ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic KHR] XS l Under the Dark Sky

    ลำดับตอนที่ #12 : 12th night

    • อัปเดตล่าสุด 29 เม.ย. 53



    บทที่ 12

    "เอ้าจัดโต๊ะเร็วๆเข้าสิตรงนั้นน่ะ!!"

    "วงดนตรีคืนนี้พร้อมรึยัง?!"

    "กรี๊ด!!! แล้วใครให้จัดโต๊ะเสร่อแบบนั้น!"

    "ท่านลุซซูเรียวัตถุดิบอาหารไม่พอครับ!"

    "ก็ไปซื้อสิยะอย่าโง่!"

    "ท่านมาม่อนไม่ยอมอนุมัติเงินครับ!"

    "บอกมาม่อนให้ไปแจ้งบอสเอง!"

    เสียงโหวกเหวกโวยวายดังขึ้นตั้งแต่แปดนาฬิกาของเช้าวันที่ 10 ตุลาคม วันซึ่งเป็นวันเกิดของนายเหนือแห่งวาเรีย

    ลุซซูเรียยกข้อมือขึ้นมองนาฬิกาสีชมพูแสบตา "กรี๊ด! จะ 10 โมงแล้วเหรอเนี่ย?!"เสียงออกอุทานอย่างตกใจ ก่อนสมองกระเทยจะเริ่มประมวลผลด้วยความเร็ว 1GB DuoCall

    ...แขกคงเริ่มมาราวๆ 5 โมงเย็น...

    จัดสถานที่คงเสร็จไม่เกินบ่ายสอง...

    อาหารก็เรียบร้อยแล้ว...

    เบล..มาม่อน...เลวี่...ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง...

    ...จะเหลือก็แต่...

    ................................................................................

    "ไม่เอา!ไม่ทา!" เสียงโวยวายอันคุ้นหูดังลั่นปราสาท

    "อยู่เฉยๆสิสควอโล่ เดี๋ยวไม่สวยนะ"

    "ใครอยากสวยกันล่ะวะ!!!" ร่างบางพยายามเบี่ยงหลบแปรงที่เต็มไปด้วยละอองฝุ่นสีชมพูซึ่งกำลังจะละเลงลงบนหน้าเขา

    ช่างแต่งหน้าจำเป็นส่งเสียงคล้ายรำคาญในลำคอ ก่อนดีดนิ้วทีหนึ่ง ให้เบลกับมาม่อนที่นั่งคอยสัญญาณอยู่แล้วเข้าตรึงร่างของฉลามคลั่งเอาไว้ จนในที่สุดเขาก็สามารถเริ่มแต่งหน้าให้กับคนเรื่องมากได้เสียที

    ช่วงเวลาที่ทรมานที่สุดในชีวิตพิรุณสีเลือดผ่านไปอย่างยากลำบาก หากหัวหน้าหน่วยอรุณกลับยิ้มแย้มอย่างสนุกสนาน

    "เอาล่ะสวยเริ่ด"

    แว่วเสียงหัวเราะแปลกๆของเจ้าชายจอมยุ่ง หากในน้ำเสียงก็แฝงแววชื่นชมอยู่ในที "ชิชิชิชิ สวยจริงๆด้วยล่ะ"

    เปลือกตาบางค่อยๆลืมขึ้นมองบานกระจกที่ลุซซูเรียถือเอาไว้ ก่อนจะเริ่มทำสีหน้ากลืนไม่เข้าคายไม่ออก "แหวะ! ยังกับกระเทยเลยอ้ะ!"

    ไม่ว่าจะใช้อความารีนน้ำงามเพ่งมองถี่ถ้วนเพียงไร แต่สิ่งที่เห็นสำหรับร่างโปร่งแล้ว มันก็ยังเป็นชายหนุ่มในเครื่องแบบสีดำอยู่นั่นเอง จะต่างไปก็ตรงที่เป็นผู้ชายที่ถูกจับแต่งหน้า!

    "ก็มันยังไม่เสร็จนี่จ๊ะ"

    คำว่า 'ไม่เสร็จ' ที่กระแทกเข้าสู่โสตประสาทเล่นเอาร่างบางเกือบทรุด ...มันยังมีอะไรอีกวะเนี่ย???...

    ยังไม่ทันที่คำถามจะเล็ดรอดออกจากริมฝีปากคำตอบก็มาวางให้ถึงหน้าตัก

    "ไปใส่มาเร็วๆเลยจะได้ทำผมต่อ"

    สควอโล่เปิดกล่องกระดาษสีขาวในมือออกแล้วถึงกับต้องอ้าปากค้าง มือเรียวที่สั่นระริกค่อยๆยกของในนั้นออกมา ในขณะที่คนรอบตัวกำลังกลั้นหัวเราะอย่างสุดความสามารถ

    ...สิ่งที่อยู่ในกล่องคือชุดเดรสสีแดงสดตัวยาว...

    หลังกลืนก้อนหัวเราะลงลำคอได้สำเร็จ ลุซซูเรียก็เอ่ยเสียงหวาน "แต่สควอโล่คงใส่ไม่เป็นสินะจ๊ะ หุหุ เดี๋ยวเจ๊จะไปช่วยเอง"

    "ชิชิชิ เจ้าชายไปด้วย!~" เด็กหนุ่มรีบยกมือเสนอตัว

    "หึหึ ดีเลย..ระยะนี้ของกำลังขาดตลาด" เด็กต้องสาปว่าก่อนหยิบกล้องโพราลอยด์ออกมาจากกระเป๋า

    เจ้าของชุดที่ได้แต่นั่งตัวแข็งราววิญญาณได้หลุดออกจากร่างไปแล้ว ถูกลากเข้าห้องแต่งตัวซึ่งภายหลังมีเสียงโหยหวนตามมาไม่ขาด

    ................................................................................

    ร่างสูงสง่ายืนสวมทักซิโด้สีดำสนิทอยู่ภายในห้องของตน หลังกลัดกระดูมจนหมด ดวงตาคู่คมก็มองสำรวจความเรียบร้อยอีกครั้งหนึ่ง

    เรือนผมที่ดำสนิทดุจราตรีอันไร้ดาวนั้นหวีเสยขึ้นไปด้านหลังเรียบ ขนนกหลากสีที่ใช้ประดับอยู่บริเวณลำคอถูกนำออก

    ...ความจริงตัวเขาไม่เคยต้องการงานวันเกิดงี่เง่านั่นเลยแม้แต่น้อย ออกจะเกลียดและคิดว่ามันไร้สาระเสียด้วยซ้ำ...

    ...แต่ปีนี้มันต่างออกไป...

    รอยยิ้มเจ้าเล่ห์ผุดขึ้นบนใบหน้าหล่อเหลา ขายาวก้าวออกจากห้องเพื่อไปยังห้องของใครบางคน

    ...หึๆ อยากรู้นักว่าไอ้ฉลามหัวเน่านั่นจะออกมาในสารรูปไหน ในชุดที่เขาเป็นคนเลือกเองกับมือ...

    เขาเปิดประตูห้องของคนในห้วงความคิดออกโดยไม่เคาะ หากสิ่งที่ปรากฏแก่สายตานั้นกลับทำให้นภาถึงกับชะงักค้าง

    ร่างโปร่งบางนั้นยิ่งดูบางระหงเมื่อต้องมาอยู่ในชุดเดรสเข้ารูปเปิดหลังยาวกรอมเท้า สีแดงสดของชุดขับเน้นผิวสีขาวน้ำนมนั้นให้ขาวผ่อง  วงหน้าที่ว่าหวานนั้นดูช่างหวานล้ำเมื่อถูกแต่งแต้มจางๆ เรือนผมสีเงินยาวถูกเกล้าขึ้นสูง ทำให้แผ่นหลังนวลถูกเปิดเผยออกมาทั้งหมด

    "บ..บอส" ฉลามคลั่งที่ถูกจับแปลงโฉม ออกเสียงเรียกผู้ที่เข้ามาใหม่เบาๆ "ฉันว่า..เลิกเถอะนะ..ต..ต้องความแตก.แน่..."

    ...ให้ผู้ชายทั้งแท่งมาแต่งตัวแบบนี้ใครจะดูไม่ออกกัน ตัวเขาเองก็ไม่ใช่คนตัวเล็กด้วย ไม่ว่าจะดูอย่างไรก็ไม่เหมาะเลยซักนิด...

    "มาจนถึง่านนี้แล้วจะมาเรื่องมากอะไรอีก?" ร่างสูงแค่นหัวเราะในลำคอ ก่อนดึงรั้งท่อนแขนเปลือยเปล่าซึ่งมีเพียงถุงมือครึ่งแขนสีเดียวกับชุดช่วยปิดบังนั้นเข้าหาตัว จนร่างที่ยืนอยู่เซถลาเข้ามา

    "ก็ดูสิ...เหมือนกระเทยจะแย่อยู่แล้ว"

    แต่คนตัวสูงกว่ากลับปล่อยให้ถ้อยคำนั้นผ่านหูไปอย่างไม่แยแส "หืม? มีฝีมือใช้ได้เหมือนกันนี่ไอ้กระเทยสวะนั่น... เสริมกระทั่งตรงนี้" เขารั้งเอวสอบเพรียวเข้าแนบชิด มือใหญ่สัมผัสลงบริเวณหน้าอกซึ่งบัดนี้ถูกเสริมจนนูนขึ้นมา

    "จับอะไรของแกน่ะ?!" สควอโล่โวยวาย

    "วันนี้ทั้งวันแกจะต้องเรียกแต่ชื่อจริงของฉัน"

    "เอ๋!!?"

    "เรียกสิ"

    ร่างบางหลุบสายตาลงคล้ายไม่กล้าเบือนสบก่อนจะขยับริมฝีปากสีระเรื่อนั้นเชื่องช้า "แซนซัส..."

    ริมฝีปากคมกระซิบคำชมชิดเรือนผมนุ่ม คล้ายต้องการสูดดมกลิ่นหอมหวานที่แผ่ซ่านออกมาจากร่างของพิรุณในอาณัติ

    "ปล่อยซักทีสิวะ! คนอื่นเค้าลงไปกันหมดแล้วนะ" คนในอ้อมแขนเริ่มดิ้นเมื่อร่างสูงไม่มีทีท่าวะจะยอมปล่อยเข้าเป็นอิสระ ใบหน้าที่รู้สึกร้อนวูบขึ้นมานั้นก้มหลบสายตาแหลมคม

    มีหรือที่นภาจะฟังใคร... มือหนาไต่เลื้อยจากเอวสอบเพรียวลงสัมผัสสะโพกนุ่ม

    ร่างบางสะดุ้ง พยายามผลักไสไหล่หนา หากเมื่อมือข้างนั้นคลึงเค้นหนักเข้าเขาก็เริ่มทนไม่ไหว ดวงตาชุ่มน้ำจึงเบือนขึ้นสบกับโกเมนน้ำเอกในที่สุด

    "ไว้..ไว้คืนนี้ก่อนไม่ได้เหรอ..?" เสีงถามพร่าสั่น ร่างสูงยิ้มแฝงความหมายก่อนจุมพิตพวงแก้มนวลเบาๆ

    "แกพูดเองนะไอ้สวะ"

    สควอโล่หน้าร้อนขึ้นมาทันที ทั้งความโกรธความอายปะปนกันจนดวงหน้าแดงซ่านไปหมด เมื่อหลงติดกับนภาผืนนั้นง่ายดายอย่างไม่น่าเชื่อ

    "ไปกันได้แล้ว" ร่างสูงกล่าวสั้นก่อนหมุนตัวเดินออกจากห้อง ให้ร่างโปร่งต้องก้าวเร็วๆเพื่อตามคนที่มุ่งหน้าสู่โถงทางเดินให้ทัน หากยิ่งเข้าใกล้ที่จัดงานมากขึ้นเท่าไหร่ ขาเพรียวขาวก็หนักอึ้งและยิ่งก้าวไม่ออกมากขึ้นเท่านั้น

    คนที่เดินนำหน้าหันกลับมาคว้าแขนของคนข้างหลังให้ขึ้นมาเดินคู่กับเขา ซ้ำยังจับให้แขนเรียวเกี่ยวคล้องเข้ากับแขนของตัวเอง พร้อมพึมพำแผ่ว "ชักช้าชะมัด"

    "แซนซัส?" อความารีนน้ำงามมองคนข้างกายอย่างงงงวย หากไร้ซึ่งเสียงขาน

    ขาเรียวยาวก้าวตามคนที่เริ่มออกเดินอีกครั้งอย่างช่วยไม่ได้ เพราะเกรงว่าแขนแข็งแรงที่ยึดเกี่ยวไว้จะหลุดออก

    ...แซนซัสรู้อย่างนั้นเหรอ?...

    ...สนใจเขาอยู่อย่างนั้นเหรอ?...

    ไม่กี่อึดใจพวกเขาก็เดินมาจนถึงบันไดทางลง ทุกสายตาจากห้องโถงใหญ่จับจ้องมายังพวกเขาเป็นตาเดียว เสียงฮือฮาดังระงมให้ประสาทยิ่งขึงเครียด มือเรียวกุมทักซิโด้เนื้อดีเอาไว้แน่น "ม...ไม่ไหวหรอก..เลิกเถอะ.นะ.."

    "หุบปากน่า แกคิดจะหักหน้าฉันรึไง?"

    "ไม่ใช่นะ..ต..แต่ว่าทุกคนต้องดูออกแน่เลยว่าฉันไม่ใช่ผู้หญิง..."

    "แกดูดีมากพอแล้วไอ้ฉลามโง่" ...แค่นี้ก็ต้องให้พูดด้วยรึไงนะ?...

    ดวงตาคู่สวยนั้นเบิกขึ้นกว้างอย่างไม่เชื่อในสิ่งที่ได้ยิน หากคนด้านข้างกลับเพียงมองตรงไปด้านหน้า

    ความรู้สึกกังวลใจที่เคยมีพลันหายไปอย่างน่าประหลาด ให้ทั้งคู่เดินเข้าสู่ตัวงานได้อย่างราบรื่น

    หลังกล่าวเริ่มตามพิธีจบ อาหารทั้งหมดก็ถูกจัดเรียงลงบนโต๊ะ ก่อนที่เจ้าภาพและผู้มาร่วมงานจะนั่งลงยังที่ที่ถูกจัดเตรียมเอาไว้อย่างเป็นสัดส่วน

    "ชิชิชิ สควอโล่นี่สวยจนเจ้าชายตะลึงไปเลยนะนี่" หัวข้อสนทนาที่ถูกเปิดขึ้นกะทันหันทำให้ร่างโปร่งแทบสำลัก

    "ว้าย! อย่าเรียกชื่อสิจ๊ะ เดี๋ยวความก็แตกกันพอดี"

    "ไม่เห็นเป็นไรเลย ตั้งเก้าอี้สควอโล่ไว้หลอกแล้วนี่นา" เจ้าของเรือนผมสีทองว่าพลางพยักพเยิดไปทางที่นั่งของรองหัวหน้าแห่งวาเรียซึ่งยังคงว่างอยู่ ด้วยข้ออ้างที่ว่าออกไปปฏิบัติงานข้างนอก

    บุคคลในหัวข้อสนทนาโพล่งขึ้นทะลุปล้อง "พวกแกพูดเรื่องอะไรกันวะเนี่ย??"

    "แหมๆ ก็เรื่องคนที่สวยที่สุดในงานน่ะสิจ๊ะ" ลุซซูเรียหัวเราะเบาๆ

    "ใช่ๆตอนที่เดินลงมากับบอสเมื่อกี้นะทุกคนมองกันตาค้างเลย"

    แม้จะเชื่อไม่ลงแค่ไหน แต่เสียงที่เอ่ยออกมานั้นก็อ่อยลงอย่างเห็นได้ชัด "พูดบ้าๆ..."

    "ใครว่าล่ะ? ตอนนี้คู่ควงสาสวยของท่านแซนซัสดังใหญ่แล้วล่ะ ชิชิชิชิชิชิชิ"

    ร่างบางหันไปกระตุกชายเสื้อของคนที่กำลังดื่มไวน์อยู่แทน "พูดอะไรบ้างสิ.."

    "นั่งเงียบๆแล้วทำตัวเป็น 'คู่ควงสาว' ไปซะ"

    'คู่ควงสาว' อ้าปากค้างกับคำตอบนั้น ท่ามกลางเสียงหัวเราะชอบใจของหัวหน้าหน่วยที่เหลือ

    ................................................................................

    เสร็จสิ้นการรับประทานอาหาร

    ร่างสูงลุกขึ้นยืนพร้อมกล่าวเรียกคนข้างกาย ก่อนจะลากพาไปยังลานที่ถูกเตรียมไว้

    เพียงเสียงดนตรีดังขึ้นร่างที่ถูกโอบเอวเอาไว้หลวมๆก็เกรงขึ้นมา จนเผลอบีบมือหยาบไว้แน่นโดยไม่รู้ตัว

    "มันก็เหมือนๆกับที่ซ้อมมานั่นแหละ" แว่วเสียงกระซิบแผ่วจากริมฝีปากได้รูป

    ฉลามหนุ่มตอบรับเบา ก่อนจะก้าวขาตามจังหวะที่ร่างสูงนำให้

    นับเป็นกาารเต้นเปิดฟลอร์ที่จบลงอย่างรวดเร็ว เพราะแซนซัสจงใจเลือกเพลงที่สั้นและจังหวะเอื่อยที่สุดไว้สำหรับคู่เต้นรำซึ่งมีทักษะทางการเต้นสูงของเขาโดยเฉพาะ

    เมื่อดนตรีจบลงเขาทั้งคู่ก็พากันเดินออกจากฟลอร์เพื่อปล่อยให้คู่เต้นรำอื่นๆได้ใช้พื้นที่

    "สุขสันต์วันเกิดครับคุณแซนซัส" ชายหนุ่มในชุดสูทท่าทางภูมิฐานคนหนึ่งเดินตรงเข้ามาหาพวกเขาแทบจะในทันที

    "ไม่น่าลำบากเลย คุณคาร์ลอสโซ" แซนซัสตอบตามมารยาททั้งใบหน้าเรียบเฉย

    คาร์ลอสโซอมยิ้ม "ได้ยังไงกันล่ะครับ" เขาเว้นช่วงนิดหนึ่ง ก่อนยกมือเรียกให้คนที่คาดว่าคงเป็นผู้ติดตามยกกระเป๋าเอกสารเข้ามาให้ มือเรียวยาวเปิดกระเป๋าใบนั้นออกก่อนหยิบเอกสารบางอย่างออกมา "นี่เป็นของขวัญวันเกิดเล็กๆน้อยจากผมครับ โปรดรับไว้ด้วยนะครับ"

    นภาหนุ่มรับกระดาษแผ่นนั้นมาดู มันเป็นเอกสารซื้อขาดและยืนยันความเจ้าของของอะไรบางอย่าง

    "ห้องสวีทของโรงแรมแปดดาวในอีสตันบลูครับ" คาร์ลอสโซขยายความ ก่อนจะหยุดเรียกบริกรที่ถือถาดแชมเปญอย่างไม่ทุกข์ร้อน

    ...ดูจากท่าทางภูมิฐานและฐานะแล้วชายคนนี้ต้องเป็นนักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จมากๆไม่ผิดแน่...

    ...แถมยังรวยขนาดซื้อห้องในโรงแรมที่แค่เข้าไปเหยียบก็ต้องเสียเงินมากกว่าร้อยยูโรเป็นของขวัญคนอื่นได้...

    ชายผมสีขี้เถ้าเอื้อมมือออกหยิบแก้วแชมเปญส่งให้แซนซัส "ให้เกียรตินักธุรกิจผู้ต่ำต้อยคนนี้ด้วยเถอะครับ"

    ร่างสูงรับแก้วมากระดกรวดเดียว

    ระหว่างที่กำลังรู้สึกว่าเป็นชายที่ดูไร้พิษสงเหลือเกินนั้น แชมเปญแก้วหนึ่งก็ถูกยื่นมาตรงหน้า

    "ไม่ทราบว่าคุณสุภาพสตรี จะดื่มแชมเปญแก้วนี้เพื่อเป็นเกียรติให้กับการพบกันได้รึเปล่าครับ?"

    สควอโล่รับแก้วบรรจุของเหลวสีใสนั้นมาอย่างงงๆ ปากแก้วของฝ่ายนั้นแตะปากแก้วของเขาเบาๆ ก่อนฝ่ายนั้นจะกระดกแก้วไวน์ขึ้น เขาจึงต้องทำตามอย่างเสียไม่ได้

    ของเหลวรสขื่นล่วงผ่านลำคอ เขาวางแก้วเปล่าลงบนถาดของบริกร อาจเป็นเพราะใบหน้ากลืนไม่เข้าคายไม่ออกของเขา นัยน์ตาสีเมทัลลิกจริงพราวระริกอย่างขบขัน

    "ให้เกียรติเต้นรำกับผมซักเพลงนะครับ" ชายหนุ่มโค้งตัวให้กับร่างที่เอาแต่ยืนทำหน้าเหลอหลา

    "อะ...คือ..." สควอโล่ทำตัวไม่ถูกจึงหันไปขอความช่วยเหลือจากคนข้างๆ "ซ..แซนซัส" ดวงหน้าเรียวได้รูปส่ายไปมาช้าๆ

    ...ขอร้องล่ปฏิเสธทีเถอะ...

    โกเมนสีเลือดเบือนมองข้ามลาดไหล่มนขาวแว่บหนึ่ง ไวจนร่างบางจับปลายสายตาไม่ได้ ก่อนริมฝีปากได้รูปจะหยักยิ้มที่คนมองอ่านไม่ออกจางๆ

    "ไปซะสิ..แล้วดูแลของเล่นของฉันให้ดีล่ะ" ร่างสูงเอ่ยด้วยน้ำเสียงกึ่งหัวเราะ พลางเดินผ่านคนทั้งสองไปอย่างไม่ให้ความสนใจ ดวงตาสีจางจึงได้แต่มองตามแผ่นหลังกว้างไปอย่างไม่อยากเชื่อในสิ่งที่เพิ่งเกิดขึ้น

    มือเรียวยกขึ้นแตะเบาๆที่หน้าอกด้านซ้าย ...เจ็บอีกแล้ว...

    ...ตัวเขากำลังหวังอะไรจากนภาผืนนี้กันนะ?...

    หวังจะให้ช่วย.. จะให้รั้งตัวเขาเอาไว้อย่างนั้นเหรอ?...

    ทั้งที่วันนี้เขาหลงคิดว่าคนไร้น้ำใจคนนี้อ่อนโยนมากกว่าปกติ...

    ...หากสุดท้ายก็เพียงคิดไปเองเช่นเดิม

    คนๆนั้นเพียงทำไปเพื่อรักษาหน้าของตัวเองก็เท่านั้น...

    ...เพราะตัวเขาก็เป็นดั่งของเล่นชิ้นหนึ่ง ไร้ค่า... ไร้ราคา... จะยกให้ใครก็ทำได้ง่ายดาย...

    "ไปกันเถอะครับ" คาร์ลอสโซเอ่ยพร้อมยื่นมือมาเบื้องหน้า

    หลุดจากห้วงคิดไร้สาระ มือเรียวภายใต้ถุงมือสีสดค่อยวางลงบนมือข้างนั้น ดวงตาสีฟ้าจ้องตอบนัยน์ตาสีเทาให้ริมฝีปากได้รูปนั้นยกยิ้มมีเสน่ห์

    "เป็นคนที่สวยจังเลยนะครับถ้าเป็นผมจะไม่ปล่อยให้คุณอยู่ห่างกายผมเลยแม้แต่วินาที"

    ริมฝีปากบางระบายรอยยิ้มตอบ หากมันช่างเป็นรอยยิ้มที่ขื่นขมเหลือเกิน...

    นักธุรกิจหนุ่มไม่พูดอะไรต่อเขาพาร่างโปร่งไปยังกลางฟลอร์ แม้ว่าชายหนุ่มจะเข้ามายืนประชิดและโอบร่างของเขาเอาไว้ สควอโล่ก็ยังคงไม่ขัดขืนเลยซักนิด อความารีนมองผ่านร่างเบื้องหน้าไปอย่างเลื่อนลอย

    "มองอะไรอยู่เหรอครับ?"

    ร่างโปร่งสะดุ้งรีบเบือนสายตามาสู่คนตรงหน้า "ป..เปล่าไม่มีอะไร"

    หากเพียงครู่เดียวดวงตาคู่นั้นก็เบือนผ่านเลยไปอีก ...ณ ที่ตรงนั้น นภาผู้ที่เป็นดั่งเจ้าชีวิตของเขายืนอยู่ท่ามกลางสาวสวยมากมายที่เป็นลูกหลานของแขกผู้มาร่วมงาน ไม่ไกลกันนั้นรุ่นที่ 9 ผู้เป็นบิดาบุญธรรมของชายหนุ่มก็ยืนอยู่ด้วย ชายชรายิ้มแย้มและกล่าวแนะนำลูกชายของตนให้กับสุภาพสตรีเหล่านั้น...

    เพราะรุ่นที่ 9 รู้อยู่แล้วว่าแซนซัสจะเลือกคู่ควงมามั่วๆจากเหล่านางบำเรอเสมอทุกปี ดังนั้นเขาที่ไม่รู้จึงต้องเลือกที่จะแนะนำสิ่งที่ดีกว่าให้กับลูกชายของตน

    แต่แซนซัสไม่ใช่... สำหรับคนที่รู้ทุกอย่างดีอย่างแซนซัสย่อมจะต้องเห็นผู้หญิงพวกนั้นดีกว่าของเล่นอย่างเขาอยู่แล้ว...

    "ใจร้ายจังเลยนะครับ อยู่กับผมแท้ๆ...แต่กลับเอาแต่มองผู้ชายคนนั้น..."

    "อ๊ะ! ..ขอโทษ..."

    ชายหนุ่มถอนหายใจจางๆพร้อมรอยยิ้ม "ถ้าเป็นผมจะไม่ปล่อยคุณไปเลยจริงๆ"

    "เอ๋?"

    "ทั้งๆที่คุณทั้งสวยและมีเสน่ห์ขนาดนี้ แต่เขากลับปล่อยให้คุณมาอยู่กับผู้ชายคนอื่นได้ง่ายขนาดนั้น"

    ...ก็เพราะว่าเขาเป็นผู้ชายยังไงล่ะ...

    แม้จะรักษาดวงหน้าเรียบเฉยเอาไว้ได้ แต่ดวงตาสีฟ้าใสนั้นก็ถูกความเศร้าหมองเคลือบไว้จางๆเสียแล้ว

    ริมฝีปากได้รูปที่ประดับอยู่บนใบหน้าหล่อคมอย่างคนอิตาลีหยักยิ้มมีเสน่ห์

    "คุณรักผู้ชายคนนั้นมากเลยสินะครับ?"

    -*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*

    อีเซย์อัพแล้วๆๆ ตอนหน้าก็รู้แล้วครับว่าฉลามจะให้อะไร555+

    ปล.ขอโทษนะครับปั่นรูปประกอบไม่ทันจริงๆ ส่วนตอบเม้นท์พรุ่งนี้เย็นนะครับ อีเซย์ขอไปนอน...TTATT ตีสองแย้วววววว

    เข้ามาเปลี่ยนวันที่เครี้ยกๆ

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×