ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    take it to you

    ลำดับตอนที่ #14 : ....(ต่อไปนี้จะไม่ตั้งแระ555+)

    • อัปเดตล่าสุด 15 มิ.ย. 50


                 "ฮือ...ฮือ..."

                 เสียงร้องไห้? ใครกัน?

                 "ฮือ..ชะ.. ช่วยด้วย!! ช่วยด้วย..ฮือ"

                 เด็กผู้หญิงเหรอ? ใครกันนะ?

                 เด็กหญิงร่างเล็กในชุดกระโปรงสีชมพูที่ขาดวิ่นเพราะอะไรบางอย่าง ผมสีน้ำตาลอ่อนพลิ้วไหวไปตามแรงลม ร่างบอบบางของเธอวิ่งอย่างไม่คิดชีวิตด้วยความตระหนก ใบหน้าขาวเต็มไปด้วยคราบน้ำตา

                 เด็กคนนั้นใครกัน? ใคร?
                
                 เสียงคำรามดังกึกก้อง จากทางเบื้องหลังของเด็กหญิงตัวน้อย เธอเบือนหน้ากลับไปมองทั้งๆที่ยังไม่หยุดวิ่ง แต่มีเพียงความมืดเท่านั้นที่สะท้อนอยู่ในแววตาของเธอ แม้จะไม่เห็นอะไรเลยแต่ใบหน้านั้นก็บ่งบอกได้ถึงความกลัวที่เพิ่มมากขึ้น

                 เด็กคนนั้นกำลังหนีอะไร?

                 ก๊าซ!!! เสียงคำรามดังเข้ามาใกล้ขึ้น...ใกล้ขึ้น

                 เสียงคำราม...สีแดง...ดวงตา?..

                 แสงสีแดงที่วาวโรจน์ขึ้นมาเพียงชั่วแวบนั้นคืออะไรกัน? สีที่ราวกับสีของเลือด

                 กรงเล็บขนาดยักษ์ของปีศาจในความมืดนั้นเอื้อมออกมาหาเด็กหญิงตัวน้อย เหมือนจะตะปบไว้ แต่ร่างอันบอบบางนั้นก็สะดุดเข้ากับขาของตัวเอง ทำให้หลบได้อย่างฉิวเฉียด

                 "อ๊า!! ฮือ..ช่วยด้วย..ท่านพ่อ..ท่านแม่..."

                 ร่างเล็กๆที่มีเพียงความมืดเป็นเพื่อนนั้นทำได้แค่ ส่งเสียงเรียกและวิ่งไปข้างหน้าเท่านั้น

                 "มาทางนี้!!!" เสียงหนึ่งดังขึ้นในความมืด

                 คุ้นหูจัง..เสียงใครกันนะ?

                 มือเรียวบางยื่นออกไปด้านหน้าเพื่อไขว่คว้าอะไรบางอย่าง แล้วมือของเธอก็โดนดึงด้วยมือของเจ้าของเสียงปริศนาในความมืดนั้น

                สีหน้านั้นจะฉายให้เห็นถึงถึงความอุ่นใจในทันที แต่เสียงคำรามก็ยังคงดังเข้ามาติดๆ

                กรงเล็บยักษ์นั้นยื่นออกมาอีกครั้งด้วยความเร็วที่มากกว่าเดิม ผู้ที่กุมมือของเด็กหญิงอยู่ผลักให้เธอกระเด็นไปอีกทาง เพื่อหลบกรงเล็บนั้น

                "หลบไป!!"

                นัยน์ตาสีน้ำตาลอ่อนเบิกกว้าง เมื่อเห็นว่ากรงเล็บนั้นโผล่ออกมาอีกครั้งทางเยื้องหลังผู้ช่วยชีวิตเธอ "กรี๊ด!!! ไม่นะ....!!!!" ริมฝีปากนั้นยังขยับไหวเพื่อเรียกชื่อของคนๆนั้น แต่สิ่งที่เล็ดลอดออกมากลับเป็นเพียงความเงียบงัน  

                ใคร? เธอเรียกชื่อใคร?

    ...................

                "เคน!!" เสียงเรียกนั้นดังก้องจนเขาสะดุ้งตื่น

                เคนชันตัวนั่งบนเตียงนุ่ม มือเรียวขาวยกขึ้นกุมศีรษะที่ชื้นไปด้วยเหงื่อเช่นเดียวกับทั่วทั้งร่าง

                ลมหายใจสะท้านก้องเหมือนเหนื่อยแทบขาดใจ เขาค่อยๆสงบสติแล้วหันไปมองหน้าคนปลุกในความมืดสลัวของยามดึก

                "คีฟ..." เสียงเรียกนั้นแหบพร่าราวกับคนไม่สบาย มือเรียวจึงเลื่อนมาสัมผัสที่ลำคอของตน

                "ฝันร้ายเหรอ?"คีฟทั้งตัวลงนั่งข้างๆ ยังที่ว่างบนเตียง

                "ฝัน?" เคนทวนคำ 'งั้นเหรอ?..นั่นคือฝันเองเหรอ...'

                มือแกร่งเอื้อมไปจุดตะเกียงที่อยู่ใกล้หัวเตียง ทำให้เขาสังเกตเห็นว่าใบหน้าของเคนซีดลงขนาดไหน โดยปราศจากคำพูด คีฟยื่นมือไปสัมผัสหน้าผากมนนั้นเบาๆ

                "เจ้ามีไข้นี่...." เสียงทุ้มเอ่ยเบาๆก่อนจะเลื่อนมือออก ทำให้เรียวคิ้วของคนฟังขมวดขึ้นน้อยๆ

                    "ข้าน่ะเหรอ?.."น้ำเสียงแหบพร่าจะกล่าวแย้งแต่เสียงของเขาแทบจะเปล่งออกมาไม่ได้เลย

                    คีฟจับอีกฝ่ายให้นอนลง ก่อนจะไปค้นหาสมุนไพรที่อยู่ในตู้เล็กๆข้างเตียง "เดี๋ยวข้าจะเตรียมยาให้ เจ้าก็นอนรอไปก่อนก็แล้วกัน.." พูดจบร่างนั้นก็หายไปจากสายตาทำให้เขาต้องอยู่คนเดียว

                    นัยน์ตาสีน้ำตาลอ่อนส่องรับกับแสงสลัวของตะเกียง เขาพยายามจะนึกถึงสิ่งต่างๆเพื่อรอคนต้มยา ...ตั้งแต่ออกเดินทางนี่ก็จะ 2 อาทิตย์แล้วสินะ ภายในพรุ่งนี้คงจะหลุดจากทะเลทรายบ้าๆนี่ซะที

                    
    เขาเป็นคนไม่ค่อยจะถูกโรคกับอากาศร้อนจัดๆนัก เมื่ออยู่กลางทะเลทรายนานๆเลยทำให้ไม่สบายอย่างนี้

                    น่าแปลกที่เพื่อนของเขาแทบไม่เคยพามาเร่ร่อน ในทะเลทรายแบบนี้เลยตลอดเวลาหลายปี ราวกับจะรับรู้ได้ แต่มันก็อาจเป็นแค่เรื่องบังเอิญธรรมดาๆ

                    ร่างบนเตียงผ่อนลมหายใจออกน้อยๆ เม็ดเหงื่อผุดพรายไปทั่วใบหน้า และร่างกายจนรู้สึกอึดอัด มือเรียวดึงผ้าห่มที่คลุมร่างอยู่ออก พอเริ่มว่างเรื่องต่างๆก็เริ่มเข้ามาอยู่ในห้วงความคิดอีกครั้ง

                    ความฝันเมื่อกี้.... เด็กผู้หญิง... มังกรที่มีตาสีแดง... แล้วก็เด็กผู้ชาย...

                    มังกร??

                    ทั้งๆที่เห็นเพียงแสงสีแดง แต่เขารู้ได้ยังไงนะว่ามันเป็นตาของมังกร.. อะไรกัน? นึกสิ นึกให้ออก

                    เขารู้?? 

                    "อุ๊บ!!" มือเรียวยกขึ้นกุมศีรษะแทบจะในทันที ความรู้สึกที่แล่นจี๊ดขึ้นมา เมื่อพยายามจะนึกถึงเรื่องนั้น ทำให้เขาปวดหัวขึ้นมาโดยไม่ทราบสาเหตุ ลูกแก้วสีอ่อนเลือนพร่าก่อนจะไม่สามารถจับภาพอะไรได้เลยนอกจากความมืดมิด... 

                    คนที่ไปเตรียมยาเดินกลับเข้ามาในกระโจมพร้อมแก้วกระเบื้องที่มีควันลอยกรุ่น เขาสาวขาเข้าไปใกล้ๆกับเตียงเพื่อมองร่างที่ไม่ได้สติ หลับไปซะแล้ว.. มือแกร่งวางของในมือลงข้างหัวเตียง แล้วใช้มือสัมผัสหน้าผากของร่างที่อยู่บนเตียงอย่างเป็นห่วง แต่แล้วนัยน์ตาคมพลันเบิกโพลงด้วยความตกใจ

                     ไม่ใช่เพราะไข้ที่สูงขึ้นกว่าเมื่อครู่มาก  แต่กลับเป็นเพราะสีหน้าที่ซีดเผือด และร่องรอยแปลกตาสีเทาจางบนใบหน้าของคนที่หลับอยู่ต่างหาก นี่มันอะไรกัน?! ไม่ใช่ไข้ธรมดาๆแล้ว..หรือว่ามัน!!!

                    เขาถอยออกมาห่างจากเตียงเล็กน้อย คทาประจำตัวถูกเรียกออกมาจากอากาศธาตุ เขายกมือสองข้างขึ้นจับคทาขึ้นขนาบในแนวราบเหนือพื้น ริมฝีปากได้รูปพึมพำอะไรบางอย่าง แล้วเส้นใยสีเขียวสว่างใสก็ถักทอขึ้นเป็นตาข่ายคลุมร่างที่อยู่บนเตียง

                    เส้นอักขระประหลาดสีเทาเข้มค่อยๆปรากฏขึ้นบนผิวเนื้อขาวของร่างไร้สติอย่างรวดเร็ว ก่อนจะลุกลามไปทั่วตัว 

                    คิ้วเข้มของคนกางข่ายมนตร์ขมวดหนักขึ้น ไม่ได้การช้าไปแล้ว... เขาเร่งพลังเวทย์ของตนให้แรงขึ้น ทำให้ตาข่ายสีอ่อนนั้นทอประกายเข้มขึ้นจนแสบตา 

                    อักขระนั้นค่อยๆอ่อนจางลงเรื่อยๆ ก่อนจะกลายเป็นไอสีดำลอยขึ้นไปกลืนกับตาข่ายสีเขียวอ่อน ทำให้มันเปลี่ยนเป็นสีมัวๆ ก่อนจะดำขึ้นอย่างน่ากลัว

                    ริมฝีปากนั้นพึมพำถ้อยคำแปลกหูด้วยน้ำเสียงกระชั้นขึ้นเรื่อยๆ เม็ดเหงื่อเริ่มผุดพรายขึ้นตามไรผม และดวงหน้าคม ตาข่ายที่กลายเป็นสีดำเริ่มเปลี่ยนรูปร่างอีกครั้ง..

                    เส้นใยที่เคยถักทอกันคลายออก แล้วพุ่งมายังผลึกสีเขียวขุ่นของคทาอย่างรวดเร็ว จนร่างของผู้กุมคทาเซไปเล็กน้อย แต่ก็ยังคงทรงตัวอยู่ได้ แต่เสียงกระดูกและกล้ามเนื้อแขนที่แข่งกันลั่นเสียง เปรี๊ยะ! นั้นดูจะน่าเป็นห่วงยิ่งกว่า

                    เมื่อสายใยเส้นสุดท้ายหายเข้าไปในคทา ท่อนแขนแกร่งก็ตกลู่ลงข้างตัวทันที เขาสาวเท้าเข้าไปใกล้เตียงอย่างช้าๆ ตามที่เรี่ยวแรงจะเอื้ออำนวย นัยน์ตาทอดมองร่างที่นอนหลับไหลไม่รู้เรื่องอย่างอ่อนล้า

                    ใบหน้านวลที่เคยขาวซีดบัดนี้เริ่มมีสีเลือดฝาดขึ้นมาบ้างแล้ว ทำให้ริมฝีปากที่เผยอหอบคลี่ยิ้มบางๆ เมื่อรู้สึกสบายใจร่างสูงก็ทรุดตัวลงนั่งกับพื้นอย่างเหนื่อยล้า 

                    "อึก!"แต่จู่ๆความเจ็บปวดกลับแล่นจี๊ดขึ้นมาที่หน้าอกด้านซ้ายอย่างรวดเร็ว มือแกร่งกุมบริเวณที่รู้สึกเจ็บไว้แน่น ริมฝีปากได้รูปหอบหายใจอย่างหนักหน่วง อีกแล้ว...พอใช้มนตร์บทนี้ต้องเป็นอย่างนี้ทุกที..

                    "แค่กๆ!!!..." เขาเริ่มไอไม่หยุด มือที่ใช้ปิดปากตัวเอง เพื่อให้เสียงลอดออกมาน้อยที่สุดนั้น เริ่มเปรอะเปื้อนไปด้วยเลือดที่มีสีดำคล้ำจนน่ากลัว นัยน์ตาอ่อนล้าได้แต่มองคราบเลือดอย่างเลื่อนลอย ก่อนจะเบือนไปมองใบหน้าด้านข้างของคนหลับเล็กน้อย

                    ทำไมอยู่ๆมันถึงเกิดเรื่องขึ้นได้?..

                    มันแทบจะเป็นไปไม่ได้นี่นา ..หรือว่าเราเข้ามาใกล้เขตของเจ้าพวกนั้นแล้ว!?

                    ไม่น่าจะเป็นแบบนั้นนี่..ในเมื่อไม่เคยมีใครพบที่อยู่ของพวกนั้น.. หรือว่าเคนจะนึกออกแล้ว มนตร์ผนึกคลายตัวอย่างนั้นเหรอ?.....
       

                    คีฟนั่งหอบหายใจพลางคิดเรื่องต่างๆ แต่ความเจ็บปวดที่ควรจะคลายลงกลับทวีขึ้น "อ๊อก!! อุ๊บ!" เขานั่งงอตัวอย่างทุกข์ทรมาน เลือดเหลวข้นจำนวนมากถูกสำรอกออก แต่เมื่อนิ้วเรียวยาวตวัดเพียงทีเดียวเปลวไฟก็ทำให้เลืดกองนั้นระเหยหายไป สติที่ค่อยๆเลือนพร่านั้นบ่งบอกว่า เขาคงไม่อาจกลับไปยังที่นอนของตนเองได้ ร่างที่ซึมชื้นไปด้วยหยาดเหงื่อแห่งความทรมาน ถูกริดรอนสติสัมปะชัญญะไปจนหมดสิ้น แล้วทุกอย่างก็ดำมืด...


    -------------------****************---------------------***************
    เปลี่ยนใจจบแค่นี้แระ55+

    แบบว่าอันที่พล็อตไว้มันดูจะยาวไปผ่านไนนยังไม่จบซักกะทีกร๊ากกกกกกก

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×