ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [SF 2PM ; CH ] Real love ที่รักครับผมรักคุณ

    ลำดับตอนที่ #13 : Real love ตอนที่ 9/10

    • อัปเดตล่าสุด 2 เม.ย. 56


     

    “อ๊ะ คุณหนูมาพอดีเลย เพื่อนๆมาหาน่ะครับ”

     

     

    “อืม เปิดแฟ้มอ่านแล้วจัดการตามที่ผมเขียนไว้ต่อทีนะคุณนัมยง”จุนโฮส่งต่อแฟ้มนับสิบให้กับคนสนิทก่อนจะเดินเข้าไปนั่งที่โซฟา

     

     

    “มาจนได้นะอูยอง มาเราเริ่มติวกันดีกว่าเรามีเวลากันไม่มาก เดี๋ยวฉันจะพาไปห้องส่วนตัว”ร่างบางติดต่อเลขานอกห้องก่อนจะเดินนำไปในส่วนที่ต้องการ

     

     

    “คุณอึนฮยอกครับ ช่วยเลื่อนประชุมจากบ่ายโมงเป็นบ่ายสี่โมงแทนนะครับ เอกสารวางไว้บนโต๊ะผมภายในตอนเที่ยงด้วย”

     

     

    “ได้เลยครับ อาหารกลางวันรับเหมือนเดิมไหมครับ”

     

     

    “อืม เอาเป็นว่าเดี๋ยวผมส่งรายการอาหารอีกที ขอบคุณครับ”

     

     

    ชานซองเฝ้ามองท่าทางของคนรักที่ออกจะแตกต่างจากมุมที่เคยเห็นมา ตกลงนายเป็นคนยังไงกันแน่นะจุนโฮ ฉันอยากจะเป็นอีกคนที่เห็นในทุกๆมุมของนาย แต่ มันคงเป็นไปไม่ได้สินะ

     

     

    “ห้องนี้เก็บเสียงด้วยนะ พวกนายคงจะชอบเพราะว่ามันสามารถตะโกนด่าใครยังไงก็ได้ จริงไหมล่ะ อูยอง อิอิ”จุนโฮที่สดใสร่าเริงกลับมาแล้ว แม้รอยยิ้มยังไม่ปกติแต่อูยองรู้ว่ามันดีขึ้น

     

     

    “แน่สิไอ้ก้นงอน นายเนี่ยนะมันบ้า คนอื่นเขาเป็นห่วงน่ะรู้ไหม ฮะ! ไอ้เราก็ห่วงแทบแย่ทำมาทำหน้าทะเล้นใส่อีกแน่ะ อย่านี้มันต้องเจอไม้ตาย แก้มพิฆาต”อูยองพองลมก่อนจะวิ่งเขาไปกอดอีกคน

     

     

    “ขอโทษจริงๆนะ เค้าขอโทษที่ทำให้เสียเวลา ขอไถ่โทษด้วยข้าวมื้อกลางวันละกันนะ แต่ว่าตอนนี้มาติวก่อนเถอะ น้า น้า~ เดี๋ยวเค้าก็เกรดตกอีกอะด้ง”

     

     

    “เออๆ มาๆ ติวก็ติว เกรดแกขึ้นน่ะเรื่องตลก เกรดแกตกน่ะเรื่องธรรมดา ไอ้ก้นงอน”

     

     

    ระหว่างการติวแทบจะไม่มีบทสนทนาระหว่างสองคนที่ความสัมพันธ์ยังคลุมเครือ แม้อูยองจะมองเห็นว่าช่องโหว่นั้นน้อยลงแต่ก็ยังอดที่จะรู้สึกแปลกๆไม่ได้

     

     

    “แล้วนี่ข้อนี้จะทำยังไงต่อล่ะด้ง อะไรมันจะยากขนาดนี้ ดิปเดิ๊ปอะไรกันมากมาย แถมต้องอินทริเกรตกลับอีก ยากอะๆๆ”จุนโฮโชว์โจทย์คณิตศาสตร์ให้เพื่อนดู

     

     

    “ ข้อนี้ฉันก็ทำไม่ได้ว่ะ ชานนายทำได้ยังอะ”

     

     

    “อืม ทำได้แล้ว ไม่ได้ยากอย่างที่คิดหรอกมาๆเดี๋ยวฉันทำให้ดู”ชานซองเริ่มอธิบายขั้นตอนการทำโจทย์ให้ฟัง

     

     

    ความจริงแล้วโจทย์ข้อนี้ก็ไม่ได้ยากอย่างที่ชานซองบอกนั่นแหละ แต่เขาอยากให้เพื่อนมีส่วนร่วมก็เลยให้อีกคนช่วยสอนแทน หวังเพื่อให้ทั้งสองคนกลับมาเป็นเหมือนเดิมโดยเร็ว

     

     

    ยิ่งเขาเข้าใกล้คนตัวเล็กมากเท่าไหร่หัวใจที่เคยคิดว่าจะเต้นช้าลงกลับเต้นเร็วดั่งเพลงแร็ป เขาจะทำใจได้อย่างไรหนอถ้าอีกไม่กี่สัปดาห์จะต้องจากคนข้างหน้าไป แววตาจริงจังที่มีเสน่ห์นั้นเขาอยากมองมันไปอีกนานๆ

     

     

    เขาไม่กล้ามองหน้าอีกคนตรงๆเลยนับตั้งแต่วันนั้น เพราะเขายังกลัวว่า ถ้าหากพูดบางอย่างออกไป คำพูดนั้นอาจจะย้อนกลับมาทำร้ายคนที่เขารักก็เป็นได้ แม้ความรู้สึกมันบอกเขาแล้วว่าตนเองน่ะหลงรักหมียักษ์ตัวนี้ แต่การที่ยอมปล่อยให้อีกคนมีอนาคตที่สดใสคงจะดีกว่า ใช่!เขารู้เรื่องทุนของอีกคนแล้ว แต่ยอมเก็บเงียบไว้ดีกว่า เพราะกลัวว่าอนาคตที่สดใสจะดับมืดลงด้วยมือเขาเอง

     

     

    “อ้อ แบบนี้นี่เอง ขอบใจนะ ชานซอง”จุนโฮยิ้มให้พร้อมกล่าวขอบคุณ

     

     

    “มะ มะ ไม่เป็นไรหรอก คนกันเองทั้งนั้น”หัวใจของชานซองเต้นแรงเข้าไปอีกเมื่ออีกคนยิ้มให้ แบบนี้เขาจะตัดใจยังไงไหว อย่าน่ารักอีกเลยจุนโฮ

     

     

    “ไม่ได้หรอก ฉันต้องขอบคุณ ขอโทษและขอบใจนายมากๆ ที่เสียสละเวลามา ก่อนที่เราจะไม่ได้เจอกันอีก”จุนโฮพูดกับตัวเองเบาๆ

     

     

    “ว่าอะไรนะจุนโฮ ฉันไม่ค่อยได้ยิน” อูยองพูดขึ้นเมื่อเห็นอีกคนบ่นพึมพำ

     

     

    “เปล่าหรอก แค่หิวน่ะ ปะ เราไปกินข้าวกันดีกว่านะนี่ก็จะบ่ายโมงแล้ว”จุนโฮลากเพื่อนทั้งสองออกจากห้องทันที

     

     

    “อร่อยเหมือนเดิมเลย ขอบใจนะจุนโฮที่เลี้ยง”

     

     

    “อย่าเพิ่งขอบใจเลย รีบๆกินก่อนเถอะ ไอ้ด้ง ว่าแต่ว่านายอยาก เอ๊ะ แปปนึงนะ”จุนโฮรีบรีบโทรศัพท์ทันที

     

     

    “ครับคุณอึนฮยอก”

     

     

    “....”

     

     

    “ว่าไงนะครับ!”

     

     

    “....”

     

     

    “ได้ๆเดี๋ยวผมจะรีบตามไป ฝากคุณช่วยดูแลแทนสักครู่นะครับ”

     

     

    “ขอโทษทีนะ งานด่วนเข้าน่ะฉันต้องไปก่อน ไม่ต้องรีบกินล่ะเดี๋ยวฉันจัดการเรื่องอาหารให้ กินเสร็จก็ไปติวที่ห้องได้เลยนะไม่ต้องรอ เสร็จแล้วเดี๋ยวเข้าไปหา”จุนโฮไม่รอให้เพื่อนได้พูดก็รีบลุกไปทันที

     

     

    ทำไมนะ เขาถึงมีลางสังหรณ์ไม่ค่อยดีเวลามองคนตัวเล็กเดินออกไป ชานซองได้แต่พร่ำบอกตัวเองว่า ไม่มีอะไร และภาวนาให้อีกคนโชคดี จนกระทั่งพวกเขาขึ้นไปติวหนังสือกันต่อไม่นานนักเสียงเอะอะมาพร้อมกับใครคนหนึ่งเดินเข้ามา

     

     

    “อ้าวคุณพ่อบ้าน แล้วจุนโฮล่ะครับ”อูยองเป็นฝ่ายทักขึ้น

     

     

    “แย่แล้วครับคุณอูยอง”พ่อบ้านนังยงหน้าซีดอย่างกับไก่ต้มเอ่ยขึ้น

     

     

    “เกิดอะไรขึ้นรีบพูดมาเร็ว!”เป็นชานซองที่ร้อนใจจนทนไม่ได้

     

     

    “คุณหนูครับ! คุณหนูถูกพวกอิทธิพลเถื่อนมันลอบยิง ตอนนี้ถูกส่งไปโรงพยาบาลแล้ว”ไวเท่าความคิด ชานซองจูงมืออูยองวิ่งออกจากห้องทันที

     

     

    “ขอรถแรงๆหน่อยนะครับคุณพ่อบ้าน แลดูไอ้หมีจะใจร้อน”อูยองตะโกนบอกชายวัยกลางคนก่อนที่อีกคนจะประสานงานต่อให้

     

     

    “ใจร้อนงั้นหรอ นายไม่ห่วงจุนโฮรึไง”

     

     

    “ห่วงสิ แต่นายคงไม่รู้ว่าที่นี่มีเรื่องเกิดขึ้นบ่อยจนต้องมีหน่วยพยาบาลเป็นของตัวเองสินะ หมอเก่งๆเต็มไปหมด ถ้าคนพวกนั้นดูแลจุนโฮไม่ได้ ต่อให้ไปถึงโรงพยาบาลก็หมดหวังอยู่ดี”ห่วงน่ะบอกได้เลยว่าห่วงมาก แต่ต้องมีสตินะครับทุกคน อย่าวู่วามแบบไอ้หมีมัน

     

     

    ปลอดภัยทีเถอะจุนโฮ นายเคยบอกว่าแพ้หมีใช่ไหม นายบอกว่าฉันเป็นหมีตัวเดียวทีนำโชคแก่นายเพราะฉะนั้นขอแค่นายปลอดภัยจะให้เกิดอะไรกับฉันก็ได้ แค่นายปลอดภัยแค่นั้นพอ

     

     

    นับสิบชีวิตกำลังกลุ้มใจอยู่หน้าห้องไอซียู เพราะมีพยาบาลออกมาบอกเมื่อครู่ว่ากระสุนฝังใน จำเป็นที่จะต้องผ่าตัดออก แต่คนไข้ต้องการผ่าสดจึงต้องรอยาออกฤทธิ์ก่อน

     

     

    “ฉันโทรไปบอกผู้อำนวยการโรงเรียนแล้วค่ะคุณ ท่านบอกว่าถ้าไปสอบไม่ไหวจะให้สอบพิเศษแน่นอนค่ะ”

     

     

    “แลดูคุณม้าไม่กังวลเรื่องผ่าตัดเลยนะครับ”อูยองประชดใส่มารดาของเพื่อน

     

     

    “ไม่ใช่ว่าไม่กังวลนะลูก แต่จุนโฮต้องรอดแน่นอนเพราะม้าดูดวงกับป๊ามาแล้ว จุนโฮอายุยืนจะตาย แถมยังจะเป็นคนทำให้บริษัทรุ่งเรืองอีกต่างหาก”ให้ตายสิบ้านนี้บ้าเรื่องดวงชะมัด

     

     

    “เอาเถอะครับ ผมว่ามันนานไปแล้วนะครับ เมื่อไหร่หมอจะออกจากสักที”

     

     

    “นายเป็นใคร ฉันไม่เคยเห็นหน้า”ป๊าของจุนโฮหันมามองหน้าอย่างเอาเรื่อง

     

     

    “ผมเป็นเพื่อนจุนโฮ ฮวาง ชานซองครับ”

     

     

    “ตระกูลฮวางงั้นหรอ สงสัยเราคงคุยกันได้อีกยาวเลยนะพ่อหนุ่ม”แน่ล่ะสิ ตระกูลฮวางเป็นตระกูลที่น้อยคนนักจะได้ใช้ แต่ความเป็นใหญ่นี่บอกได้ว่ายิ่งใหญ่มาก

     

     

    “คุณคงไม่คิดว่าคนในครอบครัวผมจะมาทำร้ายหรอกใช่รึเปล่า”ชานซองล่ะเกลียดคนที่มองแบบนี้เป็นที่สุด

     

     

    “แน่ล่ะ พวกนายมือสะอาดฉันรู้ เอ้าหมอออกมาพอดี”บทสนทนาถูกตัดไปหลังจากแพทย์ออกมาจากห้องผ่าตัด

     

     

    “เข้าไปเยี่ยมได้รึเปล่าครับ”คำถามแรกที่ออกจากปากชานซอง

     

     

    “เชิญครับ แต่ต้องปลอดเชื้อนะครับ อีกอย่าง อ้าวไปซะแล้ว”ไม่รอช้าชานซองรีบวิ่งเข้าไปทันที

     

     

    “สงสัยจะได้ลูกเขยแทนซะแล้วมั้งหม่าม้า”คำพูดป๊าเรียกเสียงหัวเราะได้เป็นอย่างดี

     

     

    “เจ็บมากไหมจุนโฮ”ชานซองเดินเข้ามาหยุดอยู่ข้างเตียงคนไข้

     

     

    “ผ่าสดแบบหมอฉีดยาชาน่ะ ตอนนี้ยังไม่เจ็บหรอก แต่คืนนี้ไข้ขึ้นแน่”

     

     

    “โดนที่ไหนบ้าง แล้วเรื่องเป็นมายังไงเล่าให้ฟังเลยนะ”ชานซองพูดพลางสำรวจร่างกายอีกคน

     

     

    “ไม่เห็นต้องสั่งเลย โอ๊ยเจ็บนะ เบาๆหน่อยสิ”ร่างบางตีมืออีกคนก่อนจะจับแผลที่ลำแขนเบาๆ

     

     

    เรื่องราวเกิดจากหลังที่อึนฮยอกเลขาจุนโฮโทรมาว่ามีเรื่องเกิดขึ้นที่โรงฝึกซ้อม จุนโฮจึงรีบไปดูจุดเกิดเหตุ พอไปถึงยังไม่ทันที่จะเข้าไปบอดี้การ์ดหลายนายก็วิ่งเข้ามาหากำบังให้เขาเต็มที่ ไม่ทันไรก็มีกลุ่มคนซึ่งถ้าดูไม่ผิดน่าจะเป็นกลุ่มอิทธิพลมืดที่เคยมีปัญหากันมาหลายครั้งเดินออกมา กราดยิงใส่ โชคดีที่ทุกคนหลบทัน จุนโฮจึงทำเรื่องเจรจาต่อรองกลับฝ่ายตรงข้าม แต่หารู้ไม่ว่ามีคนดักซุ่มทำร้ายเขาอยู่ พอเขารู้ตัวว่าถูกหลอกมาเจรจากลับโดนยิง โชคดีที่หาทางหลบหนีออกมาทันก็เลยรอดมาได้

     

     

    “วันหลังทำอะไรให้มันรอบคอบหน่อย รู้ไหม ทำคนอื่นเป็นห่วงกันหมด”

     

     

    “รู้แล้วน่า บ่นจังยังไม่ทันแก่เลยนะ”คนตัวเล็กทำหน้ายู่ ก่อนจะหลุดหัวเราะออกมาในที่สุด

     

     

    “แค่รู้ว่านายเข้าโรงพยาบาลฉันก็ใจหาย คราวหลังอย่าทำให้ห่วงแบบนี้จะได้ไหมเล่า”ชานซองปาดเหงื่อออกจากหน้าคนป่วย ก่อนจะคว้ามือมาจูบและกำไว้ไม่ยอมปล่อย

     

     

    “นี่ นายเป็นอะไรกับฉันกันฮะ สั่งเอาๆ ฉันไม่ใช่คนของนายสักหน่อย”ร่างบางทำหน้าเชิดใส่

     

     

    “นั่นสินะ ขอโทษด้วย ว่าแต่ขอถามอีกอย่างเหอะ ทำไมคิดจะผ่าสดล่ะ”ปกติคนที่โดนยิงก็ควรจะผ่าตัดแบบวางยาสิ แบบที่เขาเห็นในละครบ่อยๆไง

     

     

    “ก็ หลังผ่าตัดทุกคนก็คงเป็นห่วงใช่ไหมล่ะ ยิ่งถ้าฉันสลบไปอีก ทุกคนก็คงห่วงมากขึ้นน่ะสิ” อีกอย่างนะ ฉันอยากจะเห็นหน้านายนี่นา จุนโฮพูดต่อในใจ

     

     

    ทั้งสองคนพูดคุยกันได้ไม่นาน ก็มีพยาบาลมาย้ายจุนโฮเข้าห้องผู้ป่วยพิเศษที่ถูกจัดเตรียมไว้ แม้ร่างบางจะพยายามยิ้ม ทำตัวร่าเริง แต่ใบหน้าที่อิดโรยก็บ่งบอกถึงความต้องการที่จะพักผ่อนได้เป็นอย่างดี

     

     

    “เอาล่ะเจ้าเด็กดื้อของป๊า สรุปแล้วเราอยากจะไปสอบพร้อมเพื่อนๆให้ได้ใช่ไหม”

     

     

    “ป๊าอ่า ไปสอบคนเดียวมันไม่สนุกจริงๆน้า ตกลงตามนี้นะคร้าบ นูนอง้วงง่วง”พอคนเป็นพ่อถูกลูกอ้อนก็ทำได้เพียงยอมแต่โดยดี นี่แหละคือความจริงที่เหล่าพ่อๆเป็น(พ่อไรต์นี่เป็นหนักค่ะ)

     

     

    “คืนนี้เดี๋ยวผมเฝ้าให้เองครับ”ชานซองเอ่ยขึ้น เรียกความสนใจให้กับคนฟังได้เป็นอย่างดี

     

     

    “กลับเถอะพ่อหนุ่ม เดี๋ยวจ้างพยาบาลพิเศษมาเฝ้าดีกว่านะม้าว่า”

     

     

    “ให้มันเฝ้าดีแล้วครับม้า พวกเรากลับกันดีกว่า ฝากด้วยนะชาน หายเร็วๆนะเว่ยจุนโฮ”อูยองพูดพลางจูงพ่อและแม่จุนโฮออกไปนอกห้อง

     

     

    เมื่อทุกคนคนออกไปจนหมดแล้ว จุนโฮก็นอนหันหลังให้อีกคนทันทีโดยหารู้ไม่ว่าท่าทีอย่างนั้นทำให้อีกคนรู้สึกเสียใจเป็นอย่างมาก

     

     

    เวลาผ่านล่วงเลยแต่แทนที่เขาจะหลับไปด้วยฤทธิ์ของยาแล้วในตอนนี้ แต่ตากลับสว่างไม่มีวี่แววว่าจะง่วงนอนเหมือนเมื่อครู่เลยสักนิด สงสัยจะเป็นเพราะคนที่มาเฝ้าเขาแน่ๆ เฮ้อ~

     

     

    [ความคิด : จุนโฮ สีส้ม ชานซอง สีน้ำเงิน]

     

     

    จะทำอย่างไรดีหนอ ใจมันก็อยากคุยด้วย แต่ปากมันแข็งเลยไม่พูดออกไป

     

     

    ทำไมจุนโฮถึงหันหลังให้ฉันล่ะ นายคงไม่อยากคุยกับฉันใช่ไหม

     

     

    ถ้าหันหน้ากลับไป ไอ้หมีจะจับได้รึเปล่าว่าเราตื่นเต้น

     

     

    พอเห็นแผ่นหลังของนายแล้วฉันอยากกอดนายจัง

     

     

    ถ้าจะถามคำๆนั้นออกไป จะเป็นอย่างไรน้า พอรู้ว่าตอนนั้นอยู่ในอันตรายก็คิดถึงแต่นายคนเดียวเลยนะชานซอง

     

     

    พอรู้ว่าเกิดเรื่องกับนาย ฉันเหมือนจะตายให้ได้เลยรู้ไหมจุนโฮ

     

     

    ตอนที่เห็นหน้านายคนแรก ฉันดีใจมากๆเลยล่ะ จนอยากเห็นนายคนแรกในทุกๆเช้าเลย

     

     

    พอเป็นอย่างนี้แล้ว ฉันแทบไม่อยากจากนายไปไหน อยากอยู่ใกล้ๆนายทุกวินาทีเลยล่ะนะ

     

     

    ฉันเข้าใจแล้ว ว่าความรักเป็นอย่างไร นี่ใช่ไหมที่เรียกว่าความรัก ฉันรักนายเข้าแล้ว ไอ้หมียักษ์ชานซอง

     

     

    ฉันมีคำพูดที่อยากบอกนาย ฉันรักนายจนขาดนายไม่ได้ซะแล้วล่ะจุนโฮ

     

     

    นายเหมือนน้ำเปล่าที่ถึงแม้ว่าจะไม่มีรสชาติแบบที่ฉันชอบแต่ว่าฉันก็ขาดมันไม่ได้เหมือนกัน

     

     

    ลูกอมที่แม้รู้ว่ากินแล้วมันจะทำให้ฟันผุแต่ฉันก็ชอบกิน มันก็เหมือนกับนายที่แม้จะรักแล้วเจ็บฉันก็ยังรัก

     

     

    อยากจะรั้งนายไว้ แต่ว่าฉันตัดสินใจแล้วว่าอยากให้นายไปเจออนาคตที่สดใส แม้จะไม่ได้เจอแต่ฉันก็ยังจะคิดถึงนายนะ

     

     

    ถ้าฉันไปต่างประเทศฉันคงไม่ได้เจอนายหลังจากนั้นฉันคงจะต้องขาดใจตายแน่ๆ เพราะฉะนั้นฉันจะไม่ไปแล้ว

     

     

    เอาวะเป็นไงเป็นกัน จุนโฮสู้ๆ

     

     

    จะต้องบอกให้จุนโฮรู้ให้ได้ ชานซอง Fighting!!! ’

     

     

    “นี่ชานซอง ฉันมีอะไรจะถาม”เป็นจุนโฮที่หันหลังมาเพื่อเริ่มบทสนทนา

     

     TBC.

    หาบทสรุปให้สองคนนี้ไม่ลงจริงๆค่ะ ขอไปหาแรงบันดาลใจก่อนเนอะ แต่ใกล้คลอดแล้วค่า
    คิดว่าตอนหน้าจะเอนด์แน่นอนแต่แบบไหนนั้นคงต้องรอติดตามนะคะ

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×