ลำดับตอนที่ #8
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #8 : 10ผู้โชคดีกับละครโรงเล็ก(Rewrite 100%)
เวลาเช้าตรู่ แสงแดดอันอ่อนโยนที่ดลงมา ได้เงาไม้ช่วยบรรเทาความร้อนที่จะมาปะทะ ร่างของคน 2 คนที่นั่งหลับอย่างสบาย โดยเอนหลังพิงต้นไม้กับต้นไม้ใหญ่
มันช่างเป็นช่วงเวลาที่ดูเงียบสงบสำหรับใครหลายคน แต่ไม่ใช่สำหรับสองคนนี้แน่ๆ...
เปลือกตาหนาๆค่อยกระพริบถี่ เพื่อให้ม่านตาปรับความเคยชินกับแสงที่ลอดเข้ามาเผยให้เห็นดวงตาสีน้ำตาลแดง แขนแกร่งค่อยๆยันตัวเองขึ้นนั่งในท่าที่ถนัด มือเรียวเสยผมที่ยุ่งเหยิงให้ดูเรียบร้อยได้อย่างรวดเร็ว ใบหน้าคมยังดูไม่อยู่กับร่องกับรอย เขาพยายามจ้องมองดวงอาทิตย์เพื่อ
นี่มัน...กำลังจะเข้ายาม 5 สินะ....
'ยังไม่ยามห้า...'ร่างสูงนิ่งคิดเล็กน้อย ก่อนจะทิ้งตัวลงนอนต่อ
'เอ..แล้ววันนี้แข่งวันสุดท้ายสินะ....'
'อือม ยามห้าถ้าอย่างนั้นนอนต่อ' ว่าแล้วเปลือกตาหนาก็ค่อยๆปิดลง
"ซะเมื่อไหร่เล่า เฮ้ย! เคน! ตื่น!!!"คีฟตะโกนเรียกอย่างตกใจเหมือนเพิ่งนึกขึ้นได้
เคนขยับร่างบางๆขึ้นมาอย่างงัวเงีย มือเรียวๆถูกยกขึ้นมาขยี้ตาเพื่อขจัดความง่วง
"อื๋อ..มีอาราย~~"
"ยังจะมามีอะไรอีก สายแล้ว!!" ไม่รออีกต่อไปคีฟคว้าแขนเคนซึ่งยังงัวเงียอยู่ แล้วลากแบบถูลู่ถูกังไปยัง จุดหมายซึ่งก็คือชายป่าตะวันตกอย่างรวดเร็ว
"โอ๊ย เจ็บๆๆ เจ็บนะเฟ้ย!! คีฟ! ปล่อยข้าเดี๋ยวนี้น้าาาา..." เคนพยายามร้องเรียกคนที่ บัดนี้ดูเหมือนใจจะไปอยู่ที่สนามแข่งเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และแน่นอนมันไม่เป็นผล จนเขาเองก็ปลงกับมันแล้ว จนกระทั่ง...
"ข้าแต่เทพอัคคี เทพธรณี เทพอัสนี..."เสียงทุ้มเย็นเริ่มร่ายมนตร์เบาๆ โดยปราศจากคทา เนื่องจากมือของเขา กำลังฉุดกระชากลากถูเคนซึ่งร้องโอดโอยอยู่
"เฮ้ย..เจ้าจะร่ายมนตร์ทำไม? ฮึก....ว้ากกก...!!" เคนเริ่มรู้สึกไม่ดีเมื่อสังเกตเห็นสายตาที่ปรายมองมายังเขา
"หุบปากน่า ... เทพวายุและเทพวารี...จงมาสถิต ณ ที่แห่งนี้โปรด..ประทานพลังแก่ข้า สายลมเอย จงโชยมา วานดีส"สิ้นเสียงลมกรรโชกแรง ก็พัดเอาร่างของเคนลอยขึ้นไป
"อ๊ากก...เจ้าจะฆ่าข้ารึไง ว้าก..ถ้าจะฆ่าก็ทำให้มันดีๆหน่อยสิ ข้ากลัวความสูงน้าาา..." เปลือกตาบางปิดแน่น ในขณะที่มือเรียวนั้นกุมมือหนาที่รั้งเขาไว้แน่น ทั้งๆที่เขาเองก็ทั้งถีบ ทั้งสะบัดแท้ๆ
แต่..เอ๊ะ ทำไมมันหวิวๆ...
ลูกแก้วสีอ่อนค่อยๆลืมขึ้นช้าๆแล้วเขาก็สังเกตเห็นว่า...
เขา 'กำลังลอย' อยู่นี่มันอะไรกันเนี่ย??
ด้วยความอึ้งผสมกับความงง มือเรียวนั้นจึงค่อยๆคลายออกออกโดยไม่รู้ตัว คีฟรีบฉวยโอกาสนี้ สะบัดมือเคนทิ้งไปอย่างรวดเร็ว
"เอาล่ะไปต่อได้แล้ว.."คีฟพึมพำออกมาเบาๆ
"เอ๋ 'ไป' ไปยังไง?" เสียงใสถามด้วยความงง แต่คนถูกถามกลับไม่ตอบอะไรเพียงแค่กระตุกยิ้มเจ้าเล่ห์ที่มุมปาก แล้วตวัดมือไปที่ขาของตนเอง ร่างของเขาค่อยๆลอยขึ้นบ้าง
"อย่าบอกนะว่าเจ้า..." เคนครวญคราง
"..." คีฟไม่ตอบอะไรเขาเพียงตวัดมือไปข้างหน้า และแล้วร่างของเขาและเคนพุ่งออกไปอย่างรวดเร็ว
"ว้าก...จริงๆด้วย วันนี้มันวันซวยอะไรกันเนี่ย!!???....." เคนร้องออกมาด้วยความกลัว ไม่อยากมองภาพข้างหน้า แล้วตามด้วยคำสบถยาวเหยียด ตลอดการเดินทาง
3 นาทีผ่านไป...
"โอ้..มาถึงเร็วกว่าที่คิดแฮะ" คีฟค่อยปล่อยเขากับเคนลงสู่พื้น
"พ่อจ๋า แม่จ๋า...พื้นดินจริงๆด้วย ข้ายังไม่ตาย ต่อไปนี้ข้าจะไม่เลือกกินอีกต่อไปแล้ว ไชโย!" เคนทำหน้าเหมือนความทุกข์ทั้งชีวิตมลายหายไป กับการเดินทางด้วยความเร็วเหนือนรกเมื่อครู่
สภาพของคน 2 คนช่างแตกต่างกันอย่างหาที่เปรียบไม่ได้ คีฟนั้นหน้าตาสบายๆ แถมยังยืนผิวปากอย่างสบายอารมณ์ ในขณะที่เคนนั้นอยู่ในสภาพโทรมสุดขีด ใบหน้าขาวซึ่งตอนนี้กลายเป็นขาวซีด ริมฝีปากที่ยิ้มแย้มตลอดเวลากลับพึมพำราวกับคนแก่ ร่างบางๆทรุดลงกับพื้นอย่างหมดแรง แถมในหัวยังคิดว่า 'มิน่า..วันนี้หางตามันถึงได้เขม่นยิบๆ'
"อ้าว..เคนเจ้าเป็นอะไรน่ะ?" นัยน์ตาสีน้ำตาลแดงเบือนไปจับจ้องยังใบหน้าขาดซีด พลางเอ่ยถาม
"อ้าว! พวกเจ้าเพิ่งมาเหรอ งานจะเริ่มแล้วนะ" แอนทิสเดินเข้ามาทักจากทางด้านหลัง "อ้าว!เคน..แล้วเจ้าเป็นอะไรไปน่ะ? ถึงไปนั่งกองกับพื้นอย่างนั้น" ผู้เข้ามาใหม่ถามด้วยความสงสัยแกมเป็นห่วง เพราะเจ้าคนถูกถามหน้าซีดอย่างน่ากลัว
เคนตวัดมือชี้ไปทางคีฟอย่างอ่อนแรง แล้วตะโกนออกมา"ก็ถ้าเจ้านี่ไม่ทำอะไรแบบนั้นแต่เช้าข้าก็คงไม่เป็นแบบนี้หรอก"
"อะไรแบบนั้น?" แอนทิสทวน
"ข้า? นั่นมันเพราะเจ้าอ่อนหัดเองไม่ใช่รึไง?"
"ไม่ใช่สักหน่อย ก็ถ้าเจ้าพูดดีๆ ข้าก็ปล่อยให้ทำไปแล้วล่ะน่า!"
"แล้วอีกอย่างตอนแรกก็ไม่เห็นต้องรุนแรงขนาดนั้นเลยนี่ ข้าถลอกหมดเลยนะ เห็นรึเปล่า?" เสียงใสกล่าวตัดพ้อ พลางเปิดแขนเสื้อโชว์รอยถลอกให้ดู
"ข้าขอโทษก็แล้วกัน" พูดจบร่างสูงก็นั่งชันเข่าลงบนพื้น มือแกร่งจับแขนเรียวข้างที่มีรอยถลอกขึ้น พลางใช้มืออีกข้างอังเหนือปากแผลแล้วเริ่มร่ายมนตร์เบาๆ
"นี่ หรือว่าพวกเจ้าจะเป็น..."คนที่ยืนดูเหตุการณ์ทั้งหมดเอ่ยขึ้นมาลอยๆ
"เป็น?" ทั้งสองคนหันไปมองหน้าคนพูดเป็นตาเดียว
"เป็นแบบนั้นกัน"แอนทิสพูดให้ความหมายกำกวม
'แบบนั้น?' พอคิดจบจากหน้าซีดของเคนก็ค่อยๆเป็นสีเลือดด้วยความอาย ก่อนจะค่อยๆเปลี่ยนเป็นสีเขียวด้วยความโมโห ขณะที่คีฟเองก็ดูเหมือนจะนิ่งไปแล้ว
"จะบ้าเหรอจะเป็นไปได้ไงเล่าเจ้าบ้า" เคนตะโกนออกมาอย่างรเหลืออด
"อือๆ ข้าเข้าใจ เรื่องแบบนี้ไม่ต้องปิดกันหรอกนะข้ารับได้" แอนทิสตบบ่าเคนเบาๆ
ดูเหมือนไม่ว่าเคนจะปฏิเสธเท่าไหร่ แต่ท่าทีแบบนั้นยิ่งทำให้แอนทิสเข้าใจผิดมากขึ้นเรื่อยๆ
คนยืนฟังส่ายหัวอย่างระอา ก่อนจะเดินไปสะกิดเรียกแอนทิส "อย่าไปฟังเจ้านั่นเลยเดี๋ยวจะยิ่งเข้าใจผิด ฟังข้าเถอะ.." แล้วคีฟก็เริ่มเล่าเรื่องทั้งหมดให้แอนทิสฟังอย่างใจเย็น แล้วปฏิกิริยาก็เป็นไปตามคาด
"ฮ่าๆๆๆ แล้วก็ไม่รู้จักบอกตั้งแต่แรก พูดให้ชวนคิดอยู่ได้ เคนเจ้านี่น่ารักดีนะ" แอนทิสลูบหัวเคนที่นั่งอยู่เบาๆ แล้วหัวเราะไม่หยุด
"ว้าก อย่ามาว่าข้าน่ารักนะ!!"เคนระเบิดอารมณ์ออกมา ก่อนจะหันหลังเดินออกจากวงสนทนา
คีฟรีบวิ่งตามอย่างรู้สึกขำกับท่าทางแบบนั้น แอนทิสเองก็เดินตามมาเหมือนกัน "น่าๆ อย่างอนไปเลยนะไม่ว่าแล้วนะๆ"
เคนหันหน้ากลับมามองเพื่อนที่เดินตามมาอย่างโกรธๆ คิ้วเรียวมุ่นอย่างหงุดหงิด ดูแล้วน่ารัก ยิ่งทำให้อีก 2 คนแทบกลั้นหัวเราะไม่อยู่แต่ก็ฝืนลงไปได้
"เอาล่ะๆ ไปกันเถอะ วันนี้วันสุดท้ายแล้ว ถ้าชนะมีรางวัลด้วยนะ" แอนทิสรีบเดินนำ ไปอย่างรวดเร็ว จนคู่หูสองคนแทบเดินตามไม่ทัน 'อะไรมันจะเดินเร็วขนาดนั้น'
ครึ่งชั่วโมงต่อมา...
"วันนี้ข้ารู้สึกสดชื่นเป็นอย่างมากที่ไม่ต้องตื่นแต่เช้า เพื่อมาเห็นหน้าพวกเจ้า ดังนั้นในวันนี้ข้าจึงมีความยินดีจากใจเป็นอย่างยิ่งที่จะกล่าวว่า วันนี้จะเป็นวันสุดท้ายของการคัดเลือกเสียที อันดับแรกข้าจะขอประกาศชื่อผู้เข้ารอบ 10 คนสุดท้ายก่อนก็แล้วกัน" แอนทิสพูดพลางยิ้มให้กับผู้เข้าแข่งขัน จะว่ายิ้มสวยก็ใช่นะ แต่เกรงจะเป็นสวยประหารซะมากกว่าสวยจริงใจนี่สิ เล่นเอาผู้แข่งขันเสียวกันไปเป็นแถบ
"คู่แรก คุณเฟย์ เลดีลล์ และ คุณฟีย์ เลดีลล์" เมื่อแอนทิสพูดจบ เจ้าของนามผู้ถูกเอ่ยก็เดินขึ้นขึ้นมาบนเวที ทั้ง 2 คนหน้าตาเหมือนกันราวกับแกะ เรียกได้ว่าเป็นแฝดหญิงที่หน้าตาดี คนทางซ้ายที่มีชื่อว่า 'เฟย์' นั้นเป็นแฝดคนพี่ดูท่าทางเคร่งขรึม อยู่ในชุดทะมัดทะแมง ผมดำยาวถูกเกล้าขึ้นสูง ส่วนเด็กสาวคนน้องนามว่าเฟย์นั้นดูแตกต่าง เธอดูท่าทางขี้อายไม่น้อย ได้แต่ยืนหลบหลังพี่สาว ผมสีดำยาวถึงกลางหลัง ถูกปล่อยสยาย ชุดที่ใส่ก็ดูสมเป็นกุลสตรีเหลือเกิน ช่างเป็นแฝดที่ต่างกันจริงๆ
"คู่ที่ 2 คุณคีฟ และ คุณ เคน ไวเปอร์" ทั้งสองคนเดินขึ้นไปบนเวทีตามคำเรียก เคนนั้นยังคงทำหน้าบึ้งๆนิดๆ แต่ก็เริ่มจะกลับมาเป็นปกติ คงเพราะไม่ถนัดงอนใครนานๆ
"คู่ที่ 3 คุณลิซ เซรีล และ คุณโรเดม สเตฟ" เมื่อคู่ชายและหญิงเจ้าของชื่อเดินขึ้นมา ทั้งเวทีก็ตกอยู่ในความเงียบ เมื่อชายหนุ่มคนนั้นเดินไปยึดไมค์มาจากมือของแอนทิส "สวัสดีครับ เราสองคน คู่หูแห่งความงดงาม..."ชายคนนั้นพูดพร้อมกับคาบดอกกุหลาบไว้ที่ริมฝีปาก แล้วทำท่าหล่อ
ทั่วทั้งเวทียังคงตกอยู่ในความเงียบ,'คู่หูแห่งความงดงาม???'
"ข้าคือท่านโรดี้ และนี่คือ ลิซซี่ คู่หูที่งดงาม พวกข้า 2 คนพบกันแบบงดงาม เอาชนะมาด้วยความงดงามอีกเช่นกัน ข้ารู้สึกเข้าใจดีที่พวกเจ้าอิจฉาความงดงามนี้ ยังไงเราก็ต้องขอโทษไว้ล่วงหน้าด้วยละกันนะที่งดงามเกินไป" แล้วเขาก็นำไมค์ไปส่งคืนแอนทิสที่ยืนขนลุกซู่อยู่ เพราะความน่าสะอิดสะเอียนแบบแปลกๆ
จะว่าว่างดงามก็ไม่ผิดหรอก สองคนเมื่อครู่หน้าตาดีมากทีเดียว โรเดมนั้นมีผมสีทองสลวยที่ไว้ยาวลงมาแค่ต้นคอ นัยน์ตาสีเขียวมรกต ใครเห็นแว่บแรกคงบอกได้เลยว่าหน้าตาดี ส่วนลิซนั้นนัยน์ตาคู่โตและผมสีม่วงยาวเป็นลอนรูปร่างเล็กดูบอบบาง แต่มันดูมากเกินไปยังไงไม่รู้สิ หลังจากที่ทั้งสองคนมาโพสต์ท่า'แห่งความงดงาม' นั่นแล้วโปรยดอกกุหลาบไปทั่วเวทีแถมบรรยากาศโดยรอบของ 2 คนนั่นยังรู้สึกสยองแปลกๆด้วยความงดงามที่กล่าวไว้ซะด้วยสิ
"ตะ..ต่อไป คู่ที่ 4 คุณอลัน โรเชต และ คุณสแตนต์ คราฟ ครับ"
เงียบ... ความเงียบมาเยือนอีกครั้งเมื่อทั้งสองคนก้าวขึ้นเวที ไม่ใช่เพราะความบ้าแบบเมื่อครู่ แต่เพราะความแตกต่าง อะไรมันจะฟ้ากับเหวขนาดนั้น
ชายที่ชื่อว่าอลันนั้น เป็นชายที่รูปร่างโปร่งติดจะบอบบางด้วยซ้ำ เรือนผมสีเทาถึงจะปล่อยทิ้งไว้แต่ก็ยังดูเรียบร้อย นัยน์ตาที่ติดจะดูเหมือนสีไข่มุกก็ดูดี ริมฝีปากและจะจมูกก็ดูได้รูปสวย อยู่ในชุดที่ดูหรูแต่เรียบร้อย แต่ไอ้คนข้างๆนี่สิไปผุดมาจากไหน เสื้อผ้านั้นเต็มไปด้วยรอยเย็บ ตัวโตราวสองเมตรกว่า ร่างใหญ่หนาเต็มไปด้วยมัดกล้าม เปิดให้ผมสีดำถูกเสยไว้ข้างหลัง เห็นหน้าที่เต็มไปด้วยแผลเป็นนั่น ตาสีดำข้างหนึ่งบอดสนิทด้วยโดนอะไรสักอย่างลากบากเป็นรอยบนใบหน้า และรอยขีดข่วนอีกจำนวนมาก คู่นี้นี่ คุณชายกับมหาโจรโดยแท้
"คู่สุดท้ายซะทีนะครับ คุณโรฟ และ คุณเร ออยด์ ครับ" คู่นี้ขึ้นมายิ่งเงียบกว่าเก่า ก็ใครจะไปนึกว่าแฝดนั่นจะหน้าตาถึกขนาดนี้ถึงจะเป็นชายก็เถอะ คนพี่(โรฟ)ทำผมสีดำของตนเองจนฟูฟ่องเป็นทรงอัฟโฟรว์ สวมแว่นตาสีดำ ส่วนคนน้อง(เร) ผมทรงโมฮอร์กตั้งมาเหมือนหงอนไก่อย่างเป็นเอกลักษณ์ รูปร่างใหญ่พอๆกับสแตนต์หรืออาจใหญ่กว่าด้วยซ้ำ ที่สำคัญทั้งสองคนไม่มีคิ้ว ไม่มีร่องรอยว่าโกนแปลว่า เดิมทีเขาหน้าตาแบบนั้น แล้วโตกันมาได้ไงนี่ มีเพื่อนคบหรือเปล่านะ
"เฮ่อ..รู้สึกเหนื่อยแปลกๆ แต่การแนะนำตัวก็จบลงแล้วต่อไปจะเป็นการชี้แจงการแข่งขัน รอบสุดท้ายแล้วเราจะมาแสดงละครกันครับ"
"แสดงละครเนี่ยนะ" ทุกคนพร้อมใจกันตะโกน ยกเว้นอยู่คู่เดียว
"แสดงละครเหรอ ก็ดีนะคะโรดี้"เสียงหวานๆดังขึ้น ทำให้ทุกคนหันไปมอง
"ใช่แล้วล่ะลิซซี่เราจะได้แสดงให้เห็นความงดงามของเราไงล่ะ" ส่งรอยยิ้มปิ๊งๆน่าขนลุก ทำให้ทุกคนหันกับไปที่เวทีอีกครั้ง
"นี่ ข้าทนมานานแล้วนะแข่งอะไรของนายน่ะไร้สาระจริงๆ" แฝดอัฟโฟรว์ทักท้วง
"นี่เจ้าคิดว่ามันไร้ประโยชน์งั้นเหรอ?"แอนทิสถามเรียบๆ
"ก็เออน่ะสิ"เสียงเดิมตอบกลับมา
"เจ้ารู้หรือเปล่าว่าการส่งของน่ะ ต้องมีกำลังขาที่ดีเพื่องานที่รวดเร็ว และก็ต้องมีทักษะการวางแผนและเอาตัวรอดแบบในสถานการณ์ฉุกเฉิน"แอนทิสส่ายหน้าอย่างระอากับคำถาม
'มันคิดอะไรแบบนั้นเป็นรึด้วยนี่??' นี่อาจเป็นสิ่งเดียวที่บ่งบอกอย่างชัดเจนในหัวทุกคนในตอนนั้นก็ได้
"ละ..แล้วมันก.เกี่ยวอะไรกับละครล่ะ"คนถามยังคงไม่ละความพยายาม
"นี่ยังไม่หายโง่อีกรึเนี่ย การปลอมแปลงเพื่อหาข่าวและเอาตัวรอดนั้นเป็นสิ่งจำเป็น ดังนั้นการแสดงละครที่แนบเนียนย่อมเป็นสิ่งคู่ควรรู้ไว้ซะด้วยนะ" แอนทิสยังคงถอนหายใจแบบปลงๆ
เงียบ...
"เอาล่ะถ้าอย่างนั้นก็ตกลงตามนี้ แสดงละครนะ คู่ละหนึ่งเรื่อง มีบทพระเอกกับนางเอก เท่านั้นบทประกอบเราจะจัดเตรียมตัวแสดงไว้ให้เองฉะนั้นไม่ต้องเป็นห่วง ตกลงกันได้แล้วก็ออกมาจับฉลากเลือกเรื่องเลยนะ" พูดจบแอนทิสก็เดินไปคว้ากล่องใบหนึ่งมาตั้งบนโต๊ะหน้าเวที "นี่เป็นชื่อเรื่องที่จะต้องเล่นนะ อ้อ! แล้วก็หมายเลขลำดับที่น่ะนะ ใครจับแล้วก็เดินไปหาเจ้าหน้าที่ทางโน้นรับบท" ว่าแล้วก็ผายมือไปยังเจ้าหน้าที่ 2 คนที่ยืนรออยู่
ผ่านเวลาทำใจไปอีกร่วมชั่วโมง
ในที่สุดบอร์ดรายชื่อก็ออกมา
คู่ที่ 1 โรฟ และ เร (เฮเซลและเกรเทลล์ บ้านขนมปัง)
คู่ที่ 2 อลัน และ สแตนต์ (ซินเดอเรลลา)
คู่ที่ 3 ลิซ และ โรเดม ( Sleeping Beauty )
คู่ที่ 4 เฟย์ และ ฟีย์ ( สโนว์ไวท์ )
คู่ที่ 5 เคน และ คีฟ ( Ice and Snow )
*********-----------------*********-----------------
1 ชั่วยามมี 2 ชั่วโมงครับ ใน 1 วันจะมีทั้งหมด 12 ชั่วยาม
โดยที่ยาม 1 จะเริ่มตั้งแต่เที่ยงคืนถึงตีสองครับ
(บางที่บอกว่าห้าทุ่มถึงตีหนึ่งแต่ตามหลักสากล และเพื่อความง่ายจะนับยามแรกเที่ยงคืนนะครับ)
สำเร็จไปอีกบทนึงแล้ววววววววววววววววว ปลาบปลื้มมมมมมมม...TToTT
มันช่างเป็นช่วงเวลาที่ดูเงียบสงบสำหรับใครหลายคน แต่ไม่ใช่สำหรับสองคนนี้แน่ๆ...
เปลือกตาหนาๆค่อยกระพริบถี่ เพื่อให้ม่านตาปรับความเคยชินกับแสงที่ลอดเข้ามาเผยให้เห็นดวงตาสีน้ำตาลแดง แขนแกร่งค่อยๆยันตัวเองขึ้นนั่งในท่าที่ถนัด มือเรียวเสยผมที่ยุ่งเหยิงให้ดูเรียบร้อยได้อย่างรวดเร็ว ใบหน้าคมยังดูไม่อยู่กับร่องกับรอย เขาพยายามจ้องมองดวงอาทิตย์เพื่อ
นี่มัน...กำลังจะเข้ายาม 5 สินะ....
'ยังไม่ยามห้า...'ร่างสูงนิ่งคิดเล็กน้อย ก่อนจะทิ้งตัวลงนอนต่อ
'เอ..แล้ววันนี้แข่งวันสุดท้ายสินะ....'
'อือม ยามห้าถ้าอย่างนั้นนอนต่อ' ว่าแล้วเปลือกตาหนาก็ค่อยๆปิดลง
"ซะเมื่อไหร่เล่า เฮ้ย! เคน! ตื่น!!!"คีฟตะโกนเรียกอย่างตกใจเหมือนเพิ่งนึกขึ้นได้
เคนขยับร่างบางๆขึ้นมาอย่างงัวเงีย มือเรียวๆถูกยกขึ้นมาขยี้ตาเพื่อขจัดความง่วง
"อื๋อ..มีอาราย~~"
"ยังจะมามีอะไรอีก สายแล้ว!!" ไม่รออีกต่อไปคีฟคว้าแขนเคนซึ่งยังงัวเงียอยู่ แล้วลากแบบถูลู่ถูกังไปยัง จุดหมายซึ่งก็คือชายป่าตะวันตกอย่างรวดเร็ว
"โอ๊ย เจ็บๆๆ เจ็บนะเฟ้ย!! คีฟ! ปล่อยข้าเดี๋ยวนี้น้าาาา..." เคนพยายามร้องเรียกคนที่ บัดนี้ดูเหมือนใจจะไปอยู่ที่สนามแข่งเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และแน่นอนมันไม่เป็นผล จนเขาเองก็ปลงกับมันแล้ว จนกระทั่ง...
"ข้าแต่เทพอัคคี เทพธรณี เทพอัสนี..."เสียงทุ้มเย็นเริ่มร่ายมนตร์เบาๆ โดยปราศจากคทา เนื่องจากมือของเขา กำลังฉุดกระชากลากถูเคนซึ่งร้องโอดโอยอยู่
"เฮ้ย..เจ้าจะร่ายมนตร์ทำไม? ฮึก....ว้ากกก...!!" เคนเริ่มรู้สึกไม่ดีเมื่อสังเกตเห็นสายตาที่ปรายมองมายังเขา
"หุบปากน่า ... เทพวายุและเทพวารี...จงมาสถิต ณ ที่แห่งนี้โปรด..ประทานพลังแก่ข้า สายลมเอย จงโชยมา วานดีส"สิ้นเสียงลมกรรโชกแรง ก็พัดเอาร่างของเคนลอยขึ้นไป
"อ๊ากก...เจ้าจะฆ่าข้ารึไง ว้าก..ถ้าจะฆ่าก็ทำให้มันดีๆหน่อยสิ ข้ากลัวความสูงน้าาา..." เปลือกตาบางปิดแน่น ในขณะที่มือเรียวนั้นกุมมือหนาที่รั้งเขาไว้แน่น ทั้งๆที่เขาเองก็ทั้งถีบ ทั้งสะบัดแท้ๆ
แต่..เอ๊ะ ทำไมมันหวิวๆ...
ลูกแก้วสีอ่อนค่อยๆลืมขึ้นช้าๆแล้วเขาก็สังเกตเห็นว่า...
เขา 'กำลังลอย' อยู่นี่มันอะไรกันเนี่ย??
ด้วยความอึ้งผสมกับความงง มือเรียวนั้นจึงค่อยๆคลายออกออกโดยไม่รู้ตัว คีฟรีบฉวยโอกาสนี้ สะบัดมือเคนทิ้งไปอย่างรวดเร็ว
"เอาล่ะไปต่อได้แล้ว.."คีฟพึมพำออกมาเบาๆ
"เอ๋ 'ไป' ไปยังไง?" เสียงใสถามด้วยความงง แต่คนถูกถามกลับไม่ตอบอะไรเพียงแค่กระตุกยิ้มเจ้าเล่ห์ที่มุมปาก แล้วตวัดมือไปที่ขาของตนเอง ร่างของเขาค่อยๆลอยขึ้นบ้าง
"อย่าบอกนะว่าเจ้า..." เคนครวญคราง
"..." คีฟไม่ตอบอะไรเขาเพียงตวัดมือไปข้างหน้า และแล้วร่างของเขาและเคนพุ่งออกไปอย่างรวดเร็ว
"ว้าก...จริงๆด้วย วันนี้มันวันซวยอะไรกันเนี่ย!!???....." เคนร้องออกมาด้วยความกลัว ไม่อยากมองภาพข้างหน้า แล้วตามด้วยคำสบถยาวเหยียด ตลอดการเดินทาง
3 นาทีผ่านไป...
"โอ้..มาถึงเร็วกว่าที่คิดแฮะ" คีฟค่อยปล่อยเขากับเคนลงสู่พื้น
"พ่อจ๋า แม่จ๋า...พื้นดินจริงๆด้วย ข้ายังไม่ตาย ต่อไปนี้ข้าจะไม่เลือกกินอีกต่อไปแล้ว ไชโย!" เคนทำหน้าเหมือนความทุกข์ทั้งชีวิตมลายหายไป กับการเดินทางด้วยความเร็วเหนือนรกเมื่อครู่
สภาพของคน 2 คนช่างแตกต่างกันอย่างหาที่เปรียบไม่ได้ คีฟนั้นหน้าตาสบายๆ แถมยังยืนผิวปากอย่างสบายอารมณ์ ในขณะที่เคนนั้นอยู่ในสภาพโทรมสุดขีด ใบหน้าขาวซึ่งตอนนี้กลายเป็นขาวซีด ริมฝีปากที่ยิ้มแย้มตลอดเวลากลับพึมพำราวกับคนแก่ ร่างบางๆทรุดลงกับพื้นอย่างหมดแรง แถมในหัวยังคิดว่า 'มิน่า..วันนี้หางตามันถึงได้เขม่นยิบๆ'
"อ้าว..เคนเจ้าเป็นอะไรน่ะ?" นัยน์ตาสีน้ำตาลแดงเบือนไปจับจ้องยังใบหน้าขาดซีด พลางเอ่ยถาม
"อ้าว! พวกเจ้าเพิ่งมาเหรอ งานจะเริ่มแล้วนะ" แอนทิสเดินเข้ามาทักจากทางด้านหลัง "อ้าว!เคน..แล้วเจ้าเป็นอะไรไปน่ะ? ถึงไปนั่งกองกับพื้นอย่างนั้น" ผู้เข้ามาใหม่ถามด้วยความสงสัยแกมเป็นห่วง เพราะเจ้าคนถูกถามหน้าซีดอย่างน่ากลัว
เคนตวัดมือชี้ไปทางคีฟอย่างอ่อนแรง แล้วตะโกนออกมา"ก็ถ้าเจ้านี่ไม่ทำอะไรแบบนั้นแต่เช้าข้าก็คงไม่เป็นแบบนี้หรอก"
"อะไรแบบนั้น?" แอนทิสทวน
"ข้า? นั่นมันเพราะเจ้าอ่อนหัดเองไม่ใช่รึไง?"
"ไม่ใช่สักหน่อย ก็ถ้าเจ้าพูดดีๆ ข้าก็ปล่อยให้ทำไปแล้วล่ะน่า!"
"แล้วอีกอย่างตอนแรกก็ไม่เห็นต้องรุนแรงขนาดนั้นเลยนี่ ข้าถลอกหมดเลยนะ เห็นรึเปล่า?" เสียงใสกล่าวตัดพ้อ พลางเปิดแขนเสื้อโชว์รอยถลอกให้ดู
"ข้าขอโทษก็แล้วกัน" พูดจบร่างสูงก็นั่งชันเข่าลงบนพื้น มือแกร่งจับแขนเรียวข้างที่มีรอยถลอกขึ้น พลางใช้มืออีกข้างอังเหนือปากแผลแล้วเริ่มร่ายมนตร์เบาๆ
"นี่ หรือว่าพวกเจ้าจะเป็น..."คนที่ยืนดูเหตุการณ์ทั้งหมดเอ่ยขึ้นมาลอยๆ
"เป็น?" ทั้งสองคนหันไปมองหน้าคนพูดเป็นตาเดียว
"เป็นแบบนั้นกัน"แอนทิสพูดให้ความหมายกำกวม
'แบบนั้น?' พอคิดจบจากหน้าซีดของเคนก็ค่อยๆเป็นสีเลือดด้วยความอาย ก่อนจะค่อยๆเปลี่ยนเป็นสีเขียวด้วยความโมโห ขณะที่คีฟเองก็ดูเหมือนจะนิ่งไปแล้ว
"จะบ้าเหรอจะเป็นไปได้ไงเล่าเจ้าบ้า" เคนตะโกนออกมาอย่างรเหลืออด
"อือๆ ข้าเข้าใจ เรื่องแบบนี้ไม่ต้องปิดกันหรอกนะข้ารับได้" แอนทิสตบบ่าเคนเบาๆ
ดูเหมือนไม่ว่าเคนจะปฏิเสธเท่าไหร่ แต่ท่าทีแบบนั้นยิ่งทำให้แอนทิสเข้าใจผิดมากขึ้นเรื่อยๆ
คนยืนฟังส่ายหัวอย่างระอา ก่อนจะเดินไปสะกิดเรียกแอนทิส "อย่าไปฟังเจ้านั่นเลยเดี๋ยวจะยิ่งเข้าใจผิด ฟังข้าเถอะ.." แล้วคีฟก็เริ่มเล่าเรื่องทั้งหมดให้แอนทิสฟังอย่างใจเย็น แล้วปฏิกิริยาก็เป็นไปตามคาด
"ฮ่าๆๆๆ แล้วก็ไม่รู้จักบอกตั้งแต่แรก พูดให้ชวนคิดอยู่ได้ เคนเจ้านี่น่ารักดีนะ" แอนทิสลูบหัวเคนที่นั่งอยู่เบาๆ แล้วหัวเราะไม่หยุด
"ว้าก อย่ามาว่าข้าน่ารักนะ!!"เคนระเบิดอารมณ์ออกมา ก่อนจะหันหลังเดินออกจากวงสนทนา
คีฟรีบวิ่งตามอย่างรู้สึกขำกับท่าทางแบบนั้น แอนทิสเองก็เดินตามมาเหมือนกัน "น่าๆ อย่างอนไปเลยนะไม่ว่าแล้วนะๆ"
เคนหันหน้ากลับมามองเพื่อนที่เดินตามมาอย่างโกรธๆ คิ้วเรียวมุ่นอย่างหงุดหงิด ดูแล้วน่ารัก ยิ่งทำให้อีก 2 คนแทบกลั้นหัวเราะไม่อยู่แต่ก็ฝืนลงไปได้
"เอาล่ะๆ ไปกันเถอะ วันนี้วันสุดท้ายแล้ว ถ้าชนะมีรางวัลด้วยนะ" แอนทิสรีบเดินนำ ไปอย่างรวดเร็ว จนคู่หูสองคนแทบเดินตามไม่ทัน 'อะไรมันจะเดินเร็วขนาดนั้น'
ครึ่งชั่วโมงต่อมา...
"วันนี้ข้ารู้สึกสดชื่นเป็นอย่างมากที่ไม่ต้องตื่นแต่เช้า เพื่อมาเห็นหน้าพวกเจ้า ดังนั้นในวันนี้ข้าจึงมีความยินดีจากใจเป็นอย่างยิ่งที่จะกล่าวว่า วันนี้จะเป็นวันสุดท้ายของการคัดเลือกเสียที อันดับแรกข้าจะขอประกาศชื่อผู้เข้ารอบ 10 คนสุดท้ายก่อนก็แล้วกัน" แอนทิสพูดพลางยิ้มให้กับผู้เข้าแข่งขัน จะว่ายิ้มสวยก็ใช่นะ แต่เกรงจะเป็นสวยประหารซะมากกว่าสวยจริงใจนี่สิ เล่นเอาผู้แข่งขันเสียวกันไปเป็นแถบ
"คู่แรก คุณเฟย์ เลดีลล์ และ คุณฟีย์ เลดีลล์" เมื่อแอนทิสพูดจบ เจ้าของนามผู้ถูกเอ่ยก็เดินขึ้นขึ้นมาบนเวที ทั้ง 2 คนหน้าตาเหมือนกันราวกับแกะ เรียกได้ว่าเป็นแฝดหญิงที่หน้าตาดี คนทางซ้ายที่มีชื่อว่า 'เฟย์' นั้นเป็นแฝดคนพี่ดูท่าทางเคร่งขรึม อยู่ในชุดทะมัดทะแมง ผมดำยาวถูกเกล้าขึ้นสูง ส่วนเด็กสาวคนน้องนามว่าเฟย์นั้นดูแตกต่าง เธอดูท่าทางขี้อายไม่น้อย ได้แต่ยืนหลบหลังพี่สาว ผมสีดำยาวถึงกลางหลัง ถูกปล่อยสยาย ชุดที่ใส่ก็ดูสมเป็นกุลสตรีเหลือเกิน ช่างเป็นแฝดที่ต่างกันจริงๆ
"คู่ที่ 2 คุณคีฟ และ คุณ เคน ไวเปอร์" ทั้งสองคนเดินขึ้นไปบนเวทีตามคำเรียก เคนนั้นยังคงทำหน้าบึ้งๆนิดๆ แต่ก็เริ่มจะกลับมาเป็นปกติ คงเพราะไม่ถนัดงอนใครนานๆ
"คู่ที่ 3 คุณลิซ เซรีล และ คุณโรเดม สเตฟ" เมื่อคู่ชายและหญิงเจ้าของชื่อเดินขึ้นมา ทั้งเวทีก็ตกอยู่ในความเงียบ เมื่อชายหนุ่มคนนั้นเดินไปยึดไมค์มาจากมือของแอนทิส "สวัสดีครับ เราสองคน คู่หูแห่งความงดงาม..."ชายคนนั้นพูดพร้อมกับคาบดอกกุหลาบไว้ที่ริมฝีปาก แล้วทำท่าหล่อ
ทั่วทั้งเวทียังคงตกอยู่ในความเงียบ,'คู่หูแห่งความงดงาม???'
"ข้าคือท่านโรดี้ และนี่คือ ลิซซี่ คู่หูที่งดงาม พวกข้า 2 คนพบกันแบบงดงาม เอาชนะมาด้วยความงดงามอีกเช่นกัน ข้ารู้สึกเข้าใจดีที่พวกเจ้าอิจฉาความงดงามนี้ ยังไงเราก็ต้องขอโทษไว้ล่วงหน้าด้วยละกันนะที่งดงามเกินไป" แล้วเขาก็นำไมค์ไปส่งคืนแอนทิสที่ยืนขนลุกซู่อยู่ เพราะความน่าสะอิดสะเอียนแบบแปลกๆ
จะว่าว่างดงามก็ไม่ผิดหรอก สองคนเมื่อครู่หน้าตาดีมากทีเดียว โรเดมนั้นมีผมสีทองสลวยที่ไว้ยาวลงมาแค่ต้นคอ นัยน์ตาสีเขียวมรกต ใครเห็นแว่บแรกคงบอกได้เลยว่าหน้าตาดี ส่วนลิซนั้นนัยน์ตาคู่โตและผมสีม่วงยาวเป็นลอนรูปร่างเล็กดูบอบบาง แต่มันดูมากเกินไปยังไงไม่รู้สิ หลังจากที่ทั้งสองคนมาโพสต์ท่า'แห่งความงดงาม' นั่นแล้วโปรยดอกกุหลาบไปทั่วเวทีแถมบรรยากาศโดยรอบของ 2 คนนั่นยังรู้สึกสยองแปลกๆด้วยความงดงามที่กล่าวไว้ซะด้วยสิ
"ตะ..ต่อไป คู่ที่ 4 คุณอลัน โรเชต และ คุณสแตนต์ คราฟ ครับ"
เงียบ... ความเงียบมาเยือนอีกครั้งเมื่อทั้งสองคนก้าวขึ้นเวที ไม่ใช่เพราะความบ้าแบบเมื่อครู่ แต่เพราะความแตกต่าง อะไรมันจะฟ้ากับเหวขนาดนั้น
ชายที่ชื่อว่าอลันนั้น เป็นชายที่รูปร่างโปร่งติดจะบอบบางด้วยซ้ำ เรือนผมสีเทาถึงจะปล่อยทิ้งไว้แต่ก็ยังดูเรียบร้อย นัยน์ตาที่ติดจะดูเหมือนสีไข่มุกก็ดูดี ริมฝีปากและจะจมูกก็ดูได้รูปสวย อยู่ในชุดที่ดูหรูแต่เรียบร้อย แต่ไอ้คนข้างๆนี่สิไปผุดมาจากไหน เสื้อผ้านั้นเต็มไปด้วยรอยเย็บ ตัวโตราวสองเมตรกว่า ร่างใหญ่หนาเต็มไปด้วยมัดกล้าม เปิดให้ผมสีดำถูกเสยไว้ข้างหลัง เห็นหน้าที่เต็มไปด้วยแผลเป็นนั่น ตาสีดำข้างหนึ่งบอดสนิทด้วยโดนอะไรสักอย่างลากบากเป็นรอยบนใบหน้า และรอยขีดข่วนอีกจำนวนมาก คู่นี้นี่ คุณชายกับมหาโจรโดยแท้
"คู่สุดท้ายซะทีนะครับ คุณโรฟ และ คุณเร ออยด์ ครับ" คู่นี้ขึ้นมายิ่งเงียบกว่าเก่า ก็ใครจะไปนึกว่าแฝดนั่นจะหน้าตาถึกขนาดนี้ถึงจะเป็นชายก็เถอะ คนพี่(โรฟ)ทำผมสีดำของตนเองจนฟูฟ่องเป็นทรงอัฟโฟรว์ สวมแว่นตาสีดำ ส่วนคนน้อง(เร) ผมทรงโมฮอร์กตั้งมาเหมือนหงอนไก่อย่างเป็นเอกลักษณ์ รูปร่างใหญ่พอๆกับสแตนต์หรืออาจใหญ่กว่าด้วยซ้ำ ที่สำคัญทั้งสองคนไม่มีคิ้ว ไม่มีร่องรอยว่าโกนแปลว่า เดิมทีเขาหน้าตาแบบนั้น แล้วโตกันมาได้ไงนี่ มีเพื่อนคบหรือเปล่านะ
"เฮ่อ..รู้สึกเหนื่อยแปลกๆ แต่การแนะนำตัวก็จบลงแล้วต่อไปจะเป็นการชี้แจงการแข่งขัน รอบสุดท้ายแล้วเราจะมาแสดงละครกันครับ"
"แสดงละครเนี่ยนะ" ทุกคนพร้อมใจกันตะโกน ยกเว้นอยู่คู่เดียว
"แสดงละครเหรอ ก็ดีนะคะโรดี้"เสียงหวานๆดังขึ้น ทำให้ทุกคนหันไปมอง
"ใช่แล้วล่ะลิซซี่เราจะได้แสดงให้เห็นความงดงามของเราไงล่ะ" ส่งรอยยิ้มปิ๊งๆน่าขนลุก ทำให้ทุกคนหันกับไปที่เวทีอีกครั้ง
"นี่ ข้าทนมานานแล้วนะแข่งอะไรของนายน่ะไร้สาระจริงๆ" แฝดอัฟโฟรว์ทักท้วง
"นี่เจ้าคิดว่ามันไร้ประโยชน์งั้นเหรอ?"แอนทิสถามเรียบๆ
"ก็เออน่ะสิ"เสียงเดิมตอบกลับมา
"เจ้ารู้หรือเปล่าว่าการส่งของน่ะ ต้องมีกำลังขาที่ดีเพื่องานที่รวดเร็ว และก็ต้องมีทักษะการวางแผนและเอาตัวรอดแบบในสถานการณ์ฉุกเฉิน"แอนทิสส่ายหน้าอย่างระอากับคำถาม
'มันคิดอะไรแบบนั้นเป็นรึด้วยนี่??' นี่อาจเป็นสิ่งเดียวที่บ่งบอกอย่างชัดเจนในหัวทุกคนในตอนนั้นก็ได้
"ละ..แล้วมันก.เกี่ยวอะไรกับละครล่ะ"คนถามยังคงไม่ละความพยายาม
"นี่ยังไม่หายโง่อีกรึเนี่ย การปลอมแปลงเพื่อหาข่าวและเอาตัวรอดนั้นเป็นสิ่งจำเป็น ดังนั้นการแสดงละครที่แนบเนียนย่อมเป็นสิ่งคู่ควรรู้ไว้ซะด้วยนะ" แอนทิสยังคงถอนหายใจแบบปลงๆ
เงียบ...
"เอาล่ะถ้าอย่างนั้นก็ตกลงตามนี้ แสดงละครนะ คู่ละหนึ่งเรื่อง มีบทพระเอกกับนางเอก เท่านั้นบทประกอบเราจะจัดเตรียมตัวแสดงไว้ให้เองฉะนั้นไม่ต้องเป็นห่วง ตกลงกันได้แล้วก็ออกมาจับฉลากเลือกเรื่องเลยนะ" พูดจบแอนทิสก็เดินไปคว้ากล่องใบหนึ่งมาตั้งบนโต๊ะหน้าเวที "นี่เป็นชื่อเรื่องที่จะต้องเล่นนะ อ้อ! แล้วก็หมายเลขลำดับที่น่ะนะ ใครจับแล้วก็เดินไปหาเจ้าหน้าที่ทางโน้นรับบท" ว่าแล้วก็ผายมือไปยังเจ้าหน้าที่ 2 คนที่ยืนรออยู่
ผ่านเวลาทำใจไปอีกร่วมชั่วโมง
ในที่สุดบอร์ดรายชื่อก็ออกมา
คู่ที่ 1 โรฟ และ เร (เฮเซลและเกรเทลล์ บ้านขนมปัง)
คู่ที่ 2 อลัน และ สแตนต์ (ซินเดอเรลลา)
คู่ที่ 3 ลิซ และ โรเดม ( Sleeping Beauty )
คู่ที่ 4 เฟย์ และ ฟีย์ ( สโนว์ไวท์ )
คู่ที่ 5 เคน และ คีฟ ( Ice and Snow )
*********-----------------*********-----------------
1 ชั่วยามมี 2 ชั่วโมงครับ ใน 1 วันจะมีทั้งหมด 12 ชั่วยาม
โดยที่ยาม 1 จะเริ่มตั้งแต่เที่ยงคืนถึงตีสองครับ
(บางที่บอกว่าห้าทุ่มถึงตีหนึ่งแต่ตามหลักสากล และเพื่อความง่ายจะนับยามแรกเที่ยงคืนนะครับ)
สำเร็จไปอีกบทนึงแล้ววววววววววววววววว ปลาบปลื้มมมมมมมม...TToTT
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น