ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    take it to you

    ลำดับตอนที่ #9 : ละครเขย่าขวัญ คนดูสั่นประสาท (Rewrite 100%)

    • อัปเดตล่าสุด 20 พ.ค. 50


               ณ หน้าเวทีการแข่งรอบสุดท้าย

              เหล่าผู้คนที่ไม่รู้ว่ามาจากไหนคลาคล่ำกัน จนเต็มหน้าเวที ทำให้เหล่าผู้มีชะตากรรมจะต้องเผชิญนั้น หน้าซีดไปตามๆกัน ยกเว้นอยู่คู่เดียว....

              "อา..ลิซซี่ดูสิ มีคนมาเป็นสักขีพยานให้กับความงดงามของสองเรามากมายถึงเพียงนี้" ร่างสูงผมทองพูดพร้อมผายมือไปทางคู่สนทนา เบื้องหลังคือบรรยากาศกุหลาบ

              "จริงด้วยค่ะโรดี้ ทีนี้เราก็จะประกาศให้โลกใบนี้ได้รู้ถึงความงดงามของเราซะทีนะคะ" ร่างบางเข้าไปประสานมือและสบตากับโรเดม บรรยากาศโดยรอบมันช่างดูปิ๊งๆบอกไม่ถูกยังไงไม่รู้สิ

              "นี่แอนทิส! เจ้าไม่ได้บอกพวกข้าเลยซักนิด ว่าจะมีคนมากขนาดนี้!!" เคนเริ่มรู้สึกไม่ดีเมื่อเห็นว่าคนที่มายังเพิ่มขึ้นเรื่อยๆแบบไม่มีทีท่าว่าจะหยุด

              "ก็กรรมการไง"คนถูกว่าหันมามาตอบด้วยสีหน้าเรียบสุดๆ

              "กรรมการบ้าอะไรเยอะขนาดนี้เล่า!" เคนเผลอตัวระเบิดอารมณ์ออกมาทำให้ทุกคนหันมามองเป็นตาเดียว แล้วคิดไปต่างๆนานา เช่น เมื่อไหร่เจ้านั่นจะฆ่าไอ้ประธานนั่นกัน? จะได้ฮุบเงิน หรือ ถ้าเจ้านั่นฆ่าไอ้บ้านั่นทิ้งแล้วใครจะจ่ายเงินรางวัล? แต่โดยส่วนใหญ่แล้วจะหนักไปทางอย่างแรกเสียมากกว่า

              "เอาน่าๆ ไหนๆก็ไหนๆการแสดงที่แท้จริงนั้นควรหลอกสายตาทุกคนให้ได้ไม่เหรอ? แล้วอีกอย่างข้าก็จะได้ถือโอกาสนี้ เก็บเงินค่าเข้าชมคนละ 10 กริฟฟ์ซะเลยจะได้หาเงินเข้าทางอ้อมไง" แอนทิสหันไปสบกับลูกแก้วสีน้ำตาลอ่อนพูดด้วยแบบจริงใจ แต่ถ้อยคำที่หลุดออกมาแต่ละถ้อยนั้น ฟังแล้วให้ความรู้สึกคันคะเยอที่อวัยวะเบื้องต่ำขึ้นมาทันที

              เคนที่ยืนฟังคำอธิบายทำอะไรไม่ได้ นอกจากจะเอามือกุมขมับอย่างระอา ทำให้คนที่ยืนมองเหตุการณ์ต่างถอนหายใจกับการรอดตายของแอนทิส และปลงกับชะตากรรมที่กำลังจะเริ่มต้นขึ้น

              'แปะ,แปะ',แอนทิสตบมือเรียกให้ทุกคนมารวมกันข้างหน้าตน เพื่อสะดวกต่อการนัดแนะ

              "นี่ ใกล้จะได้เวลาแล้วนะ ถ้าท่องบทเสร็จก็ไปแต่งตัวซะ ทีละคู่นะจะได้ไม่วุ่นวาย พอคู่แรกจบก็ขอให้คู่ที่ 2 เข้าไปเตรียมตัวทันทีเข้าใจนะ ข้าจะไปนั่งรอดูก็แล้วกัน แล้วก็เลนาร์ดจะเป็นคนมาพูดเรื่องวิธีตัดสินกับพวกเจ้าเอง" ว่าจบคนพูดก็เดินออกไปยัง 'ที่นั่งพิเศษ' ที่ว่า มันเป็นเก้าอี้บุผ้ากำมะหยี่ ตัวเก้าอี้เรี่ยมทองอย่างดีจนดูเหมือนทำมาจากทองคำทั้งตัว แต่ก็...อาจจะเป็นทองคำจริงก็ได้...

              "เอาล่ะ เรามาเข้าเรื่องกันดีกว่าครับ" เลนาร์ดพูดขึ้น เป็นการเรียกให้สายตาของทุกคนมองมาที่ตน แทนที่จะเป็นเก้าอี้ทองคำนั่น

              "เมื่อครู่ตอนที่ขายบัตรให้คนดู เราแจกกระดาษให้ผู้ซื้อตั๋วเข้าชมคนละแผ่น เพื่อที่จะทำการเลือก เรื่องที่ชอบที่สุด 1 เรื่อง ซึ่งก็หมายความว่าในรอบนี้เราจะตัดสินโดยนับความเห็นจากผู้ชมส่วนใหญ่เป็นหลัก หากใครมีปัญหาอะไรก็เชิญถามได้ครับ" 

              เงียบ...ไม่มีคำถาม

              "งั้นเราก็คงหมดธุระกันแล้วคู่ที่ 1 ขอให้เตรียมแสดงได้เลยนะครับ" แล้วเขาก็เดินไปยืนข้างเก้าอี้ของแอนทิสอย่างรวดเร็ว

              เมื่อเวลาผ่านไปเล็กน้อยการแต่งตัวเสร็จสิ้น ม่านสีแดงก็เปิดออก เผยให้เห็นฉากรูปกระท่อมหลังน้อยที่ตั้งอยู่เชิงป่า

              "กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว มีสามีภรรยาที่แสนยากจนคู่หนึ่ง มีลูกน้อยสองคนนามว่า เฮเซลและเกรเทล" สิ้นคำบรรยายฉากรูปกระท่อมนั้นก็ถูกยกขึ้น เผยให้เห็นคู่สามีภรรยานั่งอุ้มลูกน้อยซึ่งยังเป็นทารกอยู่ แล้วม่านก็ปิดลงมา

              "เวลาล่วงเลยไปหลายต่อหลายปี แต่แล้วอยู่มาวันหนึ่งสามีก็กล่าวกับภรรยาของตนว่า" ม่านเปิดออกอีกครั้ง คราวนี้เป็นฉากในบ้านสามีกำลังนั่งคุยกับ ภรรยาที่โต๊ะอาหาร

              "นี่เรากำลังยากจนลงเรื่อย และเราก็ยังต้องเลี้ยงลูกอีกสอง ถ้าเป็นแบบนี้ซักวันเราต้องอดตายแน่ เราจะทำอย่างไรดี" สามีเริ่มคร่ำครวญ

              "วันพรุ่งนี้เราจะเข้าป่าแล้วทิ้งไอ้เด็ก พวกนั้นไว้ในป่า แล้วเราจะกลับมาแค่ 2 คน"ภรรยากล่าว

              "ไม่ได้หรอกข้าทำไม่ได้ จะทิ้งเด็กที่อายุแค่ 8 ขวบกับ 6 ขวบไว้ท่ามกลางที่มีอันตรายแบบนั้นได้ยังไงกัน พวกเขาคงต้องตาย"

              "คุณนี่มันโง่จริงๆ หากเราไม่ปล่อยให้ไอ้เด็กสองคนนั้นตาย พวกเราทั้งหมดก็จะต้องอดตาย" ภรรยาชี้แจงเหตุผล

              สามีนิ่งเงียบเพียงชั่วครู่แล้วก็ตอบกับภรรยาว่า "ตกลงข้า...ข้าจะทำ"

              โดยที่ไม่รู้เลยโรฟกับเรที่อยู่ในชุดเด็กนั่งแอบฟังอยู่ในมุมมืด ม่านปิดลงอีกที คราวนี้โรฟกับเรเดินออกมาข้างหน้า มีแต่ผู้ชมทำสีหน้าสยอง และเด็กเล็กๆเริ่มสะอึกสะอื้น

              พวกเขาอยู่ในชุดของฮาเซลและเกรเทลล์ โรฟที่เป็นพี่เล่นเป็นฮาเซล อยู่ในเชิ้ตสีเขียวมอๆ และชุดหมีสีแดงเลือดหมู บวกกับวิกผมสั้นสีน้ำตาลแก่ ส่วนเรอยู่ในชุดกระโปรงสีชมพูสั้นเผยให้เห็นขาที่เหมือนกับตอม่อ วิกผมสีแดงและตุ๊กตากระต่ายที่เหมือนลูกไก่ในกำมือของยักษ์ จากที่ควรเป็นเด็กน่ารักแต่กลับกลายเป็น เด็กโข่งตัว 2 เมตร

              "พี่คะ เราจะทำไงกันดีคะ?" เรพยายามดัดเสียงโหดๆนั่นให้แหลมเล็กแต่มันก็ยังคงน่ากลัวอยู่ดี

              "ไม่ต้องกลัวไปหรอกเกรเทลล์ พี่จะช่วยให้เราทั้งสองรอดเอง"โรฟดัดเสียงให้เหี้ยมน้อยลงแต่ดูจะไม่ได้ผลแม้แต่น้อย เมื่อเสียงเด็กๆร้องไห้ดังหนักกว่าเก่า ส่วนทางแอนทิสนั้นไม่ได้หันมามองบนเวทีแม้แต่น้อย แถมมือสีซีดยังยกขึ้นปิดภาพตรงหน้าอีกต่างหาก

              ผู้ชมเริ่มขว้างปาสิ่งของขึ้นไปบนเวทีจนเต็มไปหมด เลนาร์ดจึงจำต้องไปห้ามทัพคนดูที่อาจยกขบวนขึ้นไปบนเวทีเสียก่อน

              "เอ่อ...ต้องขอประทานโทษด้วยครับเราจะขอปิดเรื่องเดี๋ยวนี้" เลนาร์ดรีบกล่าวออกไปอย่างรวดเร็ว แล้วเดินหลบไปหลังเวที เพราะเกรงจะโดนลูกหลง และด้วยเหตุนี้เอง เฮเซลและเกรเทลล์ภาคพิสดารก็จบลงภายในเวลาไม่ถึง 5 นาทีด้วยประการละฉะนี้

              ภายในเวลาไม่ถึงนาทีของที่ขว้างปาก็โดนเก็บกวาดออกไปพร้อมสำหรับ ละครเรื่องถัดมา

              "ต่อไปขอเชิญพบกับ นิทานอมตะนิรันด์กาล ซินเดอเรลลา!!"

              "ครั้งหนึ่งยังมีครอบครัวซึ่งร่ำรวยมหาศาลแต่แล้ววันหนึ่งภรรยาของเศรษฐีผู้นั้นก็ตายจาก ทิ้งให้เหลือเพียงตัวเศรษฐีและลูกสาวนามว่าซินเดอเรลลา แต่เศรษฐีนั้นทนกับความเหงาไม่ได้ จึงแต่งงานกับหญิงที่มีลูกติดสองคน แม้ภายนอกจะดูเป็นคนดี แต่ภายในนั้นเธอเป็นคนที่เลวร้าย เมื่อเศรษฐีออกไปทำงานข้างนอกซินเดอเรลลาก็จะถูกข่มเหงรังแก เพราะแม่เลี้ยงของเธออิจฉาในความงามนั้น ดังนั้นเมื่อเศรษฐีตายไป ซินเดอเรลลาที่น่าสงสารจึงกลายมาเป็นคนรับใช้ในที่สุด"

              ม่านเปิดออกฉากที่งดงามปากฎออกมา วังอันหรูหรา และแท่นบัลลังก์ขององค์ราชาที่นั่น พระราชาทรงปรึกษาเกี่ยวกับการอภิเษกขององค์ชาย

              "องค์ชาย ถึงเวลาแล้วที่เจ้าจะต้องหาราชินีเพื่อสืบบัลลังก์นี้ ขอเจ้าจงตัดสินใจโดยเร็ว" พระราชาตรัสแก่องค์ชาย

              อลันเดินออกมาในชุดสง่างามแบบองค์ชายและด้วยมาดแบบนั้นยิ่งเสริมให้ดูสมจริงมากขึ้น "ไม่ได้พระเจ้าค่ะ...เสด็จพ่อ ข้าต้องการเลือกชายาด้วยตนเอง ไม่ใช่การคลุมถุงชนเยี่ยงนี้" เสียงนุ่มเย็นกล่าวตามบท

              "กรี๊ดดดดดดดดดดดดดด...!!" เสียงกรี๊ดถล่มทะลายดังขึ้นทันทีที่ร่างของเจ้าชายปรากฏออกมา

              "ไม่ได้เจ้าต้องแต่งงานนี่เป็นคำสั่ง วันพรุ่งนี้ข้าจะคัดเลือกหญิงสาวมาในงานเต้นรำ เจ้าจะต้องเลือก 1 ในนั้นมาเป็นชายาเจ้า" องค์ราชันย์กล่าวต่อไป

              "แต่..เสด็จพ่อข้า..."

              "ไม่มีแต่ทั้งนั้น เจ้าต้องอภิเษก!!" ราชันย์ยื่นคำขาดแก่พระโอรส แล้วเสด็จออกจากท้องพระโรง แล้วม่านก็ปิดลง

              ละครเรื่องนี้อาจไปรอดก็ได้นะ...แต่..เฮ้ย! อลันเป็นองค์ชายแบบนี้ก็แปลว่า...

              "วันรุ่งขึ้นบ้านที่มีฐานะร่ำรวยและมีลูกสาวต่างก็ได้รับการเชิญไปงานทั้งสิ้น นั่นก็แปลว่ารวมถึงบ้านของซินเดอเรลลาด้วย"

              ม่านเปิดออกอีกครั้งคราวนี้เป็นฉาก ในตัวคฤหาสน์

              "นังซินๆ แกออกมาเดี๋ยวนี้นะ!!" เสียงแสบหูของแม่เลี้ยงใจร้ายตะโกนเรียกอยู่ตรงเชิงบันได

              แน่นอนว่าคนที่นางเรียกจะเป็นใครไปได้ล่ะ นอกจาก...

              "ค่ะๆ คุณแม่" เสียงถึกๆโดนดัดจนเกิดความสยอง ร่างที่ปรากฎออกมาเป็นใครไม่ได้นอกจาก...สแตนต์

              เสียงที่ตามมาเป็มเสียงโห่อย่างรุนแรง จากบรรดาสาวๆที่ชอบองค์ชาย และแน่นอนตลอดเวลาที่ซินและองค์ชายออกต่างกันมากมาย เสียงกรี๊ดสลับกับเสียงโห่ แต่ละครก็ดำเนินจนจบเรื่อง เพราะมีคนชอบองค์ชายเยอะกว่าจะสนใจซินเดอเรลลาตัวถึกและหน้าบาก

              จนมาถึงฉากสุดท้าย...ฉากจูบ.....

              "กรี๊ด..อย่านะ!!" สาวๆไม่ยอมอย่างหัวเด็ดตีนขาด และพยายามจะปีนขึ้นเวที และแล้วความชุลมุนเกิดขึ้นอีกระรอก

    **********--------------**********--------------  

    อืม....นั่นสินะ...ตอนแต่งนั่นกำลังจะไปญี่ปุ่น...แปลว่า..

    2 ปี!!! 2ปีแล้วเหรอเนี่ยที่ไม่ได้อัพ โอ้วววววววว.....

    555+แต่ตอนนี้ก็มาแล้วไงอย่าสนใจเลยเนาะครับ555+
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×