คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #14 : ....(ต่อไปนี้จะไม่ตั้งแระ555+)
"ฮือ...ฮือ..."
เสียงร้องไห้? ใครกัน?
"ฮือ..ชะ.. ช่วยด้วย!! ช่วยด้วย..ฮือ"
เด็กผู้หญิงเหรอ? ใครกันนะ?
เด็กหญิงร่างเล็กในชุดกระโปรงสีชมพูที่ขาดวิ่นเพราะอะไรบางอย่าง ผมสีน้ำตาลอ่อนพลิ้วไหวไปตามแรงลม ร่างบอบบางของเธอวิ่งอย่างไม่คิดชีวิตด้วยความตระหนก ใบหน้าขาวเต็มไปด้วยคราบน้ำตา
เด็กคนนั้นใครกัน? ใคร?
เสียงคำรามดังกึกก้อง จากทางเบื้องหลังของเด็กหญิงตัวน้อย เธอเบือนหน้ากลับไปมองทั้งๆที่ยังไม่หยุดวิ่ง แต่มีเพียงความมืดเท่านั้นที่สะท้อนอยู่ในแววตาของเธอ แม้จะไม่เห็นอะไรเลยแต่ใบหน้านั้นก็บ่งบอกได้ถึงความกลัวที่เพิ่มมากขึ้น
เด็กคนนั้นกำลังหนีอะไร?
ก๊าซ!!! เสียงคำรามดังเข้ามาใกล้ขึ้น...ใกล้ขึ้น
เสียงคำราม...สีแดง...ดวงตา?..
แสงสีแดงที่วาวโรจน์ขึ้นมาเพียงชั่วแวบนั้นคืออะไรกัน? สีที่ราวกับสีของเลือด
กรงเล็บขนาดยักษ์ของปีศาจในความมืดนั้นเอื้อมออกมาหาเด็กหญิงตัวน้อย เหมือนจะตะปบไว้ แต่ร่างอันบอบบางนั้นก็สะดุดเข้ากับขาของตัวเอง ทำให้หลบได้อย่างฉิวเฉียด
"อ๊า!! ฮือ..ช่วยด้วย..ท่านพ่อ..ท่านแม่..."
ร่างเล็กๆที่มีเพียงความมืดเป็นเพื่อนนั้นทำได้แค่ ส่งเสียงเรียกและวิ่งไปข้างหน้าเท่านั้น
"มาทางนี้!!!" เสียงหนึ่งดังขึ้นในความมืด
คุ้นหูจัง..เสียงใครกันนะ?
มือเรียวบางยื่นออกไปด้านหน้าเพื่อไขว่คว้าอะไรบางอย่าง แล้วมือของเธอก็โดนดึงด้วยมือของเจ้าของเสียงปริศนาในความมืดนั้น
สีหน้านั้นจะฉายให้เห็นถึงถึงความอุ่นใจในทันที แต่เสียงคำรามก็ยังคงดังเข้ามาติดๆ
กรงเล็บยักษ์นั้นยื่นออกมาอีกครั้งด้วยความเร็วที่มากกว่าเดิม ผู้ที่กุมมือของเด็กหญิงอยู่ผลักให้เธอกระเด็นไปอีกทาง เพื่อหลบกรงเล็บนั้น
"หลบไป!!"
นัยน์ตาสีน้ำตาลอ่อนเบิกกว้าง เมื่อเห็นว่ากรงเล็บนั้นโผล่ออกมาอีกครั้งทางเยื้องหลังผู้ช่วยชีวิตเธอ "กรี๊ด!!! ไม่นะ....!!!!" ริมฝีปากนั้นยังขยับไหวเพื่อเรียกชื่อของคนๆนั้น แต่สิ่งที่เล็ดลอดออกมากลับเป็นเพียงความเงียบงัน
ใคร? เธอเรียกชื่อใคร?
...................
"เคน!!" เสียงเรียกนั้นดังก้องจนเขาสะดุ้งตื่น
เคนชันตัวนั่งบนเตียงนุ่ม มือเรียวขาวยกขึ้นกุมศีรษะที่ชื้นไปด้วยเหงื่อเช่นเดียวกับทั่วทั้งร่าง
ลมหายใจสะท้านก้องเหมือนเหนื่อยแทบขาดใจ เขาค่อยๆสงบสติแล้วหันไปมองหน้าคนปลุกในความมืดสลัวของยามดึก
"คีฟ..." เสียงเรียกนั้นแหบพร่าราวกับคนไม่สบาย มือเรียวจึงเลื่อนมาสัมผัสที่ลำคอของตน
"ฝันร้ายเหรอ?"คีฟทั้งตัวลงนั่งข้างๆ ยังที่ว่างบนเตียง
"ฝัน?" เคนทวนคำ 'งั้นเหรอ?..นั่นคือฝันเองเหรอ...'
มือแกร่งเอื้อมไปจุดตะเกียงที่อยู่ใกล้หัวเตียง ทำให้เขาสังเกตเห็นว่าใบหน้าของเคนซีดลงขนาดไหน โดยปราศจากคำพูด คีฟยื่นมือไปสัมผัสหน้าผากมนนั้นเบาๆ
"เจ้ามีไข้นี่...." เสียงทุ้มเอ่ยเบาๆก่อนจะเลื่อนมือออก ทำให้เรียวคิ้วของคนฟังขมวดขึ้นน้อยๆ
"ข้าน่ะเหรอ?.."น้ำเสียงแหบพร่าจะกล่าวแย้งแต่เสียงของเขาแทบจะเปล่งออกมาไม่ได้เลย
คีฟจับอีกฝ่ายให้นอนลง ก่อนจะไปค้นหาสมุนไพรที่อยู่ในตู้เล็กๆข้างเตียง "เดี๋ยวข้าจะเตรียมยาให้ เจ้าก็นอนรอไปก่อนก็แล้วกัน.." พูดจบร่างนั้นก็หายไปจากสายตาทำให้เขาต้องอยู่คนเดียว
นัยน์ตาสีน้ำตาลอ่อนส่องรับกับแสงสลัวของตะเกียง เขาพยายามจะนึกถึงสิ่งต่างๆเพื่อรอคนต้มยา ...ตั้งแต่ออกเดินทางนี่ก็จะ 2 อาทิตย์แล้วสินะ ภายในพรุ่งนี้คงจะหลุดจากทะเลทรายบ้าๆนี่ซะที
เขาเป็นคนไม่ค่อยจะถูกโรคกับอากาศร้อนจัดๆนัก เมื่ออยู่กลางทะเลทรายนานๆเลยทำให้ไม่สบายอย่างนี้
น่าแปลกที่เพื่อนของเขาแทบไม่เคยพามาเร่ร่อน ในทะเลทรายแบบนี้เลยตลอดเวลาหลายปี ราวกับจะรับรู้ได้ แต่มันก็อาจเป็นแค่เรื่องบังเอิญธรรมดาๆ
ร่างบนเตียงผ่อนลมหายใจออกน้อยๆ เม็ดเหงื่อผุดพรายไปทั่วใบหน้า และร่างกายจนรู้สึกอึดอัด มือเรียวดึงผ้าห่มที่คลุมร่างอยู่ออก พอเริ่มว่างเรื่องต่างๆก็เริ่มเข้ามาอยู่ในห้วงความคิดอีกครั้ง
ความฝันเมื่อกี้.... เด็กผู้หญิง... มังกรที่มีตาสีแดง... แล้วก็เด็กผู้ชาย...
มังกร??
ทั้งๆที่เห็นเพียงแสงสีแดง แต่เขารู้ได้ยังไงนะว่ามันเป็นตาของมังกร.. อะไรกัน? นึกสิ นึกให้ออก
เขารู้??
"อุ๊บ!!" มือเรียวยกขึ้นกุมศีรษะแทบจะในทันที ความรู้สึกที่แล่นจี๊ดขึ้นมา เมื่อพยายามจะนึกถึงเรื่องนั้น ทำให้เขาปวดหัวขึ้นมาโดยไม่ทราบสาเหตุ ลูกแก้วสีอ่อนเลือนพร่าก่อนจะไม่สามารถจับภาพอะไรได้เลยนอกจากความมืดมิด...
คนที่ไปเตรียมยาเดินกลับเข้ามาในกระโจมพร้อมแก้วกระเบื้องที่มีควันลอยกรุ่น เขาสาวขาเข้าไปใกล้ๆกับเตียงเพื่อมองร่างที่ไม่ได้สติ หลับไปซะแล้ว.. มือแกร่งวางของในมือลงข้างหัวเตียง แล้วใช้มือสัมผัสหน้าผากของร่างที่อยู่บนเตียงอย่างเป็นห่วง แต่แล้วนัยน์ตาคมพลันเบิกโพลงด้วยความตกใจ
ไม่ใช่เพราะไข้ที่สูงขึ้นกว่าเมื่อครู่มาก แต่กลับเป็นเพราะสีหน้าที่ซีดเผือด และร่องรอยแปลกตาสีเทาจางบนใบหน้าของคนที่หลับอยู่ต่างหาก นี่มันอะไรกัน?! ไม่ใช่ไข้ธรมดาๆแล้ว..หรือว่ามัน!!!
เขาถอยออกมาห่างจากเตียงเล็กน้อย คทาประจำตัวถูกเรียกออกมาจากอากาศธาตุ เขายกมือสองข้างขึ้นจับคทาขึ้นขนาบในแนวราบเหนือพื้น ริมฝีปากได้รูปพึมพำอะไรบางอย่าง แล้วเส้นใยสีเขียวสว่างใสก็ถักทอขึ้นเป็นตาข่ายคลุมร่างที่อยู่บนเตียง
เส้นอักขระประหลาดสีเทาเข้มค่อยๆปรากฏขึ้นบนผิวเนื้อขาวของร่างไร้สติอย่างรวดเร็ว ก่อนจะลุกลามไปทั่วตัว
คิ้วเข้มของคนกางข่ายมนตร์ขมวดหนักขึ้น ไม่ได้การช้าไปแล้ว... เขาเร่งพลังเวทย์ของตนให้แรงขึ้น ทำให้ตาข่ายสีอ่อนนั้นทอประกายเข้มขึ้นจนแสบตา
อักขระนั้นค่อยๆอ่อนจางลงเรื่อยๆ ก่อนจะกลายเป็นไอสีดำลอยขึ้นไปกลืนกับตาข่ายสีเขียวอ่อน ทำให้มันเปลี่ยนเป็นสีมัวๆ ก่อนจะดำขึ้นอย่างน่ากลัว
ริมฝีปากนั้นพึมพำถ้อยคำแปลกหูด้วยน้ำเสียงกระชั้นขึ้นเรื่อยๆ เม็ดเหงื่อเริ่มผุดพรายขึ้นตามไรผม และดวงหน้าคม ตาข่ายที่กลายเป็นสีดำเริ่มเปลี่ยนรูปร่างอีกครั้ง..
เส้นใยที่เคยถักทอกันคลายออก แล้วพุ่งมายังผลึกสีเขียวขุ่นของคทาอย่างรวดเร็ว จนร่างของผู้กุมคทาเซไปเล็กน้อย แต่ก็ยังคงทรงตัวอยู่ได้ แต่เสียงกระดูกและกล้ามเนื้อแขนที่แข่งกันลั่นเสียง เปรี๊ยะ! นั้นดูจะน่าเป็นห่วงยิ่งกว่า
เมื่อสายใยเส้นสุดท้ายหายเข้าไปในคทา ท่อนแขนแกร่งก็ตกลู่ลงข้างตัวทันที เขาสาวเท้าเข้าไปใกล้เตียงอย่างช้าๆ ตามที่เรี่ยวแรงจะเอื้ออำนวย นัยน์ตาทอดมองร่างที่นอนหลับไหลไม่รู้เรื่องอย่างอ่อนล้า
ใบหน้านวลที่เคยขาวซีดบัดนี้เริ่มมีสีเลือดฝาดขึ้นมาบ้างแล้ว ทำให้ริมฝีปากที่เผยอหอบคลี่ยิ้มบางๆ เมื่อรู้สึกสบายใจร่างสูงก็ทรุดตัวลงนั่งกับพื้นอย่างเหนื่อยล้า
"อึก!"แต่จู่ๆความเจ็บปวดกลับแล่นจี๊ดขึ้นมาที่หน้าอกด้านซ้ายอย่างรวดเร็ว มือแกร่งกุมบริเวณที่รู้สึกเจ็บไว้แน่น ริมฝีปากได้รูปหอบหายใจอย่างหนักหน่วง อีกแล้ว...พอใช้มนตร์บทนี้ต้องเป็นอย่างนี้ทุกที..
"แค่กๆ!!!..." เขาเริ่มไอไม่หยุด มือที่ใช้ปิดปากตัวเอง เพื่อให้เสียงลอดออกมาน้อยที่สุดนั้น เริ่มเปรอะเปื้อนไปด้วยเลือดที่มีสีดำคล้ำจนน่ากลัว นัยน์ตาอ่อนล้าได้แต่มองคราบเลือดอย่างเลื่อนลอย ก่อนจะเบือนไปมองใบหน้าด้านข้างของคนหลับเล็กน้อย
ทำไมอยู่ๆมันถึงเกิดเรื่องขึ้นได้?..
มันแทบจะเป็นไปไม่ได้นี่นา ..หรือว่าเราเข้ามาใกล้เขตของเจ้าพวกนั้นแล้ว!?
ไม่น่าจะเป็นแบบนั้นนี่..ในเมื่อไม่เคยมีใครพบที่อยู่ของพวกนั้น.. หรือว่าเคนจะนึกออกแล้ว มนตร์ผนึกคลายตัวอย่างนั้นเหรอ?.....
คีฟนั่งหอบหายใจพลางคิดเรื่องต่างๆ แต่ความเจ็บปวดที่ควรจะคลายลงกลับทวีขึ้น "อ๊อก!! อุ๊บ!" เขานั่งงอตัวอย่างทุกข์ทรมาน เลือดเหลวข้นจำนวนมากถูกสำรอกออก แต่เมื่อนิ้วเรียวยาวตวัดเพียงทีเดียวเปลวไฟก็ทำให้เลืดกองนั้นระเหยหายไป สติที่ค่อยๆเลือนพร่านั้นบ่งบอกว่า เขาคงไม่อาจกลับไปยังที่นอนของตนเองได้ ร่างที่ซึมชื้นไปด้วยหยาดเหงื่อแห่งความทรมาน ถูกริดรอนสติสัมปะชัญญะไปจนหมดสิ้น แล้วทุกอย่างก็ดำมืด...
-------------------****************---------------------***************
เปลี่ยนใจจบแค่นี้แระ55+
แบบว่าอันที่พล็อตไว้มันดูจะยาวไปผ่านไนนยังไม่จบซักกะทีกร๊ากกกกกกก
ความคิดเห็น