฮยอน
“พี่ไปไหนมา”มินโฮถามด้วยน้ำเสียงที่พยายามทำให้มันปกติที่สุด จงฮยอนได้แต่ก้มหน้านิ่งเงียบ ร่างบางกำลังกลั่นอะไรบางอย่างที่เรียกว่า....น้ำตา
ร่างบางส่ายหน้าเบาๆก่อนจะเดินเข้าห้องแต่มือหนาคว้าเอาไว้ก่อน
“พี่ยังไม่ตอบผมเลยว่า
.ไปไหนมาจนกลับค่ำมืดแบบนี้ ”มินโฮขึ้นเสียงสูง แต่จงฮยอนก็ยังนิ่งตอบ และไม่ยอมมองหน้าคนที่เป็นห่วงเค้าอย่างจริงใจเลยสักนิด
‘ทำไมพี่ถึงไม่ตอบ...ทำไมไม่ยอมเข้าใจผมสักที’แต่...จะให้เข้าใจอะไรหล่ะ?
ในเมื่อผมได้เป็นอะไรกับจงฮยอนนี้เพราะอะไรกัน? ทำไม?
มินโฮเดินเข้าไปเขย่าไหล่บางของจงฮยอน ก่อนจะถามด้วยด้วยน้ำเสียงดุดันอีกครั้ง
“พี่ตอบผมสิ เป็นใบ้รึไง!!!”ร่างสูงยิ่งเขย่าร่างบางหนักขึ้น
ก่อนจะหยุดเพราะน้ำใส่ๆที่หยดลงบนมือของร่างสูง
ร่างบางหลั่งน้ำตาทั่งที่ไม่ยอมมองหน้ามินโฮสักนิด
หยาดน้ำใสจำนวนมากยังคงไหลลงมาเรื่อยๆ
“ปล่อยฉัน!!”ร่างบางตะโกนออกมาก่อนปาดน้ำตาออก ร่างสูงรู้สึกผิดกับสิ่งที่ทำเลยปล่อยจงฮยอนไป ร่างบางวิ่งขึ้นหายไปที่ห้องของตน มีเพียงแต่สายตาของร่างสูงที่มองตามขึ้นไป
.
.
.
.
.
‘เจ็บ....ทรมานทำไมต้องกลับมาเห็นอะไรแบบนี้ตลอด คิมจงฮยอนจะทนมันได้นานแค่ไหนกัน’
ร่างบางนอนบนเตียงนุ่มน้ำตาแห่งความเจ็บก็ยังคงไหลมาไม่ขาดสาย
เสียงร้องของร่างบางดังไปทั่วห้อง
ไม่รู้ว่านานเท่าไหร่ น้ำใสๆก็ยังเอ่อล้นออกมาโดยไม่มีท่าทีจะหยุด
“จงฮยอน ฉันเข้าไปนะ”เสียงของอนยูดังขึ้นน่าห้องเขารู้ดีว่าร่างบางร้องไห้อยู่คนเดียว
รู้ดีกว่าร่างบางต้องการคนมาให้อยู่เป็นเพื่อน
“อื้อ....อืม”ร่างบางรีบเช็ดคราบน้ำตาออกให้เร็วที่สุด ก่อนที่เจ้าของร่างโปร่งอย่างอนยูเข้ามา
“....นายร้องไห้.....ใครทำอะไรนาย”ร่างสูงนั่งลงที่เตียงช้าๆ แล้วเอามือหนาจับขอบตาบวมของร่างบางเบาๆอย่างทะนุทะนอม
“มะ....ไม่...ไม่มีใครอะไรทั่งนั้นแหละ”ร่างบางฝืนยิ้มให้ร่างโปร่ง จงฮยอนไม่อยากทำให้ใครๆเครียดไม่มากกว่านี้ โดยเฉพาะหัวหน้าวง เขารู้ดีกว่าอนยูมีหลายๆเรื่องที่ต้องคิด ถึงภายนอกจะดูร่าเริงแต่จริงๆแล้ว อนยูเป็นคนที่ลำบากว่าคนอื่น
อนยูค่อยดูแลเค้าและไม่ห่าง ตอนเค้าท้อแท้ อนยูก็มักจะเป็นคนแรกที่เข้ามาดู
ร่างบางรู้ดีว่าถ้าเป็นแบบนี้ต่อไปมันจะไม่ดีกับเค้ากับอนยูแน่
เพราะจงฮยอนรู้....
ใช่เพราะเค้ารู้ว่าอนยูรักเค้าถึงคอยมาดูแลตลอด
แต่...อนยูก็รู้ไม่ใช่ไม่รู้
ว่าทั้งหมดของหัวใจจงฮยอน...เป็นของ มินโฮ คนเดียวเท่านั้น
“อืม...ถ้านายไม่เล่าฉันก็จะไม่ว่า ถ้านายไม่พร้อมที่จะเล่าฉันก็จะรอ ^^...”อนยูเอื้อมมือใหญ่ไปลูบหัวร่างบางเบาๆแล้วยิ้มให้
“แต่....นายต้องไม่ร้องนะเข้าใจไหม”ร่างสูงรอฟังคำตอบ ในใจตอนนี้ตงปวดมากไม่แพ้ร่างบาง ร่างโปร่งไม่ต้องการให้จงฮยอนมีน้ำตาแค่นี้เขาก็เจ็บพอแล้วที่ร่างบางมีใจให้มินโฮ
ตอนแรกก็คิดว่าดีแล้วที่มินโฮไม่ได้สนใจร่างบาง แต่เค้าคิดผิด ในเมื่อร่างบางต้องร้องออกมาจะแถบทุกครั้งที่เป็นแบบนั้น เค้าไม่อยากให้จงฮยอนห้องไห้อีกแล้วเพราะมันทำให้เขายิ่งเจ็บมากเกินกว่าจะทน
“อืม...”ร่างบางยิ้มให้อนยูเล็กๆก่อนที่อนยูจะขอตัวออกไป
.
.
.
.
ความรักมันช่างสับซ้อน และ หลายแบบ
มีทั้ง
รักข้างเดียว
รักแต่ไม่มีความสุข
รักที่เข้าใจว่ารักแต่รักไม่ได้
ทุกๆอย่างมันเริ่มที่ความรัก ?
.
.
.
.
.
ร่างของมินโฮนั่งคิดทบทวนกับสิ่งที่เกิดขึ้น
เค้าทำอะไรลงไป
ทำให้พี่จงฮยอนต้องร้องไห้
‘ที่เราทำไปนั้นไม่ดีจริงๆใช่ไหม’
เพราะอะไร...?
ทำไมเค้าต้องทำแบบนั้น ทั้งที่พี่จงฮอนก็ไม่ได้ทำอะไรผิด
ทำไมต้องไปทำให้เขาเสียใจ
ร่างสูงนั่งคิดทบทวนไปมา
ใจจริงมันก็เจ็บปวดเวลาที่ร่างบางร้องไห้
แต่มันก็ทำอะไรไม่ได้เลย
.
.
.
.
สายตาที่เหม่อลอยของร่างบาง มันดูช่างน่าห่วงมาก
ตอนนี้ทุกคนพร้อมกันที่โต๊ะอาหาร
เช้าวันใหม่ที่แสนจะไม่สดใส
มีไม่กี่คนที่รู้ว่าร่างบางแปลกไป
แต่ที่โต๊ะอาหารตอนนี้ก็คงยังเสียงดันเช่นเดิม
เช้าของทุกๆวันมันเป็นอะไรที่น่าเบื่อ
ในใจของร่างบางเองก็ไม่อยากจะรับรู้อะไรแล้ว
แต่...
แต่มันก็ทำไม่ได้
‘วันนี้ก็คงต้องฝืนตัวเองอีกแล้วสิ’
เมื่อร่างบางคิดได้แบบนั้นก็ยิ้มบางๆออกมานิดๆ
ก่อนจะค่อยๆทานข้าวที่คีย์ทำอย่างเงียบๆ
.
.
.
.
“อิ่มแล้ว...”จงฮยอนพูดออกมาแล้วลุกไปที่อ่างล้างจาน
“พี่ก็อิ่มแล้ว
”อนยูลุกขึ้นตามจงฮยอนไป แต่อาจจะไม่รู้ว่ามีอีกสายตาที่จงมองทั้งสองอยู่
.
.
.
.
“จงฮยอนนายอิ่มแล้วหรอ...”ร่างโปร่งมองดูร่างบางที่ค่อยๆล้างจานไป
“แล้วถ้าไม่อิ่มฉันจะออกมาทำไหมละ
^ ^”ร่างบางยิ้มหวานๆแต่อนยูรู้ดีว่าร่างบางกำลังฝืน
“พอเถอะ...ฉันรู้ว่านายกำลังฝืน”อนยูคว้าร่างบางมาอยู่ในอ้อมกอด
ร่างบางรู้ว่าถ้าอนยูใครเดินมาเห็นคงไม่ดีแน่
แต่...
มันก็ทนไม่ไหวเหมือนกันน่ะ
เจ็บ.......เจ็บที่อยู่ในอ้อมกอดของอนยูแต่กลับคิดถึงมินโฮ
เจ็บที่ตัวเอง...ไม่สามารถเปลี่ยนใจมารักคนที่รักตัวเขาเองไม่ได้
น้ำใสๆก็เริ่มไหลรินอีกครั้ง
ร่างโปร่งรู้สึกถึงน้ำตาจึงค่อยๆดันตัวร่างบางออกมาถึงได้รู้
‘จงฮยอนกำลังร้องไห้...เพราะเรา’
“จงฮยอน...ฉันขอโทษ...ฉ..ฉัน”อนยูไม่ทันได้เอ่ยจบประโยคมือบางเอามาปิดปากของร่างสูง
“มะ...ไม่ นายไม่ได้ผิด”ร่างบางเช็ดน้ำตาก่อนจะวิ่งออกมาจากตรงนั้น
แต่แล้วชะตาเล่นตลก?
ร่างบางวิ่งออกมาแต่ได้มาเจอเข้ากับ....
“อะ...มินโฮ”ร่างบางเอ่ยออกมาเสียงสั่น ร่างสูงจ้องมองร่างบาง
‘ดูเหมือนว่าจะเห็นเรื่องเมื่อกี้ด้วยสิ’
.
.
.
.
ย้อนกลับไปเวลานั้น
“อิ่มแล้ว...”จงฮยอนพูดออกมาแล้วลุกไปที่อ่างล้างจาน
“พี่ก็อิ่มแล้ว
”อนยูลุกขึ้นตามไป อีกคน ผมที่นั่งมองอยู่รู้สึกแปลกๆ
“อืม...อิ่มแล้ว”ผมลุกขึ้นก่อนจะลุกตามไปอีกคน
.
.
.
.
ผมค่อยๆเดินไปช้าๆในใจรู้สึกแปลกๆ
ครวจะเข้าไปดีไหม?
แต่ทำไมผมจะต้องไปสนใจใครล่ะมันจะเข้าหรือไม่เข้ามันไม่เกี่ยว.....
สายตาของผมเหลือบไปเห็น
ภาพตรงหน้า.....
สมองว่างเปล่า...ขาแขนชา...ไม่อยากจะทำอะไรแล้ว
พี่จงฮยอน...กับ
พี่อนยู
.
.
.
.
“มะ..มิน..โฮ”ร่างบางของจงฮยอนค่อยๆเอ่ยชื่อของผมออกมา
ผมไม่อยากจะรับรู้อะไรอีกแล้ว
ร่างสูงของมินโฮหันหลังให้ก่อนที่จะเดินไปช้า
“มินโฮ...มินโฮ มันไม่ใช่แบบนั้นนะ อื่อ...อะ ..”ร่างบางของจงฮยอนสะดุ้งในเมื่อร่างสูงหันกลับมา
“ทำไม...จะให้ผมเข้าใจมากว่านี้ใช้ไหมว่าพี่กับพี่อนยูเป็นอะไรกัน ห๊ะ!”ร่างสูงระงับสติไม่ได้อีกต่อไปแล้ว
ทำไมกัน?
ผมชอบพูดไม่ดีออกไปอีกแล้วสิ
ผมขอโทษ
.พี่จงฮยอน
.
.
.
.
.
_____________________________
ถ้าคำผิดเยอะป่าว....ขอโทษนะค่า5555+
ฝากฟิคอีก 2 เรื้อง ด้วยนะค่า
จุ๊บๆ
ความคิดเห็น