ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    นี่เเหละ...เรื่องจริง

    ลำดับตอนที่ #2 : [เรื่องน่ารู้] 20 วิธี มีชีวิตยืนยาว

    • อัปเดตล่าสุด 7 ธ.ค. 53


     


    > >20 วิธี มีชีวิตยืนยาว
    > > ลุกขึ้นมารักตัวเองให้มากขึ้นด้วยการปรับนิสัยการกินตามวิธีเหล่านี้กันดีกว่า สุขภาพจะได้ดีทั้งกายและใจ ... 

    1 กินเพียงวันละ 1,500 แคลอรี มีรายงานชิ้นหนึ่งซึ่งสำรวจมาว่าบนเกาะโอกินาวาในประเทศญี่ปุ่นเป็นแหล่งรวมของประชากรที่มีอายุเกินหนึ่งร้อยปีมากที่สุดในโลก แถมบรรดาคุณทวดเหล่านี้ยังอยู่กันอย่างสดชื่นและแข็งแรง ผู้เชี่ยวชาญสรุปว่าเคล็ดลับนี้น่าจะมาจากการที่ผู้สูงอายุบนเกาะนี้นิยมกินอาหารแคลอรีต่ำกว่าจำนวนวันละ 2,000 แคลอรี ซึ่งเป็นจำนวนที่มักแนะนำให้ผู้หญิงทั่วโลกกินกัน ทุกวันนี้โรคอ้วนกลายเป็นหนึ่งในโรคร้ายแรงที่คุกคามผู้คนทั่โลกไปแล้วเพราะป็นสาเหตุของการเพิ่มอัตราการเสี่ยวต่อโรคหัวใจ อัมพาต เบาหวาน ทั้งยังเป็นบ่อเกิดของโรงมะเร็งหลายชนิดโดยเฉพาะมะเร็งลำไส้ การตัดแคลอรีออกไปวันละ 500 หน่วยนั้นเป็นสิ่งที่ทำได้ง่ายที่สุดในการหลีกเลี่ยงโรคร้ายเหล่านี้ ลองลดจำนวนอาหารที่กินลงไปมื้อละ 25 เปอร์เซ็นต์ แล้วจะรู้ว่าที่ผ่านมาเรามักจะตักอาหารมากเกินความจำเป็น และถึงลดปริมาณลงก็ยังอิ่มได้อยู่ดี

    2 กินช็อกโกแลดและดื่มไวน์แดง นักวิจัยจากศูนย์การแพทย์มหาวิทยาลัยในเมืองรอตเธอดัมได้คิดค้นวิธีกินอาหารเพื่อสุขภาพแบบใหม่ซึ่งเชื่อว่าหากกินได้ทุกวันตามสัดส่วนนี้จะสามารถเพิ่มความแข็งแรงและทำให้อายุยืนขึ้นถึง 4.8 ปี ในผู้หญิงและ 6.6 ปีในผู้ชาย และยังจะช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดหลอดเลือดหัวใจลงอีกถึง 76 เปอร์เซ็นต์ โดยผู้เชี่ยวชาญแนะนำให้เรา
    > >* ดื่มไวน์แดงวันละ 150 มิลลิลิตร 
    > >* กินช็อกโกแลตดำวันละ 100 กรัม 
    > >* กินผลไม้ที่ไม่หวานวันละ 400 กรัม 
    > >* เติมกระเทียมเพิ่มวันละ 2.7 กรัม 
    > >* กินถั่วอัลมอนด์วันละ 68 กรัม 
    > >* กินปลาให้ได้สัปดาห์ละ 4 ครั้ง ครั้งละ 114 กรัม

    3 ลดกินของมัน อาหารปรุงสำเร็จแช่แข็งที่อุดมไปด้วยเกลือและไขมันจากซูเปอร์มาร์เก็ตหรือจะมีคุณค่าทางอาหารสู้กับข้าวง่ายๆ ที่เราปรุงเองสดๆ ได้ แถมมีแต่จะเสี่ยงกับโรคอ้วนและภาวะคอเลสเทอรอลและความดันสูงอีกต่างหาก นอกจากนี้ก็ควรลดการกินเนื้อสัตว์ติดมันลงและเปลี่ยนน้ำมันที่ทำอาหารเป็นน้ำมันที่ดีต่อสุขภาพอย่างน้ำมันมะกอกแทน

    4 หัดเป็นคนมองโลกในแง่ดี ผลการศึกษาจากมหาวิทยาลัยเยลในสหรัฐอเมริกาปรากฎว่า คนที่ไม่เครียดมีอายุยืนกว่าคนที่เศร้าสร้อยห่อเหี่ยวตลอดเวลาโดยเฉลี่ยถึง 7 ปี คาดว่ามาจากการที่รู้จักรับมือกับความเครียดได้ดีกว่านั่นเอง นักจิตวิทยาวิเคราะห์ว่าคนที่ร่าเริงแจ่มใสนั้นมักมองปัญหาว่าเป็นเพียงเรื่องประเดี๋ยวประด๋าวที่ชัดเจนและควบคุมได้ ในขณะที่คนอารมณ์ขุ่นมัวจะเชื่อว่าปัญหาเป็นเรื่องบ่อนทำลายที่ไม่มีวันหายไปจากชีวิตและไม่สามารถควบคุมได้

    5 กินผักและผลไม้สดให้มากขึ้น การกินผักและผลไม้สดให้ได้วันละ 500 กรัมช่วยให้อายุยืนเพิ่มขึ้นอีก 1.3 ปี และสกัดโอกาสเป็นมะเร็งได้มากขึ้นถึง 32 เปอร์เซ็นต์ ของดีที่กินแล้วช่วยต้านมะเร็งและอนุมูลอิสระได้แก่ บร็อกโคลี ผักโขม และลูกพรุน

    6 ขี้เกียจบ้างก็ได้ แพทย์ชาวเยอรมันเชื่อว่าการเกียจคร้านบ้างช่วยให้ชีวิตยืนยาวขึ้นได้ เพราะเซลล์ภูมิคุ้มกันของเรานั้นจะทวีความแข็งแรงขึ้นเฉพาะเวลาที่เรารู้สึกผ่อนคลายมากกว่าตอนเครียด ซึ่งส่งผลดีต่อระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย คนที่หักโหมกับการออกกำลังกายมากเกินไปหรือเคร่งเครียดอยู่ตลอดเวลา ร่างกายจะตอบโต้ด้วยการหลั่งสารอนุมูลอิสระออกมามากขึ้น ซึ่งเป็นสาเหตุให้อายุสั้นลง

    7 ผอมก็ต้องออกกำลังกาย คนอ้วนที่หมั่นออกกำลังกายเป็นประจำมีอายุยืนกว่าคนที่ผอมหุ่นดีอยู่แล้วแต่ไม่ขยับตัวยืดเส้นสายเลย ดังนั้นอย่าชะล่าใจเพราะหุ่นที่ดีกับสุขภาพที่แข็งแรงเป็นคนละเรื่องกัน

    8 มีกิจกรรมทางเพศบ่อยๆ รายงานสุขภาพชิ้นหนึ่งบอกไว้ว่าคนที่มีเซ็กซ์สัปดาห์ละสามครั้งหรือมากกว่านั้นจะดูอ่อนเยาว์กว่าอายุจริงถึง 7 ปี (อะแฮ่ม) และผลการศึกษาอีกหนึ่งชิ้นก็ระบุว่า ผู้ชายที่มีเพศสัมพันธ์สัปดาห์ละสองครั้งนั้นมีอัตราการเสียชีวิตน้อยกว่าผู้ชายที่มีเซ็กซ์ต่ำกว่าเดือนละครั้งถึงครึ่งหนึ่งเลยทีเดียว สรุปง่ายๆ ว่าเซ็กซ์ คือการออกกำลังกายที่ช่วยในการหลั่งสารเคมีที่เป็นประโชน์แก่ระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย

    9 หัดรับมือกับความเครียด คนที่เครียดมากๆ นั้น มักจะอายุสั้นเพราะความเครียดจะไปกระตุ้นระดับฮอร์โมนคอร์ติซอล ซึ่งเป็นอันตรายต่อระบบภูมิต้านทานของร่างกาย หมั่นออกกำลังกายบ่อยๆ ให้เหงื่อออก การปฏิบัติโยคะหรือนั่งสมาธิก็ช่วยบรรเทาความกดดันในจิตใจได้ดีพอสมควร

    10 ทิ้งความโสด ดร.โรเจอร์ เฮนเดอร์สันผู้เขียนหนังสือเรื่อง 100 Way to live to 100 บอกว่าคนที่แต่งงานแล้วไม่ว่าจะเป็นเพศใดก็มีแนวโน้มจะมีอายุยืนกว่าคนที่อยู่เป็นโสด เพราะคู่แต่งงานมักจะรู้จักดูแลตัวเองและจัดการกับความเครียดได้ดีกว่าโดยผ่านการพูดคุยและแบ่งปันความรู้สึกร่วมกัน นอกจากนี้การซื่อสัตย์กับคู่สมรสก็มีความสำคัญ จากผลการสำรวจของโรงพยาบาลเซนต์โธมัสในอังกฤษพบว่า 75 เปอร์เซ็นต์ของผู้ที่เสียชีวิตจากอาการหัวใจวายกระทันหันมักเกิดขณะที่มีเพศสัมพันธ์กับผู้ที่ไม่ใช่คู่ของตนหรือจากความสัมพันธ์ประเภทชั่วคืน

    11 มีเพื่อนมากๆ นักวิทยาศาสตร์ได้ค้นพบแล้วว่าสายสัมพันธ์ระหว่างเพื่อนสนิทนั้นช่วยกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันได้ดีเยี่ยม ทำให้สุขภาพดีไม่มีโรคภัยและช่วยให้ฟื้นตัวจากการผ่าตัดได้เร็วขึ้นด้วย

    12 เลิกเป็นสิงห์อมควัน ก็เพราะว่าบุหรี่หนึ่งมวนทำให้ชีวิตของเราสั้นลงไปอีกถึง 11 นาที (จะต้องให้เกลี้ยกล่อมต่ออีกไหม) แล้วเรายังจะฆ่าตัวตายแบบผ่อนส่งไปอีกทำไมกัน

     13 หัวเราะเข้าไว้ เสียงหัวเราะช่วยขับไล่ความหดหู่ได้ดี ทั้งยังช่วยลดระดับฮอร์โมนคอร์ติซอลที่หลั่งเพราะความเครียด เพิ่มการหลั่งของสารอะดรีนาลินและกระตุ้นจำนวนของทีเซลล์ขาวที่ช่วยต่อต้านการติดเชื้อได้ด้วย

    14 เดินเล่นในสวนสาธารณะ คนที่อยู่ในเมืองใหญ่ที่ขยันไปเดินเล่นท่ามกลางแมกไม้นั้นมีแนวโน้มที่จะอายุยืนกว่าคนที่ไม่เคยไปเลย มีทฤษฎีหนึ่งกล่าวไว้ว่าคนที่คลุกคลีกับพื้นที่สีเขียวนั้นมักจะกระฉับกระเฉงกว่าและช่วยชะลอความชราได้

    15 ออกกำลังกายวันละ 30 นาที ช่วยเสริมภูมิชีวิตเพราะการที่เราได้ใช้พลังงานส่วนเกินออกไปทำให้ไม่มีน้ำหนักตัวเกินจำเป็น และลดความเสี่ยงในการเป็นโรคที่มากับความอ้วน พยายามทำให้ได้อย่างน้อยวันละครึ่งชั่วโมง การทำต่อเนื่องไม่ได้ก็ลองแบ่งเวลาออกเป็นสามช่วง ช่วงละ 10 นาที ซึ่งก็ให้ผลดีเท่ากัน หรือถ้าไม่มีเวลาจริงๆ การเดินเพียง 15 นาทีก็ช่วยลดไปแล้ว 100 แคลอรี

    16 ตัดความเค็มออกจากชีวิต ไม่ได้หมายถึงความงก แต่อยากให้คุณเหยาะเกลือและใส่น้ำปลาน้อยลง จะช่วยลดความเสี่ยงในการเป็นอัมพาตและโรคหัวใจได้

     17 ตรวจร่างกายเป็นประจำ โรคร้ายต่างๆ ส่วนใหญ่มักตรวจพบด้วยความสงสัยของตัวเราเองก่อนไปพบหมอ จึงควรตรวจสุขภาพทุกๆ ปี นอกจากจะเพื่อความสบายใจแล้ว ยังช่วยป้องกันและกระตุ้นเตือนให้เราได้รับรู้และระวังรักษาสุขภาพด้วย

    18 ใช้ไหมขัดฟันทุกวัน เป็นหนทางที่ง่ายถูกที่สุดในการป้องกันโรคเหงือก เพราะแบคทีเรียที่อยู่ตามซอกฟันหากเข้าสู้กระแสเลือดเมื่อไรจะเข้าไปเกาะตามเส้นเลือดได้ ดังนั้นควรเลิกขี้เกีขจและหมั่นขัดฟันวันละสองครั้งหลังแปรงฟันและไปให้ทันตแพทย์ขูดหินปูนทุกๆ 6 เดือน

    19 ดื่มให้น้อยลง ผู้หญิงขี้เมาถึงอย่างไรก็ดูไม่ดี แถมการดื่มแบบหัวราน้ำก็มีส่วนเกี่ยวพันกับการเป็นอัมพาต สมองเสื่อม เป็นอันตรายต่อเด็กในครรภ์ ความจำถดถอย โรคอ้วน มะเร็งในช่องปาก และมะเร็งทรวงอกอีกด้วย

    20 หาสัตว์เลี้ยงมาเป็นเพื่อน การที่ได้ลูบไล้ขนนุ่มๆ ของเพื่อนสี่ขาช่วยลดความเครียดและความดันโลหิตลงได้และการสัมผัสสัตว์เลี้ยงบ่อยๆ จะช่วยหลั่งสารเอนดอร์ฟีนที่ช่วยให้เรามีความสุข และลดระดับฮอร์โมนคอร์ติซอลลงได้ 



    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×