ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [ Fic Naruto ] โอ๊ะโอ!! รักนายได้มั้ยนายพี่เลี้ยง

    ลำดับตอนที่ #2 : :: Oh oh...Chapter 1::

    • อัปเดตล่าสุด 21 เม.ย. 56





    ________________________________________________________________________________


    Oh oh...Chapter 1

    ปัญหา


     

              “อุซึมากิค่าเทอมเทอมที่แล้วเธอยังไม่ได้จ่ายเลยนะ”อาจารย์อิรุกะอาจารย์ฝ่ายธุรการพูด ผมได้แต่ก้มหัวลงรับฟังคำพูดที่เป็นจริงของครูเขา

              “ครูเข้าใจว่าฐานะทางบ้านเธอไม่ได้ดีนัก แต่นี่มันก็สอบปลายภาคแล้วฉันกลัวเธอไม่มีสิทธิ์สอบ เอางี้มั้ยครูให้เธอยืมเงินก่อนเป็นไง ไว้เธอมีเมื่อไหร่ค่อยเอามาคืนครูก็ได้”

              “ไม่เป็นไรครับครูอิรุกะ ผมจะรีบทำงานพิเศษหาเงินมาจ่ายค่าเทอมให้ได้ครับ ผมไม่ลำบากครูหรอก”ผมตอบพร้อมกับยิ้มให้เขา

              “แต่ว่า...”

              “ครูมีเรื่องจะพูดแค่นี้ใช่มั้ยครับ ถ้างั้นผมขอตัวละครับ”ผมบอกลาก่อนจะโค้งให้ก่อนอย่างสุภาพ

              “อืม กลับดีๆนะ”

              “ขอบคุณครับ”ผมตอบก่อนจะหยิบกระเป๋านักเรียนที่วางอยู่ที่พื้นขึ้นมาถือ แล้วเดินออกมาจากห้องพักครูและเดินออกมาจากตึกเรียนที่ตกแต่งได้อย่างหรูหราไฮโซเป็นที่สุด


              โอ๊ะ! ยังไม่ได้แนะนำตัวเลยนี่นาเนอะ

              ผมชื่ออุซึมากิ นารูโตะ อายุ 15 เป็นเด็กนักเรียนธรรมดาจนๆคนนึงซึ่งตอนนี้กำลังเจอปัญหาขั้นวิกฤตของนักเรียนจน...ไม่มีเงินจ่ายค่าเทอม เชื่อเถอะครับทั้งๆที่รู้ว่าตัวเองจนผมยังอุตส่าห์ดิ้นรนสอบเข้าโรงเรียนชั้นแนวหน้าระดับประเทศได้ ของแบบนี้ต้องขยัน 90 พึ่งดวงอีก 10 ครับ- -


              ไอ้สอบเข้าน่ะมันจิ๊บจ๊อยมากครับ...แต่มันจะไม่จิ๊บตอนจ่ายค่าเทอมนี่สิ

              แพงหูฉี่ซะจนผมอยู่ได้โดยกินแต่ราเมงเป็นเดือนๆเลย

              เฮ้อ...แต่จะให้ทำไงได้ละ ตอนนี้งานพิเศษที่ทำอยู่เขาก็ดันย้ายร้านไปซะแล้ว


              คิดไปเท้าก็ก้าวเดินมาถึงแมนชั่นที่ตัวเองเช่าอยู่ ผมอาศัยอยู่กับลุงจิไรยะผู้อุปถัมภ์ผมมาจากสถานสงเคราะห์เนื่องจากผมเป็นเด็กกำพร้าไม่รู้ว่าพ่อแม่เป็นใคร อืม...ไม่แน่ใจด้วยซ้ำว่ามีหรือเปล่า แต่นั่นไม่ใช่ปัญหาใหญ่สำหรับผม เพราะตอนนี้ลุงจิไรยะก็เปรียบเสมือนทั้งพ่อและแม่ที่เลี้ยงผมมา


              โครม! คราม!


              ทันทีที่ผมเดินขึ้นมาถึงหน้าห้องตัวเองก็มีเสียงโครมครามใหญ่ดังมาจากในห้องทำให้ผมรีบบิดลูกบิดประตูเข้าไปทันที แปลกแหะ...ปกติลุงจิไรยะมักจะล๊อกห้องนี่ เมื่อเข้ามาถึงตัวห้องก็พบชายสองคนกำลังยืนยกเท้าเตรียมตื้บลุงจิไรยะที่นอนอยู่ที่พื้น

              “พวกแกเป็นใครน่ะ เข้ามาทำร้ายคนอื่นแบบนี้ได้ยังไง”

              “เฮ้ย มันมีเด็กอยู่ด้วยนี่หว่า เอาไงดี”

              “ไม่เอาไงทั้งนั้น ฉันจะแจ้งตำรวจถ้าพวกแกยังไม่ออกไป”ผมพูดก่อนจะล้วงโทรศัพท์รุ่นปาหัวหมาแตกออกมากดเบอร์โทรตำรวจและพร้อมกดโทรออกได้ทุกเวลา

              “ฮึ่ย เดี๋ยวตำรวจแห่มาจะไม่ดี ถอยกันก่อนดีกว่า”

              “ก็ได้ ฝากไว้ก่อนเถอะเจ้าเด็กแสบ”พวกมันสองคนยอมออกไปแต่โดยดีแต่อีกคนก็ยังมิวายมาชี้หน้าฝากบัญชีดำไว้กับผมอีก ชิๆๆ ไม่รับฝากเฟร้ย! ไม่ใช่ธนาคาร!


              โอ๊ะ! นี่ไม่ใช่เวลามาเล่นมุกนี่ไปดูลุงจิไรยะก่อน โหย... นอนราบกับพื้นห้องซะขนาดนั้น ตายป่ะเนี่ย? เฮ้ย! ไม่ได้นะ ลุงสำคัญกับชีวิตผมมากๆเลยนะ

              “ตาลุงลามกอย่าเพิ่งตายนะ! อย่าเพิ่งตาย ถ้าลุงตายแล้วเวลามีแบบสอบถามมาให้กรอกผมจะกรอกชื่อใครเป็นผู้ปกครองละเนี่ย”ผมร้องออกมา สักพักก็เกิดการเคลื่อนไหวของร่างที่นอนตายอยู่บนพื้น

              “แว้กกกกกกก!!! ลุงอย่ามาหลอกหลอนผมนะ! ผมสัญญาว่าต่อให้ลุงตายไปสิบปีแล้ว ยังไงๆผมก็ยังกรอกชื่อลุงลงในช่องผู้ปกครองเหมือนเดิม><”

              “ไอ้เจ้านารูโตะ... สำหรับแกแล้วฉันมีค่าแค่ให้กรอกชื่อเป็นผู้ปกครองลงในแบบสอบถามงั้นเรอะ!”

              “ลุงยังไม่ตาย! เย้ๆๆ!! ลุงยังไม่ตาย!!”

              “เออๆ ยังไม่ตายเพราะฉะนั้นไปเอากล่องพยาบาลมาทำแผลให้ที ไอ้พวกนั้นมันเล่นฉันซะอ่วมเลย”ลุงจิไรยะบ่นผมก็ลุกขึ้นไปหยิบกล่องพยาบาลมาล้างแผล ใส่ยาให้เขา

              “คราวนี้เป็นพวกไหนอีกล่ะ เมาแล้วไปมีเรื่องกับเขามาอีกละสิ”ผมพูดไปมือก็ใช้สำลีเช็ดตรงมุมปากลุงเบาๆ

              “เป็นหนี้ต่างหาก วันนี้ไม่ใช่วันจ่ายดอกซะหน่อย โกงนี่หว่า”

              “หนี้! ลุง! ลุงไปยืมใครมาอีกล่ะ แล้วของครั้งที่แล้วใช้หมดแล้วหรอ!?”

              “ก็เอาของเจ้าใหม่ไปโปะเจ้าเก่านี่แหละ ก็เจ้าเก่ามันดันขู่ว่าจะมาถล่มถึงนี่เลยนี่”

              “แล้วไอ้พวกเมื่อกี้มันต่างกันตรงไหน แบบนี้มันก็ไม่ต่างอะไรกับเอาหนี้ไปโปะหนี้เลย!”

              “โทษทีนะ ก็ที่ทุ่มไปกับนิยายทั้งหมด...มันกลับขายไม่ดีซะนี่ ทั้งๆที่อ่านแล้วจะเข้าใจความเป็นลูกผู้ชายแท้ๆ ทำไม๊ทำไมนะ มันถึงขายไม่ค่อยออก”

              “ก็เพราะมันลามกน่ะสิ อีกไม่นานจะคงโดนกรมวัฒนธรรมถอนรากถอนโคนแหงๆ”

              “เชอะ! ไอ้พวกไม่เข้าใจความเป็นลูกผู้ชาย โอ๊ยๆๆ! เบาๆมือหน่อยไม่เป็นหรือไง”ลุงจิไรยะบ่นเมื่อผมเอาสำลีชุบยาจิ้มไปที่แผลบนหน้าเขาแรงๆ

              “เบาเป็น แต่ผมว่านะลุงน่าจะกลับไปเขียนนิยายแบบเดิมมากกว่านะ ไอ้เล่มที่ผมอ่านน่ะ”

              “เธออ่านเป็นร้อยรอบแล้วยังไม่เบื่อมันอีกเร๊อะ ไอ้นิยายปรัชญาการใช้ชีวิตอะไรนั่นน่ะ” นิยายเล่มที่ผมว่าคือนิยายเล่มแรกที่ลุงจิไรยะเขาเขียนตั้งแต่ผมยังเด็กๆ เพราะลุงจิไรยะไม่ชอบให้ใครมายุ่งเวลาตัวเองเขียนหนังสือ เขาเลยเอาเล่มนั้นมาให้ผมอ่านเพื่อที่จะได้ไม่กวนเขา แต่ผมกลับติดใจมันจนอ่านเป็นร้อยรอบได้ละ

              “ไม่เบื่อ แล้วก็คาดว่าคงจะไม่เบื่อไปอีกนาน เอาล่ะ! เสร็จแล้ว ลุงก็ไปอาบน้ำอาบท่าสักที ส่วนผมจะทำมื้อเย็น”ผมพูดแล้วจึงเอากล่องพยาบาลไปเก็บแล้วเดินเข้าห้องครัว มือก็เปิดประตูตู้เย็นดูว่ามีอะไรที่เอามาทำข้าวเย็นได้ป่าว


              ไข่ไก่สองฟองกับข้าวที่พอกินอีกแค่มื้อเดียว...

              เอาวะ เอาวันนี้ให้รอดก่อนวันหน้าค่อยว่ากันอีกที...




              เวลาห้าทุ่มสามสิบห้านาที


              “ครอก...ฟี้~”เสียงกรนที่ออกจาตาลุงนั่นเป็นสิ่งที่ได้ยินได้ทุกคืนไม่มีวันหยุดราชการหรือวันขัตฤกษ์ แต่นั่นก็เป็นเครื่องหมายที่แสดงให้เห็นว่าเขาหลับปุ๋ยสนิทเป็นตาแก่ขึ้นอืด ดี...ผมจะได้ย่องออกไปง่ายๆหน่อย

              “โทษทีนะลุงจิไรยะ ถ้าผมไม่รีบหางานอะไรทำเราจะต้องอดตายแน่ๆ เพราะงั้นลุงอวยพรให้ผมได้งานภายในคืนนี้ด้วยเถอะ”

              “งืม..”ผมยิ้มบางๆให้กับเสียงครางเบาๆของลุงที่นอนอยู่ก่อนจะเปลี่ยนเสื้อผ้าและย่องออกจากห้องพักไปอย่างรวดเร็วและไร้เสียงที่สุดเท่าที่ผมจะทำได้


              ถึงแม้จะออกมาได้แล้วแต่ผมก็ไม่รู้จะเดินไปไหนและหางานอะไรทำดี ได้แต่เดินไปเรื่อยๆสายตาก็คอยมองไปตามป้ายประกาศและเสาไฟ เผื่อจะมีแผ่นรับสมัครงานติดอยู่แต่ก็แทบจะไม่มี หรือต่อให้มีวุฒิแต่อายุก็ไม่ถึงอยู่ดี

              อย่านะๆ อย่าให้เราอายุสิบแปดเชียว

              เฮ้อ...บ่นไปแล้วได้อะไรละเนี่ย

              ...โอ๊ะ!


              ‘รับสมัครพนักงานเสริฟหน้าตาดี ไม่จำกัดว่าเป็นหญิงหรือชาย ขอแค่เพียงอายุ 15 ปีขึ้นไปเท่านั้น สนใจติดต่อได้ที่ 081-010-2XXX หรือจะสมัครโดยตรงที่ร้านบะจัง เจ้าของร้านใจดีไม่ต้องกลัวโดนกัด’


              เป็นแผ่นรับสมัครที่ดูไม่เป็นทางการและติงต๊องที่สุดในชีวิตที่เคยสมัครงานมา โดยเฉพาะท่อนสุดท้ายนั่น

              เอาวะ! น่าสน...แค่พนักงานเสริฟนี่ คงไม่มีอะไรเสียหายหรอก ว่าแต่บะจัง... ป้างั้นหรอ ชื่อร้านพิลึกแหะ(บะจัง หรือ Ba-Chan ในภาษาญี่ปุ่นแปลว่าป้า(ถูกมั้ยไม่รู้เอามาจากในโด แหะๆๆ))


              ผมดึงใบรับสมัครนั่นออกมาก่อนจะเดินตามหาร้านบะจังที่ว่านั่น

              มันอยู่ไม่ไกลเลยทีเดียว ผมเดินมาอีกสองช่วงตึกจากจุดที่ผมเจอแผ่นรับสมัครนี่ ภายนอกดูธรรมดามากๆน่าจะเป็นร้านอาหารธรรมดาละมั้ง แต่พอเข้ามา...กลิ่นเหล้ายาหึ่งเชียว แน่ใจหรอว่าร้านอาหารไม่ใช่ร้านเหล้าน่ะ


              การสมัครงานเป็นไปอย่างง่ายดายกว่าที่ผมคิดไว้มากโข เจ้าของร้านคือป้าซึนาเดะ ...อันที่จริงเขาชื่อซึนาเดะเฉยๆ แต่ว่าดูๆแล้วอายุน่าจะน้อยกว่าลุงจิไรยะนิดหน่อยก็เลยขอเหมาๆไปว่ารุ่นป้าก็แล้วกัน

              วันนี้คือวันแรกที่เริ่มงานได้เลย ผมก็เริ่มแบบไม่รอช้าแต่จะขอกลับก่อนตีสามเพราะว่าตาลุงจิไรยะชอบลุกขึ้นมาดื่มน้ำเข้าห้องน้ำตอนตีสามเป็นประจำ เพราะงั้นเพื่อไม่ให้ลุงจับได้ว่าผมแอบย่องออกมาหางานทำ


              เอาวะ!...นารูโตะสู้ตาย!



    ________________________________________________________________________________

    The End!!


    มาลงตอนแรกให้แล้วค่ะ^^ แหะๆ แอบสั้นไปนิด ถ้าเห็นชื่อเรื่องเปลี่ยนไปอย่าได้ใส่ใจนะคะ

    เอาชื่ออิงออกเพราะ.. ชื่อมันแน่นดูรกตาไงก็ไม่รู้ อาบิเลยจัดการเอามันออกไปซะ!~

    ฮี่ๆๆ^^ เปิดมาตอนแรกยังไม่เจอตัวน้องเกะ แต่รอก่อนเถอะ เดี๋ยวได้เจอเร็วๆนี้แน่นอน^^

    ส่วนตอนนี้...บายบีค่ะ

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×