คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #6 : นิยามรัก...บทที่ 2(4)
ร่างบางที่เพิ่งออกมาจากห้องกำลังหันหลังกลับเจอเข้ากับรินรดาที่เพิงจะเดินมาพร้อมกับคนรัก... ทั้งคู่ที่แสนจะมีอัธยาศัยดีก็เลยทัก ฟ้าขวัญรีบเช็ดน้ำตาออก
“สวัสดีค่ะ คุณขวัญ เราไม่เจอกันตั้งนานเลยนะคะ” รินรดายิ้มให้พร้อมกับทักทายตามปกติ...
“ค่ะ พอดีขวัญเพิ่งจะได้เข้าทำงานมันก็เลยยุ่งๆหน่อย” ...ใช่ เธอพยายามทำตัวให้ยุ่งอยู่ถึงสองปี ทำงาน
เป็นบ้าเป็นหลังก็เพื่อจะลืมเขา และทุกคนที่เกี่ยวข้องอยู่ข้างกายเขา
“อ้าว แล้วไม่ข้าไปเยี่ยม วินด์เหรอคะ วินด์บ่นหาคุณทุกวันเลยตลอด 2 ปี” ...ร่างบางชะงักกับคำพูดนั้น
“ไม่น่าจะเป็นไปได้ ฉันน่ารำคาญออกจะตายไป เขาไม่มีวันคิดถึงฉันหรอกค่ะ”
“ผิดแล้วนะ วินด์น่ะ...” อยู่ๆเสียงจากคนในห้องก็ดังขึ้น
“พูดอะไรไร้สาระกันข้างหน้าห้องน่ะ จะคุยกันก็เข้ามาในนี้สิ”
“จ้าๆ แหม คุณน้องสามีขา เอาแต่ใจจริงๆเลยนะคะ”
“ขวัญก็เข้ามาคุยข้างในก่อนสิ...” รินรดาชวนเข้าไปในห้องที่เธอเพิ่งจะเดินออกมาทั้งน้ำตาเนี่ยนะ...
บอกได้คำเดียวว่า...ไม่มีทาง หากสิ่งที่ได้แต่คิดนั้นคงจะพูดออกไปไม่ได้ ก็เลยทำได้แต่ยิ้ม
“คงไม่ล่ะค่ะ ขวัญเพิ่งเข้าไปเยี่ยมคุณภควันต์เสร็จ ขวัญขอตัวนะคะ สวัสดีค่ะพี่วัต ไปก่อนนะริน” ก่อนที่
หญิงสาวจะรีบจ้ำอ้าวออกไปให้พ้นอาณาเขตการมองเห็นนั้น...ซึ่งก็ทำให้เธอเลยไม่ได้ยินเสียงอุทานดัง
ลั่นของเพื่อนสาวคนสนิท...เมื่อเธอได้ถามถึงอาการแล้วคนไข้ก็บอกพร้อมรอยยิ้มว่า...เขากลายเป็นคนพิการทางสายตาไปแล้วอย่างสมบูรณ์
หาก รินรดายังคงสงสัยในตัวของเพื่อนรักทั้งสอง ในวันที่ฟ้าขวัญรีบจ้ำอ้าวออกไปให้ไกลจากห้องของภควันต์...มันเกิดอะไรขึ้นนะ...ฟ้าขวัญออกจะเป็นผู้หญิงร่าเริงสดใสยามที่อยู่กับภควันต์ ไม่เคยมีเลยซักครั้งที่อยู่ๆจะเงียบหายไปไม่บอกไม่กล่าวกันแบบนี้...ไอ้ว่าที่น้องสามีนั่นต้องหาเรื่องพูดอะไรขวัญแน่ๆ ...นายนั่นก็ขี้เป็นห่วงเกินไป ทั้งที่ก็ยอมสารภาพกับเธอแล้วว่า เขารักฟ้าขวัญ ไม่ใช่เธอ...รินรดาอีกต่อไปแล้ว หลังจากที่เธอคาดคั้นอย่างหนักหน่วงในระยะเวลาสองปี ที่ผู้หญิงคนนั้นหายหน้าไป ทำไม...เธอจะไม่รู้ว่าผู้หญิงคนนั้นสำคัญแค่ไหน ก็ในเมื่อผู้ชายอบอุ่น อารมณ์ดี เริ่มเงียบลงๆในทุกๆวินาทีที่ไม่มีฟ้าขวัญอยู่ข้างกาย แต่วินด์ก็ดื้อเสียเหลือเกิน เธอทั้งบังคับ ทั้งขู่...เขาก็ไม่เคยก้าวเท้าออกจากบ้านไปหาหญิงสาวอันเป็นที่รัก แล้วผู้หญิงคนนั้นก็ก้าวกลับเข้ามาหาเขาก่อนจริงๆ...
...ว่าแล้วหญิงสาวก็รีบค้นหาเบอร์โทรศัพท์ของยัยเพื่อนรัก ที่ตอนนี้ห่างกันจนเหมือนกับว่าคำว่าเพื่อนรัก กลายเป้นอดีตไปซะแล้ว...ในที่สุดก็หาเจอจนได้ หญิงสาวคิดพร้อมรอยยิ้ม
“สวัสดีค่ะ ขอสายฟ้าขวัญค่ะ”
“พูดอยู่ค่ะ ใครหรือคะ”
“รินเองจ้ะ”
“มีอะไรเหรอ...”
“พูดตรงๆเลยนะ”
“อือฮึ”
“รินอยากรู้ว่าขวัญกับวินด์ทะเลาะอะไรกันอยู่เหรอ”
“เราไม่ได้เป็นคนเริ่มนะ นายนั่นน่ะเริ่มมาว่าขวัญก่อน นายนั่นนะเวลาขวัญไปเยี่ยม ก็ชอบไล่กลับทุกที
ทั้งที่ขวัญตั้งใจไปเยี่ยมแท้ๆ” ร่างบางนั่งนึกน่าเครียดถึงสาเหตุ...หากนึกเท่าไหร่ กี่ข้อๆก็ไม่เหมาะสม...
“พรุ่งนี้ขวัญไปเยี่ยมวินด์อีกวันสิ เผื่อรินจะช่วยแกล้งถามให้วินด์คายคำตอบออกมาได้”
“เอางั้นเหรอ...ก็ได้ งั้นพรุ่งนี้เจอกันนะริน ขอบคุณมากๆ”
“ไม่เป็นไร...รินเองก็เพิ่งรู้ว่าเป็นคนทำลายความรู้สึกของขวัญกับวินด์”
“อย่าคิดมากน่า แค่นี้นะ”
“เดี๋ยว...” รินรดารีบเรียกปลายสายก่อนที่อีกฝ่ายจะวางหูโทรศัพท์
“มีอะไรเหรอ...”
“รินอาจไม่รู้สาเหตุอื่นของวินด์นะ แต่ที่รินรู้แน่ๆคือ เขารักขวัญนะจ๊ะ ราตรีสวัสดิ์นะ” รินรดาไม่รู้หรอก
และไม่มีทางจะรู้เลยว่าคนที่นั่งฟังอยู่ปลายสายนั้นนิ่งค้างไปเกือบๆ 30 วินาทีกับคำพูดนั้น ก่อนส่ายหน้า
อย่างหมดหวัง พึมพำออกมาเบาๆ
“ไม่มีทางหรอกริน...เขาไม่มีทางรักฉันหรอก”
...เพียงบอกรักรักบอกใจให้ละเมอ
เพียงแต่เพ้อเพ้อหลงใหลใจพะวง...
แล้ววันรุ่งขึ้นหญิงสาวก็มาตามคำเรียกร้องพอดี ขณะที่ยืนทำใจอยู่หน้าห้อง ก็ได้ยินเสียงคนเรียกชื่อเลยหันไปมอง...มาแล้วนั่นคู่รักตลอดกาลพันปีดีดักไม่เคยทะเลาะกัน ทำบุญคู่กันด้วยอะไรวะเนี่ย...อิจฉาจริงจริ๊ง เผื่อจะได้ไปทำมั่ง
“ขวัญ ขวัญมาเร็วจังเลย” เธอก็ได้แต่ส่งยิ้ม แหะๆกลับไป...จะบอกได้ยังไงว่าคิดมากจนถึงขั้นนอนไม่
หลับน่ะ...
“ขวัญไม่เข้าไปนะ”
“อ้าว...ทำไมล่ะ”
“ไม่เอาล่ะเดี๋ยวขวัญแอบฟังข้างนอกก็ได้”
“จ้า แล้วจะรีบถามให้นะจ๊ะ...พี่วัต...อ้าวหายไปไหนเนี่ย” แล้วทั้งสองสาวก็ได้พบคำตอบเมื่อชายหนุ่มที่
สุดแสนจะสุภาพบุรุษ ยกเก้าอี้มาให้เธอนั่ง ‘แอบฟัง’ ข้างนอก
“ขอบคุณค่ะ”
“แหม ดีจังเลยนะคะพี่วัต” ...ภควัตได้รับค้อนวงใหญ่ก่อนเข้าไปเยี่ยมน้องก่อนที่จะเดินส่ายหัวอย่าง
ปลงๆด้วยไม่เข้าใจว่าเขาทำผิดอะไร...
“ไงจ๊ะ วินด์ ใกล้จะออกจากโรงพยาบาลแล้วนี่ รินกับพี่วัตซื้อของมาฝากตรึมเลย” ร่างบางตะโกนพูด
เจื้อยแจ้ว หากดวงตากับพยายามจับพิรุธของว่าที่น้องสามีเต็มที่ แล้วก็ได้เห็นสิ่งที่เห็นสมใจอยาก นั่น
คือภาพ ที่คนป่วยกำลังนิ่งเงียบฟังเสียง ราวกับคาดว่าจะให้ใครคนหนึ่งเดินเข้ามาในห้องด้วยประตูนั้น
หากก็ไม่มีใครเดินเข้ามาซักคนเดียว จนเขาอดรนทนไม่ไหวถึงได้เอ่ยปากถาม
“ริน เราได้ยินรินคุยกับใครหน้าห้องน่ะ” รินรดาตอบเฉยๆหากก็ทำให้ชายหนุ่มทั้งสองคนสะดุ้งได้ในพริบตา
“ขวัญน่ะ”
“อ้าวแล้วทำไมขวัญไม่เข้ามาล่ะ”
“ขวัญกลับไปแล้ว”
“เอ๊ะ...”
“เห็นขวัญบอกว่าวินด์เป็นคนไล่ไม่ให้มาเยี่ยมไม่ใช่เรอะ” คนไข้หน้าเสีย
“รินก็ไม่เข้าใจวินด์เหมือนกันว่าทำไมวินด์ถึงต้องไล่ขวัญไม่ให้มาเยี่ยมอยู่เรื่อย ขวัญก็อุตส่าห์มาเยี่ยม
ซื้อของมาฝากแทบทุกวัน ตั้งแต่คราวที่แล้วแล้ว คราวนั้นก็เป็นแบบนี้ ยัยขวัญเลยต้องแอบซื้อมาแล้วฝากคุณพยาบาลเข้ามาให้ในห้อง...รินไม่เข้าใจเลยวินด์ ถ้าวินด์เกลียดขวัญ วินด์รำคาญ...ก็บอกเขาไปตรงๆก็ได้ รินเห็น แล้วรินก็รู้ว่าขวัญเขารักวินด์แค่ไหน ถ้าไม่รัก ก็อย่าสร้างความหวังให้เขาเลยจะดีไหม...” หญิงสาวย้ำคำว่าเกลียดราวกับจะจารลงไปในใจของเขา...แล้วเขาก็ได้คำตอบ...ที่ค้างคาเพราะความไม่แน่ใจอยู่นานสองนาน...เขารักเธอ...เขารักขวัญ รัก...ยิ่งกว่าที่เคยรักรินเสียอีกแต่เขาก็มีเหตุผลของเขา
“ผมรักขวัญ...และเพราะรักผมถึงไม่อยากให้ขวัญมาอยู่ใกล้ๆอีกต่อไป รินก็รู้ว่าตาของผมทั้งสองข้าง
มองไม่เห็นอีกต่อไปแล้ว ยัยนั่นเป็นคนขี้กังวล ขี้เป็นห่วง ถ้าเธอรู้ขวัญจะต้องมาเสียสละตัวเองอยู่ดูแล อยู่ข้างๆผมแน่ๆเหมือนกับใครบางคนที่เคยคิดจะทำ ขวัญเคยบอกว่ารักผม ถ้าดวงตาในตอนนี้ยังคงมองเห็น ผมก็จะบอกเธอไปแล้วว่ารัก...บอกไปว่าผมรักขวัญมากเหลือเกิน แต่ว่าตอนนี้มันมองอะไรไม่เห็นแล้ว มันเห็นอะไรไม่ชัดตั้งแต่อุบัติเหตุคราวนั้น แล้วจะให้ทำยังไง แม้แต่หน้าผู้หญิงที่รักยังมองไม่เห็นจะทำอะไรได้ แล้วจะปกป้องเธอ จะดูแลเธอยังไง ในเมื่อยังดูแลตัวเองแทบไม่รอด...” ถึงตอนนี้คำพูด
ของเขาก็ทำให้ผู้หญิงทั้งสองคนกลั้นสะอื้น...ที่ไม่รู้ ไม่ได้สำนึกถึงความรู้สึกของเขาเลยซักนิด
ความคิดเห็น