ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [SF 2PM ; CH ] Real love ที่รักครับผมรักคุณ

    ลำดับตอนที่ #12 : Real love ตอนที่ 8/?

    • อัปเดตล่าสุด 31 มี.ค. 56


     

    สภาพห้องที่ข้าวของระเกะระกะไปหมด ภาพที่ใครเข้ามาเห็นก็คงเข้าใจผิดคิดว่าเกิดสงครามกลางห้องขึ้น แต่ถ้าหากแง้มประตูห้องนอนเข้าไปดูสองร่างที่ตระกองกอดกันบนเตียงก็คงเข้าใจได้ดีว่าเกิดอะไรขึ้น

     

     

    จุนโฮเริ่มรู้สึกตัวก็ความหาหมอนข้างที่มักนอนกอดประจำ พอได้หมอนข้างดังใจก็กระชับวงแขนมากขึ้นเอ๊ะ!แปลกจังทำไมวันนี้หมอนข้างอุ่นจังเลย แถมยังแข็งๆแปลกๆด้วย ไม่เห็นนุ่มนิ่มเหมือนทุกใบเลย เมื่อคิดได้ดังนั้นร่างบางก็ปล่อยหมอนข้างแล้วพลิกตัว

     

     

    “อืม~ หมอนข้างอันนี้สงสัยต้องเอาทิ้งซะแล้ว ไม่นุ่มนิ่มเอาซะเลย แต่.....”

     

     

    “ เอ๊ะ”

     

     

    “ หืม อะไรหรอนูนอ”

     

     

    “ อะ”

     

     

    -3-”ชานซองทำปากยื่นหาอีกคน

     

     

    “เฮ่ยยยยยย ไอ้หมี!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!”จุนโฮสะดุ้งสุดตัวหลังจากดึงสติกลับมาได้

     

     

    “เบาๆสินูนอ ไม่เจ็บหรอ”ความจริงชานซองตื่นนานแล้วแต่ไม่อยากลุกขึ้นจากเตียง

     

     

    “เจ็บ มาก!!!!!!!!!”ความเจ็บแล่นแปล๊บผ่านลำตัวจนไม่อาจทนไหว จุนโฮไล่มองสภาพห้องที่ยับเยินจนน่าอับอาย

     

     

    “นูนอได้ชานแล้ว อย่าลืมให้แม่มาขอชานนะ”ชานซองคิดขำตัวเองอยู่เหมือนกันที่พูดออกไปแบบนี้ แต่ก็เขาอยากเห็นมุมที่จุนโฮเหวี่ยงนี่นา ยิ่งเห็นยิ่งอารมณ์ดี

     

     

    “ไม่หมีบ้า โอ๊ยย!!! แกต่างหากเล่าที่ต้องมาขอฉัน เห็นไหมหลักฐานเต็มไปหมด” ไอ้บ้าฉันไม่น่าเสียประตูหลังให้แกเลย ยิ่งคิดภาพค่ำคืนที่แสนเร่าร้อนก็ยิ่งปรากฏเด่นชัดในสมอง ยิ่งคิดหน้าก็ยิ่งแดงขึ้นไปอีก

     

     

    “บ้าที่ไหน ก็บ้ารักนูนอคนเดียวนั่นแหละ”

     

     

    “บ้า บ้า ๆๆๆๆๆ นายมันบ้า ฉันไม่คุยกับนายแล้ว จะให้แม่ฉันไปขอนายหรอ ฝันไปเถอะ ต่อให้เป็นชาติหน้าก็ไม่มีวัน”จุนโฮกำลังจะลุกขึ้นจากเตียงแต่ไม่ทันชานซองที่คว้าตัวเขาเข้าไปกอด

     

     

    “จุนโฮอ่า ชานรักจุนโฮจริงๆนะ เรามาเป็นแฟนกันเถอะ”

     

     

    “บะ...บ้า ฉันชอบพี่คุณ แล้วจะเป็นแฟนกะนายได้ยังไง ปล่อยมือฉันเลย ฉันจะไปอาบน้ำ แล้วนายก็ลืมเรื่องเมื่อคืนไปซะ ทุกอย่างมันคือความผิดพลาด เข้าใจไหม”จุนโฮไม่อยากเผชิญหน้ากับผู้ชายคนนี้ ตอนนี้เลย เขากำลังสับสน เขาอยากได้ที่ปรึกษา

     

     

    “จุนโฮฉันถามจริงๆเถอะ นายคิดว่าเมื่อคืนคือความผิดพลาดอย่างนั้นหรอ”

     

     

    “แน่นอนมันคือสิ่งที่ผิดพลาดที่สุดในชีวิตฉัน”ผิดพลาดที่สุด ผิดพลาดที่ยอมเสียตัวให้กับผู้ชายคนนี้ แต่ไม่เสียใจเลย นี่แหละที่ต้องมีอะไรผิดพลาดแน่ๆ

     

     

    “ถ้าเมื่อคืนคนที่นอนกับนายเป็นพี่คุณ นายจะยังทำอย่างนี้ไหมจุนโฮ นายจะคิดว่ามันผิดพลาดรึเปล่า”ใจของผู้ชายคนหนึ่งจะทนได้นานแค่ไหนกัน ยิ่งเขาบอกว่ารักอีกคน ยิ่งเขาไม่อยากเห็นหน้ากัน ยิ่งเข้าใกล้เหมือนยิ่งไกลออกไป เขาชักจะทนมันไม่ไหวแล้ว จุนโฮนายช่วยบอกทีว่านายไม่ได้รังเกียจฉัน

     

     

    “ใช่ ถ้าเป็นพี่คุณ ฉันจะไม่พูดอย่างนี้ เข้าใจแล้วก็ปล่อยฉันซักทีฮวาง ชานซอง”เพราะถ้าเป็นพี่คุณ พี่คุณจะไม่ทำเรื่องอย่างนี้กับเขาอย่างแน่นอน

     

     

    เพียงแค่คำพูดไม่กี่คำของร่างเล็กที่ใครหลายๆคนคิดว่าเป็นคำพูดธรรมดาแต่กลับทำให้หัวใจของชานซองเต้นแผ่วลงอย่างน่าใจหาย แสดงว่าต่อให้เขาทำดีเท่าไหร่ ยอมคนตรงหน้าขนาดไหน เขาก็ไม่มีวันเทียบกับผู้ชายที่ชื่อนิชคุณได้เลย มันคงถึงเวลาที่เขาจะปล่อยมือเสียที

     

     

    จุนโฮลุกจากเตียงอย่างยากลำบาก ค่อยๆพยุงร่างกายที่บอบช้ำผ่านประตูห้องน้ำไป เขาเองยังสับสนว่าตกลงแล้วเขาคิดยังไงกับฮวาง ชานซองกันแน่ จะเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก็ไม่เชิง แต่เขาก็ดีใจที่คนที่เขามีอะไรด้วย ไม่ใช่คนอื่น เขาอยากแน่ใจว่าความจริงแล้วหัวใจของเขามันรู้สึกยังไงมากกว่า

     

     

    หลังจากเจอกับนิชคุณแล้วเขาก็แวะไปนั่งคิดอะไรคนเดียวที่สวนสาธารณะใกล้ห้องพักของเขา เขาจะมั่นใจได้ยังไงว่าเขานั้นแอบรักชานซอง  ในเมื่อเขาเองก็ออกจะมีปากเสียงกับหมอนั่นอยู่บ่อยๆ

     

     

    “อูยอง ฉันมีเรื่องให้นายช่วย” เมื่อจุนโฮคิดไม่ออก อูยองมักจะเป็นคนแรกๆที่เขาคิดถึง

     

     

    “หืม อะไรล่ะจุนโฮ”

     

     

    “ฉันไม่รู้ว่าจะบอกยังไงดี”

     

     

    “เรื่องนายเสียตัวให้ไอ้ชานน่ะหรอ หึหึ” คนแก้มอูมจี้ตรงประเด็น

     

     

    “นายรู้ได้ไง... เอาเถอะ ฉันอยากรู้ว่านายมองเห็นความสัมพันธ์ของฉันกับมันยังไง”

     

     

    “อย่าบอกนะว่ายังไม่แน่ใจอีก ทำไมนายเป็นคนโลเลอย่างนี้ นี่รู้ไหมว่าโลกนี้น่ะเวลามั...”

     

     

    “เอาน่ะ บอกมาเร็วๆอย่ามาพล่ามอะไรน่ารำคาญ”จุนโฮรีบบีบให้เข้าประเด็น

     

     

    “เออๆ นายกับชานถึงจะกัดกันบ่อย แต่มีสายใยบางอย่างที่ตัดกันยังไงไม่ขาดไงล่ะ นายไม่รู้สึกบ้างหรอ เวลาที่นายต้องการชานซองทีไร ชานมันก็จะอยู่ข้างๆนายเสมอ ฉันไม่ค่อยแน่ใจหรอกนะว่านายรู้สึกยังไงกับไอ้หมีนั่น แต่ฉันรู้แค่ว่า ไอ้หมีนั่นรักนายมากๆเลยล่ะ”

     

     

    “แล้วฉันล่ะรู้สึกยังไงกับมัน เฮ่อ! เอาเถอะขอบใจมากนะ”

     

     

    “รีบๆคิดให้ออกล่ะ ถ้าขาดมันไม่ได้ก็ยอมรับไปซะว่านายตกหลุมที่ไอ้หมีมันขุดไว้แล้ว”

     

     

    “เรื่องของฉันน่า ไอ้แก้มบวมน่ารำคาญ แค่นี้นะ!!

     

     

    ทำอย่างไรดีหนอถึงจะรู้ความคิด ความรู้สึกจริงๆของเขาที่มีต่อชานซอง แค่คิดว่าต้องห่างกันหัวใจก็เต้นแผ่วลงจนน่าใจหาย แต่ถ้าเทียบกับความรู้สึกที่มีต่อพี่ชายที่รัก เขากลับสับสน ความคิดตีกันอยู่ในหัวไม่หยุด กว่าจะรู้ว่ารักใครสักคนทำไมมันยากจังนะ หัวใจเอ๋ยบอกนูนอที

     

     

    หลังจากวันที่เกิดเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างจุนโฮกับชานซองดูเหมือนจะมีระยะห่างมากขึ้นเรื่อยๆ ชานซองที่แต่ก่อนคอยเอาอกเอาใจ ก็พูดด้วยน้อยลง ไม่ค่อยเดินไปไหนกับจุนโฮแล้ว จุนโฮที่แต่ก่อนชอบวีนใส่ชานซองวันๆก็เอาแน่นั่งเหม่อมากกว่าแต่ก่อนเสียอีก

     

     

    “สัปดาห์หน้าจะสอบแล้วนะไอ้ตี่ ทำไมนายมัวแต่เหม่ออย่างนี้”

     

     

    “หืม อย่าห่วงเลยอูยอง ฉันขอตัวก่อนนะ”ว่าแล้วจุนโฮก็หยิบเป้เดินออกไป

     

     

    “ตกลงเรื่องนายไม่ลงตัวหรือไงชาน”

     

     

    “อืม จุนโฮไม่ได้รักฉันหรอกด้ง ฉันเองก็พยายามตัดใจเรื่องนี้แล้วเหมือนกัน”

     

     

    “อะไรกันนักหนานะคู่นี้ เอางี้ฉันแนะนำผู้ชายให้เอาไหม คนนี้คล้ายจุนโฮมากเลยนะ เอามาดามใจน่าจะได้เลยล่ะ”

     

     

    “เอามาดูสิ ถ้าไม่ใช่จุนโฮ ฉันจะคบกับใครก็ได้ทั้งนั้นแหละ”

     

     

    “อ้าว เฮ่ย จะเหมาหมดเกาหลีเลยรึไง”

     

     

    “ความจริงอะ มันไม่ใช่ว่าเป็นใครก็ได้ แต่ว่าถ้าไม่ใช่จุนโฮฉันก็คงไม่คิดจริงจังกลับใครอีกยังไงล่ะ”

     

     

    “แล้วเรื่องที่ได้ทุนไม่คิดจะบอกไอ้คนขี้เหวี่ยงหน่อยรึไง”อย่าคิดนะว่าเขาไม่รู้ คนอย่าง อูยองน่ะสืบได้ทุกเรื่องอยู่แล้ว หึหึหึ

     

     

    “จุนโฮคงไม่สนใจว่าฉันจะอยู่หรือไปหรอก ไม่บอกแหละดีแล้ว ยิ่งใกล้กันตอนนี้ฉันก็ยิ่งตัดใจได้ยากขึ้น”ชานซองพูดก่อนจะเดินเลี่ยงไป

     

     

    “ทำไมสองคนนี้มันลงตัวยากจังวะเนี่ย”

     

    ถึงแม้วันนี้นักเรียนทุกคนจะหยุดเรียนแต่ส่วนใหญ่ก็จะนั่งจับกลุ่มกันติวหนังสือบริเวณโรงเรียนเพื่อสอบในอีกสองวันข้างหน้า แตกต่างจากจุนโฮที่กำลังวุ่นอยู่กับงานทางบ้านที่เกิดมีปัญหาขึ้นมากะทันหัน จนไม่สามารถมาติวกับอูยองและชานซองได้

     

     

    “แกมีเรื่องอะไรนักหนาฮะจุนโฮ”อูยองพูออกไปด้วยความโมโห เพราะความจริงวันนี้คนที่นัดพวกเขามาก็คือจุนโฮนั่นเอง

     

     

    “ขอโทษด้วยนะ พอดีป๊าฉันหนีงานไปเที่ยวกับหม่าม้าจนฉันขยับตัวไปไหนไม่ได้เลย”ใช่ว่าเขาไม่อยากไปติวเสียเมื่อไหร่ ยิ่งช่วงนี้เขาไม่ค่อยมีกะจิตกะใจเรียนหนังสือ อูยองมาติวให้นี่ก็ถือว่าช่วยได้มากเลยทีเดียว

     

     

    “เออๆ งั้นเอาอย่างนี้ ฉันไปหานายก็แล้วกัน ไปติวมันถึงบริษัทนายเนี่ยแหละ ดูซิว่าใครจะมีปัญหาและใครจะเอาปัญหามาให้แกอีก”

     

     

    หลังจากวางสายสองหนุ่มจึงตรงไปที่บริษัทรักษาความปลอดภัยตระกูลอีทันที แต่เมื่อถึงบริษัทพวกเขากลับต้องมานั่งรอที่ห้องจุนโฮจากการบังคับของบอดี้การ์ดอีกเนี่ยสิ

     

     

    “อะไรมันจะยุ่งยากขนาดนี้วะ พวกนายไม่รู้หรือไงอีกสองวันเจ้านายของพวกแกเนี่ยจะสอบแล้วนะโว้ย”อูยองตะโกนอย่างหัวเสีย

     

     

    “ผมก็อยากให้พวกคุณเข้าพบคุณหนูหรอกนะครับ แต่ว่ามีประชุมกะทันหัน เกี่ยวกับระบบรักษาความปลอดภัยของบริษัทเราหยุดทำงานตั้งแต่เมื่อสิบนาทีที่แล้ว”

     

     

    “คุณพ่อบ้านนัมยงอยู่ที่นี่ด้วยรึเปล่า เรียกมาพบฉันเดี๋ยวนี้”บอดี้การ์ดพยักหน้ารับก่อนจะสื่อสารต่อเพื่อเรียกนัมยงขึ้นมาพบเพื่อนเจ้านายทันที

     

     

    “อ้าวคุณอูยอง คุณชานซอง มากันได้ยังไงครับ”

     

     

    “คุณพ่อบ้าน! นี่มันเกิดอะไรขึ้น คุณพ่อบ้านไม่รู้รึไงว่าอีกสองวันไอ้ตี่มันจะสอบแล้วนะ ทำไมไม่ให้พี่สาวมาประชุมแทนเล่า เอาไอ้ตี่มาประชุมแบบนี้ เกรดเทอมนี้มันคงถึง 2.00 หรอกนะ”ใครๆก็ต่างรู้ดี ขนาดจุนโฮตั้งใจเรียนเกรดยังไม่เคยจะเกิน 3.50 เลยแล้วนี่ยิ่งช่วงนี้สติไม่สมประกอบอยู่ เกรดมันตกลงอย่างกับเหวลึกแน่ๆคอยดูสิ

     

     

    “ใช่ว่าผมอยากให้คุณหนูเข้ามาทำงานสักหน่อยนิครับ แต่ว่าท่านประทานใหญ่เขาสั่งไว้แบบนี้ พวกผมก็จนใจ”

     

     

    “คุณมีอะไรปกปิดผมอยู่ใช่ไหมครับคุณพ่อบ้าน ป๊าต้องวางแผนอะไรสักอย่างแน่ๆ”ป๊าจุนโฮนี่เป็นพ่อประสาอะไรกันนะ ทำไมชอบแกล้งลูกตนเองอย่างนี้

     

     

    “บอกตรงๆเลยก็แล้วกันนะครับ คือความจริง นายใหญ่เห็นว่าคุณหนูเอาแต่เหม่อทั้งวัน ข้าวปลาก็ไม่ค่อยทาน ก็เลยหางานให้ทำเพื่อที่จะได้ไม่มานั่งใจลอยน่ะสิครับ ไอ้ตัวผมก็บอกไปแล้วว่าอย่าทำแบบนี้เลย แต่นายท่านก็ไม่ยอมฟัง แถมยังหอบเอานายหญิงติดตัวไปด้วย คุณหนูก็เลยไม่มีเวลานั่งเหม่อเลยจริงๆ”

     

     

    “แล้วเมื่อไหร่ จุนโฮถึงจะประชุมเสร็จกันล่ะ ผมมาติวหนังสือให้มันนะคร้าบคุณพ่อบ้าน”

     

     

    “อีกเดี๋ยวก็เสร็จแล้วล่ะครับ ว่าก็ว่าเถอะครับ ตั้งแต่คุณหนูมาทำงานแทนนายใหญ่ คุณหนูก็แก้ปัญหาได้รวดเร็วและมีประสิทธิภาพมากเลยนะครับ อย่างกับว่าทำงานมาตั้งแต่เปิดบริษัทเลยก็ว่าได้”พ่อบ้านพูดออกมาด้วยความภาคภูมิใจในตัวของจุนโฮ

     

     

    “แน่ล่ะ ก็เพราะว่ามันใส่ใจบริษัทจนเกินตัวเลยไม่สนใจการเรียนเลยไงล่ะ”

     

     

    “แล้วก็สนใจแต่ครอบครัวจนไม่ยอมคบกับใครจริงจังสักที ขนาดเรื่องคุณนิคคุณ เอาเข้าจริงคุณจุนโฮก็แค่เอามายึดเหนี่ยวจิตใจเฉยๆเท่านั้นเองล่ะครับ”

     

     

    “เอ๊ะ ทำไมคุณพ่อบ้านพูดแบบนี้ล่ะครับ จุนโฮน่ะรักพี่คุณจะตาย”ชานซองที่เงียบมานานเอ่ยปากขึ้นมา

     

     

    “คุณชานซองรู้จักคำว่าที่ยึดเหนี่ยวจิตใจไหมครับ แบบว่าแค่ต้องการผูกติดกับคนๆนั้นไว้จะได้ไม่ไปสนใจคนอื่น โดยพยายามทำให้ตัวเองคิดว่ารักคนๆนั้นเข้าแล้ว แบบนั้นล่ะครับ ผมยังจำรักแรกคุณจุนโฮได้อยู่เลย คุณหนูเป็นคนที่ทุ่มเทมากครับ ท่านรักเขามากจริงๆจนทุ่มใจไปทั้งหมดแล้ว ถึงขนาดที่ตามจีบจนอีกฝ่ายยอมให้กับความทุ่มเทเลยล่ะครับ แต่ตอนนั้นสุดท้ายทั้งสองคนก็ต้องเลิกกันไป ด้วยเหตุผลที่ว่าคุณหนูตามใจเขามากเกินไป มันก็เลยไม่แปลกที่หลังจากนั้นคุณหนูกลายเป็นคนเอาแต่ใจ ทำตัวไม่น่ารักในสายตาคนอื่น”

     

     

    “น่ารักตรงไหนกันล่ะครับจุนโฮน่ะไม่เห็นจะทำตัวน่ารักใส่ผมเลย”จริงๆนะ จุนโฮน่ะเอาแต่ทำตัวตั้งป้อมกับเขาตลอดเลย

     

     

    “มันจะแปลกอะไรถ้าคนอย่างนายจะไม่ถูกจุนโฮอ้อนใส่ ก็นายไม่ได้สนิทกับจุนโฮนานเท่าฉันกับพี่คุณสักหน่อย อย่าลืมสิฉันรู้จักจุนโฮตั้งแต่เด็กๆนะ จุนโฮน่ะกลัวจะถูกรักมากกว่าที่จะกลัวไปรักคนอื่น คนอย่างไอ้ตี่นั่นต่อให้ตัวเองเจ็บจะเป็นจะตายขอแค่คนที่มันรักอยู่ดีกินดีก็พอ แล้วก็เพราะมันรู้ว่าความเจ็บปวดเป็นยังไง มันก็ไม่อยากให้ใครเจ็บแบบมันหรอก ทีนี้เข้าใจแล้วรึยัง ที่เย็นชาไม่ใช่ไม่รู้สึก รู้สึกก็ไม่จำเป็นต้องเปิดเผย แบบนี้แหละนิสัยจริงๆของไอ้ก้นงอน”

     

     

    ยอมแม้กระทั่งตัวเองเจ็บปวด ยอมแม้กระทั่งให้คนอื่นเข้าใจผิด นิสัยแบบนี้สินะถึงจะเป็นจุนโฮที่คนในครอบครัวรู้จัก สงสัยเขาจะไม่ใช่คนที่จะมารู้ใจคนขี้เหวี่ยงคนนี้ซะแล้วสิ เฮ้อ มันคงถึงเวลาที่ต้องตัดใจแล้วสินะชานซอง

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×