ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Grey Love รักสีจาง (kyuryeo)

    ลำดับตอนที่ #4 : ดินเนอร์แสนโรแมนติก---สองรักสามคน

    • อัปเดตล่าสุด 3 เม.ย. 54


    3
    หลังจากที่ร่ำลากับร่างสูงแล้ว ร่างบางกับสามคน ก็รีบไปเปลี่ยนชุดก่อนจะนั่งรถกลับบ้าน
    “เดี๋ยวพรุ่งนี้เรามาทำงานนี้อีกดีกว่า” ทั้งสามพูดพร้อมกัน
    “แล้วนายจะมาทำได้ยังไงพ่อแม่จะไม่ว่าหรอ”
    “ชุดพวกนั้นน่ะ ออกแบบจากสไตล์ลิสต์ที่เป็นอาของพวกฉัน ไม่มีปัญหาหรอก”
    “อืมจ๊ะ งั้นถึงบ้านฉันแล้ว ฉันไปนะเจอกันพรุ่งนี้”
    หลังจากที่ขึ้นบ้านแล้ว ร่างเล็กรีบอาบน้ำแม้ว่าจะไม่มีเครื่องทำน้ำอุ่น แต่ร่างเล็กก็ยังจะอาบก่อนจะจัดแจงให้ตัดเองอยู่ในชุดนอน ไฟดับลงพร้อมกับรอยยิ้มหลังจากได้เห็นร่างสูงที่โหดกับเขา ทำท่าเงอะงะเหมือนคนที่ทำอะไรไม่ถูกโดยที่ไม่รู้ว่าเรนนี่กับเขาคือคนๆเดียวกัน ในขณะเดียวกันร่างสูง ไม่สามารถหลับลงได้ เห็นแต่ใบหน้าสาวน้อยที่ยิ้มละไมช่างดูสดใสเป็นที่สุด สักวันหนึ่งเขาขอเธอเป็นแฟนให้จนได้ และในขณะเดียวกันกลับคิดถึงร่างเล็กที่ดูกลัวเขาเหลือเกิน
    .....................................................................................................................................................
    วันนี้ก็เป็นอีกวันที่เขาจะทำงานนี้ ทั้งสี่อยู่ในชุดหวานๆ สไตล์ society ชุดออกงานน่ารักๆ ดูเหมาะกับทั้งสี่คนมากๆ ตั้งแต่เดินออกมาไม่มีหนุ่มคนไหนไม่ละมามองสาวน้อยทั้งสี่ ผู้ที่ได้รับการเล่าลือจากแขกเมื่อวานว่าคือ 4 angles สาวน้อยทั้งสี่ที่พร้อมจะขยี้ใจด้วยบุคลิกที่แตกต่าง “เรนนี่ ผู้ไร้เดียงสา” “ซินดี้ สุดสดใส” “เดย์ลี่ แสนขี้อาย” และ  ”เจสซี่ ที่น่าถนุถนอม”  แต่วันนี้พวกเขาก็ไม่ได้รับแขกหรอก เพราะมีลูกค้ารายใหญ่ที่เหมาพวกเขาไป      ดินเนอร์นอกสถานที่ ซึ่งไม่ใช้ใครที่ไหนนอกจาก ชายหนุ่มที่พวกเขาได้หว่านเสน่ห์ใส่ไปเมื่อคืน ซีวอนเดินเข้าไปคุกเข่าตรงหน้าของสาวน้อยในชุดสีขาวสายเดี่ยว
    “ผมซีวอนเองนะ ผมขอเชิญคุณเจสซี่ไปรับประทานอาหารกับผมนะครับ” ริมฝีปากอิ่มสีเชอร์รี่ยิ้มเหมือนเป็นการอนุญาติ ก่อนจะขึ้นไปนั่งรถนำเข้าสีเงาดำโดยที่ซีวอนเป็นคนเปิดประตูให้ คิบอมส่งรอยยิ้มอบอุ่นให้กับสาวน้อยในชุดแซ็กสีฟ้าอ่อนที่ดูเหมือนจะเขินๆเล็กน้อย คิบอมโค้งลำตัวลงไป
    “ได้มั๊ยครับ คุณเดย์ลี่?” สาวหมวยไม่ได้ตอบอะไรเหมือนกับว่าทั้งสองสื่อกันด้วยใจ ก่อนจะขึ้นรถที่หรูไม่แพ้เบนซ์ เยซองเอามือของตนไปสัมผัสมือของเด็กสาวในชุดสีชมพู ที่มีแขนปิดไหล่เพียงเล็กน้อย
    “วันนี้ซินดี้น่ารักจังเลยครับ ทานข้าวกับเยซองสักมื้อนะ” คนแก้มกระติกจูงเมือของร่างอวบไปที่รถ
    ตอนนี้ก็เหลือแต่.......คยูฮยอนและร่างเล็ก
    ร่างสูงก้าวเท้าเข้าไปดอกกุหลาบสีแดงสดในช่อถูกยื่นให้กับร่างเล็กในชุดโปร่งยาวพอดีเข่าสีครีมที่มีผ้าคาดเอวเข้มกว้าเสื้อเล็กน้อย
    “เรนนี่...สวยมากเลยทานข้าวกับผมนะครับ”
    “ดอกไม้สวยจัง ขอบคุณคะ คยูฮยอน” เพียงแค่เธอเปล่งลมปากของเธอไม่กี่ครั้งทำเอาใจของร่างสูงหวั่นไหว ก่อนจะพาไปขึ้นรถแล้วขับออกไป
    ร้านนี้ดูหรูและค่อนข้างเป็นส่วนตัวเอามากๆ หลังจากที่รับประทานอาหารเสร็จร่างเล็กก็ขอตัวออกมาดูสวนภายนอกกลางสวนมีศาลาแบบโรมัน โดยมีร่างสูงเดินตามมาด้วย เสียงเพลงจังหวะช้าๆยังคลอตามมาเรื่อยๆ ร่างเล็กจูงมือร่างสูงไปที่ศาลาตรงกลาง
    “เต้นรำกันนะ” ร่างเล็กพูดเสียงใส มือของทั้งสองประสานกันตาที่สบมองกัน หัวใจของร่างสูงตอนนี้เต้นโครมครามไม่หยุดหย่อน ทั้งคู่เต้นรำไปเรื่อยๆจนถึงเวลาที่เขาต้องเอากลับไปส่งที่ร้านก่อนจะจ่ายเงินค่าพาไปนอกสถานที่ ในระหว่างที่ร่างสูงจะกลับไปที่รถ
    “เดี๋ยวก่อนคะ คยูฮยอน” ร่างเล็กเดิมตามร่างสูงมา
    “ขอบคุณนะคะ สำหรับมื้อค่ำ แล้วนี่เป็นรางวัลคะ จุ๊บ” ร่างเล็กประริมฝีปากนุ่มลงบนแก้มของชายหนุ่ม เขาเริ่มจะทำอะไรไม่ถูกซะแล้ว
    “งะ..งั้นฉันกลับบ้านก่อนนะ ฝ..ฝันดี” ร่างเล็กได้แต่อมยิ้มจนถึงกลับบ้าน เขาไม่เคยนึกเลยกลางวันเนี้ยโหดซะไม่มีใช้งานเขาสาระพัด วิ่งนู่นนี่แต่ตอนกลางคืนกลายเป็นผู้ชายที่อบอุ่น และดูเงอะงะอย่างไม่หน้าเชื่อ คิดแล้วก็ได้แต่ขำ
    ........................................................................................................................................
    ผ่านไปอาทิตย์หนึ่งแล้วหลังจากโดนคยูฮยอนให้มาเป็นเบ๊ เขาเหนื่อยที่จะต้องวิ่งเอกสารทุกอย่าง แต่เวลาว่างเขามักจะชอบแอบมองร่างสูงที่กำลังอ่านเอกสารก่อนที่จะเซ็นมัน ในเวลากลางคืนเขาก็จะเห็นคยูฮยอนในคราบของผู้ชายที่อบอุ่น วันนี้ร้านปิด สามแฝดก็ไม่ค่อยสบาย วันนี้เดินกลับเองดีกว่า ว่าแล้ว เวลาเย็นก็มาถึง คยูฮยอนก็คงจะกลับบ้านไปแล้ว แถมอีกไม่นานฝนก็คงจะตกรีบกลับดีกว่า ช่วงโพล้เพล้ของวันตรอกซอยที่ดูทะมึนๆ ฝนที่ตกลงมาทำให้ชุดนักเรียนบางๆแนบกับตัวเขา
    “ไงน้องสาว” เสียงกวนๆออกมาจะซอย ร่างเล็กไม่ได้ตอบอะไร แต่เดินไป ก่อนที่มือใหญ่ๆจะกระชากร่างเล็กเข้าไปในตรอกนั้น ก่อนจะฉีกชุดนักเรียนตัวบางออก
    “ไม่ใช่ผู้หญิงหรอกหรอ แต่ไม่เป็นไรแทนกันได้” ใบหน้าของชายหนุ่มสูดดมที่แก้มแล้วซักไซร้ไปที่คออย่างลุ่มหลง ร่างเล็กได้แต่ร้องไห้อ้อนวอนให้เขาหยุด ทันใดนั้นมือมือหนึ่งก็กระชากชายหนุ่มคนนั้นออกไป ร่างเล็กหันหน้าไปปะทะกับชายหนุ่มก็ต้องเปล่งเสียงออกมาด้วยความตกใจ
    “คุณคยูฮยอน!” ร่างสูงมองร่างเล็ก
    “เจ็บตรงไหนบ้างมั๊ยเรียววุค” น้ำเสียงทุ้มถูกเปล่งออกมาที่แฝงความห่วงใยอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน ในเวลาไม่กี่นาทีร่างสูงก็สามารถจัดการกับชายหนุ่มคนนั้นและพรรคพวกที่ตามมาได้ทั้งหมดเสื้อนอกถูก แล้วเอาไปสวมให้กับร่างเปลือยท่อนบนของร่างเล็ก
    “บ้านนายอยู่ไหนเดี๋ยว ฉันพากลับ”
    ในห้องขนาดเล็ก ร่างเล็กหลังจากอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าก็หลับไป ร่างสูงที่อาบน้ำแล้วเปลี่ยนเสื้อผ้าที่ร่างเล็กไปซื้อมาผิดขนาด ร่างสูงก้มมองใบหน้าเนียนใส ที่ไม่มีกรอบแว่นนั่นมาบังตา ร่างเล็กละเมอเบาๆกับเรื่องที่เกิดขึ้นไม่นานมานี้ อะไรไม่รู้ดลใจให้เขาก้มลงไปจูบที่หน้าผากของร่างเล็ก เหมือนเป็นการ        ปลอบขวัญก่อนจะห่มผ้าให้ ที่เขาไปอยู่แถวๆนั้นก็เพราะตามร่างเล็กไป เขารู้สึกว่าเป็นห่วงยังไงก็ไม่รู้ คิดแล้วก็ปวดหัว เขากลับบ้านแล้วกัน
    วันต่อมา...
    ในห้องของไนท์ วันนี้มีอะไรผิดปกตินั้นก็คือ...คือ... คืออออออ คยูฮยอนไม่มาโรงเรียน!!!!
    เป็นอะไรที่มีแต่คนช๊อคถึงขั้นทำอะไรชะงักไปหมด พ่อบ้านของคยูฮยอนโทรมาบอกว่าเขาป่วย!!! พระเจ้าคนอย่างคยูฮยอนป่วยเป็นด้วยหรอ ทุกคนต่างคิดแบบนี้จนกลายเป็นเรื่องถกกัน ร่างเล็กเองเริ่มเป็นห่วงร่างสูงโดยไม่รู้สาเหตุ ใช่ซิเมื่อวานเขาเอาเสื้อคลุมมาคลุมให้เรา ถึงได้เป็นไข้ ไม่ได้แล้วต้องรีบไปหา
    “คุณเยซองครับ” ร่างเล็กเรียกเยซองที่กำลังดูรูปเพื่อนเขาที่กำลังกินซุปฟักทองในตอนนั้นจากโทรศัพท์
    “มีอะไรหรอ”
    “ช่วยพาผมไปบ้านของคุณคยูฮยอน จะได้มั๊ยครับ”
    ...................................................................................................................................................
    ตัวบ้านที่ดูใหญ่โตขนานหนัก พ่อบ้านยุนโฮ เดินนำเขาเพื่อพาไปที่ห้องของคยูฮยอน
    “ถึงแล้วครับ”
    “ขอบคุณมากนะครับ” ก่อนที่ร่างบางจะเคาะประตูพ่อบ้านยุนโฮได้จับไหล่ของเขาเอาไว้ก่อนร่างเล็ก
    “คุณเรียววุคครับช่วยดูแลคุณหนูให้ที่นะครับ เขาน่ะไข้สูงมากในตอนเช้าจนแทบจะลุกไม่ไหวแต่เขาก็ยังจะไปโรงเรียนแต่ก็หมดสติไปเพราะพิษไข้ ผมพาเขามานอนในห้องแล้ว ตอนนี้น่าจะตื้นแล้วรบกวนคุณ    เรียววุคช่วยป้อนข้าวกับยาด้วยนะครับ มีอะไรเรียกผมได้นะครับ” พอพ่อบ้านร่างใหญ่เดินไป ร่างเล็กก็เคาะประะตูเบาๆ
    “เข้ามาได้” เสียงเรียบๆตอบออกมา ภาพที่เขาเห็นเป็นอย่างที่เขาคิดจริงๆซินะ แทนที่จะเป็นคนนอนซมอยู่บนที่นอน กลายเป็นคนที่นั่งอยู่บนเตียงพร้อมกับแฟ้มเอกสารหนาเป็นตั้งๆ
    “ยุนโฮ ไปเอากาแฟดำมาให้ฉันที” ร่างสูงยังตั้งหน้าตั้งตาอ่านหนังสือต่อไป โดยไม่แม้จะมาสนใจคนที่เดินเข้ามา
    “คนป่วยไม่ควรจะดื่มกาแฟนะครับ ผมจะทำข้าวต้มมาให้คุณคยูฮยอนทานก็แล้วกัน” เมื่อเสียงมันไม่ใช่เสียงที่คุ้นเคย ร่างสูงก็ขมวดคิ้วแล้วหันไปดู
    “เรียววุค?” ร่างเล็กยิ้มละไมให้ ในจังหวะนั้นเองทำให้ร่างสูงรู้สึกเหมือนเรนนี่มายืนอยู่ตรงหน้าก่อนจะลุกขึ้นไปกอดทั้งที่ไม่รู้ตัว ร่างเล็กตัวแข็งทื่อให้ร่างสูงกอด จนร่างสูงเริ่มรู้สึกตัวถอนกอดจากร่างเล็กด้วยหน้าขึ้นสีระเรื่อเล็กน้อยที่ไม่รู้ว่าเป็นพิษไข้หรือเพราะคนตรงหน้า ร่างเล็กรีบลงไปทำข้าวต้มอย่างเงอะงะ ร่างสูงที่ไม่รู้จะทำอะไรก่อนดี ด้วยความที่ไม่มีอารมณ์จะทำงานแล้วจึงเอาแฟ้มทั้งหมดออกไปก่อนจะก้มลงไปอยู่ใต้ผ้าห่ม
    ………………………………………………………………………………………………….ด้านคยูฮยอน
    ระ..เรากอดเรียววุคหรอเนี้ย อายโว้ยยยย อาย กับเรนนี่ผมรู้สึกสัมผัสก็จะละลายอยู่แล้ว แต่กับเรียววุคกอดเข้าไปเต็มๆเลยรู้สึกหัวใจจะหลุดออกมาเลย ผมรักคนสองคนหรอเนี้ย ตอนแรกที่ผมมองเรียววุคผมรู้สึกว่าน่าแกล้งเฉยๆเอง ย้อนกลับไปวันนั้นที่เรียววุคทำเปลือกลูกอมตกใส่ผม เห็นเขาวิ่งดูตลกชมัด แถมแว่นตาอันโตเท่าไข่ห่านที่จะหลุดมิหลุดแหล่นั้นอีก แค่ดูน่าแกล้งเฉยๆ แต่กลับหลงรักเลยหรอ แค่อาทิตย์เดียวเอง นั้นไงเคาะประตูมาแล้วเฟ้ยว้ากกกกทำไงดี(คยูฮยอนยังคงบ้าอยู่-0- ) เขาค่อยๆเลื่อนชามข้าวเข้ามาใกล้ กลิ่นมันน่าหม่ำมากกกก
    “คุณคยูฮยอน ทานข้าวต้มก่อนนะครับ ผมทำเองเลยนะจะได้ทานยาแล้วพักผ่อน” เรียววุคพูดก่อนจะเป่าข้าวต้มให้ผม
    “อ้าม~ อ้ำ เร็วซิครับ” เรียววุคส่งยิ้มพิฆาตมาอีกแล้ว ผมอ้าปากก่อนจะรับข้าวต้มเข้าไป
    “อร่อยมั๊ยครับ” เขายื่นหน้าเข้ามาใกล้ผมขึ้นเรื่อยๆ เหมือนเรนนี่มากเลย แต่ผมว่าเขาดูน่ารักกว่า
    “ใช้ได้..” ป๊าดดด ทำไมผมพูดอย่างงั้นออกไปล่ะ ผมอยากพูดว่าอร่อยมากๆต่างหากล่ะ หลังจะที่ผมต้องมองใบหน้าที่ทำเอาไข้ขึ้นอยู่นาน เขาก็ให้ผมกินยา แล้วนอนพักก่อนจะออก ไป แล้วพูดว่า
    “วันนี้ผมจะขอลางานพิเศษ แล้วมาเฝ้าคุณคยูฮยอนแล้วกันนะ เดี๋ยวมานะครับ” ตาย! ตายแน่ ถ้าผมอยู่กับเรียววุคทั้งคืน ผมจะต้องตายด้วยโรครอยยิ้มพิฆาตแน่ๆ
     
     
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×