ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    108 นิยามรัก

    ลำดับตอนที่ #5 : นิยามรัก บทที่ 2 (3)

    • อัปเดตล่าสุด 12 พ.ย. 49


                        

    หลังจากวันนั้นแม้แต่ในวันที่เขาจะออกจากโรงพยาบาลฉันก็ไม่ได้โผล่หน้าไปอีก แล้วขณะที่ฉันกำลังทำงาน( จบจากมหาวิทยาลัยแล้ว ) ชินกฤต คีรติกัลป์ รุ่นพี่ที่ทำงานขอคบด้วย แต่ฉันก็บอกปัดไป บอกไปว่า ยังไม่พร้อม...ที่จะรัก ไม่ว่าใครก็ตาม หัวใจของฉันมันล้าเกินว่าจะเริ่มต้นรักใครได้อีก...ในตอนนี้ฉันตัดขาดการติดต่อจะ ตระกูล เทวิศกุล มาได้ 2 ปีเต็ม ฉันเองก็พอจะลบเลือนความเจ็บปวดตอนนั้นไปได้บ้างแล้ว


                 ตลอด 2 ปีที่ผ่านมา หลายครั้งหลายหนที่ฉันคิดจะโทรศัพท์ไปหาเขา ไปคุยกับเขา แต่ฉันก็กลัว กลัวเหลือเกินว่าเขาจะไม่รับ...แล้วฉันก็จะเจ็บยิ่งกว่าที่ผ่านมา แล้วอยู่ๆฉันก็ได้ข่าวจากเพื่อนที่เคยเรียนด้วยกันในมหาวิยาลัย ที่ยังคงสนิทกันอยู่ว่า ...เขาตกบันได ตอนนี้นอนขาหักอยู่ที่โรงพยาบาล...ใจเป็นห่วงเขาทันทีที่ได้รู้ แล้วฉัน...ฟ้าขวัญคนนี้ก็สืบเสาะจนเจอ เขาไม่เคยเปลี่ยนไปเลย ร่าเริง ยิ้มง่าย อบอุ่น อ่อนโยนเหมือนเคย...ฉันไปเยี่ยมเขาแทบจะในทันทีที่สืบข่าวและรู้แน่ชัดว่าเขารักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลไหน
    ...เมื่อถึงโรงพยาบาลกลับพบว่า เจอคนไข้นอนเดี้ยงอยู่ในห้องแต่เพียงผู้เดียว


    ดีใจจัง เรานึกแล้วว่าขวัญต้องมา...


    มาแล้วไม่ดีเหรอ...


    เปล่า...ทำงอนไปได้น่า


    เชอะ


    เป็นไงบ้าง ไม่เจอกันตั้งนาน” ...เขารู้รึเปล่า ว่าฉันพยายามหลบหน้าเขาขนาดไหน...และประโยคนี้เองที่ทำให้ตาร้อนผ่าว รู้สึกเหมือนกับหายใจไม่ออก...เพิ่งจะรู้ว่าคิดถึงเขามากแค่ไหน... ฉันพยายามบังคับเสียงให้ไม่สั่น แต่ก็คงทำได้ไม่ดีเท่าที่ควร


    ก็ดี สบายดี อ้วนขึ้นด้วยเขาหัวเราะลั่น


    ดูไม่ค่อยออกเลยนะ...ขวัญมายืนใกล้ๆหน่อยสิ พูดเสียงเบาแล้วเราไม่ได้ยินเลยฉันเดินเข้ามาใกล้
    เขาอีกนิดนึง ทันทีที่ฉันเข้ามาใกล้ปุ๊บ เขาก็เอื้อมมือมาคว้ามือฉันไว้แล้วเกลี่ยน้ำตาให้ฉัน เขารู้ได้ไงว่าฉันร้องไห้ (วะ?)


    ร้องทำไมเนี่ย


    ไม่ได้ร้องซักหน่อย วินด์คิดไปเองน่ะแหละ


    ได้ข่าวว่ามีหนุ่มมาจีบเหรอ ขวัญ” ...คราวนี้ฉันชะงักค้าง เขารู้ได้ยังไง ต้องมีคนบอกแน่ๆ...แล้วจะเป็น
    ใคร...ถ้าไม่ใช่ยัยมูน...ไอ้เพื่อนทรยศ


    มูนล่ะสิ ที่คาบข่าวมาบอกน่ะ...”


    อย่าไปว่ามูนเลย เราถามมูนเองน่ะ” ...เห็นว่ามูนเป้นเพื่อนทั้งตอนเรียนและตอนทำงานก็เลยเล่าทุกอ
    ย่างยัยนี่ ...วันหลังต้องอย่าลืมไปเฉ่ง


    ข่าวที่วินด์ได้มันก็ไม่ผิดหรอก เขาเป็นรุ่นพี่ที่ทำงาน ชื่อ ชินกฤต


    แล้วตกลงไปรึยัง


    ยัง ทำไม?


    ก็กำลังคิดว่าน่าจะตกลงคบกันซะไงล่ะ เขาก็เป็นคนดี...” ...รู้ได้ไงว่าพี่ชินเป็นคนดีในเมื่อเขาก็ไม่รู้จัก
    และเธอก็ไม่ได้รั้งรอที่จะถาม


    วินด์รู้ได้ยังไงว่าพี่ชินเป็นคนดีเธอเห็นเขาชะงัก


    อย่าบอกนะ ว่าวินด์ไปสืบมาเขาหัวเราะเก้อๆ...


    สีบทำไมเนี่ย ...แล้วตกลงรู้อะไรบ้าง บอกมาให้หมดเดี๋ยวนี้


    ก็รู้นิดหน่อย...แค่ชื่อ นามสกุล ประวัติส่วนตัว ลักษณะนิสัย ครอบครัวเป็นยังไง ทำงานที่ไหน มีกิ๊กที่

    ไหนบ้างรึเปล่า... ก็แค่เนี๊ย ไม่เห็นต้องโกรธ
    ” ...หญิงสาวอ้าปากค้าง


    ทั้งหมดนี่นิดหน่อยเหรอ ห๊ะ จะบ้าตาย...เดี๋ยวเกิดเจอหน้าพี่ชินจะทำหน้ายังไงดีเนี่ย...


    จะไปเจอเหรอ


    อยู่แล้วสิ เขานัดเดทบ่อยไป แต่ว่ายังไงวันนี้ก็ฟรีจ้ะ เพื่อวินด์ เราเคลียร์นัดทั้งหมดได้ภายใน 5 นาที


    แล้วมีนัดกับพี่ชินของขวัญด้วยรึเปล่า


    ก็มีนะ...แต่ไม่ไป อยู่กับวินด์มีความสุขกว่า


    ไปเถอะ...ขวัญ


    อะไรนะ !”


    เราบอกให้ขวัญไปเดทกับพี่ชินของขวัญเถอะ แล้วไม่ต้องมาที่นี่อีก


    เอ๊ะ ! นายจะบ้ารึไงวินด์ ถึงจะไม่รักกันก็ไม่เห็นต้องไล่กันแบบนี้ก็ได้


    ไม่ใช่นะ


    ไม่ใช่อะไร นายรังเกียจฉันอยู่เห็นๆ ไล่ฉันทุกครั้งที่มาเยี่ยมทั้งคราวนี้และคราวที่แล้ว ฉันมาเยี่ยมแล้วมันเป็นยังไง มันน่ารำคาญนักใช่ไหม นายรำคาญฉันใช่รึเปล่า...” ...เธอเน้นย้ำคำว่า รังเกียจกับ น่ารำคาญเพื่อให้เขาได้รู้ว่า เขากำลังทำให้เธอเจ็บ...


    เราขอโทษ” ...ทว่า คำขอโทษของเขารั้งอารมณ์เธอไว้ไม่ได้แล้ว


    ขอโทษเรื่องอะไร ขอโทษที่ว่าเรา ที่ไล่เรา หรือว่า ขอโทษที่นายไม่เคยรักเราเลยเขาเมินหน้า
    หนีไปในทางที่ไม่มีเธอ


    ขอโทษ...ทุกอย่าง” ...คำตอบนั้นทำให้ร่างบางชะงัก สติที่โบยบินหายไปกลับมาครบสมบูรณ์...


    ฉันขอโทษคราวนี้เขาขมวดคิ้วกลับมามองเธอ


    ฉันขอโทษที่ชอบมาวุ่นวาย ขอโทษจริงๆ จากนี้ไป จะไม่มี...ไม่มีอีกแล้ว ขอโทษด้วยนะ...หญิงสาวกลืนก้อนสะอื้นพูดประโยคยาวแสนยาวในความรู้สึกออกมาก่อนเดินออกไปจากห้อง โดยที่เขา...ไม่พูดอะไรออกมาซักคำเดียว ได้แต่หันหน้าไปทางหน้าต่าง ด้วยสีหน้าอันไร้ความรู้สึก...แม้ว่าเธอจะยังหันกลับมามองเขาอีกครั้งก่อนปิดประตู เพราะคาดหวังให้เขาเรียกเธอ...รั้งเธอไว้...แต่นี่เขาไม่ทำอะไรเลย ไม่แม้แต้จะขยับตัวซักนิดเดียว


               
    หญิงสาวที่เพิ่งจะเดินออกจากห้องไป จะไม่มีวันรู้เลยว่า...ร่างสูงที่นั่งกึ่งนอนบนเตียงในห้องผู้ป่วยนั้น กำลังมองท้องฟ้าด้วยสีหน้าอันเจ็บปวด ดวงตาคู่นั้นเฉยเมย หากทว่า...กลับมีน้ำใสๆไหลจากดวงตาคู่นั้น ดวงตา...ที่จะไม่มีวันมองเห็นหน้าเธอได้อีกต่อไป!

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×