คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : พ่อค้า!! ประธาน!!?(Rewrite 100%)
กระแสเวลานั้นค่อยๆไหลไปอย่างไม่เร่งร้อน หากแต่มิเคยรอใคร หรือแม้แต่หยุดพักพิง จากวินาทีเป็นนาที นาทีเป็นชั่วโมง ก่อตัวตัวและผันไป เป็นวัน และเดือน...
คืนก่อนรับการคัดเลือก....
ร่างของบุรุษเพศ 2 ร่างนั่งอยู่เบื้องหน้าของกองไฟในป่าเช่นเดียวกันกับทุกคืนตลอดหนึ่งเดือนที่ผ่านมา
นัยน์ตาสีน้ำตาลกลมโตเหม่อลอยอย่างไร้จุดหมาย หากภายในดวงตาดูราวกับว่า กำลังเต้นระริกเมื่อสะท้อนรับกับเพลิงสีสด ภายในจิตใจประหวัดถึงเรื่องที่จะเข้ามาในวันพรุ่ง
"นี่..คีฟ. พรุ่งนี้ก็วันคัดตัวแล้วนะ"
ผู้ถูกถามนอนเอกเขนกอยู่ข้างไฟกองใหญ่ เปลือกตาหนาปิดสนิทราวกับคนนอนหลับ นัยน์ตาสีเข้มปรือขึ้น แล้วตวัดมองคนตรงหน้าอย่างพินิจ ก่อนจะเอ่ยอย่างไม่ใส่ใจ "อืม..แล้วไง"
"ก็..เกือบเดือนมานี่เราซ้อมกันน้อยมากเลยไม่ใช่รึไง?"
"แล้วเจ้าไม่รู้สึกกังวลบ้างเลยเหรอ?" เสียงนุ่มเอ่ยถามตอโดยไม่รอคำตอบ
"กังวลไปแล้วได้อะไรขึ้นมา ไม่ซ้อมเราก็ไม่เครียด ไม่จริงหรือไง?"
"ก็ใช่แต่..." แม้จะได้รับคำตอบหนักแน่น แต่เขาก็ยังคงอดกังวลใจไม่ได้
"เจ้าเป็นอะไรน่ะ? ถ้าไม่สำเร็จเราก็แค่ร่อนเร่ไปตามเมืองต่างๆ เหมือนเคยก็พอแล้วนี่นา" ร่างแกร่งใช้แขนยันกายขึ้นนั่งเพื่อเปลี่ยนอิริยาบถ นัยน์ตาคู่นั้นยังคงอ่านความจริงไม่ได้ดุจเดิม
เมื่อคำตอบราวกับไม่ใส่ใจหลุดออกมาจากปากของคนที่ ได้ชื่อว่าสนิทที่สุด เคนกับรู้สึกว่ามันช่างแปลกเหลือเกิน ที่คีฟกล่าวอะไรแบบนี้ออกมา เจ้าต่างหากที่เป็นอะไรไป?...
แม้จะเป็นเพื่อนกันแต่บางทีเขาเองก็ไม่รู้ว่าคนตรงหน้าคิดอะไรอยู่?
ก็เจ้าบอกเองไม่ใช่หรือว่าให้ออกหางานทำซักทีน่ะ?
นัยน์ตาคมปลาบสีเข้มนั่นก็อีก เขาไม่เคยจับความรู้สึกจากมันได้เลย ทั้งๆที่มันก็สะท้อนภาพต่างๆอยู่ตลอดเวลา...
แม้จะเคยตะโกนใส่ว่า 'เจ้ายังมีความรู้สึกอยู่หรือเปล่า?' ในตอนที่ทะเลาะอย่างรุนแรงจนเขาทนไม่ไหวนั้น คนตรงหน้าก็แค่ ตอบกลับเบาๆ ด้วยสีหน้าเรียบเฉยว่า 'ข้าคงทิ้งมันไปตั้งแต่ครานั้นแล้วล่ะ...'
ตัวเขานั้นทำได้เพียงขมวดคิ้วกับสิ่งที่รับรู้ เพราะทันทีที่เอ่ยออกมา เพื่อนของเขานั้นก็หมุนตัวก่อนจะเดินลับตาไปท่ามกลางพงไม้หนา และกลับมาหาเขาในวันรุ่งขึ้น ที่เขานั้นหมดอารมณ์จะถามไปแล้ว
สักวันหากข้าไม่ถาม เจ้าจะเอ่ยมันออกมาเองหรือเปล่า?....
"น..เคน..นายมองอะไรอยู่น่ะ?" มือหนาถูกยกขึ้นโบกไปมาเบื้องหน้าของเคน เพราะนัยน์ตาสีน้ำตาลนั้นเหม่อมาทางเขาตั้งแต่เมื่อครู่แล้ว
นัยน์ตาสีอ่อนกระพริบถี่เมื่อโดนกระตุ้นก่อนจะปรือตาลงโดยปราศจากคำพูด
"ช่างมันเถอะ ข้าง่วงแล้ว..." ไม่ขาดคำร่างโปร่งก็เอนกายลงก่อนจะเข้าสู่ห้วงนิทรา
คนโดนหลับหนีได้แต่ขมวดคิ้วเข้มอย่างงุนงง ก่อนจะมองคนที่เพิ่งล้มกายลงนอน ด้วยสายตาที่ไม่อาจบ่งบอกได้
สักวันเจ้าคงจะได้รู้ความจริงไม่ว่าจากข้าหรือ 'เขาคนนั้น'
ความจริงที่ข้าต้องการหลีกหนี ความจริงที่ต้องปิดบังกับเจ้ามาตลอดหกปี...
แต่หากวันนั้นมาถึงจริง เจ้าก็คงไม่อยากเห็นหน้าข้าที่หลอกลวงเจ้ามาโดยตลอดอีกแล้ว...
เปลือกตาหนาเริ่มหนักอึ้ง ก่อนความง่วงงุนจะถาโถม...
แสงอ่อนกำลังในยามเช้า ส่องลอดผ่านหมู่แมกไม้ลงมายังร่างที่นอนอยู่เบื้องล่าง จนอดไม่ได้ที่จะต้องลุกขึ้นมา ด้วยรอยขมวดมุ่นบนใบหน้า ชายผมสีน้ำตาลแดงซวนกายลุกขึ้นด้วยอารมณ์ยุ่งเหยิง ก่อนที่ม่านตาจะปรับตัวแล้วสะท้อนสิ่งต่างๆ
กองไฟที่มอดลงจนเหลือแต่เถ้าถ่านเมื่อไรก็ไม่อาจทราบ ร่างที่นอนห่างออกไปไม่ไกลยังคงหลับสนิทจนน่าหมั่นไส้ ทำให้เขาต้องลุกไปปลุกอย่างเสียไม่ได้
"เฮ้ !ตื่นๆ ตื่นได้แล้ว ใครกันที่เมื่อคืนกังวลจนนอนไม่หลับน่ะ" คีฟกระชากคอเสื้อของคนขี้เซาขึ้นมาอย่างรวดเร็ว
"หือ..อืมมม.."เสียงใสครางรับเบาๆ หากแต่ยังไม่มีทีท่าว่าเปลือกตานั้นจะเผยอขึ้นแม้แต่น้อย
"เฮ้ย ! ข้าไม่แบกเจ้าไปหรอกนะ" มือแกร่งเขย่าคอเสื้ออย่างแรง ก่อนจะงัดวิธีทั้งร้อยแปดวิธีเพื่อปลุกคนตรงหน้าขึ้นมา ตั้งแต่ร่ายเวทย์ราดน้ำลงไปที่หน้า เอาไฟลน ตะโกนกรอกหู แต่ก็ยังไม่มีทีท่าว่าอีกฝ่ายจะตื่นได้เลย
คีฟผ่อนลมหายใจอย่างปลงตกก่อนจะตัดสินใจใช้วิธีสุดท้าย "ข้าจะ'จูบ'เจ้าล่ะนะ" ฝ่ามือหนาที่กำคอเสื้ออย่างแน่นหนาเริ่มคลายออก ก่อนจะเปลี่ยนไปรั้งใบหน้านวลให้แหงนเงยขึ้น
ได้ผลอย่างไม่ต้องสงสัยเมื่อนัยน์ตาสีน้ำตาลเบิกโพลงขึ้นอย่างตกใจ
"อะ..อะ..จ..เจ้าจะทำอะไรข้าน่ะ?" คนเพิ่งตื่นนอนยันผู้ปลุกออกไปอย่างแรง แล้วถอยกรูดจนติดต้นไม้
"ก็เจ้าไม่ยอมตื่นข้าก็ต้องใช้วิธีนี้น่ะสิ" ผู้ที่ถูกยันกระตุกยิ้มน่าสงสัยขึ้นที่มุมปาก
"อะ..เจ้าจะ 'ลักหลับ' ข้างั้นหรอ? ทำไมเสื้อของข้าถึงขาดล่ะ? ตัวก็เปียก จ..เจ้าทำอะไรเนี่ย?" เคนโวยวายอย่างหนักเมื่อตรวจดูสภาพของตนจนแน่ใจ
"โว้ย!! ใครจะไปทำอะไรเจ้า ตื่นก็ไม่ตื่นซักที ข้าเอาน้ำราดเสื้อเจ้าก็ต้องเปียกสิ แล้วที่เสื้อเจ้าขาดก็เพราะข้าเอาไฟลน! ไม่ได้ทำมิดีมิร้าย เข้าใจซะใหม่ด้วย แล้วก็รีบๆเปลี่ยนเสื้อซะ ข้าจะไปแล้ว" , 'หมดความอดทนจริงๆ ลักหลับ? คิดได้ไงวะเนี่ย?'
"ไม่ได้ทำอะไรจริงน่ะ?" ลูกแก้วสีน้ำตาลอ่อนหรี่มองอย่างสงสัย
"เออ ! โว้ย !! เจ้าคิดว่าเจ้าอยู่กับข้ามากี่ปีกัน?" ตะโกนอย่างเหลืออด
"ก็อยู่กันมาหลายปีน่ะสิเจ้าอาจจะชอบข้าขึ้นมาก็ได้" คนยั่วชักเริ่มสนุกเมื่อเห็นปฏิกริยาของคนตรงหน้า
"โอ๊ย!! ไม่เอาแล้วขนลุก ข้าไปก่อนดีกว่า" ไม่ทันขาดคำร่างสูงก็ลุกพรวดขึ้นพร้อมกับสัมภาระ แล้วออกเดินอย่างรวดเร็ว
"เฮ้ยๆ แหย่เล่น รอด้วยๆ" คนถูกทิ้งรีบเปลี่ยนเสื้อตัวใหม่อย่างรวดเร็ว ก่อนจะวิ่งตามไป
ณ จุดลงทะเบียน...
"คนเยอะชะมัดไปรายงานตัวกันก่อนเหอะ" คีฟพูดแล้วเดินไปยังที่รายงานตัว โดยปล่อยให้อีกคนเดินตามอย่างไม่สนใจ
การมุ่งหน้าเข้าไปหาโต๊ะรายงานตัวซึ่งมีเพียงแค่สิบกว่าโต๊ะ นั้นนับเป็นเรื่องลำบากอย่างแสนสาหัส เพราะกลุ่มคนที่มาด้วยต่างหวังกับเงินรางวัลอันมหาศาล นั้นมีมากนับพัน ผู้คนที่อยู่ในเมืองท่าและรวมกับผู้คนในเมืองข้างเคียง ก็ต่างได้ยินเรื่องการว่าจ้างด้วยเงินก้อนโตกันทั้งนั้น ดังนั้นจึงไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจที่จะมีคนแห่แหนกันมามากมายขนาดนี้
กว่าจะรายงานตัวเสร็จก็กินเวลากว่าค่อนวัน คงไม่มีรอบคัดเลือกเกิดขึ้นในวันนี้อย่างแน่นอน เพราะยังมีคนอีกเป็นร้อยที่ยังไม่ได้รายงานตัว ทั้งสองคนเดินหลบไปยังด้านหลังช่องรายงานตัวเพื่อไปดูข้อตกลงและกติกาทั้งหมด
"นี่มันอะไรกันเนี่ย?"นัยน์ตาสีน้ำตาลใสเบิกกว้างอย่างงงงวยพร้อมกับคำอุทาน
" กฎการเข้าแข่งขันและข้อตกลง
1.สามารถใช้ความสามารถใดๆทุกแขนงได้ในการทดสอบ
2.ผู้รับการทดสอบจะต้องมีจำนวนสองคนตามที่ระบุไว้เท่านั้น
3.ห้ามผู้เข้ารับการคัดเลือกถูกจับได้ในการทดสอบว่าเกิดการทำผิดกติกาที่กำหนด
4.ผู้รับการทดสอบอาจเป็นอันตรายถึงชีวิต ซึ่งทางบริษัทไม่ขอรับผิดชอบ
5.หากผู้รับการทดสอบทุกท่านเกิดความไม่เห็นด้วยก็สามารถไม่รับการคัดเลือกได้
ลงชื่อ ประธานบริษัท ANTIS CO."
"เจ้ามีความเห็นยังไงบ้างคีฟ?"
"ข้าไม่ได้รอคิวอยู่นานเป็นชาติเพื่อมาเปลี่ยนใจกับเรื่องแค่นี้หรอกนะ"
"ข้าก็คิดอยู่แล้ว" เคนยิ้มเล็กน้อย "ว่าแต่ไอ้ตราประธานนี่มันตัวอะไรน่ะ?" มือเรียวชี้ไปที่สุดข้อความของประกาศ
"แมวน้ำมั้ง?ไม่รู้สิ" นัยน์ตาคมจับจ้องไปยังรูปประหลาดๆ หลังคำลงชื่อที่เคนกำลังชี้อยู่ มันเป็นรูปที่คาดว่าคงเป็นปลามากกว่าจะเป็นแมวน้ำ ยิ้มได้และมีสีฟ้า
"เป็นตราที่ประหลาดเป็นบ้า"คีฟบ่นเบาๆ
"เฮ้! สวัสดีพวกเจ้ามาทำอะไรที่นี่น่ะ?" เสียงร่าเริงอันแสนคุ้นเคยราวกับเคยได้ยินมาก่อนดังมาจากเบื้องหลัง
ทั้งสองคนหันไปยังต้นเสียง คีฟปั้นหน้าแปลกๆอย่างไม่สามารถอธิบายได้ ในขณะที่เคนกล่าวทักทายอย่างยินดี
"สวัสดีแอนทิส" เสียงใสๆกล่าวอย่างร่าเริง
"อือ..สวัสดี ข้าว่า..เจ้าต่างหากที่มาทำอะไรที่นี่?"คีฟขมวดคิ้วหนักขึ้นเมื่อสถานการณ์นั้นทำให้เขารู้สึกแปลกอย่างบอกไม่ถูก
"ทำไมล่ะ? ข้าก็มาดูงานของ 'บริษัท' นี่นา" แอนทิสยิ้มกว้าง
"งานของบริษัทเจ้าเองหรอกเหรอ.." คนถามทวนประโยคด้วยเสียงเรียบๆ
"อืม บริษัทของข้าน่ะสิ" แอนทิสยืนยัน
"....."เงียบ
"บริษัทเจ้า?"ถามอีกครั้งเพื่อให้มั่นใจ
"อือ..ใช่" คนตอบย้ำให้อีกครั้ง
"บริษัทเจ้าเนี่ยนะ!!?" ผู้เข้ารับการทดสอบอุทานขึ้นพร้อมกันด้วยเสียงอันดัง
"เออ ใช่! จะถามอีกกี่ครั้งกัน?"แอนทิสพูดอย่างรำคาญ
"โอ้ พระเจ้า เจ้าชกข้าซิคีฟ จะได้รู้ว่าไม่ได้ฝัน"
"ข้าก็คิดแบบนั้นเหมือนกัน?"
ประธานบริษัทซึ่งยืนฟังมานานเริ่มเหลืออดกับร่างเบื้องหน้าทั้งสอง"ไม่มีคนชกให้ใช่มั้ย? งั้นข้าชกเองงงงงงงง .." แทบจะในทันทีที่สิ้นเสียงลากยาว หมัดสองข้างก็ปล่อยออกมาอย่างเต็มแรง
"โอ๊ย!!"คู่หูร้องขึ้นพร้อมกันด้วยความจุก ไม่คิดมาก่อนว่าคนที่มีรูปร่างผอมบางแบบนั้นจะมีแรงมากมายขนาดนี้
"เจ็บนี่..งั้นนี่ก็...ไม่..ใช่.ฝัน"เคนพูดกับตัวเองซ้ำๆเหมือนเป็นโรคย้ำคิดย้ำทำ ในขณะที่อีกคนได้แต่เงียบ
คนชกยืนยิ้มแห้งๆกับผลงาน จนกระทั่งมีร่างๆหนึ่งวิ่งเข้ามา
ผู้มาใหม่ยืนก้มต่ำ อยู่เบื้องหลังของแอนทิส ผมสีเงินยาวสวยที่โดนรวบไว้อย่างเรียบร้อยปรกมาด้านหน้าเลียบกับไหล่กว้าง ดวงตาคมกริบสีห้วงทะเลลึกหรุบลง โครงหน้าดูคมสันแบบผู้ใหญ่ รูปร่างสูงโปร่งหากไม่ให้ความรู้สึกบอบบาง ชุดที่สวมใส่ดูเรียบร้อยมีราคา ต่างกับผู้ถูกคำนับสิ้นแต่งกายปอนๆอย่างสิ้นเชิง
"ท่านประธานครับ ท่านประธานแอนทิส"ชายคนนั้นเรียกด้วยเสียงหอบที่ขาดเป็นห้วง
"อ้อเลนาร์ด!มีอะไรเกิดขึ้นงั้นหรือ?"คนถูกเรียกหันไปมองทางต้นเสียง
"ทุกคนกำลังเป็นห่วงนะครับท่านประธาน...อยู่ดีๆท่านก็หายตัวมาแล้วคนซอมซ่อ 2 คนนี่เป็นใครกันครับ?" เลนาร์ด เงยหน้าคมสันขึ้นก่อนจะกล่าวอธิบาย
"ห้ามพูดแบบนั้นอีกเป็นครั้งที่สอง พวกเขาคือสหายของข้า" แอนทิสตำหนิ ดวงตาสีชาดูคมกล้าขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
"สหายหรือครับ?" เสียงทุ้มเข้มทวนคำเล็กน้อยอย่างงงๆ ก่อนจะระบายรอยยิ้มบาง "งั้นข้าก็ต้องขออภัยด้วยที่เสียมารยาทเป็นอย่างสูงครับ"ร่างสูงโปร่งก้มศีรษะลงขอโทษเคนกับคีฟอย่างจริงใจ
"ม..ไม่เป็นไรครับ" เคนบอกปัดอย่างสุภาพขณะที่คีฟยังคงนิ่งเงียบ
คีฟชี้มือไปยังผู้สูงอายุกว่าอย่างลืมตัว แล้วกล่าวถามออกไป "แอนทิส..ใครกัน่ะ?"
"อ๋อ..คนนี้เป็นคนดูแลข้าน่ะ อยู่ด้วยกันมาตั้งแต่ข้าเป็นเด็กแล้ว" เสียงเย็นๆกลับมาร่าเริงดังเดิม ก่อนจะคว้าคอคนสนิทเข้ามา
"ท่านประธานอย่าทำเป็นเล่นสิครับ ทุกคนกำลังเป็นห่วงท่านก็ชอบหายตัว ไปบ่อยๆเสียเหลือเกิน แบบนี้จะทำให้คนอื่นๆลำบากนะครับ อย่างคราก่อนท่านก็หนีออกไปโดยไม่ได้บอกใครเลย" เลนาร์ดเทศนายาวยืดแต่ดูเหมือนคนถูกเทศน์จะทำเป็นหูทวนลมไปกว่าครึ่ง
"เอาน่าๆ อีกครู่ข้าจะเข้าไปเอง เจ้าไปบอกทุกคนว่าไม่ต้องเป็นห่วงก็พอแล้ว" แอนทิสหมุนตัวกลับมาอย่างไม่ใส่ใจคนที่ยืนอยู่เบื้องหลัง ก่อนจะโบกมือไล่
"แต่..แต่ท่านยัง"
"ไม่มีแต่น่ารีบไป จะขัดคำสั่งข้าหรือ?" แอนทิสเริ่มทำเสียงหงุดหงิด
"มิได้ครับ งั้นข้าจะขอไปก่อน กรุณากลับไปให้ตรงเวลาด้วยครับ" ผู้ถูกสั่งคำนับก่อนจะเดินออกไปอย่างเสียไม่ได้
"ไปซะที เอาล่ะ..ข้าเชื่อว่าพวกเจ้าคงมีเรื่องจะถามสินะ"แอนทิสหันมาคุยกับผู้ที่เขาเรียกว่าสหาย ราวกับเรื่องก่อนหน้านี้ไม่เคยเกิดขึ้น
"มันก็ต้องมีแน่อยู่แล้ว... เจ้าเป็นใครกันแน่?" คีฟกดเสียงต่ำอย่างน่ากลัว
"เจ้าก็น่าจะเห็นว่าข้าเป็นประธานของบริษัทที่มาจัดงาน" แอนทิสตอบเรียบๆ
"แล้วที่เจ้าไปเร่เป็นคนจนขายของล่ะ" เจ้าของเสียงเย็นๆพยายามสงบสติอารมณ์
"นั่นงานอดิเรก"
"ทั้งๆที่เจ้ามีเงินมากขนาดจ้าง ตั้ง 200ล้านเนี่ยนะ จะไปเร่หลอกคนทำไม?"
"ขอให้เข้าใจซะใหม่ด้วย ข้าไม่ได้หลอกใคร แต่งานคือเงิน เงินคืองาน ทุกอย่างล้วนเป็นธุรกิจต่างหาก"
"ก็แล้วยังไง? เจ้าจะบอกว่า เจ้าเป็นมหาเศรษฐี เจ้าของแหล่งว่าจ้างขนาดยักษ์ ซึ่งมีงานอดิเรกในการขายของตามข้างทางงั้นเหรอ?"
"ช่าย แล้ว"แอนทิสลากเสียงตอบอย่างร่าเริง ทำให้คนถามหมดอารมณ์โกรธ
คีฟถอนหายใจเบาๆอย่างอดไม่ได้
เคนที่ยืนฟังบทสนทนาตั้งแต่เมื่อครู่ถามขึ้นบ้าง "เอ่อ...ขอถามหน่อยสิ ตราบริษัทเจ้าน่ะรูปอะไรเหรอ?"
"รูปวาฬน้อย"แอนทิสยิ้มหวาน
" 'วาฬน้อย'?" เสียงใสๆกล่าวย้ำอย่างไม่แน่ใจ
"ใช่ ก็ข้าชอบนี่ มันน่ารักดีนะ"
คนถามได้แต่ขมวดคิ้วพลางไตร่ตรองถึงรูปที่ตกค้างอยู่ในความคิด
"ในเมื่อเจ้าเป็นประธานบริษัท ก็แสดงว่าเจ้าเป็นคนกำหนดการแข่งขันสินะ" คีฟถามต่อหลังจากนิ่งคิด
"ใช่..ก็จัดตามที่ข้าพอใจน่ะ"
"ตามที่เจ้าชอบ? งั้นรอบแรกแข่งอะไร?"เคนเริ่มหันมาร่วมวงสนทนาด้วยความสนใจ
"ก็คนมันเยอะ เลยตัดสินใจไม่ถูกอยู่ระหว่าง 2 อย่าง?"
"อะไรบ้างเหรอ?"
"ก็มี วิ่งแข่งกับซ่อนแอบ" ใบหน้าขาวเจือรอยยิ้มพึงใจ
ผู้ฟังที่รอคอยคำตอบด้วยความสนใจอย่างยิ่งยวด ถึงกับกุมขมับกับคำตอบที่ได้รับ นี่พวกเขากำลังหวังอะไรอยู่กันแน่นะ?
"แล้วเจ้ารู้รึเปล่าว่า ผู้เข้ารับการทดสอบมีทั้งหมดกี่คน?"คีฟโพล่งขึ้น
"ตอนนี้ก็ยังมีคนมาเรื่อยๆคงบอกจำนวนที่แน่นอนให้ไม่ได้ แต่คิดว่าคงมีมากว่าสามพันแน่ๆ" แอนทิสขมวดคิ้วพลางนับจำนวนอย่างคร่าวๆในหัว
"มากกว่าสามพัน!! งั้นข้าว่าวิ่งแข่งจะดีกว่า"คนถามกุมขมับเป็นรอบที่สอง ก่อนจะส่ายหน้าอย่างระอา
"อืมม..ก็จะรับไว้พิจารณานะ" แอนทิสยิ้มรับ
"ท่านประธานครับ!" เสียงของเลนาร์ดดังขึ้นอีกครั้ง
"คราวนี้คงต้องไปจริงๆแล้ว รายละเอียดอื่นก็ไปฟังตอนเปิดงานละกันนะ"คนถูกตามโบกมือให้ก่อนจะวิ่งจากไป
"อ้าว! เดี๋ยวก่อนสิ เฮ้!!" เคนพยายามยื่นมือไปรั้งไว้แต่ไม่ทันแล้วร่างนั้นลับตาไปอย่างรวดเร็ว
*********-------------*********-------------
555เป็นไงเราดองทำลายสถิติมากเลยนะเนี่ยแบบว่ามีความสุขกับการปั่นโดฯอยู่ไง
ก็ต้องขอโทษทุกคน แล้วก็ขอบคุณที่ยังติดตามอ่านอยู่เสมอมาโด้ยน้าาาาาาาาา...
ความคิดเห็น