ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    take it to you

    ลำดับตอนที่ #4 : พ่อค้า!! ประธาน!!?(Rewrite 100%)

    • อัปเดตล่าสุด 23 มี.ค. 52


                 กระแสเวลานั้นค่อยๆไหลไปอย่างไม่เร่งร้อน หากแต่มิเคยรอใคร หรือแม้แต่หยุดพักพิง จากวินาทีเป็นนาที นาทีเป็นชั่วโมง ก่อตัวตัวและผันไป เป็นวัน และเดือน...

                     คืนก่อนรับการคัดเลือก....

                     ร่างของบุรุษเพศ 2 ร่างนั่งอยู่เบื้องหน้าของกองไฟในป่าเช่นเดียวกันกับทุกคืนตลอดหนึ่งเดือนที่ผ่านมา

                    

                     นัยน์ตาสีน้ำตาลกลมโตเหม่อลอยอย่างไร้จุดหมาย หากภายในดวงตาดูราวกับว่า กำลังเต้นระริกเมื่อสะท้อนรับกับเพลิงสีสด ภายในจิตใจประหวัดถึงเรื่องที่จะเข้ามาในวันพรุ่ง

                     "นี่..คีฟ. พรุ่งนี้ก็วันคัดตัวแล้วนะ"

                     ผู้ถูกถามนอนเอกเขนกอยู่ข้างไฟกองใหญ่ เปลือกตาหนาปิดสนิทราวกับคนนอนหลับ นัยน์ตาสีเข้มปรือขึ้น แล้วตวัดมองคนตรงหน้าอย่างพินิจ ก่อนจะเอ่ยอย่างไม่ใส่ใจ "อืม..แล้วไง"

                     "ก็..เกือบเดือนมานี่เราซ้อมกันน้อยมากเลยไม่ใช่รึไง?"

                     "แล้วเจ้าไม่รู้สึกกังวลบ้างเลยเหรอ?" เสียงนุ่มเอ่ยถามตอโดยไม่รอคำตอบ

                     "กังวลไปแล้วได้อะไรขึ้นมา ไม่ซ้อมเราก็ไม่เครียด ไม่จริงหรือไง?"

                     "ก็ใช่แต่..." แม้จะได้รับคำตอบหนักแน่น แต่เขาก็ยังคงอดกังวลใจไม่ได้

                     "เจ้าเป็นอะไรน่ะ? ถ้าไม่สำเร็จเราก็แค่ร่อนเร่ไปตามเมืองต่างๆ เหมือนเคยก็พอแล้วนี่นา" ร่างแกร่งใช้แขนยันกายขึ้นนั่งเพื่อเปลี่ยนอิริยาบถ นัยน์ตาคู่นั้นยังคงอ่านความจริงไม่ได้ดุจเดิม

                     เมื่อคำตอบราวกับไม่ใส่ใจหลุดออกมาจากปากของคนที่ ได้ชื่อว่าสนิทที่สุด เคนกับรู้สึกว่ามันช่างแปลกเหลือเกิน ที่คีฟกล่าวอะไรแบบนี้ออกมา เจ้าต่างหากที่เป็นอะไรไป?...

                     แม้จะเป็นเพื่อนกันแต่บางทีเขาเองก็ไม่รู้ว่าคนตรงหน้าคิดอะไรอยู่?

                     ก็เจ้าบอกเองไม่ใช่หรือว่าให้ออกหางานทำซักทีน่ะ?

                     นัยน์ตาคมปลาบสีเข้มนั่นก็อีก เขาไม่เคยจับความรู้สึกจากมันได้เลย ทั้งๆที่มันก็สะท้อนภาพต่างๆอยู่ตลอดเวลา...

                     แม้จะเคยตะโกนใส่ว่า 'เจ้ายังมีความรู้สึกอยู่หรือเปล่า?' ในตอนที่ทะเลาะอย่างรุนแรงจนเขาทนไม่ไหวนั้น คนตรงหน้าก็แค่ ตอบกลับเบาๆ ด้วยสีหน้าเรียบเฉยว่า 'ข้าคงทิ้งมันไปตั้งแต่ครานั้นแล้วล่ะ...'

                     ตัวเขานั้นทำได้เพียงขมวดคิ้วกับสิ่งที่รับรู้ เพราะทันทีที่เอ่ยออกมา เพื่อนของเขานั้นก็หมุนตัวก่อนจะเดินลับตาไปท่ามกลางพงไม้หนา และกลับมาหาเขาในวันรุ่งขึ้น ที่เขานั้นหมดอารมณ์จะถามไปแล้ว

                     สักวันหากข้าไม่ถาม เจ้าจะเอ่ยมันออกมาเองหรือเปล่า?....                

                    

    "น..เคน..นายมองอะไรอยู่น่ะ?" มือหนาถูกยกขึ้นโบกไปมาเบื้องหน้าของเคน เพราะนัยน์ตาสีน้ำตาลนั้นเหม่อมาทางเขาตั้งแต่เมื่อครู่แล้ว

    นัยน์ตาสีอ่อนกระพริบถี่เมื่อโดนกระตุ้นก่อนจะปรือตาลงโดยปราศจากคำพูด

                     "ช่างมันเถอะ ข้าง่วงแล้ว..." ไม่ขาดคำร่างโปร่งก็เอนกายลงก่อนจะเข้าสู่ห้วงนิทรา

                     คนโดนหลับหนีได้แต่ขมวดคิ้วเข้มอย่างงุนงง ก่อนจะมองคนที่เพิ่งล้มกายลงนอน ด้วยสายตาที่ไม่อาจบ่งบอกได้

                     สักวันเจ้าคงจะได้รู้ความจริงไม่ว่าจากข้าหรือ 'เขาคนนั้น'

                     ความจริงที่ข้าต้องการหลีกหนี ความจริงที่ต้องปิดบังกับเจ้ามาตลอดหกปี...

                     แต่หากวันนั้นมาถึงจริง เจ้าก็คงไม่อยากเห็นหน้าข้าที่หลอกลวงเจ้ามาโดยตลอดอีกแล้ว...

                     เปลือกตาหนาเริ่มหนักอึ้ง ก่อนความง่วงงุนจะถาโถม...

                     แสงอ่อนกำลังในยามเช้า ส่องลอดผ่านหมู่แมกไม้ลงมายังร่างที่นอนอยู่เบื้องล่าง จนอดไม่ได้ที่จะต้องลุกขึ้นมา ด้วยรอยขมวดมุ่นบนใบหน้า ชายผมสีน้ำตาลแดงซวนกายลุกขึ้นด้วยอารมณ์ยุ่งเหยิง ก่อนที่ม่านตาจะปรับตัวแล้วสะท้อนสิ่งต่างๆ

            

                     กองไฟที่มอดลงจนเหลือแต่เถ้าถ่านเมื่อไรก็ไม่อาจทราบ ร่างที่นอนห่างออกไปไม่ไกลยังคงหลับสนิทจนน่าหมั่นไส้ ทำให้เขาต้องลุกไปปลุกอย่างเสียไม่ได้

    "เฮ้ !ตื่นๆ ตื่นได้แล้ว ใครกันที่เมื่อคืนกังวลจนนอนไม่หลับน่ะ" คีฟกระชากคอเสื้อของคนขี้เซาขึ้นมาอย่างรวดเร็ว

    "หือ..อืมมม.."เสียงใสครางรับเบาๆ หากแต่ยังไม่มีทีท่าว่าเปลือกตานั้นจะเผยอขึ้นแม้แต่น้อย

                     "เฮ้ย ! ข้าไม่แบกเจ้าไปหรอกนะ" มือแกร่งเขย่าคอเสื้ออย่างแรง ก่อนจะงัดวิธีทั้งร้อยแปดวิธีเพื่อปลุกคนตรงหน้าขึ้นมา ตั้งแต่ร่ายเวทย์ราดน้ำลงไปที่หน้า เอาไฟลน ตะโกนกรอกหู แต่ก็ยังไม่มีทีท่าว่าอีกฝ่ายจะตื่นได้เลย

                    คีฟผ่อนลมหายใจอย่างปลงตกก่อนจะตัดสินใจใช้วิธีสุดท้าย "ข้าจะ'จูบ'เจ้าล่ะนะ" ฝ่ามือหนาที่กำคอเสื้ออย่างแน่นหนาเริ่มคลายออก ก่อนจะเปลี่ยนไปรั้งใบหน้านวลให้แหงนเงยขึ้น

                     ได้ผลอย่างไม่ต้องสงสัยเมื่อนัยน์ตาสีน้ำตาลเบิกโพลงขึ้นอย่างตกใจ

                     "อะ..อะ..จ..เจ้าจะทำอะไรข้าน่ะ?" คนเพิ่งตื่นนอนยันผู้ปลุกออกไปอย่างแรง แล้วถอยกรูดจนติดต้นไม้

                     

                     "ก็เจ้าไม่ยอมตื่นข้าก็ต้องใช้วิธีนี้น่ะสิ" ผู้ที่ถูกยันกระตุกยิ้มน่าสงสัยขึ้นที่มุมปาก

                     "อะ..เจ้าจะ 'ลักหลับ' ข้างั้นหรอ? ทำไมเสื้อของข้าถึงขาดล่ะ? ตัวก็เปียก จ..เจ้าทำอะไรเนี่ย?" เคนโวยวายอย่างหนักเมื่อตรวจดูสภาพของตนจนแน่ใจ

                     "โว้ย!! ใครจะไปทำอะไรเจ้า ตื่นก็ไม่ตื่นซักที ข้าเอาน้ำราดเสื้อเจ้าก็ต้องเปียกสิ แล้วที่เสื้อเจ้าขาดก็เพราะข้าเอาไฟลน! ไม่ได้ทำมิดีมิร้าย เข้าใจซะใหม่ด้วย แล้วก็รีบๆเปลี่ยนเสื้อซะ ข้าจะไปแล้ว" , 'หมดความอดทนจริงๆ ลักหลับ? คิดได้ไงวะเนี่ย?'

                     "ไม่ได้ทำอะไรจริงน่ะ?" ลูกแก้วสีน้ำตาลอ่อนหรี่มองอย่างสงสัย

                     "เออ ! โว้ย !! เจ้าคิดว่าเจ้าอยู่กับข้ามากี่ปีกัน?" ตะโกนอย่างเหลืออด

                     "ก็อยู่กันมาหลายปีน่ะสิเจ้าอาจจะชอบข้าขึ้นมาก็ได้" คนยั่วชักเริ่มสนุกเมื่อเห็นปฏิกริยาของคนตรงหน้า

                     "โอ๊ย!! ไม่เอาแล้วขนลุก ข้าไปก่อนดีกว่า" ไม่ทันขาดคำร่างสูงก็ลุกพรวดขึ้นพร้อมกับสัมภาระ แล้วออกเดินอย่างรวดเร็ว

                     "เฮ้ยๆ แหย่เล่น รอด้วยๆ" คนถูกทิ้งรีบเปลี่ยนเสื้อตัวใหม่อย่างรวดเร็ว ก่อนจะวิ่งตามไป

    ณ จุดลงทะเบียน...

                     "คนเยอะชะมัดไปรายงานตัวกันก่อนเหอะ" คีฟพูดแล้วเดินไปยังที่รายงานตัว โดยปล่อยให้อีกคนเดินตามอย่างไม่สนใจ

                     การมุ่งหน้าเข้าไปหาโต๊ะรายงานตัวซึ่งมีเพียงแค่สิบกว่าโต๊ะ นั้นนับเป็นเรื่องลำบากอย่างแสนสาหัส เพราะกลุ่มคนที่มาด้วยต่างหวังกับเงินรางวัลอันมหาศาล นั้นมีมากนับพัน ผู้คนที่อยู่ในเมืองท่าและรวมกับผู้คนในเมืองข้างเคียง ก็ต่างได้ยินเรื่องการว่าจ้างด้วยเงินก้อนโตกันทั้งนั้น ดังนั้นจึงไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจที่จะมีคนแห่แหนกันมามากมายขนาดนี้

                     กว่าจะรายงานตัวเสร็จก็กินเวลากว่าค่อนวัน คงไม่มีรอบคัดเลือกเกิดขึ้นในวันนี้อย่างแน่นอน เพราะยังมีคนอีกเป็นร้อยที่ยังไม่ได้รายงานตัว ทั้งสองคนเดินหลบไปยังด้านหลังช่องรายงานตัวเพื่อไปดูข้อตกลงและกติกาทั้งหมด

                     "นี่มันอะไรกันเนี่ย?"นัยน์ตาสีน้ำตาลใสเบิกกว้างอย่างงงงวยพร้อมกับคำอุทาน

    " กฎการเข้าแข่งขันและข้อตกลง

    1.สามารถใช้ความสามารถใดๆทุกแขนงได้ในการทดสอบ

    2.ผู้รับการทดสอบจะต้องมีจำนวนสองคนตามที่ระบุไว้เท่านั้น

    3.ห้ามผู้เข้ารับการคัดเลือกถูกจับได้ในการทดสอบว่าเกิดการทำผิดกติกาที่กำหนด

    4.ผู้รับการทดสอบอาจเป็นอันตรายถึงชีวิต ซึ่งทางบริษัทไม่ขอรับผิดชอบ

    5.หากผู้รับการทดสอบทุกท่านเกิดความไม่เห็นด้วยก็สามารถไม่รับการคัดเลือกได้

                     ลงชื่อ  ประธานบริษัท ANTIS CO."

                     "เจ้ามีความเห็นยังไงบ้างคีฟ?"

                     "ข้าไม่ได้รอคิวอยู่นานเป็นชาติเพื่อมาเปลี่ยนใจกับเรื่องแค่นี้หรอกนะ"

                     "ข้าก็คิดอยู่แล้ว" เคนยิ้มเล็กน้อย "ว่าแต่ไอ้ตราประธานนี่มันตัวอะไรน่ะ?" มือเรียวชี้ไปที่สุดข้อความของประกาศ

                     "แมวน้ำมั้ง?ไม่รู้สิ" นัยน์ตาคมจับจ้องไปยังรูปประหลาดๆ หลังคำลงชื่อที่เคนกำลังชี้อยู่ มันเป็นรูปที่คาดว่าคงเป็นปลามากกว่าจะเป็นแมวน้ำ ยิ้มได้และมีสีฟ้า

                     "เป็นตราที่ประหลาดเป็นบ้า"คีฟบ่นเบาๆ

                     "เฮ้! สวัสดีพวกเจ้ามาทำอะไรที่นี่น่ะ?" เสียงร่าเริงอันแสนคุ้นเคยราวกับเคยได้ยินมาก่อนดังมาจากเบื้องหลัง

                     ทั้งสองคนหันไปยังต้นเสียง  คีฟปั้นหน้าแปลกๆอย่างไม่สามารถอธิบายได้ ในขณะที่เคนกล่าวทักทายอย่างยินดี

                     "สวัสดีแอนทิส" เสียงใสๆกล่าวอย่างร่าเริง

                     "อือ..สวัสดี ข้าว่า..เจ้าต่างหากที่มาทำอะไรที่นี่?"คีฟขมวดคิ้วหนักขึ้นเมื่อสถานการณ์นั้นทำให้เขารู้สึกแปลกอย่างบอกไม่ถูก

                     "ทำไมล่ะ? ข้าก็มาดูงานของ 'บริษัท' นี่นา" แอนทิสยิ้มกว้าง

                     "งานของบริษัทเจ้าเองหรอกเหรอ.." คนถามทวนประโยคด้วยเสียงเรียบๆ

                     "อืม บริษัทของข้าน่ะสิ" แอนทิสยืนยัน

                     "....."เงียบ

                     "บริษัทเจ้า?"ถามอีกครั้งเพื่อให้มั่นใจ

                     "อือ..ใช่" คนตอบย้ำให้อีกครั้ง

                     "บริษัทเจ้าเนี่ยนะ!!?" ผู้เข้ารับการทดสอบอุทานขึ้นพร้อมกันด้วยเสียงอันดัง

                     "เออ ใช่! จะถามอีกกี่ครั้งกัน?"แอนทิสพูดอย่างรำคาญ

                     "โอ้ พระเจ้า เจ้าชกข้าซิคีฟ จะได้รู้ว่าไม่ได้ฝัน"

                     "ข้าก็คิดแบบนั้นเหมือนกัน?"

                     ประธานบริษัทซึ่งยืนฟังมานานเริ่มเหลืออดกับร่างเบื้องหน้าทั้งสอง"ไม่มีคนชกให้ใช่มั้ย? งั้นข้าชกเองงงงงงงง .." แทบจะในทันทีที่สิ้นเสียงลากยาว หมัดสองข้างก็ปล่อยออกมาอย่างเต็มแรง

                     "โอ๊ย!!"คู่หูร้องขึ้นพร้อมกันด้วยความจุก ไม่คิดมาก่อนว่าคนที่มีรูปร่างผอมบางแบบนั้นจะมีแรงมากมายขนาดนี้

                     "เจ็บนี่..งั้นนี่ก็...ไม่..ใช่.ฝัน"เคนพูดกับตัวเองซ้ำๆเหมือนเป็นโรคย้ำคิดย้ำทำ ในขณะที่อีกคนได้แต่เงียบ

                     คนชกยืนยิ้มแห้งๆกับผลงาน จนกระทั่งมีร่างๆหนึ่งวิ่งเข้ามา

                     ผู้มาใหม่ยืนก้มต่ำ อยู่เบื้องหลังของแอนทิส ผมสีเงินยาวสวยที่โดนรวบไว้อย่างเรียบร้อยปรกมาด้านหน้าเลียบกับไหล่กว้าง ดวงตาคมกริบสีห้วงทะเลลึกหรุบลง โครงหน้าดูคมสันแบบผู้ใหญ่ รูปร่างสูงโปร่งหากไม่ให้ความรู้สึกบอบบาง ชุดที่สวมใส่ดูเรียบร้อยมีราคา ต่างกับผู้ถูกคำนับสิ้นแต่งกายปอนๆอย่างสิ้นเชิง

                     "ท่านประธานครับ  ท่านประธานแอนทิส"ชายคนนั้นเรียกด้วยเสียงหอบที่ขาดเป็นห้วง

                     "อ้อเลนาร์ด!มีอะไรเกิดขึ้นงั้นหรือ?"คนถูกเรียกหันไปมองทางต้นเสียง

                     "ทุกคนกำลังเป็นห่วงนะครับท่านประธาน...อยู่ดีๆท่านก็หายตัวมาแล้วคนซอมซ่อ 2 คนนี่เป็นใครกันครับ?" เลนาร์ด เงยหน้าคมสันขึ้นก่อนจะกล่าวอธิบาย

                     "ห้ามพูดแบบนั้นอีกเป็นครั้งที่สอง พวกเขาคือสหายของข้า" แอนทิสตำหนิ ดวงตาสีชาดูคมกล้าขึ้นอย่างเห็นได้ชัด

    "สหายหรือครับ?" เสียงทุ้มเข้มทวนคำเล็กน้อยอย่างงงๆ ก่อนจะระบายรอยยิ้มบาง "งั้นข้าก็ต้องขออภัยด้วยที่เสียมารยาทเป็นอย่างสูงครับ"ร่างสูงโปร่งก้มศีรษะลงขอโทษเคนกับคีฟอย่างจริงใจ

    "ม..ไม่เป็นไรครับ" เคนบอกปัดอย่างสุภาพขณะที่คีฟยังคงนิ่งเงียบ

                     คีฟชี้มือไปยังผู้สูงอายุกว่าอย่างลืมตัว แล้วกล่าวถามออกไป "แอนทิส..ใครกัน่ะ?"

    "อ๋อ..คนนี้เป็นคนดูแลข้าน่ะ อยู่ด้วยกันมาตั้งแต่ข้าเป็นเด็กแล้ว" เสียงเย็นๆกลับมาร่าเริงดังเดิม ก่อนจะคว้าคอคนสนิทเข้ามา

                     "ท่านประธานอย่าทำเป็นเล่นสิครับ ทุกคนกำลังเป็นห่วงท่านก็ชอบหายตัว ไปบ่อยๆเสียเหลือเกิน แบบนี้จะทำให้คนอื่นๆลำบากนะครับ อย่างคราก่อนท่านก็หนีออกไปโดยไม่ได้บอกใครเลย" เลนาร์ดเทศนายาวยืดแต่ดูเหมือนคนถูกเทศน์จะทำเป็นหูทวนลมไปกว่าครึ่ง

                     "เอาน่าๆ อีกครู่ข้าจะเข้าไปเอง เจ้าไปบอกทุกคนว่าไม่ต้องเป็นห่วงก็พอแล้ว" แอนทิสหมุนตัวกลับมาอย่างไม่ใส่ใจคนที่ยืนอยู่เบื้องหลัง ก่อนจะโบกมือไล่

                     "แต่..แต่ท่านยัง"

                     "ไม่มีแต่น่ารีบไป จะขัดคำสั่งข้าหรือ?" แอนทิสเริ่มทำเสียงหงุดหงิด

                    

                     "มิได้ครับ งั้นข้าจะขอไปก่อน กรุณากลับไปให้ตรงเวลาด้วยครับ" ผู้ถูกสั่งคำนับก่อนจะเดินออกไปอย่างเสียไม่ได้

                     "ไปซะที เอาล่ะ..ข้าเชื่อว่าพวกเจ้าคงมีเรื่องจะถามสินะ"แอนทิสหันมาคุยกับผู้ที่เขาเรียกว่าสหาย ราวกับเรื่องก่อนหน้านี้ไม่เคยเกิดขึ้น

                     "มันก็ต้องมีแน่อยู่แล้ว... เจ้าเป็นใครกันแน่?" คีฟกดเสียงต่ำอย่างน่ากลัว

                     "เจ้าก็น่าจะเห็นว่าข้าเป็นประธานของบริษัทที่มาจัดงาน" แอนทิสตอบเรียบๆ

                     "แล้วที่เจ้าไปเร่เป็นคนจนขายของล่ะ" เจ้าของเสียงเย็นๆพยายามสงบสติอารมณ์

                     "นั่นงานอดิเรก"

                     "ทั้งๆที่เจ้ามีเงินมากขนาดจ้าง ตั้ง 200ล้านเนี่ยนะ จะไปเร่หลอกคนทำไม?"

                     "ขอให้เข้าใจซะใหม่ด้วย ข้าไม่ได้หลอกใคร แต่งานคือเงิน เงินคืองาน ทุกอย่างล้วนเป็นธุรกิจต่างหาก"

                     "ก็แล้วยังไง? เจ้าจะบอกว่า เจ้าเป็นมหาเศรษฐี เจ้าของแหล่งว่าจ้างขนาดยักษ์  ซึ่งมีงานอดิเรกในการขายของตามข้างทางงั้นเหรอ?"

                     "ช่าย แล้ว"แอนทิสลากเสียงตอบอย่างร่าเริง ทำให้คนถามหมดอารมณ์โกรธ

                     คีฟถอนหายใจเบาๆอย่างอดไม่ได้

                     เคนที่ยืนฟังบทสนทนาตั้งแต่เมื่อครู่ถามขึ้นบ้าง "เอ่อ...ขอถามหน่อยสิ ตราบริษัทเจ้าน่ะรูปอะไรเหรอ?"

                     "รูปวาฬน้อย"แอนทิสยิ้มหวาน

                     " 'วาฬน้อย'?" เสียงใสๆกล่าวย้ำอย่างไม่แน่ใจ

                     "ใช่ ก็ข้าชอบนี่ มันน่ารักดีนะ"

                    คนถามได้แต่ขมวดคิ้วพลางไตร่ตรองถึงรูปที่ตกค้างอยู่ในความคิด

                     "ในเมื่อเจ้าเป็นประธานบริษัท ก็แสดงว่าเจ้าเป็นคนกำหนดการแข่งขันสินะ" คีฟถามต่อหลังจากนิ่งคิด

                     "ใช่..ก็จัดตามที่ข้าพอใจน่ะ"

                     "ตามที่เจ้าชอบ? งั้นรอบแรกแข่งอะไร?"เคนเริ่มหันมาร่วมวงสนทนาด้วยความสนใจ

                     "ก็คนมันเยอะ เลยตัดสินใจไม่ถูกอยู่ระหว่าง 2 อย่าง?"

                     "อะไรบ้างเหรอ?"

                     "ก็มี วิ่งแข่งกับซ่อนแอบ" ใบหน้าขาวเจือรอยยิ้มพึงใจ

                     ผู้ฟังที่รอคอยคำตอบด้วยความสนใจอย่างยิ่งยวด ถึงกับกุมขมับกับคำตอบที่ได้รับ นี่พวกเขากำลังหวังอะไรอยู่กันแน่นะ?

    "แล้วเจ้ารู้รึเปล่าว่า ผู้เข้ารับการทดสอบมีทั้งหมดกี่คน?"คีฟโพล่งขึ้น

    "ตอนนี้ก็ยังมีคนมาเรื่อยๆคงบอกจำนวนที่แน่นอนให้ไม่ได้ แต่คิดว่าคงมีมากว่าสามพันแน่ๆ" แอนทิสขมวดคิ้วพลางนับจำนวนอย่างคร่าวๆในหัว

    "มากกว่าสามพัน!! งั้นข้าว่าวิ่งแข่งจะดีกว่า"คนถามกุมขมับเป็นรอบที่สอง ก่อนจะส่ายหน้าอย่างระอา

    "อืมม..ก็จะรับไว้พิจารณานะ" แอนทิสยิ้มรับ

    "ท่านประธานครับ!" เสียงของเลนาร์ดดังขึ้นอีกครั้ง

    "คราวนี้คงต้องไปจริงๆแล้ว รายละเอียดอื่นก็ไปฟังตอนเปิดงานละกันนะ"คนถูกตามโบกมือให้ก่อนจะวิ่งจากไป

    "อ้าว! เดี๋ยวก่อนสิ เฮ้!!" เคนพยายามยื่นมือไปรั้งไว้แต่ไม่ทันแล้วร่างนั้นลับตาไปอย่างรวดเร็ว

    *********-------------*********-------------

    555เป็นไงเราดองทำลายสถิติมากเลยนะเนี่ยแบบว่ามีความสุขกับการปั่นโดฯอยู่ไง

    ก็ต้องขอโทษทุกคน แล้วก็ขอบคุณที่ยังติดตามอ่านอยู่เสมอมาโด้ยน้าาาาาาาาา...

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×