คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : Real love ตอนที่ 3/? รีอัพแล้วค่ะ
นับแต่นั้นเป็นต้นมาชานซองก็เริ่มตามตื๊อจุนโฮมากขึ้นเรื่อยๆถึงแม้จะโดนเหวี่ยงบ้าง แต่จนแล้วจนรอดดูเหมือนจุนโฮต้องยอมให้หมีตลอด จนใครๆต่างสงสัยว่าสองคนนี้เขามีSomething wrongกันหรือเปล่า อีกอย่างจุนโฮก็สนิทกับชานซองเร็วเกินไป จนใครๆก็ถามกันทั้งนั้นว่าไปสนิทกันตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่เว้นแม้แต่อูยองเพื่อนสนิทของทั้งสองคน
“ทำไมไม่เล่าให้ฟังบ้างว้า พวกแกกำลังปิดบังอะไรฉันรึเปล่าฉันอยากรู้เต็มแก่ว่าพวกนายสนิทกันได้ยังไง”คนแก้มอูมหันไปถามคนตาตี่
“ไม่มีอะไรหรอกน่า นี่นายถามฉันจนฉันเบื่อแล้วนะ เอ้านั่นไอ้หมีมาพอดี มีไรกินมั่งอะ”จุนโฮรีบเปลี่ยนเรื่องทันที
“นี่เบอเกอร์ปลาร้านประจำแล้วก็น้ำแตงโมปั่น ส่วนของอูยองฉันซื้อไก่ทอดมาให้ร้านนี้เคยติดดาวด้วยนะอร่อยมากๆ”ชานซองหยิบของส่งไปให้เพื่อนทั้งสองคน
“โห ถึงขนาดรู้ของโปรดร้านประจำของจุนโฮมันด้วย นี่พวกนายคงไม่ได้กำลังกิ๊กกันใช่ไหม ว่าแต่แกหายกลัวหมีตั้งแต่เมื่อไหร่วะจุนโฮ”อูยองที่กำลังเคี้ยวไก่อยู่ก็ถามเพื่อนสนิทอีกครั้ง
“ไม่ได้กิ๊กกันเว่ย แค่สนิทกันมากขึ้นเฉยๆ ไม่เห็นแปลกเลยนายก็รู้ว่าของโปรดฉันคืออะไรไม่ใช่หรอไอ้ด้ง แล้วฉันก็ไม่ได้จิตตกกับหมีขนาดนั้นเสียหน่อย แกอะพูดเกินไปแล้ว”ยังไม่ทันที่ชานซองจะกล่าวอะไรจุนโฮก็รีบพูดตัดหน้าก่อน
“เออไม่แปลกเลยยยย~ แต่ใครกันน้าที่พอเห็นตุ๊กตาหมีทีไรก็วิ่งแจ้นหนีมาอยู่หลังฉันทุกที แล้วก็จริงอยู่ที่ฉันก็รู้ว่าแกชอบอะไรไม่ชอบอะไรเหมือนกับไอ้ชานแต่ฉันสนิทกับนายตั้งแต่ประถมนะอย่าลืมสิ ส่วนไอ้ชานนายเจอมันไม่ถึงปีก็สนิทจนรู้ไส้รู้พุง = =”ความจริงผมก็แค่คนข้างสนามเรื่องนี้พวกมันอยากจะเก็บเป็นความลับก็ช่างมันผมไม่ได้ไม่เสียด้วยสักหน่อย ก็แค่อยากรู้ว่าเป็นแฟนกันหรือยังก็แค่นั้น ถ้าเป็นก็ดีไปเพราะตอนนี้ผมก็ใกล้จะเปิดทางให้พี่แทคกลับมาง้อพี่คุณแล้วด้วย แต่ถ้าไม่จุนโฮมันคงจะเจ็บน่าดู
“ทำไมนายไม่บอกอูยองไปล่ะว่าทำไมเราถึงสนิทกัน”ชานซองถามเพื่อนอย่างงงๆ
“แล้วนายอยากให้บอกเหรอไงว่า ที่ฉันสนิทกับนายได้เพราะนายเป็นคนเดียวที่ทำให้เรื่องร้ายๆเกี่ยวกับหมีไม่มาลงที่ฉัน”เพราะความเป็นจริงแล้วพอเริ่มสนิทกันมากขึ้น เรื่องร้ายๆทั้งหลายที่เกิดจากหมี มันไม่ได้ตกอยู่ที่เขาอีกต่อไป แต่กลับไปลงที่ชานซองทุกที แต่ถึงอย่างนั้นก็ไม่เคยเห็นชานซองบ่นสักครั้งแถมยังตีสนิทมากขึ้นกว่าเดิมเสียอีก ในเมื่อมีแต่ผลดีเข้ามาเขาก็เลยยอมให้ชานซองอยู่ใกล้ๆ
“อย่างน้อยอูยองก็ไม่เคยปากโป้งไม่ใช่หรอ ฉันว่าความจริงแล้วที่เราสนิทกันได้ก็เพราะอูยองนะ”ชานซองกระซิบที่ข้างหูก่อนกลับมาทานอาหารของตน แชะ!เสียกดชัตเตอร์ของใครคนหนึ่งดังขึ้น
“หนอยไอ้เด็กไม่มีมารยาทอย่างนี้ต้องสั่งสอนเสียหน่อย”จุนโฮรีบลุกขึ้นไปกระชากกล้องของรุ่นน้องที่ถ่ายรูปเขาเมื่อครู่แล้วต่อว่าทันที
“นายนี่ไม่รู้จักกาลเทศะเอาซะเลย นี่เวลาพักนะ อีกอย่างฉันไม่ใช่พ่อแม่นายนะจะถ่ายไปทำไม”จุนโฮเหวี่ยงใส่เด็กคนนั้นทันที
“แค่นี้ก็ถ่ายไม่ได้เหรอไง ผมไม่ได้อยากถ่ายพี่นักหรอกคนอะไรหยิ่งชะมัด อีกอย่างอย่าหลงตัวเองไปหน่อยเลยผมแค่จะถ่ายวิว บังเอิญมันติดพี่ไปก็เท่านั้น”เด็กคนนั้นรีบมาแย่งกล้องกับคืน แต่มีหรือเขาจะยอม เขาไม่เคยหลงตัวเอง แต่ไอ้เด็กนี่มันถ่ายรูปเขาจริงๆนี่นา ด้วยเหตุนี้ก็เลยเกิดการยื้อแย่งกันขึ้น ชานซองทนไม่ได้เลยจะเดินเข้ามาห้ามแต่กลายเป็นว่ากล้องกระเด็นเข้าที่หน้าของเขาพอดี
“อ๊ะ! ชานนาย... /พี่ชาน!!!!”ชานซองหันมามองทั้งคู่ก่อนจะเก็บกล้องส่งคืนรุ่นน้องคนนั้น
“นี่กล้องของนายพี่คืนให้ พี่ไม่ว่าหรอกนะถ้าอยากจะถ่ายรูปใคร แต่ถ้าจะถ่ายรูปอี จุนโฮคนนี้ ในรูปนั้นจะต้องมีพี่หรือไม่ก็พี่อูยองด้วยเข้าใจไหม เพราฉะนั้นเม็มอันนี้พี่ขอยึด ไปเถอะจุนโฮ”ชานซองจูงเขามานั่งที่เดิมแล้วแกะแฮมเบอร์เกอร์แสนอร่อยส่งให้ ใช่ว่าเขาไม่โกรธนะ แต่อย่างน้อยมีคนชอบจุนโฮก็ดีกว่ามีคนเกลียด
“ไปห้องพยาบาลเดี๋ยวนี้!!”จุนโฮตะโกนบอกคนที่ส่งแฮมเบอร์เกอร์มา
“ไม่เป็นไรมากหรอกน่า กินๆเข้าไปจะได้ไปเรียนกัน แต่ถ้านายสำนึกผิดบ้างก็ไปเที่ยวกับฉันวันอาทิตย์นี้สิ”ชานซองส่งยิ้มมาให้
“ด้งฉันฝากของก่อนนะ ไอ้หมีมานี่”จุนโฮลากชานซองมาที่ห้องพยาบาลทันทีส่วนอูยองเพียงแค่มองตามและยิ้มบางๆเท่านั้น
“เอาผ้าเช็ดหน้าฉันอุดจมูกไว้ก่อน แล้วก็ก้มหน้าลงห้ามเงยขึ้นมาเด็ดขาดไม่อย่างนั้นฉันจะบีบคอนายให้ตายไปเลย ชิส์”คนอะไรไม่เคยห่วงตัวเองบ้างเลย นี่ขนาดกล้องโดนจมูกจนเลือดกำเดาไหลก็ยังยิ้มได้มันน่าโมโหนัก
“...”
“ถ้ารู้ว่าจะเป็นอย่างนี้นะ น่าจะต่อยไอ้น้องคนนั้นไปสักสองหมัด เจ็บใจชะมัดเด็กอะไรไม่มีสัมมาคาราวะเอาซะเลย”
“...”
“นายก็เหมือนกัน ไปยอมรุ่นน้องคนนั้นทำไมฮะ ถ้าเป็นฉันนะจะเอาคืนไปหลายๆเท่าเลย วันนี้จูนเครื่องมารึเปล่าเนี่ย ใจดีกับรุ่นน้องชะมัด”จุนโฮอดที่จะบ่นไม่ได้ เพราะถ้าเป็นตนจะไม่ยอมให้มันจบอย่างนี้แน่นอน
“ห่วงฉันหรอ”ชานซองเงยขึ้นมามองหน้าจุนโฮ
“บ้า โดนเสยจมูกเข้าไปสงสัยจะสมองกลับ อาจารย์ครับมียาแก้โรคประสาทไหมครับ สงสัยเพื่อนผมจะเป็นโรคประสาท!”จุนโฮที่หน้าเริ่มแดงรีบเบือนหน้าไปถามอาจารย์พยาบาล
“ไม่มีหรอกจ๊ะจุนโฮ เอ้อ เด็กๆครูฝากห้องแปปนึงนะจ๊ะพอดีมีธุระแล้วเดี๋ยวครูโทรไปบอกอาจารย์ควอนให้ว่าพวกเธอไม่สบาย”อาจารย์อึนจองบอกก่อนหยิบกระเป๋าถือเดินออกไปจากห้อง ทิ้งให้เด็กหนุ่มทั้งสองคนอยู่ในห้องเพียงลำพัง
ห้องทั้งห้องตกอยู่ในความเงียบเพราะนอกจากจุนโฮจะไม่ยอมพูดกับชานซองแล้ว ก็ยังเอาแต่กดโทรศัพท์ไม่เงยหน้ามามองอีกคนเลย ทำให้ชานซองทนไม่ไหวเอ่ยขึ้นมา
“นายเคยเป็นห่วงฉันจริงๆบ้างรึเปล่าจุนโฮ หรือที่นายทำอยู่แค่ไถ่โทษเพราะเรื่องมันเกิดจากนาย”ทุกๆครั้งที่ชานซองเจอผลพวงของเรื่องร้ายๆที่เกิดจากจุนโฮ จุนโฮก็มักจะดูแลเขาแต่ก็ไม่เคยได้ใส่ใจเขาจริงๆเลยสักครั้ง
“แล้วนายคิดว่ายังไงล่ะชาน”จุนโฮมองหน้าอีกคนด้วยความไม่พอใจ ถ้าไม่เป็นห่วงเขาโวยวายทำไม เขาจะทำอย่างนี้ไหม ก็เพราะเป็นห่วงหรอกถึงได้บ่น สงสัยไอ้หมีนี่จะซื่อบื้อ
“ฉันคิดว่านายแค่รู้สึกผิด”ชานซองทำหน้าพองลมใส่จุนโฮบ่งบอกให้รู้ว่าเจ้าตัวกำลังงอน
“ก็ดี นี่ฉันจะบอกให้นะขนาดพ่อแม่ฉัน ฉันยังไม่เคยได้พูดคำว่าเป็นห่วงเลย แล้วนายเป็นใครคำว่าเป็นห่วงไม่เคยออกจากปากนาย แล้วทำไมฉันถึงต้องบอกนายด้วยว่าเป็นห่วงรึเปล่า”พูดจบจุนโฮก็กลับไปสนใจโทรศัพท์มือถืออีกครั้ง
“...”ชานซองเห็นอีกคนไม่สนใจเขาก็ยิ่งงอนเข้าไปใหญ่ คราวนี้ถึงกับปาผ้าเช็ดหน้าอีกคนทิ้งแล้วนอนหันหลังให้เลยทีเดียว ‘ใช่สิก็ฉันไม่ใช่พี่คุณนี่นายถึงไม่สนใจ ฉันงอนนายแล้วจุนโฮ’
“นายกล้าปาผ้าเช็ดหน้าฉันทิ้งหรอไอ้หมีบ้า!”จุนโฮโกรธมากที่คนตัวโตถึงกับปาผ้าเช็ดหน้าเขาทิ้ง ขนาดทะเลาะกับอูยองแรงๆเขายังไม่เคยเจอเหตุการณ์แบบนี้เลยสักครั้ง
“นายไม่สนใจฉันอยู่แล้วไม่ใช่หรือไง”ชานซองเอ่ยเบาๆ
“นายต้องการคำอธิบายอะไรนักหนาฮะ ฉันถามหน่อยผ้าเช็ดหน้ามันผิดหรือเปล่านายถึงปามันทิ้งน่ะ”เขาพยายามควบคุมสติเพราะไม่ต้องการทะเลาะกับชานซองในเวลานี้ แค่นี้เขาก็ปวดหัวจะแย่อยู่แล้ว
“ไม่ผิด แต่ฉันโกรธเจ้าของมัน”ชานซองทำหน้าพองลมใส่
“ถ้าโกรธเจ้าของมันมากนักก็อย่าเจอกันสักพักเถอะ”ขอโทษนะชานแต่ฉันไม่อยากให้นายรู้เรื่องนี้ สาเหตุที่เขาสนใจแต่โทรศัพท์ก็เพราะว่าคุณป้าส่งข้อความมาบอกว่าแม่เขาป่วยหนักให้รีบบินไปที่ญี่ปุ่นทันที จุนโฮรีบวิ่งออกจากห้องพยาบาลก่อนจะตรงไปขึ้นรถที่มารับตรงไปสนามบินก่อนที่จะส่งข้อความไปบอกเพื่อนแก้มอูม
‘ฉันต้องไปญี่ปุ่นด่วนแม่ฉันป่วยห้ามบอกใครเด็ดขาด ฝากดูแลไอ้หมีด้วยตอนนี้มันอยู่ห้องพยาบาล’
ใช่ว่าจุนโฮไม่อยากจะบอกชานซอง แต่เวลานี้ต่อให้พูดอะไรออกไปก็เหมือนกับการแก้ตัวให้ตัวเองและเขาก็ยังไม่รู้สถานการณ์ที่แน่ชัดถ้าพูดอะไรออกไปอาจจะส่งผลถึงเพื่อนเขาก็เป็นได้ อีกอย่างบางทีเรื่องร้ายเรื่องนี้อาจจะเกิดเพราะเขาอยู่ใกล้ชานซองก็ได้เหมือนกัน(จุนโฮยังเชื่อเรื่องดวงอยู่= =)
“คุณหนูอี ถึงสนามบินแล้วครับ”คุณพ่อบ้านนัมยงเปิดประตูให้คุณหนู
“ครับ เราจะไปลำไหนล่ะ”ปกติเวลาจะบินข้ามประเทศมักจะมีเครื่องบินส่วนตัวมารอรับอยู่แล้ว แต่คราวนี้แตกต่างจากทุกครั้งที่ผ่านมาเพราะมีเครื่องบินติดเครื่องรอถึงห้าลำ
“ลำที่สองครับ ตอนนี้สถานการณ์ไม่ปกติเราจึงต้องคุ้มครองเป็นพิเศษ”พ่อบ้านรีบจูงมือจุนโฮขึ้นเครื่องทันที นี่อาจจะไม่ใช่การป่วยธรรมดาเสียแล้วเพราะเขาเห็นรถแบบเดียวกันและมีคนใส่ชุดแบบเขาขึ้นเครื่องบินในอีกสี่ลำที่เหลือเหมือนกัน
เมื่ออยู่บนเครื่องแล้วเครื่องบินก็ออกตัวทันที ด้วยความสงสัยจุนโฮจึงเอ่ยถามถึงความเป็นมาของเรื่องนี้และได้ใจความว่ามีกลุ่มผู้มีอิทธิพลในญี่ปุ่นไม่พอใจที่พวกเขาไม่สามารถทำร้ายนักธุรกิจฝั่งตรงข้ามได้ก็เลยหันมาเล่นงานบริษัทรักษาความปลอดภัยที่ทำงานให้บักธุรกิจคนนั้นแทน
“คุณแม่ไม่เป็นไรใช่ไหมครับคุณนัมยง”
“ไม่ทราบอาการแน่ชัดครับ แต่ตอนนี้เราต้องระวังตัวเพิ่มขึ้นเป็นหลายเท่าตัว คุณผู้ชายฝากมาบอกว่าทางที่ดีคุณหนูไม่ควรอยู่ทั้งญี่ปุ่นแล้วเกาหลี”จุนโฮได้ฟังก็เอะใจ ก็ในเมื่อพวกเขากำลังจะไปญี่ปุ่นกันไม่ใช่หรอแล้วทำไมบอกว่าไม่ควรไปญี่ปุ่นล่ะ
“หมายความว่ายังไงครับคุณพ่อบ้าน”
“ลำของเราและผู้ติดตามอีกหนึ่งร้อยคนจะลงจอดที่ประเทศไทย เราจะอยู่ที่นั่นจนกว่าเรื่องนี้จะยุติ และทางที่ดีเราไม่ควรติดต่อกับใครในเวลาเช่นนี้”
“ถ้าอย่างนั้น ตอนนี้ช่วยให้นักบินล็อคเป้าไปประเทศไทยก่อน แล้วส่งคลื่นแทรกมาทันที ผมจะโทรหาเพื่อนที่เกาหลีก่อนที่จะไปไทย”ถ้าไม่บอกพวกนั้นก่อนมันคงจะบอกคนที่มาตามหาเขาแน่ ไม่แน่บางทีอันตรายอาจจะเข้าไปหาอูยองเพื่อนรักของเขาก็ได้ แต่เขาควรจะโทรหาใครดีล่ะ อูยอง ชานซอง หรือคนที่เขาแอบรักดี
“ฮัลโหล มีอะไรรึเปล่าจุนโฮ”น้ำเสียงเป็นห่วงถูกส่งผ่านมาตามสายทันที
“ฟังดีๆนะ ตอนนี้ที่เกาหลีกับญี่ปุ่นอันตรายมากสำหรับคนที่ชื่อ อี จุนโฮ เพราะฉะนั้นถ้าใครถามถึงคนชื่อนี้บอกไปทันทีว่าไม่สนิทหรือไม่ก็ไม่รู้จักจะยิ่งดีเข้าไปใหญ่”
“นายเป็นอะไร ปกติไม่เคยพูดแบบนี้นะจุนโฮ”น้ำเสียงร้อนรนของผู้ชายคนนี้เพิ่มขึ้นทุกทีจนทำให้ผมทำใจลำบากเสียแล้ว
“ลืมชื่อจุนโฮไปซะตั้งแต่วินาทีนี้ ผมขอแค่นี้ได้ไหมครับ”
“ทำไมบอกพี่มาก่อนสิจุน....นายบอกพี่มาก่อนได้ไหม”คุณเดาถูกแล้วผมโทรหาพี่คุณ พี่คุณเป็นคนเดียวที่พร้อมจะทำตามโดยไม่ถามเหตุผลและเพราะไม่อยากให้เขาเป็นห่วงผมจึงเลือกที่จะโทรหาเขา
“พี่คุณครับสิ่งที่ผมบอกไปพี่จำไว้ให้ขึ้นใจนะครับ ฝากบอกอูยองกับชานมันด้วย อันตรายมีอยู่ทุกที่ เมื่อเหตุการณ์สงบผมจะรีบกลับไปหาทันที ผมรักพี่นะครับพี่คุณ แล้วพี่...”ไม่ทันที่จะพูดจบประโยคพี่ชายก็รีบตอบกลับมาทันที
“พี่ก็รักนาย พวกเราทุกคนรักนาย รีบกลับมาเร็วๆนะจุนโฮ ขอให้นายปลอดภัย”
“ผมก็หวังว่าเช่นนั้น...”สัญญาณถูกตัดขาดทันทีที่สุดเขตประเทศเกาหลี เขาอยากจะบอกเหลือเกินว่าคำว่ารักที่พูดออกไปคือรักที่ไม่ใช่แบบพี่น้องอีกแล้ว แต่ก็กลัวว่าถ้าพูดออกไปอาจจะทำให้ผมสูญเสียพี่ชายคนนี้ของผมไปก็ได้ถ้าเป็นอย่างนั้นสู้ให้เขาคิดแบบนั้นไปดีกว่า
TBC.
ความคิดเห็น