ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    take it to you

    ลำดับตอนที่ #7 : Battle Royal [2](Rewrite 100%)

    • อัปเดตล่าสุด 14 พ.ค. 50


            "เฮ่อ หนีเจ้านั่นมาได้ซะที" เสียงทุ้มเย็นถอนหายใจ ในขณะที่เดินไปเรื่อยๆในป่าของเมืองดาล์ฟ แล้วพึมพำกับตัวเอง

            แซ่ก!!, เสียงหนึ่งดังขึ้นจากบริเวณต้นไม้ด้านหลัง

            คีฟเงียบลงแล้วรวบรวมสมาธิเพื่อฟังเสียงให้ชัดอีกครั้ง แต่ไม่พบเสียงนั้นเงียบไปแล้ว... แวบหนึ่ง ป่าทั้งป่าดูเงียบสงบจนน่ากลัว ไม่มีเสียงนก ไม่มีเสียงลม ไม่มีเสียงแห่งชีวิต ป่าทั้งป่าราวกับถูกกลืนหาย จนกระทั่งเสียงๆเดิมดังขึ้นอีกครั้งหนึ่ง

            คนที่ยืนนิ่งสดับฟังเสียงอยู่ หันกลับไปทางต้นเสียงในทันที แต่สิ่งที่พบกลับเป็นเพียง ความว่างเปล่าและต้นไม้ต้นสูงของป่าแห่งนี้ แล้วพลันนัยน์ตาสีน้ำตาลเข้มคู่นั้นก็แปลไป นัยน์ตาคมๆนั่นตวัดขึ้นไปบนยอดไม้ 

            ทันใดนั้นวัตถุประหลาดที่สะท้อนต้องกับแสงอาทิตย์จนกลายเป็นสีเงิน ก็พุ่งตรงมาจากยอดไม้ และตรงมาทางเขา ร่างสูงเบี่ยงตัวหลบ ก่อนจะอาศัยความชำนาญคว้าสิ่งแปลกปลอมนั้นไว้ด้วยนิ้วคู่หนึ่ง 

            คีฟควงมีดด้วยมือข้างเดียวเหมือนจะพิจารณา มันเป็นมีดพกสีเงินที่ดูแสนธรรมดา

            'ของแบบนี้ยึดไว้ก็ไม่ได้ขายอยู่ดี' แต่แล้วเขาก็ต้องสะดุดใจกับสิ่งๆหนึ่ง เขาลองโยนมีดดูอีกครั้ง เพื่อวัดน้ำหนัก

            มีดนี่มัน...เงินแท้นี่นา......

            รอยยิ้มเจ้าเล่ห์ถูกระบายที่มุมปาก มือแกร่งปามีดไปยังจุดที่มีดเล่มนั้นพุ่งมาเมื่อครู่

            ฉึก!!, มีเสียงดังขึ้นแล้วร่างๆหนึ่งก็ตกลงมาที่พื้นในทันที

            ร่างๆนั้นขยับดีดตัวลุกขึ้น ร่างหนาในชุดสีดำสนิทคล้ายชุดนินจา หน้ากากสีดำคลุมปกปิดหน้าเหลือไว้แต่ช่องตา เลือดสีสดที่ซึมผ่านมือที่กุมต้นแขนอยู่ ไหลหยดลงบนพื้น มือหนาที่สวมถุงมือหนังสีเดียวกับอาภรณ์กระชากมีดที่ปักอยู่แล้วขว้างทิ้งลงพื้น

             คีฟปรายตามองที่มีดเล่มนั้น รอยยิ้มบางถูกจุดที่มุมปากเล็กน้อย

             "นี่เจ้ามีมีดกี่เล่มกันล่ะ?" น้ำเสียงที่แฝงแววหยอกล้ออยู่ในทีถามเหมือนต้องการจะยั่วโมโหอีกฝ่าย

             "มีมากพอจะฆ่าคนอย่างแกก็แล้วกัน!!" ชายร่างหนากระชากเสียงแล้วลุกขึ้นอย่างรวดเร็ว กายหนาพุ่งเข้าใส่คนตรงหน้า มือที่กุมต้นแขนอยู่คลายออก แล้วเอื้อมลงไปหยิบมีดจากซองเก็บอาวุธที่ต้นขาอย่างชำนาญ

             มีด 3 เล่มพุ่งไปที่ข้างหน้าอย่างรวดเร็ว แต่คีฟกลับเบี่ยงตัวหลบมีดได้อย่างสบายๆ ทำให้คู่ต่อสู้ยิ่งมีน้ำโหมากขึ้น  

             ชายชุดดำนั้นปามีดออกไปอย่างรวดเร็วติดๆกัน อย่างหมายว่าโดนสักเล่มก็ยังดี

             ฟึ่บ!, สำเร็จ มีดเล่มหนึ่งเฉี่ยวโดนลำตัวของคีฟไป เลือดสีแดงเริ่มซึมออกมา นัยน์ตาของเขาเปลี่ยนไปทันที ท่าทีสบายๆในตอนแรกหายไปแล้ว เขากำลังคิดจะเอาจริง

             บรรยากาศรอบข้างเปลี่ยนไปทันที ชายร่างหนากำลังตกตะลึงกับสิ่งตรงหน้า นัยน์ตาคู่นั้นเบิกโพลง ขนทั่วกายลุกซู่

             คนตรงหน้าของเขานั้นเปลี่ยนไปจนน่าตกใจ นัยน์ตาที่เคยเฉยชา บัดนี้กลับทอแววกร้าว ร่างที่เคยคิดว่าสูงอยู่แล้วนั้น เมื่อมีรัศมีกดดันที่แผ่ออกมา กลับดูสูงใหญ่ขึ้นจนน่ากลัว

             นี่มันอะไรกัน?...เทียบไม่ได้..เทียบไม่ได้เลย....แม้แต่น้อย

             เขาค่อยๆหลับตาลง ร่างหนาทรุดลงบนพื้น ลมหายใจหอบระรัวค่อยๆผ่อนคลายลง

             "เป็นอะไรไปล่ะ? ข้าอุตส่าห์จะเอาจริงแล้วนะ" นัยน์ตาสีน้ำตาลแดงมองคู่ต่อสู้เบื้องหน้าอย่างเย้ยหยัน แต่ร่องรอยของบรรยากาศ น่ากลัวในนัยน์ตาคู่นั้นไม่ได้จางลงแม้แต่น้อย

             "หึ สู้ได้ก็คือสู้ไม่ได้ เจ้าเก่งกว่าข้า ของแค่นี้ทำไมข้าจะไม่รู้" ชายคนนั้นตอบเรียบ

             "..."

             "รีบฆ่า ข้าเถอะ อยู่ไปก็ขายหน้า ใครจะไปพูดได้ว่าแพ้เด็กอย่างเจ้า ฆ่าข้าตายไปยังดีใจซะกว่า" กระแสเสียงเรียบยังคงไม่เปลี่ยนแปร น้ำเสียงจริงจังอย่างไม่มีร่องรอยของความโกหก

             นัยน์ตาสีน้ำตาลแดงนั้นทอแววอ่อนลงเล็กน้อย แม้จะเหมือนคนขี้ขลาดทั่วไป แต่เขาก็รับรู้ได้ว่า สิ่งที่หลุดออกจาปปากของบุรุษเบื้องหน้านั้นหนักแน่นเพียงไร

             ชายคนนี้มีศักดิ์ศรี...

             ชายผู้นี้มีเกียรติอย่างน่านับถือ...

             เกียรติและศักดิ์ศรีนั้น แลกมาด้วยชีวิต....ยอมตาย..เพื่อศักดิ์ศรีที่ยิ่งใหญ่....

             บรรยากาศรอบๆตัวค่อยคลายลง ไม่มีร่องรอยของสิ่งเดิมเลยแม้แต่น้อย  ชายร่างหนาค่อยๆลืมตาขึ้น ถึงแม้ผ้าคลุมหน้าจะบังจนไม่เห็นคิ้ว แต่ก็เดาได้ว่ามันกำลังขมวดจนจะผูกเป็นโบว์

             "ทำไม?..ทำไมเจ้าถึงไม่เข้ามาฆ่าข้าซะล่ะ"น้ำเสียงกระด้างนั้นฟังดูไม่สบายใจเอาเสียเลย


             "เพราะข้าไม่รู้จะฆ่าคนที่รู้จักตัวเองอย่างเจ้าทำไมน่ะสิ" คีฟถอนหายใจแล้วยกคทาขึ้นพาดบ่า

             "เอาป้ายของเจ้ามาก็พอ?"ร่างสูงเดินเข้าไปใกล้ๆร่างที่ทรุดนั่งอยู่กับพื้น

             "ป้ายไม่ได้อยู่กับข้าหรอก จะมีก็ของข้านี่แหละ ที่เหลืออยู่กับคู่หูของข้า"เขาลุกขึ้นยืนแล้วถอดป้ายติดเสื้อโยนให้คีฟ คีฟรับแล้วเคาะคทาลงบนสิ่งที่ได้รับมา 2-3ครั้ง แล้วเจ้าสิ่งนั้นก็หายไปอย่างไร้ร่องรอย

             "เจ้าชื่ออะไร?" 

             "ข้าไม่เอ่ยนามนี้กับใครมานานแล้วนะนี่ แต่ข้าก็แพ้ให้กับเจ้าแล้ว ข้าชื่อ...รอยด์ อาเก้น" 

             "รอยด์.. อย่างนั้นข้าขอมีดของเจ้าด้วยได้รึเปล่า" ริมฝีปากได้รูปเหยียดรอยยิ้มบางๆ พลางเริ่มดำเนินแผน รอยด์นั้นดูจะงงๆ แต่ก็ไม่ได้ว่าอะไร เขาปลดซองมีดที่ขาแล้วโยนให้คีฟ 

             คีฟเปิดดูแล้วหยิบมีดที่อยู่ที่พื้นกับตามต้นไม้เก็บลงซองที่ได้รับมา 

             'อืม..20กว่าเล่มหรอ ก็ยังดีนะ' 

             "ขอถามอีกอย่าง...มีดนี่เงินแท้ใช่รึเปล่า?" คีฟช้อนตาขึ้นสบเข้ากับนัยน์ตาสีดำขลับของรอยด์

             "ใช่..หมู่บ้านข้ามีเงินเยอะ ขนาดบางบ้านผสมสีทากำแพงด้วยซ้ำ" รอยด์ตอบเรียบๆ ดวงแก้วสีดำยังฉายแววงุนงง

             "อืม..งั้นข้าขอได้รึเปล่า?" 

             "เอาไปสิ" เจ้าของมีดตอบกลับง่ายๆพลางคลี่ยิ้มบางๆ

             ร่างสูงหมุนตัวกลับทันทีที่หมดธุระ พร้อมกับคำลาบางเบา

             "อา..ลาก่อน" ถ้อยคำตอบกลับนั้นเบาบางไม่แพ้กัน แต่ถึงกระนั้นคนฟังก็ยังได้ยิน 

             แต่ยังไม่ทันที่ท่อนขายาว จะก้าวพ้นไปเสียงหนึ่งก็ดังขึ้น

             ตึง! ร่างสูงผินตัวกลับมาทางร่างที่อยู่เบื้องหลังอย่างรวดเร็ว ร่างของรอยด์ล้มฟาดลงกับพื้น ของเหลวสีคล้ำไหลซึมผ่านอาภรณ์หนาบริเวณใกล้หัวใจ กระจายตัวเป็นวงกว้าง

             คีฟกำมือแน่น สายตาคมที่มองไปยังร่างของรอยด์ที่นอนแน่นิ่งอยู่นั้นทอประกายกร้าว แต่แล้วนัยน์ตาคู่นั้นก็ไปสะดุดเข้าที่ปลายนิ้วมือ มันยังคงกระตุกเล็กน้อย รอยด์ยังไม่ตายหากรีบช่วยคงทัน

             แต่ปัญหามันอยู่ตรงหน้า ร่างที่ปรากฏออกมาเบื้องหลังรอยด์ บุรุษร่างเล็กที่ถือดาบอันใหญ่ไม่เข้ากับตัว รอยยิ้มที่น่าขยะแขยงปรากฏบนริมฝีปากที่บางจนแทบมองไม่เห็น ตาเล็กๆส่องประกายไม่น่าไว้ใจ

             "เจ้านี่มันโง่ แพ้คนอย่างเจ้า แถมยังบอกหมดทุกอย่าง" ร่างนั้นใช้เท้าเขี่ยร่างหนาที่นอนอยู่กับพื้น แล้วถ่มน้ำลายยลงไปบนพื้น

             คีฟเพ่งสายตามองคนตรงหน้า "เจ้าเป็นใคร?"

             "ข้ารึ? เจ้าถามว่าข้าเป็นใคร? ไหนๆข้าก็กำลังจะฆ่า เจ้าให้ตายตามคู่หูสุดโง่ของข้าอยู่แล้ว จะบอกให้เอาบุญ ข้าชื่อเอิร์ธ" 

             "ท่าทางรอยด์จะโง่จริงๆนั่นแหละ" ร่างสูงพูดพลางเดินเตะเท้าเหมือนจะไม่สมใจ ทำให้คนฟังหัวเราะเบาๆในลำคอ

             "..ที่ลดตัวมาเข้าคู่กับสวะอย่างเจ้า" เสียงเรียบเย็นต่อความจนจบ พร้อมสายตายะเยือกที่เบือนมองอีกฝ่าย 

             ' ต้องรีบฆ่ามันซะก่อนรอยด์จะตาย '

             คีฟหยิบคทาออกมาอีกครั้ง  เขาวาดขาเตรียมตั้งรับในขณะที่คู่ต่อสู้ที่กำลังวาดดาบลงมา

             ...ต้องหยุดความเคลื่อนไหวแล้วรีบร่ายมนตร์... สิ่งที่แวบผ่านเข้ามาในหัวในขณะวางแผน

             "หึหึ เจ้าคิดงั้นหรือเหรอว่าไอ้ไม้เท้าสับปะรังเค อันนั้นจะทำอะไรข้าได้" ร่างที่เตี้ยกว่าเขาเล็กน้อยนั้นยิ้มเยาะ ก่อนหวดดาบลงมาอย่างรุนแรง แต่คีฟก็รับมันไว้ได้อีกครั้ง

             คีฟอาศัยช่วงที่เขาดีดดาบกลับคืนนั้น วกไปหลังคู่ต่อสู้ คทาในมือถูกหวดลงเต็มแรง จนผู้ถูกจู่โจมทรุดลงไป ทั้งเวลาและจังหวะที่คู่ต่อสู้หยุดชะงักนั้นมีค่าทุกวินาที เพราะมันหมายถึงชีวิต เขากระโดดถอยออกมา แล้วเริ่มร่ายเวทมนตร์

             "ข้าแต่เทพอัคคี เทพธรณี เทพอัสนี เทพวายุและเทพวารี...จงมา..สถิต ณ ที่แห่งนี้...โปรด..ประทานพลังแก่ข้า..เปลวไฟเอย..จงลุกโชน เมนคาฟดรา!!!"

             ตัวเขาเองใช่ว่าจะชอบวิธีแบบนี้ หากว่าไม่ต้องรีบร้อน เขาก็คงไม่เลือกวิธีที่ต้องเปลืองแรงและเสี่ยงมากขนาดนี้ 

             ร่างที่เคยทรุดนั่งนั้นค่อยๆถูกปกคลุมด้วยเปลวเพลิงสีสดอย่างช้าๆ ก่อนที่มันจะทวีความแรงขึ้นเรื่อยๆ

             "โอ๊ย!!!!ร้อนนนนน!!!! อ๊ากกกกก!!!!!!!!!!!!..."ร่างของเขาดิ้นเร่าอย่างเจ็บปวด เสียงกรีดร้องอย่างน่าสังเวชดังโหยหวนไปทั่วบริเวณ แต่ก็ไม่มีทีท่าว่าไฟนั้นจะหายไปเลยแม้แต่น้อย

             'เฮ้ย! ลืมไป ป้ายอยู่กับมันนี่ ถ้าไหม้ไปจะทำยังไง' เมื่อคิดได้ดังนั้นคีฟ ก็ร่ายมนตร์อีกบททันที

             "ข้าแต่เทพอัคคี เทพธรณี เทพอัสนี เทพวายุและเทพวารี จงมา..สถิต ณ ที่แห่งนี้...โปรด..ประทานพลังแก่ข้า สายน้ำที่เย็นชา และทรงพลังเอย จงบังเกิด รีนเดรฟ" สิ้นคำน้ำ ก็ราดลงบนร่างที่กำลังโดนไฟคลอก โครมใหญ่ถึงแม้ร่างนั้นจะเปียกชุ่มและไฟดับลงหมด แต่คนที่โดนไฟคลอกนั้นสิ้นใจไปเรียบร้อยแล้ว

             คีฟเดินไปที่ร่างที่ดำเป็นตอตะโกนั้น แล้วหยิบป้ายออกมาจากสายคล้องจากที่เอว น่าแปลกที่สิ่งของที่อยู่ในกำมือนั้นไม่มีแม้รอยขีดข่วน ทั้งๆที่เขานึกว่ามันอาจจะเหลวเป๋วเพราะไฟไปแล้ว...

             'ทีนี้ป้ายของเรารวมทั้งหมดก็เป็น 15 ป้ายแล้วสินะ งั้นต่อไปก็' คีฟค่อยๆหันไปมองร่างอีกร่างที่นอนนิ่งอยู่ช้าๆ 

             รอยด์..ตายหรือยังนะ?

             คีฟนั่งลงข้างๆร่างของรอยด์ แล้วจับข้อมือเขาขึ้นมา หัวใจยังเต้นอยู่ แม้อ่อนเต็มที แต่เขายังไม่ตาย....

             คีฟหยิบคทาขึ้นด้วยมือทั้งสอง แล้วจ่อไว้เหนือแผลของรอยด์ นิ้วเรียวแตะเลือดที่ซึมจากปากแผล แล้วลากไปตามแนวความยาวของคทา วงล้อสีเขียวก็ปรากฏขึ้นเบื้องล่างของคนทั้งสอง

             " เทพแห่งป่าผู้สร้างเอย..โปรดแบ่งพลังของท่านแก่ชายผู้นี้ เพื่อแต่งเติมชีวิตใหม่..แก่เขา.... โปรด..แต่งเติมสิ่งที่ขาดหาย" จบคำบาดแผลของรอยด์ก็ค่อยๆสมาน จนกระทั่งมันหายไปเหมือนไม่เคยมีอยู่

             ในเวลาไม่นานเปลือกตาหนาก็กระพริบถี่ๆ นัยน์ตาสีรัตติกาลมองไปรอบด้าน "นี่ข้าตายแล้วหรือ ทำไมนรกมันถึงเขียวเหมือนป่าที่ข้าจากมาอย่างนี้นะ" 

             "ไม่ รอยด์ เจ้ายังไม่ตาย.." เสียงหนึ่งดังอยู่ข้างๆ เพื่อดึงร่างที่เพิ่งฟื้นให้หลุดจากภวังค์

             รอยด์หันไปทางต้นเสียงในทันที  นัยน์ตาสีน้ำตาลแดงกำลังจ้องมองเขาอย่างอ่อนล้า รอยด์ค่อยๆดึงหน้ากากออกเปิดเผยให้เห็นใบหน้าที่ถูกซ่อนเร้น ผมสีดำเรียบนั้นดูยุ่งนิดๆ นัยน์ตาและคิ้วสีดำเข้มแสดงความงุนงง ขณะที่ปากหนาขยับถาม

             "เจ้าช่วยข้าไว้อีกแล้วรึ?"

             "ใช่.." คเสียงทุ้มนั้นตอบสั้นๆ แต่รอยด์ก็ยังคงจับได้ถึงลมหายใจเหนื่อยหอบในน้ำเสียง

             "เจ้าเป็นอะไรรึเปล่า?" ร่างหนาที่ชันตัวขึ้นนั่งถามขึ้นอย่างเป็นห่วง

             "ไม่..ไม่เป็นไร แค่ไม่ถนัดมนตร์รักษาเลยใช้พลังเยอะก็เท่านั้น" คีฟตอบพลางลุกขึ้นยืนอย่างทุลักทุเลเล็กน้อย ก่อนจะกระชากให้รอยด์ลุกขึ้นด้วย

             "..ชีวิตของข้าเป็นของเจ้าแล้ว เจ้ามอบชีวิตใหม่ให้กับข้าที่ควรตายถึง 2 ครั้ง ข้าจะติดตามเจ้าไปเพื่อรับใช้เจ้า" นัยน์ตาสีนิลหรุบลง มือหนาค่อยๆเลื่อนมาแตะที่แผ่นอกของตัวเอง

             คีฟนิ่งไปเล็กน้อย แม้เพิ่งพบกัน แต่เขาก็รู้ดีว่า แม้ปฏิเสธอย่างไรคนตรงหน้าก็คงไม่ยอมฟังคำคัดค้าน มันทำให้เขาผ่อนลมหายใจเล็กน้อย

             "ถ้าอย่างนั้นในฐานะที่ข้าเป็นเจ้าของชีวิตของเจ้า..." เสียงทุ้มนุ่มเว้นระยะเล็กน้อยเพื่อรอดูปฏิกิริยา แต่คนตรงหน้าก็นิ่งฟังเป็นอย่างดี 

             "1.ข้าขอสั่งให้เจ้าใช้ชีวิตตามสบาย 2.อย่าคิดตายโดยที่ข้าไม่รู้ 3.เจ้าห้ามตามข้าไปทุกที่ เพราะข้าไม่ชอบ และสุดท้ายเจ้าต้องคอยเป็นแหล่งข่าวให้ข้าตราบที่ข้ายังมีชีวิต"

             "แต่..."รอยด์ตั้งท่าจะทักท้วง เพราะตั้งแต่ข้อแรก มันก็ขัดกับความตั้งใจของเขาโดยสิ้นเชิง

             "ไม่มีแต่ เจ้าต้องทำตาม เพราะนี่คือ'คำสั่ง'" น้ำเสียงเรียบกล่าวปิดท้าย

             ริมฝีปากหนาของผู้ฟังยิ้มบางๆ เจ้านายใหม่ของเขานี่เถียงไม่ได้เลยสินะ "รับคำสั่ง..เช่นนั้นข้าก็ขอแยกกันตรงนี้เลยก็แล้วกัน ไว้พบกันใหม่"

             "อืม..ไว้พบกันใหม่" คีฟเดินหันหลังจากไปทิ้งรอยด์ให้ยืนยิ้มบางๆอยู่กับตนเองอย่างนั้น





              ทางฝ่ายเคน....



             "เฮ้! คีฟ!!เจ้าอยู่ที่ไหนกัน?" เสียงใสๆนั้นตะโกนหา

             "เฮ้..ข้าได้ป้ายครบแล้วนะ!!"

             ยังไม่ทันที่เคนจะตะโกนประโยคต่อไป ร่างสูงอันคุ้นตาก็เดินออกมาจากแนวพุ่มไม้ใกล้ๆ

             "หนวกหูน่า เจ้าได้มาครบแล้วเหรอ?" คนที่เพิ่งโผล่ออกมากล่าวด้วยน้ำเสียงเบื่อหน่าย

             "อืม..เกินด้วย"เคนยิ้มร่า

             "อ้าว..ข้าก็เกินมา 5 น่ะ"คีฟยกป้ายที่เกินออกมาโชว์

             "หึหึ ข้าชนะ เพราะข้าเกินมา 13 " เสียงใสๆนั้นหัวเราะอย่างชอบอกชอบใจ พลางชูป้ายในมืออวด

             "แล้วจะทำยังไงดีล่ะ?" ลูกแก้วสีน้ำตาลมองเหล่าป้ายที่กองอยู่กับพื้นอย่างนึกสนุก

             "...ขาย..." เสียงทุ้มกล่าวออกมาสั้นๆ แต่มันช่างตรงกับความคิดของอีกคนราวกับเป็นความคิดเดียวกันเหลือเกิน.... 




    ***********----------------***********----------------


    หะ! ทะ...ทะ...ทะ.....ทำไปด้ายยยยยยยยยยยยยยย!!!!!!!!!

    ในที่สุดบทนี้ก็รีไรท์เสร็จแล้ววววววววT0T ซาบซึ้งso much

    อีก 6 บทสู้ๆ
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×