ลำดับตอนที่ #9
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #9 : ละครเขย่าขวัญ คนดูสั่นประสาท (Rewrite 100%)
ณ หน้าเวทีการแข่งรอบสุดท้าย
เหล่าผู้คนที่ไม่รู้ว่ามาจากไหนคลาคล่ำกัน จนเต็มหน้าเวที ทำให้เหล่าผู้มีชะตากรรมจะต้องเผชิญนั้น หน้าซีดไปตามๆกัน ยกเว้นอยู่คู่เดียว....
"อา..ลิซซี่ดูสิ มีคนมาเป็นสักขีพยานให้กับความงดงามของสองเรามากมายถึงเพียงนี้" ร่างสูงผมทองพูดพร้อมผายมือไปทางคู่สนทนา เบื้องหลังคือบรรยากาศกุหลาบ
"จริงด้วยค่ะโรดี้ ทีนี้เราก็จะประกาศให้โลกใบนี้ได้รู้ถึงความงดงามของเราซะทีนะคะ" ร่างบางเข้าไปประสานมือและสบตากับโรเดม บรรยากาศโดยรอบมันช่างดูปิ๊งๆบอกไม่ถูกยังไงไม่รู้สิ
"นี่แอนทิส! เจ้าไม่ได้บอกพวกข้าเลยซักนิด ว่าจะมีคนมากขนาดนี้!!" เคนเริ่มรู้สึกไม่ดีเมื่อเห็นว่าคนที่มายังเพิ่มขึ้นเรื่อยๆแบบไม่มีทีท่าว่าจะหยุด
"ก็กรรมการไง"คนถูกว่าหันมามาตอบด้วยสีหน้าเรียบสุดๆ
"กรรมการบ้าอะไรเยอะขนาดนี้เล่า!" เคนเผลอตัวระเบิดอารมณ์ออกมาทำให้ทุกคนหันมามองเป็นตาเดียว แล้วคิดไปต่างๆนานา เช่น เมื่อไหร่เจ้านั่นจะฆ่าไอ้ประธานนั่นกัน? จะได้ฮุบเงิน หรือ ถ้าเจ้านั่นฆ่าไอ้บ้านั่นทิ้งแล้วใครจะจ่ายเงินรางวัล? แต่โดยส่วนใหญ่แล้วจะหนักไปทางอย่างแรกเสียมากกว่า
"เอาน่าๆ ไหนๆก็ไหนๆการแสดงที่แท้จริงนั้นควรหลอกสายตาทุกคนให้ได้ไม่เหรอ? แล้วอีกอย่างข้าก็จะได้ถือโอกาสนี้ เก็บเงินค่าเข้าชมคนละ 10 กริฟฟ์ซะเลยจะได้หาเงินเข้าทางอ้อมไง" แอนทิสหันไปสบกับลูกแก้วสีน้ำตาลอ่อนพูดด้วยแบบจริงใจ แต่ถ้อยคำที่หลุดออกมาแต่ละถ้อยนั้น ฟังแล้วให้ความรู้สึกคันคะเยอที่อวัยวะเบื้องต่ำขึ้นมาทันที
เคนที่ยืนฟังคำอธิบายทำอะไรไม่ได้ นอกจากจะเอามือกุมขมับอย่างระอา ทำให้คนที่ยืนมองเหตุการณ์ต่างถอนหายใจกับการรอดตายของแอนทิส และปลงกับชะตากรรมที่กำลังจะเริ่มต้นขึ้น
'แปะ,แปะ',แอนทิสตบมือเรียกให้ทุกคนมารวมกันข้างหน้าตน เพื่อสะดวกต่อการนัดแนะ
"นี่ ใกล้จะได้เวลาแล้วนะ ถ้าท่องบทเสร็จก็ไปแต่งตัวซะ ทีละคู่นะจะได้ไม่วุ่นวาย พอคู่แรกจบก็ขอให้คู่ที่ 2 เข้าไปเตรียมตัวทันทีเข้าใจนะ ข้าจะไปนั่งรอดูก็แล้วกัน แล้วก็เลนาร์ดจะเป็นคนมาพูดเรื่องวิธีตัดสินกับพวกเจ้าเอง" ว่าจบคนพูดก็เดินออกไปยัง 'ที่นั่งพิเศษ' ที่ว่า มันเป็นเก้าอี้บุผ้ากำมะหยี่ ตัวเก้าอี้เรี่ยมทองอย่างดีจนดูเหมือนทำมาจากทองคำทั้งตัว แต่ก็...อาจจะเป็นทองคำจริงก็ได้...
"เอาล่ะ เรามาเข้าเรื่องกันดีกว่าครับ" เลนาร์ดพูดขึ้น เป็นการเรียกให้สายตาของทุกคนมองมาที่ตน แทนที่จะเป็นเก้าอี้ทองคำนั่น
"เมื่อครู่ตอนที่ขายบัตรให้คนดู เราแจกกระดาษให้ผู้ซื้อตั๋วเข้าชมคนละแผ่น เพื่อที่จะทำการเลือก เรื่องที่ชอบที่สุด 1 เรื่อง ซึ่งก็หมายความว่าในรอบนี้เราจะตัดสินโดยนับความเห็นจากผู้ชมส่วนใหญ่เป็นหลัก หากใครมีปัญหาอะไรก็เชิญถามได้ครับ"
เงียบ...ไม่มีคำถาม
"งั้นเราก็คงหมดธุระกันแล้วคู่ที่ 1 ขอให้เตรียมแสดงได้เลยนะครับ" แล้วเขาก็เดินไปยืนข้างเก้าอี้ของแอนทิสอย่างรวดเร็ว
เมื่อเวลาผ่านไปเล็กน้อยการแต่งตัวเสร็จสิ้น ม่านสีแดงก็เปิดออก เผยให้เห็นฉากรูปกระท่อมหลังน้อยที่ตั้งอยู่เชิงป่า
"กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว มีสามีภรรยาที่แสนยากจนคู่หนึ่ง มีลูกน้อยสองคนนามว่า เฮเซลและเกรเทล" สิ้นคำบรรยายฉากรูปกระท่อมนั้นก็ถูกยกขึ้น เผยให้เห็นคู่สามีภรรยานั่งอุ้มลูกน้อยซึ่งยังเป็นทารกอยู่ แล้วม่านก็ปิดลงมา
"เวลาล่วงเลยไปหลายต่อหลายปี แต่แล้วอยู่มาวันหนึ่งสามีก็กล่าวกับภรรยาของตนว่า" ม่านเปิดออกอีกครั้ง คราวนี้เป็นฉากในบ้านสามีกำลังนั่งคุยกับ ภรรยาที่โต๊ะอาหาร
"นี่เรากำลังยากจนลงเรื่อย และเราก็ยังต้องเลี้ยงลูกอีกสอง ถ้าเป็นแบบนี้ซักวันเราต้องอดตายแน่ เราจะทำอย่างไรดี" สามีเริ่มคร่ำครวญ
"วันพรุ่งนี้เราจะเข้าป่าแล้วทิ้งไอ้เด็ก พวกนั้นไว้ในป่า แล้วเราจะกลับมาแค่ 2 คน"ภรรยากล่าว
"ไม่ได้หรอกข้าทำไม่ได้ จะทิ้งเด็กที่อายุแค่ 8 ขวบกับ 6 ขวบไว้ท่ามกลางที่มีอันตรายแบบนั้นได้ยังไงกัน พวกเขาคงต้องตาย"
"คุณนี่มันโง่จริงๆ หากเราไม่ปล่อยให้ไอ้เด็กสองคนนั้นตาย พวกเราทั้งหมดก็จะต้องอดตาย" ภรรยาชี้แจงเหตุผล
สามีนิ่งเงียบเพียงชั่วครู่แล้วก็ตอบกับภรรยาว่า "ตกลงข้า...ข้าจะทำ"
โดยที่ไม่รู้เลยโรฟกับเรที่อยู่ในชุดเด็กนั่งแอบฟังอยู่ในมุมมืด ม่านปิดลงอีกที คราวนี้โรฟกับเรเดินออกมาข้างหน้า มีแต่ผู้ชมทำสีหน้าสยอง และเด็กเล็กๆเริ่มสะอึกสะอื้น
พวกเขาอยู่ในชุดของฮาเซลและเกรเทลล์ โรฟที่เป็นพี่เล่นเป็นฮาเซล อยู่ในเชิ้ตสีเขียวมอๆ และชุดหมีสีแดงเลือดหมู บวกกับวิกผมสั้นสีน้ำตาลแก่ ส่วนเรอยู่ในชุดกระโปรงสีชมพูสั้นเผยให้เห็นขาที่เหมือนกับตอม่อ วิกผมสีแดงและตุ๊กตากระต่ายที่เหมือนลูกไก่ในกำมือของยักษ์ จากที่ควรเป็นเด็กน่ารักแต่กลับกลายเป็น เด็กโข่งตัว 2 เมตร
"พี่คะ เราจะทำไงกันดีคะ?" เรพยายามดัดเสียงโหดๆนั่นให้แหลมเล็กแต่มันก็ยังคงน่ากลัวอยู่ดี
"ไม่ต้องกลัวไปหรอกเกรเทลล์ พี่จะช่วยให้เราทั้งสองรอดเอง"โรฟดัดเสียงให้เหี้ยมน้อยลงแต่ดูจะไม่ได้ผลแม้แต่น้อย เมื่อเสียงเด็กๆร้องไห้ดังหนักกว่าเก่า ส่วนทางแอนทิสนั้นไม่ได้หันมามองบนเวทีแม้แต่น้อย แถมมือสีซีดยังยกขึ้นปิดภาพตรงหน้าอีกต่างหาก
ผู้ชมเริ่มขว้างปาสิ่งของขึ้นไปบนเวทีจนเต็มไปหมด เลนาร์ดจึงจำต้องไปห้ามทัพคนดูที่อาจยกขบวนขึ้นไปบนเวทีเสียก่อน
"เอ่อ...ต้องขอประทานโทษด้วยครับเราจะขอปิดเรื่องเดี๋ยวนี้" เลนาร์ดรีบกล่าวออกไปอย่างรวดเร็ว แล้วเดินหลบไปหลังเวที เพราะเกรงจะโดนลูกหลง และด้วยเหตุนี้เอง เฮเซลและเกรเทลล์ภาคพิสดารก็จบลงภายในเวลาไม่ถึง 5 นาทีด้วยประการละฉะนี้
ภายในเวลาไม่ถึงนาทีของที่ขว้างปาก็โดนเก็บกวาดออกไปพร้อมสำหรับ ละครเรื่องถัดมา
"ต่อไปขอเชิญพบกับ นิทานอมตะนิรันด์กาล ซินเดอเรลลา!!"
"ครั้งหนึ่งยังมีครอบครัวซึ่งร่ำรวยมหาศาลแต่แล้ววันหนึ่งภรรยาของเศรษฐีผู้นั้นก็ตายจาก ทิ้งให้เหลือเพียงตัวเศรษฐีและลูกสาวนามว่าซินเดอเรลลา แต่เศรษฐีนั้นทนกับความเหงาไม่ได้ จึงแต่งงานกับหญิงที่มีลูกติดสองคน แม้ภายนอกจะดูเป็นคนดี แต่ภายในนั้นเธอเป็นคนที่เลวร้าย เมื่อเศรษฐีออกไปทำงานข้างนอกซินเดอเรลลาก็จะถูกข่มเหงรังแก เพราะแม่เลี้ยงของเธออิจฉาในความงามนั้น ดังนั้นเมื่อเศรษฐีตายไป ซินเดอเรลลาที่น่าสงสารจึงกลายมาเป็นคนรับใช้ในที่สุด"
ม่านเปิดออกฉากที่งดงามปากฎออกมา วังอันหรูหรา และแท่นบัลลังก์ขององค์ราชาที่นั่น พระราชาทรงปรึกษาเกี่ยวกับการอภิเษกขององค์ชาย
"องค์ชาย ถึงเวลาแล้วที่เจ้าจะต้องหาราชินีเพื่อสืบบัลลังก์นี้ ขอเจ้าจงตัดสินใจโดยเร็ว" พระราชาตรัสแก่องค์ชาย
อลันเดินออกมาในชุดสง่างามแบบองค์ชายและด้วยมาดแบบนั้นยิ่งเสริมให้ดูสมจริงมากขึ้น "ไม่ได้พระเจ้าค่ะ...เสด็จพ่อ ข้าต้องการเลือกชายาด้วยตนเอง ไม่ใช่การคลุมถุงชนเยี่ยงนี้" เสียงนุ่มเย็นกล่าวตามบท
"กรี๊ดดดดดดดดดดดดดด...!!" เสียงกรี๊ดถล่มทะลายดังขึ้นทันทีที่ร่างของเจ้าชายปรากฏออกมา
"ไม่ได้เจ้าต้องแต่งงานนี่เป็นคำสั่ง วันพรุ่งนี้ข้าจะคัดเลือกหญิงสาวมาในงานเต้นรำ เจ้าจะต้องเลือก 1 ในนั้นมาเป็นชายาเจ้า" องค์ราชันย์กล่าวต่อไป
"แต่..เสด็จพ่อข้า..."
"ไม่มีแต่ทั้งนั้น เจ้าต้องอภิเษก!!" ราชันย์ยื่นคำขาดแก่พระโอรส แล้วเสด็จออกจากท้องพระโรง แล้วม่านก็ปิดลง
ละครเรื่องนี้อาจไปรอดก็ได้นะ...แต่..เฮ้ย! อลันเป็นองค์ชายแบบนี้ก็แปลว่า...
"วันรุ่งขึ้นบ้านที่มีฐานะร่ำรวยและมีลูกสาวต่างก็ได้รับการเชิญไปงานทั้งสิ้น นั่นก็แปลว่ารวมถึงบ้านของซินเดอเรลลาด้วย"
ม่านเปิดออกอีกครั้งคราวนี้เป็นฉาก ในตัวคฤหาสน์
"นังซินๆ แกออกมาเดี๋ยวนี้นะ!!" เสียงแสบหูของแม่เลี้ยงใจร้ายตะโกนเรียกอยู่ตรงเชิงบันได
แน่นอนว่าคนที่นางเรียกจะเป็นใครไปได้ล่ะ นอกจาก...
"ค่ะๆ คุณแม่" เสียงถึกๆโดนดัดจนเกิดความสยอง ร่างที่ปรากฎออกมาเป็นใครไม่ได้นอกจาก...สแตนต์
เสียงที่ตามมาเป็มเสียงโห่อย่างรุนแรง จากบรรดาสาวๆที่ชอบองค์ชาย และแน่นอนตลอดเวลาที่ซินและองค์ชายออกต่างกันมากมาย เสียงกรี๊ดสลับกับเสียงโห่ แต่ละครก็ดำเนินจนจบเรื่อง เพราะมีคนชอบองค์ชายเยอะกว่าจะสนใจซินเดอเรลลาตัวถึกและหน้าบาก
จนมาถึงฉากสุดท้าย...ฉากจูบ.....
"กรี๊ด..อย่านะ!!" สาวๆไม่ยอมอย่างหัวเด็ดตีนขาด และพยายามจะปีนขึ้นเวที และแล้วความชุลมุนเกิดขึ้นอีกระรอก
**********--------------**********--------------
อืม....นั่นสินะ...ตอนแต่งนั่นกำลังจะไปญี่ปุ่น...แปลว่า..
2 ปี!!! 2ปีแล้วเหรอเนี่ยที่ไม่ได้อัพ โอ้วววววววว.....
555+แต่ตอนนี้ก็มาแล้วไงอย่าสนใจเลยเนาะครับ555+
เหล่าผู้คนที่ไม่รู้ว่ามาจากไหนคลาคล่ำกัน จนเต็มหน้าเวที ทำให้เหล่าผู้มีชะตากรรมจะต้องเผชิญนั้น หน้าซีดไปตามๆกัน ยกเว้นอยู่คู่เดียว....
"อา..ลิซซี่ดูสิ มีคนมาเป็นสักขีพยานให้กับความงดงามของสองเรามากมายถึงเพียงนี้" ร่างสูงผมทองพูดพร้อมผายมือไปทางคู่สนทนา เบื้องหลังคือบรรยากาศกุหลาบ
"จริงด้วยค่ะโรดี้ ทีนี้เราก็จะประกาศให้โลกใบนี้ได้รู้ถึงความงดงามของเราซะทีนะคะ" ร่างบางเข้าไปประสานมือและสบตากับโรเดม บรรยากาศโดยรอบมันช่างดูปิ๊งๆบอกไม่ถูกยังไงไม่รู้สิ
"นี่แอนทิส! เจ้าไม่ได้บอกพวกข้าเลยซักนิด ว่าจะมีคนมากขนาดนี้!!" เคนเริ่มรู้สึกไม่ดีเมื่อเห็นว่าคนที่มายังเพิ่มขึ้นเรื่อยๆแบบไม่มีทีท่าว่าจะหยุด
"ก็กรรมการไง"คนถูกว่าหันมามาตอบด้วยสีหน้าเรียบสุดๆ
"กรรมการบ้าอะไรเยอะขนาดนี้เล่า!" เคนเผลอตัวระเบิดอารมณ์ออกมาทำให้ทุกคนหันมามองเป็นตาเดียว แล้วคิดไปต่างๆนานา เช่น เมื่อไหร่เจ้านั่นจะฆ่าไอ้ประธานนั่นกัน? จะได้ฮุบเงิน หรือ ถ้าเจ้านั่นฆ่าไอ้บ้านั่นทิ้งแล้วใครจะจ่ายเงินรางวัล? แต่โดยส่วนใหญ่แล้วจะหนักไปทางอย่างแรกเสียมากกว่า
"เอาน่าๆ ไหนๆก็ไหนๆการแสดงที่แท้จริงนั้นควรหลอกสายตาทุกคนให้ได้ไม่เหรอ? แล้วอีกอย่างข้าก็จะได้ถือโอกาสนี้ เก็บเงินค่าเข้าชมคนละ 10 กริฟฟ์ซะเลยจะได้หาเงินเข้าทางอ้อมไง" แอนทิสหันไปสบกับลูกแก้วสีน้ำตาลอ่อนพูดด้วยแบบจริงใจ แต่ถ้อยคำที่หลุดออกมาแต่ละถ้อยนั้น ฟังแล้วให้ความรู้สึกคันคะเยอที่อวัยวะเบื้องต่ำขึ้นมาทันที
เคนที่ยืนฟังคำอธิบายทำอะไรไม่ได้ นอกจากจะเอามือกุมขมับอย่างระอา ทำให้คนที่ยืนมองเหตุการณ์ต่างถอนหายใจกับการรอดตายของแอนทิส และปลงกับชะตากรรมที่กำลังจะเริ่มต้นขึ้น
'แปะ,แปะ',แอนทิสตบมือเรียกให้ทุกคนมารวมกันข้างหน้าตน เพื่อสะดวกต่อการนัดแนะ
"นี่ ใกล้จะได้เวลาแล้วนะ ถ้าท่องบทเสร็จก็ไปแต่งตัวซะ ทีละคู่นะจะได้ไม่วุ่นวาย พอคู่แรกจบก็ขอให้คู่ที่ 2 เข้าไปเตรียมตัวทันทีเข้าใจนะ ข้าจะไปนั่งรอดูก็แล้วกัน แล้วก็เลนาร์ดจะเป็นคนมาพูดเรื่องวิธีตัดสินกับพวกเจ้าเอง" ว่าจบคนพูดก็เดินออกไปยัง 'ที่นั่งพิเศษ' ที่ว่า มันเป็นเก้าอี้บุผ้ากำมะหยี่ ตัวเก้าอี้เรี่ยมทองอย่างดีจนดูเหมือนทำมาจากทองคำทั้งตัว แต่ก็...อาจจะเป็นทองคำจริงก็ได้...
"เอาล่ะ เรามาเข้าเรื่องกันดีกว่าครับ" เลนาร์ดพูดขึ้น เป็นการเรียกให้สายตาของทุกคนมองมาที่ตน แทนที่จะเป็นเก้าอี้ทองคำนั่น
"เมื่อครู่ตอนที่ขายบัตรให้คนดู เราแจกกระดาษให้ผู้ซื้อตั๋วเข้าชมคนละแผ่น เพื่อที่จะทำการเลือก เรื่องที่ชอบที่สุด 1 เรื่อง ซึ่งก็หมายความว่าในรอบนี้เราจะตัดสินโดยนับความเห็นจากผู้ชมส่วนใหญ่เป็นหลัก หากใครมีปัญหาอะไรก็เชิญถามได้ครับ"
เงียบ...ไม่มีคำถาม
"งั้นเราก็คงหมดธุระกันแล้วคู่ที่ 1 ขอให้เตรียมแสดงได้เลยนะครับ" แล้วเขาก็เดินไปยืนข้างเก้าอี้ของแอนทิสอย่างรวดเร็ว
เมื่อเวลาผ่านไปเล็กน้อยการแต่งตัวเสร็จสิ้น ม่านสีแดงก็เปิดออก เผยให้เห็นฉากรูปกระท่อมหลังน้อยที่ตั้งอยู่เชิงป่า
"กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว มีสามีภรรยาที่แสนยากจนคู่หนึ่ง มีลูกน้อยสองคนนามว่า เฮเซลและเกรเทล" สิ้นคำบรรยายฉากรูปกระท่อมนั้นก็ถูกยกขึ้น เผยให้เห็นคู่สามีภรรยานั่งอุ้มลูกน้อยซึ่งยังเป็นทารกอยู่ แล้วม่านก็ปิดลงมา
"เวลาล่วงเลยไปหลายต่อหลายปี แต่แล้วอยู่มาวันหนึ่งสามีก็กล่าวกับภรรยาของตนว่า" ม่านเปิดออกอีกครั้ง คราวนี้เป็นฉากในบ้านสามีกำลังนั่งคุยกับ ภรรยาที่โต๊ะอาหาร
"นี่เรากำลังยากจนลงเรื่อย และเราก็ยังต้องเลี้ยงลูกอีกสอง ถ้าเป็นแบบนี้ซักวันเราต้องอดตายแน่ เราจะทำอย่างไรดี" สามีเริ่มคร่ำครวญ
"วันพรุ่งนี้เราจะเข้าป่าแล้วทิ้งไอ้เด็ก พวกนั้นไว้ในป่า แล้วเราจะกลับมาแค่ 2 คน"ภรรยากล่าว
"ไม่ได้หรอกข้าทำไม่ได้ จะทิ้งเด็กที่อายุแค่ 8 ขวบกับ 6 ขวบไว้ท่ามกลางที่มีอันตรายแบบนั้นได้ยังไงกัน พวกเขาคงต้องตาย"
"คุณนี่มันโง่จริงๆ หากเราไม่ปล่อยให้ไอ้เด็กสองคนนั้นตาย พวกเราทั้งหมดก็จะต้องอดตาย" ภรรยาชี้แจงเหตุผล
สามีนิ่งเงียบเพียงชั่วครู่แล้วก็ตอบกับภรรยาว่า "ตกลงข้า...ข้าจะทำ"
โดยที่ไม่รู้เลยโรฟกับเรที่อยู่ในชุดเด็กนั่งแอบฟังอยู่ในมุมมืด ม่านปิดลงอีกที คราวนี้โรฟกับเรเดินออกมาข้างหน้า มีแต่ผู้ชมทำสีหน้าสยอง และเด็กเล็กๆเริ่มสะอึกสะอื้น
พวกเขาอยู่ในชุดของฮาเซลและเกรเทลล์ โรฟที่เป็นพี่เล่นเป็นฮาเซล อยู่ในเชิ้ตสีเขียวมอๆ และชุดหมีสีแดงเลือดหมู บวกกับวิกผมสั้นสีน้ำตาลแก่ ส่วนเรอยู่ในชุดกระโปรงสีชมพูสั้นเผยให้เห็นขาที่เหมือนกับตอม่อ วิกผมสีแดงและตุ๊กตากระต่ายที่เหมือนลูกไก่ในกำมือของยักษ์ จากที่ควรเป็นเด็กน่ารักแต่กลับกลายเป็น เด็กโข่งตัว 2 เมตร
"พี่คะ เราจะทำไงกันดีคะ?" เรพยายามดัดเสียงโหดๆนั่นให้แหลมเล็กแต่มันก็ยังคงน่ากลัวอยู่ดี
"ไม่ต้องกลัวไปหรอกเกรเทลล์ พี่จะช่วยให้เราทั้งสองรอดเอง"โรฟดัดเสียงให้เหี้ยมน้อยลงแต่ดูจะไม่ได้ผลแม้แต่น้อย เมื่อเสียงเด็กๆร้องไห้ดังหนักกว่าเก่า ส่วนทางแอนทิสนั้นไม่ได้หันมามองบนเวทีแม้แต่น้อย แถมมือสีซีดยังยกขึ้นปิดภาพตรงหน้าอีกต่างหาก
ผู้ชมเริ่มขว้างปาสิ่งของขึ้นไปบนเวทีจนเต็มไปหมด เลนาร์ดจึงจำต้องไปห้ามทัพคนดูที่อาจยกขบวนขึ้นไปบนเวทีเสียก่อน
"เอ่อ...ต้องขอประทานโทษด้วยครับเราจะขอปิดเรื่องเดี๋ยวนี้" เลนาร์ดรีบกล่าวออกไปอย่างรวดเร็ว แล้วเดินหลบไปหลังเวที เพราะเกรงจะโดนลูกหลง และด้วยเหตุนี้เอง เฮเซลและเกรเทลล์ภาคพิสดารก็จบลงภายในเวลาไม่ถึง 5 นาทีด้วยประการละฉะนี้
ภายในเวลาไม่ถึงนาทีของที่ขว้างปาก็โดนเก็บกวาดออกไปพร้อมสำหรับ ละครเรื่องถัดมา
"ต่อไปขอเชิญพบกับ นิทานอมตะนิรันด์กาล ซินเดอเรลลา!!"
"ครั้งหนึ่งยังมีครอบครัวซึ่งร่ำรวยมหาศาลแต่แล้ววันหนึ่งภรรยาของเศรษฐีผู้นั้นก็ตายจาก ทิ้งให้เหลือเพียงตัวเศรษฐีและลูกสาวนามว่าซินเดอเรลลา แต่เศรษฐีนั้นทนกับความเหงาไม่ได้ จึงแต่งงานกับหญิงที่มีลูกติดสองคน แม้ภายนอกจะดูเป็นคนดี แต่ภายในนั้นเธอเป็นคนที่เลวร้าย เมื่อเศรษฐีออกไปทำงานข้างนอกซินเดอเรลลาก็จะถูกข่มเหงรังแก เพราะแม่เลี้ยงของเธออิจฉาในความงามนั้น ดังนั้นเมื่อเศรษฐีตายไป ซินเดอเรลลาที่น่าสงสารจึงกลายมาเป็นคนรับใช้ในที่สุด"
ม่านเปิดออกฉากที่งดงามปากฎออกมา วังอันหรูหรา และแท่นบัลลังก์ขององค์ราชาที่นั่น พระราชาทรงปรึกษาเกี่ยวกับการอภิเษกขององค์ชาย
"องค์ชาย ถึงเวลาแล้วที่เจ้าจะต้องหาราชินีเพื่อสืบบัลลังก์นี้ ขอเจ้าจงตัดสินใจโดยเร็ว" พระราชาตรัสแก่องค์ชาย
อลันเดินออกมาในชุดสง่างามแบบองค์ชายและด้วยมาดแบบนั้นยิ่งเสริมให้ดูสมจริงมากขึ้น "ไม่ได้พระเจ้าค่ะ...เสด็จพ่อ ข้าต้องการเลือกชายาด้วยตนเอง ไม่ใช่การคลุมถุงชนเยี่ยงนี้" เสียงนุ่มเย็นกล่าวตามบท
"กรี๊ดดดดดดดดดดดดดด...!!" เสียงกรี๊ดถล่มทะลายดังขึ้นทันทีที่ร่างของเจ้าชายปรากฏออกมา
"ไม่ได้เจ้าต้องแต่งงานนี่เป็นคำสั่ง วันพรุ่งนี้ข้าจะคัดเลือกหญิงสาวมาในงานเต้นรำ เจ้าจะต้องเลือก 1 ในนั้นมาเป็นชายาเจ้า" องค์ราชันย์กล่าวต่อไป
"แต่..เสด็จพ่อข้า..."
"ไม่มีแต่ทั้งนั้น เจ้าต้องอภิเษก!!" ราชันย์ยื่นคำขาดแก่พระโอรส แล้วเสด็จออกจากท้องพระโรง แล้วม่านก็ปิดลง
ละครเรื่องนี้อาจไปรอดก็ได้นะ...แต่..เฮ้ย! อลันเป็นองค์ชายแบบนี้ก็แปลว่า...
"วันรุ่งขึ้นบ้านที่มีฐานะร่ำรวยและมีลูกสาวต่างก็ได้รับการเชิญไปงานทั้งสิ้น นั่นก็แปลว่ารวมถึงบ้านของซินเดอเรลลาด้วย"
ม่านเปิดออกอีกครั้งคราวนี้เป็นฉาก ในตัวคฤหาสน์
"นังซินๆ แกออกมาเดี๋ยวนี้นะ!!" เสียงแสบหูของแม่เลี้ยงใจร้ายตะโกนเรียกอยู่ตรงเชิงบันได
แน่นอนว่าคนที่นางเรียกจะเป็นใครไปได้ล่ะ นอกจาก...
"ค่ะๆ คุณแม่" เสียงถึกๆโดนดัดจนเกิดความสยอง ร่างที่ปรากฎออกมาเป็นใครไม่ได้นอกจาก...สแตนต์
เสียงที่ตามมาเป็มเสียงโห่อย่างรุนแรง จากบรรดาสาวๆที่ชอบองค์ชาย และแน่นอนตลอดเวลาที่ซินและองค์ชายออกต่างกันมากมาย เสียงกรี๊ดสลับกับเสียงโห่ แต่ละครก็ดำเนินจนจบเรื่อง เพราะมีคนชอบองค์ชายเยอะกว่าจะสนใจซินเดอเรลลาตัวถึกและหน้าบาก
จนมาถึงฉากสุดท้าย...ฉากจูบ.....
"กรี๊ด..อย่านะ!!" สาวๆไม่ยอมอย่างหัวเด็ดตีนขาด และพยายามจะปีนขึ้นเวที และแล้วความชุลมุนเกิดขึ้นอีกระรอก
**********--------------**********--------------
อืม....นั่นสินะ...ตอนแต่งนั่นกำลังจะไปญี่ปุ่น...แปลว่า..
2 ปี!!! 2ปีแล้วเหรอเนี่ยที่ไม่ได้อัพ โอ้วววววววว.....
555+แต่ตอนนี้ก็มาแล้วไงอย่าสนใจเลยเนาะครับ555+
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น