คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #12 : 12th night
บทที่ 12
"เอ้าจัดโต๊ะเร็วๆเข้าสิตรงนั้นน่ะ!!"
"วงดนตรีคืนนี้พร้อมรึยัง?!"
"กรี๊ด!!! แล้วใครให้จัดโต๊ะเสร่อแบบนั้น!"
"ท่านลุซซูเรียวัตถุดิบอาหารไม่พอครับ!"
"ก็ไปซื้อสิยะอย่าโง่!"
"ท่านมาม่อนไม่ยอมอนุมัติเงินครับ!"
"บอกมาม่อนให้ไปแจ้งบอสเอง!"
เสียงโหวกเหวกโวยวายดังขึ้นตั้งแต่แปดนาฬิกาของเช้าวันที่ 10 ตุลาคม วันซึ่งเป็นวันเกิดของนายเหนือแห่งวาเรีย
ลุซซูเรียยกข้อมือขึ้นมองนาฬิกาสีชมพูแสบตา "กรี๊ด! จะ 10 โมงแล้วเหรอเนี่ย?!"เสียงออกอุทานอย่างตกใจ ก่อนสมองกระเทยจะเริ่มประมวลผลด้วยความเร็ว 1GB DuoCall
...แขกคงเริ่มมาราวๆ 5 โมงเย็น...
จัดสถานที่คงเสร็จไม่เกินบ่ายสอง...
อาหารก็เรียบร้อยแล้ว...
เบล..มาม่อน...เลวี่...ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง...
...จะเหลือก็แต่...
................................................................................
"ไม่เอา!ไม่ทา!" เสียงโวยวายอันคุ้นหูดังลั่นปราสาท
"อยู่เฉยๆสิสควอโล่ เดี๋ยวไม่สวยนะ"
"ใครอยากสวยกันล่ะวะ!!!" ร่างบางพยายามเบี่ยงหลบแปรงที่เต็มไปด้วยละอองฝุ่นสีชมพูซึ่งกำลังจะละเลงลงบนหน้าเขา
ช่างแต่งหน้าจำเป็นส่งเสียงคล้ายรำคาญในลำคอ ก่อนดีดนิ้วทีหนึ่ง ให้เบลกับมาม่อนที่นั่งคอยสัญญาณอยู่แล้วเข้าตรึงร่างของฉลามคลั่งเอาไว้ จนในที่สุดเขาก็สามารถเริ่มแต่งหน้าให้กับคนเรื่องมากได้เสียที
ช่วงเวลาที่ทรมานที่สุดในชีวิตพิรุณสีเลือดผ่านไปอย่างยากลำบาก หากหัวหน้าหน่วยอรุณกลับยิ้มแย้มอย่างสนุกสนาน
"เอาล่ะสวยเริ่ด"
แว่วเสียงหัวเราะแปลกๆของเจ้าชายจอมยุ่ง หากในน้ำเสียงก็แฝงแววชื่นชมอยู่ในที "ชิชิชิชิ สวยจริงๆด้วยล่ะ"
เปลือกตาบางค่อยๆลืมขึ้นมองบานกระจกที่ลุซซูเรียถือเอาไว้ ก่อนจะเริ่มทำสีหน้ากลืนไม่เข้าคายไม่ออก "แหวะ! ยังกับกระเทยเลยอ้ะ!"
ไม่ว่าจะใช้อความารีนน้ำงามเพ่งมองถี่ถ้วนเพียงไร แต่สิ่งที่เห็นสำหรับร่างโปร่งแล้ว มันก็ยังเป็นชายหนุ่มในเครื่องแบบสีดำอยู่นั่นเอง จะต่างไปก็ตรงที่เป็นผู้ชายที่ถูกจับแต่งหน้า!
"ก็มันยังไม่เสร็จนี่จ๊ะ"
คำว่า 'ไม่เสร็จ' ที่กระแทกเข้าสู่โสตประสาทเล่นเอาร่างบางเกือบทรุด ...มันยังมีอะไรอีกวะเนี่ย???...
ยังไม่ทันที่คำถามจะเล็ดรอดออกจากริมฝีปากคำตอบก็มาวางให้ถึงหน้าตัก
"ไปใส่มาเร็วๆเลยจะได้ทำผมต่อ"
สควอโล่เปิดกล่องกระดาษสีขาวในมือออกแล้วถึงกับต้องอ้าปากค้าง มือเรียวที่สั่นระริกค่อยๆยกของในนั้นออกมา ในขณะที่คนรอบตัวกำลังกลั้นหัวเราะอย่างสุดความสามารถ
...สิ่งที่อยู่ในกล่องคือชุดเดรสสีแดงสดตัวยาว...
หลังกลืนก้อนหัวเราะลงลำคอได้สำเร็จ ลุซซูเรียก็เอ่ยเสียงหวาน "แต่สควอโล่คงใส่ไม่เป็นสินะจ๊ะ หุหุ เดี๋ยวเจ๊จะไปช่วยเอง"
"ชิชิชิ เจ้าชายไปด้วย!~" เด็กหนุ่มรีบยกมือเสนอตัว
"หึหึ ดีเลย..ระยะนี้ของกำลังขาดตลาด" เด็กต้องสาปว่าก่อนหยิบกล้องโพราลอยด์ออกมาจากกระเป๋า
เจ้าของชุดที่ได้แต่นั่งตัวแข็งราววิญญาณได้หลุดออกจากร่างไปแล้ว ถูกลากเข้าห้องแต่งตัวซึ่งภายหลังมีเสียงโหยหวนตามมาไม่ขาด
................................................................................
ร่างสูงสง่ายืนสวมทักซิโด้สีดำสนิทอยู่ภายในห้องของตน หลังกลัดกระดูมจนหมด ดวงตาคู่คมก็มองสำรวจความเรียบร้อยอีกครั้งหนึ่ง
เรือนผมที่ดำสนิทดุจราตรีอันไร้ดาวนั้นหวีเสยขึ้นไปด้านหลังเรียบ ขนนกหลากสีที่ใช้ประดับอยู่บริเวณลำคอถูกนำออก
...ความจริงตัวเขาไม่เคยต้องการงานวันเกิดงี่เง่านั่นเลยแม้แต่น้อย ออกจะเกลียดและคิดว่ามันไร้สาระเสียด้วยซ้ำ...
...แต่ปีนี้มันต่างออกไป...
รอยยิ้มเจ้าเล่ห์ผุดขึ้นบนใบหน้าหล่อเหลา ขายาวก้าวออกจากห้องเพื่อไปยังห้องของใครบางคน
...หึๆ อยากรู้นักว่าไอ้ฉลามหัวเน่านั่นจะออกมาในสารรูปไหน ในชุดที่เขาเป็นคนเลือกเองกับมือ...
เขาเปิดประตูห้องของคนในห้วงความคิดออกโดยไม่เคาะ หากสิ่งที่ปรากฏแก่สายตานั้นกลับทำให้นภาถึงกับชะงักค้าง
ร่างโปร่งบางนั้นยิ่งดูบางระหงเมื่อต้องมาอยู่ในชุดเดรสเข้ารูปเปิดหลังยาวกรอมเท้า สีแดงสดของชุดขับเน้นผิวสีขาวน้ำนมนั้นให้ขาวผ่อง วงหน้าที่ว่าหวานนั้นดูช่างหวานล้ำเมื่อถูกแต่งแต้มจางๆ เรือนผมสีเงินยาวถูกเกล้าขึ้นสูง ทำให้แผ่นหลังนวลถูกเปิดเผยออกมาทั้งหมด
"บ..บอส" ฉลามคลั่งที่ถูกจับแปลงโฉม ออกเสียงเรียกผู้ที่เข้ามาใหม่เบาๆ "ฉันว่า..เลิกเถอะนะ..ต..ต้องความแตก.แน่..."
...ให้ผู้ชายทั้งแท่งมาแต่งตัวแบบนี้ใครจะดูไม่ออกกัน ตัวเขาเองก็ไม่ใช่คนตัวเล็กด้วย ไม่ว่าจะดูอย่างไรก็ไม่เหมาะเลยซักนิด...
"มาจนถึง่านนี้แล้วจะมาเรื่องมากอะไรอีก?" ร่างสูงแค่นหัวเราะในลำคอ ก่อนดึงรั้งท่อนแขนเปลือยเปล่าซึ่งมีเพียงถุงมือครึ่งแขนสีเดียวกับชุดช่วยปิดบังนั้นเข้าหาตัว จนร่างที่ยืนอยู่เซถลาเข้ามา
"ก็ดูสิ...เหมือนกระเทยจะแย่อยู่แล้ว"
แต่คนตัวสูงกว่ากลับปล่อยให้ถ้อยคำนั้นผ่านหูไปอย่างไม่แยแส "หืม? มีฝีมือใช้ได้เหมือนกันนี่ไอ้กระเทยสวะนั่น... เสริมกระทั่งตรงนี้" เขารั้งเอวสอบเพรียวเข้าแนบชิด มือใหญ่สัมผัสลงบริเวณหน้าอกซึ่งบัดนี้ถูกเสริมจนนูนขึ้นมา
"จับอะไรของแกน่ะ?!" สควอโล่โวยวาย
"วันนี้ทั้งวันแกจะต้องเรียกแต่ชื่อจริงของฉัน"
"เอ๋!!?"
"เรียกสิ"
ร่างบางหลุบสายตาลงคล้ายไม่กล้าเบือนสบก่อนจะขยับริมฝีปากสีระเรื่อนั้นเชื่องช้า "แซนซัส..."
ริมฝีปากคมกระซิบคำชมชิดเรือนผมนุ่ม คล้ายต้องการสูดดมกลิ่นหอมหวานที่แผ่ซ่านออกมาจากร่างของพิรุณในอาณัติ
"ปล่อยซักทีสิวะ! คนอื่นเค้าลงไปกันหมดแล้วนะ" คนในอ้อมแขนเริ่มดิ้นเมื่อร่างสูงไม่มีทีท่าวะจะยอมปล่อยเข้าเป็นอิสระ ใบหน้าที่รู้สึกร้อนวูบขึ้นมานั้นก้มหลบสายตาแหลมคม
มีหรือที่นภาจะฟังใคร... มือหนาไต่เลื้อยจากเอวสอบเพรียวลงสัมผัสสะโพกนุ่ม
ร่างบางสะดุ้ง พยายามผลักไสไหล่หนา หากเมื่อมือข้างนั้นคลึงเค้นหนักเข้าเขาก็เริ่มทนไม่ไหว ดวงตาชุ่มน้ำจึงเบือนขึ้นสบกับโกเมนน้ำเอกในที่สุด
"ไว้..ไว้คืนนี้ก่อนไม่ได้เหรอ..?" เสีงถามพร่าสั่น ร่างสูงยิ้มแฝงความหมายก่อนจุมพิตพวงแก้มนวลเบาๆ
"แกพูดเองนะไอ้สวะ"
สควอโล่หน้าร้อนขึ้นมาทันที ทั้งความโกรธความอายปะปนกันจนดวงหน้าแดงซ่านไปหมด เมื่อหลงติดกับนภาผืนนั้นง่ายดายอย่างไม่น่าเชื่อ
"ไปกันได้แล้ว" ร่างสูงกล่าวสั้นก่อนหมุนตัวเดินออกจากห้อง ให้ร่างโปร่งต้องก้าวเร็วๆเพื่อตามคนที่มุ่งหน้าสู่โถงทางเดินให้ทัน หากยิ่งเข้าใกล้ที่จัดงานมากขึ้นเท่าไหร่ ขาเพรียวขาวก็หนักอึ้งและยิ่งก้าวไม่ออกมากขึ้นเท่านั้น
คนที่เดินนำหน้าหันกลับมาคว้าแขนของคนข้างหลังให้ขึ้นมาเดินคู่กับเขา ซ้ำยังจับให้แขนเรียวเกี่ยวคล้องเข้ากับแขนของตัวเอง พร้อมพึมพำแผ่ว "ชักช้าชะมัด"
"แซนซัส?" อความารีนน้ำงามมองคนข้างกายอย่างงงงวย หากไร้ซึ่งเสียงขาน
ขาเรียวยาวก้าวตามคนที่เริ่มออกเดินอีกครั้งอย่างช่วยไม่ได้ เพราะเกรงว่าแขนแข็งแรงที่ยึดเกี่ยวไว้จะหลุดออก
...แซนซัสรู้อย่างนั้นเหรอ?...
...สนใจเขาอยู่อย่างนั้นเหรอ?...
ไม่กี่อึดใจพวกเขาก็เดินมาจนถึงบันไดทางลง ทุกสายตาจากห้องโถงใหญ่จับจ้องมายังพวกเขาเป็นตาเดียว เสียงฮือฮาดังระงมให้ประสาทยิ่งขึงเครียด มือเรียวกุมทักซิโด้เนื้อดีเอาไว้แน่น "ม...ไม่ไหวหรอก..เลิกเถอะ.นะ.."
"หุบปากน่า แกคิดจะหักหน้าฉันรึไง?"
"ไม่ใช่นะ..ต..แต่ว่าทุกคนต้องดูออกแน่เลยว่าฉันไม่ใช่ผู้หญิง..."
"แกดูดีมากพอแล้วไอ้ฉลามโง่" ...แค่นี้ก็ต้องให้พูดด้วยรึไงนะ?...
ดวงตาคู่สวยนั้นเบิกขึ้นกว้างอย่างไม่เชื่อในสิ่งที่ได้ยิน หากคนด้านข้างกลับเพียงมองตรงไปด้านหน้า
ความรู้สึกกังวลใจที่เคยมีพลันหายไปอย่างน่าประหลาด ให้ทั้งคู่เดินเข้าสู่ตัวงานได้อย่างราบรื่น
หลังกล่าวเริ่มตามพิธีจบ อาหารทั้งหมดก็ถูกจัดเรียงลงบนโต๊ะ ก่อนที่เจ้าภาพและผู้มาร่วมงานจะนั่งลงยังที่ที่ถูกจัดเตรียมเอาไว้อย่างเป็นสัดส่วน
"ชิชิชิ สควอโล่นี่สวยจนเจ้าชายตะลึงไปเลยนะนี่" หัวข้อสนทนาที่ถูกเปิดขึ้นกะทันหันทำให้ร่างโปร่งแทบสำลัก
"ว้าย! อย่าเรียกชื่อสิจ๊ะ เดี๋ยวความก็แตกกันพอดี"
"ไม่เห็นเป็นไรเลย ตั้งเก้าอี้สควอโล่ไว้หลอกแล้วนี่นา" เจ้าของเรือนผมสีทองว่าพลางพยักพเยิดไปทางที่นั่งของรองหัวหน้าแห่งวาเรียซึ่งยังคงว่างอยู่ ด้วยข้ออ้างที่ว่าออกไปปฏิบัติงานข้างนอก
บุคคลในหัวข้อสนทนาโพล่งขึ้นทะลุปล้อง "พวกแกพูดเรื่องอะไรกันวะเนี่ย??"
"แหมๆ ก็เรื่องคนที่สวยที่สุดในงานน่ะสิจ๊ะ" ลุซซูเรียหัวเราะเบาๆ
"ใช่ๆตอนที่เดินลงมากับบอสเมื่อกี้นะทุกคนมองกันตาค้างเลย"
แม้จะเชื่อไม่ลงแค่ไหน แต่เสียงที่เอ่ยออกมานั้นก็อ่อยลงอย่างเห็นได้ชัด "พูดบ้าๆ..."
"ใครว่าล่ะ? ตอนนี้คู่ควงสาสวยของท่านแซนซัสดังใหญ่แล้วล่ะ ชิชิชิชิชิชิชิ"
ร่างบางหันไปกระตุกชายเสื้อของคนที่กำลังดื่มไวน์อยู่แทน "พูดอะไรบ้างสิ.."
"นั่งเงียบๆแล้วทำตัวเป็น 'คู่ควงสาว' ไปซะ"
'คู่ควงสาว' อ้าปากค้างกับคำตอบนั้น ท่ามกลางเสียงหัวเราะชอบใจของหัวหน้าหน่วยที่เหลือ
................................................................................
เสร็จสิ้นการรับประทานอาหาร
ร่างสูงลุกขึ้นยืนพร้อมกล่าวเรียกคนข้างกาย ก่อนจะลากพาไปยังลานที่ถูกเตรียมไว้
เพียงเสียงดนตรีดังขึ้นร่างที่ถูกโอบเอวเอาไว้หลวมๆก็เกรงขึ้นมา จนเผลอบีบมือหยาบไว้แน่นโดยไม่รู้ตัว
"มันก็เหมือนๆกับที่ซ้อมมานั่นแหละ" แว่วเสียงกระซิบแผ่วจากริมฝีปากได้รูป
ฉลามหนุ่มตอบรับเบา ก่อนจะก้าวขาตามจังหวะที่ร่างสูงนำให้
นับเป็นกาารเต้นเปิดฟลอร์ที่จบลงอย่างรวดเร็ว เพราะแซนซัสจงใจเลือกเพลงที่สั้นและจังหวะเอื่อยที่สุดไว้สำหรับคู่เต้นรำซึ่งมีทักษะทางการเต้นสูงของเขาโดยเฉพาะ
เมื่อดนตรีจบลงเขาทั้งคู่ก็พากันเดินออกจากฟลอร์เพื่อปล่อยให้คู่เต้นรำอื่นๆได้ใช้พื้นที่
"สุขสันต์วันเกิดครับคุณแซนซัส" ชายหนุ่มในชุดสูทท่าทางภูมิฐานคนหนึ่งเดินตรงเข้ามาหาพวกเขาแทบจะในทันที
"ไม่น่าลำบากเลย คุณคาร์ลอสโซ" แซนซัสตอบตามมารยาททั้งใบหน้าเรียบเฉย
คาร์ลอสโซอมยิ้ม "ได้ยังไงกันล่ะครับ" เขาเว้นช่วงนิดหนึ่ง ก่อนยกมือเรียกให้คนที่คาดว่าคงเป็นผู้ติดตามยกกระเป๋าเอกสารเข้ามาให้ มือเรียวยาวเปิดกระเป๋าใบนั้นออกก่อนหยิบเอกสารบางอย่างออกมา "นี่เป็นของขวัญวันเกิดเล็กๆน้อยจากผมครับ โปรดรับไว้ด้วยนะครับ"
นภาหนุ่มรับกระดาษแผ่นนั้นมาดู มันเป็นเอกสารซื้อขาดและยืนยันความเจ้าของของอะไรบางอย่าง
"ห้องสวีทของโรงแรมแปดดาวในอีสตันบลูครับ" คาร์ลอสโซขยายความ ก่อนจะหยุดเรียกบริกรที่ถือถาดแชมเปญอย่างไม่ทุกข์ร้อน
...ดูจากท่าทางภูมิฐานและฐานะแล้วชายคนนี้ต้องเป็นนักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จมากๆไม่ผิดแน่...
...แถมยังรวยขนาดซื้อห้องในโรงแรมที่แค่เข้าไปเหยียบก็ต้องเสียเงินมากกว่าร้อยยูโรเป็นของขวัญคนอื่นได้...
ชายผมสีขี้เถ้าเอื้อมมือออกหยิบแก้วแชมเปญส่งให้แซนซัส "ให้เกียรตินักธุรกิจผู้ต่ำต้อยคนนี้ด้วยเถอะครับ"
ร่างสูงรับแก้วมากระดกรวดเดียว
ระหว่างที่กำลังรู้สึกว่าเป็นชายที่ดูไร้พิษสงเหลือเกินนั้น แชมเปญแก้วหนึ่งก็ถูกยื่นมาตรงหน้า
"ไม่ทราบว่าคุณสุภาพสตรี จะดื่มแชมเปญแก้วนี้เพื่อเป็นเกียรติให้กับการพบกันได้รึเปล่าครับ?"
สควอโล่รับแก้วบรรจุของเหลวสีใสนั้นมาอย่างงงๆ ปากแก้วของฝ่ายนั้นแตะปากแก้วของเขาเบาๆ ก่อนฝ่ายนั้นจะกระดกแก้วไวน์ขึ้น เขาจึงต้องทำตามอย่างเสียไม่ได้
ของเหลวรสขื่นล่วงผ่านลำคอ เขาวางแก้วเปล่าลงบนถาดของบริกร อาจเป็นเพราะใบหน้ากลืนไม่เข้าคายไม่ออกของเขา นัยน์ตาสีเมทัลลิกจริงพราวระริกอย่างขบขัน
"ให้เกียรติเต้นรำกับผมซักเพลงนะครับ" ชายหนุ่มโค้งตัวให้กับร่างที่เอาแต่ยืนทำหน้าเหลอหลา
"อะ...คือ..." สควอโล่ทำตัวไม่ถูกจึงหันไปขอความช่วยเหลือจากคนข้างๆ "ซ..แซนซัส" ดวงหน้าเรียวได้รูปส่ายไปมาช้าๆ
...ขอร้องล่ปฏิเสธทีเถอะ...
โกเมนสีเลือดเบือนมองข้ามลาดไหล่มนขาวแว่บหนึ่ง ไวจนร่างบางจับปลายสายตาไม่ได้ ก่อนริมฝีปากได้รูปจะหยักยิ้มที่คนมองอ่านไม่ออกจางๆ
"ไปซะสิ..แล้วดูแลของเล่นของฉันให้ดีล่ะ" ร่างสูงเอ่ยด้วยน้ำเสียงกึ่งหัวเราะ พลางเดินผ่านคนทั้งสองไปอย่างไม่ให้ความสนใจ ดวงตาสีจางจึงได้แต่มองตามแผ่นหลังกว้างไปอย่างไม่อยากเชื่อในสิ่งที่เพิ่งเกิดขึ้น
มือเรียวยกขึ้นแตะเบาๆที่หน้าอกด้านซ้าย ...เจ็บอีกแล้ว...
...ตัวเขากำลังหวังอะไรจากนภาผืนนี้กันนะ?...
หวังจะให้ช่วย.. จะให้รั้งตัวเขาเอาไว้อย่างนั้นเหรอ?...
ทั้งที่วันนี้เขาหลงคิดว่าคนไร้น้ำใจคนนี้อ่อนโยนมากกว่าปกติ...
...หากสุดท้ายก็เพียงคิดไปเองเช่นเดิม
คนๆนั้นเพียงทำไปเพื่อรักษาหน้าของตัวเองก็เท่านั้น...
...เพราะตัวเขาก็เป็นดั่งของเล่นชิ้นหนึ่ง ไร้ค่า... ไร้ราคา... จะยกให้ใครก็ทำได้ง่ายดาย...
"ไปกันเถอะครับ" คาร์ลอสโซเอ่ยพร้อมยื่นมือมาเบื้องหน้า
หลุดจากห้วงคิดไร้สาระ มือเรียวภายใต้ถุงมือสีสดค่อยวางลงบนมือข้างนั้น ดวงตาสีฟ้าจ้องตอบนัยน์ตาสีเทาให้ริมฝีปากได้รูปนั้นยกยิ้มมีเสน่ห์
"เป็นคนที่สวยจังเลยนะครับถ้าเป็นผมจะไม่ปล่อยให้คุณอยู่ห่างกายผมเลยแม้แต่วินาที"
ริมฝีปากบางระบายรอยยิ้มตอบ หากมันช่างเป็นรอยยิ้มที่ขื่นขมเหลือเกิน...
นักธุรกิจหนุ่มไม่พูดอะไรต่อเขาพาร่างโปร่งไปยังกลางฟลอร์ แม้ว่าชายหนุ่มจะเข้ามายืนประชิดและโอบร่างของเขาเอาไว้ สควอโล่ก็ยังคงไม่ขัดขืนเลยซักนิด อความารีนมองผ่านร่างเบื้องหน้าไปอย่างเลื่อนลอย
"มองอะไรอยู่เหรอครับ?"
ร่างโปร่งสะดุ้งรีบเบือนสายตามาสู่คนตรงหน้า "ป..เปล่าไม่มีอะไร"
หากเพียงครู่เดียวดวงตาคู่นั้นก็เบือนผ่านเลยไปอีก ...ณ ที่ตรงนั้น นภาผู้ที่เป็นดั่งเจ้าชีวิตของเขายืนอยู่ท่ามกลางสาวสวยมากมายที่เป็นลูกหลานของแขกผู้มาร่วมงาน ไม่ไกลกันนั้นรุ่นที่ 9 ผู้เป็นบิดาบุญธรรมของชายหนุ่มก็ยืนอยู่ด้วย ชายชรายิ้มแย้มและกล่าวแนะนำลูกชายของตนให้กับสุภาพสตรีเหล่านั้น...
เพราะรุ่นที่ 9 รู้อยู่แล้วว่าแซนซัสจะเลือกคู่ควงมามั่วๆจากเหล่านางบำเรอเสมอทุกปี ดังนั้นเขาที่ไม่รู้จึงต้องเลือกที่จะแนะนำสิ่งที่ดีกว่าให้กับลูกชายของตน
แต่แซนซัสไม่ใช่... สำหรับคนที่รู้ทุกอย่างดีอย่างแซนซัสย่อมจะต้องเห็นผู้หญิงพวกนั้นดีกว่าของเล่นอย่างเขาอยู่แล้ว...
"ใจร้ายจังเลยนะครับ อยู่กับผมแท้ๆ...แต่กลับเอาแต่มองผู้ชายคนนั้น..."
"อ๊ะ! ..ขอโทษ..."
ชายหนุ่มถอนหายใจจางๆพร้อมรอยยิ้ม "ถ้าเป็นผมจะไม่ปล่อยคุณไปเลยจริงๆ"
"เอ๋?"
"ทั้งๆที่คุณทั้งสวยและมีเสน่ห์ขนาดนี้ แต่เขากลับปล่อยให้คุณมาอยู่กับผู้ชายคนอื่นได้ง่ายขนาดนั้น"
...ก็เพราะว่าเขาเป็นผู้ชายยังไงล่ะ...
แม้จะรักษาดวงหน้าเรียบเฉยเอาไว้ได้ แต่ดวงตาสีฟ้าใสนั้นก็ถูกความเศร้าหมองเคลือบไว้จางๆเสียแล้ว
ริมฝีปากได้รูปที่ประดับอยู่บนใบหน้าหล่อคมอย่างคนอิตาลีหยักยิ้มมีเสน่ห์
"คุณรักผู้ชายคนนั้นมากเลยสินะครับ?"
-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*
อีเซย์อัพแล้วๆๆ ตอนหน้าก็รู้แล้วครับว่าฉลามจะให้อะไร555+
ปล.ขอโทษนะครับปั่นรูปประกอบไม่ทันจริงๆ ส่วนตอบเม้นท์พรุ่งนี้เย็นนะครับ อีเซย์ขอไปนอน...TTATT ตีสองแย้วววววว
เข้ามาเปลี่ยนวันที่เครี้ยกๆ
ความคิดเห็น