ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic การิน ชินเร ลาฟลอร่า RST] สายลับซ่อนกล

    ลำดับตอนที่ #2 : เริ่มต้นภารกิจกับการสังเวยชิวิต บทนี้ไม่ใช้แล้วน้า

    • อัปเดตล่าสุด 7 พ.ย. 58


    เริ่มต้นภารกิจกับการสังเวยชิวิต
     
     "ซารินช่วยบอกอั้วหน่อยสิว่า??มีอะไรบ้าง" สาวหมวยท่าทางบ้องแบ๊วขอคำตอบจากเพื่อนหญิงของเธอ
      "ประเทศไทยน่ะเหรอ ก็มีวัดพระศรีรัตนศาสดาราม มีการอันเชิญพระแก้วมรกตไปไว้ที่วัดด้วยนะ แถมเป็นวัดที่ไม่มีพระสงฆ์อีกต่างหาก แล้วก็นะชื่อซารินเป็นชื่อที่ข้าปลอมตัวไปต่างหากตอนนี้ถ้าเจ้าจะต้องเรียกชื่อข้าช่วยเรียกว่าน้ำฟ้าต่างหาก" น้ำฟ้าอฐิบายให้สาวหมวยฟังอย่างหงุดหงิด


      "ก็มันติดปากนี่น่อ อาซาริน" สาวหมวยก็ยังบ่นอุบอิบอย่างช่วยไม่ได้


      "ยัยเหมยฮัว^_^#" น้ำฟ้ากดเสียงต่ำลงด้วยน้ำเสียงที่ไม่สบอารมณ์


      "ได้ๆ ลื้อเนี่ยนะ" สุดท้ายเหมยฮัวก็ต้องยอมจำนนแต่โดยดี


       "นอนไปเถอะเหมยฮัวอีกตั้งสิบสองชั่วโมงกว่าเครื่องจะลงสนามบินสุวรรณภูมิลงเครื่องก็หกโมงเช้าแล้ว…" เธอไล่ให้เหมยฮัวไปนอนก่อนจะเปิดประเป๋าเป้ใบจิ๋วหาหนังสือเกี่ยวกับญาณอาถรรพ์ขึ้นมาอ่าน


      "น้ำฟ้า ลื้อจะเอาเรื่องพวกนี้ไปใช้ทำอะไร เออใช่ พรุ่งนี้มีกำหนดการอะไรบ้างน่อ" สาวหมวยถามน้ำฟ้าหรือซารินด้วยท่างสงสัย


      "เจ้าก็รู้อยู่แก่ใจว่าข้าจะเอาไปทำอะไร พรุ่งนี้ไปที่บ้านข้าก่อนกะจะไปหาพ่อแม่เสียหน่อยตอนเจ็ดโมงจะมีคนมารับ แล้วก็ไปเก็บของที่บ้านน้อง อาบน้ำแต่งตัวไปโรงเรียน เธอคงเข้าใจนะ" เธอเล่ากำหนดการของวันพรุ่งนี้ให้กับเหมยฮัวพร้อมกับปิดไฟตรงที่นั่งของเธอแล้วหันมาพูดว่า"ถ้าเธอไม่นอนจะส่งใบลากิจให้ฝ่าย บรรชาการว่าพ่อแม่ของเธอป่วยหนัก"


      "OKน่อ น้ำฟ้า" เหมยฮัวพูดพร้อมกับหลับตาลงอย่างราดเร็ว"ฝันดีนะ น้ำฟ้า"


      "เช่นเดียวกัน" น้ำฟ้าตอบกลับด้วยสีหน้าเรียบนิ่งแต่แฝงไปด้วยความอ่อนโยน


      "น้ำฟ้า น้ำฟ้า ผมเองเชียรเมื่อไหร่คุณจะกลับมาหาผม…" เสียงชายปริศนานาม'เชียร'พูดขึ้น


      "เชียร นายก็รู้อยู่แก่ใจว่าเราอยู่คนละทางเดิน เป้าหมายของนายคืออาถรรพ์สายดำ แต่ครอบครัวของข้าเดินอยู่ในทางเดินอาถรรพ์สายขาวเราอยู่ร่วมกันไม่ได้หรอก" น้ำฟ้าพูดเสียงจริงจัง


      "แล้วเธอจะรู้ว่าลองดีกับผมเนี่ยจะเจอผลลัพธ์แบบไหน" เชียรพูดท่าทางแสยยิ้ม
      แล้วเดินจากไป


      "อาฟ้า น้ำฟ้า ลื้อตื่นได้ยังถึงเวลากินข้าวแล้วน่อ" เหมยฮัวเขย่าตัวน้ำฟ้าแบบไม่เกรงใจ


      "ตื่นแล้ว ตื่นแล้ว เธอนี่" น้ำฟ้าร้องขึ้นหลังโดนเขย่าอย่างไม่ใยดี


      "ลื้อจะกินอะไร" เหมยฮัวเริ่มถามน้ำฟ้าทันที


      "เอาไก่คาราโอเกะที่หนึ่งค่ะ" เมื่อเห็นไก่คาราโอเกะน้ำฟ้าก็รีบกินทันทีทั้งๆที่มีเวลาให้กินตั้งนานแต่กินเสร็จภายในสามนาที (0-0#//ไรเตอร์)


      "ลื้อเนี่ยกินเร็วเหมือนทิวาเลยน่อ" สาวหมวยเริ่มหาเรื่องคุย


      [ณ ตอนนี้เครื่องบินจะลดระดับลงแล้วกรุณาเปิดหน้าต่างด้วยนะครับ] เสียงกัปตันเครื่องบินคุยกับผู้โดยสาร


      "อั้วเนี่ยอิจฉาลื้อจริงๆนะ ที่ได้กลับมาประเทศบ้านเกิด" เหมยฮัวค่อยๆทำหน้าเศร้าเรื่อยจนดูไม่ได้


      "เธอนี่นะ อย่ามาทำตัวเป็นเด็นน้อยหน่อยเลยหน่าถึงข้าจะกลับมาที่ประเทศไทยแต่ข้าก็ได้เจอหน้าพ่อแม่เดือนละครั้ง" เสียงของอาจจะดูร่าเริงเข้มแข็งแต่กลับแฝงไปด้วยความอ่อนไหว


      "อั้วว่าถ้าลื้ออยากร้องไห้ร้องออกมาเถอะ" เหมยฮัวเข้ามาโอบเอวน้ำฟ้าเล็กน้อยก่อนจะพูดออกไป


      "ไม่เห็นจะต้องร้องไห้เลย เรื่องแค่นี้เอง 0[+++]0 555+" น้ำฟ้าพยายามคลี่ยิ้มให้เหมยฮัวออกมา


      [ณ ขณะนี้ทางสายการบินไทยเที่ยวบินED3869ได้มาถึงสนามบินสุวรรณภูมิขอขอบคุณผู้โดยสารจากลา ฟลอร่าทุกท่านที่ไว้วางใจในบริการของเรา] เสียงกัปตันประกาศขอขอบคุณผู้โดยสารทุกคน


      "อ้า~~ถึงซะทีแต่เดือนพฤษภาคมเนี่ยร้อนชะมัดเลยน่อ" เสียงเหมยฮัวร้องโอดครวญกับฤดูร้อนเดือนพฤษภาคม


      "เฮื้อ~~ถึงซะทีอยู่บนเครื่องเนี่ยหนาวอย่างกับโรงน้ำแข็ง คิดถึงชะมัดเลยหน้าร้อนอยากกินแตงโมแล้วซิแล้วซิ แป๊บนะ" น้ำฟ้าเล่าแบบพูดเองเออเองแบบไม่มีใครถาม


     'ตรูดๆ'เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นในรถตู้ส่วนตัวของหญิงวัยทำงาน 51ปีเจ้าของธุระกิจพันล้าน


      "คุณกุ้ง น้องน้ำฟ้าเขากลับมาแล้วนะครับ" เสียงคนขับรถเรียกชื่อหญิงวัยทำงาน(?) ด้วยความเป็นมิตร


      "งั้นพี่ก็รีบไปรับน้ำฟ้าซิ กุ้งอยากเจอน้ำฟ้าเร็วๆ แล้วก็รีบรับโทรศัพท์เถอะ" เธอค่อยๆเอื้อมมือไปหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาแล้วกดส่งข้อความให้ชายผิวสีแทนชาวไทยที่กำลังไดร์ฟกอล์ฟอย่างเมามันอยู่ที่สวนหลังบ้าน


      "ที่รักส่งอะไรมาหว่า เอ๋?" เสียงคำถามพร้อมความประหลาดใจดังขึ้น


      "มีอะไรรึเปล่าคะคุณท่าน" เสียงแม่บ้านในชุดสบายๆที่อยู่ในสถานหัวหน้าแม่บ้านชาวมอญในเรือนไทยสไตล์จีนหลังใหญ่ในซอยเล็กๆเป็นรู้จักในนาม'โอสุโบราณรักษ์' บ้านเลขที่92/340และ 92/344


      "มีความประสงค์ใดฤา" เสียงสาววัยเรียนอันสยดสยองจากหญิงผมสั้นสีน้ำเงินแกมม่วง ตาสีเหลืองเป็นประกายราวถูกสะกดจิตดังขึ้น


      "อ้าว! ราตรีตื่นแล้วเหรอพึ่งจะหกโมงครึ่งเอง แหมอาบน้ำแต่งตัวแล้วเหรอจะไปจัดงานต้อนรับน้องใหม่ที่ห้องเหรอจ๊ะ" เสียงหนุ่มร่างสูงใหญ่อายุราว46ปีหยอกล้อลูกสาวด้วยความสุขพร้อมเอาผ้าขึ้นมาเช็ดแว่นตา


      "แล้ว? ใช่เรื่องของท่านหรือไม่" หญิงสาวก็ยังไม่ยอมแพ้โต้ตอบกลับน้ำเสียงราบเรียบ


      "ไม่อ่ะจ๊ะ" เสียงผู้เป็นพ่อดังแล้วยอมจำนนเธอแจ่โดยดี


      "เอาเป็นว่ามาดูกันดีกว่านะว่าคุณสร้อยเขาส่งอะไรมา" พ่อของราตรีเริ่มเปลี่ยนเรื่องทันที


    ............................................................
      "หน้าเบื่อชะมัดเลยเอาเวลาไปซื้อเค้กช็อกโกแลตก็ไม่ได้" เสียงบ่นของหญิงสาวผู้ชอบกินช็อกโกแลตเป็นจิตใจดังขึ้น


      "ไม่เห็นต้องบ่นเลยยัยทอม บ่นไปก็ไม่ได้อะไรขึ้นมาหรอก" เสียงเตือนจากสาวหน้าแว่นดังขึ้นแต่เต็มเปี่ยมไปด้วยความเบื่อ


      "เห็นว่างานนี้ต้องจัดให้ดีที่สุดเลยนะ คงเป็นลูกคุณหนูมั้ง" อัคคีเริ่มออกความคิดเห็นหลังไม่มีบทมานาน


        "แล้วงานนี้เราจะตั้งชื่อซุ้มว่าอะไรแถมต้องคิดตีมของซุ้มอีกล่ะ แถมยังมีกฎว่า..." เอมิกาเริ่มเปิดประเดนงานที่พวกเธอได้มาหลังแบ่งงานต้อนรับน้องใหม่ที่จะกลายเป็นงานสวดวิญญาณแทนถ้าพวกเธอคิดไปแล้วเป็นที่ไม่หน้าพอใจกับพวกหน้าห้อง " ข้อที่1 ต้องเกี่ยวกับอาถรรพ์ ข้อที่2 ต้องมีคำที่เกี่ยวตอนกลางคืนอีก คิดแล้วปวดหัวชะมัดเลย"

     

      "ก็คิดว่าเรื่องอะไร หึหึหึ" พูดเสร็จลัลทริมาก็สยองทันที ตานี่ต้องแผนอีกแน่เลย เธอคิดอยู่ในใจก่อนที่เสียงของแสนดีจะดังขึ้นมา


      "เอาเป็นNight at the Mystery


     

    _________________________________
                       To be continue
    #*ตอนนี้ยังเขียนไม่เสร็จนะคะ
    ช่วงนี้เราเรียนพิเศษในกรุงเทพเลยไม่ได้เขียนพยายามสุดแล้วนะคะT^T *#
     
     
     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×