ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic KHR] XS l Under the Dark Sky

    ลำดับตอนที่ #7 : 7th night

    • อัปเดตล่าสุด 29 เม.ย. 53


    WARNING NC-17

    เปลือกตาบางกระพริบถี่ ดวงตาคู่สวยปรือขึ้นเชื่องช้า อาการไข้นั้นดูไม่ได้ลดลงเลยแม้แต่น้อย รู้สึกเหมือนเส้นเลือดในสมองกำลังเต้นตุบ

    เขากลิ้งขลุกอยู่บนเตียงหลังใหญ่ในห้องอันเงียบงัน

    ...บอสไปไหนแล้วล่ะ?...

    ร่างโปร่งคิดเรื่อยเปื่อย แต่ใบหน้ากลับค่อยๆร้อนขึ้นมาเมื่อนึกถึงอ้อมกอดเมื่อคืน

    ...ไม่เคยคิดมาก่อนว่าวงแขนของคนไร้จิตใจจะอบอุ่นได้ถึงเพียงนั้น...

    ...อบอุ่นจนหัวใจปวดแปลบ...

    มือเรียวกำอกเสื้อแน่น

    "ปวดหัวจังเลย..." เสียงแหบพร่าพึมพำแผ่วเบา ก่อนเจ้าตัวจะขดตัวเข้า มือที่กุมอกเสื้อนั้นเพิ่มแรงขยุ้มจนผ้าเนื้อดีนั้นยับย่น

    "...ตรงนี้ก็ปวด..."

    ...ทำไมเขาถึงได้รู้สึกแบบนี้นะ?...

    ...หรือว่าเพราะป่วยอยู่ก็เลยอ่อนแอฟุ้งซ่านมากกว่าปกติ...

    แต่ว่า..ถ้าอย่างนั้นทำไมก่อนหน้านี้ถึงได้เป็นล่ะ...

    แล้วทำไม..

    ทำไมคนที่ทำให้เขาเกิดอาการแบบนี้จะต้องมีแค่แซนซัสเท่านั้นด้วย..

    ทั้งๆที่เบลเองก็กอดเขาตั้งไม่รู้กี่ครั้ง แต่เขาก็ไม่เคยรู้สึกอะไรเลยแม้แต่น้อย...

    ...ร่างกายนี้มันอยู่เหนือการควบคุมของเขาตั้งแต่เมื่อไหร่นะ?...

    เพราะใครก็ไม่รู้แหละ...

    "งี่เง่า...บ้า....แย่ที่สุด.." ริมฝีปากบางก่นด่าบุคคลในความคิด

    "แกว่าไครน่ะไอ้สวะ?" น้ำเสียงทรงอำนาจดังชัดเจน ให้คนด่าสะดุ้งโหยง

    "บ..บอสเข้ามาทำไม?"

    "นี่มันห้องของฉัน"

    สควอโล่ถดตัวหนีเมื่อร่างสูงเริ่มขยับตัว หากแซนซัสก็เพียงแค่เดินไปหยิบเหล้าออกมาจากตู้ที่อยู่บริเวณประตูเท่านั้น

    หัวหน้าแห่งวาเรียรินเหล้าใส่แก้ว แล้วสาวเท้าเข้าหาร่างที่ถอยหนีจนแผ่นหลังปะทะเข้ากับหัวเตียง

    "กินยารึยัง?" ร่างสูงใหญ่ถามพลางหย่อนกายนั่งลงบนเตียง

    "..ยัง..."

    นิ้วหยาบรั้งปลายคางมนให้แหงนเงยขึ้นสบตา "รอฉันมาป้อนอยู่รึไง?"

    "ม..ไม่ใช่..." ใบหน้าแดงระเรื่อ ดวงตาสีน้ำแข็งเสหลบ มือเรียวพยายามแกะปลายนิ้วที่ล็อคใบหน้าเขาเอาไว้ออก

    "สายไปแล้ว" ร่างสูงว่าก่อนรั้งดวงหน้านั้นเข้าประชิด

    กลิ่นแอลกอฮอล์อ่อนๆลอยแตะจมูกทันทีที่ใบหน้าคมสันเคลื่อนเข้าใกล้ นัยน์ตาคู่สวยปิดแน่นเมื่อริมฝีปากได้รูปนั้นบดเบียดเข้ามา

    ลิ้นอุ่นเหลวดันเม็ดยาให้ล่วงผ่านลำคอระหง หากกลับไม่ยอมผละออกและแทรกเรียวลิ้นช่ำชองนั้นให้กวาดเข้ามาลึกยิ่งขึ้น

    สควอโล่ยกมือขึ้นดันแผ่นอกกว้างเพื่อไม่ให้เข้ามาใกล้มากเกินไป

    ...เพื่อไม่ให้ร่างสูงรับรู้ถึงบางสิ่งบางอย่างที่กำลังรัวกระหน่ำอยู่ในหน้าอกของเขา...

    ร่างบางลมหายใจติดขัด ร่างกายที่อ่อนแอจากพิษไข้ค่อยๆซวนซบลงกับเตียงอย่างไร้เรี่ยวแรง

    มือที่เคยใช้ผลักไสกลับกลายเป็นกุมเสื้อเชิ้ตเนื้อดีแน่น ก่อนจะค่อยๆตอบรับสัมผัสช่ำชองนั้นอย่างลืมตน

    ...มึนหัวจัง...เพราะไม่สบายอยู่หรือว่าเพราะรสจูบที่แฝงด้วยแอลกอฮอล์นี่กันนะ...

    นัยน์ตาฉ่ำเยิ้มปรืออย่างเย้ายวน ร่างทั้งร่างร่วงลงไปกองกับเตียงเมื่อร่างสูงยอมคลายริมฝีปากออก

    พิรุณสีเลือดนอนหอบหายใจ ยกหลังมือขึ้นแตะริมฝีปากชุ่มชื้น ดวงตาคู่สวยเสหลบ

    "ทำอะไรของแกน่ะ?" น้ำเสียงหอบพร่าเอ่ยถามแผ่วเบา

    นภาหนุ่มโน้มใบหน้าลงจนรับรู้ได้ถึงลมหายใจไร้ระเบียบของร่างเบื้องใต้ "ก็จูบไงล่ะ.. แค่นี้ไม่รู้รึไง" มือหนาล้วงผ่านสาบเสื้อสัมผัสแผ่นอกบาง "หรืออยากจะลองอีกที"

    ร่างโปร่งเบิกตากวางเอามือดันใบหน้าของร่างเบื้องบนออกตามที่เรี่ยวแรงที่มีอยู่จะเอื้ออำนวย

    "พอแล้ว! ถ้าอยากทำนักทำไมไม่ไปยุ่งกับนางบำเรอของแกเล่า!!"

    แว่บนึงที่เขาเห็น...ดวงตาสีเลือดนั้นไหวระริกด้วยอารมณ์ที่เขาไม่รู้จัก...

    ...เขาพูดอะไรผิดไปงั้นเหรอ...

    หากเพียงเสี้ยววินาทีดวงตาคู่นั้นก็กลับมาเย็นชา มือแกร่งตรึงข้อมือทั้งสองข้างเอาไว้ด้วยมือเพียงข้างเดียว แล้วใช้มืออีกข้างเชยปลายคางมนขึ้น "เพราะต่อไปนี้มันจะเป็นหน้าที่ของแกไงล่ะ ไอ้สวะ..."

    จบคำดวงหน้าคมก็โน้มลงช่วงชิงริมฝีปากบอบบางอีกครั้ง ราวต้องการย้ำเจตนาของตน

    ร่างโปร่งบางดิ้นรนภายใต้การครอบครอง แต่มันก็ไม่ได้ทำให้ร่างหนาหนักนี้สะดุ้งสะเทือนเลยแม้แต่น้อย...

    ไม่รู้ตั้งแต่เมื่อไหร่ที่เขาจำต้องโอนอ่อนและยอมรับการรุกล้ำจากปลายลิ้นที่มากไปด้วยประสบการณ์นี้

    เสียงครางอือแว่วหวานในลำคอ หยาดน้ำใสหลั่งรินจากมุมปาก

    ...เป็นได้แค่นางบำเรอที่ต้องรองรับอารมณ์ใคร่เวลาที่นภาแห่งรัตติกาลต้องการเช่นนั้นเหรอ?...

    ห้วงความคิดขัดแย้งขึ้นในสมองที่พร่าเบลอ แนวฟันขาวขบลงบนริมฝีปากที่กำลังคลึงเคล้าริมฝีปากของเขาเรียกโลหิตแดงฉานให้รินหลั่ง

    แซนซัสผละใบหน้าออกในทันที ก่อนใช้นิ้วโป้งปาดของเหลวสีแดงข้นออก

    "หึ!กล้านักนะไอ้สวะ!"

    "ฉันไม่ยอมอ้าขาให้แกหรอก ไอ้บอสเฮงซวย!" ร่างโปร่งตะคอกกลับเท่าที่เสียงอันแหบพร่านั้นมีอยู่ แม้จะรู้สึกตกใจกับสายตาที่แข็งกร้าวขึ้นอย่างกะทันหันนั้นก็ตาม

    ริมฝีปากหนาเบือนยิ้มน่ากลัว มือหยาบกระชากเชิ้ตของฉลามหนุ่มจนกระดุมหลุดกระเด็นออกหมดในครั้งเดียว

    "ฉันจะเป็นคนสอนแกเอง ว่าร่างกายของแกน่ะ เป็นแค่ของเล่นของฉันเท่านั้น!!" มือหยาบแข็งสอดเข้าลูบไล้ผิวบางหนักหน่วง

    ผู้ถูกรุกรานเบิกตากว้างอย่างตกใจ "ม..ไม่เอานะ จะทำอะไร!?"

    แม้เสียงถามจะเต็มไปด้วยความตระหนก ร่างสูงก็ไม่ได้ให้ความสนใจเลยสักนิด เขาฝังใบหน้าลงกับซอกคอขาวเนียน

    "น..นี่มันเพิ่ง 9 โมงเองนะ" มือเรียวขยับค้ำดันมัดไหล่ตึงแน่น แต่เรี่ยวแรงทั้งหมดที่มีมันกลับไม่ทำให้ร่างสูงขยับเขยื้อนได้เลย อาภรณ์ผืนบางหลุดออกทีละชิ้นอย่างง่ายดาย

    "..ก..แกไม่ไปทำงานเหรอ..?" ผิวกายขาวบางระริกสั่นเมื่อถูกเผยออกทีละน้อย ความทรงจำที่ไม่อาจลืมได้ล่วงล้ำเข้ามาในสมอง

    "ฉันยัง..ม..ไม่.ห.าย..ป่วยเลยนะ" ...พูดจนไม่รู้จะพูดอะไรแล้ว...

    "แกนี่พูดมากชะมัด" นภาหนุ่มว่าก่อนระบายลมหายใจอย่างระอา

    นัยน์ตาสีฟ้าอ่อนปิดแน่น ดวงหน้าหวานก้มหลบใบหน้าที่โน้มลงใกล้ "ข..ขอโทษ..แต่ฉันไม่เอา..ไม่เอานะบอส.."

    ...ขอโทษอีกแล้ว..มันเห็นเขาเป็นคนยังไงกันแน่?...

    สีหน้าไม่พอใจฉายชัดบนใบหน้าหล่อคม แต่ก็เป็นเพียงพริบตาเดียวเท่านั้น "ถือว่าฉันปรานีแก..." ถ้อยที่เอ่ยขึ้นลอยๆนั้นเรียกให้สควอโล่เบือนสายตาขึ้นมองอย่างงงวย

    ริมฝีปากหนาได้รูปกดจุมพิตซ้ำลงไปบนรอยแดงที่จางลงมากกลางแผ่นอกนวล "เย็นนี้ฉันจะกลับมาเตรียมใจไว้ซะ"

    ฉลามหนุ่มพยายามชันกายทันทีที่ร่างสูงผละออก แม้จะไม่ได้พูดอะไรแต่เขาก็รู้ดีว่าหัวหน้าแห่งวาเรียกำลังโกรธ

    "บอส.." เสียงแหบพร่าเอ่ยเรียกอย่างไม่แน่ใจ แต่ร่างนั้นก็ไม่ได้หันกลับมา ...ไม่แม้แต่จะหยุดเดิน...

    ประตูบานหนาปิดลง

    ร่างที่อยู่ในสภาพกึ่งเปลือยชันขาขึ้นกอด ...โกรธอีกแล้ว...

    ...ทำไมระยะหลังมานี่เขาถึงไม่เคยเข้าใจสาเหตุการหงุดหงิดของแซนซัสเลยซักครั้ง...

    ...แต่ทำไมทุกครั้งหัวใจของเขาจะต้องปวดแปลบราวกับโดนบดขยี้แบบนี้...

    มือเรียวยกขึ้นแตะรอยประทับที่ร่างสูงมอบให้กลางแผ่นอกโดยไม่รู้ตัว...

    ................................................................................

    ตะวันจวนลับขอบฟ้า อวามารีนน้ำงามเบือนออกนอกหน้าต่างอย่างเลื่อนลอย

    นภาสีส้มตัดกับสีน้ำเงินเข้มเบื้องบน เหนือตะวันสีเลือดแลเห็นเสี้ยวจันทราลอยเด่น คงมีเพียงช่วงเวลานี้เท่านั้น ที่สิ่งตรงข้ามกันอย่างดวงอาทิตย์และดวงจันทร์ ได้มาอยู่บนฟ้าผืนเดียวกัน

    อีกไม่นานท้องฟ้าคงเปลี่ยนเป็นสีดำสนิท คงเหลือเพียงจันทร์เดียวดายบนผืนนภาที่เขาหลงใหล

    ...นภาสีดำ...

    ร่างบางนั่งกอดเข่าอยู่บนเตียงหลังกว้าง

    พอถูกทิ้งเอาไว้คนเดียวถึงได้รู้สึกตัวว่าอาการป่วยของเขามันหนักขนาดไหน

    อย่าว่าแต่ลุกขึ้นเดินกลับห้องของตนเอง แค่ชันกายขึ้นนั่งก็แทบเต็มกลืน ทั้งๆที่เขาควรจะนอนพักทั้งวัน แต่ความคิดทั้งหลายทั้งมวลกลับมากระจุกรวมกันจนข่มตาหลับไม่ได้

    ...ทั้งๆที่ถูกยัดเยียดคำสั่งที่ไร้เหตุผลและฟังไม่ขึ้นเป็นที่สุด...

    แต่ตัวเขาก็ยังปฏิบัติตามคำสั่งนั้นทุกคำพูด...

    ...อาจเป็นความเคยชิน...

    เพียงแซนซัสสั่งมาเขาก็พร้อมจะทำทุกอย่าง แม้ว่านั่นจะเป็นหนทางสู่ความตายก็ตามที

    ...แต่ว่า...

    แนวฟันขาวขบเข้าหากันแน่น มือเรียวจิกหน้าขาตนเองจนเป็นปื้นแดง

    ...ทำไมถึงต้องสั่งให้เขามาทำหน้าที่เป็นนางบำเรอด้วย!!?...

    เป็นครั้งแรกที่เขาต้องการต่อต้านคำสั่งที่ได้รับ แต่ในขณะเดียวกันก็กลับไม่สามารถปฏิเสธลงไปให้ชัดเจนได้

    ราวกับคำพูดทั้งมวลมาจุกอยู่ที่ลำคอ...

    เพราะลึกลงไปในจิตใจแล้ว เขารู้สึกต้องการ...ต้องการความอบอุ่นจากมือหยาบกระด้างคู่นั้น...

    ต้องการความอบอุ่นที่ราวกับความฝันในคืนนั้น...

    ...ความฝันที่เขาไม่อยากตื่นขึ้นเพื่อเผชิญความจริงอีกเลย...

    ...นี่ตัวเขาเป็นอะไรไปแล้วนะ...

    "ทำใจเสร็จรึยังไอ้สวะ?"

    เสียงของใครบางคนดังขึ้นเหนือศีรษะ สควอโล่สะดุ้งสุดตัว ...นี่เขาเหม่อขนาดแม้แต่แซนซัสเข้ามาใกล้ขนาดนี้ยังไม่รู้ตัวเชียวเหรอ?...

    "ทำหน้าตกใจขนาดนั้น แกคิดถึงฉันอยู่รึไง?"

    ดวงหน้าที่ระเรื่อสีอย่างคนไม่สบายถูกเชยขึ้น แต่อความารีนน้ำงามกลับเบือนหลบดวงตาสีเลือด ก่อนปฏิเสธด้วยน้ำเสียงตะกุกตะกัก "ป..เปล่าซักหน่อย"

    ฉลามหนุ่มปัดมือที่จับคางเขาอยู่ออก แล้วหันหนีไปอีกทาง

    ท้องนภาแห่งวาเรียไม่ได้สนใจท่าทีนั้น มือแกร่งรั้งร่างบอบบางให้เข้ามาหาเขา ใบหน้าคมสันแนบกระซิบกับใบหูนุ่ม "รอให้ฉันมากอดแกอยู่สินะ..."

    คนไม่สบายทอดกายอ่อนล้าหายใจหอบถี่อยู่ในอ้อมแขนแข็งแกร่ง ไม่ทันไรสติที่ขาวโพลนก็ดับวูบ มือที่ขยุ้มแขนเสื้อสีสะอาดยังคงกุมค้างไว้อย่างนั้นทั้งที่ไม่หลงเหลือสติพอจะนับรู้สิ่งใด

    แซนซัสวางร่างไร้สติลงบนพื้นเตียงนุ่มก่อนจุมพิตแพขนตาชื้นน้ำ จากนั้นจึงล้มตัวนอนเคียงข้าง รู้อยู่เต็มอกว่าอีกฝ่ายอาการไม่ค่อยดี แต่นึกไม่ถึงเลยว่าแค่การปลดปล่อยเพียงครั้งเดียว จะทำให้มันสลบไปได้...

    หรือเขาจะทำเกินไป...

    แต่ทันทีที่นึกถึงถ้อยคำพร่ำปฏิเสธนั้นแล้วก็อดโมโหขึ้นมาไม่ได้..เมื่อระยะนี้ไม่ว่าเขาจะพูดจะสั่งอะไรมันก็ต้องปฏิเสธอยู่เสมอ...

    ...ทำไม?...

    นับแต่มันสาบานกับเขาวันนั้น ตลอดมามันก็เชื่อฟังเขามาโดยตลอด ทำตามทุดคำพูด จนเขาคิดไปว่าร่างนี้จะไม่มีวันขัดคำสั่งของเขา แม้ว่าคำสั่งนั้นจะเป็นไปไม่ได้แค่ไหนก็ตาม

    ...แต่มันไม่ใช่

    ภายในหนึ่งเดือนมานี้ มันดื้อกับเขาเยอะกว่าที่มันเคยทำมาทั้งชีวิตเสียอีก

    ...ทั้งขึ้นเสียง...

    ไม่มองหน้า... ไม่พูดคุย....

    ทำเหมือนเขาไร้ตัวตน ทั้งที่ทำตัวปกติกับคนอื่นๆ

    พอสั่งอะไรที่ไม่เกี่ยวข้องกับงานที่ไม่ยอมทำตาม...

    บอกว่าไม่รักเขา แล้วยังปฏิเสธสัมผัสจากมือคู่นี้

    ปฏิเสธตัวตนของเขา...

    ทำให้เขาต้องหงุดหงิดมากอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน มากจนอยากทำลายทิฐิงี่เง่าที่ก็ตัวขึ้นเป็นกำแพงกั้นมันออกจากเขา

    เขาจะทำลายและฉุดรั้งมันกลับมา สั่งสอนให้รู้ว่ามันจะอยู่ไม่ได้ถ้าไม่มีเขา

    ...เขาจะทำให้มันรู้ว่า มันเป็นของของเขาคนเดียวเท่านั้น!!...

    -*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*

    หายไปซะนานเลยขอโทษนะครับ แบบว่าตอนนี้พ่อแม่มาอยู่ด้วยเลยต้องปรับเวลาเล่นคอมจาก 6 โมงเย็นถึงตี 4 เป็นสี่ทุ่มถึงเกือบๆตี 2 น่ะครับ แต่จะพยายามไม่ให้เกิน 1 สัปดาห์นะครับ ขออภัยล่วงหน้าด้วย


    เข้ามาเปลี่ยนวันที่เครี้ยกๆ

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×