ลำดับตอนที่ #7
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #7 : Battle Royal [2](Rewrite 100%)
"เฮ่อ หนีเจ้านั่นมาได้ซะที" เสียงทุ้มเย็นถอนหายใจ ในขณะที่เดินไปเรื่อยๆในป่าของเมืองดาล์ฟ แล้วพึมพำกับตัวเอง
แซ่ก!!, เสียงหนึ่งดังขึ้นจากบริเวณต้นไม้ด้านหลัง
คีฟเงียบลงแล้วรวบรวมสมาธิเพื่อฟังเสียงให้ชัดอีกครั้ง แต่ไม่พบเสียงนั้นเงียบไปแล้ว... แวบหนึ่ง ป่าทั้งป่าดูเงียบสงบจนน่ากลัว ไม่มีเสียงนก ไม่มีเสียงลม ไม่มีเสียงแห่งชีวิต ป่าทั้งป่าราวกับถูกกลืนหาย จนกระทั่งเสียงๆเดิมดังขึ้นอีกครั้งหนึ่ง
คนที่ยืนนิ่งสดับฟังเสียงอยู่ หันกลับไปทางต้นเสียงในทันที แต่สิ่งที่พบกลับเป็นเพียง ความว่างเปล่าและต้นไม้ต้นสูงของป่าแห่งนี้ แล้วพลันนัยน์ตาสีน้ำตาลเข้มคู่นั้นก็แปลไป นัยน์ตาคมๆนั่นตวัดขึ้นไปบนยอดไม้
ทันใดนั้นวัตถุประหลาดที่สะท้อนต้องกับแสงอาทิตย์จนกลายเป็นสีเงิน ก็พุ่งตรงมาจากยอดไม้ และตรงมาทางเขา ร่างสูงเบี่ยงตัวหลบ ก่อนจะอาศัยความชำนาญคว้าสิ่งแปลกปลอมนั้นไว้ด้วยนิ้วคู่หนึ่ง
คีฟควงมีดด้วยมือข้างเดียวเหมือนจะพิจารณา มันเป็นมีดพกสีเงินที่ดูแสนธรรมดา
'ของแบบนี้ยึดไว้ก็ไม่ได้ขายอยู่ดี' แต่แล้วเขาก็ต้องสะดุดใจกับสิ่งๆหนึ่ง เขาลองโยนมีดดูอีกครั้ง เพื่อวัดน้ำหนัก
มีดนี่มัน...เงินแท้นี่นา......
รอยยิ้มเจ้าเล่ห์ถูกระบายที่มุมปาก มือแกร่งปามีดไปยังจุดที่มีดเล่มนั้นพุ่งมาเมื่อครู่
ฉึก!!, มีเสียงดังขึ้นแล้วร่างๆหนึ่งก็ตกลงมาที่พื้นในทันที
ร่างๆนั้นขยับดีดตัวลุกขึ้น ร่างหนาในชุดสีดำสนิทคล้ายชุดนินจา หน้ากากสีดำคลุมปกปิดหน้าเหลือไว้แต่ช่องตา เลือดสีสดที่ซึมผ่านมือที่กุมต้นแขนอยู่ ไหลหยดลงบนพื้น มือหนาที่สวมถุงมือหนังสีเดียวกับอาภรณ์กระชากมีดที่ปักอยู่แล้วขว้างทิ้งลงพื้น
คีฟปรายตามองที่มีดเล่มนั้น รอยยิ้มบางถูกจุดที่มุมปากเล็กน้อย
"นี่เจ้ามีมีดกี่เล่มกันล่ะ?" น้ำเสียงที่แฝงแววหยอกล้ออยู่ในทีถามเหมือนต้องการจะยั่วโมโหอีกฝ่าย
"มีมากพอจะฆ่าคนอย่างแกก็แล้วกัน!!" ชายร่างหนากระชากเสียงแล้วลุกขึ้นอย่างรวดเร็ว กายหนาพุ่งเข้าใส่คนตรงหน้า มือที่กุมต้นแขนอยู่คลายออก แล้วเอื้อมลงไปหยิบมีดจากซองเก็บอาวุธที่ต้นขาอย่างชำนาญ
มีด 3 เล่มพุ่งไปที่ข้างหน้าอย่างรวดเร็ว แต่คีฟกลับเบี่ยงตัวหลบมีดได้อย่างสบายๆ ทำให้คู่ต่อสู้ยิ่งมีน้ำโหมากขึ้น
ชายชุดดำนั้นปามีดออกไปอย่างรวดเร็วติดๆกัน อย่างหมายว่าโดนสักเล่มก็ยังดี
ฟึ่บ!, สำเร็จ มีดเล่มหนึ่งเฉี่ยวโดนลำตัวของคีฟไป เลือดสีแดงเริ่มซึมออกมา นัยน์ตาของเขาเปลี่ยนไปทันที ท่าทีสบายๆในตอนแรกหายไปแล้ว เขากำลังคิดจะเอาจริง
บรรยากาศรอบข้างเปลี่ยนไปทันที ชายร่างหนากำลังตกตะลึงกับสิ่งตรงหน้า นัยน์ตาคู่นั้นเบิกโพลง ขนทั่วกายลุกซู่
คนตรงหน้าของเขานั้นเปลี่ยนไปจนน่าตกใจ นัยน์ตาที่เคยเฉยชา บัดนี้กลับทอแววกร้าว ร่างที่เคยคิดว่าสูงอยู่แล้วนั้น เมื่อมีรัศมีกดดันที่แผ่ออกมา กลับดูสูงใหญ่ขึ้นจนน่ากลัว
นี่มันอะไรกัน?...เทียบไม่ได้..เทียบไม่ได้เลย....แม้แต่น้อย
เขาค่อยๆหลับตาลง ร่างหนาทรุดลงบนพื้น ลมหายใจหอบระรัวค่อยๆผ่อนคลายลง
"เป็นอะไรไปล่ะ? ข้าอุตส่าห์จะเอาจริงแล้วนะ" นัยน์ตาสีน้ำตาลแดงมองคู่ต่อสู้เบื้องหน้าอย่างเย้ยหยัน แต่ร่องรอยของบรรยากาศ น่ากลัวในนัยน์ตาคู่นั้นไม่ได้จางลงแม้แต่น้อย
"หึ สู้ได้ก็คือสู้ไม่ได้ เจ้าเก่งกว่าข้า ของแค่นี้ทำไมข้าจะไม่รู้" ชายคนนั้นตอบเรียบ
"..."
"รีบฆ่า ข้าเถอะ อยู่ไปก็ขายหน้า ใครจะไปพูดได้ว่าแพ้เด็กอย่างเจ้า ฆ่าข้าตายไปยังดีใจซะกว่า" กระแสเสียงเรียบยังคงไม่เปลี่ยนแปร น้ำเสียงจริงจังอย่างไม่มีร่องรอยของความโกหก
นัยน์ตาสีน้ำตาลแดงนั้นทอแววอ่อนลงเล็กน้อย แม้จะเหมือนคนขี้ขลาดทั่วไป แต่เขาก็รับรู้ได้ว่า สิ่งที่หลุดออกจาปปากของบุรุษเบื้องหน้านั้นหนักแน่นเพียงไร
ชายคนนี้มีศักดิ์ศรี...
ชายผู้นี้มีเกียรติอย่างน่านับถือ...
เกียรติและศักดิ์ศรีนั้น แลกมาด้วยชีวิต....ยอมตาย..เพื่อศักดิ์ศรีที่ยิ่งใหญ่....
บรรยากาศรอบๆตัวค่อยคลายลง ไม่มีร่องรอยของสิ่งเดิมเลยแม้แต่น้อย ชายร่างหนาค่อยๆลืมตาขึ้น ถึงแม้ผ้าคลุมหน้าจะบังจนไม่เห็นคิ้ว แต่ก็เดาได้ว่ามันกำลังขมวดจนจะผูกเป็นโบว์
"ทำไม?..ทำไมเจ้าถึงไม่เข้ามาฆ่าข้าซะล่ะ"น้ำเสียงกระด้างนั้นฟังดูไม่สบายใจเอาเสียเลย
"เพราะข้าไม่รู้จะฆ่าคนที่รู้จักตัวเองอย่างเจ้าทำไมน่ะสิ" คีฟถอนหายใจแล้วยกคทาขึ้นพาดบ่า
"เอาป้ายของเจ้ามาก็พอ?"ร่างสูงเดินเข้าไปใกล้ๆร่างที่ทรุดนั่งอยู่กับพื้น
"ป้ายไม่ได้อยู่กับข้าหรอก จะมีก็ของข้านี่แหละ ที่เหลืออยู่กับคู่หูของข้า"เขาลุกขึ้นยืนแล้วถอดป้ายติดเสื้อโยนให้คีฟ คีฟรับแล้วเคาะคทาลงบนสิ่งที่ได้รับมา 2-3ครั้ง แล้วเจ้าสิ่งนั้นก็หายไปอย่างไร้ร่องรอย
"เจ้าชื่ออะไร?"
"ข้าไม่เอ่ยนามนี้กับใครมานานแล้วนะนี่ แต่ข้าก็แพ้ให้กับเจ้าแล้ว ข้าชื่อ...รอยด์ อาเก้น"
"รอยด์.. อย่างนั้นข้าขอมีดของเจ้าด้วยได้รึเปล่า" ริมฝีปากได้รูปเหยียดรอยยิ้มบางๆ พลางเริ่มดำเนินแผน รอยด์นั้นดูจะงงๆ แต่ก็ไม่ได้ว่าอะไร เขาปลดซองมีดที่ขาแล้วโยนให้คีฟ
คีฟเปิดดูแล้วหยิบมีดที่อยู่ที่พื้นกับตามต้นไม้เก็บลงซองที่ได้รับมา
'อืม..20กว่าเล่มหรอ ก็ยังดีนะ'
"ขอถามอีกอย่าง...มีดนี่เงินแท้ใช่รึเปล่า?" คีฟช้อนตาขึ้นสบเข้ากับนัยน์ตาสีดำขลับของรอยด์
"ใช่..หมู่บ้านข้ามีเงินเยอะ ขนาดบางบ้านผสมสีทากำแพงด้วยซ้ำ" รอยด์ตอบเรียบๆ ดวงแก้วสีดำยังฉายแววงุนงง
"อืม..งั้นข้าขอได้รึเปล่า?"
"เอาไปสิ" เจ้าของมีดตอบกลับง่ายๆพลางคลี่ยิ้มบางๆ
ร่างสูงหมุนตัวกลับทันทีที่หมดธุระ พร้อมกับคำลาบางเบา
"อา..ลาก่อน" ถ้อยคำตอบกลับนั้นเบาบางไม่แพ้กัน แต่ถึงกระนั้นคนฟังก็ยังได้ยิน
แต่ยังไม่ทันที่ท่อนขายาว จะก้าวพ้นไปเสียงหนึ่งก็ดังขึ้น
ตึง! ร่างสูงผินตัวกลับมาทางร่างที่อยู่เบื้องหลังอย่างรวดเร็ว ร่างของรอยด์ล้มฟาดลงกับพื้น ของเหลวสีคล้ำไหลซึมผ่านอาภรณ์หนาบริเวณใกล้หัวใจ กระจายตัวเป็นวงกว้าง
คีฟกำมือแน่น สายตาคมที่มองไปยังร่างของรอยด์ที่นอนแน่นิ่งอยู่นั้นทอประกายกร้าว แต่แล้วนัยน์ตาคู่นั้นก็ไปสะดุดเข้าที่ปลายนิ้วมือ มันยังคงกระตุกเล็กน้อย รอยด์ยังไม่ตายหากรีบช่วยคงทัน
แต่ปัญหามันอยู่ตรงหน้า ร่างที่ปรากฏออกมาเบื้องหลังรอยด์ บุรุษร่างเล็กที่ถือดาบอันใหญ่ไม่เข้ากับตัว รอยยิ้มที่น่าขยะแขยงปรากฏบนริมฝีปากที่บางจนแทบมองไม่เห็น ตาเล็กๆส่องประกายไม่น่าไว้ใจ
"เจ้านี่มันโง่ แพ้คนอย่างเจ้า แถมยังบอกหมดทุกอย่าง" ร่างนั้นใช้เท้าเขี่ยร่างหนาที่นอนอยู่กับพื้น แล้วถ่มน้ำลายยลงไปบนพื้น
คีฟเพ่งสายตามองคนตรงหน้า "เจ้าเป็นใคร?"
"ข้ารึ? เจ้าถามว่าข้าเป็นใคร? ไหนๆข้าก็กำลังจะฆ่า เจ้าให้ตายตามคู่หูสุดโง่ของข้าอยู่แล้ว จะบอกให้เอาบุญ ข้าชื่อเอิร์ธ"
"ท่าทางรอยด์จะโง่จริงๆนั่นแหละ" ร่างสูงพูดพลางเดินเตะเท้าเหมือนจะไม่สมใจ ทำให้คนฟังหัวเราะเบาๆในลำคอ
"..ที่ลดตัวมาเข้าคู่กับสวะอย่างเจ้า" เสียงเรียบเย็นต่อความจนจบ พร้อมสายตายะเยือกที่เบือนมองอีกฝ่าย
' ต้องรีบฆ่ามันซะก่อนรอยด์จะตาย '
คีฟหยิบคทาออกมาอีกครั้ง เขาวาดขาเตรียมตั้งรับในขณะที่คู่ต่อสู้ที่กำลังวาดดาบลงมา
...ต้องหยุดความเคลื่อนไหวแล้วรีบร่ายมนตร์... สิ่งที่แวบผ่านเข้ามาในหัวในขณะวางแผน
"หึหึ เจ้าคิดงั้นหรือเหรอว่าไอ้ไม้เท้าสับปะรังเค อันนั้นจะทำอะไรข้าได้" ร่างที่เตี้ยกว่าเขาเล็กน้อยนั้นยิ้มเยาะ ก่อนหวดดาบลงมาอย่างรุนแรง แต่คีฟก็รับมันไว้ได้อีกครั้ง
คีฟอาศัยช่วงที่เขาดีดดาบกลับคืนนั้น วกไปหลังคู่ต่อสู้ คทาในมือถูกหวดลงเต็มแรง จนผู้ถูกจู่โจมทรุดลงไป ทั้งเวลาและจังหวะที่คู่ต่อสู้หยุดชะงักนั้นมีค่าทุกวินาที เพราะมันหมายถึงชีวิต เขากระโดดถอยออกมา แล้วเริ่มร่ายเวทมนตร์
"ข้าแต่เทพอัคคี เทพธรณี เทพอัสนี เทพวายุและเทพวารี...จงมา..สถิต ณ ที่แห่งนี้...โปรด..ประทานพลังแก่ข้า..เปลวไฟเอย..จงลุกโชน เมนคาฟดรา!!!"
ตัวเขาเองใช่ว่าจะชอบวิธีแบบนี้ หากว่าไม่ต้องรีบร้อน เขาก็คงไม่เลือกวิธีที่ต้องเปลืองแรงและเสี่ยงมากขนาดนี้
ร่างที่เคยทรุดนั่งนั้นค่อยๆถูกปกคลุมด้วยเปลวเพลิงสีสดอย่างช้าๆ ก่อนที่มันจะทวีความแรงขึ้นเรื่อยๆ
"โอ๊ย!!!!ร้อนนนนน!!!! อ๊ากกกกก!!!!!!!!!!!!..."ร่างของเขาดิ้นเร่าอย่างเจ็บปวด เสียงกรีดร้องอย่างน่าสังเวชดังโหยหวนไปทั่วบริเวณ แต่ก็ไม่มีทีท่าว่าไฟนั้นจะหายไปเลยแม้แต่น้อย
'เฮ้ย! ลืมไป ป้ายอยู่กับมันนี่ ถ้าไหม้ไปจะทำยังไง' เมื่อคิดได้ดังนั้นคีฟ ก็ร่ายมนตร์อีกบททันที
"ข้าแต่เทพอัคคี เทพธรณี เทพอัสนี เทพวายุและเทพวารี จงมา..สถิต ณ ที่แห่งนี้...โปรด..ประทานพลังแก่ข้า สายน้ำที่เย็นชา และทรงพลังเอย จงบังเกิด รีนเดรฟ" สิ้นคำน้ำ ก็ราดลงบนร่างที่กำลังโดนไฟคลอก โครมใหญ่ถึงแม้ร่างนั้นจะเปียกชุ่มและไฟดับลงหมด แต่คนที่โดนไฟคลอกนั้นสิ้นใจไปเรียบร้อยแล้ว
คีฟเดินไปที่ร่างที่ดำเป็นตอตะโกนั้น แล้วหยิบป้ายออกมาจากสายคล้องจากที่เอว น่าแปลกที่สิ่งของที่อยู่ในกำมือนั้นไม่มีแม้รอยขีดข่วน ทั้งๆที่เขานึกว่ามันอาจจะเหลวเป๋วเพราะไฟไปแล้ว...
'ทีนี้ป้ายของเรารวมทั้งหมดก็เป็น 15 ป้ายแล้วสินะ งั้นต่อไปก็' คีฟค่อยๆหันไปมองร่างอีกร่างที่นอนนิ่งอยู่ช้าๆ
รอยด์..ตายหรือยังนะ?
คีฟนั่งลงข้างๆร่างของรอยด์ แล้วจับข้อมือเขาขึ้นมา หัวใจยังเต้นอยู่ แม้อ่อนเต็มที แต่เขายังไม่ตาย....
คีฟหยิบคทาขึ้นด้วยมือทั้งสอง แล้วจ่อไว้เหนือแผลของรอยด์ นิ้วเรียวแตะเลือดที่ซึมจากปากแผล แล้วลากไปตามแนวความยาวของคทา วงล้อสีเขียวก็ปรากฏขึ้นเบื้องล่างของคนทั้งสอง
" เทพแห่งป่าผู้สร้างเอย..โปรดแบ่งพลังของท่านแก่ชายผู้นี้ เพื่อแต่งเติมชีวิตใหม่..แก่เขา.... โปรด..แต่งเติมสิ่งที่ขาดหาย" จบคำบาดแผลของรอยด์ก็ค่อยๆสมาน จนกระทั่งมันหายไปเหมือนไม่เคยมีอยู่
ในเวลาไม่นานเปลือกตาหนาก็กระพริบถี่ๆ นัยน์ตาสีรัตติกาลมองไปรอบด้าน "นี่ข้าตายแล้วหรือ ทำไมนรกมันถึงเขียวเหมือนป่าที่ข้าจากมาอย่างนี้นะ"
"ไม่ รอยด์ เจ้ายังไม่ตาย.." เสียงหนึ่งดังอยู่ข้างๆ เพื่อดึงร่างที่เพิ่งฟื้นให้หลุดจากภวังค์
รอยด์หันไปทางต้นเสียงในทันที นัยน์ตาสีน้ำตาลแดงกำลังจ้องมองเขาอย่างอ่อนล้า รอยด์ค่อยๆดึงหน้ากากออกเปิดเผยให้เห็นใบหน้าที่ถูกซ่อนเร้น ผมสีดำเรียบนั้นดูยุ่งนิดๆ นัยน์ตาและคิ้วสีดำเข้มแสดงความงุนงง ขณะที่ปากหนาขยับถาม
"เจ้าช่วยข้าไว้อีกแล้วรึ?"
"ใช่.." คเสียงทุ้มนั้นตอบสั้นๆ แต่รอยด์ก็ยังคงจับได้ถึงลมหายใจเหนื่อยหอบในน้ำเสียง
"เจ้าเป็นอะไรรึเปล่า?" ร่างหนาที่ชันตัวขึ้นนั่งถามขึ้นอย่างเป็นห่วง
"ไม่..ไม่เป็นไร แค่ไม่ถนัดมนตร์รักษาเลยใช้พลังเยอะก็เท่านั้น" คีฟตอบพลางลุกขึ้นยืนอย่างทุลักทุเลเล็กน้อย ก่อนจะกระชากให้รอยด์ลุกขึ้นด้วย
"..ชีวิตของข้าเป็นของเจ้าแล้ว เจ้ามอบชีวิตใหม่ให้กับข้าที่ควรตายถึง 2 ครั้ง ข้าจะติดตามเจ้าไปเพื่อรับใช้เจ้า" นัยน์ตาสีนิลหรุบลง มือหนาค่อยๆเลื่อนมาแตะที่แผ่นอกของตัวเอง
คีฟนิ่งไปเล็กน้อย แม้เพิ่งพบกัน แต่เขาก็รู้ดีว่า แม้ปฏิเสธอย่างไรคนตรงหน้าก็คงไม่ยอมฟังคำคัดค้าน มันทำให้เขาผ่อนลมหายใจเล็กน้อย
"ถ้าอย่างนั้นในฐานะที่ข้าเป็นเจ้าของชีวิตของเจ้า..." เสียงทุ้มนุ่มเว้นระยะเล็กน้อยเพื่อรอดูปฏิกิริยา แต่คนตรงหน้าก็นิ่งฟังเป็นอย่างดี
"1.ข้าขอสั่งให้เจ้าใช้ชีวิตตามสบาย 2.อย่าคิดตายโดยที่ข้าไม่รู้ 3.เจ้าห้ามตามข้าไปทุกที่ เพราะข้าไม่ชอบ และสุดท้ายเจ้าต้องคอยเป็นแหล่งข่าวให้ข้าตราบที่ข้ายังมีชีวิต"
"แต่..."รอยด์ตั้งท่าจะทักท้วง เพราะตั้งแต่ข้อแรก มันก็ขัดกับความตั้งใจของเขาโดยสิ้นเชิง
"ไม่มีแต่ เจ้าต้องทำตาม เพราะนี่คือ'คำสั่ง'" น้ำเสียงเรียบกล่าวปิดท้าย
ริมฝีปากหนาของผู้ฟังยิ้มบางๆ เจ้านายใหม่ของเขานี่เถียงไม่ได้เลยสินะ "รับคำสั่ง..เช่นนั้นข้าก็ขอแยกกันตรงนี้เลยก็แล้วกัน ไว้พบกันใหม่"
"อืม..ไว้พบกันใหม่" คีฟเดินหันหลังจากไปทิ้งรอยด์ให้ยืนยิ้มบางๆอยู่กับตนเองอย่างนั้น
ทางฝ่ายเคน....
"เฮ้! คีฟ!!เจ้าอยู่ที่ไหนกัน?" เสียงใสๆนั้นตะโกนหา
"เฮ้..ข้าได้ป้ายครบแล้วนะ!!"
ยังไม่ทันที่เคนจะตะโกนประโยคต่อไป ร่างสูงอันคุ้นตาก็เดินออกมาจากแนวพุ่มไม้ใกล้ๆ
"หนวกหูน่า เจ้าได้มาครบแล้วเหรอ?" คนที่เพิ่งโผล่ออกมากล่าวด้วยน้ำเสียงเบื่อหน่าย
"อืม..เกินด้วย"เคนยิ้มร่า
"อ้าว..ข้าก็เกินมา 5 น่ะ"คีฟยกป้ายที่เกินออกมาโชว์
"หึหึ ข้าชนะ เพราะข้าเกินมา 13 " เสียงใสๆนั้นหัวเราะอย่างชอบอกชอบใจ พลางชูป้ายในมืออวด
"แล้วจะทำยังไงดีล่ะ?" ลูกแก้วสีน้ำตาลมองเหล่าป้ายที่กองอยู่กับพื้นอย่างนึกสนุก
"...ขาย..." เสียงทุ้มกล่าวออกมาสั้นๆ แต่มันช่างตรงกับความคิดของอีกคนราวกับเป็นความคิดเดียวกันเหลือเกิน....
***********----------------***********----------------
หะ! ทะ...ทะ...ทะ.....ทำไปด้ายยยยยยยยยยยยยยย!!!!!!!!!
ในที่สุดบทนี้ก็รีไรท์เสร็จแล้ววววววววT0T ซาบซึ้งso much
อีก 6 บทสู้ๆ
แซ่ก!!, เสียงหนึ่งดังขึ้นจากบริเวณต้นไม้ด้านหลัง
คีฟเงียบลงแล้วรวบรวมสมาธิเพื่อฟังเสียงให้ชัดอีกครั้ง แต่ไม่พบเสียงนั้นเงียบไปแล้ว... แวบหนึ่ง ป่าทั้งป่าดูเงียบสงบจนน่ากลัว ไม่มีเสียงนก ไม่มีเสียงลม ไม่มีเสียงแห่งชีวิต ป่าทั้งป่าราวกับถูกกลืนหาย จนกระทั่งเสียงๆเดิมดังขึ้นอีกครั้งหนึ่ง
คนที่ยืนนิ่งสดับฟังเสียงอยู่ หันกลับไปทางต้นเสียงในทันที แต่สิ่งที่พบกลับเป็นเพียง ความว่างเปล่าและต้นไม้ต้นสูงของป่าแห่งนี้ แล้วพลันนัยน์ตาสีน้ำตาลเข้มคู่นั้นก็แปลไป นัยน์ตาคมๆนั่นตวัดขึ้นไปบนยอดไม้
ทันใดนั้นวัตถุประหลาดที่สะท้อนต้องกับแสงอาทิตย์จนกลายเป็นสีเงิน ก็พุ่งตรงมาจากยอดไม้ และตรงมาทางเขา ร่างสูงเบี่ยงตัวหลบ ก่อนจะอาศัยความชำนาญคว้าสิ่งแปลกปลอมนั้นไว้ด้วยนิ้วคู่หนึ่ง
คีฟควงมีดด้วยมือข้างเดียวเหมือนจะพิจารณา มันเป็นมีดพกสีเงินที่ดูแสนธรรมดา
'ของแบบนี้ยึดไว้ก็ไม่ได้ขายอยู่ดี' แต่แล้วเขาก็ต้องสะดุดใจกับสิ่งๆหนึ่ง เขาลองโยนมีดดูอีกครั้ง เพื่อวัดน้ำหนัก
มีดนี่มัน...เงินแท้นี่นา......
รอยยิ้มเจ้าเล่ห์ถูกระบายที่มุมปาก มือแกร่งปามีดไปยังจุดที่มีดเล่มนั้นพุ่งมาเมื่อครู่
ฉึก!!, มีเสียงดังขึ้นแล้วร่างๆหนึ่งก็ตกลงมาที่พื้นในทันที
ร่างๆนั้นขยับดีดตัวลุกขึ้น ร่างหนาในชุดสีดำสนิทคล้ายชุดนินจา หน้ากากสีดำคลุมปกปิดหน้าเหลือไว้แต่ช่องตา เลือดสีสดที่ซึมผ่านมือที่กุมต้นแขนอยู่ ไหลหยดลงบนพื้น มือหนาที่สวมถุงมือหนังสีเดียวกับอาภรณ์กระชากมีดที่ปักอยู่แล้วขว้างทิ้งลงพื้น
คีฟปรายตามองที่มีดเล่มนั้น รอยยิ้มบางถูกจุดที่มุมปากเล็กน้อย
"นี่เจ้ามีมีดกี่เล่มกันล่ะ?" น้ำเสียงที่แฝงแววหยอกล้ออยู่ในทีถามเหมือนต้องการจะยั่วโมโหอีกฝ่าย
"มีมากพอจะฆ่าคนอย่างแกก็แล้วกัน!!" ชายร่างหนากระชากเสียงแล้วลุกขึ้นอย่างรวดเร็ว กายหนาพุ่งเข้าใส่คนตรงหน้า มือที่กุมต้นแขนอยู่คลายออก แล้วเอื้อมลงไปหยิบมีดจากซองเก็บอาวุธที่ต้นขาอย่างชำนาญ
มีด 3 เล่มพุ่งไปที่ข้างหน้าอย่างรวดเร็ว แต่คีฟกลับเบี่ยงตัวหลบมีดได้อย่างสบายๆ ทำให้คู่ต่อสู้ยิ่งมีน้ำโหมากขึ้น
ชายชุดดำนั้นปามีดออกไปอย่างรวดเร็วติดๆกัน อย่างหมายว่าโดนสักเล่มก็ยังดี
ฟึ่บ!, สำเร็จ มีดเล่มหนึ่งเฉี่ยวโดนลำตัวของคีฟไป เลือดสีแดงเริ่มซึมออกมา นัยน์ตาของเขาเปลี่ยนไปทันที ท่าทีสบายๆในตอนแรกหายไปแล้ว เขากำลังคิดจะเอาจริง
บรรยากาศรอบข้างเปลี่ยนไปทันที ชายร่างหนากำลังตกตะลึงกับสิ่งตรงหน้า นัยน์ตาคู่นั้นเบิกโพลง ขนทั่วกายลุกซู่
คนตรงหน้าของเขานั้นเปลี่ยนไปจนน่าตกใจ นัยน์ตาที่เคยเฉยชา บัดนี้กลับทอแววกร้าว ร่างที่เคยคิดว่าสูงอยู่แล้วนั้น เมื่อมีรัศมีกดดันที่แผ่ออกมา กลับดูสูงใหญ่ขึ้นจนน่ากลัว
นี่มันอะไรกัน?...เทียบไม่ได้..เทียบไม่ได้เลย....แม้แต่น้อย
เขาค่อยๆหลับตาลง ร่างหนาทรุดลงบนพื้น ลมหายใจหอบระรัวค่อยๆผ่อนคลายลง
"เป็นอะไรไปล่ะ? ข้าอุตส่าห์จะเอาจริงแล้วนะ" นัยน์ตาสีน้ำตาลแดงมองคู่ต่อสู้เบื้องหน้าอย่างเย้ยหยัน แต่ร่องรอยของบรรยากาศ น่ากลัวในนัยน์ตาคู่นั้นไม่ได้จางลงแม้แต่น้อย
"หึ สู้ได้ก็คือสู้ไม่ได้ เจ้าเก่งกว่าข้า ของแค่นี้ทำไมข้าจะไม่รู้" ชายคนนั้นตอบเรียบ
"..."
"รีบฆ่า ข้าเถอะ อยู่ไปก็ขายหน้า ใครจะไปพูดได้ว่าแพ้เด็กอย่างเจ้า ฆ่าข้าตายไปยังดีใจซะกว่า" กระแสเสียงเรียบยังคงไม่เปลี่ยนแปร น้ำเสียงจริงจังอย่างไม่มีร่องรอยของความโกหก
นัยน์ตาสีน้ำตาลแดงนั้นทอแววอ่อนลงเล็กน้อย แม้จะเหมือนคนขี้ขลาดทั่วไป แต่เขาก็รับรู้ได้ว่า สิ่งที่หลุดออกจาปปากของบุรุษเบื้องหน้านั้นหนักแน่นเพียงไร
ชายคนนี้มีศักดิ์ศรี...
ชายผู้นี้มีเกียรติอย่างน่านับถือ...
เกียรติและศักดิ์ศรีนั้น แลกมาด้วยชีวิต....ยอมตาย..เพื่อศักดิ์ศรีที่ยิ่งใหญ่....
บรรยากาศรอบๆตัวค่อยคลายลง ไม่มีร่องรอยของสิ่งเดิมเลยแม้แต่น้อย ชายร่างหนาค่อยๆลืมตาขึ้น ถึงแม้ผ้าคลุมหน้าจะบังจนไม่เห็นคิ้ว แต่ก็เดาได้ว่ามันกำลังขมวดจนจะผูกเป็นโบว์
"ทำไม?..ทำไมเจ้าถึงไม่เข้ามาฆ่าข้าซะล่ะ"น้ำเสียงกระด้างนั้นฟังดูไม่สบายใจเอาเสียเลย
"เพราะข้าไม่รู้จะฆ่าคนที่รู้จักตัวเองอย่างเจ้าทำไมน่ะสิ" คีฟถอนหายใจแล้วยกคทาขึ้นพาดบ่า
"เอาป้ายของเจ้ามาก็พอ?"ร่างสูงเดินเข้าไปใกล้ๆร่างที่ทรุดนั่งอยู่กับพื้น
"ป้ายไม่ได้อยู่กับข้าหรอก จะมีก็ของข้านี่แหละ ที่เหลืออยู่กับคู่หูของข้า"เขาลุกขึ้นยืนแล้วถอดป้ายติดเสื้อโยนให้คีฟ คีฟรับแล้วเคาะคทาลงบนสิ่งที่ได้รับมา 2-3ครั้ง แล้วเจ้าสิ่งนั้นก็หายไปอย่างไร้ร่องรอย
"เจ้าชื่ออะไร?"
"ข้าไม่เอ่ยนามนี้กับใครมานานแล้วนะนี่ แต่ข้าก็แพ้ให้กับเจ้าแล้ว ข้าชื่อ...รอยด์ อาเก้น"
"รอยด์.. อย่างนั้นข้าขอมีดของเจ้าด้วยได้รึเปล่า" ริมฝีปากได้รูปเหยียดรอยยิ้มบางๆ พลางเริ่มดำเนินแผน รอยด์นั้นดูจะงงๆ แต่ก็ไม่ได้ว่าอะไร เขาปลดซองมีดที่ขาแล้วโยนให้คีฟ
คีฟเปิดดูแล้วหยิบมีดที่อยู่ที่พื้นกับตามต้นไม้เก็บลงซองที่ได้รับมา
'อืม..20กว่าเล่มหรอ ก็ยังดีนะ'
"ขอถามอีกอย่าง...มีดนี่เงินแท้ใช่รึเปล่า?" คีฟช้อนตาขึ้นสบเข้ากับนัยน์ตาสีดำขลับของรอยด์
"ใช่..หมู่บ้านข้ามีเงินเยอะ ขนาดบางบ้านผสมสีทากำแพงด้วยซ้ำ" รอยด์ตอบเรียบๆ ดวงแก้วสีดำยังฉายแววงุนงง
"อืม..งั้นข้าขอได้รึเปล่า?"
"เอาไปสิ" เจ้าของมีดตอบกลับง่ายๆพลางคลี่ยิ้มบางๆ
ร่างสูงหมุนตัวกลับทันทีที่หมดธุระ พร้อมกับคำลาบางเบา
"อา..ลาก่อน" ถ้อยคำตอบกลับนั้นเบาบางไม่แพ้กัน แต่ถึงกระนั้นคนฟังก็ยังได้ยิน
แต่ยังไม่ทันที่ท่อนขายาว จะก้าวพ้นไปเสียงหนึ่งก็ดังขึ้น
ตึง! ร่างสูงผินตัวกลับมาทางร่างที่อยู่เบื้องหลังอย่างรวดเร็ว ร่างของรอยด์ล้มฟาดลงกับพื้น ของเหลวสีคล้ำไหลซึมผ่านอาภรณ์หนาบริเวณใกล้หัวใจ กระจายตัวเป็นวงกว้าง
คีฟกำมือแน่น สายตาคมที่มองไปยังร่างของรอยด์ที่นอนแน่นิ่งอยู่นั้นทอประกายกร้าว แต่แล้วนัยน์ตาคู่นั้นก็ไปสะดุดเข้าที่ปลายนิ้วมือ มันยังคงกระตุกเล็กน้อย รอยด์ยังไม่ตายหากรีบช่วยคงทัน
แต่ปัญหามันอยู่ตรงหน้า ร่างที่ปรากฏออกมาเบื้องหลังรอยด์ บุรุษร่างเล็กที่ถือดาบอันใหญ่ไม่เข้ากับตัว รอยยิ้มที่น่าขยะแขยงปรากฏบนริมฝีปากที่บางจนแทบมองไม่เห็น ตาเล็กๆส่องประกายไม่น่าไว้ใจ
"เจ้านี่มันโง่ แพ้คนอย่างเจ้า แถมยังบอกหมดทุกอย่าง" ร่างนั้นใช้เท้าเขี่ยร่างหนาที่นอนอยู่กับพื้น แล้วถ่มน้ำลายยลงไปบนพื้น
คีฟเพ่งสายตามองคนตรงหน้า "เจ้าเป็นใคร?"
"ข้ารึ? เจ้าถามว่าข้าเป็นใคร? ไหนๆข้าก็กำลังจะฆ่า เจ้าให้ตายตามคู่หูสุดโง่ของข้าอยู่แล้ว จะบอกให้เอาบุญ ข้าชื่อเอิร์ธ"
"ท่าทางรอยด์จะโง่จริงๆนั่นแหละ" ร่างสูงพูดพลางเดินเตะเท้าเหมือนจะไม่สมใจ ทำให้คนฟังหัวเราะเบาๆในลำคอ
"..ที่ลดตัวมาเข้าคู่กับสวะอย่างเจ้า" เสียงเรียบเย็นต่อความจนจบ พร้อมสายตายะเยือกที่เบือนมองอีกฝ่าย
' ต้องรีบฆ่ามันซะก่อนรอยด์จะตาย '
คีฟหยิบคทาออกมาอีกครั้ง เขาวาดขาเตรียมตั้งรับในขณะที่คู่ต่อสู้ที่กำลังวาดดาบลงมา
...ต้องหยุดความเคลื่อนไหวแล้วรีบร่ายมนตร์... สิ่งที่แวบผ่านเข้ามาในหัวในขณะวางแผน
"หึหึ เจ้าคิดงั้นหรือเหรอว่าไอ้ไม้เท้าสับปะรังเค อันนั้นจะทำอะไรข้าได้" ร่างที่เตี้ยกว่าเขาเล็กน้อยนั้นยิ้มเยาะ ก่อนหวดดาบลงมาอย่างรุนแรง แต่คีฟก็รับมันไว้ได้อีกครั้ง
คีฟอาศัยช่วงที่เขาดีดดาบกลับคืนนั้น วกไปหลังคู่ต่อสู้ คทาในมือถูกหวดลงเต็มแรง จนผู้ถูกจู่โจมทรุดลงไป ทั้งเวลาและจังหวะที่คู่ต่อสู้หยุดชะงักนั้นมีค่าทุกวินาที เพราะมันหมายถึงชีวิต เขากระโดดถอยออกมา แล้วเริ่มร่ายเวทมนตร์
"ข้าแต่เทพอัคคี เทพธรณี เทพอัสนี เทพวายุและเทพวารี...จงมา..สถิต ณ ที่แห่งนี้...โปรด..ประทานพลังแก่ข้า..เปลวไฟเอย..จงลุกโชน เมนคาฟดรา!!!"
ตัวเขาเองใช่ว่าจะชอบวิธีแบบนี้ หากว่าไม่ต้องรีบร้อน เขาก็คงไม่เลือกวิธีที่ต้องเปลืองแรงและเสี่ยงมากขนาดนี้
ร่างที่เคยทรุดนั่งนั้นค่อยๆถูกปกคลุมด้วยเปลวเพลิงสีสดอย่างช้าๆ ก่อนที่มันจะทวีความแรงขึ้นเรื่อยๆ
"โอ๊ย!!!!ร้อนนนนน!!!! อ๊ากกกกก!!!!!!!!!!!!..."ร่างของเขาดิ้นเร่าอย่างเจ็บปวด เสียงกรีดร้องอย่างน่าสังเวชดังโหยหวนไปทั่วบริเวณ แต่ก็ไม่มีทีท่าว่าไฟนั้นจะหายไปเลยแม้แต่น้อย
'เฮ้ย! ลืมไป ป้ายอยู่กับมันนี่ ถ้าไหม้ไปจะทำยังไง' เมื่อคิดได้ดังนั้นคีฟ ก็ร่ายมนตร์อีกบททันที
"ข้าแต่เทพอัคคี เทพธรณี เทพอัสนี เทพวายุและเทพวารี จงมา..สถิต ณ ที่แห่งนี้...โปรด..ประทานพลังแก่ข้า สายน้ำที่เย็นชา และทรงพลังเอย จงบังเกิด รีนเดรฟ" สิ้นคำน้ำ ก็ราดลงบนร่างที่กำลังโดนไฟคลอก โครมใหญ่ถึงแม้ร่างนั้นจะเปียกชุ่มและไฟดับลงหมด แต่คนที่โดนไฟคลอกนั้นสิ้นใจไปเรียบร้อยแล้ว
คีฟเดินไปที่ร่างที่ดำเป็นตอตะโกนั้น แล้วหยิบป้ายออกมาจากสายคล้องจากที่เอว น่าแปลกที่สิ่งของที่อยู่ในกำมือนั้นไม่มีแม้รอยขีดข่วน ทั้งๆที่เขานึกว่ามันอาจจะเหลวเป๋วเพราะไฟไปแล้ว...
'ทีนี้ป้ายของเรารวมทั้งหมดก็เป็น 15 ป้ายแล้วสินะ งั้นต่อไปก็' คีฟค่อยๆหันไปมองร่างอีกร่างที่นอนนิ่งอยู่ช้าๆ
รอยด์..ตายหรือยังนะ?
คีฟนั่งลงข้างๆร่างของรอยด์ แล้วจับข้อมือเขาขึ้นมา หัวใจยังเต้นอยู่ แม้อ่อนเต็มที แต่เขายังไม่ตาย....
คีฟหยิบคทาขึ้นด้วยมือทั้งสอง แล้วจ่อไว้เหนือแผลของรอยด์ นิ้วเรียวแตะเลือดที่ซึมจากปากแผล แล้วลากไปตามแนวความยาวของคทา วงล้อสีเขียวก็ปรากฏขึ้นเบื้องล่างของคนทั้งสอง
" เทพแห่งป่าผู้สร้างเอย..โปรดแบ่งพลังของท่านแก่ชายผู้นี้ เพื่อแต่งเติมชีวิตใหม่..แก่เขา.... โปรด..แต่งเติมสิ่งที่ขาดหาย" จบคำบาดแผลของรอยด์ก็ค่อยๆสมาน จนกระทั่งมันหายไปเหมือนไม่เคยมีอยู่
ในเวลาไม่นานเปลือกตาหนาก็กระพริบถี่ๆ นัยน์ตาสีรัตติกาลมองไปรอบด้าน "นี่ข้าตายแล้วหรือ ทำไมนรกมันถึงเขียวเหมือนป่าที่ข้าจากมาอย่างนี้นะ"
"ไม่ รอยด์ เจ้ายังไม่ตาย.." เสียงหนึ่งดังอยู่ข้างๆ เพื่อดึงร่างที่เพิ่งฟื้นให้หลุดจากภวังค์
รอยด์หันไปทางต้นเสียงในทันที นัยน์ตาสีน้ำตาลแดงกำลังจ้องมองเขาอย่างอ่อนล้า รอยด์ค่อยๆดึงหน้ากากออกเปิดเผยให้เห็นใบหน้าที่ถูกซ่อนเร้น ผมสีดำเรียบนั้นดูยุ่งนิดๆ นัยน์ตาและคิ้วสีดำเข้มแสดงความงุนงง ขณะที่ปากหนาขยับถาม
"เจ้าช่วยข้าไว้อีกแล้วรึ?"
"ใช่.." คเสียงทุ้มนั้นตอบสั้นๆ แต่รอยด์ก็ยังคงจับได้ถึงลมหายใจเหนื่อยหอบในน้ำเสียง
"เจ้าเป็นอะไรรึเปล่า?" ร่างหนาที่ชันตัวขึ้นนั่งถามขึ้นอย่างเป็นห่วง
"ไม่..ไม่เป็นไร แค่ไม่ถนัดมนตร์รักษาเลยใช้พลังเยอะก็เท่านั้น" คีฟตอบพลางลุกขึ้นยืนอย่างทุลักทุเลเล็กน้อย ก่อนจะกระชากให้รอยด์ลุกขึ้นด้วย
"..ชีวิตของข้าเป็นของเจ้าแล้ว เจ้ามอบชีวิตใหม่ให้กับข้าที่ควรตายถึง 2 ครั้ง ข้าจะติดตามเจ้าไปเพื่อรับใช้เจ้า" นัยน์ตาสีนิลหรุบลง มือหนาค่อยๆเลื่อนมาแตะที่แผ่นอกของตัวเอง
คีฟนิ่งไปเล็กน้อย แม้เพิ่งพบกัน แต่เขาก็รู้ดีว่า แม้ปฏิเสธอย่างไรคนตรงหน้าก็คงไม่ยอมฟังคำคัดค้าน มันทำให้เขาผ่อนลมหายใจเล็กน้อย
"ถ้าอย่างนั้นในฐานะที่ข้าเป็นเจ้าของชีวิตของเจ้า..." เสียงทุ้มนุ่มเว้นระยะเล็กน้อยเพื่อรอดูปฏิกิริยา แต่คนตรงหน้าก็นิ่งฟังเป็นอย่างดี
"1.ข้าขอสั่งให้เจ้าใช้ชีวิตตามสบาย 2.อย่าคิดตายโดยที่ข้าไม่รู้ 3.เจ้าห้ามตามข้าไปทุกที่ เพราะข้าไม่ชอบ และสุดท้ายเจ้าต้องคอยเป็นแหล่งข่าวให้ข้าตราบที่ข้ายังมีชีวิต"
"แต่..."รอยด์ตั้งท่าจะทักท้วง เพราะตั้งแต่ข้อแรก มันก็ขัดกับความตั้งใจของเขาโดยสิ้นเชิง
"ไม่มีแต่ เจ้าต้องทำตาม เพราะนี่คือ'คำสั่ง'" น้ำเสียงเรียบกล่าวปิดท้าย
ริมฝีปากหนาของผู้ฟังยิ้มบางๆ เจ้านายใหม่ของเขานี่เถียงไม่ได้เลยสินะ "รับคำสั่ง..เช่นนั้นข้าก็ขอแยกกันตรงนี้เลยก็แล้วกัน ไว้พบกันใหม่"
"อืม..ไว้พบกันใหม่" คีฟเดินหันหลังจากไปทิ้งรอยด์ให้ยืนยิ้มบางๆอยู่กับตนเองอย่างนั้น
ทางฝ่ายเคน....
"เฮ้! คีฟ!!เจ้าอยู่ที่ไหนกัน?" เสียงใสๆนั้นตะโกนหา
"เฮ้..ข้าได้ป้ายครบแล้วนะ!!"
ยังไม่ทันที่เคนจะตะโกนประโยคต่อไป ร่างสูงอันคุ้นตาก็เดินออกมาจากแนวพุ่มไม้ใกล้ๆ
"หนวกหูน่า เจ้าได้มาครบแล้วเหรอ?" คนที่เพิ่งโผล่ออกมากล่าวด้วยน้ำเสียงเบื่อหน่าย
"อืม..เกินด้วย"เคนยิ้มร่า
"อ้าว..ข้าก็เกินมา 5 น่ะ"คีฟยกป้ายที่เกินออกมาโชว์
"หึหึ ข้าชนะ เพราะข้าเกินมา 13 " เสียงใสๆนั้นหัวเราะอย่างชอบอกชอบใจ พลางชูป้ายในมืออวด
"แล้วจะทำยังไงดีล่ะ?" ลูกแก้วสีน้ำตาลมองเหล่าป้ายที่กองอยู่กับพื้นอย่างนึกสนุก
"...ขาย..." เสียงทุ้มกล่าวออกมาสั้นๆ แต่มันช่างตรงกับความคิดของอีกคนราวกับเป็นความคิดเดียวกันเหลือเกิน....
***********----------------***********----------------
หะ! ทะ...ทะ...ทะ.....ทำไปด้ายยยยยยยยยยยยยยย!!!!!!!!!
ในที่สุดบทนี้ก็รีไรท์เสร็จแล้ววววววววT0T ซาบซึ้งso much
อีก 6 บทสู้ๆ
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น