ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Ragnarok[fanfic] the Fate

    ลำดับตอนที่ #4 : ภารกิจใหม่

    • อัปเดตล่าสุด 18 ม.ค. 51


    ในห้องสี่เหลี่ยมที่กว้างขวาง แวดล้อมไปด้วยของเล่นขนาดเล็กไปจนใหญ่ ร่างเด็กสาวสองคนนั่งอยู่ด้วยกันบนเตียงสีขาว ดวงตาทั้งคู่จ้องไปที่ดวงจันทรที่ลอยอยู่หลังหน้าต่างติดลูกกรงที่อยู่สูงเกินกว่าที่เธอทั้งสองจะปีนขึ้นไปถึง

    เสียงลมพัดผ่านสลับกับเสียงใบไม้พลิ้วไหวเรียกความสนอกสนใจของทั้งสอง ถึงแม้ห้องนี้จะเกลื่อนไปด้วยของเล่นที่น่าเล่นและราคาแพงเท่าไร แต่สิ่งที่ทั้งสองปราถนาเพียงสิ่งเดียว

    อิสระภาพ

    ร่างเด็กสาวมองออกไปนอกหน้าต่างด้วยความโหยหาซักพักน้ำตาก็เริ่มไหล เด็กสาวอีกคนดึงเธอเข้ามาสวมกอดแล้วเอามือลูบศีรษะปลอบประโลม

    "อย่าเพิ่งหมดหวังอีฟ "เด็กสาวบอกกับเธอซึ่งเธอรู้สึกคุ้ยเคยอย่างมากกับเสียงของเธอคนนี้"ซักวันชั้นจะพาเธอออกไปจากที่นี่ ไปสู่อิสระภาพ เราสองคนจะเดินทางไปด้วยกันและจะไม่ทอดทิ้งกัน ชั้นให้สัญญา"

    คำมั่นสัญญาที่เด็กสาวคนนี้มอบให้แก่เธอทำให้เธอรู้สึกดีขึ้น สำหรับเธอแล้วไม่มีใครที่จะดีกับเธอถึงเพียงนี้อีกแล้ว

    +++++++++++++++++++++++

    เช้าวันใหม่อันสดใส แสดแดดยามเช้าส่าดส่องเข้ามาในห้องนอนชั้นสองกระทบใบหน้าของเด็กสาวที่หลับอยู่บนเตียง

    "ฮ้าว....!!"

    อีฟอ้าปากฮาววอดแล้วขยี้ตา
     
    "ฝันประหลาดจัง"เธออุทานจากนั้นก็บิดขี้เกียจแล้วลุกขึ้นจากเตียง เดินไปหยิบเครื่องแบบพรีสที่แขวนไว้

    หลังจากเปลี่ยนเครื่องแต่งตัวก็ลงมาที่ชั้นหนึ่ง แล้วล้างหน้าแปรงฟัน จากนั้นก็เข้าครัวจัดการเตรียอาหารเช้าเฉกเช่นทุกๆวัน

    "ฮ้าว..!!"

    เสียงหาววอดาแต่ไกล อีฟหันไปเห็นพ่อของเธอเดินเข้ามาในห้องครัว

    "อรุณสวัสดิ์ อีฟ"พ่อของเธอกล่าวทักทายพลางขยี้ตา

    "อรุณสวัสดิ์ค่ะพ่อ"อีฟกล่าวทักทายแล้ววางไข่ทอดลงบนโต๊ะ พ่อของเธอเดินไปที่โต๊ะและกำลังจะนั่ง

    "กรุณาไปล้างหน้า แปรงฟัน ล้างมือก่อนรับประทานด้วยค่ะ"อีฟกล่าวตักเตือนผู้เป็นพ่อรีบไปทำตาม(ไม่รู้ใครดูแลใครกันแน่)

    หลังจากรับประทานอาหารเช้าเสร็จ อีฟก็ออกจากบ้านพร้อมกับพ่อทันที

    "งานแรกเป็นไงบ้างได้ยินว่าเจอหนักเลยนี่"พ่อของอีฟถามสารทุกข์สุขดิบระหว่างทาง

    "ก็ไม่มีปัญหาค่ะ แรกๆก็เกือบแย่เหือนกันดีที่ได้คนๆนึงมาช่วยไว้ค่ะ"

    อีฟเล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นที่อัลเดอร์บารันให้พ่อฟัง ทั้งเรื่องที่บุกหอคอย เจอปีศาจนกฮูกแดงและน้ำเงิน และเรื่องของลิลิธเด็กสาวปริศนา ซึ่งพอเล่าถึงตรงนี้ อีฟก็รู้สึกประหลาดทั้งที่เพิ่งเจอกันแต่เธอกลับรู้สึกเหมือนรู้จักกับเธอมาก่อน และนึกถึงความฝันเมื่อกี๊

    "ขอโทษนะ ที่จริงพ่อควรไปด้วย แต่มีงานใหญ่กว่ารอพ่ออยู่จึงไปไม่ได้"พ่อของอีฟบอก แต่อีฟก็ใส่ใจ

    พ่อของอีฟ แกเบรียล วาเลนไทน์ เป็นหัวหน้ากลุ่มครูเซเดอร์ ฉายาอัศวินกางเขนสีขาว มีหน้าที่ปกป้องประชาชนชาวรูนมิดการ์ดและประเทศใกล้เคียงจากเหล่าปีศาจร้าย

    เมื่อตอนที่อีฟยังเด็ก พ่อของเธอบอกว่าพบเธอถูกทิ้งไว้ที่โบสถ์ตั้งแต่ยังแบเบาะ ด้วยความที่เขายังไม่แต่งงาน และรู้สึกถูกชะตาจึงเลี้ยงเธอเหมือนลูกนับแต่นั้น

    อีฟได้รับการเลี้ยงดูเช่นเด็กทั่วไป เพราะพ่อเธอต้องการให้เธอเติบโตขึ้นในแบบธรรมดา และเมื่อเธออายุได้สิบหกปีก็ตัดสินใจว่าจะเป็นอโคไลท์ และได้เป็นพรีสในเวลาสองปีต่อมา

    และภารกิจแรกในฐานะพรีสของเธอก็คือปราบมอนสเตอร์ในหอนาฬิกา ซึ่งก็ทำสำเร็จถึงจะมีคนช่วยก็ตาม

    และวันนี้เธอกับพ่อก็เดินทางไปโบสถ์เพื่อรับภารกิจที่สอง

    +++++++++++++++++++++++++++++++++++

    "พ่อไปก่อนนะ"พ่อของอีฟกล่าวลาแล้วเดินไป อีฟโบกมือลาแล้วเดินเข้าไปในโบสถ์

    ข้างในโบสถ์ บริเวณปรัพิธีที่เธอได้รับการแต่งตั้งเป็นอโคไลท์ เธอเห็นบาทหลวงซึ่งเป็นผู้นำกลุ่มพรีสยืนอยู่ และยังีพรีสสาวอีกหนึ่งคนกับมองค์หนุ่อีกหนึ่งและอัศวินอีกหนึ่งคน

    "อรุณสวัสดิ์ อีฟ"พรีสสาวเดินมาทักทาย

    "อรุณสวัสดิ์จ๊ะคาร์น่า "อีฟกล่าวทักทาย"อรุณสวัสดิ์คริฟ "

    "ขอโทษนะคะที่มาช้า"อีฟกล่าวขออภัย

    "ไม่หรอก เธอมาทันพอดีเลยล่ะ"อัศวินหนุ่มกล่าว

    "เอาล่ะ"บาทหลวงปรบมือเรียกความสนใจ"เมื่อทักทายกันเสร็จแล้วจะขอบอกภารกิจเลยล่ะกันนะ"

    บาทหลวงกล่าว อีฟ คาร์น่า คริฟหันมาตั้งใจฟัง

    "เมื่อคืนวานนี้ที่ชายแดนกิฟเฟน หมู่บ้านสามแห่งในเขตเหมืองถ่านหินถูกฝูงโคบอลโจมตี และหน้าที่ของพวกเธอก็คือไปสทบกับคณะจอมเวท และหน่วยอัศวินแห่งเมืองกิฟเฟนเพื่อช่วยชาวบ้านเหล่านั้นให้ปลอดภัย"

    หลวงพ่ออธิบายเนื้อหาภารกิจให้ทั้งสามฟัง

    "และคนที่คอยดูแลพวกเธอในภารกิจครั้งนี้ก็คือชั้นเอง"อัศวินหนุ่มเดินมาบอก"ถ้าชั้นทำให้พวกเธอลำบากใจก็ขออภัยล่วงหน้าแล้วกันนะ"

    " ไม่หรอกค่ะท่านคอร์เนเลียส"
     
    "พวกเราต่างหากครับที่รู้สึกเป็นเกียรติ"

    คาร์น่ากับคริสกล่าวด้วยความยินดี อีฟก็เช่นกันเพราะคนที่ชื่อคอร์เนเลียสไม่ใช่อัศวินธรรมดา หากแต่เขาเป็นองค์รัชทายาทคนที่สามของพรอนเทร่า

    เมื่อสองปีก่อนช่วงที่ท่านออกเดินทางเพื่อหาประสบการณ์มีข่าวว่าท่านเดินทางไปที่ลั่วหยางซึ่งอยู่ทางตะวันออก แล้วก็ถูกพาตัวไปที่นิฟเฮมล์ดินแดนแห่งความมืด แต่ก็กลับออกมาได้(อ่านรายละเอียดในภาค ลิลิธ)

    สำหรับอีฟแล้ว เขาเป็นเหมือนคนกันเอง ที่จริงอีฟนับถือเขาเหมือนพี่ชายคนหนึ่งด้วยซ้ำ เพราะตั้งแต่ที่เธอยังเด็ก บ่อยครั้งที่เขาจะแวะมาที่บ้านพร้อมกับอาจารย์ของเขา กรีเซลด้า ฮัลโลวีน ซึ่งเป็นเพื่อนร่วมงานของพ่อ

    และตอนนี้ก็เป็นครั้งแรกที่เธอจะได้ร่วมงานกับเขา

    "ถ้าไมปัญหาอะไรก็ขอให้ภารกิจสำเร็จลุล่วงนะ"หลวงพ่อกล่าวแล้วหยิบผลึกบลูเจมสโตนขึ้นมา

    "รับทราบครับ/ค่ะ"ทั้งหมดกล่าวพร้อมกันอย่างมั่นใจว่าจะสำเร็จทำให้หลวงพ่อรู้สึกโล่งใจยิ่งขึ้น

    ++++++++++++++++++

    อีกด้านหนึ่งที่ปายอน

    บริเวณเมืองร้างกลางป่าลึก ผีดิบสองตัวในชุดชาวตะวันออกใส่หมวกรูปถ้วยมีก้อนกลมประดับเหนือหมวก

    ผีดิบตนหนึ่งเป็นชายใส่ชุดสีน้ำเงิน อีกตนเป็นผู้หญิงใส่ชุดสีแดงถักเปีย ทั้งสองยืนเผชิญหน้ากับวิซาร์ดสาวคนหนึ่ง

    "เข้ามาเลย"วิซาร์ดสาวพูดท้าทายผีดิบทั้งสองโจมตีพร้อมกัน

    ผีดิบชายเปิดฉากโจมตีด้วยหมัด ลิลิธเอามือปัดแล้วจับผีดิบชายเหวี่ยงไปข้างหลัง ผีดิบหญิงโจมตีต่อด้วยเพลงเตะ ลิลิธหมุนตัวหลบแล้วยกขาฟาดลงล็อคร่างผีดิบสาวตรึงกับที่ ผีดิบหนุ่ลุกขึ้นมาโจมตีต่อลิลิธกระโดดข้ามไปข้างหลังแล้วเตะขาของผีดิบหนุ่มจนล้มลง แล้วเอาขาเหยียบ

    "วันนี้พอแค่นี้"เธอกล่าวแล้วยกขาออกผีดิบทั้งสองยืนขึ้น

    แปะๆๆๆ

    เสียงปรบมือดังจากข้งหลังทั้งสามหันไป

    "คาราวะนายหญิง"ผีดิบทั้งสองกล่าวคำนับจิ้งจอกสาวในชุดขนหนังจิ้งจอก มือถือพลองปลายกระพรวนรูปดอกแสงจันทร์สีเหลือง ของข้างมีผีสาวโซฮีสองตัว และจิ้งจอกเก้าหางอีกสองตัวที่เดินตามมา

    "เด็กๆของชั้นเป็นยังไงบ้างลิลิธ"จิ้งจอกสาวถามอย่างสนอกสนใจ

    "ฝีมือไม่เลว การประสานงานก็อยู่ในเกณฑ์ดี แต่ยังต้องปรับปรุงเรื่องจังหวะบุก และถ้าให้แนะนำบางครั้งเป็นฝ่ายรับจะดีกว่า"ลิลิธบอก

    "ขอบคุณสำหรับคำชีแนะครับ/ค่ะ"สองปีศาจกล่าวคาราวะ

    "พวกเจ้าก็ไปพักผ่อนได้แล้วนะ"มูนไลท์ฟลาวเวอร์บอกผีดิบทั้งสองจากไป

    +++++++++++++++++++++++

    สิบนาทีต่อมามูนไลท์ฟลาวเวอร์กับลิลิธเดินาถึงห้องรับรอง ซักพักผีสาวโซฮีก็ปรากฎตัวแล้วเสริฟน้ำชาให้ทั้งสอง

    "ขอบใจนะที่สละเวลามาเป็นครูฝึกลิลิธ"มูนไลท์ฟลาวเวอร์เอ่ยขึ้น

    "ไม่เป็นไรชั้นเองก็ว่างพอดีน่ะ"ลิลิธบอกแล้วยกชาขึ้นาจิบ

    "ได้ข่าวว่าเธอแวะไปที่หมู่บ้านอ๊อคมานี่ แล้วแซมซั่นเป็นไงบ้างรู้สึกว่าจะได้เป็นอ๊อคลอร์ดแล้วนี่"

    "ตอนนี้เขาเป็นอ๊อคฮีโร่แล้ว"ลิลิธบอกูนไลท์ฟลาวเวอร์ทำหน้าอู้หู

    "เรื่องจริงรึ ?"นไลท์ฟล่าวเวอร์ถามลิลิธพยักหน้า"ดีจัง ว่างๆคงต้องไปเยี่ยซักหน่อยแล้ว"

    "เขาบอกว่าจะมาหาเธอเองเลยล่ะแม่คุณ"ลิลิธบอกแล้วจิบชาต่อ

    "งั้นหรอ"มูนไลท์ฟลาวเวอร์เอ่ยแล้วเอาอหวีเส้นผม

    "แหไต้องรีบเสริมสวยหรอกน่า เขายังไม่มาวันนี้ซักหน่อย"ลิลิธหยอกล้อจนมูนไลท์ฟลาวเวอร์หน้าแดง

    "พูดอะไร ชั้นแค่หวีผมเฉยๆเกี่ยวอะไรกับตานั่นด้วย"มูนไลท์ฟลาวเวอร์พูดร้อนตัวจนลิลินึกขำกับท่าทีของจิ้งจอกสาวตนนี้

    "ว่าแต่ตอนนี้ตานั่นเป็นอ๊อคฮีโร่แล้ว ใครหรอที่เป็นอ๊อคลอร์ดต่อจากตานั่นน่ะ"มูนไลท์ฟลาวเวอร์รีบเปลี่ยนเรื่องพูดลิลิธถอนหายใจ

    "สกา อ๊อคผู้เป็นอาของเขาน่ะ"ลิลิธบอกมูนไลท์ฟลาวเวอร์สะบัดหน้ามาด้วยความตกใจ

    "ให้สการับตำแหน่งอ๊อคลอร์ด"มูนไลท์ฟลาวเวอร์ร้องอย่างตื่นตกใจลิลิธพยักหน้า"ตานั่นคิดยังไงถึงให้ตำแหน่งสำคัญกับคนแบบนั้น"

    "ใครๆก็รู้ สกาเป็นออร์คที่คลั่งการต่อสู้แค่ไหน ทุกลมหายใจเข้าออกของมันมีแต่สงครามและการเข่นฆ่า เอาตำแหน่งสำคัญไปประเคนแบบนั้นมิเท่ากับให้นเป็นเสือติดปีกรึ ?"

    มูนไลท์ฟลาวเวอร์กล่าวอย่างสงสัยลิลิธจิบชาต่อ

    "เธอพูดแบบเดียวกับที่ชั้นพูดเลยนะ"ลิลิธกล่าว"แต่แซมซั่มบอกว่าที่เขาทำเพราะมันเป็นคำมั่นสัญญาที่พ่อของเขารับปากสกาไว้น่ะ"

    "และที่สำคัญนะ เท่าที่รู้มาสกาได้แอบซ่องสุมกำลังพลไว้ และมีการติดต่ออย่างลับๆกับพวกปีศาจที่กลาสเฮมล์อีก ถ้าแซมซั่มไม่ยกตำแหน่งให้บางทีอาจเกิดสงครามภายในหมู่ออร์คด้วยกันถึงตอนนั้นไม่ว่าฝ่ายไหนชนะก็ต้องมีการสูญเสียอย่างมากแน่ๆ"

    ลิลิธอธิบาย

    "แล้วถ้าสกาเกิดวางแผนรวบอำนาจไว้เองล่ะ"มูนไลท์ฟลาวเวอร์ถามอย่างเป็นห่างลิลิธหยิบมีดขึ้นมา

    "ถึงตอนนั้นเป็นหน้าที่ของเราที่ต้องช่วยเขาไม่ใช่รึ"ลิลิธบอกแล้วฉีกยิ้มที่มุมปาก มูนไลท์ฟลาวเวอร์ด้ยินก็ค่อยโล่งใจหน่อยแล้วหยิบชาขึ้นมาจิบแต่ซักพักก็รับรู้ถึงเหตุวุ่นวายบางอย่างนอกถ้ำ

    "นายหญิงเกิดเรื่องใหญ่แล้ว"ผีสาวโซฮีปรากฎตัว

    "เกิดอะไรขึ้นรึ ?"นไลท์ฟลาวเวอร์ถาม

    "มีมนุษย์สองคนมาบุกเองของเราค่ะ เป็นชายหนึ่งหญิงหนึ่ง ขณะนี้กำลังสู้กับกองธนูและกองทหารของเราอยู่แต่พวกมันร้ายกาจมากพวกเราเริ่มรับมือไหวแล้ว"

    ผีสาวโซฮีรายงาน ลิลิได้ยินก็รู้สึกสนใจจึงรีบล่วงหน้าไป

    "ลิลิธ..!!"มูนไลท์ฟลาวเวอร์รีบหยิบพลองกระดิ่งของเธอแล้วรีบตามไป

    ขณะนั้นเองในเมืองร้าง กองทัพผีดิบนักธนูกำลังปะทะกับผู้บุกรุก

    "ยิง..!!"

    ผีดิบตัวหนึ่งออกคำสั่งแต่ไทนยิงก็ถูกพายุหิมะพัดกระจาย ผีดิบกองโจรที่เหลือกรูเข้าโจมตีต่อ ผู้บุกรุกทั้งสองเตรียมรับมือ

    "หยุด..!!"

    สิ้นเสียงตะโกนทั้งสองฝ่ายรีบหยุดมือแล้วหันไป ก็เห็นวิซาร์ดสาวปรากฎตัวขาวงทั้งสองฝ่ายไว้ ผู้บุกรุกคนหนึ่งเห็นหน้าเธอ

    "ลิลิธ..!!"สิ้นเสียงเรียกลิลิธหันมามอง

    ฝ่ายตรงข้ามคือนินจาสาวจากอามัตสึ ไว้ผมหางม้าสีฟ้าปักด้วยปิ่นปักผม ส่วนอีกคนเป็นนินจาหนุ่ม ผมสีน้ำตาลหยักศก คาดผ้าปิดปาก ลิลิธองทั้งสองแล้วเอ่ยขึ้น

    "ยูกิมารุ โดโรโระ"ลิลิธเรียกทั้งสอง นินจาสาวกระโดดเข้ากอดเธอ จังหวะเดียวกับที่มูนไลท์ฟลาวเวอร์เดินทางมาถึง

    "คนรู้จักหรอ ?"มูนไลท์ฟลาวเวอร์ถาม นินจาหนุ่มก็เดินออกมา

    "ขออภัยที่พวกข้าน้อยเสียมารยาทท่านนางพญาจิ้งจอก แต่ด้วยเนื่องจากเรากำลังประสบปัญหาใหญ่จำจำเป็นต้องยืมกำลังของท่านผู้นี้"โดโรโระบอกจุดประสงค์ที่มา ยูกิมารุรีบถอยออกลิลิธลุกขึ้น

    "เกิดอะไรขึ้นหรอ โดโรโระ ยูกิมารุ"ลิลิธถาโดโรโระหันมา

    "ตอนนี้ที่ลั่วหยางและอามัตสึกำลังเจอภัยครั้งใหญ่ขอรับ "

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×