ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ' fic KHR { Angel } ,, ณ เส้นขอบฟ้าที่รัก

    ลำดับตอนที่ #3 : ' p r o l o g u e ,, จุดเริ่มต้น

    • อัปเดตล่าสุด 6 ส.ค. 57



    จุ ด เ ริ่ ม ต้ น

     



     

     

    เฮ้อ...เหนื่อยชะมัดเลยแฮะ..

     

    เสียงทุ้มนุ่มลึกดังขึ้นเบาๆในเชิงรำพึงรำพันกับตัวเอง ดวงเนตรสีเปลวเพลิงมองช้อนขึ้นไปยังท้องฟ้าสีครามสดใสเบื้องบนด้วยความรู้สึกเหนื่อยล้า ครั้นสบเข้ากับแสงของพระอาทิตย์ ดวงตาคู่นั้นก็หรี่ลงตามสัญชาตญาณ เจ้าของเสียงยกมือขึ้นปาดเหงื่อที่เกาะอยู่ตามใบหน้าหล่อเหลาจากการเดินป่าในเวลากลางวันแสกๆ...

     

    ...ใช่แล้ว เขากำลังเดินเล่นอยู่ภายในป่า

     

    แม้ว่าภายในป่าจะมีสายลมเรื่อยๆเอื่อยๆคอยพัดโชยเป็นระยะ แต่สายลมนั้นก็ไม่อาจจะไล่ความร้อนที่เกิดจากการออกกำลังเป็นเวลานานของชายหนุ่มร่างสูงคนนี้ได้ เขาจึงต้องใช้หลังมือเช็ดเม็ดเหงื่อที่ผุดพรายขึ้นเป็นช่วงๆ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นเท้าทั้งสองก็ยังนำพาเจ้าของร่างเดินต่อไปเรื่อยๆ...ลึกเข้าไปในป่าใหญ่แห่งหนึ่งที่ใครต่อใครต่างเรียกว่า ป่าต้องสาป

     

    แล้วถามว่าทำไมเขาจึงต้องมาเดินเล่นในสถานที่ที่มีชื่อเสีย()น่ากลัวแบบนี้ ?

     

    โคซาร์ทยังคงไม่หยุดเดิน เขาก้าวต่อไปเรื่อยๆเบื้องหน้าอย่างไม่รู้สึกเกรงกลัวแม้รู้อยู่แก่ใจดีว่าตนกำลังทำอะไรอยู่ ใบหน้ายังคงประดับรอยยิ้มกว้างชวนอบอุ่นแม้ว่าร่างกายจะรู้สึกอ่อนล้ามากเพียงใดก็ตาม

     

    เหมือนกับที่เห็นในฝันเลย...เขาเอ่ยเบาๆ จิตใจประหวัดไปถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก่อนที่เขาจะเข้ามาในป่าแห่งนี้...

     

    ...เป็นภาพของหญิงสาวเรือนผมยาวสลวยกำลังนั่งเหม่อมองท้องฟ้าเบื้องบนโดยมีบรรยากาศหม่นหมองเป็นฉากหลัง ในความฝันนั้นหล่อนนั่งอยู่บนพื้นท่ามกลางสีเขียวขจีของต้นไม้ แม้แสงจะสลัวๆมัวๆหน่อยแต่เขาก็ยังพอจับรายละเอียดได้บ้าง และอาจจะพราะหล่อนนั่งอยู่คนเดียวด้วยกระมัง เขาถึงสัมผัสได้ถึงความโดดเดี่ยวจากภาพนั้น...และเขาก็รู้สึกว่าเขาปรารถนาที่จะช่วยเธอ หญิงสาวไม่ได้กล่าวเรียกร้อง แต่ใจของเขากลับเป็นฝ่ายเสนอตัวเข้าไปช่วย...ด้วยเหตุผลอะไรก็มิอาจทราบ

     

    ...แต่สำหรับชิม่อน โคซาร์ทคนนี้แล้ว เรื่องแบบนี้ไม่จำเป็นต้องมีเหตุผลหรอก

     

    ความฝันนี้ไม่ได้เพิ่งเกิดกับเขาครั้งแรก แต่เขาฝันแบบนี้มาหลายต่อหลายครั้งแล้ว และเหมือนมีอะไรมาดลใจให้เขารู้สึกว่าภาพต้นไม้มากมายที่เห็นในฝันนั้นน่าจะเป็นส่วนหนึ่งของป่าต้องสาป... ป่าต้องสาปเป็นป่ารกทึบและดูน่ากลัวโดยเฉพาะอย่างยิ่งในเวลากลางคืน เคยมีข่าวลือว่ามีคนเข้าไปแล้วไม่กลับออกมาอีก ซึ่งนั่นก็ยิ่งทำให้มีตำนานเล่าขานมากมายเกี่ยวกับป่านี้มากขึ้น แต่ที่โด่งดังที่สุดเห็นจะเป็นเรื่องเจ้าหญิงแสนสวยผู้รอคอยอะไรบางอย่าง

     

    แต่เรื่องเล่าที่ว่านั่นคงไม่เกี่ยวข้องกับความฝันของเขากระมัง ?

     

    โคซาร์ทคิดแบบนั้น เขาจึงไม่รู้สึกกลัวที่จะต้องเดินเข้ามาในป่านี้คนเดียว แม้ว่าใครหลายคนจะท้วงเขาด้วยความเป็นห่วง โคซาร์ทก็ยังบอกไม่เป็นไรและดึงดันจะเข้ามาสำรวจให้ได้... ทั้งเพราะความฝันนั่นและเพราะเขารู้สึกว่าในป่านี้ต้องมีอะไรแน่ๆ แต่เขาไม่เคยมีโอกาสได้แก้ความสงสัยนั้น มาคราวนี้มีโอกาสด้วยเป็นวันหยุดของแฟมิลี่ แล้วทำไมเขาจะปล่อยโอกาสนี้ไป ?

     

    ...พูดถึงแฟมิลี่ จะว่าไปแล้วเขาก็ยังไม่ได้ไปเยี่ยมเพื่อนเก่าเขาเลยนี่นา ช่วงนี้ต่างฝ่ายต่างวุ่นอยู่กับงานจนไม่ได้คุยกันสักคำ เอาไว้เสร็จเรื่องความฝันแปลกๆที่คาใจเขามานานแล้วค่อยไปก็คงยังไม่สายหรอก...มั้งนะ ?

     

    ขณะที่คิดอะไรเพลินๆอยู่นั้น มือหนาก็หยิบถุงเล็กๆออกมาจากกระเป๋าเสื้อกั๊กตัวเก่ง ค่อยๆคลายเชือกที่รัดปากถุงอยู่ออกแล้วหยิบสิ่งที่อยู่ด้านในออกมาดู...

     

    ... มันคือแหวนชิม่อน

     

    โคซาร์ทยังคงเดินต่อไปทั้งที่ตายังไม่ละไปจากแหวนวงงาม ในหัวคิดอะไรเรื่อยเปื่อยอย่างจับสาระหลักไม่ได้(?)ซ้ำยังค่อนข้างจะติดเหม่อ ทุกครั้งที่เขาหยิบแหวนนี้ขึ้นมาดู อะไรบางอย่างภายในจิตใจเขาก็เหมือนจะถูกปลดผนึกและกลั่นออกมาเป็นความคิดไหลวนอยู่ภายในหัวของเขา พูดง่ายๆว่า ทุกครั้งที่เขามองมัน เขาก็รู้สึกเหมือนตัวเองหลุดเข้าไปอยู่ในวังวนของความคิด

     

    ...ความคิดในฐานะบอสแห่งชิม่อนแฟมิลี่

     

    และแล้วเท้าเจ้ากรรมก็ดันไปสะดุดหินก้อนเล็กๆก้อนหนึ่งเขาเป็นการลงโทษเจ้าของโทษฐานที่เหม่อ (?)

     

    แม้จะกลับมาทรงตัวจนไม่ล้มหน้าคะมำก็จริง แต่ซ้ำร้ายกว่านั้นเจ้าตัวกลับทำแหวนชิม่อนหลุดจากมือ แหวนแสนสวยนั้นกลิ้งหายไปทิ้งให้โคซาร์ทยืนชะงักค้างพร้อมกับเสียงกรีดร้องที่ดังขึ้นภายในใจ...

     

    เรือหายแล้วมั๊ยละ ?!!!

     

    ร่างสูงยืนไว้อาลัยให้ความซุ่มซ่ามของตัวเองอยู่ประมาณสามวิ(?)แล้วจึงค่อยออกดั้นด้นตามหาแหวนวงสำคัญด้วยความร้อนรนภายในใจ ไม่ใช่เขาเสียดาย แต่เขากลัวเหล่าบุคคลที่เรียกว่าเพื่อนพ้องที่รอเขาอยู่ที่คฤหาสน์ชิม่อนจะมารุมกระทืบบอสอย่างเขาต่างหาก !(?)

     

    เหงื่อแตกพลั่กๆอย่างไม่รู้ว่าเป็นเพราะกลัวหายนะที่กำลังจะเกิดหรือเพราะไอร้อนกันแน่ โคซาร์ทเดินหาในทิศทางที่(ตัวเองพอจะจำได้ว่า)แหวนนั้นกลิ้งไป แต่การหาแหวนวงเล็กๆในป่ารกๆแบบนี้ ถึงจะเป็นบอส มันก็หายากเอาเรื่องอยู่นะ (?) โคซาร์ทถอนหายใจแล้วถอนหายใจเล่า สุดท้ายก็ยังไม่เจอสักที และในวินาทีที่เจ้าตัวยอมแพ้และเตรียมใจโดนฆ่า(?)นั้นเอง อัญมณีสีเพลิงบนดวงหน้างามก็ไปสะดุดกับ...

     

    ...ขนนกสีขาว

     

    ไม่ใช่ว่าในโลกใบนี้ไม่มีนกสีขาว หรือโคซาร์ทไม่เคยเห็นมัน แต่ขนนกสีขาวนี้ไม่เหมือนกับขนนกทั่วๆไป มันระยิบระยับยามต้องแสงอาทิตย์ราวกับมีอัญมณีเม็ดเล็กแซมอยู่ และยามสัมผัสนั้นก็ราวกับสัมผัสอากาศ...มันเบาบางและอ่อนนุ่มจนราวกับว่าถ้าหากออกแรงกำก็สามารถสูญสลายกลายเป็นเศษผงได้โดยง่าย ...ขนนกอะไรจะวิจิตรพิสดารได้ถึงเพียงนี้ ? รึป่านี้มีสัตว์ปีกแปลกพันธุ์ซ่อนอยู่กัน ?

     

    โคซาร์ทลืมเรื่องแหวนไปชั่วขณะด้วยความสงสัยในขนนกประหลาดนี้นั้นมีมากกว่า เขาสาวเท้าต่อไปเรื่อยๆตามสัญชาตญาณ ป่านั้นทึบและมืดขึ้นเรื่อยๆจนสุดท้ายแล้วดวงอาทิตย์ก็ไม่สามารถสาดแสงถึง เวลาผ่านไปสักพัก...โคซาร์ทก็ได้พบกับแสงอาทิตย์อีกครั้ง

     

    แต่ด้วยความที่อยู่ในที่มืดมานาน ดวงตาจึงไม่ชินกับแสงสว่างที่มากกขึ้นอย่างกะทันหันนี้ ดวงเนตรหรี่ลงเพื่อปรับโฟกัส และครั้นดวงตานั้นชินกับสิ่งแวดล้อมภายนอก ภาพที่ปรากฏสู่สายตาของโคซาร์ทก็คือ...

     

    ...ภาพของหญิงสาวเรือนผมสีขาวบริสุทธิ์ยาวจวนจะแตะพื้นหญ้า เจ้าหล่อนนั่งหันหลังให้เขาอยู่กลางวงล้อมของต้นไม้ที่ขึ้นกระจายพอเหมาะให้แสงส่องมาได้อย่างทั่วถึงจึงทำให้บริเวณนี้ดูสว่างกว่าบริเวณโดยรอบ...สิ่งที่โคซาร์ทเห็นนั้นตรงกับความฝันเสียทุกอย่างจนเขาอดตกใจไม่ได้ แต่สิ่งที่ทำให้เขาเบิกตากว้างยิ่งขึ้นไม่ใช่อะไรที่ไหนนอกจาก...

     

    ...ปีกขนนกสีขาวที่ติดอยู่กับแผ่นหลังของเธอ และเมื่อโคซาร์ทสังเกตดีๆแล้วเขาก็พบว่าปีกแสนสวยนั้นมีเพียงปีกเดียว

     

    นางฟ้าปีกเดียวงั้นหรอ ? โกหกน่า...นี่มันเรื่องบ้าอะไรกัน ? ..โคซาร์ทคงได้แต่ถามตัวเองและยืนนิ่งด้วยความตะลึงอยู่ตรงนั้นอีกนานหากว่าหญิงสาวผู้ถูกมองไม่หันมาเผชิญหน้ากับเขาเสียก่อน

     

    หญิงสาวมองโคซาร์ทด้วยแววตาว่างเปล่าหากแต่รับรู้ได้ถึงความฉงนในแววตานั้น และไม่ทันที่โคซาร์ทจะเป็นฝ่ายได้พูดทำลายความเงียบ เธอก็ชิงเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงราบเรียบและแผ่วเบา

     

    ...เจ้า...มาทำอะไรที่นี่ ?”

     

    .

    .

    .

    .

     

     

    T A L K ,,

    จบกันไปแบบตัดจบดื้อๆนะคะกับบทนำ หวังว่ามันจะไม่ยาวเกินไป...ใช่มั๊ย? อย่าว่าไรท์เลยนะคะ เพราะไรท์ชอบปั่นแต่ละตอนยาวๆ ซึ่งตอนที่ว่านั่นก็รวมไปถึงบทนำด้วย 555555 5

    ตอนนี้ก็ยังไม่ค่อยมีอะไรมากค่ะ เป็นแค่การพบเจอกันของพระ-นางประจำฟิคนี้ สารภาพกันโต้งๆเลยว่า...แอบตันเล็กน้อยนะคะตอนปั่น ทำให้ปั่นมาแบบที่ไรท์ด้นสด...ไม่มีการวางแผนใดๆก่อนทั้งสิ้น ใช้สัญชาตญาณการเอาตัวรอดแบบที่ไม่ควรเอาเยี่ยงอย่างล้วนๆค่ะ (ฮา) เพราะงั้นถ้าอ่านแล้วงงตรงไหนก็บอกไว้เลยนะคะ เดี๋ยวไรท์จะได้มาเฉลยในตอนถัดๆไป = w = ;;

    สุดท้ายนี้... เม้นท์สักนิดสิคะที่รัก ;) แล้วเจอกันใหม่ตอนต่อไปนะคะ แต่ไม่รู้ว่าตอนต่อไปที่ว่ามันจะมาเมื่อไหร่

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×