ลำดับตอนที่ #2
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : บท1 เมื่อตัดสินใจจะสอบเตรียมอุดมฯ
เอาละ เข้าเรื่องสักที เมื่อน้องๆ ตั้งใจจะมาสอบเตรียมอุดมฯ ซึ่งพี่รู้ว่ามันยากที่จะตัดสินใจลุกขึ้นมาอ่านหนังสือ แต่เมื่อลุกขึ้นมาแล้วก็จงอย่าอ่านอย่างไร้ทิศทาง พี่เลยอยากให้น้องเลือกสายให้ได้ก่อน เพราะวิชาที่ใช้สอบของแต่ละสายไม่เหมือนกัน แต่พี่ไม่อยากให้น้องเลือกเพียงว่าสายนี้น่าจะง่าย สอบแต่วิชาที่เราถนัด เพราะคนที่สอบแข่งกับน้องก็เก่งแทบทุกคน (น้องอาจจะสงสัยว่าทำไมพี่ใช้คำว่าแทบ เพราะพี่ว่าคนที่ถูกบังคับให้มาสอบ แล้วเทมาก็มี แต่บางคนก็โหดไป อย่างเพื่อนพี่มาสอบเล่นๆ ไม่อ่านหนังสือแต่ติดก็มี ปัจจุบันเพื่อนคนนี้อยู่ศิลป์คำนวณเตรียมอุดมฯ... เข้าเรื่องๆ)แต่พี่อยากให้น้องเลือกสายที่อยากเรียน(หรืออย่างน้อยๆ ก็เรียนได้)และตรงกับอนาคตของน้องเพราะน้องต้องทนมันไปอีกสามปีและมีผลต่อการสอบเข้ามหาวิทยาลัยด้วย สำหรับคนที่ยังค้นหาตัวเองไม่เจอ(อย่างพี่) สายวิทยาศาสตร์ก็ดีนะ เพราะจะได้เรียนเยอะไว้ก่อน แต่อาจจะมีสิ่งที่เรียนไว้แล้วไม่ได้ใช้ แต่ถ้าน้องคิดว่าทนสายนี้ไม่ได้ก็อย่าเลือกเลย
ต่อไปพี่จะบอกวิชาที่ใช้สอบในแต่ละสายนะ
สายวิทย์คณิต คณิต ภาษาไทย สังคม วิทย์ อังกฤษ (5)
ภาษาคณิต คณิต ภาษาไทย สังคม อังกฤษ (4)
ภาษาภาษา ภาษาไทย สังคม อังกฤษ (3)
จะเห็นว่าจำนวนวิชาไม่เท่ากัน
สำหรับสายศิลป์ ถึงน้องจะสอบแค่สามวิชา แต่น้องจะมีบางวิชาที่ได้ข้อสอบสองฉบับนะคะ (ภาษาคณิตด้วย) โดยฉบับที่สอง (อาจจะ) ยากกว่าสายวิทย์ แต่พี่ไม่รู้นะ เพราะพวกพี่ทำแต่ฉบับแรกและทุกสายมีเวลาทำข้อสอบเท่ากัน ทั้งภาคเช้า-บ่าย
น้องคะ พี่จะเล่าให้ฟัง เตรียมฯ ไม่เหมือนมหิดลฯ นะคะ ตรงที่ (พูดแต่สายวิทย์แล้วกันสายอื่นพี่มีบทความให้ไว้แล้ว//โดนตบ) ตอนเช้าจะแจกข้อสอบรวดเดียวเลยคณิต (50 ข้อ) ภาษาไทย สังคม (อย่างละ 25) ภาคบ่ายก็แจกวิทย์กับอังกฤษรวดเดียวเหมือนกัน ให้น้องแบ่งเวลาเอง ดังนั้นถ้าน้องทำวิชาใดวิชาหนึ่งช้า มันจะกินเวลาวิชาที่เหลือนะคะ ดังนั้นน้องต้องคล่องทุกวิชา ส่วนการเตรียมตัว พี่จะลงรายละเอียดของพวกพี่ในโอกาสถัดไป
ส่วนสายย่อยว่าจะอยู่วิทย์ภาษาอะไร วิทย์คอม วิทย์คุณ วิทย์ประยุกต์ พี่อยากให้น้องไปเลือกตอนจะกรอกใบสมัครสอบ คือ... มันยังไม่จำเป็นต้องรีบคิดเพราะติดเข้าไปแล้วจะได้อยู่สายที่เลือกอันดับหนึ่งไหม ยังไม่แน่ใจเลย (แต่ส่วนใหญ่จะได้สายที่เลือกอันดับแรกนั่นแหละ) มันไม่ใช่เรื่องสำคัญหรือเรื่องที่ต้องรีบร้อนนะน้อง
เกือบลืม นี่เป็นกำหนดเวลาของปีพี่
20-24 มีนาคม 2557 รับสมัคร
30 มีนาคม 2557 สอบเข้า
3 เมษายน 2557 ประกาศผลและรายงานตัว
10 เมษายน 2557 มอบตัว
6-9 พฤษภาคม 2557 เรียนปรับพื้นฐาน
น้องเห็นไหมคะ น้องปิดเทอมเดือนตุลาคมหนึ่งเดือนกับปิดเทอมใหญ่ น้องก็จะเหลือเวลาแค่ไม่ถึงสามเดือนเต็ม ใครหวังจะอ่านหนังสือปิดเทอม พี่ไม่แนะนำนะคะ พี่อยากให้น้องเก็บสะสมไปเรื่อยๆ ไปมากกว่ามาอัดโค้งสุดท้าย ตอนเปิดเทอมก็เรียนให้เต็มที่ทั้งในคาบและนอกเวลานะ ไม่งั้นน้องจะเครียดได้เพราะพอใกล้ๆ เนื้อหามันจะเหลือมากกว่าที่น้องคิด
อ้อ! อีกเรื่อง ที่พี่ไม่พูดเรื่องโรงเรียนนี้เป็นมาอย่างไร ไม่ใช่จะปิดบังอะไรนะ แต่มีคนว่า ถ้าทำตัวเหมือนเป็นเด็กเตรียมฯ (ประเภทรู้จักโรงเรียนทุกซอกทุกมุม ร้องเพลงปิ่นหทัยได้) ตั้งแต่ยังไม่ได้สอบจะสอบไม่ติด พี่ก็ไม่รู้นะ แต่พี่ว่าไม่จำเป็นต้องรู้ให้ลึกหรอกเพราะพอน้องเข้ามาเรียนที่นี่น้องจะไปหามาอ่านเมื่อไหร่ก็ได้ เผลอๆจะซึมซับเข้าไปเองด้วยซ้ำ (อยากให้เผื่อใจไว้บ้าง) ถ้าสอบไม่ติดถึงน้องจะรู้ลึกรู้จริงแค่ไหน พี่ก็ไม่คิดว่าจะเป็นประโยชน์เท่าไหร่นะ อีกอย่างหนึ่งคือพี่รำคาญปนๆ กับไม่ชอบคนขี้อวด พวกที่บอกว่าฉันจะต้องติดเตรียมฯ ชัวร์ๆ พอไม่ติดแล้วมันหน้าแตกนะน้อง แล้วมันพาให้คนหมั่นไส้ อยากเห็นว่าถ้าเธอไม่ติดจะเป็นยังไง กับตอกย้ำความไม่มั่นใจของเพื่อนข้างๆ ที่จะสอบ พี่ก็อยากให้น้องมั่นใจนะ แต่เงียบไว้ดีกว่านะ ด้วยความปรารถนาดี
แล้วน้องก็มักจะเห็นพี่หลายคนใช้คำลงท้ายว่ารักน้องตั้งแต่ยังไม่เห็นหน้าใช่ไหม แต่มีคนให้ความเห็นว่ามันดูไม่จริงใจ แล้วพี่ก็เคยแอบสงสัยว่า ถ้าพี่เห็นหน้าหนูแล้วจะยังรักหนูอีกไหม//ก็คนมันหน้าตาไม่ดีนี่นา... ฉะนั้นพี่จะไม่ลงท้ายแบบนั้นนะ //พี่เปล่าตกกระแสนะ พี่แอบอินดี้//โดนตบ
เพิ่มเติม1:ตามที่ชลศิริว่าการเตรียมตัวล่วงหน้าจะใช้สอบได้สองที่ พี่เพิ่งนึกได้ว่าปลายปี 2556 พี่อัดวิทยาศาสตร์อย่างเดียวเลยเพราะพี่สอบ IJSO ส่วนมหิดลวิทยานุสรณ์ พี่อ่านหนังสือก่อนสอบเข้าหนึ่งวันค่ะ พี่เป็นประเภทพวกความรู้สึกช้า ก่อนสอบหนึ่งวันถึงจะเริ่มรู้สึกเดือดร้อนว่าสมองเปล่าแบบนี้เอาอะไรไปสอบเนี่ย... งานเข้า งั้นไม่ต้องสงสัยนะว่าทำไมพี่ไม่ติด เอาเป็นว่าพอจะสอบเตรียมพี่พัฒนาดีขึ้นละกัน
เพิ่มเติม2 : ถ้าน้องเรียนสายศิลป์ บางทีน้องก็ต้องเข้าใจหน่อยว่าบางมหาวิทยาลัย บางคณะไม่รับนะคะ ไม่ว่าน้องจะเก่งแค่ไหนก็ตาม (หรืออย่างแพทย์ น้องที่เลือกเรียนสายศิลป์ไม่ได้เรียนวิทย์สักตัวแต่ต้องไปสอบชีววิทยา ฟิสิกส์ เคมี แข่งกับเด็กวิทย์ที่เรียนวิชาเหล่านี้มาสามปี มันเสียเปรียบมากนะ) ดังนั้น ถ้ายังหาตัวเองไม่พบก็ตัดสินใจดีๆ นะคะ
ต่อไปพี่จะบอกวิชาที่ใช้สอบในแต่ละสายนะ
สายวิทย์คณิต คณิต ภาษาไทย สังคม วิทย์ อังกฤษ (5)
ภาษาคณิต คณิต ภาษาไทย สังคม อังกฤษ (4)
ภาษาภาษา ภาษาไทย สังคม อังกฤษ (3)
จะเห็นว่าจำนวนวิชาไม่เท่ากัน
สำหรับสายศิลป์ ถึงน้องจะสอบแค่สามวิชา แต่น้องจะมีบางวิชาที่ได้ข้อสอบสองฉบับนะคะ (ภาษาคณิตด้วย) โดยฉบับที่สอง (อาจจะ) ยากกว่าสายวิทย์ แต่พี่ไม่รู้นะ เพราะพวกพี่ทำแต่ฉบับแรกและทุกสายมีเวลาทำข้อสอบเท่ากัน ทั้งภาคเช้า-บ่าย
น้องคะ พี่จะเล่าให้ฟัง เตรียมฯ ไม่เหมือนมหิดลฯ นะคะ ตรงที่ (พูดแต่สายวิทย์แล้วกันสายอื่นพี่มีบทความให้ไว้แล้ว//โดนตบ) ตอนเช้าจะแจกข้อสอบรวดเดียวเลยคณิต (50 ข้อ) ภาษาไทย สังคม (อย่างละ 25) ภาคบ่ายก็แจกวิทย์กับอังกฤษรวดเดียวเหมือนกัน ให้น้องแบ่งเวลาเอง ดังนั้นถ้าน้องทำวิชาใดวิชาหนึ่งช้า มันจะกินเวลาวิชาที่เหลือนะคะ ดังนั้นน้องต้องคล่องทุกวิชา ส่วนการเตรียมตัว พี่จะลงรายละเอียดของพวกพี่ในโอกาสถัดไป
ส่วนสายย่อยว่าจะอยู่วิทย์ภาษาอะไร วิทย์คอม วิทย์คุณ วิทย์ประยุกต์ พี่อยากให้น้องไปเลือกตอนจะกรอกใบสมัครสอบ คือ... มันยังไม่จำเป็นต้องรีบคิดเพราะติดเข้าไปแล้วจะได้อยู่สายที่เลือกอันดับหนึ่งไหม ยังไม่แน่ใจเลย (แต่ส่วนใหญ่จะได้สายที่เลือกอันดับแรกนั่นแหละ) มันไม่ใช่เรื่องสำคัญหรือเรื่องที่ต้องรีบร้อนนะน้อง
เกือบลืม นี่เป็นกำหนดเวลาของปีพี่
20-24 มีนาคม 2557 รับสมัคร
30 มีนาคม 2557 สอบเข้า
3 เมษายน 2557 ประกาศผลและรายงานตัว
10 เมษายน 2557 มอบตัว
6-9 พฤษภาคม 2557 เรียนปรับพื้นฐาน
น้องเห็นไหมคะ น้องปิดเทอมเดือนตุลาคมหนึ่งเดือนกับปิดเทอมใหญ่ น้องก็จะเหลือเวลาแค่ไม่ถึงสามเดือนเต็ม ใครหวังจะอ่านหนังสือปิดเทอม พี่ไม่แนะนำนะคะ พี่อยากให้น้องเก็บสะสมไปเรื่อยๆ ไปมากกว่ามาอัดโค้งสุดท้าย ตอนเปิดเทอมก็เรียนให้เต็มที่ทั้งในคาบและนอกเวลานะ ไม่งั้นน้องจะเครียดได้เพราะพอใกล้ๆ เนื้อหามันจะเหลือมากกว่าที่น้องคิด
อ้อ! อีกเรื่อง ที่พี่ไม่พูดเรื่องโรงเรียนนี้เป็นมาอย่างไร ไม่ใช่จะปิดบังอะไรนะ แต่มีคนว่า ถ้าทำตัวเหมือนเป็นเด็กเตรียมฯ (ประเภทรู้จักโรงเรียนทุกซอกทุกมุม ร้องเพลงปิ่นหทัยได้) ตั้งแต่ยังไม่ได้สอบจะสอบไม่ติด พี่ก็ไม่รู้นะ แต่พี่ว่าไม่จำเป็นต้องรู้ให้ลึกหรอกเพราะพอน้องเข้ามาเรียนที่นี่น้องจะไปหามาอ่านเมื่อไหร่ก็ได้ เผลอๆจะซึมซับเข้าไปเองด้วยซ้ำ (อยากให้เผื่อใจไว้บ้าง) ถ้าสอบไม่ติดถึงน้องจะรู้ลึกรู้จริงแค่ไหน พี่ก็ไม่คิดว่าจะเป็นประโยชน์เท่าไหร่นะ อีกอย่างหนึ่งคือพี่รำคาญปนๆ กับไม่ชอบคนขี้อวด พวกที่บอกว่าฉันจะต้องติดเตรียมฯ ชัวร์ๆ พอไม่ติดแล้วมันหน้าแตกนะน้อง แล้วมันพาให้คนหมั่นไส้ อยากเห็นว่าถ้าเธอไม่ติดจะเป็นยังไง กับตอกย้ำความไม่มั่นใจของเพื่อนข้างๆ ที่จะสอบ พี่ก็อยากให้น้องมั่นใจนะ แต่เงียบไว้ดีกว่านะ ด้วยความปรารถนาดี
แล้วน้องก็มักจะเห็นพี่หลายคนใช้คำลงท้ายว่ารักน้องตั้งแต่ยังไม่เห็นหน้าใช่ไหม แต่มีคนให้ความเห็นว่ามันดูไม่จริงใจ แล้วพี่ก็เคยแอบสงสัยว่า ถ้าพี่เห็นหน้าหนูแล้วจะยังรักหนูอีกไหม//ก็คนมันหน้าตาไม่ดีนี่นา... ฉะนั้นพี่จะไม่ลงท้ายแบบนั้นนะ //พี่เปล่าตกกระแสนะ พี่แอบอินดี้//โดนตบ
เพิ่มเติม1:ตามที่ชลศิริว่าการเตรียมตัวล่วงหน้าจะใช้สอบได้สองที่ พี่เพิ่งนึกได้ว่าปลายปี 2556 พี่อัดวิทยาศาสตร์อย่างเดียวเลยเพราะพี่สอบ IJSO ส่วนมหิดลวิทยานุสรณ์ พี่อ่านหนังสือก่อนสอบเข้าหนึ่งวันค่ะ พี่เป็นประเภทพวกความรู้สึกช้า ก่อนสอบหนึ่งวันถึงจะเริ่มรู้สึกเดือดร้อนว่าสมองเปล่าแบบนี้เอาอะไรไปสอบเนี่ย... งานเข้า งั้นไม่ต้องสงสัยนะว่าทำไมพี่ไม่ติด เอาเป็นว่าพอจะสอบเตรียมพี่พัฒนาดีขึ้นละกัน
เพิ่มเติม2 : ถ้าน้องเรียนสายศิลป์ บางทีน้องก็ต้องเข้าใจหน่อยว่าบางมหาวิทยาลัย บางคณะไม่รับนะคะ ไม่ว่าน้องจะเก่งแค่ไหนก็ตาม (หรืออย่างแพทย์ น้องที่เลือกเรียนสายศิลป์ไม่ได้เรียนวิทย์สักตัวแต่ต้องไปสอบชีววิทยา ฟิสิกส์ เคมี แข่งกับเด็กวิทย์ที่เรียนวิชาเหล่านี้มาสามปี มันเสียเปรียบมากนะ) ดังนั้น ถ้ายังหาตัวเองไม่พบก็ตัดสินใจดีๆ นะคะ
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น