ความสุขที่ผ่านพ้น - ความสุขที่ผ่านพ้น นิยาย ความสุขที่ผ่านพ้น : Dek-D.com - Writer

    ความสุขที่ผ่านพ้น

    ความรักเมื่อมีเข้ามาก็ต้องจากไป อยู่ที่ว่าคุณจะลืมมันได้รึเปล่า

    ผู้เข้าชมรวม

    1,399

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    4

    ผู้เข้าชมรวม


    1.39K

    ความคิดเห็น


    17

    คนติดตาม


    0
    หมวด :  ซึ้งกินใจ
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  16 พ.ค. 49 / 18:51 น.


    ข้อมูลเบื้องต้น
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ
      ความรู้สึกมากมายในชีวิต...

                       พัดผ่านเข้ามาราวกับพายุ...

                       และจากไปในที่สุด....

                       โดยที่เราไม่ทันรู้ตัวเลย.....
      *-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-
                       ผมชื่อเช ตอนนี้อายุ 28 ปีครับ ถ้าไม่หลงตัวเองจนเกินไปนัก ผมก็จัดว่าเป็นคนที่หน้าตาดีคนหนึ่งเลยล่ะครับ

                       เมื่อก่อนใครๆต่างก็เรียกผมว่า 'เพลย์บอย' ตัวผมเองก็ไม่ได้คิดอะไรกับคำด่าทอเหล่านั้น ไม่เคยสนใจกับความรู้สึกของผู้หญิงที่ผ่านมาในชีวิตด้วยซ้ำ

                       จนกระทั่ง...เธอคนนั้นก้าวเข้ามาในชีวิตของผม  

                       มันเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อ 9 ปีก่อนครับ ตอนนั้นผมยังเป็นแค่ วัยรุ่นที่คิดว่าชีวิตมันก็แค่การก้าวผ่านในหนึ่งวัน ไปมหา'ลัย เที่ยว ทำกิจวัตรประจำวัน แล้วก็หมด

                       และแล้ววันหนึ่งในขณะที่ ผมกำลังเที่ยวกับเพื่อนเหมือนเคย  ก็มีใครคนหนึ่งเดินมาชนกับผมเข้าอย่างจัง แรงจนเราล้มกันไปคนละทาง

                       "โอ๊ย! เจ็บจังเลย" เสียงของเธอดังขึ้น เมื่อผมเห็นว่าคนที่ชนเป็นผู้หญิงจึงรีบลุกขึ้นแล้วส่งมือให้เธอ

                       "เป็นอะไรมากรึเปล่าครับ?" เธอค่อยๆเงยหน้าขึ้นมองผม

                       ผมรู้สึกเหมือนเวลาหยุดนิ่งกับที่ ทำไมผมถึงรู้สึกว่าเธอช่างสวยจังเลยนะ  ผมสีดำออกน้ำตาลของเธอยาวประบ่า ผิวสีขาวอมชมพู นัยน์ตาสีน้ำตาลเข้มของเธอกำลังจ้องตรงมาที่ผม เธอช่างดูบอบบางน่าทะนุถนอม เหลือเกิน

                       ทำไมกันนะผมไม่เคยรู้สึกแบบนี้กับใครมาก่อนเลยในชีวิต

                       เธอเก็บของอย่างร้อนรน แล้วส่งมือให้ผมดึงเธอขึ้น

                       "ขอบคุณมากนะคะ แล้วก็ขอโทษที่ชนค่ะ!" เธอพูดได้แค่นั้นแล้วก็วิ่งจากไปอย่างรวดเร็ว ผมยังคงยืนมองมือของผมที่สัมผัสของเธอยังคงเหลือค้างอยู่ และเรื่องในตอนนั้นก็เป็นหัวข้อสนทนาระหว่างเพื่อนๆผมตลอดตลอดสัปดาห์

                       ในตอนที่เธอรีบร้อนวิ่งจากไป ผมเห็นอะไรสักอย่างบนพื้น มันเป็นกระเป๋าหิ้วใบเล็กๆสีชมพู มันคงจะเป็นของเธอแน่เลย

                       ในวันนั้นเมื่อกลับไปถึงบ้าน ผมก็โทรไปตามเบอร์ที่บันทึกอยู่ในโทรศัพท์มือถือของเธออย่างรวดเร็ว

                       "ฮัลโหล ไม่ทราบว่าต้องการเรียนสายใครคะ?" เสียงคู่สายดังขึ้น ผมจำได้ในทันทีว่าเป็นเสียงของเธอ

                       "ครับ คือผมเป็นคนที่ชนกับคุณวันนี้น่ะครับ คือ คุณทำกระเป๋าตกไว้น่ะครับ ผมเลยถือวิสาสะเก็บไว้"

                       "อ๋อ คุณเองเหรอคะ ฉันกำลังหาอยู่พอดีเลยค่ะ ขอบคุณมากนะคะ"

                       "ครับไม่ทราบว่าอยากให้นำไปคืนที่ไหนดีครับ?" ผมถามออกไปด้วยความดีใจที่จะได้พบกับเธออีกครั้ง

                       "อืม..พรุ่งนี้ 9 โมงที่เซนเตอร์พอยน์ ลานน้ำพุดีมั้ยคะ?"

                       " ครับ! ได้ครับ!!" ผมรีบตอบตกลงอย่างรวดเร็ว

                       เช้าวันถัดมาผมรีบแต่งตัวและออกจากบ้านไป ตั้งแต่ 8 โมงเช้าเพื่อยืนรอเธอสำหรับใครหลายคนผมอาจดูบ้า แต่สำหรับผมเองแล้วมันไม่มีสิ่งใดสำคัญเท่ากับได้พบกับเธออีกครั้ง

                       เมื่อเวลาล่วงเลยไปจนถึง 9 โมง เธอก็วิ่งมาหยุดอยู่ตรงหน้าผม ใบหน้าเปื้อนรอยยิ้ม ที่หอบเล็กน้อยเงยขึ้นมองผม  ให้ตายเถอะทำไมเธอถึงน่ารักขนาดนี้นะ

                       "นี่..กระเป๋าของคุณครับ" ผมส่งกระเป๋าให้เธอโดยที่ยังคงจ้องเธออย่างไม่วางตา

                       "ขอบคุณมากนะคะ ถ้ามีอะไรที่ฉันช่วยได้ก็บอกนะคะ เพื่อเป็นการตอบแทนที่ช่วยเก็บกระเป๋าไว้ให้ไงคะ"

                       ผมจะไม่ปล่อยให้โอกาสนี้ผ่านไปเด็ดขาด "เอ่อ...ช่วย..กรุณาเป็นเพื่อนกับผมได้รึเปล่าครับ!?"

                       เธอจะต้องคิดว่าผมบ้าแน่ๆ แต่มันไม่เป็นตามที่ผมคาดไว้แม้แต่น้อย เธอส่งยิ้มให้ผม แล้วพูดว่า

                       "ง่ายๆแค่นี้ทำไมจะไม่ได้ล่ะคะ  ฉันชื่อ 'ฟ้า' อายุ 19 มหา'ลัยจุฬา คุณชื่ออะไรเหรอคะ?"

                       ตอนนั้นผมรู้สึกเหมือนหัวใจจะระเบิดออกมานอกอก "ผม..ผมชื่อเชครับ!! อายุ 19 มหา'ลัยเดียวกัน"

                       "บังเอิญจังเลยนะ งั้นเรียกเชเฉยๆได้มั้ยคะ?"

                       "ได้ครับ งั้นผมก็ขอเรียกคุณว่าฟ้านะครับ เอ่อ...ไหนๆวันนี้ก็ออกมาแล้ว เราไปเดินเที่ยวทำความรู้จักกันมั้ยครับ?"

                       "ก็ได้ค่ะ"ฟ้าตอบผม

                       วันนั้นผมไปเที่ยวกับเธอทั้งวัน ช่างเป็นวันที่ผ่านไปรวดเร็วเหลือเกิน ในวันนั้นผมได้รู้ว่า เธอยังไม่เคยมีแฟน และแทบจะไม่มีเพื่อนเลยด้วยซ้ำ เธอจึงดีใจที่ผมขอเป็นเพื่อน แล้วตึกของคณะเธอก็อยู่ใกล้ๆกับคณะผม ในวันนั้นเองเราก็แลกเบอร์โทรศัพท์กัน

                       ในวันต่อๆมา เราก็พบกันบ่อยขึ้น พอๆกับความสนิทสนมที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ แต่เราก็ยังไม่เคย คิดกันเกินเลยกว่าเพื่อนเลยสักครั้ง

                       ตั้งแต่ที่ผมได้เข้าใกล้ฟ้า ผมก็เปลี่ยนไป ผมเลิกนิสัยที่ทำให้ใครๆก็ขนานนามว่าเพลย์บอยได้  นิสัยที่เป็นคนใจร้อนของผมก็หายไป เมื่ออยู่กับเธอมันทำให้ผมได้รู้จักหลายสิ่งหลายอย่าง ที่แฝงอยู่ในตัวตนของผม จากมุมมองของเธอ

                       ในทางกลับกันผมก็ได้รู้จักตัวฟ้ามากขึ้นจากมุมมองของผมเช่นกัน เธอเป็นคนขี้อายแต่ก็เข้มแข็ง เป็นคนที่งอนง่ายแต่ก็หายเร็ว ชอบของหวานแทบทุกชนิดเลยก็ว่าได้ และอีกอย่างเธอเป็นคนตื่นสายเวลานัดใครเลยต้องรีบวิ่งมาเสมอๆ

                       วันที่รับปริญญาเราได้ถ่ายรูปคู่เก็บไว้ ผมเอามันไปอัดกรอบเก็บไว้เลยด้วยซ้ำ

                       เมื่อเวลาผ่านไปเรื่อยๆ ความรู้สึกในความเป็นเพื่อนที่ผมมีให้เธอเริ่มเปลี่ยนแปลงไป  ผมก็ไม่เข้าใจเหมือนกัน ความรู้สึกนี้ไม่เคยเกิดขึ้นกับใครมาก่อนในชีวิตผม ความรู้สึกนี้มันชักจะเอ่อล้นขึ้นทุกที  เธอจะคิดเหมือนผมบ้างรึเปล่านะ

                       หลังจากเรียนจบเราก็ไม่ค่อยจะได้พบกันเท่าไร  เพราะทำงานกันคนละที่ แต่ก็ยังนัดเจอกันทุกเดือน  ถึงจะไม่ค่อยได้พบกัน แต่ความรู้สึกที่ผมมีต่อฟ้ามันไม่ได้จืดจางลงเลยสักนิด มันกลับเพิ่มขึ้นอย่างไม่น่าเชื่อ ผมจะทำอย่างไรดี

                       เวลาผ่านไปร่วมปี ในที่ทำงานผมได้รับความสำเร็จอย่างไม่น่าเชื่อ ผมได้รับเลือกให้เป็นผู้จัดการด้วยอายุเพียง 23 ปี  ในวันนั้นผมโทรเรียกเธอออกมา เพื่อฉลองตำแหน่งและบอกความในใจ

                       ในวันนั้นฟ้ามาตามนัดในชุดกระโปรงสีขาว ตั้งแต่เราพบกันเมื่อ 4 ปีก่อนความน่ารักของเธอไม่ได้น้อยลงเลยตามความคิดของผม เธอยังคงสดใสเหมือนเดิม

                       "เช ยินดีด้วยนะ!" ฟ้าพูดพร้อมกับยื่นของขวัญกล่องเล็กๆให้ผม ข้างในเป็นนาฬิกาสีเงินเรือนสวย

                       "ชอบรึเปล่าฉัน เลือกตั้งนานนะ ไม่ค่อยจะมีเงินเท่าไร ฉันเลยให้ได้แค่นี้"

                       ไม่เลยมันไม่ใช่ของแค่นี้หรอก มันมีความหมายกับผมมากทีเดียว ผมถอดนาฬิกาเรือนเก่าออกแล้วสวมเรือนที่เธอให้ลงไปแทน

                       "ขอบใจมากนะฟ้า ฉันจะรักษามันอย่างดีเลย" ใช่อย่างดีชั่วชีวิต...ผมให้คำมั่นกับตัวเอง

                       ผมส่งกล่องของขวัญกล่องหนึ่งให้ฟ้า ข้างในนั้นมีแหวนเงินประดับเพชรวงหนึ่ง เธอรับไปเปิดดูด้วยสีหน้างงๆ

                       "ฟ้า..ฉันรักเธอ...รักมากมานานแล้ว แต่งงานกับฉันเถอะนะ" ในที่สุดผมก็เก็บมันไว้ไม่ได้ผมพูดออกไป ผมคงต้องผิดหวังแน่ๆ เพราะเธอคงไม่เคยคิดกับผมมากกว่าคำว่า 'เพื่อนสนิท'

                       แต่ฟ้ากลับส่งยิ้มให้ผม แล้วสวมแหวนของผมลงบนนิ้วนางข้างซ้ายของเธอ

                       "ดีใจจังเลยเช ฉันไม่นึกเลยนะว่าเราจะคิดเหมือนกัน ฉันคิดมาตลอดว่าเธอคงไม่คิดกับฉันเกินเพื่อน"

                       อะไรกัน ผมไม่ได้ฝันไปใช่มั้ย? เราใจตรงกันเหรอ? อา...ผมดีใจแทบคลั่งที่เราคิดเหมือนกัน ทำไมผมถึงไม่เคยคิดจะบอกกับเธอจนถึงตอนนี้เลยนะ

                   "ถ้าอย่างนั้นเราจะอยู่ด้วยกันตลอดไป ใช่รึเปล่า?" ผมถามเธอเพื่อพิสูจน์ว่าไม่ได้ฝันไป

                       "อืม...เช..เราจะอยู่ด้วยกันตลอดไปนะ" ฟ้าตอบผมด้วยรอยยิ้มปนน้ำตา

                       จากวันนั้นเราก็พบกันบ่อยขึ้น เพื่อจัดเตรียมการแต่งงาน มันเป็นช่วงเวลาที่ผมรู้สึกเปี่ยมไปด้วยความสุขอย่างบอกไม่ถูก

                       เราทั้งคู่ไปเลือกแหวนด้วยกัน เลือกชุดแต่งงาน การ์ด ของชำร่วย ถ่ายรูปคู่ ผมคงหาช่วงเวลาที่มีความสุขเท่าตอนนี้ไม่ได้อีกแล้วในชีวิต...

                       ไม่สิ..ผมคงจะต้องมีความสุขมากกว่านี้ หากได้แต่งงานกับเธอ ใช่...หากผมได้แต่งงานกับเธอ....

                       วันแห่งความสุขของผมใกล้เข้ามาเรื่อยๆ  ผมเฝ้ารอวันๆนั้นอย่างใจจดใจจ่อ และผมก็เชื่อว่าเธอคงไม่ต่างกันนัก

                       และแล้ววันที่ไม่ได้คาดฝันก็มาถึง วันนั้นเป็นวันก่อนการแต่งงานของผมกับเธอ วันนั้นเรานัดกันออกมาระลึกความหลังตรงที่ๆเราพบกันครั้งแรก

                       ผมยืนรอฟ้าตรงหน้าลานน้ำพุ เธอกำลังจะเดินข้ามถนนมาหาผม  แต่แล้วสิ่งที่ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น รถคันหนึ่งวิ่งตรงมาทางเธออย่างรวดเร็ว  
        
                       ร่างของเธอลอยขึ้นตามแรงชนของรถ รถคันนั้นขับหนีไปอย่างรวดเร็ว ผู้คนยกเว้นผมกรูเข้าไปล้อมรอบร่างของเธอ

                       มันเกิดขึ้นเร็วจนผมไม่ทันตั้งตัว ผมได้แต่ยืนนิ่งอึ้ง ไม่รับรู้ถึงสิ่งรอบตัว จนมีคนๆหนึ่งมาชนผมจนล้มลง

                       ผมรีบวิ่งไปยังร่างอันแน่นิ่งของเธอในทันที  ผมช้อนร่างของเธอขึ้นไว้ในอ้อมแขน  น้ำตาไหลราวกับคนเป็นบ้า

                       "ฟ้า!! ฟ้า!! ลืมตาขึ้นสิฟ้า!!!" ผมตบหน้าเธอเบาๆ ด้วยความตกใจ

                       "ฟ้า!!! ลุกขึ้นมานะ เธอล้อฉันเล่นใช่ไหม!? มุขนี้มันเก่าแล้วไม่ขำหรอกนะ..." ผมเริ่มเขย่าตัวเธอ และผมก็เริ่มสังเกตเห็น มือที่เต็มไปด้วยเลือดสีแดงฉานของตัวเอง มันไหลซึมออกมาจากร่างของเธอ

                       "เช...นั่น ธ...เธอ..สินะ"

                       "อืม ใช่! นี่ชั้นเอง! ธ..เธอต้องไม่เป็นอะไรนะ!" เธอตอบผมแล้ว วินาทีนั้นหัวใจผม เต้นราวกับจะหลุดออกมานอกอก

                       "เช..ชั้นคงทำตาม..ส..สัญญา.ที่..แค่กๆ!" เธอสำลักเลือดจนใบหน้าใสนั้นเปรอะเปื้อน

                       "ไม่ต้องพูดอะไรหรอกนะฟ้า ช..ชั้นจะพาเธอไปโรงพยาบาลเดี๋ยวนี้แหละ"

                       "ย..อย่าเลย..มันไม่..ท..ทันหรอก"

                       "อย่าพูดแบบนั้นสิฟ้า! เธอ..เธอ! จะต้องไม่เป็นอะไรแน่ๆ" ในเวลานั้นมันช่างสับสน สับสนจนผมไม่อาจทำอะไรได้เลย

                       "ข..ขอบใจนะเช ขอ..บใจ ส..สำหรับทุกอย่าง..ช..ชั้นรักนายนะ"

                       "ชั้นก็รักเธอนะฟ้า" ผมยิ้มให้เธอทั้งน้ำตา 

                       เธอค่อยๆเอื้อมมือที่เต็มไปด้วยเลือดของตัวเองขึ้นมาสัมผัสหน้าผม 

                       ผมจับมือขาวบางของเธอแนบเข้ากับหน้าของตัวเอง

                       "ย...อย่าทำ...น.หน้า..จ.เจ็บปวดแบบนั้น..เลย..นะเช..."แล้วเธอก็ยิ้มออกมา ทำไมกันนะ?..ทั้งที่เธอก็ยิ้มให้ผมบ่อยครั้ง แต่ราวกับว่าครั้งนี้เป็นรอยยิ้มที่สวยที่สุด ราวกับว่ามันเป็นครั้งสุดท้ายที่เธอจะยิ้มให้กับผมแบบนี้...
                      
                       มือขาวบางของฟ้าตกลง มันลื่นหลุดจากมือของผม แล้วตกลงแนบกับร่างที่เต็มไปด้วยเลือดของเธอ เปลือกตาของเธอค่อยๆปิดลง

                       ผมกระชับค่อยๆร่างของเธอเข้ามาไว้ในอ้อมแขนช้าๆ แล้วเริ่มกอดร่างไร้ชีวิตของเธออย่างแนบแน่น ราวกับว่ามันจะสูญสลายไปตรงหน้า... 

                       "มันต้องไม่เป็นแบบนี้สิ พรุ่งนี้มันจะเป็นวันแต่งงานของเราไม่ใช่เหรอ  เธอจะรีบจากชั้นไปทำไมกัน?"

                       ผมยังคงพูดประโยคนั้น ซ้ำไปซ้ำมาราวกับคนเป็นบ้า เธอกำลังจะจากผมไปแล้ว เธอจะผิดสัญญาที่เคยให้ไว้กับผมเหรอ

                       "ไหนว่าเราจะอยู่ด้วยกันตลอดไปไง?..."ไม่มีเสียงตอบจากร่างในอ้อมแขนของผม ผมกอดร่างนั้นแน่นขึ้น น้ำตาพร่างพรูออกมา

                       อารมณ์ในตอนนั้นมันบรรยายออกมาไม่ถูก โกรธ? โมโห? เศร้า? ไม่รู้สิ ผมก็ทำได้เพียงแค่ปล่อยให้น้ำตามันพร่างพรูลงมา อย่างเงียบๆ ท่ามกลางสายตาของผู้คนรอบด้าน

                       ในวันที่ผมควรจะได้แต่งงานกับเธอ กลับกลายเป็นว่าผมต้องมายืนอยู่เบื้องหน้า โลงที่ใช้บรรจุร่างไร้วิญญาณของเธอ ในวันนั้นผมไม่ได้ร้องไห้ น้ำตาของผมมันเหือดแห้งไปหมดแล้ว

                       เมื่อพิธีฝังมาถึง ผมได้ถอดแหวนคู่วงของผมออกและวางมันลงบนร่างไร้ชีวิตของเธอ มือนั้นเย็นชืด ทั้งที่เมื่อวันก่อน มือคู่นี้ยังดูอบอุ่น เจ้าของๆมันยังยิ้มสดใสกับผม ริมฝีปากที่เคยอิ่มเรื่อกลับขาวซีด ช่างดูไร้ชีวิตชีวาต่างจากวันวาน

                       น้ำตาที่เหือดแห้งไปแล้วของผมกับเอ่อล้นอีกครั้ง ผมจับมือซีดเผือดนั้นขึ้นจุมพิต คราวนี้น้ำตาของผมเริ่มไหลอาบแก้ม ผมซบหน้ากับมือคู่นั้นจนเปียกไปหมด แล้วผมก็วางมือคู่นั้นลงกับร่างของเธอ ยืนดูจนโลงของเธอถูกฝังจนมิด

                       จนผู้คนกลับไปหมดแล้ว ผมก็ยังคงทิ้งร่างของผมให้จมอยู่กับความรู้สึกที่เคยมีให้เธอ

                       สายฝนเริ่มโปรยปรายลงมาจากท้องฟ้า ราวกับว่าเธอกำลังร้องไห้ให้กับผม ในที่สุดเธอก็จากอ้อมแขนผมไป ไปสู่ท้องฟ้าผืนนั้นเหมือนดังชื่อของเธอ...

                        อา...ทำไมกันนะ? ที่คนที่จากไปถึงไม่เป็นผม

                       ทำไม...ความรักมันถึงน่าเศร้าเพียงนี้

                       นั่นสินะ...ความรักที่ผมมีมันอาจจะมากเกินไป

                       หรือควรจะบอกว่าเป็นความผิดของรถคันนั้น ที่แย่งชิงทุกอย่างไป....

                       ไม่สิ หรือว่าผมจะไม่ควรพบเธอ..ถ้าผมไม่พบกับเธอบางทีเธออาจไม่ตาย….

                       ความสุขของผมจบลงแล้ว ทำไมถึงเร็วอย่างนี้นะ ถึงแม้เธอจะจากไปแล้ว แต่ในจิตใจผม เธอจะยังคงเป็นคนที่สำคัญอย่างไม่มีใครมาแทนที่ได้    ตลอดกาล.....

      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      ความคิดเห็น

      ×