คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #7 : นิยามรัก...บทที่ 2(5)
"แสดงว่าวินด์รู้ รู้มาตั้งแต่รถชนคราวนั้นแล้วใช่รึเปล่า...รินขอโทษ เพราะรินเอง รินขอโทษ" หญิงสาวในห้องพร่ำรำพันถึงความเจ็บปวด
"ไม่เป็นไร อยากฟังต่อรึเปล่า นานๆทีผมถึงจะพูดอะไรยาวๆนะเนี่ย" เมื่อหญิงสาวพยักหน้าฟังต่อเขาก็เริ่มพูดต่อ...
"ผมถึงได้อยากให้มีใครซักคนมาดูแลเธอ คนที่จะคอยดูแล หใ้ขวัญมีความสุขได้มากกว่าผม เพราะผมรู้ว่าไม่มีสิทธิ์จะรั้งเธอไว้ ผม...ทำเธอเจ็บมานานมากแล้ว ทั้งที่รู้ดีก็ตาม...ถ้าเกิดผมเห็นแก่ตัวรั้งเธอไว้ผมมั่นใจว่าเธอจะอยู่ แล้วขวัญก็จะต้องมาทนลำบากมาดูแลคนตาบอดอย่างผม ในที่สุดขวัญก็จะต้องเสียใจที่เลือกมาใช้ชีวิตอยู่กับผม และผมไม่มีวันต้องการให้เป็นแบบนั้นแน่นอน! เพราะฉะนั้นขอเพียงเธอไม่รู้ ขวัญก็จะไม่ต้องเจ็บปวดอะไรเลย มันดีที่สุดแล้ว..." ...มันสายไปแล้วล่ะวินด์ พอดีฉันแอบฟังอยู่ก็เลยรู้หมดแล้ว และเมื่อน้ำอุ่นๆหยดลงมาโดนมือ ฉันถึงได้รู้ว่า...ฉันกำลังร้องไห้... ให้ตายสิ ฉันไม่เคยระแคะระคายซักนิดว่าเขาตาบอด ไม่เคยเลย ฉันไม่รู้เลยว่าสาเหตุที่เขาพยายามกีดกัน ไม่ให้ฉันมาเยี่ยมเขาก็เพราะแบบนี้...และเหตุผลที่สำคัญที่สุดก็เพราะว่า เขาเองก็รักฉัน...
ฉันไม่อยากอยู่ที่นี่ต่อ ไม่อยากฟังต่ออีกแล้ว เพราะสิ่งที่อยากรู้ก็ได้รู้ ได้ยินจนหมดสิ้นทุกอย่าง...ดังนั้นในยามที่รินรดาที่เดินสะอื้นออกมาคู่กับภควัต ถึงได้ไม่เห็นร่างที่น่าจะยังนั่งอยู่หน้าห้อง ที่เหลืออยู่มีเพียงกระดาษโน้ตแผ่นเล็กที่เจ้าของมีติดตัวไว้เสมอ "ขอบคุณ...ขวัญ"
หลังจากฉันตัดสินใจคบกับพี่ชิน เพื่อให้วินด์สบายใจ และอดขำไม่ได้เมื่อชินกฤตที่เป็นคนเก็บความรู้สึกเก่งอยู่เสมออ้าปากค้่างสีหน้าตกตะลึง...หลังจากเคลียร์งานเรียบร้อย และหลังจากคบกับชายหนุ่มไปได้สักระยะประมาณ 5 เดือนกว่าๆ แล้วก็เชื่อภควันต์สุดหัวใจว่าผู้ชายที่เขายืนยันนั่งยันให้ลองคบดู เป็นผู้ชายที่ดีจริงๆ เป็นสุภาพบุรุษและรักเธอสุดๆ...เขาเคยบอกเธอด้วยซ้ำ...ว่าเขารู้ว่าเธอรักใคร แต่ก็ขอให้พิจารณาเขา เขาจะไม่มีวันทำให้เธอผิดหวัง หญิงสาวโทรนัดผู้ชานที่คงเป็นได้แค่เพื่อนออกมาพบกันที่ร้านอาหารที่เคยมาด้วยกันประจำ เธอมานั่งรอไม่นานนักร่างสูงที่คุ้นเคยก็เดินเข้ามาพร้อมรอยยิ้ม เขากระซิบกับพนักงานหน้าประตูก่อนเดินมุ่งตรงมาที่เธอ...เขาตบตาเธอได้ดีจนเธอแอบคิดว่า เธอเข้าใจผิดรึเปล่าว่าเขาตาบอดน่ะ
"วินด์เป็นไงบ้าง"
"ก็งั้นๆแหละ นี่สั่งอะไรทานรึยัง"
"ยังเลยจ้ะ"
"งั้นขวัญสั่งให้เราทีละกัน ขวัญน่าจะจำได้ไม่ใช่เหรอ"
"จ้าๆ" หลังจากที่เธอสั่งอาหารเสร็จแล้ว ต่างคนก็ต่างกินข้าวอย่างเงียบๆ เงียบเสียจนเกือบได้ยินเสียงลมหายใจของกันและกัน เขาทานอาหารได้ดีไม่มีตกซักเม็ด...กระดาษเขาก็หยิบเอง แก้วน้ำก็วางที่เดิมเรียบร้อย...
"วินด์ ขวัญมีข่าวดีจะบอกล่ะ"
"อะไรเหรอ"
"พี่ชินเขาขอขวัญแต่งงาน" มือที่กำลังหยิบแก้วน้ำขึ้นมาดื่มชะงักค้าง ก่อนกลบเกลื่อนด้วยรอยยิ้ม
"ยินดีด้วยนะ ขวัญตอบตกลงไปรึยังล่ะ" ...หญิงสาวน้ำตาคลอกับคำตอบที่ได้รับ ถึงแม้ว่าจะทำใจไว้
ส่วนหนึ่งแล้ว เพราะรู้ดีว่าคำตอบที่เธอจะได้ยามบอกเขา มันต้องเป็นในรูปแบบนี้ หากดวงใจที่บอบบางก็
ยังคงเจ็บปวดอยู่ดีเมื่อได้รับฟังคำตอบจากปากของเขา...
"ยังเลย..."
"ตกลงไปเลยซี่ เราก็เคยบอกขวัญแล้วนี่ ว่าพี่ชินของขวัญเป็นคนดี..."
"ใช่...พี่ชินเป็นคนดี..." ดวงหน้าใสมีน้ำใสๆไหลตามดวงหน้านั้นไม่หยุดหย่อน คนทั้งร้านหันมามองเป็น
ตาเดียว หากเขายังคงยิ้มอย่างไม่รู้เรื่องรู้ราว เพราะเธอกลั้นเสียงสะอื้นไว้ ในตอนนั้นเองที่เธอแน่ใจเสีย
ยิ่งกว่าแน่ใจว่าเขามองอะไรไม่เห็นเลยจริงๆ ร่างบางเดินไปถามบริกรที่เขาคุยด้วยหน้าร้าน
"เดี๋ยวขวัญขอเข้าห้องน้ำหน่อยนะ" เมื่อเขาพยักหน้า เธอก็เดินตรงไปถาม...แลวคำตบที่ได้ก็ยิ่งทำให้
ร่างบางมีน้ำตามากขึ้น
"น้องคะ เมื่อกี๊ผู้ชายที่นั่งอยู่โต๊ะเดียวกับพี่เขามาพูดอะไรกับน้องเหรอคะ"
"อ๋อ พี่ที่ตาบอดคนนั้นรึเปล่าครับ"
"ใช่จ้ะ"
"เมื่อกี๊เขาถามว่า ผู้หญิงที่อยู่ในรูปที่เขาเอามาให้ดูนั่งโต๊ะอยู่ตรงไหน เดินไปยังไง มีอะไรขวางอยู่บ้าง
ต้องเดินประมาณกี่ก้าว...เขาเป็นคนรักของคุณเหรอครับ เขาน่ารักมากเลยนะครับ เขามาซ้อมเดินที่นี่ทุก
วันเลยตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา แล้วก็มาซ้อมทานอาหารที่นี่ทุกวัน บางวันยังให้ผมไปดูเลยว่าเขากินเลอะเทอะบ้างรึเปล่า...เขาคงกลัวคุณอายล่ะมั้งครับ รักกันมากๆนะครับ" หญิงสาวเดินกลับไปที่โต๊ะของตัวเอง เมื่อนั่งลงแล้ว เธอเอามือปัดผ่านหน้าเขา ดวงตาเขาก็ยังนิ่งเฉย รอยยิ้มยังคงติดอยู่ที่ริมฝีปาก
ความคิดเห็น