ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    take it to you

    ลำดับตอนที่ #11 : วันซวยของ...(Rewrite 100%)

    • อัปเดตล่าสุด 20 พ.ค. 50


             สวัสดีครับ ข้าชื่อ เคน ไวเปอร์ ออกเดินทางเพื่อตามหา 'บางสิ่งบางอย่าง' ให้พบ แต่มันก็มีปัญหาอยู่นิดหน่อย นั่นคือ 'เงิน' ครับ 

             ความจริงข้าเป็นคน ที่เรียกได้ว่าโชคดีสุดๆเลยนะ  เวลาจะพนันอะไรข้าก็ชนะหมด  หรืออย่างเวลาจะหาของที่ต้องการ  มันก็จะลอยมาหาซะดื้อๆ ดูอย่างวันที่ข้าจะมองหางานหรือหาดาบสิ  วันรุ่งขึ้นก็เจอเลย เห็นมั้ยว่าข้าดวงดีขนาดไหน  

             หน้าตาก็ดีพอควร  แต่ทำไมถึงมีแต่คนบอกว่าข้าหน้าสวยกัน!! --?  นั่นมันต้องใช้ชมผู้หญิงสิ!! ไม่ใช่ผู้ชายอย่างข้า!!!! เพราะอย่างนั้นเวลาใครบอกว่า'สวย'เลยเป็นเรื่องทุกที  ข้าก็แค่ติดจะตาโตไปนิดสำหรับผู้ชาย  ผิวขาวหน่อย  ตัวผอมทั้งที่แรงออกจะเยอะ หน้าท้องข้าไม่มีกล้ามเนื้อก็เท่านั้น  แต่ข้าก็ตัวสูงนะ รู้สึกจะ 175 เซนได้มั้ง แล้วดูดิข้าสวยตรงไหนกัน!? 

              เข้าเรื่องเถอะชักจะไปไกลแล้ว แต่ก็นะทุกคนก็รู้ดีมีขึ้นก็ต้องมีลง  มีวันดวงดีมากมันก็ต้องมีวันที่ดวงซวยสุดๆเหมือนกันนะ  แต่ ! มันต้องไม่ใช่วันนี้สิ!!


    ขอเท้าความตั้งแต่เช้า(เอาแบบข้ามๆนะ)...


              "ซะเมื่อไหร่เล่า เฮ้ย! เคน! ตื่น!!!!" โอ๊ยอะไรกันนะ? แหกปากแต่เช้าเล้ยยยย นี่เป็นคำแรกที่ข้าคิดแต่ก็ไม่ได้พูดไปหรอก เพราะหนังตาผมมันหนักเกินกว่าจะขยับปากได้

             ข้ายังไม่ได้บอกใช่มั้ย? คนที่ปลุกข้าอ้ะชื่อ 'คีฟ' เห็นว่ามันต้องการตามหาความทรงจำหรืออะไรบางอย่าง ข้าเองก็ไม่แน่ใจนัก คีฟมาอยู่กับข้าตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้ แต่พอรู้ตัวก็เดินทางมาด้วยกันแล้ว คงเรียกได้เต็มปากเต็มคำว่าเพื่อนล่ะมั้ง?

             เล่าต่อๆ…ข้าเลยถามออกไปแบบเซ็งๆ "อื๋อ? มีอาราย~" 

             "ยังจะมีอะไรอีก สายแล้ว!!" แล้วอยู่ดีๆไอ้คุณคีฟมันก็ฉุดกระชากลากถูข้าไปที่ไหนซักแห่ง มันเจ็บนะ -*- 

             ข้าเลยพยายามสุดชีวิตที่จะแกะมือมันออกให้ได้ แล้วข้าก็ได้รับรู้ในวันนี้เอง ว่าไอ้ลูกฮึดของคนเวลาไฟไหม้มันแรงเยอะขนาดไหน แล้วอยู่ดีๆมันก็คิดอะไรไม่รู้

             "ข้าแต่เทพอัคคี เทพธรณี เทพอัสนี..." มันจะทำอะไรกันเนี่ยยยยยยยยยย....  ข้าพยายามห้ามมันแล้วนะขอบอก แล้วมันก็ทำให้ข้ารู้สึกแปลกๆด้วย

             "หุบปากน่า!"ดูสิด่าข้าอีก ผิดตรงไหนกัน - -? "เทพวายุและเทพวารี จงมาสถิต ณ ที่แห่งนี้... โปรดประทานพลังแก่ข้า..สายลมเอยจงโชยมา วานดีส..." หา? อะไรดีสๆนะ เจ้านั่นจะทำอะไรเนี่ย??

             แล้วก็มีลมแรงๆมาพัดให้ตัวผมลอยขึ้น  ข้ากลัวความสูงมากเลยนะแบบมีเรื่องฝังใจมั้ง  ข้าเลยไม่ปล่อยมือมันออกแถมยังจับซะแน่น แต่พอเห็นว่าไอ้เพื่อนศรีมันไม่ได้จะฆ่า เพราะข้าลอยอยู่เฉยๆ ข้าเลยงงๆมั้ง  มันเลยสะบัดมือผมออกอย่างรวดเร็ว

             แล้วมันก็ทำเรื่องที่ข้าคิดว่าชาตินี้ทั้งชาติคงไม่คิดทำอีกเป็นอันขาด  คือการที่มันพาข้าเหาะด้วยความเร็วเหนือนรกแหวกป่าฝ่าดงไปสนามแข่งใน 3 นาที โอ้! พระเจ้าผมพึ่งรู้นะว่าการอยู่แบบมีแผ่นดินน่ะ มันดีขนาดไหน ตอนลอยอยู่นะผมเห็นภาพอดีตเหมือนคนใกล้ตายเลย  น่ากลัวที่สุด T^T

             พอถึงสนามนะแอนทิสก็เดินเข้ามาทัก  แอนทิสก็เป็นคนอีกคนที่เรียกว่าเพื่อนคงได้มั้ง มันเป็นเจ้าของบริษัทที่พวกข้าดั้นด้นมาสมัครงานน่ะ  เป็นคนประหลาดเอาการยิ่งกว่าคีฟอีก ทำไมชีวีข้าจึงเศร้าเยี่ยงนี้หนอ? มีเพื่อนสองคน ก็ประหลาดทั้งสองคน แล้วไอ้แอนทิสมันก็คิดได้นะ  คิดว่าข้าเป็นพวกเบี่ยงเบนทางเพศกับคีฟซะอย่างนั้นน่ะ  สงสัยจริงสมองมันทำจากอะไร - -"

             และแล้วแข่งรอบสุดท้ายมันก็บอกให้แสดงละครเนี่ยนะ เจ้านั่นคิดนานหรือเปล่าเนี่ย? แล้วมันก็ให้จับฉลากเลือกบทมีแต่เรื่องหวานๆทั้งนั้นเลย... แล้ววันนี้ข้าก็จับฉลากได้มา... โอ๊ย แย่ที่สุด!! 'Ice And Snow' เรื่องบ้าอะไร? เป็นเรื่องที่เลี่ยนที่สุดตั้งแต่เคยเห็นมาเลยนะเนี่ย(แต่ก็ดีที่ไม่มีฉากจูบนะ)

             แล้วพอได้บทมาก็ต้องท่องทั้งของพระเอกกับนางเอก เพราะตัดสินกันไม่ได้ว่าใครจะเป็น 'ฟรีเดลท์' ใครจะเป็น 'เอเรียต' มันก็แหงอยู่แล้วใครจะยอมเป็น 'ฟรีเดลท์' กัน!

             แต่ละเรื่องก็ผ่านไปอย่างรวดเร็ว เรื่องแรกคนเล่นหน้าตาอุ บาทว์เลยจบภายใน 5 นาที 

             เรื่องที่ 2 ได้ข่าวว่าพระเอกหน้าตาดีเลยเล่นจบ

             เรื่องที่ 3 ไอ้คู่นี้มีแต่เรื่องติงต๊องอยู่ในหัวรึไงนะ สยองแปลกๆยังไงไม่รู้

             เรื่องที่ 4 แฝดหญิงคู่นี้หน้าตาน่ารักนะ แต่รู้สึกคนพี่จะตาขวางไปหน่อยก็เท่านั้น....

             อ๊ากกกกกกกก!! จะตาเราแล้วง่ะ เวลาใกล้ตายมาถึงใครจะยอมเป็นฟรีเดลท์เนี่ย "คีฟ มาเป่ายิ้งฉุบกัน!! ใครแพ้เป็นฟรีเดลท์!!" ตอนพูดออกไปข้าไม่ได้คิดเลยนะว่าวันนี้มันเป็นวันซวยของข้าน่ะ คีฟก็พยักหน้าง่ายๆเลยเราเลยเป่ายิ้งฉุบกัน

             "เป่า! ยิ้ง! ฉุบ!!!" 

             อ๊ะ!...




             "ขอเชิญรับชมละครเรื่องสุดท้ายได้เลยค่ะ... Ice And Snow"



             "กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว ณ เมืองอันไกลโพ้น บุตรของเจ้าเมืองนามเอเรียต..." ม่านสีเลือดเคลื่อนที่ออกห่าง บนเวทีเป็นฉากห้องโถงปราสาท มีเจ้าเมืองนั่งอยู่กลางเวที ละครเริ่มแล้วคนที่เดินออกมาคือ!!!..

             "ท่านพ่อ วันนี้ข้าจะมาขออนุญาตท่าน เพื่อออกไปพบเพื่อนของข้า ไคน์และฟรีเดลท์" 

             "กรี๊ดดดดดดด...น่ารักจังงงงงงงงง!!" เสียงคนดูตะโกนอย่างไม่ขาดสาย

             ฮ่าๆๆๆๆ ใช่! ข้าเอง!! นึกไม่ถึงเลยว่าวันซวยอย่างนี้จะชนะคีฟได้!!! 

             "อา...ได้สิ..ไปเถอะ" คนที่เล่นเป็นเจ้าเมืองพูดตอบ

             "ขอบคุณท่านพ่อ..." ข้าโค้งขอบคุณ ให้มันรู้ซะบ้าง ว่าท่านเคนคนนี้เล่นเก่งขนาดไหน ภายใต้สีหน้าเรียบเฉย ข้าดีใจแทบบ้า

             หึๆ ถ้าหันไปมองทางแอนทิสนะ จะเห็นเล้ยยยย..ว่าฮาขนาดไหน ตอนข้าเดินออกมานะเห็นเจ้านั่นลื่นตกบัลลังก์ของมันซะด้วย ฮ่าๆ คิดล่ะสิว่าคนที่จะออกมาน่ะไม่ใช่ข้าแน่ๆ สะใจที่สุด!

             ม่านปิดแล้ว ฉากต่อไปๆ^ ^

             ผู้ชายน่าตาเข้มที่เล่นเป็นไคน์เดินออกมา พร้อมๆกับม่านที่เลื่อนออก ฉากที่เผยออกมาเป็นฉากลำธารสวยดีแฮะ

             และก็ตามด้วยนางเอกหน้าคมของเรา... ข้าภูมิใจนำเสนอ คีฟฟฟฟฟฟฟฟฟ... ให้ตายเถอะขำที่สุดดดดดด...ชุดที่คีฟใส่นะเป็นกระโปรงสีครีมยาวลากพื้น แขนกุดน่ารักมากเลย(กระโปรงนะไม่ใช่คนใส่)

             "กรี๊ดดดดดดดด..ฟรีเดลท์ เท่บาดใจมากค่าาาาาา..." ช่ายแล้วเท่ที่ซู้ดดดด...

             "นี่ไคน์..เอเรียตช้าจังเลยนะ ว่ามั้ย?" คีฟพูดไปตามบท อืม...หมอนี่ดูไม่อายเลยแฮะ เก่งจัง..
                                    
             "นี่! ข้าว่าน่าจะสลับตัว เอเรียตกับฟรีเดลท์เนอะ!!" เสียงสวรรค์ที่ไหนไม่อาจทราบลอยมา

             หา!!..เอาใหม่ซิ ได้ยินไม่ชัด

             "จริงด้วยเนอะมันต้องเหมาะกว่าแน่ๆเลย" อีกเสียงลอยตาม ข้ารู้สึกไปเองรึเปล่านะ ทำไมคนดูมันเป็นผู้หญิงเกือบหมดเลยล่ะ? ไม่งั้นก็เป็นเด็ก

             แล้วเสียงขอให้เปลี่ยนตัวก็ดังสนั่นขึ้น  นี่!! มันอะไรกันฟะ!? เฮ้ย!!!!

             แล้วแอนทิสก็ยิ้ม ถ้าเป็นปกติคงเห็นว่ามันธรรมดาอะนะ แต่นี่มันเหล่มาทางข้าด้วยน่ะสิ ซวยแน่ทีนี้... ซักพักมันก็หันไปกระซิบกับเลขาฯ หน้าตาดีของมัน

             เลนาร์ดเดินขึ้นมาบนเวที ท่ามกลางความงงอย่างยิ่งยวดของข้า ส่วนคีฟน่ะเหรอ เฉยสนิทไอ้คนไร้ความรู้สึกเอ๊ย!

             และแล้วเลนาร์ดก็ใช้เสียงเท่ๆ(จริงนะ พูดทีสงบความเคลื่อนไหวสาวๆ)ของเขา  กล่าวในสิ่งที่ข้าแทบไม่เชื่อว่าหูตัวเองจะเปิดรับฟัง

             "เอ่อ..ทางบริษัทต้องขออภัยที่ต้องให้ทุกท่านรอสักครู่ เพื่อทำการเปลี่ยนตัวแสดงเพื่อความเหมาะสม ขอบคุณครับ" แล้วเลนาร์ดก็เดินสวนกับข้าซึ่งเกาะม่านอยู่เข้าไปหลังเวที

             ไม่น้าาาาาาาาาาาา...บอกสิว่าข้าหูฝาดดดดดดดด...พระเจ้า!!!..อ๊ากกกกกกกกกก...

             แล้วสัมผัสสยองที่แขนก็บังเกิด แอนทิส! แอนทิส!เชียวนะ  ข้าควรดีใจรึเปล่า? มีเกียรติขนาดท่านประธานคนสำคัญเดินมาลากไปเลยนะ ข้าร้องอย่างโหยหวน ไม่อยากไปนี่ อยากเล่นบทนี้!!!!!!!!!!!!!

             ข้าโดนลากไปถึงที่แต่งตัวที่เพิ่งจากมาเมื่อไม่กี่นาทีก่อน คีฟถอดกระโปรงตัวเมื่อครู่ออกไปแล้วกำลังเปลี่ยนเป็นชุดลูกชายเจ้าเมือง ทำไมข้าถึงรู้สึกว่าชุดที่เจ้านั่นใส่ นอกจากจะเหมาะกับมันแล้วชุดยังดูเป็นผู้ใหญ่กว่าที่ข้าใส่อีกนะ  แล้วข้าก็โดนจับถอดชุดออกเพื่อเปลี่ยนเป็นชุดกระโปรงตัวนั้น..0.0!!! 

             ไม่เห็นมันจะเหมือนตัวเดิมเลย!! ทำไมคราวนี้มันเป็นกระโปรงฟูๆสีชมพูล่ะ!! ข้าตวัดสายตาอาฆาตไปทางแอนทิสทันที ภาพที่ประจักแก่สายตาผมคือ...

             มันยิ้ม!อารมณ์ดีมากด้วย!! แล้วมันก็ขยับปาก "อ๋อ พอดีขนาดของเจ้าชุดนั้นมันใหญ่ไปน่ะ ตัวนี้แหละพอดีแล้วมี    วิกด้วยนะ สีเดียวกับผมนายเลยเพื่อความสวยงาม" ทำไมข้าถึงรู้สึกเหมือนเห็นปีกยมทูตกับกับหาง งอกออกมาประกอบกับรอยยิ้มใสๆแต่ชั่วร้ายของมันนะ

              ในที่สุดข้าก็ต้องใส่จนได้ แล้วข้าก็หันไปมองสิ่งที่หัวของข้าจะต้องแบกรับ โอ้!! พระเจ้า...มันเป็นวิกผมสีน้ำตาลอ่อนยาวมากกกกก..ถ้าข้าใส่นะมันต้องถึงเอวแน่เลย  แล้วก็เป็นดังคาดถึงเอวเลย คนแต่งตัวนะดีใจจนร้องไห้เว่อร์มั้ย ข้าก็น้ำตาไหลนะแต่เพราะเศร้าไม่ใช่ดีใจ 

             แล้วเค้าก็เลื่อนกระจกเข้ามาข้าช็อกแทบทุบกระจกแตก นั่นข้าเหรอ...หรือรูปโปสเตอร์แบบขยับได้... ชักจะรู้แล้วว่าทำไมเค้าถึงเรียกเราว่าไอ้หน้าหวานT_T ถ้าข้าเจอผู้หญิงหน้าตาแบบที่เห็นในกระจก ข้าก็คงเข้าไปจีบหรอกนะ แต่ปัญหาคือในกระจกมันข้า ไม่ใช่ผู้หญิงเค้าแต่งหน้าให้ข้าด้วยล่ะ.....T^T

             อยากตายยยยย...T-T 

             และแล้วละครก็เริ่มอีกรอบเหมือนเดิมมากๆ แค่เปลี่ยนคนแสดงแต่จะเล่าละกัน

             "ขอเชิญรับชมละครเรื่องสุดท้ายอีกครั้งค่ะ... Ice And Snow" 

             "กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว ณ เมืองอันไกลโพ้น บุตรของเจ้าเมืองนามเอเรียต..." ม่านสีเลือดเคลื่อนที่ออกห่าง บนเวทีเป็นฉากห้องโถงปราสาท มีเจ้าเมืองนั่งอยู่กลางเวที เหมือนเดิมเป๊ะเลยยยยยย...

             "ท่านพ่อ วันนี้ข้าจะมาขออนุญาตท่าน เพื่อออกไปพบเพื่อนของข้า ไคน์และฟรีเดลท์" 

             "กรี๊ดดดดดดด...เท่ค่าาาาาาาา..!!" เสียงคนดูตะโกนอย่างไม่ขาดสายเหมือนเดิมอีกแล้วแค่เปลี่ยนคำชม

             คีฟชักจะเด่นเกินไปยังไงไม่รู้สิ ทั้งๆที่เจ้านั่นเล่นออกจะแข็ง(หรือจะเป็นเพราะหน้าไร้อารมณ์ของมัน) 

             "อา...ได้สิ..ไปเถอะ" เจ้าเมืองพูดกับคีฟ

             "ขอบคุณท่านพ่อ..." คีฟโค้งขอบคุณ สีหน้าเรียบเฉย อีกแล้วเมื่อไหร่จะเลิกทำหน้าแบบนี้ซะที - - =3

             ถ้าหันไปมองทางแอนทิสนะ จะเห็นเล้ยยยย..ว่ามันยิ้มได้ชั่วขนาดไหน น่าหมั่นไส้ที่สุด!

             ม่านปิดแล้ว ฉากต่อไปๆT_T ลางร้ายเริ่มปรากฏ

             ผู้ชายน่าตาเข้มที่เล่นเป็นไคน์เดินออกมา พร้อมๆกับม่านที่เลื่อนออก ฉากที่เผยออกมาเป็นฉากลำธารสวยเหมือนเดิมอีกแล้ว บอกแล้วว่าเหมือนเดิมสุดๆ เอาล่ะยังไงๆก็ต้องเล่น เอาให้ไอ้พวกบ้านั่นงงไปเลย น่าโมโหที่สุด

             และก็ตามด้วยข้า ทำใจได้แล้วแหละเป็นไงเป็นกัน!

             "กรี๊ดดดดดดดด..ฟรีเดลท์ น่ารักกกกกกกกกกค่าาาาาา..." เออ..น่ารัก..น่ารัก..น่ารักมากกก...

             "นี่ไคน์..เอเรียตช้าจังเลยนะ ว่ามั้ย?" ข้าพูดไปตามบทเวลาข้าดัดเสียงมันก็นุ่มเหมือนกันนะ ฮ่าๆ T-T

             "นี่! ข้าว่าสลับตัว สองคนนี้แล้วเหมาะดีเนอะ!!" เสียงสวรรค์ที่ไหนไม่อาจทราบลอยมา ทำไมมันเหมือนเมื่อกี๊อย่างนี้ฟะ มีการแจกบทพูดให้คนดูด้วยรึไงกันเล่า?

             เออ..คราวนี้ได้ยินชัดแจ้งเลย...

             "จริงด้วยเนอะเหมาะมากเลย คนที่เล่นเป็นฟรีเดลท์น่ะผู้ชายหรอ? น่ารักจัง เหมือนผู้หญิงเลยเนอะ" อีกเสียงลอยตาม อ๊าก!! ข้า! ไม่! ใช่! ผู้หญิงนะ!!!!!! อยากตะโกนที่สุด แต่เพื่อเงินอย่าเด็ดขาด

             คราวนี้เสียงก็ดังสนั่นอีกแล้ว แต่มันเป็นเสียงอภิปรายในหัวข้อ 'คนบนเวทีเป็นชายหรือหญิง' เออใช่..คงไม่หมายถึงไคน์หรอก หมายถึงข้าเองงงงงงง...

             "เดี๋ยวก็มาเองแหละน่า..เจ้านั่นก็อย่างนี้ประจำ" ไคน์พูดแล้วเดินมานั่งบนก้อนหินริมลำธารข้างๆข้า

             "อ๊ะ! มาแล้วๆ เอเรียต ทางนี้ๆ" ข้าตะโกนออกไปตามบทน่ะนะ

             "สวัสดี" เอเรียตหรือคีฟนั่นแหละ พูดพร้อมส่งยิ้มตามบทมันยิ้มแล้วววววว...0.0
    แทบจะไม่เคยเห็นเลยนะเนี่ย

             หลังจากนั้นเราทั้งสามคนก็เดินเล่นกันอยู่บนเวทีนั่นแหละ แค่ฉากเปลี่ยนไปเปลี่ยนมาแล้วม่านก็ปิด

             "เมื่อเอเรียตกลับไปถึงปราสาท ก็พบกับบิดาของตนที่กำลังรอคอยการกลับมา ของบุตรชายพร้อมกับข่าวอันน่าเศร้า"

             "มีอะไรหรือครับท่านพ่อ?" (ต่อไปจะแทนว่าคีฟนะ) คีฟถามด้วยสีหน้างงๆ

             "เอเรียตบุตรข้า ข้ามีเรื่องที่จะต้องพูดกับเจ้า" เจ้าเมืองพูดเศร้าๆ

             "มีอะไรหรือครับ?" คีฟขมวดคิ้วมุ่น

             "เจ้าจะต้องไปออกรบ" เจ้าเมืองพูดด้วยท่าทางเจ็บปวด

             "ท..ท่านว่าอะไรนะครับ?" 

             "เมืองหน้าด่านก่อนหน้าเราถูกข้าศึกเข้าจู่โจม เขาขอความช่วยเหลือเข้ามา...หากปฏิเสธก็เท่ากับทรยศชาติ"

             "ข้าจะต้องออกไปเมื่อไหร่?"

             "ยัง...เราต้องจัดเตรียมกองทหาร อาจเป็นมะรืนนี้"

             "มะรืน!! แล้วข้าจะบอกกับฟรีเดลท์และไคน์ได้อย่างไรกัน!?" 

             "ข้า..ข้าขอโทษเอเรียต ข้ารู้ว่ามันกะทันหัน แต่ข้า..ข้าเสียใจเอเรียต"

             "ท่านพ่อ..ท่านก็รู้ว่าข้ากับฟรีเดลท์รักกัน ข้าจะพูดกับนางยังไง?" เสียงนี้บางเบาราวกับจะกลืนหายไปในลำคอ สีหน้าของคีฟดูเจ็บปวด เจ้านั่นทำแบบนี้ได้ด้วยเหรอ?

             "ข้ารู้...เด็กคนนั้นเป็นเด็กดี ข้าเองก็ไม่คิดจะขัดขวางเจ้าทั้งสอง แต่มันจำเป็นขอให้เจ้าเข้าใจ"

             "ข้าเข้าใจแล้ว...พรุ่งนี้ข้าขอแค่ได้ไปบอกลานางกับไคน์" 

             "อา...ตามใจเจ้าเถอะ..." สิ้นคำม่านก็ปิดลง

             เมื่อม่านเปิดออกอีกครั้งก็กลายเป็นฉากลำธารสายเดิม ข้ากับไคน์ที่เปลี่ยนชุดเป็นอีกชุดนึงแล้ว(อย่าให้พูดถึงชุดที่ข้าใส่เลยมันอนาถใจ) กำลังยืนคุยกันใต้ต้นไม้อย่างสนุกสนาน คีฟเดินออกมาจากอีกมุมหนึ่งของเวทีด้วยสีหน้าเศร้าสร้อย

             "ฟรีเดลท์...ไคน์.. ข้ามีเรื่องต้องบอกกับพวกเจ้า..." 

             "มีอะไรเหรอเอเรียต? ทำไมทำหน้าแบบนั้นเล่า?" ข้าเดินเข้าไปหาคีฟ ทำสีหน้าเป็นห่วง

             "ข้าจะต้องไปออกรบ..." คีฟพูดทำให้ผมกับไคน์หยุดชะงัก

             "เจ้าว่าอะไรนะเอเรียต? เจ้าล้อเล่นใช่รึเปล่า?"ข้าเขย่าตัวคีฟ เพื่อเงินแล้วต่อให้ต้องเล่นบทหวานแค่ไหนก็ยอม!! (ยกเว้นฉากจูบ)

             "เปล่า...ฟรีเดลท์ ข้าไม่ได้ล้อเล่น" 

            "แล้วเจ้าจะไปเมื่อไหร่?..." ข้าถามสีหน้าเหมือนจะร้องไห้

             "พรุ่งนี้.." 

             "พรุ่งนี้!? ไม่นะ!! มันกะทันหันเกินไป"

             "ข้ารู้..ข้าเองก็เพิ่งจะทราบเมื่อวาน.."คีฟเบือนหน้าหนีไปสบตากับไคน์แทน ข้าเริ่มใช้กำปั้นทุบอกคีฟ น้ำตาไหลออกมา ใจจริงอยากอ้วกเป็นที่สุดบทเลี่ยนเนอะว่ามั้ย? - -"

             "พอเถอะ...ฟรีเดลท์มันแก้ไขอะไรไม่ได้หรอก เรามาจัดงานเลี้ยงส่งเอเรียต ให้ปลอดภัยกลับมายังจะดีกว่า" ไคน์เดินมาแตะไหล่ข้า ข้าจึงเริ่มสงบลง คนดูนะน้ำตาคลอกันเป็นแถบ เป็นงายข้านี่เล่นเก่งเนอะว่ามั้ย ^ ^

             หลังจากนั้นเราก็จัดงานเลี้ยงส่งเอเรียตตามบท มีอาหารกินฟรีด้วยดีชะมัด แถมหรูๆทั้งนั้นนนน...

             "ไคน์..." คีฟหันไปสบตากับไคน์ ในมือยังถือแก้วไวน์อยู่

             "เจ้าให้สัญญากับข้าข้อหนึ่งได้หรือไม่?..." คีฟถามน้ำเสียงราบเรียบ

             "อะไรล่ะ? เอเรียต...ถ้าทำได้ข้าจะทำให้" ไคน์ยิ้มเศร้าๆ

             คีฟยิ้มบางๆ "หากข้าตายไปขอให้เจ้าดูแลฟรีเดลท์ด้วย..อย่าให้นางต้องเสียใจ..."

             "ข..ข้ารับปากเจ้า เอเรียต...แต่ข้าไม่คิดว่าคนตายอยากอย่างเจ้าจะตายหรอกนะทำใจให้สบาย..." น้ำเสียงท่อนแรกสั่นเครือ แต่พอเข้าท่อนหลังน้ำเสียงนั้นกลับร่าเริงเหมือนเดิมไม่ผิดเพี้ยน

             จากนั้นไคน์ก็เดินเข้าหลังเวทีไปก่อนเหลือข้ากับคีฟสองคน ฉากนี้เลี่ยนมากกกกก ขอบอกกกกกกกกกกก...

             "เอเรียต...เจ้าต้องกลับมานะ" ข้าพูดพร้อมกับสบตาคีฟ

             "ข้าสัญญาฟรีเดลท์...ข้าจะกลับมาหาเจ้า.." คีฟเองก็หันมาสบตากับข้าเช่นกัน

             "ข้าจะรอเจ้านะเอเรียต...รอตลอดไป.." ข้าปล่อยให้น้ำตาคลออยู่อย่างนั้น

             "ข้ารักเจ้าฟรีเดลท์..."คีฟพูดเสร็จก็กอดกับข้าตามบท ขนลุกซู่เลยขยะแขยงที่สุดกอดกับผู้ชายด้วยกันเนี่ย แหวะ!...

             ม่านปิดจนได้ข้าผลักคีฟออกทันทีแทบจะถีบเลยก็ว่าได้  อยากอ้วกจริงๆขนลุกหมดเลย...

             "เมื่อร่ำลากันเสร็จทั้งสองก็แยกจากกัน สิ่งที่ทั้งสองไม่เคยล่วงรู้มาก่อนเลยนั้นก็คือจิตใตของไคน์ ไคน์เองก็หลงรักฟรีเดลท์มานานแล้ว แต่ไม่อาจทำอะไรได้เลยเพราะรู้ดีว่าคนที่นางรักมีเพียงเอเรียต ในจิตใจของเขาได้แต่เฝ้าภาวนาถึงวันที่ทั้งคู่จะแยกจากกัน เช้าวันรุ่งขึ้นเอเรียตก็ออกเดินทางไปรบ ในขณะที่ไคน์กำลังไปอธิษฐานกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำหมู่บ้าน" พอเสียงพากย์จบลงม่านก็เปิดอีกครั้ง คราวนี้เป็นฉากในโบสถ์ ไคน์กำลังนั่งอยู่ที่หน้ารูปปั้น หรือสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำหมู่บ้านนั่นแหละ

             "ข้าแต่พระองค์ โปรดเห็นแก่ความรักของข้า โปรดหยุดเวลาของเอเรียตด้วยเถิด" แล้วม่านก็ปิดอีกครั้ง ทำไมมันปิดบ่อยจังเลยเนอะว่ามั้ย ปิดแล้วก็ปิดอีกน่าเบื่อจริงๆ แต่ก็ดีนะจะได้ไม่ต้องออกไปเล่นบ่อยๆ

             "เมื่อเวลาล่วงเลยไปได้เพียงสัปดาห์เดียวคำอธิษฐานนั้น กลับกลายเป็นความจริง เอเรียตโดนสิ่งๆหนึ่งปักเข้าที่กลางหลัง เพียงแต่มันไม่ใช่ทั้งลูกธนูของฝ่ายข้าศึกและฝ่ายของเอเรียตเอง มันมีรูปร่างคล้ายกับเข็มวินาทีขนาดยักษ์ที่พุ่งลงมาจากฟากฟ้า"

             ม่านเปิดออกคีฟกำลังแสดงอยู่ในฉากสนามรบ คิดดูคนเยอะขนาดนี้มันยังเด่นเลยอ่ะ สาวๆยังกรี๊ดไม่ขาดสาย เซ็ง!

             ฉากประกอบที่นี่สุดยอดจริงๆนะขนาดเป็นละครเวทียังขนาดนี้ สิ่งที่เหมือนธนูเหล็กขนาดยักษ์พุ่งมาปักที่หลังคีฟ แล้วคีฟก็ล้มลงทันที เลือดปลอมที่ใส่ไว้ก่อนเข้าฉากก็ไหลซึมออกมาเต็มไปหมด

            "ฮือออ...กรี๊ดดดดด...ไม่นะ!!" มันไม่ใช่เสียงข้าเล้ยยยยยยย... สาวๆข้างล่างต่างหากอะไรจะเสียใจขนาดน้านนนนนนนนนนน... ละครนะไม่ใช่เรื่องจริง จะบ้าตาย - -"

             ม่านปิดอีกแล้วจะถึงฉากข้าอีกแล้วง่าาาาาาาาาาาาาา... "ในเวลาไม่นานกองทัพก็ได้รับชัยชนะ ทุกคนเดินทางกลับไปยังหมู่บ้าน"

             เอาล่ะม่านเปิดแล้ว ข้าวิ่งไปทางเจ้าเมืองซึ่งยืนอยู่หน้ากองทัพที่เหลือรอดทันที

             "ท่านเจ้าเมืองคะ แล้วเอเรียตล่ะคะ? เขาอยู่ที่ไหนคะ?" ข้าถามออกไป เจ้าเมืองเบือนหน้าหนี กัดฟัน กำหมัดแน่น

             "เอเรียตตายแล้ว...เขาตายในสงคราม ศพของเขาก็หาไม่เจอ..." ข้าทำหน้าตกใจที่สุดเท่าที่จะทำได้

             "อะไรกัน...ไม่จริง..ไม่จริงใช่มั้ย..เอเรียต เจ้าสัญญาว่าจะกลับมาหาข้า ไม่ใช่รึไง?..เอเรียต!!" ข้าทรุดตัวลง ร้องตะโกนพูดถึงชื่อเอเรียต แล้วร้องไห้ออกมา ทำไมเรื่องมันน้ำเน่าขนาดนี้นะ...T-T

             ม่านปิดลงและเปิดออกคราวนี้เปิดแค่ครึ่งเวที อีกครึ่งเวทียังคงปิดไว้อยู่ ผมนั่งอยู่หน้าสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำหมู่บ้าน...

             "พระเจ้าคะ..ชีวิตนี้ของข้าไม่มีค่าอีกแล้ว หากปราศจากเขาคนนั้น...โปรดหยุดเวลาของข้า แล้วนำไปมอบให้เอเรียตด้วยเถอะค่ะ" 

             "จากคำอธิษฐานของฟรีเดลท์ ทำให้เอเรียตฟื้นขึ้นมา เลือดของเขาแปรเปลี่ยนเป็นกลีบกุหลาบ" ม่านอีกด้านค่อยๆเลื่อนเปิด

             คีฟลุกขึ้นมาท่ามกลางกลีบกุหลาบ ที่โรยซะแทบท่วมตัว

             "นี่..มันอะไรกัน ก็ข้า..โดนธนูยิงเข้าที่กลางหลัง..."คีฟพึมพำ แล้วค่อยๆยืนขึ้น 

             แล้วเสียงคนพากย์ก็ดังขึ้นอีก "เอเรียตไม่รู้เลยว่าในขณะที่ เขากำลังพบตัวเองที่ยืนกลางที่ๆอดีตเคยเป็นสนามรบนั้น ฟรีเดลท์กำลังจะจากเขาไป"

             ข้าค่อยๆล้มตัวลง ท่ามกลางน้ำตาของคนดู หึๆยังไงรางวัลนักแสดงนำดีเด่นก็ไม่พ้นมือเราแน่ 555+ 

             ม่านปิดลงพร้อมกันทั้งสองด้าน "เอเรียตรีบเดินทางกลับหมู่บ้านทันที.. ในที่สุดเขาก็ได้ทราบความจริงอันแสนเศร้า..."

             ม่านเปิดออก คีฟวิ่งผ่านเวทีด้วยสีหน้ารีบร้อนแต่ผมว่าฉากนี้มันตลกดีนะ วิ่งผ่านเวทีไปเฉยๆเนี่ย แล้วฉากก็เปลี่ยนเป็นโบสถ์ แล้วข้าก็กำลังแกล้งตายอยู่กลางเวที คีฟวิ่งมาที่ข้าทันที

             "ฟรีเดลท์!! ฟรีเดลท์!!!" คีฟเขย่าตัวข้า บีบแขนซะเจ็บเลย จบเรื่องจะชกให้

             "ทำไมเจ้า....ทำไมเจ้าต้องทำเพื่อข้าขนาดนี้..ฟรีเดลท์" เพื่อเงินโว้ย เพื่อเงิน ไม่ใช่เพื่อแก!! ไอ้เวง

             "ฟรีเดลท์..ฮืออ.." คีฟรวบตัวข้าไปกอดแล้วร้องไห้ ถ้ามันเป็นผู้หญิงนะข้าจะกอดตอบเล้ยยยย แต่นี่มัน...

             "พระเจ้า!! ถ้าหากต้องเป็นแบบนี้ หากไฟชีวิตของข้าที่กำลังลุกโชนคือไฟชีวิตของนาง ก็ขอให้นำมันกลับคืนไปให้นาง ข้าขอคืนเวลานี้ให้กับนาง! โปรดช่วยให้นางรอด ข้าก็ไม่ต้องการเวลานี้อีกแล้ว อย่าช่วงชิงเวลาของนางไปเลย..ข้าขอร้อง" คีฟร้องไห้แล้วตะโกน ไอ้นี่มันอินกะบทดีแฮะ เพื่อเงินเหมือนเราแหงๆ สมแล้วที่เป็นเพื่อนกัน ยอมทุกอย่างเพื่อเงิน

             แล้วเสียงคนพากย์ก็ดังขึ้น "พระเจ้าทรงเห็นใจในความรักที่ทั้งสองมีให้กัน จึงทำให้ฟรีเดลท์ฟื้นขึ้นมา ทั้งสองจึงอยู่ด้วยกันอย่างมีความสุข"

             "อืม..."ข้าค่อยๆลืมตาขึ้นมา แล้วดันคีฟออก(ใจจริงอยากจะถีบไปให้พ้นๆ) เราสองคนมองหน้ากัน แล้วข้าก็ยิ้ม มันก็เลยยิ้มทั้งน้ำตา แล้วมันก็กอดข้าอีกครั้ง ม่านก็ค่อยๆปิดลงมา

             "อ๊ากกกกกกก... ปล่อยได้แล้ว!! ขนลุกที่สุด!!!" ข้าถีบมันออกทันทีที่ม่านแตะพื้น ในที่สุดวันแห่งความซวยของข้าก็จบลงแล้ว...ไชโย!!! ต่อไปก็แค่รอประกาศผล ดึ่ม ดึม ดึ๊ม~ ~

            แล้วเสียงประกาศจากเลนาร์ดก็ดังขึ้น "ต่อไปนี้ขอความร่วมมือจากคนดูทุกท่าน เขียนเรื่องที่ท่านชอบที่สุดลงบนตั๋วเข้าชมการแสดง แล้วนำไปหยอดที่กล่องบริเวณทางออก ขอบคุณครับ" แล้วเลนาร์ดก็เดินเข้ามาทางด้านหลังเวทีพร้อมกับพญามาร(แอนทิส) ข้าล่ะอยากฆ่ามันจริงๆเลย แต่ก่อนอื่นต้องเปลี่ยนชุดโดยด่วนที่สุด...

             "เคนจ๋า..."แอนทิสเรียก ข้าเลยหันไปอย่างเคืองๆ

             "ผลงานใหม่ของนักวาดรูปของข้า เป็นอย่างไรบ้าง?" ข้าก็ไม่ค่อยเข้าใจที่มันพูดนักหรอก แต่แล้วเจ้านั่นก็สะบัดม้วนกระดาษในมือให้คลี่ออก โอ้! แทบช็อครูปของข้า มันเป็นรูปข้า!!!! อ๊ากกกกก...แถมยังเป็นตอนแต่งหน้า ใส่วิกกับกระโปรง ไม่นะ...ให้ตายก็ต้องเอาคืนมาให้ได้

             แอนทิสวิ่งลงไปทางด้านหลังเวทีข้าเลยตามไปทั้งๆยังไม่เปลี่ยนชุดนั่นแหละ วิ่งไม่ถนัดเลยแฮะ เพราะมัวแต่ห่วงชุดข้าเลยไม่ได้สะดุดใจว่าทางลงหลังเวทีมันติดทางออกงานแสดง แล้วก็เป็นไปดังคาด

             "กรี๊ดดดดด...น่ารักจัง"

             "อ๊ะ! นั่นมันคนที่เล่นเป็นฟรีเดลท์นี่"

             ยังไม่ทันรู้สึกตัวข้าก็กลายเป็นเป้าสายตาของคนนับร้อย ผู้หญิงเยอะชะมัดน่ากลัวจริงๆเลย แล้วแอนทิสหายไปไหนแล้วล่ะ? เฮ้ย!

             ในที่สุดข้าก็รอดออกมาจากนรกขุมนั้น เข้าไปยังหลังเวทีได้สำเร็จ ข้าเหวี่ยงวิกผมที่ตอนนี้ยุ่งเหยิงกับชุดรุ่มร่ามบ้าๆนี่ทิ้งในบัดดล แล้วเปลี่ยนมาใส่เสื้อยืดกับกางเกงตัวเดิมของผม รักชุดนี้ที่สุดดดดดด...

             "นี่ พวกเจ้าทำอะไรกันอยู่น่ะ รวมคะแนนเสร็จแล้วนะ" แอนทิสเดินมาเรียกถึงที่ เมื่อกี๊มันมาจากทางไหนกันน่ะ

             อะไรนะ? ไวสุดๆ ยังไม่ครึ่งชั่วโมงเลยนะเนี่ย ไปก็ไปรู้เร็วๆก็ดีเหมือนกัน ข้ากับคีฟและคนอื่นๆไปนั่งรวมกันตรงที่ประกาศผล

             "เอาล่ะนะจะบอกคะแนนตามลำดับละครนะ คะแนนทั้งหมดจะมาจากคนดู 500 คนนะ จะได้ดูยุติธรรมหน่อย  เรื่องแรก  เฮเซลและเกรเทลล์ บ้านขนมปัง 0 คะแนน" โรฟกับเรที่ดูเหมือนจะรู้ตัวอยู่แล้วนั่งหน้าหมองบ่นพึมพำกันเอง น่าสงสารเนอะ  

             "เรื่องที่ 2  ซินเดอเรลลา 112 คะแนน มีคอมเมนท์เขียนมากับใบโหวตบอกว่า 'พระเอกหล่อมากกก...'" เงียบ....คู่นี้เงียบจริงๆนะเนี่ย..

             "เรื่องที่ 3 Sleeping Beauty 56 คะแนน คอมเมนท์บอกว่า 'ดูแล้วขนลุกดีชอบ,เรื่องนี้แนวตลกใช่รึเปล่า?ตลกดี ,กับ มังกรเท่มากเลยครับ' แน่อยู่แล้วก็มันมังกรของจริงนี่นา" รู้สึก2ต๊องนั่นจะอึ้งไปแล้วนะ ดีเหมือนกันนะเนี่ย จะว่าไปมันไปเอามังกรมาจากไหนกันเนี่ย?

             "เรื่องที่ 4 สโนว์ไวท์ 120 คะแนน คอมเมนท์บอกว่า 'นางเอกกับพระเอกน่ารักจังเลย,น่าจะจบซึ้งๆหน่อยนะ,ชอบนางเอกน่ารักมากกก...,แล้วก็เรื่องน่ารักจัง'" แฝดคู่นี้ก็ประหลาดเหมือนเดิม คนน้องนั่นหน้าแดงจนควันออกหูแล้วล่ะมั้งนั่น ส่วนคนพี่ก็เหมือนเดิม -_-+++ ชิ้งๆ

             "เรื่องที่ 5 Ice and Snow ก็ที่เหลืออะนะ 212 คะแนน คอมเมนท์บอกว่า 'ดีที่ยอมเปลี่ยนตัวแสดง เหมาะกับบทมากๆเลย,คนที่เล่นเป็นฟรีเดลท์ เป็นผู้ชายเหรอคะ?,พระเอกหล่อจัง,ซึ้งมากเลย...' ก็อย่างที่ได้ยิน" 

             พระเจ้า ชนะแล้ว!! เราจะได้เงิน 200ล้านนั่น!! คุ้มที่อุตส่าห์ลงทุนจริงๆเลย....

             "เอาล่ะ..ก็คงจะรู้ผลกันแล้วสินะ พอได้และเลิก!" แอนทิสพูด จบง่ายๆอย่างนี้เลยเหรอเนี่ย งงนะ 

             "งั้นพวกเราก็กลับกันเหอะเร..ไงๆก็คุ้มที่ได้มาแล้วอะนะ" โรฟแฝดถึกผู้พี่พูด คนที่ชื่อเรเลยพยักหน้าแล้วเดินตามไป หา?!! มันง่ายไปหน่อยว่ามั้ย? ไม่มีคนเถียงอะไรแอนทิสซักคำเลยเหรอ?

             "อืม..จริงด้วย ยังไงเราก็ได้แสดงความงดงามของเราให้คนไม่รู้ค่าได้เห็นกันแล้ว ใช่มั้ยจ๊ะลิซซี่?" รัศมีต๊องเปล่งประกายยังงี้ไม่หันไปก็รู้ว่าใคร

             "ใช่ค่ะโรดี้ เรากลับกันเถอะค่ะ แบบงดงามนะคะ" ลูกคู่ปิ๊งๆเปล่งประกาย โอย....อย่าไปเข้าใกล้เดี๋ยวติดเชื้อ แฝดหญิงคู่นั้นกับไอ้หล่อหัวขาวกับยากูซ่าถึกนั่นก็กลับออกไปโดยไม่พูดอะไรเลยงงแฮะ...

             "คีฟ นายว่ามันง่ายเกินไปมั้ย? ทำไมกลับกันง่ายจัง?" ผมหันไปถามไอ้ไร้อารมณ์ข้างๆ

             "ก็ว่างั้น..แต่พอถึงเวลาก็รู้เองแหละ...."

    *********-----------------*********-----------------
    จบ~ จบ~ จบ~ จบอีกอันแล้วววววววววว...

    รู้สึกว่าผมจะไม่ได้มาตอบของคอมเมนท์ที่ 128 นะ

    ใช่ครับอันนี้ผมขโมยเรื่องมาจาก D.N.Angle ครับ555+

    ก็มันขี้เกียจแต่งใหม่ทำไงได้ (ก็อยากได้อันที่มันไม่มีฉากจูบอะครับ)
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×